ณ โรงพยาบาล
“คุณหมอเมเทียคะ ญาติคนไข้พิเศษที่เพิ่งเข้ามาเมือคืนนี้ต้องการพบหมอค่ะ”
“มีอะไรหรอคะ คนไข้ชักหรอคะ”คุณหมอสาวอายุจะเข้าเลขสามถามพยาบาล ด้วยใบหน้านิ่งเฉยสายตาเริ่มเหม่อลอย หน้าที่ขาวสะอาดเริ่มซีดเข้าไปทุกที
“ไม่ค่ะคนไข้ยังไม่ฟื้นเลยค่ะ แต่ญาติเขาจะต้องการให้คุณหมอเทียเข้าไปตรวจนะคะ”
“ช่วยไปบอกญาติคนไข้คนนั้นได้ไหมคะ ว่าต้องให้คนไข้ฟื้นก่อนค่ะ ตอนนี้เทียออกเวนแล้วด้วย แล้วเทียก็ต้องไปตรวจร่างกายค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ”หมอสาวยิ้มพูดบอกพยาบาลด้วยใบหน้าซีดเซียว ใกล้จะเป็นลมทุกย่างก้าว ณ ตรงนี้ตรงที่ทางเดีนของโรงพยาบาล
“ได้ค่ะ”
โรงพยาบาลเอกชนที่ขื้นชื่ออันดัน1ของประเทศ ที่มีบุคลากรด้านการแพทย์ หมอ อาจารหมอเฉพาะทาง เครื่องมือที่คบคันในทุกด้าน รองรับคนไข้ทั่วไปจนถึงคนไข้vvip และ ผู้นำละดับประเทศ ฉันอาจารหมออย่าง เมเทีย ชาธิดา ที่เชี่ยวชาญด้านหัวใจเงินเดือนหลักแสนเกือบล้าน แต่ต้องมาเข้าเวน50ชั่วโมงต่ออาทิตย์
“หมอน่านคะ พี่ปวดท้องมากเลยไม่รู้ไส้ติ่งรึป่าวเนี่ยตรวจให้หน่อยสิคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาได้พักเลยข้าวก็ไม่ค่อยได้กินเลยด้วย”น้ำเสียงเอื่อยๆของหมอเมเทีย ที่ชอบมาเล่นกับหมอน่าน แพทย์ทั่วไปทีมักจะเข้าเวนตรงกันกับหมอเทียจนสนิทสนมกัน
“คุณหมอครับ ถีงจะเป็นหมอก็ช่วยกินข้าวหน่อยเถอะนะครับ อย่ามาแข่งกับคนไข้เลยครับ”หมอหมุ่มขาวตี๋ ใบหน้ากลมเป็นรูปใข่ขาวอมชมพูสวมแว่นหนาพูดประชดประชัน แต่ก็เดีนมาตรวจร่างกายให้
“พี่ไม่ได้กินข้าวมากี่วันแล้วครับเนี่ย”
“จำไม่ค่อยได้แล้ว เหมือนเมือวานจะยังไม่ได้กินมั้ง วันนี้ก็อยู่ตรวจคนไข้จนถึงตอนนี้”
“พี่ ถ้าพี่มาช้ากว่านี้อาจไส้ติ่งแตกนะ ต้องเตียมผ่าตัดแล้วละครับ”
หมอน่านพูดแล้วก็เดีนออกไป ฉันได้แค่นอนอยู่นิ่งๆเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวหมอน่านคงจะจัดการให้ทั้งหมดเอง
ไม่นานฉันก็โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด ห้องที่เหมือนบ้านอีกหลังที่ฉันจะอยู่ทั้งวันทั้งคืน
ณ บ้านทาวร์เฮ้าส์
บ้านสองชั้นสไตล์ ญี่ปุ่น ลานหน้าบ้านเป็นส่วนหีนเล็กๆและบ่อน้ำตกไม้ไผ่ ช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อยล้าจากการทำงานจนแทบจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้านมาพัก ทั้งที่เอาเงินจากการทำงานมาตลอด 5 ปีมาชื้อ
ฉันเดินเข้ามาในบ้านที่เงียบสงบเพราะไม่มีใครอยู่และฉันก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน มีแค่แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง ถึงได้สะอาดสะอ้านพอได้พักหายใจ ฉันเดินขื้นมาด้านบนยังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าห้อง หญิงแม่ก็ส่งข้อความมายังไม่ทันได้เปิดอ่านก็มีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขื้น
“สวัสดีมาหาใครคะ”เด็กหมุ่มหน้าตาหล่อเหลาขาวสะอาด เหมือนไม่เคยโดนแดดมาก่อนมายืนอยู่หน้าบ้านฉัน
“สวัสครับผมชื่อ นาที มาหาพี่เมเทียนะครับ คุณน้าเมริษาบอกให้มาที่นี้นะครับ”
“คะ อาพี่ชื่อเมเทียมีอะไรหรือเปล่า ไม่สิเข้ามาข้างในก่อนไหม”
“ครับ”
นำเสียงตอบนิ่งๆสั้นๆของเด็กหมุ่ม เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกระเป๋าใบใหญ่เหมือนจะย้ายบ้าน ฉันพาน้องเดีนไปที่ห้องนั่งเล่น แล้วคิดละสงสัยเด็กคนนี้รู้จักแม่ฉันได้ยังไง หรือว่าน้องคนนี้จะเป็นด็กเลี้ยงของแม่กันนะ
“ดื่มน้ำก่อนนะ พี่ขอไปคุยโทรศัพท์ก่อน”ฉันออกมาโทรสับข้างนอก โทรยังไงแม่ก็ไม่รับสาย จนฉันต้องเปิดกล่องข้อความเพื่อจะส่งไปถามแม่สุดที่รัก แต่ยังไม่ทันได้พิมพ์อะไรก็เห็นข้อความของแม่ที่ส่งมาก่อนหน้านี้
“ลูกสาวแม่ เมเทีย แม่ไปเที่ยวกับพ่อเราก่อนนะจ๊ะลูก รักลูกนะ โอะ ลูกชายเพื่อนแม่จะมาอยู่กับเราสักพักนะ ดูแลน้องดีๆละอย่าให้รู้นะว่านาทีออกไปเต็ดเตข้างนอก ไม่งั้นเราเจอดีแน่”
ฉันอ่านข้อความของแม่ก็ไม่เข้าใจทำไมแม่ให้ลูกเพื่อนมาอยู่กับฉัน ถึงฉันจะทำงานข้ามวันข้ามคืน แต่จะให้ใครก็ไม่รู้มาอยู่บ้านเดียวกันกับลูกสาวอย่างฉันเนี้ยนะ ทั้งที่แม่ก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ชอบแชร์ของๆฉันหรือบ้านให้ใครมาอยู่ด้วย ถึงขนาดทีฉันย้ายออกจากบ้านเพื่อออกมายู่คนเดียวแม่ก็รู้
“ชื่อนาทีใช่ไหม”ฉันถามออกไปด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“ใช่ครับ”ถึงน้องจะสะดุ้งเล็กน้อยแต่น้องก็ตอบด้วยใบหน้าชังกะตาย
“แม่พี่บอกว่าน้องนาทีจะมาอยู่ด้วย แต่ไม่ได้บอกลายละเอียดอะไร”
“คือผม ต้องย้ายมาเรียนที่นี้แบบกระทันหันนะครับหอพักก็เต็มแล้ว เลยหาที่พักไม่ทันแม่ผมเลยขอให้คุณน้าเมริษาช่วยหาให้ คุณน้าเลยบอกให้ผมมาอยู่กับพี่ก่อนค่อยหาที่พัก"
น้องนาทีพูดด้วยใบหน้านิ่งเฉยแต่น้ำเสียงสั่นนิดหน่อย ฉันคงทำได้แค่ยอมรับแบ่งพื้นที่ในบ้านให้น้องอยู่ก่อน ถึงจะหวงพื้นที่ส่วนตัวแค่ไหน แต่คงปล่อยให้เด็กน้อยที่ตัวสูงกว่าฉันเป็นคืบออกไปหาโรงแรมตอนนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแม่คงตัดค่าขนมฉันแน่นอน
จัดสรรที่พักให้น้องเสร็จฉันก็ชวนน้องออกมากินข้าวบวกกับชื้อของใช้นิดหน่อย จะใจร้ายปล่อยให้น้องไปไหนมาไหนเองทั้งๆที่เพิ่งย้ายเข้าในเมืองนี้ก็ยังไงอยู่
ถึงจะผ่าไส้ติ่งมาได้แค่สองวันสภาพร่างกายยังไม่ทันหายดีมากนักแต่จะให้อยู่โรงพยาลต่อก็คงไม่ไหวเลยขอออกมาพักที่บ้านเอา แต่ต้องมาดูแลลูกของเพื่อนแม่อีก ทังทีแม่ก็ยังติดต่อไม่ได้ แล้วต้องมาจัดการงานที่บริษัทของแม่ที่ทิ้งเอาไว้ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ออกมาจากโรงพยาลมาก่อน
ยังไม่ทันไรน้องนาทีก็เข้ามาอยู่ที่บ้านกับฉันได้อาทิตย์กว่าๆแล้ว แล้วฉันก็ยังอยู่ในช่วงหยุดพักอยู่เลย ถึงจะไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาล แต่ก็มีคุณหมอที่รับเคสต่อจากฉันติดต่อมาตลอด
"พี่เทีย ว่างไหมครับ ไปชื้อของกับผมหน่อยได้ไหมครับ"
"ได้สิ"
ถึงจะมาอยู่ด้วยกันสักพักแล้ว แค่น้องจะเข้ามาคุยด้วยก็มีแค่ตอนที่จะออกไปชื้อของหรือไม่ก็เข้ามาถามเรื่องที่พัก เพราะฉันบอกเอาไว้ว่าจะหาที่พักให้ แต่งบที่น้องมีให้ก็น้อยมาก ทีพอจะมีห้องว่างราคาก็แพงกว่า3เท่า พอบอกว่าจะออกให้ก่อน น้องก็บอกปฎิเสธเสียงแข็ง พวกเราเลยยังอยู่ด้วยกัน
"ออกมาชื้ออะไรหรอ"ในรถค่อยข้างจะเงียบ เพราะน้องไม่ชอบพูด ส่วนคนที่อายุมากกว่าถึงจะหวงของแต่ก็ไม่ใช้คนที่จะไม่เข้าสังคม ค่อยข้างไปในทางที่พูดมาก
"ชื้อคอมนะครับ โน๊ตบุ๊คผมมันพังแล้ว"
"หืม มีงบมากไหม ดูร้านที่จะชื้อแล้วรืยังให้พี่แนะนำไหม"
"ดูมาบางแล้วครับ แต่ถ้าพี่มีแนะนำไปร้านนั้นเลยก็ได้ครับ"
"งั้นหรอ เพื่อนพี่เปิดร้านคอมอยู่นะ ถ้าจะชื้อคอมประกอบพี่ขอแนะนำเลย มันสั่งของมาไว้เยอะ ราคานักสึกษาจ่ายไหวด้วยนะ"
พูดจบบทสนทนาก็จบลงเพียงเท่านั้น มีแค่เสียงเครื่องยนที่ดัง จนฉันคิดว่าน้องเงียบไม่ค่อยพูดขนาดนี้ถ้าออกไปอยู่คนเดียวจะไหวไหม
เมื่อพวกเรามาถึงร้าน เสียงทักของเพื่อนรักดังขื้นพร้อมกับเด็กน้อยหน้าตาน่ารักสดใส เสียงใสเหมือนแก้ว หน้าตาเหมือนกันวิ่งเข้ามากอดฉัน เจ้าเด็กแฝดสองคนนี้ที่ฉันทำคลอดให้เมื่อหลายปีก่อนฉันชอบไปเล่นกับหลานๆ แม่ของเด็กๆเลยให้ฉันเป็นแม่ทูนหัวให้
"ว่ายังไงคะ คิดถึงมามี๊ไหมคะมาให้หอมหน่อยเร็ว"ฉันชอบให้เด็กๆเรียกฉันว่ามามี๊ ไม่ก็พี่สาว เพราะเด็กๆไม่ยอมเรียกพี่สาวเลยต้องเรียกมามี๊แทน
"เจ้าของร้านตัวน้อยมาเฝ้าร้านแล้วหรอคะเนี้ย เก่งจังเลย"
"หนูเก่งมากใช่ไหมลาาา"
"มี๊ผมก็เฝ้านะครับ ผมเก่งไหมครับ"
เด็กผู้ชายแฝดคนพี่พูดด้วยใบหน้าเขินอาย ก็ทำให้ฉันอดใจบีบแกล้มกลมอมชมภูเล็กๆของเจ้าเด็กตัวน้อยไม่ไหวเอาชะเลย
"นาที นี้พี่นาย เขาเป็นเจ้าของร้านอยากได้อะไรบอกได้เลยนะ ที่นี้ผ่อนได้"
"พูดชะเหมือนร้านตัวเองเลยนะครับคุณหมอ"
"ร้านเพื่อนก็เหมือนร้านเรา ใช่ไหมยอนอา"ยอนอาภรรยาของไอ้นายเพื่อนรัก ไม่รู้มันไปทำบุญด้วยอะไรถึงได้เมียสวยขนาดนี้ แถมได้ลูกแฝดชาย-หญิงที่แสนจะน่ารักน่าชังได้ขนาดนี้อีกด้วย
"แน่นอนค่ะ ร้านพี่นายก็เหมือนร้านของยอนอาร้านของยอนอาก็เหมือนร้านของพี่เทีย"
"น่ารักขนาดนี้ ทิ้งไอ้นายแล้วมาอยู่กับพี่เถอะ"
"พี่เทียก็ หนูเก็บของย้ายเลยได้ไหมคะ"
สามีของยอนอา เชิดหน้าหนีแล้วไปคุยกับนาที ฉันเลยมานั่งหลังร้านกับยอนอาและเด็กๆเสียงใสถามด้วยใบหน้าสงสัยอยากรู้อยากเห็น
"มี๊ แม่ว่ามามี๊เทียไม่สบายเลยไม่มาหา มามี๊หายดีแล้วหรอคะ"
"มามี๊หายแล้วค่ะ มามี๊คิดถึงหนูชามีกับชายูมากเลยต้องรีบหายเลยนะ"
"หนูก็คิดถึงมี๊มากเลยค่ะ"
เสียงออดอ้อนของเจ้าตัวเล็ก ที่เป็นห่วงฉันอดที่จะยิบเงินให้ไม่ได้เลย แต่แม่ของเจ้าตัวเล็กก็ประติเศษเอาไว้ ฉันทำได้แค่เข้าใจแล้วเล่นกับเด็กๆไปสักพัก เด็กๆก็หงอยหลับไปยอนอาเลยพาเด็กๆไปนอน ฉันออกมาข้างนอกเพื่อมาดูว่านาทีเด็กหมุ่มหน้านิ่งพูดน้อยของฉันว่าเลือกของมาสักพักยังไม่ได้ชักที ว่ามีปัญหาอะไรกันหรือว่าของไม่มี ไม่ก็ของแพงเกีนไปรืป่าว
"นาที นาย เป็นยังไงบ้างมีปัญหาอะไรไหม"
"ไม่นะ น้องนาทีเลือกเสร็จแล้วละ"
"เอ้า เสร็จแล้วหรอ เป็นยังไงบ้างถูกใจไหม"ฉันถามน้อง แต่น้องก็ยังหน้านิ่งอยู่เลย
"ถูกใจมากเลยครับ"
นาทีพูดตอบใบหน้าขาวใสไร้ร่องรอยเหี่ยวย่นนิ่งเฉยไร้อารมณ์ จนทำให้ฉันคิดสงสัยว่าน้องเป็นโรคไหม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"เทีย ของที่สั่งได้แล้วนะ ให้ส่งที่บ้านหรือคอนโด"
"ส่งที่บ้าน ส่งมาพร้อมกับของนาทีเลยก็ได้"
"หืม อยู่ด้วยกันหรอ"
"ใช่"นายมีสีหน้าที่สงสัยแต่ไม่พูดออกมา
"เออแกหายดีแล้วใช่ไหม แล้วแกจะไปปะคืนนี้"
"ไปดิ ถึงจะยังไม่หายกูก็จะไป"
"เสียดายวะอยากไปด้วย แต่ไม่มีใครดูพวกตัวแสบเลย"
"วันหลังนะพวก"
ฉันกับนาทีชื้อของเสร็จก็ออกมากินข้าวที่ร้านอาหาร แต่สั่งของกินไม่ทันไร ก็มีคนเข้ามาทัก หญิงสาวใบหน้าสะสวยไร้ริ้วรอยแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ใส่ชุดเดรสยาวสีขาว มาพร้อมกับชายอายุวัยกลางคนแต่งตัวสะอาดสะอานดูภูมิฐาน เดินตรงมาทางโตะของฉัน
"เมเทีย ไม่เจอกันนานเลยนะสบายดีไหม"รสริน เพื่อนรักที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนเรียนจบมหาวิทยาลัยเข้ามาทัก
"ว่าไงริน ฉันสบายดีแล้วเธอกับพี่ชันละสบายดีไหม"
"สบายดี พี่ชันก็สบายดีนะ"รสรินพูดแทนพี่ชัน แฟนเก่าของฉัน
"แล้วเจ้าตัวเล็กละเป็นยังไงบ้าง"
"แข็งแรงดี ตอนนี้อยู่กับคุณย่า แล้วนี้ใครหรอแฟนหรอ"
"น้องนะ"ฉันตอบไปสั้นๆไม่ยากมากความ
"อ่อ งั้นฉันไปก่อนนะดีใจที่ได้เจอนะเทีย"
"อือ"
รสรินเป็นเพื่อนรักที่ฉันรักมากตอนเด็กๆ เมื่อก่อนเรามีอะไรก็ไม่เคยปิดบังกันจนฉันมาคบกับพี่ชัน ฉันกับรินเลยห่างกัน จนฉันมารู้ว่ารินแอบชอบพี่ชันและพ่อแม่ของทั้งสองรู้จักกัน ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเพราะฉันกับพี่ชันก็รักกันดี แต่ไม่กี่ปีต่อมารินก็มาบอกฉันว่าเธอท้องกับพี่ชัน
ถึงฉันกับพี่ชันยังรักกัน แต่พี่ชันก็เลือกจะเลิกกับฉันเพื่อรับผิดชอบรินกับลูกในท้อง ตอนนั้นฉันอยู่ในช่วงฝึกงานที่โรงพยบาล แทบจะไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นเลยเพราะเด็กปี6อย่างฉันเรียนกับฝืกงานก็จะเอาตัวเองไม่รอดอยู่แล้ว เลยเลือกเลิกกับพี่ชัน
ฉันรักทั้งสองคนเหมือนครอบครัวคนหนึ่ง ถึงความสัมพันธ์ของพวกเราช่วงแรกๆจไม่ค่อยดีหนัก แต่ก็ใช่ว่าจะเข้าหน้ากันไม่คิด
"นาที คืนนี้พี่ไม่เข้ามานอนบ้านนะ"
"ครับ"
"พี่ไปดื่มกับเพื่อนนะ แล้วจะไปนอนที่คอนโด"
"อยู่บ้านดีๆนะ มีปัญหาอะไรก็ทักมาบอกพี่"
"ครับ"
นาที ตอบฉันสั้นๆด้วยใบหน้านิ่งเฉย จนคนหน้าหยิ่งอย่างฉันต้องแสดงสีหน้าออกมาแทน
ฉันขับรถมาที่คอนโดใกล้ๆโรงพยาบาลที่ฉันทำงาน เพราะมีคอนโดที่นี้ด้วยฉันถึงไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่เมื่อวันหยุดหรือหยุดงานนานๆ ฉันก็จะกลับไปอยู่ที่บ้าน
ฉันเข้ามาแต่งตัวที่คอนโด ถึงปกติตอนอยู่บ้านหรือออกไปชื้อของ ฉันจะใส่แค่เสื้อยืดกางเกงช้างรองเท้าแตะ ไม่แต่งหน้า ชึ่งมันดูเฉิ่มถึงเพื่อนๆพี่ๆจะบอกให้แต่งตัวบ้าง แต่ฉันก็ยังชอบแต่งแบบนี้เพราะมันสบาย แต่ฉันก็ไม่ได้ไม่สนใจการแต่งตัวขนาดที่ไม่ให้เกียรติสถานที่
ฉันเลือกใส่เดรสสีดำ เปิดหลังพอให้เห็นหลังขาวๆ กระโปรงยาวถึงต้นขา เกล้าผมขื้น ไม่ปกปิดมิดชิดจนเกีนไป เปิดพอหอมปากหอมคอ รองเท้าส้นสูงสีดำสูง7นิ้วพอให้เดินสะดวกขื้น
ฉันเอารถสปอร์ตสีดำคันสวยลูกสาวที่น่ารักของฉันที่เพิ่งถอยออกมาขับ เมื่อถึงร้านเพื่อนๆก็มากันคบแล้ว เดินยังไม่ถึงโตะก็มีสายตาที่จ้องมองเหมือจะกลืนกินฉันตลอดทาง
"แม้ มาสายขนาดนี้ทำไมไม่มาพรุ่งนี้เลยละคะ คุณเมเทีย"นานิ ลูกครึ่งที่รู้จักตอนที่ฉันไปเรียนแลกเปลี่ยนตอนมอปลายเราสนิทกันมากจนย้ายมาเรียนมหาลัยด้วยกันแต่คนละคณะ เอ่ยทักออกมาก่อนใคร
"เพื่อความสวยก็ต้องให้เวลา คนเฉิ่มหน่อยสิคะ"
"ให้เวลาขนาดนี้ทำไมยังไม่สวยละครับ"ฌอน รุ่นน้องของฉันที่ชอบมาดื่มด้วยกันบ่อยๆเพราะตามจีบนานิ กว่าจะติดก็สาหัดมากอยู่ เลยติดสอยห้อยตามมาโดยตลอด
"เก็บปากไว้แดกเถอะ กูยังไม่อยากเห็นเลือดตอนนี้"เลย์ คือพาร์ทเนอร์หุ้นส่วนร้านเล็กๆที่เปิดด้วยกัน พูดขื้นมา
"คนตัวเล็กร่างบางอ่อนแอ มีดีแค่หน้าตาจะทำอะไรได้ละคะ"ฉันบีบหน้าตาทำหน้าตาสงสาร
"อิ๋ว ไม่นะตาฉานน"สายน้ำแฟนของเลย์ส่งเสียงออกมา
พวกเราทั้ง5คนขำออกมาพร้อมกัน ร้านนั่งชิวกึ่งบาร์ เป็นร้านประจำที่พวกเราชอบมา นายกับยอนอา มาไม่ได้เพราะลูกยังเล็กและไม่มีใครดูแลให้
กลุ่มเรายังเหลือแค่ฉันคนเดียวที่ยังไม่มีแฟน พวกนี้มักชอบแนะนำคนให้ตลอดแต่คบได้ไม่นานก็เลิก ทุกคนที่เข้ามาฉันแค่ไม่มีเวลาให้ก็งี่เง่าคุยไม่รู้เรื่อง บางคนสุพาบบุรุดเกีนพูดเอาดีใส่ตัว โทษฉันทุกอย่าง ทั้งๆที่แค่ยังไม่ได้คบด้วยช้ำ
ทุกคนเริ่มกรึมกันแล้ว ก็ขอตัวกลับกันไป ตี2 กว่าๆทุกคนกลับไปหมดฉันก็ย้ายมาดื่มที่นั่งบาร์คนเดียวพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ประปราย ก็มีคนแวะเวียนเข้ามาคุยบ้าง ทุกคนที่เข้ามาหล่อ ร่างกายกำยำรุ่นดีได้รูป แต่ไม่กล้ามองตาฉันตรงๆได้เลย
ไม่นานฉันก็ออกมาเพราะวันนี้ฉันไม่คิดจะเอา ถึงปกติมาที่ไรก็จะมีติดไม้ติดมือกลับ
ฉันตื่นมาก็เที่ยงแล้ว หญิงสาวอายุใกล้จะเข้าเลขสาม จ้องมองร่องรอยของตีนกา รอบเหี่ยวย่น หน้าไม่สดใสเหมือนเมื่อตอนเด็กๆ ทำให้ฉันคนที่งานเยอะแทบจะไม่มีเวลาอย่างฉันต้องหันมาดูแลใบหน้า รูปร่างผิวพรรณตัวเองมากขื้น
ไม่นานรถเบนซ์สีดำก็มาจอดในโรงจอดรถ กว่าจะทำผมทำสปาเสร็จก็เย็นแล้ว ฉันเดินเข้ามาในบ้านที่เงียบเหงา เหมือนไม่มีใครอยู่ฉันยกโทรสับมาเช็คว่านาทีส่งข้อความมาไหม เพราะปกตินาทีจะกลับเร็วและไม่ออกไปไหน
แต่ก็ไม่พบข้อความของน้องเลย ทำให้ฉันสงสัยแต่ไม่ได้คิดอะไร แล้วเดินตรงไปที่ห้องของนาทีที่อยู่ชั้นล่าง เปิดมาก็ไม่พบน้อง ทำให้ฉันกังวลนิดหน่อย
ไม่นานเสียงปลายสายก็พูดออกมา
"ครับพี่"
"ไปไหนหรอ พี่มาไม่เจอเลย"
"ผมออกทำลายงานนะครับ น่าจะกลับดึก"
"อ่อ จะกินข้าวข้างนอกไหมหรือจะกลับมากินจะได้ทำเผื่อไว้"
"ไม่เป็นไรครับ เดียวกินข้างนอกเอา ไม่รู้จะกลับตอนไหน"
"โอเค มีอะไรก็โทรมาบอกพี่นะ"
สิ้นเสียงของฉันสายก็จบลงเท่านั้น นาที เป็นเด็กที่ไม่รู้ทำไมฉันต้องชอบดูแลเขาจนทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นแม่ ทำให้อยากดูแลกังวลทุกการกระทำ ไม่รู้ว่าน้องจะอึดอัดขนาดไหน
ฉันอาดน้ำแต่งตัวเสร็จมาเช็คอีเมล เคลียร์งานที่ค้างไว้ ก็มาเปิดดูเกมที่นาย ส่งมาให้ทดลองเล่น ถึงมันจะบอกว่าเปิดไลฬสตีมทดลองเล่นสดๆเลยว่าทุกคนคิดยังไง
เกมที่นายทำมักจะติดชาร์ติ เกมฮิตตลอดบวกกลับการไลฬสตีมของฉันด้วยแหละ สตรีมมิ่งที่ปกปิดใบหน้าที่ใช้แค่เสียง เล่นเกมหลายๆแนวทำช่องอัพคลิปลงหลายๆช่องทางและดูผู้ติดตามถึง7หลักได้
เปิดสตีมไม่นานก็มีคนดูขาประจำเข้ามาหลักพันแล้ว สมัยนี้ก็จะมีเด็กๆเปิดช่องมาเยอะ คนแก่อย่างฉันถ้าไม่ปรับตัวก็ทำได้แค่ยอมรับ เพื่อหาวิธีการตีตลาดไลฬสตรีมเอาใจคนดูเก่าไปด้วย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงเงินจะได้มาไม่เยอะเท่างานอื่น เพราะการเปิดช่องมาเล่นเกมก็เพื่อผ่อนคลายจากงาน
และยังได้มีปากมีเสียงพัฒนาละบบเกม ได้ลองเล่นเกมก่อนใครและยังได้ของขวัญที่ทำมาให้เราแค่คนเดียว ที่มีแค่ชิ้นเดียวอีก
ฉันไลฬสตีมมาสักพักจนถึงห้าทุ่มก็บอกลาทุกคน
ผ่านมาสักพักก็ไม่มีวีแววการกลับมาของนาที จนทำให้ฉันต้องโทรหาอีกครั้งไม่รู้จะเกิดอะไรขื้นไหม
"ครับ"เสียงนิ่งเย็นชากว่าปกติเปล่งออกมา ทำให้ฉันขนลุก แต่ก็ใจดีสู้เสือ
"นาที จะกลับมาไหม"
"อา พี่เทีย กลับครับส่งเพื่อนเสร็จแล้วจะกลับเลย"
"หืม ส่งหรอแล้วเราจะกลับยังไงให้พี่ไปรับไหม"
"ไม่เป็นไรครับ ผมจะหารถแถวนี้เอาดีกว่า"
"แน่ใจนะ พี่ไปรับได้นะ"
เสียงพูดแชกของอีกคนออกดังมาทำให้ฉันรู้ว่า น้องไปเทียวผับแน่ๆแล้วเพื่อนน้องคงจะเมาจนไม่มีสติ ถึงทำให้คนนิ่งๆแบบนาที มีอารมณ์ฉุนเฉียวจนเก็บไม่อยู่ได้ขนาดนี้
"ก็ได้ครับ พี่มารับผมที่คอนโดนะครับ"
"อือ ก็ได้"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!