ย้อนกลับไปเมื่อปี 2510 ร.ต ชานนท์ ปฐวี หรือ หมวด ดนัย สังกัดหน่วยจงฮาศึก ทหารหนุ่นชาวไทย วัย 28 ปี ได้ถูกส่งมาประจำฐานทัพในประเทศเวียดนาม
ในช่วงเวลานั้นเขามักจะแวะเยี่ยมหมู่บ้านต่างๆเวลาออกลาดตระเวน อยู่ทุกเย็น จนกระทั่งได้พบกับ
สาวเวียดนามแสนสวยคนหนึ่ง
ที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ หารู้ไม่ว่า
เธอผู้นั้นเป็นสายลับทหารเวียดนามนามเหนือ ที่ออกหาข่าวเหมือนกัน ร.ต ดนัย ยืมยิ้มตลึงความงามของเธออยู่พักหนึ่ง เพื่อนทหารจึงเขามาตบไหล่ ทำเอา ร.ต ดนัย สะดุกตกใจ😱❗เห้ย ดนัยไปกัน เพื่อนเขาไปกันหมดเเล้ว เอ่อๆ ปะๆ *แอดขอเกริ่นก่อนนะครับ เพื่อนสนิท ร.ต ดนัย มีอยู่ 4 คน ชื่อว่า
1.สมพร 2.ปรีชา 3.วิต 4.พล พอกลับพึ่ง ฐานที่มั่น ร.ต ดนัยและเพื่อนๆ ก็จัดเตรียม จัดอาหากระป๋องเนื้อแห้ง ที่เหลือ มาทำกิน
ทุกๆ 3-4 วันจะมีเสบียงจากเฮลิคอปเตอร์ชีนุก มาส่งเสบียงอาหาร ถ้าวันไหนฟ้าปิดหรือ เกิดการโจมตี อาจจะไม่สามารถมาส่งได้เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยเเนะ *วันปืนแตกวันแรก ของหน่วย ช่วงค่ำเวลา4ทุ่ม ทหารเวียดนามได้ทำการโจมตีฐานที่มั่น กับระเบิดดังขึ้นสนั่นปลุกทหารไทย พลปืนกล M 60
สาดกระสุนใส่ฐานลวดหน้า รอบบริเวณที่มั่น หน่วยรบพิเศษ Sappers ของเวียดนาม ทำการบุกทะลวงลวดหนาม เข้ามา ร.ต ดนัยเห็นดังนั้น จึงหยิบ M79 ยิงใส่ไม่ยั้ง
ปืนใหญ่ยิงแฟร์ส่องสว่างขึ้นฟ้าทำไห้เห็นทหารเวียดนามจำนวนมาก อยู่บริเวณฐาน ร.ต ดนัย จึงกำชับให้เพื่อนสู้อย่างสุดชีวิต ไอ้ พล มึงอย่ายอมมันนะ ถ้ามึงยอมมึงก็ตายจึงสั่งลูกน้องในหน่วยติดดาบปลายปืนM16 เพื่อรับการโจมตีระยะประชิด ไม่กี่วินาที ทหารเวียดนามเหนือ ได้เข้าประชิดฐาน สมพร เพื่อนสนิทของ ดนัย ได้ถูกทหารเวียดนามเอาดาบติดปรายปืนAK47 แทงเข้าบริเวณลำคอ จึงทำให้ สมพรได้ เสียชีวิตในทันที วิตเมื่อเห็นดังนั้นจึงคว้าปืนกระหน่ำยิงทหารเวียดนามคนนั้นจนร่างพรุนสถานการณ์ตอนนี้เริ่มตึงเครียด พลวิทยุของหน่อยจึงขอการสนับสนุน จากปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่อีกฟากของภูเขา
ยิงถล่มบริเวณรอบฐาน ทหารเวียดนามเห็นอย่างนั้นจึงยกธงแดงถอนตัวกลับฐานที่มั่น สายตา ร.ต ดนัย เหลือบไปเห็นผู้หญิงที่เขาเห็นในหมู่บ้านเธอคนนั้นแต่งชุดทหารเวียดนามสะพายปืน
ทำเอา ดนัย มือไม้อ่อนไม่กล้ายิงจึงได้แต่มองสาวคนนั้นถอนตัวไปกลับทหารเวียดนาม หลังจากพวกนั้นถอนตัวเสร็จก็พากันเคลียร์พื้นที่วางทุ่นระเบิดพร้อมลวดหนามและหาคนเจ็บคนตายส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม ดนัยได้แต่นึกเสียใจที่ผู้หญิงที่เขารักแรกพบกลับกลายเป็นศัตรูคู่แค้น และนึกเสียใจที่เพื่อนเขาเสียชีวิต ความตึงเครียดและความเศร้าถาโถมจิตใจ🫀ของดนัยเป็นอันมากทั้งเรื่องทางบ้านที่ต้องจากพ่อแม่มา กินไม่ได้นอนไม่หลับ มีแต่เพื่อนที่คอยซัพพอร์ต เป็นห่วงเป็นใย🫂
**แอดเพิ่งเริ่มทำขอความกรุณาเอ็นดูหน่อยนะครับ55
เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ซึ่งอาจจะมี
เนื้อหาจริงบ้างบางครั้ง แอดจะพยายามสอดแทรกความรู้ให้กับผู้อ่านด้วย ขอให้ทุกคนอ่านอย่างสนุกนะครับ
รอ EP:2นะค้าบ🎉 ฝากกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจให้แอดด้วยนะครับ
**แอดขอเพิ่มเกร็ดความรู้ นะครับ**
* Sappers รู้จักกันในภาษาเวียดนามว่าดักกง (đặc công)
แซปเปอร์เป็นหน่วยที่มีบรรจุทั้งในกองทัพเวียดนามเหนือ และกองกำลังเวียดกง มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงสงครามเวียดนามเนื่องจากสามารถก่อวินาศกรรมและลอบโจมตีฐานที่ มั่นของข้าศึกได้อย่างเงียบเชียบ การเข้าตีฐานที่มั่นที่ยาก ต่อการโจมตี โดยมีหน้าที่หลักคือเป็นหัวหอกเปิดทางให้แก่ กำลังหลักบุกเข้าโจมตีฐานฝ่ายโลกเสรี หน่วยแซปเปอร์ยัง เป็นหน่วยที่บุกเข้าโจมตีสถานทูตสหรัฐประจำไซง่อนในปี 1968 อีกทั้งยังเคยเข้าโจมตีฐานทัพอากาศของไทยหลาย ครั้งในช่วงสงครามเวียดนาม และมีบทบาทต่อมาในอีก หลายสมรภูมิหลังสงครามเวียดนาม ปัจจุบันแซปเปอร์มีส่วนแยกเป็นหน่วยต่อต้านการก่อการ ร้ายสากลของประเทศเวียดนาม.
**ซี-47 ชีนุก
เป็นเฮลิคอปเตอร์ใบพัดเรียงขนาดหนักสองเครื่องยนต์ มันมีความเร็วสูงสุดที่ 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์หรือเฮลิคอปเตอร์โจมตีในทศวรรษที่ 2503 หรือแม้แต่บางลำในปัจจุบัน บทบาทของมันคือการขนส่งทหาร ปืนใหญ่ และเสบียงเข้าสู่สมรภูมิ
จากตอนที่เเล้ว หลังจากที่ดนัยได้พักทำใจอยู่ที่ฐานเป็นเวลาเกือบ3วันจิตใจของดนัยก็ค่อยๆ ดีขึ้น ดนัยมีกำลังใจจากเพื่อนที่ค่อยซัพพอร์ต แต่ในใจของดนัยยังห่วงหาหญิงสาวรูปงามคนนั้น เหมือนเธอคนนั้นอยู่ในหัวของเขาเลย ต่อมาพลวิทยุได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาจากแนวหลังไห้ ไปลาดตระเวณหาข่าวเเละปราบปรามคอมมิวนิสต์ โดยคราวนี้ไห้ลาดตระเวณแถวเส้นทางโฮจิมินห์ *ร.ต ดนัย พูดปลอบใจเพื่อนๆ เอาละเพื่อนๆเตรียมตัวเตรียมใจไว้ละงานนี้มีเหนื่อย เราต้องเดินกันหลายวันเเน่ วิตพูด นี้ดนัยเองบอกพวกเรา เเล้วเองละไหวไหมวะ ไหวสิวะข้ามาเพื่องานแบบนี้เลยนะเว้ยฮ่าๆ มึงยังมีอารมณ์ขำอีก เอาละงั้นเราก็พักไห้เต็มที่ อีกไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ชีนุกคงมารับ 😴หลังจากงีบหลับได้สักพักฮอก็มาถึง เห้ยๆพวกฮอมาเเล้วเตรียมของอาหารยาและกระสุนนะจะเอาไรไปบางก็รีบๆละ หลังจากเตรียมของเสร็จ หน่วยของ ร.ต ดนัยก็ขึ้นฮอพร้อมไปลงยังเส้นทางโฮจิมินห์ โอ้ววิวมันดีจังแฮะ
ใช่วะวิวดีจริงๆถ้าไม่เกิดสงครามแบบนี้มันคงจะดีเเละสวยงามกว่านี้ 1 ชม.ต่อมา ฮอก็ได้ทำการลงจอด ยังจุดใดจุดหนึ่งของเส้นทาง เอาละลงๆพวกเรา พลถามดนัย นี้เราต้องลาดตระเวณไกลไหม ประมาณ80กิโล ไปยังจุดนัดพบบนเชิงเขา ตามแผนที่พิกัดไว้ โอ้วตายละ นี้พวกเราๆ เราจะไม่เดินทับเส้นทางเราจะเดินริมข้างทางบริเวณใกล้ๆกลับเส้นทางนะ เพื่อไม่ให้ศัตรูว่าเรากำลังลาดตระเวณ เอาละเดินตามมานะระวังฟักข้าวโพดด้วยละขาขาดไม่รู้ตัวนะเว้ย
เดินมาไกลได้สักระยะ หมวด ดนัยได้ยินเสียงทหารเวียดนามคุยกันข้างหน้าบริเวณทาง นี้วิตมึงว่าใช่พวกมันไหมวะ ใช่สิชุดเขียวปี๋เลย
น่าจะมีสองคนนะคิดว่า พลเองแยกไปขวาพร้อมตั้งรับ วิตแยกไปซ้ายคุ้มกันด้วย เดี๋ยวข้าเปิดฉากไห้ พอได้ที่หาจุดกำบัง ร.ต ดนัย ก็เปิดฉากเริ่มยิงก่อน สาดกระสุนใส่ทหารเวียดนามจนล้มลงนอนกับพื้น ทหารเวียดนามที่อยู่บริเวณริมถนนข้างทาง ก็ยิงสวนกลุ่มของหมวด ดนัย อย่าห้าวหาร วิตเห็นอย่านั้นจึงสั่งวิ่งเข้าใส่ พร้อมทั้งสาดกระสุดใส่ทหารเวียดนามไม่ยั้ง ทำไห้ทหารเวียดนามเสียชีวิตหมด6นาย จัดอาวุธ Ak 47ได้4กระบอก และยึดปืน SKSได้2 กระบอก พร้อมละเบิดมือ 3-4 ลูก
**แอดขออนุญาต เสริมความรู้หน่อยนะครับ **
ปืน SKS หรืออีกชื่อคือเซกาเซ
เซกาเซมาจากคำเรียกปืนของคอมมิวนิตส์เวียดนาน ที่ส่งมาให้คอมมิวนิตส์ ลาว เขมร ไทย เป็นปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติโซเวียตที่ออกแบบโดย เซอร์เกย์ กาฟริโลวิช ซิโมนอฟ นักออกแบบอาวุธปืนชาวโซเวียต ในปี ค.ศ. 1944 ใช้กระสุนขนาด 7.62×39 mm.
*พอยึดอาวุธเสร็จ หมวดดนัยก็สั่งเก็บอาวุธ พร้อมเดินหน้าต่อ ตกเย็นหมวด ดนัย พร้อมหน่วยหยุดพัก ตั้งฐานพัก พร้อมทั้งกำชับไห้ระวังอยู่ตลอดเวลา พลปืนกลไห้ตั้งปืนพร้อมยิงตลอดเวลา จัดชุดเฝ้าเวรยาม เอาละกินอาหารเเล้วอีก3ชม.เราจะเดินทางต่อ 🕣🕙เอาละถึงเวลาเดินทางต่อเเล้ว หมวดดนัยพาลูกน้องเดินทางต่อ ฝ่าความมืดมิดจะมีแสงก็แค่แสงของพระจันทร์สอดส่องเพียงเล็กน้อย พอถึงรุ่งเช้า หมวด ดนัย ก็ไปเจอ ขบวนรถลำเรียงทาหาร กำลังวิ่งมา
หมวดดนัยกำชับหมู่ปืนกลตั้งปืน พอถึงจุดยิง หมวดดนัยก็สั่งเปิดฉากทันที กระสุดสาดใส่กระจกรถ ทำไห้รถพุ่งเขาป่าข้างทางทหารเวียดนามกระโดดลงหลังรถ วิตเเละปรีชายิงใส่ทหารพวกนั้นทันที มีทหารบางส่วนยกมือยอมแพ้ วิตจับทหารเฉลยพวกนั้น มาไห้ดนัย หนึ่งในนั้นมีทหารหญิง ที่ดนัยนึกถึงเขาอยู่เกือบทุกวัน ทำไห้ดนัยรู้สึกดีใจที่เธอไม่โดนห่ากระสุนที่ทหารเราสาดไป ครั้งนี้จับเชลยศึกได้ 2 คน
ดนัยเดินเข้าไปถามหญิงคนนั้น เธอชื่ออะไร? แต่หญิงคนนั้นน่าจะฟังไม่รู้เลย แต่สีหน้าเธอดูเคียดแค้นเขามาก ดนัยถามคนในหน่วยของเขามีใครพอพูดภาษาเวียดนามได้บ้างฉันต้องการเป็นล่ามให้หน่อยผมครับผมเคยเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่เวียดนามครับเฮ้ยดีเลยมานี้ ถามเธอสิเธอชื่ออะไร Tên cô ấy là gì? แปลเธอชื่ออะไร. /Tên tôi là Jade แปลฉันชื่อหยก. เธอบอกชื่อหยกครับ ถามต่อสิพวกเธอจะนำขบวนไปไหน Cô ấy sẽ dẫn đầu đoàn rước ở đâu? แปลเธอจะนำขบวนไปไหน./ Không có cách nào tôi nói với bạn.แปลไม่มีทางที่ฉันจะบอกคุณ. เขาบอกไม่มีทางบอกพวกเราหรอกครับ มัดพวกเขาไว้เราจะนำเธอไปด้วยเราจะส่งเธอขึ้นฮอไปแนวหลังกับเรา...เดินมาหลายชั่วโมง ก็ถึงยามสนธยา พวกเราก็ตั้งฐานพักเหมือนเคย ดนัยกับล่ามเดินไปหาเธอด้วยรอยยิ้ม
พร้อมเอากับข้าวมาไห้เธอกับเพื่อนเชลยของเธอ เธอกับถุยน้ำลายใส่อะไรทำเอาดนัยนิ่งไปพักนึง นี่ล่ามถามเธอสิว่าทำไมไม่กินข้าวละ Tại sao bạn không ăn? แปลทำไมคุณไม่กิน./Không có cách nào tôi có thể ăn thức ăn từ kẻ thù của mình.แปลไม่มีทางที่ฉันจะกินอาหารจากศัตรู. บอกเธอสิว่าฉันเอาอาหารไว้ที่นี่เพื่อเธอเปลี่ยนใจ
Tôi có một ít thức ăn ở đây phòng trường hợp bạn đổi ý.แปลฉันเอาอาหารไว้นี่นะเผื่อเธอเปลี่ยนใจ😊
*เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ซึ่งอาจจะมี
เนื้อหาจริงบ้างบางครั้ง แอดจะพยายามสอดแทรกความรู้ให้กับผู้อ่านด้วย ขอให้ทุกคนอ่านอย่างสนุกนะครับ
รอ EP:2นะค้าบ🎉 ฝากกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจให้แอดด้วยนะครับ
**เกร็ดความรู้ นะครับ**
เส้นทางโฮจิมินห์เส้น
ทางโฮจิมินห์หรือเส้นทางเจื่องเซินได้เปิดใช้งานเมื่อปี 1959 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลำเลียงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์ไปยังภาคใต้เวียดนามในช่วงที่ประเทศถูกแบ่งเป็นสองภาคเหนือใต้ เส้นทางโฮจิมินห์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความหมายทางยุทธศาสตร์ในตลอด 16 ปีของภารกิจการปลดปล่อยภาคใต้และรวมประเทศเป็นเอกภาพจนได้กลายเป็นตำนาน เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นอันแน่วแน่เพื่อช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพของประชาชาติเวียดนาม พร้อมทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคี การต่อสู้ศัตรูร่วมของ 3 ประชาชาติเวียดนาม ลาวและกัมพูชา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!