เด็กสาวผมเงิน ดวงตาสีแดงสดเหมือนเลือดเป็นประกาย สวมชุดคล้ายชุดของซิสเตอร์ สีดำตัดแดง มีปีกมังกรสีดำขนาดใหญ่ และหางมังกรสีเทายืนอยู่บนหลังคาบ้านใต้พระจันทร์เต็มดวง
“เธอคือ...?”
เด็กหนุ่มผู้ผ่านมาเห็นได้ถามเธอไปด้วยความสงสัย สนใจและตกใจ
“...ฉัน...คือ...”
“ตื่...แล้.....ไม่ง......าด.....”
หลังจากนั้นก็ได้ทีเสียงขึ้นมาซอดแทรกการสนทาของทั้งสอง
“ตื่นไ...ล้ว...าย...นหนู...สา...ใส่..”
“ตื่นได้แล้วพี่ชายไม่งั้นหนูจะสาดน้ำใส่นะ!”
เด็กสาวผมฟ้าใส่ชุดนักเรียนพูดพร้อมถือถังน้ำสีดำขนาดพอถือมา
“หือ...ขออีก...5...นา...ทีนะ...”
เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินใส่ชุดนอนพูดด้วยความงัวเงียขณะนอนอยู่บนเตียง
“..........”
“โธ่เอ๊ย...พอแล้ว”
เด็กสาวพูดด้วยความหงุดหงิดแล้วสาดน้ำ
“ฮะ-เฮ้ย ทำอะไรของเธอเนี่ย ยามิ!”
“หือ ก็กำลังปลุกใครบางคนที่กำลังนอนอยู่ด้วยการสาดน้ำใส่ทำให้ที่นอนเปียกจนนอนต่อไม่ได้ไงคะ”
ยามิพูดด้วยท่าทางพึงพอใจแล้วกอดอกและมีน้ำตาคลอ
“อึ้ก- ผมอารากิ โยชิ ผิดไปแล้วครับ!”
โยชิพูดเสียงดังพลางก้มหัวคุกเข่าไปด้วย
“หึ ถ้าเจ้าสำนึกผิดแล้วก็รีบจัดการที่นอนของเจ้าแล้วลงไปทำข้าวเช้าให้ข้ากินเสียเถอะ”
ยามิพูดพร้อมกับเดินลงบันไดไปด้วยความเร็ว
โยชิเอาผ้านวมไปตากแล้วหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู
ขณะนี้เวลา7นาฬิกา50นาที
“...อะ...เออ...นี่เราตื่นสายขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ว่าละทำไมยามิถึงน้ำตาคลอ...ยิ่งเป็นพวกกระเพราะหลุมดำด้วยสิ”
หลังจากบ่นพึมพัมกับตัวเองเสร็จโยชิก็ลงมาข้างล่างเพื่อเข้าห้องครัวและเตรียมตัวทำอาหารให้ยามิ
“....ร้านขายเพชรแห่งหนึ่งใหโตเกียวโดนระเบิดโดยผู้ก่อการร้าย แต่เพชรก็ไม่ได้ถูกปล้นไปเลยค่ะ
ทางตำรวจคาดว่า...”
เสียงข่าวจากโทรทัศน์ดังมาในขณะที่โยชิกำลังทำอาหารอยู่ ทำให้เขาพูดว่า
“เห๋...โดนอีกแล้วหรอเนี่ยเมื่ออาทิตย์ก่อนก็เพิ่งโดนไปเองนะ จะว่าไปมีแค่ร้านแถวโรงเรียนของยามิเองนะที่ไม่โดนระเบิดน่ะ เอ้า! มากินข้าวได้แล้ว”
โยชิพูดพลางถือของเตรียมกินข้าวมาวางไว้บนโต๊ะ
“ค่าา”
ยามิขานตอบโยชิแล้วนั่งกินข้าว
“วันนี้หนูกลับบ้านช้าหน่อยนะ พอดีต้องเข้าชมรมน่ะ”
ยามิพูดขณะเขี่ยแครอทออกจากจาน
“อืม...ดีจังเลยนะ โรงเรียนเพิ่งเปิดไดไม่ถึงเดือนก็มีชมรมเข้าแล้วหรอ?”
โยชิพูดตอบยามิพลางเอาแครอทใส่เพิ่มในจานยามิ คงเพราะเห็นยามิเขี่ยแครอทออกเมื่อกี้โยชิเลยตักแครอทเพิ่มเป็นสองเท่าให้ยามิ
“อะ อ๋า...เออ อืม ถ้าเกิดว่าร้านเพชรแถวโรงเรียนหนูโดนระเบิดพี่จะทำไงหรอ? หงับ”
ยามิร้องเสียงหลงเมื่อเห็นพี่ชายเพิ่มแครอทใส่จานให้ หลังจากถามเสร็จเธอก็ต้องจำใจกินแครอทเข้าไป
“อย่าพูดจาอะไรเป็นรางร้ายสิ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงเดี๋ยวพี่จะรีบไปช่วยแน่นอน!”
โยชิพูดพลางลุกเอาจานไปเก็บไว้ที่ล้างจานแล้วแช่ไว้
“ฮะฮะฮะ งั้นหรอ สมกับเป็นพี่ชายเลยนะ”
ยามิพูดแล้วหัวเราะอ่อนๆ
"มันแน่อยู่แล้วสิ มันเป็นหน้าที่ฉันนี่นา”
หลังจากคุยกันเสร็จทั้งสองคนก็ออกจากบ้านแล้วแยกไปโรงเรียนกันคนละทาง
เมื่อ โยชิมาถึงโรงเรียน
ครืดดด(เสียงประตูเลื่อน)
“ไง โยชิ พวกเรากำลังคุยกันว่าจะไปร้านเกมหลังเลิกเรียนน่ะ ไปด้วยกันมั้ย?”
ชายหนุ่มผู้มีผมสีทองเดินเข้ามาทักเขา
“อะ อา อืม ไปด้วยดิ ซาวากิว่างๆพอดีด้วย”
“ดีล่ะครบ6คนแล้ว”
โยชิ ยิ้มฝืดๆพลางหันไปมองด้านหลังเพราะรู้สึกเหมือนกำลังโดนมองอยู่
“.........”
“เป็นไรไปโยชิ?”
“อืม เปล่าหรอกแค่คิดไปเองน่ะ”
เขารีบหันกลับมาแล้วส่ายหน้าให้ซาวากิ
หลังจากเลิกเรียน พวกเขาก็พากันไปร้านเน็ตประมาณ2ชั่วโมงแล้วค่อยแยกย้ายกันกลับบ้าน
“อืม ข้าวเย็นวันนี้กินอะไรดีนะ ดีล่ะ โทรถามยามิดีกว่า"
หลังจากพึมพัมกับตัวเองเขาก็ตัดสินใจโทรหายามิ
“หืม ไม่รับสายหรอนี่ก็โทรไปรอบที่ห้าแล้วนะเนี่ย
อืม หรือกลับบ้านแล้วกำลังอาบน้ำกันอยู่นะ ชักเริ่มเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ”
โยชิรีบวิ่งไปที่บ้านแล้วเปิดประตูเข้าไป
“ยามิ! อาบน้ำอยู่หรอ!?”
โยชิตะโกนสุดเสียงแต่ก็ไม่มีใครขานรับ
“หรือว่าแถวร้านเพชรจะโดนระเบิดเลยโดนลูกหลงไปด้วยกันนะ”
โยชิรีบวิ่งไปแถวร้านเพชรเพื่อตามหายามิ
“แถวร้านเพชร....ย่านการค้าล่ะ...โรงเรียนด้วยหรอ...ต้องอยู่ร้านสะดวกซื้อแน่...ไม่มีเลยซักที่หรอ
โธ่เว้ยย!อยู่ไหนกันนะ ยามิ!?”
ระหว่างที่โยชิกำลังวิ่งอยู่เขาก็เห็นเงาคล้ายเครื่องบินขนาดยักษ์บินผ่านเขาเลยวิ่งตามไปด้วยสัญชาตญาณ
เด็กสาวผมเงิน ดวงตาสีแดงสดเหมือนเลือดเป็นประกาย สวมชุดคล้ายชุดของซิสเตอร์ สีดำตัดแดง มีปีกมังกรสีดำขนาดใหญ่ และหางมังกรสัเทายืนอยู่บนหลังคาบ้านใต้พระจันทร์เต็มดวง
“เธอคือ...?”
โยชิที่ผ่านมาเห็นได้ถามเธอไปด้วยความสงสัย สนใจและตกใจ
ถึงแม้ว่าแทบทุกอย่างจะเปลี่ยนไปแต่เค้าโครงหน้า
ยังเหมือนเดิม เค้าโครงหน้านี้เขาจำได้ดี
“...ยามิ...หรอ...?”
“เธอคือ...ยามิหรอ?”
โยชิได้ถามเด็กสาวร่างมังกรผู้มีหน้าตาคล้ายคลึงกันกับน้องสาวของตน
“...ยามิ...นั่นคือชื่อของร่างหรอ?”
เด็กสาวร่างมังกรได้เอ่ยตอบโยชิเช่นนั้น
"ชื่อของร่างนี้...?มะ-หมายความว่าไงกัน-อึ๊ก-”
“ปลดผนึกความทรงจำทำงาน!”
ระหว่างที่โยชิกำลังจะถามเด็กสาวร่างมังกร เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนระบบคำสั่งดังขึ้นมาจากหัว มันทำให้เขานึกถึงความทรงจำเก่าๆ
“ลูกคือผู้สืบสายเลือด‘ผู้ผนึกแห่งปฏิหาร’นะคะ”
“ลูกนะมีพรสวรรค์นะครับ”
“เพราะฉนั้นเพื่อไม่ให้ลูกหยิ่งในพรสวรรค์ของตนเอง พ่อและแม่ต้องจำเป็นต้อง‘ผนึก’ทั้งความทรงจำและพลังของลูกนะคะ”
“ไว้ลูกได้ความทรงจำกลับไปเมื่อไหร่ลูกก็อย่าหยิ่งในพรสวรรค์เหมือนเมื่อก่อนนะครับ”
ในระหว่างที่เสียงพวกนี้ดังมาในหัว ความทรงจำในอดีตของเขาก็กลับมาบางส่วน
“อารากิ มิซูรุ คือชื่อจริงของเรา มีพรสวรรค์ในการใช้เวทย์ผนึกทั้งแปด วิธีผนึกที่1คือ ต้องทำให้อีกฝ่ายที่โดนผนึกหมดสติ ในขั้นเลวร้ายที่สุดผู้ที่ถูกผนึกอาจเสียชีวิต วิธีที่ผนึกที่2 ทำให้อีกฝ่ายเปิดใจด้วยการพูดและเจรจา ในขั้นเลวร้ายที่สุดผู้ใช้เวทย์ผนึกอาจเสียชีวิต สินะ อา”
ในระหว่างที่มิซูรุกำลังโลเลใจว่าจะใช้วิธีไหนดี แต่อยู่ๆเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่ายามิก็เป็นน้องสาวของเขา
ถึงจะอยู่ในร่างกึ่งมนุษย์กึ่งมังกร แต่ไม่ว่ายังไงน้องสาวของเขาก็ยังคงเป็นน้องสาวคนเดิม และเขาก็ตัดสินใจได้ว่าคงต้องใช้วิธีที่2เท่านั้น
“...ใช้วิธีที่2ดีกว่า ถ้าเพื่อช่วยน้องสาวต่อให้ต่อให้แลกด้วยชีวิตฉันก็ยอม!”
เขาพูดด้วยเสียงดังจนยามิได้ยิน และในระหว่างที่เขากำลังพูดอยู่นั้น น้ำตาของยามิก็ได้ไหลออกมา
“พะ-พี่คะ ชะ-ช่วยหนูด้วย”
“อืม เดี๋ยวพี่จะไปช่วยเดี๋ยวนี้ล-อึ๊ก!”
มิซูรุยังไม่ทันได้พูดจบร่างกายของยามิก็คลุ้มคลั่งขึ้น ทำให้หางของเธอเหวี่ยงไปฟาดที่มิซูรุเข้า
“มะ-ไม่นะ! หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะพี่คะ”
“มะ-ไม่เป็นไรหรอก ของแค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก-อึ๊ก!”
มิซูรุพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็ไอออกมาเป็นเลือด
แล้วนอนฟุบลงไป
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!