“ ยัยเปรมแม่แกมีอะไรรึเปล่าทำไมเรียกแกกลับบ้านด่วนแบบนี้เพิ่งเรียนจบเองกระว่าจะไปเที่ยวด้วยกันสักหน่อย “ เกรซ เพื่อนรักเพียงคนเดียวของเปรมที่เป็นคนไทย พูดกับเพื่อนด้วยความเสียดายเพราะเธอสองคนวางแผนกันเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวรอบโลกก่อนจะกลับไปรับเวรรับกรรมที่ไทย
“ เอ้อ นั้นสิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันเห็นบอกว่ามีเรื่องด่วนมาก ฉันก็เลยต้องกลับพรุ่งนี้เลยน่ะสิเกรซ เสียดายจังเลยอ่ะ “ เปรม บอกเพื่อนรักด้วยสีหน้าผิดหวังเป็นอย่างมากเพราะเธอกับเกรซอยากไปเที่ยวรอบโลกก่อน อุตส่าห์วางแผนกันตั้งแต่มาเรียนอย่างหนักอยู่ที่นี้ หลังจากที่ทั้งคู่พูดคุยด้วยความเสียดายทริปเที่ยวกันเปรมก็ต้องจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวบินไฟร์รอบเช้าในทันที หญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงได้เร่งเธอขนาดนั้น
สนามบินสุวรรณภูมิ
หลังจากที่เปรมขึ้นไฟท์บินรอบเช้าตอน6โมงเช้าเธอก็มาถึงที่สนามบินสวรรณภูมิตอนบ่ายของอีกวัน ระหว่างที่เปรมเดินมาอย่างกับนางแบบเธอก็เห็นพ่อกับแม่ที่มารอรับเธออยู่แล้วด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอลูกสาวเพียงคนเดียวกลับมา
“ เปรมทางนี้ลูก แม่กับพ่ออยู่ทางนี้ “ คุณหญิงอุษมณี เรียกลูกสาวด้วยท่าทางตื่นเต้นส่วนไกรสรผู้เป็นพ่อก็ตื่นเต้นเป็นอย่าง มากเช่นเดียวกัน
“ แม่คะ พ่อคะ “ เปรมเมื่อเห็นคนเป็นพ่อกับแม่เธอก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจเพราะเธอไม่ได้เจอท่านทั้งสองมานานหลายปีตั้งแต่เธอไปเรียนอยู่ที่นี้เธอก็เอาแต่เรียนส่วนท่านก็คงยุ่งกับงานเลยไม่ได้มาหาเธอเมื่อสามคนพ่อแม่ลูกเจอกันก็เลยตื่นเต้นดีใจ
“ ฮืออออ เปรมเป็นยังไงบ้างลูกแม่ ลูกเป็นยังไงบ้าง “ คุณหญิงอุษา โผล่เข้ากอดผู้เป็นลูกสาวไว้แน่นด้วยความห่วงใยรัก และก็คิดถึงเป็นอย่างมาก ไกรสรเมื่อเห็นเมียกอดลูกสาวเขาก็โผล่เข้ากอดทั้งแม่ทั้งลูกเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึงเช่นเดียวกัน
บ้านอุดมเดช
“ อะไรนะคะคุณแม่ คุณพ่อ คุณแม่กับคุณพ่อว่ายังไงนะคะ เปรมไม่เอาไม่แต่งไม่ไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่เปรมไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยรู้จัก เปรมไม่แต่ง “ เมื่อมาถึงคฤหาสน์อุดมเดช อุษามณีกับไกรสรก็เล่าจุดประสงค์ที่ให้ลูกสาวกลับมาโดยเร่งด่วนด้วยความที่ทางนั้นเร่งมาทวงสัญญาเลยทำให้ไกรสรและอุษามณีไม่มีทางเลือกถ้าเธอไม่เอาลูกสาวไปส่งที่ บ้านป่าปือ
(เป็นหมู่บ้านในจินตนาการของไรท์เท่านั้น ) หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่บนเขาบนดอย
“ เปรมฟังแม่นะลูก แม่ก็ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ที่นั้นแต่ว่าถ้าลูกไม่ไปบ้านบริษัทของเรา ป้าบัวกับลุงเคน ก็จะมายึดตามสัญญานะลูก แม่ขอโทษ ฮือออออ ฮืออออออ “ คุณหญิงอุษามณี ร้องไห้ออกมาแทบขาดใจเมื่อต้องนึกถึงลูกสาวที่ต้องไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่ลูกสาวของเธอไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักมาก่อน
“ เปรม พ่อกับแม่เราสองคนไม่อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้เลยนะลูกแต่ถ้าพ่อกับแม่ไม่ทำแบบนี้หนูก็ไม่ได้ไปเรียนที่อเมริกาตามความฝันของลูกแล้วแม่กับพ่อก็ไม่มีเงินส่งให้ลูกใช้อย่างสุขสบายมา4ปีนะลูก “ ไกรสรตัดสิ้นใจอ้างเหตุผลที่โกหก เพื่อให้ลูกสาวยอมทำตาม ถึงแม้ว่าเขาจะรักลูกสาวมากแค่ไหนแต่ว่าเพื่อหน้าตาทางสังคมบ้าน และบริษัทที่เขากับภรรยาสร้างร่วมกัน ไกรสรเลยจำเป็นต้องเห็นแก่ตัวโกหกลูกสาว และก็ได้ผลเมื่อเปรมได้ยินแบบนั้นเธอก็ตะลึงงันอ้าปากค้างอย่างพูดไม่ออกเพราะเธอไม่เคยคิดเลยว่า เรื่องที่เธอไปเรียนที่อเมริกาจะทำให้ท่านทั้งสองต้องเป็นหนี้และก็ลำบากส่งให้เธอใช้อย่างกับเจ้าหญิงมาตลอด4ปีเต็ม เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นเปรมก็กลั้นใจถามผู้เป็นพ่อกับแม่ออกมาทั้งน้ำตาทันทีว่า
“ แม่กับพ่อเป็นหนี้เขาเท่าไหร่คะ ถึงต้องให้หนูไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ที่หนูไม่รู้จัก “ เปรมถามพ่อกับแม่ออกมาทั้งน้ำตาด้วยความสงสัยว่าท่านทั้งสองเป็นหนี้เท่าไหร่ถึงได้กล้ายกเธอไปให้คนอื่นได้ง่ายได้ถึงเพียงนี้
“ 100ล้านลูก “ ไกรสรบอกคนเป็นลูกออกมาด้วยน้ำเสียงอึกอัก แต่ก็ต้องบอกออกไปเพราะเป็นเรื่องจริงเปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ตกใจอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าการที่เธอไปเรียนที่นู่นจะทำให้ท่านทั้งสองกู้หนี้ยื่มสินมาตั้ง100ล้าน
“ 100ล้านคุณพ่อ คุณแม่ “ เปรม ตกใจตื่นเป็นอย่างมากเธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆ เธอทั้งโมโหทั้งโกรธตัวเองที่เป็นต้นเหตุเรื่องราวทั้งหมดนี้ ถ้าเธอไม่ดิ้นอยากไปเรียนที่นั้นเรื่องเลวร้ายพวกนี้ก็ไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้ แต่เมื่อเรื่องมันเกิดมาแล้วสิ่งเดียวที่เธอจะทำได้ก็คือ เป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้
“ ค่ะเปรมจะไป แต่ว่าเปรมขอเวลาเตรียมตัวเตรียมใจหน่อยนะคะ “ เปรมพูดจบเธอก็เดินขึ้นบ้านไป เพื่อไปคิดหาวิธีว่าเธอจะทำยังไงถึงจะใช้หนี้ที่เป็นอยู่ให้หมดและก็เร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ด้วยความที่เธอเรียนมาเก็ตติ้งมาเธอก็ต้องทำงานเกี่ยวกับการตลาด เมื่อเธอคิดได้ดังนั้นเธอก็เปิดคอมดูทันทีว่าหมู่บ้านที่เธอจะไปเป็นแบบไหนแล้วเธอจะสามารถทำอะไรได้ไหมที่จะทำให้เธอไม่เสียทั้งตัวและก็เสียทั้งใจ
“ หมู่บ้านป่าปือ “ แต๊ก แต๊ก แต๊ก เสียงแป้นพิมพ์โน๊ตบุ๊คที่ถูกกหาข้อมูลของหมู่บ้านเจ้าหนี้ที่เธอจะต้องไปแต่งงานด้วย เธอคิดว่าคนฉลาดอย่างเธอถ้าพูดหรือว่าต่อรองกับผู้ชายคนนั้นเธอคิดว่าเขาก็คงยอม เพราะกูเกิ้ลบอกว่าคนที่นั้นเป็นคนดีพูดเพราะยิ้มเก่ง อัธยาศัยดี เมื่ออากูบอกมาแบบนั้นมีเหรอคนที่ปลอบใจตัวเองอย่างเธอจะไม่เชื่อ
หมู่บ้านป่าปือ
“ เอกลูกแม่อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝ่าซักทีนะลูกอายุก็เลขสามเข้าไปแล้ว พ่อกับแม่ก็แก่ตัวลงทุกวันแม่กับพ่อก็อยากอุ่มหลานก่อนตาย นะเอก “ บัว หญิงวัย60ปีบอกคนเป็นลูกออกมาด้วยน้ำเสียงที่ขอร้องแกลมบังคับ ด้วยความที่ลูกชายไม่ยอมแต่งงานใหม่สักที ตั้งแต่ครั้งนั้นที่โดนคนรักทิ้งไปลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ขึ้นมาเก็บตัวเงียบๆอยู่บนเขางานการก็ไม่ไปทำปล่อยให้เลขาทำอยู่จนตอนนี้บัวกับเคนจะยกบริษัทให้ มานพ เป็นเจ้าของแล้วเพราะเขาทำงานอย่างบ้าคลั่งแทนลูกชายของตนมาตั้ง5ปีแล้ว เอกเมื่อได้ยินแบบนั้นก็มองหน้าคนเป็นแม่อย่างไม่พอใจพร้อมกับพูดออกมาเสียงเรียบนิ่งว่า
“ ก็ได้ครับในเมื่อคุณแม่อยากให้ผมแต่ง ผมก็จะแต่งแต่ว่าเธอจะอยู่ในฐานะของนางบำเรอของผมเท่านั้นถ้าคุณแม่ได้หลานตามที่ต้องการแล้ว คุณแม่กับคุณพ่อก็อย่ามายุ่งกับผมอีกนะครับ ผมอยากอยู่คนเดียวเงียบๆเรื่องบริษัทคุณแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวผมจะหาเวลาว่างเข้าไปทำเอง ตกลงตามนั้นนะครับหวังว่าคุณพ่อจะพอใจ “ เอกพูดออกมาอย่างประชดประชัน คุณหญิงบัวเมื่อได้ยินลูกชายพูดแบบนั้นเธอก็ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจที่คนเป็นลูกไม่ยอมเป็นผู้เป็นคนสักทีจะอกหักอะไรตั้ง5ปีนานขนาดนั้นผู้หญิงมีอยู่เต็มโลกอย่างกับแมลงวัน แมลงหวี่ บัวกับเคนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมลูกชายของตนถึงได้ยึดติดกับผู้หญิงเห็นแก่เงินคนนั้นนักทั้งที่เธอไม่ได้มีดีอะไรเลย
“ ผมกับหนวดของแกก็ไปโกนไปตัดซะบ้าง อย่างปล่อยให้ยาวรกรุงรังอย่างกับคนบ้านักเข้าใจไหม เดี๋ยวหนูเปรมมาพรุ่งนี้จะสติแตกเห็นแกเป็นคนบ้าแล้ววิ่งหนีไปอีก “ เมื่อคุณหญิงบัวพูดจบเธอก็เดินออกมาจากบ้านทันที แล้วก็ให้คนขับรถพาเธอกลับมาที่กรุงเทพทันทีเพื่อมารอรับว่าที่ลูกสะไภ้ที่จะมาแต่งงานกับลูกชายผีบ้าของเธอทันที เอกเมื่อเห็นว่าคนเป็นแม่กลับไปแล้ว คำพูดของแม่ที่บอกว่าถ้ายัยนั้นมาเห็นเขาในสภาพนี้แล้วจะวิ่งหนี เอกก็แสยะยิ้มออกมาอย่างมีแผนการทันที
“ หึหึหึ ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยเธอจะได้วิ่งหนีแน่ เพราะฉันจะเป็นผีบ้าให้เธอดู หึหึหึ “ เอกหัวเราะรอดไรฟันออกมาอย่างคนมีแผนการ
เช้าวันต่อมา
สถานีรถไฟ
“ หนูไปก่อนนะคะคุณแม่ ฮือออออ “ หลังจากที่คุณหญิงบัวมาหาลูกชายวันนั้นระหว่างท่านก็ต้องบินไปดูงานที่จีนกับสามีอย่างเร่งด่วนเลยไม่สามารถมารับลูกสะไภ้ได้เลยจัดการให้เรื่องนี้ให้ทะนายความเป็นคนจัดการให้แต่ว่าทนายความก็ดูเหมือนจะไม่ว่างมาจัดการให้ได้แต่ให้เลขามาจัดการให้ คนฉลาดอย่างเปรมพอรู้แบบนั้นเธอรู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้เป็นแผนของทางนั้นที่ไม่อยากมารับเลยบ่ายเบื่องว่ายุ่งเรื่องงาน เมื่อเธอคิดได้แบบนั้นเธอก็เลยไม่อยากรบกวนให้ใครมาส่งเธอในเมื่อคนทางนั้นไม่ยินดีตอนรับเธอ ก็ดีแล้วนี่เพราะเธอก็อยากให้เรื่องแบบนี้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เปรมโบกมือลาพ่อกับแม่ที่มาส่งเธอที่หัวลำโพง คุณหญิงอุษามณีกับไกรสรได้แต่โบกมือลาลูกสาวที่กำลังค่อยๆจากไปช้าๆเมื่อรถไฟกำลังวิ่งออกไป
“ ที่รักนี้เราทำบาปกับลูกเรารึเปล่าคะทั้งที่เรื่องเรียนของลูกไม่ได้เกี่ยวกับหนี้ที่เราเอามาเลย เงินเก็บที่เราเก็บให้ลูกเพื่อเรียนเราก็เอามาให้ลูกเรียนอย่างสบาย แต่หนี้100ล้านนั้นเราสองคนเป็นคนก่อนะคะ ฮือออออ ฮืออออ “ อุษากอดสามีทั้งน้ำตาเมื่อลูกสาวหายลับไปจากสายตา ไกรสรไม่ใช่ว่าเขาไม่เสียใจ เขาก็เสียใจไม่แพ้เมียเช่นเดียวกันแต่ว่าเขาเสียบริษัทกับบ้านไปไม่ได้อย่างน้อยๆเขาก็ยังมีที่ให้ลูกสาวกลับมาอยู่ถ้าลูกสาวไม่สามารถอยู่กับลูกชายของคุณหญิงบัวได้ เพราะในสัญญาระบุว่าภายในหนึ่งปีถ้าเด้กทั้งสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้รักกัน เรื่องหนี้สินเป็นอันจบกันสัญญาต่างๆก็เป็นอันยกเลิก เมื่อไกรสรคิดแบบนั้นเขาก็เลยต้องจำใจโกหกลูกสาวไป
ฉึกฉัก ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู่นปู๊นๆ
เสียงรถไฟวิ่งออกมาด้วยความเศร้าทั้งน้ำตาของเปรม หญิงสาวซื้อตัวรถไฟนอนมาด้วยความที่การเดินทางครั้งนี้ไกลมากเธอไม่อยากนั่งแบบธรรมดาเธอก็เลยซื้อแบบนอนมา เธออยากใช้ความคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ในเมื่อทางนั้นเขาไม่ชอบเธอ เปรมก็เลยต้องใช่ความคิดต่างๆนานาว่าจะต้องทำยังไงดีที่จะไม่ได้ประทะกับชายคนนั้น
เวลาต่อมา
สถานีบ้านป่าปือ
“ สวัสดีคะ หนูจะไปบ้านหลังนี้อะคะ “ เปรมเอาที่อยู่ ที่เธอเขียนในกระดาษยื่นให้ชายชราที่เป็นคนขี่สามล้อ เมื่อชายชราเห็นเขาก็ยิ้มเพราะรู้จักดีว่าเป็นบ้านใคร
“ โอ้ นี้บ้านคุณเอกไปๆหนูเดี๋ยวลุงไปส่งได้ๆ “ ลุงชรา ที่ปั่นสามล้อยิ้มออกมาก่อนจะพาเธอปั่นมายังบ้านของคนที่ชื่อเอก ระหว่างทางเธอก็จะคอยสังเกตุตามทางว่ามีอะไรบ้างถ้าเธอจะไปไหนมาไหนเธอจะต้องไปมายังไง ด้วยความที่เป้นคนหัวดีหญิงสาวคอยดูว่าจะมีอะไรที่เธอพอจะทำได้บ้างบวกกับเงินเก็บที่เธอเอามาติดตัวด้วยเธอคิดว่า เธออาจจะทำธุรกิจเล็กๆที่เธอพอจะทำได้เพื่อใช่หนี้ แต่พอเธอมองไปรอบๆที่นี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากตลาดสดที่มีแต่ผัก ปลา เนื้อสด และก็อาหารการกินเรียบง่ายเสื้อผ้าคนที่นี้ก็ใช่เสื้อผ้าพื้นเมืองของเขาเท่านั้น เมื่อเปรมเห็นแบบนั้นเธอก็เริ่มเหนื่อยใจ ระหว่างที่เธอกำลังใช้ความคิดอยู่สามล้อก็ปั่นมาถึงส่วนผักที่ยาวจนสุดลูกหูลูกตา แล้วก็มีบ้านที่มองเห็นอยู่ไกลตั้งอยู่ตรงกลางสวนผัก
“ แม่หนูถึงแล้วจ๊ะ นี้แหละบ้านคุณเอก “ ลุงปั่นสามล้อจอดก่อนจะเอ้ยออกมาด้วยน้ำเสียงใจดี เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็มอเข้าไปด้านหน้าที่มีบ้านทรงไทยน่ารักตั้งเด็นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางสวนผักกาดที่ใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา
“ ขอบคุณคะลุง นี้คะเงินค่ารถ” เปรมยื่นแบง100ให้ลุงแล้วก็ทำท่าจะเดินเข้าบ้านไปแต่ก็ต้องหยุ่ดชะงักเมื่อเสียงของลุงเรียกไล่หลังมา
“ หนูอย่าเพิ่งไปลูกเอาเงินถอนก่อน “ ลุงปั่นสามล้อเอาเงินทอนให้เธอกลับมา50บาท เปรมเห็นแบบนั้นเธอก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราทางที่มานั้นมันทั้งขรุขระยากลำบากแต่ค่ารถกลับถูกมากขนาดนั้น เปรมหยิบเงินทอนมาจากลุงสามล้อก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางเข้ามายังบ้านที่ดูเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอยู่เลย
“ สวัสดีคะ ขออณุญาติเข้าไปข้างในนะคะคุณเอก “ เปรมตะโกนขออณุญาติออกมาเสียงหวาน เอกที่แอบมองอยู่ภายในบ้านเพราะเขาอยากรู้ว่าเมียของเขาจะหน้าตาขี้เหร่มากแค่ไหน แต่พอเขาเห็นหญิงสาวที่ลากกระเป๋าเข้ามาเอกที่แอบดูอยู่ด้านในบ้านถึงกับตะลึงงันอย่างกับว่าโดนดึงถ่านออก ก่อนจะได้สติเมื่อเสียงหวานเรียกเขา เมื่อได้ยินเสียงเรียกแบบนั้นเขาก็เดินออกมาจากบ้าน เปรมที่เห็นแบบนั้นเธอก็ตกใจตื่นเพราะผู้ชายที่เดินออกมานั้น เขามาในชุดดูสกปรกซกหมกบวกกับหนวดเคราผมเผ้าที่รุงรังเลยทำให้เปรมถึงกับตะลึงไปด้วยความกลัว เอกเมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็แสยะยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันหญิงสาว ออกมาเขาคิดว่าเธอคงมองคนแค่ภายนอกเท่านั้นแหละ
“ สวัสดีคะคุณใช่คุณเอกสามีของหนูใช่มั้ยคะ “ เปรมเมื่อเห็นแบบนั้นเธอที่ทำใจมาก่อนแล้วว่า ถ้าเขาไม่ชอบเธอเขาก็คงไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอหรอก เมื่อเธอเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่มพร้อมกับยิ้มหวานออกมา เอกที่เห็นแบบนั้นความคิดที่คิดว่าเธอดูคนแค่ภายนอกเขากลับต้องตีไฟเลี้ยวทนที เมื่อหญิงสาวยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มหวานออกมา
“ อื้ม ฉันนี้แหละเข้ามาก่อนสิ “ เอก เมื่อเห็นว่า หญิงสาวคนนี้ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เห็นเขาแล้วต่างก็พากันหวาดกลัวหรือบางคนก็เบ้ปากมองเขาอย่างนึกรังเกรียจแต่กลับกันหญิงสาวคนนี้กับไม่มองแบบนั้นแถมยังยิ้มอย่างไม่กลัวเขาด้วยซ้ำ เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานให้ชายหนุ่มแล้วก็ยกกระเป๋าเดินทางเข้ามาในบ้านทันที
“ ให้หนูนอนห้องไหนเหรอคะ “ เปรมยิ้มหวานถามชายหนุ่มออกมาอย่างมีมารยาทและก็เป็นกันเอง เอกเมื่อได้ยินเสียงหวานถามแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนามองมายังเธอด้วยความสงสัยก่อนจะพูดออกมา
“ เป็นผัวเมียกันก็นอนห้องเดียวกันสิ รึว่าเธอรังเกรียจฉัน “ เอก พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่งแล้วก็อยากรองเชิงเธอ ถ้าเธอตอบออกมาเหมือนอย่างกับพวกผู้หญิงที่เขาซื้อมากินละก็งานนี้ผู้หญิงคนนี้เจอศึกหนักแน่ เปรมพอได้ยินแบบนั้นด้วยความที่เป็นเด็กนอกเธอก็เลยเอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อนเพราะเธอไม่อยากให้เจ้าหนี้ต้องคิดมากเธอยังมีเวลาเหลือที่จะต่อรองกับเขา
“ เปล่าๆคะ คือว่าหนูคิดว่าคุณอาจจะอยากอยู่คนเดียวได้สิคะอยู่ห้องเดียวกันก็ได้คะ “ เปรมยิ้มหวานบอกชายหนุ่ม เอกแทบล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าพูดแบบนั้นเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงน่ารักอย่างกับตุ๊กตาอย่างเธอจะตอบออกมาแบบนั้น เมื่อหญิงสาวยอมแล้วเขาก็เลยนำเธอเอาของเข้าไปเก็บในห้องก่อนจะพาเธอมาเดินดูว่าอะไรอยู่ตรงไหน
“ นี้ห้องครัว นี้ห้องน้ำ เธอต้องอาบน้ำก่อนมืดเพราะที่นี้ไม่มีไฟฟ้า อาหารฉันก็กินตอน8โมงเช้า ตอนเที่ยงไม่สำคัญ แต่ตอนเย็นฉันกินไม่เกิน1ทุ่ม “ เอก อธิบายว่าอะไรอยู่ตรงไหนแล้วก็บอกว่าเธอต้องทำอะไรตอนไหนกี่โมง เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็พยักหน้าอย่างเข้าใจเรื่องอาหารการกินเธอไม่ติด แต่เธอติดตรงที่ไม่มีไฟนี้แหละแล้วแบบนี้เธอจะทำงานแบบไหนละทีนี้ เมื่อคิดได้แบบนั้นด้วยความที่เป็นคนตรงเมื่อสงสัยเธอก็ต้องถามออกมา
“ เดี๋ยวก่อนคะคุณเอกเดี๋ยวนะคะที่นี้ไม่มีไฟแล้วคุณชาตท์โทรศัพท์ หรือว่าหุงข้าวทำกับข้าวยังไงคะ “ เรื่องไวไฟเธอยังพอเข้าใจได้แต่ว่าเรื่องไฟฟ้านี่สิไม่มีมันแปลก เอกเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนามองหน้าเธอด้วยความไม่พอใจ เปรมเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็เลยถอนหายใจออกมา อย่างเหนื่อยหน่ายว่าคนแก่สมัยนี้ทำไมขี้หงุดหิดง่ายจัง
“ ไม่ใช่อะไรคะเรื่องหุงหาอาหารหนูไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าฉันแค่ถามเพราะอยากรู้เฉยๆคนเดียวนี้มีด้วยเหรอไม่มีไฟฟ้าใช่ “ เปรมรีบอธิบายให้เขาเข้าใจทันทีเพราะเธฮไม่อยากให้ชายหนุ่มคิดว่าเธอเรื่องมาก ด้วยความที่เธอเป็นลูกหนี้เธอไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร แต่แค่สงสัยเชยๆก็เลยถามก็แค่นั้น
“ ก็ฉันนี่ไง ทำไมเธอถึงถามนั้นนู่นนี้นั้นจัง ฉันให้ทำอะไรหรือว่าไม่ให้ทำอะไรเธอก็ทำไปเถอะอย่าถามมากมันหน้ารำคาญ “ เอกพูดเสียงเรียบนิ่งบอกหญิงสาวให้หยุดถาม เปรมเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็นิ่งเงียบทันที เพราะเท่าที่เธอดูเขามาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเธอรู้แล้วว่าตาคนนี้เป็นคนรักสันโดษและก็คงมีอะไรคาใจเลยทำให้เขาเป็นคนขี้หงุดหงิดแบบนี้
“ อื้ม เข้าใจแล้วคะ “ เปรมพูดจบเธอก็เดินไปดูนั้นนู่นนี้เพื่อให้ตัวเองชินและก็รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เพื่จะได้ไม่ถามหรือว่าคุยกับเขาเธอก็เลยต้องเดินดูเพื่อให้เธอจำได้ เอกมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียนิ่งอย่างไม่กระพริบตาโดยไม่รู้เลยว่า เขากำลังคิดอะไรอยู่
" ยัยเด็กนี่แปลกคนจริง คนอื่นกลัวกูหมดทุกคนแต่ยัยนี้กลับไม่กลัวเลยป่วยรึเปล่าว่ะ “ เอก บ่นกับตัวเองออกมาเบาๆหลังจากที่แนะนำทุกสิ่งอย่างให้เมียป้ายแดงของเขาฟัง ชายหนุ่มไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเมียหรอกด้วยความที่โดนมาเยอะเลยไม่ค่อยไว้ใจผู้หญิงคนไหนง่ายๆ ยิ่งมาใช้หนี้และก็ยังสวยแบบนี้อีกเอกไม่มีทางไว้ใจแน่นอน ถ้าเอาตัวมาขัดดอกเวลาอยากหน้าจะพอได้แต่ถ้าให้มาหลอกเขาเหมือนกับแฟนเก่าละก็ไม่มีทาง เมื่อเอกนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นเขาก็หงุดหงิดเป็นอย่างมากก่อนจะเดินก้มหน้านิ้วคิ้วขมวดไป รดน้ำผักของเขา
ในครัว
“ นี้ตานี่ไม่มีอาหารอะไรเลยเหรอเนี่ย แล้วกินข้าวยังไงงงจัง “ เปรมเธอเดินดูว่าพอจะมีอะไรไว้ให้เธอทำกินบ้าง แต่ว่ากลับไม่มีอะไรเลยยกเว้นข้าวสาร กับไข่เท่านั้นเมื่อเธอคิดได้แบบนั้นเธอก็ทำหน้าคิดหนักเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมีเครื่องปรุ่ง ที่พอจะเป็น กระเทียม พริกแห้ง น้ำปลาผงชูรถ เปรมก็มองไปยังแปลงผักที่มีผักกาดขาวกับ กระหล่ำอยู่ในนั้น ความคิดของเธอก็พุ่งปี๊ดขึ้นมาทันที
“ ออ้…ถ้าอย่างนั้น เที่ยงกับเย็นคุณก็ทานข้าวกับ กระหล่ำผัดน้ำปลา และก็แกงจืดไข่น้ำก็แล้วกันนะคุณ เดี๋ยวบ่ายๆฉันจะเข้าไปในเมืองซื้อของมาไว้ทำให้คุณก็แล้วกัน “ เปรม พูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อรู้แล้วว่าจะทำอะไรให้ชายหนุ่มกินดี จากนั้นเธอก็ลงมือทำทันที กลิ่นหอมของกับข้าวที่ลอยมากระทบจมูกของชายหนุ่มร่างกายกำยำอย่างกับคนดูแลตัวเองดีมาตลอดจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะทานอาหารแค่นี้
“ ยัยนั้นทำได้จริงเหรอว่ะ ดูบอบบางอย่างกับคุณหนูฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหน ฉันก็หวังว่าเธอก็คงจะอยู่ได้นานไม่ตายก่อนซะละ หึหึหึ “ เอกที่ได้กลิ่นหอมของกับข้าวที่ลอยมากระทบจมูก เขาก็พูดพึมพร่ำออกมากับตัวเอง เพราะทุกอย่างที่เขาทำเขาทำเพื่อให้หญิงสาวทนไม่ได้แล้วก็ไปจากที่นี้จากนั้นเขาก็จะเป็นอิสระจากทุกสิ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะสิงสถิตอยู่ที่สวนผักแห่งนี้ แต่ไม่ใช่ว่าบ้านของเขาจะมีแค่ที่นี้เขายังมีบ้านที่เขาเอาไว้อยู่ประจำในเมือง ปกติเขาจะเข้ามานอนที่นี้แค่วันที่ลูกค้ามารับผักนอกนั้นเขาก็มาเฉพาะรดน้ำผัก ค่ำๆเขาก็ลงไปทำงานที่บ้านของเขา ถึงแม้ว่าเลขาจะทำงานที่บริษัทแต่ว่าคนที่ตัดสินใจและก็อยู่เบื้องหลังของบริษัทเป็นเขาหมด ผู้เป็นพ่อกับแม่ไม่ใช่ไม่รู้พวกท่านรู้ทุกอย่างแต่ที่ท่านไม่พอใจก็คือเกไม่เข้าไปบริษัทเลย พวกท่านก็เลยจำเป็นต้องหาเมียให้ลูกชายและก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ครอบครัวอุดมเดชมาขอความช่วยเหลือ คุณหญิงบัวกับเคน ก็เลยยอมตกลงแต่มีข้อแม้ว่าต้องยกลูกสาวของพวกเขาให้มาเป็นเมียลูกชาย แต่ก็ต้องมีข้อแม้อีกแหละ ว่าถ้าภายในหนึ่งปีเด็กทั้งคู่ไม่มีความคืบหน้าทุกอย่างก็เป็นโมฆะเพื่อไม่ให้เสียทั้งสองฝ่าย คุณหญิงบัวก็เลยต้องใช่ไม้นี้กับครอบครัวอุดมเดช ด้วยความที่ไม้หนีบมือแล้วทั้งอุษาและไกรสรไม่มีทางเลือกก็เลยยอมตกลง และนี้ก็เป็นที่มาของการมาอยู่ที่นี่ของเปรมเพื่อมาขัดดอกให้กับครอบครัว
“ คุณคะเที่ยงแล้วคะ มาทานข้าวได้แล้ว “ เปรมตะโกนเรียกชายหนุ่มออกมาเสียงหวาน เอกเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็เดินมาปิดก๊อกน้ำแล้วก็เดินถอดเสื้อโชว์ซิกแพคและก็รอยสักที่เต็มตัวมองดูแล้วน่ากลัวและก็เซ็กซี่ เปรมถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเด้กนอกแต่ด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอ เธอไม่เคยอยู่กับผู้ชายสองต่อสองแบบนี้เลย เมื่อเธอเห็นหุ่นนายแบบเดินด้วยท่าทางองอาจมาทางนี้หน้า หู หัว ของเธอก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันที หัวใจดวงน้อยก็เต้นสั่นระนั่วอย่างกับกล่องเพล เอกเมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆเขาก็ตักน้ำในตุ่มเพื่อล้างตีนล้างมือ ล้างหน้า ก่อนจะขึ้นมาบนบ้าน เปรมเมื่อได้ยินเสียงน้ำเธอก็ได้สติ ก่อนจะสลัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั้นออกไป
ซู…….จ๊วกกกกกก
“ เป็นบ้าอะไรไปอีก “ เอกเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าทางสบัดหัวแล้วก็เดินสบัดตูดเข้าไป เขาก็พูดออกมากับตัวเองพร้อมกับมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวไป
“ นี้คะไข่น้ำ และนี้ก็ผัดผักกาดน้ำปลาคะ “ เปรมถือจานอาหารเข้ามานำเสนอด้วยความภูมิใจในฝีมือของตัวเอง ถึงแม้ว่าในครัวจะไม่มีอะไรเลยแต่ว่าเธอก็ทำให้เขาทานได้ เอกเมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ตวาดออกมาเสียงดังลั้นบ้านอย่างกับเป็นบ้าทันที พร้อมกับเอามือปัดจานที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารให้ตกลงไปที่พื้นอย่างโมโห
เพล้ง
“ นี้เธอทำบ้าอะไร เธอรู้ไหมว่าผักนี้มันเป็นของซื้อของขาย เธอกล้าดียังไงเอามันมาทำกินหะ “ เอก ตวาดเสียงดังลั้นใส่หน้าของหญิงสาวด้วยความโกรธเป็นอย่างมาก เปรมเมื่อเห็นท่าทางน่ากลัวแบบนั้นเธอก็สะดุ้งตัวโยนอย่างตกใจพร้อมกับหวาดกลัวขึ้นมาทันที เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะเป็นคนใจร้ายเลย
“ ทำไม เธอคิดว่าเงินมันหาง่ายมากนักหรือไงถึงได้คิดอยากทำอะไรก็ทำ มิน่าละครอบครัวเธอถึงได้ขายลูกสาวมาให้เป็นนางบำเรอฉัน ทั้งที่เงินแค่100ล้านยังไม่มีปัญญา เพราะสอนลูกให้เป็นคนเอาของที่ทำเงินมาทำเล่นแบบนี้ไง “ เอก ดึงแขนเรียวขาวของหญิงสาวเข้ามาหาตัวพร้อมกับดูถูกครอบครัวเธอ และก็ตัวของเธอว่าเป็นคนไม่มีปัญญา เปรมเมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นเธอก็รู้สึกจุกอกเป็นอย่างมากเรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะเธอแท้ๆถ้าเธอไม่อยากไปเรียนต่อที่อเมริกาพ่อกับแม่ของเธอก็คงไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาส่งให้เธอเรียนและก็อยู่สุขสบาย เมื่อเธอคิดได้แบบนั้นน้ำใสๆก็ไหลรินลงมาอาบทั้งสองแก้มขาวสายตาของเธอก็จ้องเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มอย่างตัดพ้อ ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือว่า
“ คุณอย่ามาดูถูกครอบครัวของฉันเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะตัวฉันเองถ้าคุณจะโทษคุณก็มาโทษที่ตัวฉัน เรื่องอาหารวันนี้เอาเป็นว่าฉันขอโทษแล้วต่อไปฉันจะไม่ทำอะไรให้คุณไม่พอใจอีก แล้วฉันก็ยินดีจะชดใช่ให้คุนเอง อึก อึก อึก “ เปรมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เอกเมื่อเห็นดวงตากลมโตที่จ้องมายังตาขอเขาหัวใจแกร่งก็รู้สึกวูบไหวแปลกๆ ก่อนจะผละตัวหญิงสาวออกอย่างแรง จนตัวของเธอเซถลาล้มลงไปกับพื้น
ผลัก
“ อ๊ะ “ เปรม ร้องออกมาเบาๆเมื่อก้นของเธอกระแทกกับพื้นบวกกับข้อมือที่ชายหนุ่มจับบีบอย่างแรงเมื่อกี้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวถึงข้างในกระดูก เอก เมื่อเห็นแบบนั้นความหงุดหงิดหัวเสียก็วิ่งขึ้นมาก่อนจะเดินพรวดพลาดออกไปด้านนอกอย่างกับพายุ เปรมที่เห็นชายหนุ่มเดินออกไปข้างนอกแล้วเธอก็ค่อยๆพยุงร่างบางของเธอให้ลุกขึ้นมาเก็บของที่ล้นเต็มพื้น ด้วยหัวใจที่ปวดร้าวว่าชีวิตเธอทำไมต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ เรียนจบมาตั้งสูงแทนที่จะได้กลับมาทำงานช่วยพ่อกับแม่ แต่เธอก็ต้องมาใช้หนี้ที่เธอเป็นคนก่อขึ้นมา เมื่อคิดได้แบบนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างกับเขื่อนแตก
“ อึก อึก อึก เป็นเพราะฉันคนเดียวเลยถึงได้ทำให้คนมาดูถูกพ่อกับแม่ได้ถึงขนาดนี้ เปรมเป็นเพราะเธอ เธอมันเป็นอีโง่ที่เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้เป็นเพราะเธอจริงๆ ฮือออออ “ เปรม ทั้งเก็บของทั้งบ่นกับตัวเอง ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาของเธอ ที่ต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้
“ หึหึหึ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนได้นานแค่ไหนอย่างเพิ่งหนีตายไปก่อนละ เพราะฉันจะทำให้เธออยู่ไม่ได้ถึงพรุ่งนี้เลยละคอยดู “ เอก แสยะยิ้มออกมาอย่างกับมีแผนร้ายเพราะคิดว่าจะไล่เธอให้ออกไปจากชีวิของเขาให้ได้ภายใน วันพรุ่งนี้เพราะถ้าไล่เธอไปวันนี้หนี้100ล้านที่ครอบครัวเธอเป็นคนก่อ เขาก็ยังได้ไม่คุ้มเลย ด้วยความที่เขาไม่อยากแต่งงานแต่พ่อแม่บังคับเอกก็เลยต้องต่อต้านและก็ทำให้ผู้หญิงทุกคนที่แม่ของเขาหามาให้ถึงกับกลัวและก็เข็ดขหยาดเลยละ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเหมือนกัน แต่ผู้หญิงทุกคนแค่เห็นหน้าเขาต่างก็เมินหน้าหนีหาว่าเขาสกปรกบ้างละ ผู้บริหารโสโคกบ้างละ ผีบ้าบ้างละ หรือแม้แต่ไอ้โรคจิต เขาก็เลยไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมารักเขาจริงและที่สำคัญสวยๆแบบนี้ถ้ารองไม่เป็นหนี้สิรับรองว่าไม่แม้แต่จะชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!