กลางดึกคืนหนึ่ง อลิซหลับไปอย่างหมดแรงหลังจากทำงานหนักตลอดทั้งวัน เธอรู้สึกถึงความเย็นของลมและเสียงฝนที่กระทบหน้าต่าง จากนั้นเธอก็พบว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในป่าทึบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พื้นดินใต้เท้าของเธอนุ่มเหมือนพรม อากาศเย็นสบายและเต็มไปด้วยกลิ่นของต้นไม้แปลกใหม่ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ส่องสว่างสดใสและมีเงาสีฟ้าอ่อนของพระจันทร์
"นี่มันที่ไหนกัน?" อลิซถามตัวเอง ขณะที่เดินไปข้างหน้าเธอก็เห็นแสงระยิบระยับจากไกล ๆ เป็นทางเดินที่ถูกประดับด้วยหินเปล่งแสง เธอเดินตามทางไปเรื่อย ๆ จนถึงต้นไม้ใหญ่ที่มีดอกไม้สีทองบานสะพรั่ง ดอกไม้แต่ละดอกมีสีสันและลวดลายที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
อลิซพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์และค้นหาความหมายของการเป็นเจ้าหญิงแห่งความฝัน เอลดริกอธิบายว่าโลกแห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและถูกคุกคามโดยความมืดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว อลิซต้องเดินทางไปยังเมืองกลางแห่งความฝันเพื่อหาวิธีจัดการกับความมืดนี้
เอลดริกพาอลิซผ่านป่าเวทย์มนตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันและสิ่งมีชีวิตที่แปลกใหม่ พวกเขาต้องข้ามสะพานที่ทำจากแสงสีรุ้ง และปีนภูเขาที่ทำจากคริสตัล โดยตลอดการเดินทาง อลิซเริ่มรู้สึกถึงพลังที่ไม่คุ้นเคยในตัวเธอ ซึ่งเอลดริกบอกว่ามันคือพลังของความฝัน
การเดินทางของอลิซและเอลดริกเต็มไปด้วยอุปสรรคและการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น พวกเขาต้องเอาชนะสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกับการ์ตูน และช่วยชาวบ้านจากการโจมตีของเงามืด อลิซเริ่มเข้าใจว่าพลังของเธอสามารถสร้างสิ่งของจากความฝันได้ เช่น สร้างแสงสว่างหรือป้องกันภัย
ระหว่างทาง อลิซได้เรียนรู้การใช้พลังของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพและเริ่มมีความมั่นใจในความสามารถของเธอ พวกเขามาถึงเมืองกลางแห่งความฝันในที่สุด แม้จะเห็นว่ามีความมืดครอบงำทั่วเมือง แต่พวกเขาก็ยังมีความหวัง
เมืองกลางแห่งความฝันเป็นสถานที่ที่สวยงามแต่ถูกคุกคามโดยความมืด เมืองมีปัญหาทั้งจากการที่สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปและความมืดที่ลึกซึ้งที่แผ่กระจายอยู่ อลิซต้องเผชิญหน้ากับเงามืดในสนามรบที่มืดสนิท ซึ่งเป็นการทดสอบความแข็งแกร่งและพลังของเธอ
ในขณะการต่อสู้ อลิซรู้สึกถึงความกลัวและความหวังที่สับสน แต่เธอไม่ยอมแพ้ เธอใช้พลังของเธอในการปลดปล่อยแสงสว่างที่ส่องสว่างไปทั่วทั้งเมือง ทำให้ความมืดค่อย ๆ ลดลงและเงามืดเริ่มถอยกลับ
หลังจากการต่อสู้ที่ยากลำบาก เมืองกลางแห่งความฝันฟื้นคืนความสงบและสวยงาม อลิซและเอลดริกเฉลิมฉลองชัยชนะและขอบคุณกันและกัน สำหรับการช่วยเมืองจากความมืด
อลิซและเอลดริกยืนอยู่หน้าประตูเมืองกลางแห่งความฝัน ท่ามกลางแสงสว่างจากตะเกียงที่ทำจากดอกไม้เรืองแสง เมืองกลางเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ แต่ก็ดูเหมือนจะมีบรรยากาศแห่งความกังวลอยู่ทั่วทั้งเมือง
"พวกเขารอเราอยู่" เอลดริกกล่าวพลางมองไปรอบ ๆ เมือง "เราต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหาก่อนที่ความมืดจะกลับมา"
อลิซพยักหน้า "ใช่ เราต้องไปหาผู้รู้เรื่องเวทมนตร์ในเมืองนี้"
ทั้งสองเดินเข้าไปในเมือง กลางทางพวกเขาได้พบกับผู้เฒ่าผู้รู้ชื่อว่า ไอริส ผู้เฒ่าผู้มีความรู้ลึกลับเกี่ยวกับพลังของความฝันและวิธีการต่อสู้กับความมืด
"ยินดีต้อนรับ อลิซและเอลดริก" ไอริสกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม "ข้ารู้ว่าพวกเจ้าจะมา ข้ามีข้อมูลที่พวกเจ้าต้องการ"
ไอริสนำทั้งสองไปยังห้องสมุดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยหนังสือโบราณ เธอเปิดหนังสือเล่มหนึ่งที่มีภาพวาดของแสงและเงาที่ต่อสู้กันอยู่
"ในที่นี้บันทึกเรื่องราวของการต่อสู้กับความมืดในอดีต" ไอริสอธิบาย "การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องใช้พลังแห่งความฝันทั้งหมดของอลิซ"
อลิซมองภาพในหนังสือด้วยความสนใจ "ข้าจะทำอย่างไร?"
"เจ้าเป็นเจ้าหญิงแห่งความฝัน พลังของเจ้ามาจากจิตใจที่บริสุทธิ์และความหวัง เจ้าต้องเรียนรู้การใช้พลังนี้เพื่อสร้างแสงสว่างที่สามารถทำลายความมืดได้" ไอริสบอก
เอลดริกเสนอให้อลิซฝึกฝนในสนามที่ปลอดภัยภายในเมือง พวกเขาเริ่มการฝึกฝนที่เต็มไปด้วยการสร้างและควบคุมแสงสว่าง อลิซต้องเรียนรู้การใช้พลังของเธอในการป้องกันและโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพ
วันเวลาผ่านไป อลิซเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นในพลังของเธอ เธอสามารถสร้างแสงสว่างที่สามารถทำลายเงามืดได้ และยังสามารถสร้างโล่แสงที่ป้องกันการโจมตีของศัตรู
ในขณะที่อลิซฝึกฝน ความมืดเริ่มเคลื่อนไหวและคุกคามเมืองอีกครั้ง คืนหนึ่งเมืองถูกโจมตีโดยเงามืดอย่างรุนแรง ชาวเมืองต่างพากันหนีรอดอลิซและเอลดริกยืนอยู่หน้าสนามรบ
"ถึงเวลาแล้ว" เอลดริกกล่าว "พวกเราต้องปกป้องเมืองนี้"
อลิซพยักหน้าและเริ่มปลดปล่อยพลังของเธอ แสงสว่างส่องประกายไปทั่วสนามรบ เธอใช้พลังของเธอสร้างวงกลมแสงที่สามารถขับไล่เงามืดให้ถอยกลับ
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด อลิซใช้พลังของเธอเพื่อปกป้องชาวเมืองและโจมตีเงามืด เอลดริกต่อสู้เคียงข้างเธอด้วยความกล้าหาญ
ในที่สุดเงามืดก็ถูกขับไล่ไป อลิซยืนอยู่ในสนามรบที่สว่างไสวด้วยแสงสว่างจากพลังของเธอ ชาวเมืองต่างพากันเฉลิมฉลองชัยชนะและขอบคุณอลิซและเอลดริกที่ช่วยปกป้องเมือง
"เจ้าทำได้ดีมาก อลิซ" เอลดริกกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อลิซยิ้มตอบ "ข้าจะยังคงปกป้องความฝันของพวกเรา"
แม้ว่าความมืดจะถูกขับไล่ไปแล้ว แต่อลิซรู้ว่ายังมีภารกิจมากมายรอเธออยู่ในการปกป้องโลกแห่งความฝัน เธอเตรียมตัวพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น พร้อมด้วยพลังแห่งความฝันที่ไม่มีวันหมดสิ้น
หลังจากที่อลิซและเอลดริกสามารถปกป้องเมืองกลางแห่งความฝันจากเงามืดได้สำเร็จ เมืองก็กลับมามีชีวิตชีวาและสงบสุขอีกครั้ง ชาวเมืองต่างเฉลิมฉลองและขอบคุณอลิซและเอลดริกสำหรับความกล้าหาญและพลังแห่งแสงสว่างที่ช่วยปกป้องพวกเขา
ในเช้าวันรุ่งขึ้น อลิซตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกที่ผสมผสานกันระหว่างความยินดีและความกังวล เธอรู้ว่าการต่อสู้กับเงามืดครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีความลับและปริศนามากมายที่เธอต้องค้นหาเพื่อปกป้องโลกแห่งความฝันอย่างแท้จริง
เอลดริกพาอลิซไปพบกับผู้เฒ่าไอริสอีกครั้ง ที่ห้องสมุดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยหนังสือโบราณ ไอริสรอต้อนรับพวกเขาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
"ยินดีที่ได้เห็นพวกเจ้าอีกครั้ง" ไอริสกล่าว "การต่อสู้ครั้งแรกของเจ้าเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีสิ่งที่พวกเจ้าต้องเรียนรู้และค้นหาอีกมากมาย"
อลิซถามด้วยความสงสัย "ข้าต้องทำอะไรต่อไป? พลังของข้ายังไม่เพียงพอที่จะทำลายความมืดทั้งหมด"
ไอริสพยักหน้า "ถูกต้อง พลังของเจ้ามาจากจิตใจที่บริสุทธิ์และความหวัง แต่ยังมีพลังอีกหนึ่งที่เจ้าต้องค้นหา นั่นคือพลังของความทรงจำ"
เอลดริกถาม "พลังของความทรงจำหรือ?"
"ใช่ พลังแห่งความทรงจำเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการต่อสู้กับความมืด ความทรงจำของคนที่มีความฝันและความหวังเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด" ไอริสอธิบาย
อลิซรู้สึกตื่นเต้น "ข้าต้องทำอย่างไรเพื่อค้นหาพลังนี้?"
"พวกเจ้าต้องเดินทางไปยังหุบเขาแห่งความทรงจำ ที่นั่นเจ้าอาจพบกับความจริงและพลังที่เจ้าต้องการ" ไอริสตอบ
อลิซและเอลดริกตัดสินใจที่จะเริ่มการเดินทางอีกครั้ง พวกเขาออกเดินทางจากเมืองกลางแห่งความฝัน มุ่งหน้าสู่หุบเขาแห่งความทรงจำ ระหว่างทางพวกเขาผ่านป่าเวทย์มนตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันและสิ่งมีชีวิตที่แปลกใหม่ และต้องเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่ท้าทาย
วันหนึ่งขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านป่าลึก อลิซและเอลดริกพบกับหญิงสาวที่ถูกทำร้ายโดยสัตว์ประหลาดในป่า อลิซไม่ลังเลที่จะใช้พลังของเธอสร้างแสงสว่างเพื่อขับไล่สัตว์ประหลาดและช่วยเหลือหญิงสาว
หญิงสาวคนนั้นชื่อว่า ลูเซีย เธอเป็นนักเดินทางที่กำลังค้นหาความทรงจำที่หายไปของตนเอง ลูเซียตัดสินใจเข้าร่วมกับอลิซและเอลดริกในการเดินทางไปยังหุบเขาแห่งความทรงจำ
ระหว่างทาง ลูเซียได้เล่าเรื่องราวของเธอให้ฟังว่า เธอสูญเสียความทรงจำทั้งหมดและไม่สามารถจำเรื่องราวในอดีตได้เลย เธอเชื่อว่าหุบเขาแห่งความทรงจำอาจมีคำตอบสำหรับเธอ
การเดินทางของพวกเขาเต็มไปด้วยการผจญภัยและการค้นหาความจริง อลิซได้เรียนรู้เกี่ยวกับพลังของความหวังและความฝันที่เป็นแหล่งพลังงานสำคัญในการต่อสู้กับความมืด เธอยังได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อย่างลูเซียที่มีความมุ่งมั่นและกล้าหาญ
เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงหุบเขาแห่งความทรงจำ ที่นี่เต็มไปด้วยหมอกหนาทึบและเสียงสะท้อนของความทรงจำที่หายไป อลิซรู้สึกถึงพลังแห่งความทรงจำที่เข้มข้นอยู่รอบ ๆ ตัว
ไอริสบอกว่าในหุบเขานี้ มีบ่อน้ำวิเศษที่สามารถคืนความทรงจำที่หายไปได้ พวกเขาต้องตามหาบ่อน้ำวิเศษนั้นเพื่อช่วยลูเซียและค้นหาความจริงเกี่ยวกับพลังของความทรงจำ
ระหว่างการค้นหา พวกเขาต้องเผชิญกับการทดสอบทางจิตใจและอุปสรรคที่ท้าทาย ความทรงจำที่หลงหายและความฝันที่ถูกลืมเลือนปรากฏขึ้นมาเป็นภาพเสมือนจริง อลิซและเพื่อน ๆ ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและความสงสัยในใจ
ในที่สุด พวกเขาพบบ่อน้ำวิเศษที่อยู่กลางหุบเขา อลิซรู้สึกถึงพลังที่เปล่งออกมาจากบ่อน้ำนี้ เธอและลูเซียตัดสินใจที่จะใช้พลังของบ่อน้ำในการค้นหาความทรงจำที่หายไป
เมื่ออลิซสัมผัสกับน้ำวิเศษ เธอเห็นภาพของโลกแห่งความฝันที่เคยงดงามและสงบสุข แต่ภาพนั้นถูกบดบังด้วยเงามืดที่ค่อย ๆ ขยายตัว เธอเห็นความทรงจำของผู้คนที่เคยมีความฝันและความหวัง แต่ถูกความมืดกลืนหายไป
ลูเซียได้รับความทรงจำของเธอกลับมา เธอจำได้ว่าเธอเคยเป็นนักรบผู้กล้าหาญที่ต่อสู้กับความมืด แต่เธอถูกทำร้ายและสูญเสียความทรงจำทั้งหมด ลูเซียรู้สึกขอบคุณอลิซและเอลดริกที่ช่วยเหลือเธอและนำเธอกลับมาสู่ความจริง
อลิซได้รับพลังแห่งความทรงจำที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพลังของเธอ เธอรู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนในตัวเธอมากขึ้น และมีความมั่นใจในการต่อสู้กับความมืดที่กำลังคุกคามโลกแห่งความฝัน
หลังจากการค้นหาความทรงจำในหุบเขาแห่งความทรงจำ อลิซ ลูเซีย และเอลดริกตัดสินใจที่จะกลับไปยังเมืองกลางแห่งความฝันเพื่อเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป พวกเขารู้ว่าการต่อสู้กับความมืดยังไม่จบสิ้น แต่พวกเขามีความหวังและพลังที่เพิ่มขึ้นในการต่อสู้
เมื่อพวกเขากลับมาถึงเมืองกลางแห่งความฝัน ชาวเมืองต่างต้อนรับพวกเขาด้วยความยินดี อลิซใช้พลังแห่งความทรงจำในการเสริมสร้างกำลังใจให้กับชาวเมืองและสร้างแสงสว่างที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเมืองจากความมืด
อลิซและเพื่อน ๆ รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีความลับและปริศนามากมายที่ต้องค้นหา แต่พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อปกป้องโลกแห่งความฝันและนำแสงสว่างกลับมาสู่ทุกคน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!