ในครั้งโบราณก่อนในป่าแห่งหนึ่งมีตำนานเล่าขานกันว่าในป่าแห่งค่ำคืนสีเลือดนั้นจะมีปีศาจออกมาอาละวาดซึ่งมีหลายคนได้เข้าไปท้าลองแล้วแต่กลับพบจุดจบอันน่าสยด

หลังจากผ่านมา 130 ปีในป่าแห่งนั้นก็ยังมีสิ่งที่น่ากลัวหลงเหลืออยู่มีหญิงสาวที่อยู่ในระดับวัยเดียวกับเด็กวัยรุ่นกลางคนได้เข้าไปท้าทายในปากแต่ทว่าทุกคนนั้นกลับไม่เชื่อในสิ่งที่เธอเล่าออกมาเพราะเธอนั้นเคยเป็นเด็กขี้โกหกมาก่อนจึงทำให้เธอไม่มีใครเชื่อถือเธอเลยหลังจากนั้นเธอเองก็กลายเป็นคนบ้าเสียสติและได้พูดไปอยู่ในป่าหลายปีผ่านไปไม่มีใครได้พบเธออีกเลยแต่ในมิจฉาก็มีเหตุการณ์ฆาตกรรมในปากเกิดขึ้นศพที่เจอนั้นกับสยดสยองยิ่งกว่าอะไรมีคราบเลือดมากมายที่สาดกระจายไปทั่วพื้นป่าไม่มีใครรู้เพราะเป็นฝีมือของสัตว์ร้ายหรือตัวอะไร

มีนักข่าวได้เข้าไปถ่ายทำภายในป่าแห่งนั้นกลับมีแต่กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายไปทั่วซึ่งภายในอีก 3 วันจะถึงวันจันทร์เต็มดวงสีเลือดที่เขาได้ร่ำลือกันออกมาเมื่อผ่านไป 3 วันวันพระจันทร์เต็มดวงสีเลือดได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งแต่ในครั้งนี้นั้นกลับมีเสียงเงียบที่บ่งบอกถึงอันตรายที่กำลังจะปรากฏตัวขึ้นพวกเขาจึงได้หลบไปซ่อนอยู่ในซอกต้นไม้หรือบนต้นไม้นั่นเองพวกเขาพยายามมองกวาดสายตาไปรอบๆและแล้วก็มีคนมาท้าทายอีกครั้งแต่ในครั้งนี้เรานักข่าวนั้นได้เห็นตัวฆาตกรนั่นก็คือหญิงสาวที่ถูกประณามว่าเป็นคนบ้าแล้วยิ่งหลบเข้ามาในป่าหายไปเธอนั้นคือฆาตกรต่อเนื่องในค่ำคืนพระจันทร์สีเลือดจึงได้ข้อสรุปแล้วว่าเธอคนนั้นได้เป็นฆาตกรตัวจริงในการฆ่าเหล่าผู้คนบริสุทธิ์มากมาย

หลังจากที่เธอนั้นได้ออกมาจากป่าแห่งนั้นเธอก็ได้ทำข่าวเกี่ยวกับฆาตกรคนนั้นและเธอได้ค้นข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นและได้ข้อสรุปว่า

เธอเป็นนักเรียนสาวที่เหลืออยู่ในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งเธอนั้นมีอายุ 15 ปีหลังจากที่เธอหายตัวไปและเธอนั้นก็ได้กลับมาอีกครั้งเป็นรูปลักษณ์ใหม่ของเธอโทรหานักข่าวคนนั้นกลับโดนฆาตกรรมปริศนาโดยที่มีรอยเท้าสีที่เปื้อนเลือดเดินไปมาในห้องพร้อมข้อความที่เขียนด้วยเลือดว่า"อย่ามายุ่งกับฉันถ้าพวกแกไม่อยากตาย"

ณปราสาทแห่งหนึ่งมีตำนานเล่าลือกันว่าจะมีดวงวิญญาณขึ้นมาหาเต้นรำในยามจันทร์เต็มดวงซึ่งไม่มีใครเคยรู้เลยว่าที่แห่งนั้นเกิดอะไรขึ้นมาก่อนมีอะไรแฝงอยู่ภายในงานเต้นรำแห่งนั้นมีหญิงสาวคนนึงได้ทำการเข้าไปในปราสาทได้พบกับสิ่งน่าขนลุกมากมายที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั่นคือเราภูตผีที่ตายลงในปราสาทแห่งนั้นลุกขึ้นมาเต้นรำราวกับเป็นเรื่องปกติและแล้วเมื่อปัดตูประสาทปิดลงเสียกรีดร้องกระแสทรมานของหญิงสาวคนนั้นได้ดังสนั่นไปทั่ว

หลังจากผ่านมา 200 กว่าปีปราสาทแห่งนั้นก็ยังคงต้องตระหง่านอยู่ในค่ำคืนนี้มีเด็กวัยรุ่นเข้ามาตั้งแคมป์ในป่าแห่งนั้นซึ่งประกอบไปด้วยหญิงสาว 3 คนและชาย 2 คนซึ่งคราวนั้นให้ตั้งแคมป์กันอย่างไม่รู้เลยว่าความตายกำลังจะเข้าหาพวกเขาแต่แล้วให้เวลาผ่านไปได้ 2 นาทีเพื่อนของเขาชื่อเมริซ่าได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอนั้นหายไปไหนมีคนบอกว่าเธอนั้นอาจจะไปเข้าห้องน้ำก็ได้แต่ทว่าในป่าแห่งนี้ไม่มีห้องน้ำเมื่อทุกคนเริ่มเอะใจแล้วจึงเริ่มออกเดินตามหาเหม็นมากที่หายตัวไปอย่างลึกลับจนไปถึงปราสาทแห่งแห่งนั้นที่ข้างในมีแสงระยิบระยับราวกับงานเต้นรำอยู่เพราะพวกเขาได้เข้าไปถึงภายในก็ได้พบกับเมริซ่าที่กำลังเต้นรำอยู่กับใครไม่รู้ภายในห้องโถงจัดงานเลี้ยงนั้นมีเพียงแค่เงาของเมริซ่าเพียงคนเดียวที่มีส่วนผู้คนในงานนั้นกลับไม่มีเงาเลยนั่นจึงทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นสิ่งที่เมริซ่าได้เห็นคือภูตผีที่จะเอาเงินยานของพวกเขาไปพวกเขาได้พยายามเตือนสติให้เมริซ่านั้นกลับมาอีกครั้งแต่ทว่าภูติผีนั้นก็ได้เผยร่างที่แท้จริงของมันมันบุกเข้าโจมตีใส่อย่างไม่มีหยดหย่อนจนกระทั่งเมริซ่าเธอนั้นโดนโคมไฟห้อยระย้าอันใหญ่โตหล่นใส่เธอจนเธอเสียชีวิตแม้แต่เพื่อนของเธออีก 4 คนนั้นหวาดกลัวลูกกรีดร้องนะความน่าอนาถพวกเขาได้พยายามวิ่งหนีออกจากห้องโถงแต่ตัวอย่างนั้นก็ไม่มีทางวิ่งหนีออกจากปราสาทผีสิงนี้ไปได้พวกเขาตายกันทุกคน