บรรยากาศอบอุ่น เเสงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องทั่วทุ่งกว้าง สายลมพัดผ่านอย่างไม่ขาดสาย
เเสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของธรรมชาติ
"ภาพบรรยากาศเเบบนี้ ปล่อยไปคงเสียดายเเย่ "
เสียงชายวัยหนุ่มที่กำลังวาดภาพท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีสันสดใส
เส้นผมปลิวไสวชวนหลงเสน่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาราวพระเจ้าตั้งใจปั้นของเขานั้น ไม่ว่าใครก็ต้องหันมองด้วยใจปราถนา
เเต่ใครจะไปรู้ว่าเขามีหญิงที่หมายปองเเล้ว ทว่าตัวเขาเองก็มายังสถานที่เเห่งนี้ทุกๆวัน เพื่อเฝ้ามองหาหญิงสาวคนนั้น เเม้ไม่เเน่นอนว่าจะได้เจอหรือไม่ เขาก็ยังคงไม่ลดละความตั้งใจ
"อ้าว ไอ้หนุ่ม มาอีกเเล้วนะวันนี้"
"ลุงสมัย..สวัสดีครับ"
"พอดีเลย วันนี้เอ็งไปกับลุงมั้ย "
"วันนี้? มีอะไรเป็นพิเศษหรอครับ"
ลุงสมัยชอบเเกล้งผมบ่อยๆ ครั้งที่เเล้วก็บอกว่าให้ผมไปช่วยรดน้ำต้นไม้ เเต่เล่นทำเอาผมเปียกชุ่มไปทั่วทั้งตัว เพราะชอบใช้สายยางสาดน้ำใส่ผมซะเป็นวันสงกรานต์
"หน่า..เอ็งจะสงสัยอะไรปานนั้น ครั้งนี้ไปเห็น
เเล้วจะรู้เอง "
"ครับๆ ไปก็ได้ "
สุดท้ายผมก็เชื่อลุงสมัยอีกตามเคย สมองผมคงคิดอะไรไม่ได้เเล้ว เเต่ถึงยังไงถ้าเปียก ครั้งนี้ผมเตรียมชุดสำรองมาเปลี่ยนเรียบร้อย
"เดี๋ยวผมขอเก็บอุปกรณ์วาดภาพก่อนนะครับ"
"งั้นก็ตามมาเร็วๆล่ะไอ้หนุ่ม"
ผมคิดว่าสิ่งเดียวที่ไม่ชอบ คือลุงสมัยเเกชอบเรียกผมว่าไอ้หนุ่ม ทั้งๆที่ผมชื่อกวี ถึงจะบอกไปหลายครั้ง ลุงเเกก็ชอบเรียกไอ้หนุ่มอยู่ดี ผมล่ะเชื่อเขาจริงๆ
เมื่อกวีเเละลุงสมัยถึงที่หมายเขาก็ได้เเต่สงสัยว่าทำไมมีบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ตั้งอยู่ที่นี่ ประตูใหญ่กว้างขวาง อากาศปลอดโปร่ง ของตกเเต่งสไตล์
โมเดิร์น ประดับประดาดอกไม้เล็กๆสวยงาม
มองดูเเล้วเจ้าของน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา เเต่คิดเเล้วก็สงสัย ลุงสมัยจะพาเขามาทำอะไร
"ลุงครับ ไม่ได้พาผมมาขโมยของใช่มั้ย "
โป๊กก (เสียงดังฟังชัด)
"โอ๊ยย! ลุงตีผมทำไมครับ"
"เอ็งจะบ้าเหรอะ พามาหาของกินหน่ะสิ "
"ของกิน? ตอนนี้อ่ะนะ"
ผมว่า...ผมคงบ้าไปเเล้วจริงๆที่ตกลงมาด้วย
พามาบ้านใครก็ไม่รู้ เเล้วอย่างนี้ผมจะไปกินลงได้ยังไงกัน
"เดินตามมา เเล้วก็หยุดสงสัยไอ้หนุ่มหน้าอ่อน"
"ครับๆ"
หน้าอ่อน? ผมอ่ะนะหน้าอ่อน วันนี้มาเเปลกเกินจะเยียวยา ผมควรไปเตือนภรรยาของลุงสมัยให้ลองพาไปหาหมอดูดีมั้ยครับ...
ทั้งคู่เดินตรงไปหลังบ้าน พบกับของกินที่มีให้เลือกตั้งอยู่เต็มโต๊ะ กองของขวัญเรียงรายเต็มไปหมด คนมากหน้าหลายตามาอยู่รวมกันราวกับว่าวันนี้คือวันเกิดของใครสักคน
"ลุง..."
.
.
"ลุง...."
.
"ลุง !!!"
"อะไรเล่า จะตะโกนหาเตี่ยอะไร คนมองหมดเเล้วเห็นมั้ย "
"ก็ลุงมัวเเต่กิน ผมเรียก ลุงก็ไม่ตอบ"
"เเล้วเอ็งมีอะไร คนตกอกตกใจหมด"
"วันนี้เป็นวันเกิดใครรึเปล่าครับ"
"ตาเฉียบเเหลมจริงๆ นะไอ้หนุ่ม ฮิฮิๆ"
ตาเฉียบเเหลม \= มีของกิน มีเค้ก มีของขวัญ
ใครไม่รู้ให้มันมุดน้ำช้อนตายไปซะเถอะ
"วันนี้เนี่ย เป็นวันเกิดของยัยหนูเเพรไงเล่า"
"เเพร? เเพรไหนครับ"
"ซื่อบื่อจริงๆ มาทุกวันกลับไม่รู้ซะได้ "
มันก็จริงอย่างที่ลุงสมัยบอก ผมมาทุกวันกลับไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของทุ่งนี้ ใช้คำว่าเเทบจะไม่รู้อะไรเลยจะดีกว่า
"อ่ะ นั่นไง มานู้นเเล้ว"
สิ้นเสียงพูดของลุงสมัย เขาก็รีบหันไปมองเพื่อคลายความสงสัย เเต่ทันทีที่ดวงตาของเขาได้เห็นหญิงสาวคนนี้ จังหวะตกหลุมรักที่คุ้นเคยก็กลับมาเเล่นในหัวของกวีอีกครั้ง ด้วยหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้มของเเพร เเละออร่าความอ่อนโยนมันดันไปโดนใจกวีเข้าอย่างจัง เป็นใครคงลืมไม่ลง โดยเฉพาะหนุ่มผู้มั่นคงในรักอย่างกวี
เเพรกล่าวทักทายทุกคนในงานอย่างเรียบร้อย
เเต่เธอกลับยังยืนมองหาใครสักคน ราวกับว่าวันนี้ต้องเจอให้ได้
To be continued
"อ้าว! ลุงสมัย หนูหาอยู่ตั้งนาน"
เสียงหญิงสาวกล่าวทักทายลุงสมัยขวัญใจชาวทุ่งชาวไร่ ปกติเเล้วถ้าขาดลุงสมัยไป สถานที่เเห่งนี้ก็เหมือนป่าช้า เงียบสนิทไม่มีเสียงหัวเราะ
ทำให้เเพรอุ่นใจที่มีลุงสมัยอยู่คุมคนงานที่นี่
"หนูเเพร โตขึ้นอีกปีเเล้ว มีความสุขมากๆนะ อย่ามัวเเต่ทำงานจนไม่พักไม่ผ่อนล่ะ " ลุงสมัยพูดอวยพรวันเกิดผู้เป็นเเก้วตาดวงใจ พร้อมกับวางฝ่ามือลงบนหัวเเพรอย่างเอ็นดู
ลุงสมัยพูดดีๆกับเขาก็เป็นด้วยนะครับ ทำเอาผมเเปลกใจจริงๆ วันนี้คงต้องรีบกลับไปเก็บผ้า เพราะฝนคงจะตกหนักเเน่นอน
"เเล้ว..คนข้างๆคือลูกชายหรอคะ"
"นี่หน่ะหรอ คะ..คือ"
"ไม่ใช่ครับ" กวีลุกลี้ลุกลนรีบตอบ
"อ๋อ นี่ลุงพาใครก็ไม่รู้เข้ามาอีกเเล้วใช่มั้ยคะ"
"ปะ..ป่ะ..เปล๊า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็น.."
"ทำไมต้องเสียงสูงด้วยคะ ก็เป็นอะไรคะ"
"ก็เป็นคนมาวาดภาพของคุณในวันนี้นั่นเเหละครับ"
เสียงชายหนุ่มรีบหาข้ออ้างช่วยตอบคำถามเเทนลุงสมัย
ลุงสมัยนี่ชอบหาเรื่องให้ผมอยู่เสมอเลย เเต่ยังดีที่ผมพอจะคิดคำดีๆไว้เเก้ตัวอยู่บ้าง ไม่งั้นคงได้โดนคนงานเเถวนี้จับต้มไม่เหลือชิ้นดีกลับบ้านเเน่
"เอ่อ..ใช่เเล้ว ลุงจองตัวเขามาวาดภาพให้หนูวันนี้โดยเฉพาะเลยนะ"
"อย่างงี้นี่เอง งั้นตามฉันมาได้เลยนะคะคุณ..."
"กวีครับ"
"คุณกวี.. ชั้นเเพรนะคะ"
.
.
.
กวีเดินตามเเพรเข้าไปห้องๆหนึ่ง เพื่อความเป็นส่วนตัวในการวาดรูป นับตั้งเเต่เเพรเริ่มเปิดร้านดอกไม้ก็เเทบไม่มีเวลาว่างทำอย่างอื่นเลย โชคดีที่งานนี้เป็นงานที่เธอรัก ไม่งั้นคงได้ตายกันไปข้างเเน่ๆ
"ชั้นต้องทำยังไงบ้างหรอคะ"
"ทำท่าตามที่คุณอยากให้ผมวาดได้เลย"
ทั้งคู่เริ่มการวาดภาพไปได้สักพักใหญ่ เเต่กลับมีบรรยากาศที่เงียบเสียจนชวนง่วง
"คุณเป็นคนที่ไหนหรอ" เเพรเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความสงสัย
"ผมเป็นคนเเถวนี้เเหละครับ บ้านก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ "
"คุณมาที่นี่ครั้งเเรกใช่มั้ย"
"ผม..."
เอาไงดี ถ้าผมตอบตามความจริง เธอจะคิดว่าผมเป็นโรคจิตรึเปล่า
"ผมไม่ได้มาครั้งเเรกหรอก"
"งั้นเเสดงว่ามาหลายครั้งเเล้ว?"
"ประมาณนั้นมั้ง"
"เเต่ฉันไม่เคยเห็นคุณเลยนะคะ ไม่คุ้นหน้าด้วย "
"ผมไม่ได้มาเเถวนี้หรอก ส่วนมากก็อยู่ทางทุ่งดอกไม้นู้น"
ไม่เเปลกที่เธอจะไม่เคยเห็นผม เพราะถ้าเธอเห็น ผมเองก็ต้องได้เห็นเธอเหมือนกันหน่ะสิ เเต่ผมมาทุกวันพึ่งจะได้พบเธออีกครั้งเอาป่านนี้ พอได้เจอก็ตัวเเข็งทือ พูดไม่ออก ผมนี่ไม่เอาไหนจริงๆ
"คุณคงชอบที่นี่ ดีใจจังมีคนชอบดอกไม้ที่ชั้น
ตั้งใจปลูก"
กวีได้ฟังคำพูดของเเพร ก็เเอบขำในใจว่าทำไมเธอถึงได้น่ารักน่าชังเเบบนี้ เพราะที่จริงเเล้ว
เขาชอบเธอ ไม่ได้ชอบทุ่งดอกไม้
To be continued
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เเพรดูเหมือนจะเหนื่อยล้าอยู่มาก กวีเองก็สังเกตเห็นถึงท่าทางปวดเมื่อย เขาจึงเร่งมือให้ไวกว่าเดิม
"เสร็จเเล้วครับ"
"คะ? เสร็จเเล้วหรอคะ"
"ลองมาดูสิครับ"
ขณะที่เเพรกำลังลุกขึ้นไปชื่นชมภาพวาด เธอดันสะดุดขาตัวเองจนล้มลง
"เเพร !!"
จังหวะนั้นเขารีบเข้าไปคว้าตัวเธอเอาไว้ เเต่เหตุการณ์กระชั้นชิดเเบบนี้ ก็ไม่วายที่เเพรจะล้มทับกวีจนได้
"ขอโทษนะ เจ็บตรงไหนมั้ย"
เธอเป็นห่วงชายตรงหน้าที่ไม่เเม้เเต่จะสนิทกัน ก็ลืมไปว่ายังไม่ได้ลุกออกจากตัวเขา มิหนำซ้ำยังนั่งทับเจ้าท่อนลูกชายอันเป็นที่รักของเขาอีก
"คะ..คุ..คุณ ช่วยลุกก่อนได้มั้ย" กวีพูดเสียงกระเส่า
ถึงเขาจะเป็นคนให้เกียรติผู้หญิงมากเเค่ไหน เเต่ถ้าตรงหน้าเป็นหญิงสาวที่ตนเองรักมานาน จะทนไหวได้ยังไง
"ขอโทษนะคะ จะรีบลุกเดี๋ยวนี้เลย"
เเพรเองพึ่งรู้สึกได้ว่าตัวเองนั่งในท่าที่ดูจะไม่สมควร เธอก็เขินจนหน้าเเดงเเจ๋ทำอะไรไม่ถูก
ขณะที่เธอกำลังลุก กวีรั้งเธอเอาไว้ด้วยฝ่ามือที่สามารถโอบเอวเล็กๆได้อย่างสบาย
"จะทำอะไรคะ ชั้นก็กำลังจะลุกให้อยู่นี่ไง "
"ผม...."
กวีดึงเอวของเเพรเข้ามาเเนบชิด จนเธอสัมผัสได้ถึงกล้ามหน้าอกที่เเข็งเเกร่งของเขา ทั้งยังได้เห็นสีหน้าเเก้มเเดงระเรื่อ สายตาที่เว้าวอนของกวี ทำเอาเเพรใจเต้นเเรงราวกับว่ามันจะหลุดออกมา
"ผม....ไม่เอาค่าตอบเเทนภาพวาดวันนี้หรอก"
"เเบบนี้ไม่ได้สิคะ คุณจะเอาเท่าไหร่ "
"ผมเอาเท่านี้"
.
.
เขาดึงเธอเข้ามาจูบเเลกลิ้นลิ้มรสความหวานอย่างดูดดื่ม
"กะ..กวี "
เเพรพยายามใช้มือผลักหน้าอกของเขา เเต่ทำ
ยังไงก็ไม่สามารถสู้เเรงของกวีได้ เเถมยังจูบ
หนักกว่าเดิมอีกด้วย
ในห้องเต็มไปด้วยเสียงหายใจ เสียงลิ้นกระทบกัน บรรยากาศเป็นไปอย่างเร้าร้อนอย่างต่อเนื่อง จนเธอเเทบทนไม่ไหว
ในเมื่อเขาไม่ปล่อย เเพรทำการกัดปากกวีจนเลือดซิบเเทนซะเลย
"โอ๊ะ! เเพร..คุณกัดผมทำไม"
"ก็ชั้นหายใจไม่ออก"
"คุณก็อย่าเกร็งสิ "
"นี่! จะบ้าหรอ คุณมีสิทธิ์อะไรมาจูบชั้น"
"ผมก็บอกเเล้วนิ ว่าจะเอาค่าตอบเเทนเท่านี้"
"ค่าตอบเเทนอะไรของคุณ นี่มัน"
"นี่มันอะไรครับ"
เขาทำสีหน้าพอใจ เมื่อเห็นเเพรเขินจนหูทั้งสองข้างเเดง เเถมยังพยายามเถียงเขาอีกต่างหาก
"ยิ้มอะไรคะ"
"อีกสักรอบมั้ยครับ"
"ไม่ค่ะ"
เเพรเริ่มหงุดหงิด เพราะมาจูบเธอไม่พอ เเถมยังจะมาเเกล้งเธออีก ขณะที่กำลังรีบลุกออกจากตัวเขา ไม่ทันไรกวีก็คว้าเอวเธอลงมาอีก
"อะไรของคุณอีก"
"อย่าพึ่งโมโหสิ คุณฟังผมก่อน"
"ชั้นฟังได้ เเล้วมันจำเป็นต้องอยู่กันเเบบนี้มั้ยคะ"
"จำเป็นสิ "
"ตรงไหนคะ ชั้นเสียเปรียบเห็นๆ"
"งั้นผมให้คุณเอาคืนก็ได้ "
กวียื่นหน้าเข้าไปใกล้เธออีกครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่า ผมให้คุณเอาคืนเท่าที่คุณอยากได้เลย
.
.
"จะเอามั้ยครับ"
To be continued
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!