“ รอด้วย รอด้วยคะ” หญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบมาด้วยกระเป๋าสำภาระที่เต็มไปด้วยของกินและก็เสื้อผ้า ด้วยความที่รถประจำทางตอนนี้เป็นรถเที่ยวสุดท้ายมะลิเด็กสาววัย19ปีเด็กสาวต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนและก็ทำงานเพื่อตาม หาฝันและอนาคตด้วยความที่เธอเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ของเธอตายตั้งแต่เธอยังเด็กเลยทำให้เธออยู่กับป้าที่รักและเอ็นดูเธอเหมือนลูกแท้ๆ แต่ด้วยความยากไร้เลยทำให้ท่านทั้งสองไม่มีปัญญาส่งหลานสาวเรียนในที่ดีๆเลยทำให้เธอต้องดิ้นรนเพื่อตัวเอง แต่พวกคุณเคยได้ยินไหมคะว่างูเหลือมไม่เคยให้ตัวมันอนตายจมกองเลือด ในเมื่อชีวิต มันไม่มีอะไรสวยงามและก็สวยหรูอย่างที่ทุกคนฝันไว้ คนรวยสู้อย่างคนรวย คนจนสู้อย่างคนจนแต่การต่อสู้มันค่อนข้างจะต่างกันคนรวยแรงสำหึกก้จะมีเยอะกว่าคนที่ไม่มีหรือว่ามีน้อย และนี้เลยทำให้เด็กสาวบ้านนอกอย่างมะลิต้องออกมาตามหาความฝัน
บรื้น…บรื้น…บรื้น…เอี๊ยด
ไม่นานรถเมย์เที่ยวสุดท้ายของวันก็วิ่งเข้ามาจอดหน้าปากซอย มะลิเมื่อรถวิ่งเข้ามาจอดเธอก็ลงมาจ่ายเงินก่อนจะเดินลากกระเป๋าเดินเข้ามาในซอยที่เปลียวและมืดแต่นักมวยระดับเหรียญทองแดงอย่างเธอไม่กลัวอะไรแบบนี้หรอกด้วยความที่โตมากับพี่ๆลูกชายของป้าที่เป็นผู้ชายเธอก็เลยไม่กลัวอะไรแบบนี้หรอกนอกจากความจนความอดยากเท่านั้นที่จะทำให้เธอกลัวได้ ไม่นานเธอก็เดินลากกระเป๋าเข้ามาที่หน้าตึกแถวเก่าๆโทรมๆหลังหนึ่งที่เธอดูจากในมือถือแล้วหน้าจะใช่แต่ทำไมมันไม่เห็นเหมือนในรูปเลยแต่ก็อย่างว่าแหละรูปก็คือรูปไม่อย่างนั้นจะมีที่มาของคำว่ารูปไม่ตรงปกเหรอ555
“ สวัสดีคะหนูมะลิที่ติดต่อขอเช่าห้องจ๊ะ” มะลิยกมือไหว้หญิงชราที่ดูน่ากลัวอย่างกับตึกเลย ตึกเหมือนตึกผีสิงและที่สำคัญเจ้าของตึกก็เหมือนผีอีกต่างหาก หญิงชราที่นอนอยู่ที่ม้าดยกไม่พูดหรือว่าขยับอะไรเธอก็เลยรองเรียกอีกครั้งแต่ดูถ้าว่าหญิงชราคนนั้นขยับแต่ก็แค่นั้น
“ คุณป้าคะ สวัสดีคะ” มะลิที่หมดความอดทนเพราะตอนนี้มันก็ดึแล้ว แล้วเธอก็อยากอาบน้ำแล้วก็พักมาก เธอก็เลยตะโนเสียงดังลั้นจนคนที่อยู่ตึกเปิดไฟกันทั้งตึกมาดู และก็ได้ผลคนที่เธอเรียกก็ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่ระหว่างที่หญิงชราจะลุกก็มีผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาโคตรดีเลยละเดินออกมาจากทางด้านในด้วยความหัวเสียเหมือนคนที่เพิ่งตื่นนอน จากนั้นไม่ถึงวินาทีก็มีผู้ญิงหน้าตาดีเดินตามมาอย่างกับคนนอนเพิ่งตื่น
“ สะวาก….” มะลิที่กำลังจะกล่าวสวัสดีก็ยังพูดไม่จบเมื่อผู้ชายที่เดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นอ้าปากด่าเธออย่างกับว่าเธอเป็นคนผิด
“ ดึกป่านนี้มาตะโกนทำบ้าอะไร อยากตายมากนักรึไงว่ะ” ชายหนุ่มหน้าตาดีดูท่าทางหน้าตาแล้วหน้าจะแก่กว่าเธอประมาณ2-3ปีเห็นจะได้ มะลิที่กำลังจะอ้าปากกล่าวสวัสดีก็ต้องกลืนลงคอ ก่อนจะมองหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างเอาเรื่องเพราะเธอบอกแล้วว่าเธออาจจะมาดึกและก็จ่ายเงินค่ามัดจำแล้วด้วย หญิงสาวที่เห็นว่ามะลิหน้าตาดีกว่าแถมยังมองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความหึงเธอก็เลยเดินเข้ามากระชากแขนแฟนเธอให้ไปทางด้านหลัง
“ นี้ยัยบ้าแกมาทางไหนไปทางนั้นเลยไป” หญิงสาวดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วหน้าจะแกกว่าเธอ2-3ปีเช่นเดียวกัน มะลิที่ทั้งเหนื่อยและก็อยากพักเธอก้เลยขี้เกรียจจะมาเถียงกับสองคนนี้เธอก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้หญิงสาวดู ผู้หญองคนนั้นเมื่อได้เห็นโทรศัพท์เธอก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่คุยกับเธอเมื่อวานเป็นใคร หญิงสาวมองมะลิด้วยสายตาที่แปลกใจเพราะมะลิตัวเล้กอย่างกับเด็กประถมหน้าตาของเธอก็ยังดูเด็กเธอก็เลยคิดว่ามะลิหน้าจะเป็นเด้กใจแตกแบบหนีพ่อกับแม่กออกจากบ้านอะไรประมาณนี้
“ นี้หนูหนีออกจากบ้านมารึเปล่าอะ ถ้าใช่พี่ไม่รับนะพี่ขี้เกรียจมีปัญหา” หญิงสาวที่ยืนตรงหน้าของเธอพูดออกมาแบบนั้นมะลิก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่คุยกับเธอเมื่อวานนี้เป็นผู้หญิงคนนี้ มะลิที่ขี้เกรียจอธิบายเธอก็เอาบัตรประชาชนให้ผู้หญงคนนั้นดู ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆก็ชะโงกหน้ามาดูก่อนทั้งสองจะมองหน้าเธอกับบัตรสลับกันไปมา มะลิที่เหนื่อยมาทั้งวันก็เลยพูดอะไรออกมา
“ เจ๊ขอกุญแจด้วยคะ ถ้าดูเสร็จแล้วแล้วนี้สัญญาที่เจ๊ส่งให้หนูดูหนูส่งให้เจ๊ทางเมลแล้วนี้คะ” มะลิเอาดทรศัพท์ราคาถูกที่รับต่อมาจากพี่ชายเอาให้ผู้หญิงคนนั้นดู เมื่อแอนเจ้าของตึกเห็นแบบนั้นเธอก็ไม่อยากเสียลูกค้าก็เลยเดินไปเอากุญแจมายื่นให้เด็กสาว มะลิพอได้กุญแจแล้วเธอก็เดินขึ้นไปอย่างไม่สนใจระหว่างที่เธอเดินจะขึ้นไปยังห้องพักเธอก็มองเข้าไปที่ห้องตรงที่คุณยายคนนั้นนอนอยู่ แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่ด้วยความเหนื่อยเธอก็เลยไม่สนใจอะไร แอนเจ้าของตึกที่เห็นหญิงสาวมองเข้าไปยังบ้านของเธอ เธอก็หันหลังกลับไปมองและก็มองมายังมะลิอีกครั้งด้วยความสงสัยและไม่สบอารมณ์ ก่อนจะช่วนแฟนหนุ่มเข้ามานอนต่อ
ซู่…..ซู่…..ซู่….ซู่
เสียงน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวลงมาที่ร่างบางของมะลิ ราคาห้องเช่าโคตรถูกและก็มีของใช้ให้ด้วยคนขี้งกและก็ปรหยัดอย่างเธอก็เลยรีบกระโดดคว้าเอาไว้แต่ก็แอบแปลกใจว่าทำไมไม่มีคนเอาทั้งๆที่ห้องแค่เดือนละ3,000บาท มีแอร์ โต๊ะ เตียงเอาเป็นว่าลากมาแค่กระเป๋าใบเดียวเข้าอยู่ได้เลย มะลิก็เลยรีบคว้าเอาไว้เพราะดูแล้วไม่ได้ไกลจากมหาลัยและก็ตัวเมืองเท่าไหร่หน้าจะหางานพลาสทามทำได้ง่ายๆ หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จแล้วมะลิก็ออกมาต้มมาม่าที่เอามาจากบ้านกินรองท้องก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่เพราะวันนี้ก็4ทุ่มครึ่งแล้ว เธอก็เลยกะว่ากินแล้วก็จะนอนพักพรุ่งนี้เธอจะไปลงทะเบียนเรียนและก็จะแวะไปหางานทำสักหน่อย เมื่อทุกอย่างที่เธอทำเป็นไปตามสแต๊บแผนที่วางไว้แล้วมะลิที่ทำท่าจะนอนเธอก็ได้ยินเสียคนเดินอยู่หน้าห้องแต่ด้วยความเหนื่อยเธอก็เลยไม่ได้สนใจอะไรอีก
คึด……คึด……คึด…..คึด
เสียงเหมือนเดินลูดเท้าอยู่ที่หน้าห้องของมะลิ มะลิที่นอนหลับด้วยความออ่นเพลียเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความโมดหและรำคาญที่มีเสียงมารบกวนเธอด้วยความที่เธอเพิ่งล้มหัวนอนไปเพียงแค่2ชั่วโมงเอง เมื่อเธอรู้สึกตัวแล้วด้วยความที่เธอเป็นคนไม่กลัวใครหรือว่าอะไรทั้งนั้นมะลิเลยลุกออกมาจากเตียงก่อนจะเดินมาเปิดประตูห้องเพื่อหวังว่าจะได้เจอไอ้คนท่มาเดินลากตีนอยู่ที่หน้าห้องเธอแล้วเธอจะต่อยหน้าสักทีโทษฐานที่ไม่มีมารยาทมารบ
กวนคนจะหลับจะนอน
ผลัก
“ ดะๆเดิน” มะลิที่เปิดประตูออกมาเธอก็กระว่าจะด่าเต็มที่แต่ก็ต้องหุบปากลงเพราะว่าไม่มีใครเลยแล้วห้องของเธอก็ไม่ได้ติดบรรไดถ้าเธอออกมาคนที่เดินลากเท้าเมื่อกี่ก็คงหนีไม่ทัน สาบานเลยว่าเธอเปิดประตูออกมาขนทั้งตัวขอเธอแม่งลุกทั้งตัว เมื่อสัมผัสของเธอบอกว่าสิ่งที่มาเดินลากตีนอยู่ที่หน้าห้องของเธอไม่ใช่คนแต่เป็น…….
ปัง
เมื่อสัมผัสของเธอบอกแล้วว่าสิ่งที่มากวนเธอเป็นอะไรมะลิก็รีบปิดประตูลงทันทีด้วยความเร็วแสงเธอไม่ได้กลัวนะแต่เป็นเพราะเธอไม่อยากยุ่งเรื่องอะไรแบบนี้กับของที่มองไม่เห็น ป้ากับลุงและก็พี่ชายของเธอสั่งห้ามเลยว่าเรื่องของคนกับผีห้ามไม่ให้เธอไปยุ่งไม่อย่างนั้นเธอจะเปลี่ยนกรรมแต่ถ้าจำเป็นหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็แค่แกล้งหูหนวกตาบอด หรือไม่ก็แกล้งเป็นไบ้ซะแค่นั้น เดินผ่านอะไรถ้าไม่มั้นใจก็ห้าทักหรือว่าพูดอะไรออกมานี้คือสิ่งที่ป้าลุงและพี่ชายบอกเธอมาตลอดตั้งแต่รู้ว่าเธอสามารถมองเห็นผี
ปัง ปัง ปัง ปัง
นั้นไงนึกยังไม่ทันขาดคำมันก็เริ่มเลย เสียงเคาะประตูห้องของมะลิดังสนั่นอย่างกับว่าประตูของเธอจะพังมะลิเมื่อรู้ว่าสิ่งที่มาเคาะมากวนเป็นอะไรเธอก็หันหลังเดินแสยะยิ้มมานั่งบนที่นอนทันทีเพราะต่อให้มึงเคาะจนแขนหักเธอก็ไม่มีทางเปิดให้อย่างเด็ดขาดเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่มากวนเธอเป็นอะไรเธอก็เอาผ้าขึ้นมาห่มก่อนจะปิดตานอนด้วยความเหนื่อยก่อนจะบ่นออกมาเบาๆกับตัวเอง
“ เอาสิมึงไหวกูก็ไหว “ มะลิบ่นจบเธอก็ปิดตาหลับลงด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพราะนั่งรถทัวมาจากบานนานถึง6ชั่วโมงแล้วก็นั่งรถเมย์มานี้อีก1ชั่วโมง ถ้าเธอไม่หลับก็แปลกแล้ว555
เช้าวันต่อมา
“ ซุบซิบ ซุบซิบ “ เสียงคนที่ตึกต่างก็ซุบซิบพูดกันเมื่อเห็นมะลิแต่งตัวกำลังจะเดินลงมาจากตึกด้วยท่าทางปกติ ระหว่างที่เธอใส่รองเท้าอยู่นั้นเธอก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่าชั้น3ที่เธออยู่นี้มีแค่เธอเท่านั้นเมื่อเธอเห็นแบบนั้นเธอก็แสยะยิ้มส่ายหน้าให้กับความโง่ของตัวเองที่ไม่เอะใจว่าทำไมถึงราคา3,000บาทเท่านั้น จากนั้นเธอที่มาในชุดทะมัดทะแมงเสื้อโปโลสีขาวกางเกงยีนขาเดบรองเท้าผ้าใบเก่าๆราคาถูกกระเป๋ายามสะพายของของชาวเหนือ ปล่อยผมที่ยาวจนถึงเอวให้สะย้ายสู้ลมดูแล้วต่อให้เป็นชุดราคาถูกธรรมดาแต่ด้วยความสวยของเธอทำให้เธอไ่ม่ได้ดูราคาถูกเหมือนเสื้อผ้าเลย
“ หนู เดี๋ยวก่อนจ๊ะหนูชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” ป้าที่อยู่ชั้นหนึ่งเดินเข้ามาถามเธอเมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนต่อๆมาก็กรูเข้ามาหาเธอด้วยความตื่นเต้น ปนอยากรู้อยากเห็น
“ สวัสดีจ๊ะหนูชื่อมะลิจ๊ะ” มะลิยกมือไหว้ทุกคนอย่างน้อบน้อมพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรความสวยน่ารักของเธอสะกดส่ายตาของทุกคนที่มองมาแต่ก็ยังไม่ทำให้คนอยากรูอยากเสือกลบืมเลี้ยงที่กำลังจะถามหญิงสาว
“ เอ้อ…เอ้อ…หนูมะลิจ๊ะเมื่อคืนนอนหลับดีไหมลูก” ป้าอีกคนถามเปิดประเด็นเมื่อเห้นทุกคนกำลังโดนความน่ารักของหญิงสาวสะกดสายตา มะลิได้ยินแบบนั้นในใจของเธอก็ยิ้มทันที
กูว่าแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ5555
“ ก็ไม่มีอะไรนี่คะมะลิหลับสบายทั้งคืนเลย” มะลิยิ้มหวานบอกคนที่มาลุมเอาคำตอบจากเธอที่ทุกคนสนใจไม่ใช่อะไรหรอกเพราะคนที่มาเช่าคนก่อนๆมาอยู่ที่ห้องนี้เต็มที่เลยอยู่ได้แค่เดือนเดียวแล้วก็ย้ายออกเพราะชั้น3ที่มะลิอยู่มีการฆ่าตกรรมสาวคาราโอเกะเป็นข่าวดังมากอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วไหนจะวิญญาณของอาม่าที่ช็อกตายด้วยความที่เป็นห่วงสมบัติและก็ห่วงลูกสาวที่ไม่รู้จักโตพาผู้ชายมานอนไม่ซ้ำหน้าสักวัน เลยทำให้วิญญาณของอาม่าไม่ยอมไปไหน และนี่ก็เป็นสาเหตุนี้ละมั้งที่มะลิเรียกยายแกเมื่อคืนเธอไม่ลุกมาหา แต่แล้วไงมะลิก็ยังไม่รู้เพราะเรื่องนี้แอนเจ้าของตึกนี้ห้ามคนที่อยู่ที่นี้เล่าเรื่อง ตึกนี้ให้ใครฟังไม่อย่างนั้นเธอจะไล่ออกด้วยความที่ถูกและก็อยู่ใกล้ห้าง ตลาด มหาลัย หรือแม้แต่สถานีรถไฟฟ้า ทุกคนที่หาเช้ากินค่ำเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเลยเลือกที่จะเงียบตามที่เจ้าของตึกขอร้องไว้ เมื่อทุกคนได้ยินมะลิบอกแบบนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกันออกมา แอนและผู้ชายของเธอที่แอบดูอยู่ก็มองมะลิด้วยความแปลกใจเพราะชั้นที่เธอนอนมันเป็นชั้นที่น่ากลัวที่สุดขนาดล่าท้าผียังมารองของแล้วเจอดีเลย แต่เด็กที่มาอยู่ใหม่ไม่เจออะไรเลย แอนและแฟนของเธอถึงกับมองหน้ากันด้วยสายตาที่โคตรสงสัย
“ มันจะเป็นไปได้ยังไง” แอนนพูดออกมาด้วยเสียงเบาแต่ผู้ของนางก็ได้ยิน แอนเจ้าของตึกมองตามแผ่นหลังของเด็กนั้นด้วยสายตาที่หลากหลายอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กนั้นจะไม่เจออะไร ส่วนผู้ชายที่เธอพามานอนนั้นก็เป็นนักศึกษาที่เธอหิ้วมาจากผับเมื่อคืนแต่ด้วยความที่เธอกินเขาบ่อยแล้วอีกอย่างตึกนี้ทุกคนและนักศึกษาในระแวกนี้ต่างรู้กิติศัพท์ดีว่าน่ากลัวแค่ไหน
“ นั้นดิ” เสียงชายหนุ่มหน้าตาดีพูดสัมทับออกมาอย่างไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องที่บอกว่าหญิงสาวไม่เจออะไรเลยจะเกิดขึ้น คิดดูสิว่าน่ากลัวไม่น่ากลัวเวลาจ้างคนทำความสะอาดห้องหลังจากคนเก่าออกต้องจ้างมาตั้ง5-6เพื่อให้เสร็จและก็อยู่เป็นเพื่อนกันแถมยังจ้างราคาแพงอีกด้วย แล้วสิ่งที่เธอบอกว่าไม่มีอะไรก็เลยแปลกมากอย่างไม่อยากจะเชื่อเลย
“ หึหึหึ เป็นไงละจกตามาจกตากลับไม่โกง ฮ่าๆ ฮ่าๆ” มะลิที่เดินออกมาเพื่อไปลงทะเบียนเรียนแล้วก็หางานไปด้วยเธอต้องอกมาแต่เช้าเพราะเธอไม่รู้ว่ารถสายไหนไปที่ไหนบ้าง ระหว่าที่เธอเดินมาถึงป้ายรถเมย์ด้วยความที่ยังเช้าอยู่คนไม่ค่อยผลุกผลานมาก อยู่ๆ ก็มีรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงก่อนจะมีเสียงปืนตามา
บรื้น…บรื้น…ปัง ปัง ปัง
“ ว๊ายยยยย “ มะลิเธอยืนอยู่ป้ายรถเมล์คนเดียว เธอก็ร้องออกมาก่อนจะนั่งก้มหลบลูกปืน แต่อยู่ๆ ก็มีชายหนุ่มชุดดำที่ตัวชุมเต็มไปด้วยเลือดวิ่งเข้ามาทางเธอก่อนจนั่งเอาหลังพิงที่ตู้โทรศัพท์มะลิพอเห็นแบบนั้นเธอรู้ได้ทันทีว่ารถคันสีดำมันไล่ฆ่าใคร นั้นไงว่าแล้วระหว่างที่มะลิตกใจอยู่นั้นรถกระบะคันสีดำก็วิ่งเข้ามาจอดก่อนจะมีชายหนุ่มหน้าตาดีชุดสีดำลงจากรถแล้วเดินเข้ามาทางเธอกับชายหนุ่ม
“ นะ นะ หนี หนี ไป อึก อึก “ เสียงของชายชุดดำที่นั่งเอาหลังพิงตู้โทรศัพท์บอกให้มะลิหนี มะลิที่ทำท่าจะหนีก็ไม่ทันซะแล้วเพราะชายชายหนุ่มที่ตามเขามาตามมาแล้วคั้นเธอจะหนีไปก็กลัวว่าชายคนนั้นจะตายแล้วเป็นผีมาหลอกเธออีก ในโลกที่คนชั่วเต็มบ้านเต็มเมืองแบบนี้เธอขอเป็นคนดีที่เหลืออยู่ก็ยังดีว่ะ มะลิที่คิดได้แบบนั้นเธอก็จับกระเป๋าที่สะพายมามั้นแล้วก็ถอดออก
“ มันอยู่นั้น “ เสียงของชายชุดดำบอกเพื่อนว่าคนที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงนี้ มะลิที่ลุกขึ้นได้เธอก็เอากระเป๋าสะพายของเธอฟาดเข้าไปดักหน้าก่อนที่ชายชุดดำจะเข้าถึงตัวของคนที่เจ็บ ชายที่โดนฟ้าดเมื่อรู้ว่ามีคนเข้ามายุ่งแถมยังเป็นหญิงสาวหน้าตาดีอีกซะด้วยเขาก็หันมามองเธอด้วยสายตาที่เกรียวกราดอย่างกับจะฆ่าหั่นศพเธอยังไงอย่างนั้น
“ มึงอยากตายเหรอว่ะ “ ปึก ตุบ ตับ ชายชุดดำทำท่าจะปี่เข้าหามะลิแต่ก็อย่างที่บอกแหละนางเป็นมวย เมื่อชายชุดดำโถมตัวเข้าหาเธอมะลิก็เตะสวนเข้าไปที่ท้องอย่างแรงจากนั้นชายชุดดำก็ล้มลงไปกองกับพื้น มะลิเห็นว่าคนตัวใหญ่ถ้าเธอสู้นาน เธออาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอาได้เธอก็เลยปิดจบซะโดยการเตะเสยปลายคางด้วยความรวดเร็วจนชายคนนั้นสลบไป เหลืออีกคนมันเห้นว่าเพื่อนเสียท่าให้กับผู้หญิงคนนั้นแล้วเขาก็ปรี่เข้าหาเธออีกครั้งมะลิต่อยเข้าลูกกระเดือกสวนเข้าไปก่อนจะปิดจบโดยการเตะเข้าที่ท้ายทอยจนชายคนนั้นสลบคาที่ ก่อนจะเข้ามาช่วยชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือด
“ เธอ..” ชายหนุ่มกำลังจะอ้าปากพูดมะลิก็มองเขาก่อนจะบอกให้เขาหยุดพูดก่อน เพราะสภาพของเขาตอนนี้หน้าจะห้าสิบ ห้าสิบ
“ อย่าเพิ่งพูดเลยคุณ ไปฉันจะพาไปโรงพยาบาล” มะลิพอเห็นว่าชายคนนี้ดูท่าไม่ดีแล้วเธอก็เลยจะพาเขาไปที่โรงพยาบาลโยที่เธอจะใช้รถไอ้สองตัวนี้แหละ
บรื้น….บรื้น…บรื้น
มะลิเมื่อพาชายหนุ่มขึ้นมาที่รถได้แล้วเธอก็จัดการขโมยรถของไอ้สองตัวทันที ก่อนจะกดโทรหาตำรวจเพราะเธอไม่ได้โง่นี้ระหว่างทาง
“ เธอ เธอชื่ออะไรอะ อึกอึก” ชายชุดดำเขาอยากรู้ว่าคนที่ช่วยเขาชื่อว่าอะไร เพราะถ้าเขารอดไปได้เขาจะไปตอบแทนเธอมะลิที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกว่าชายคนนี้แม่งยังมีกระจิตรกระใจมาถามชื่อเธออีก แต่เธอก็ยอมตอบเขาไป
“ มะลิคะคุณอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะคะ เก็บแรงไว้หายใจเถอะ” มะลิเป็นคนพูดตรงชายหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่กลัววตายและก็เป็นคนตรงอย่างกับไม้บรรทัด เมื่อเขารู้แล้ว่าเธอชื่อว่าอะไรแล้วก็พยายามจำหน้าเธอให้ได้ก่อนสติจะดับไป เป็นจังหวะเดียวกับมะลิขับรถเข้ามาจอดที่โรงพยาบาลด้วยความที่เธอสติดีเธอก็เลยตะโกนเรียกให้คนมาช่วยแล้วเธอก็บลอกรายละเอียดให้หมอก่อนที่เธอจะออกมาจากโรงพยาบาล เพราะเธอกลัวว่าจะสายซะก่อนแล้วอีกอย่างโรงพยาบาลเป็นที่ ที่เธอไม่อยากมาที่สุด ดูสิผีวิญญาณอยู่เต็มเลย ใช้ชีวิตประปนกับคนอย่างกับว่าเป็นเรื่องปกติ
“ นายครับมีคนมาช่วยมันเอาไว้ได้ครับ “ เสียงลูกน้องของ อเล็คมาเฟียหนุ่มรูปหล่อเจ้าของฉายาเจี๊ยวหวานที่สาวๆ เป็นคนตั้งให้เอง เมื่ออเล็คได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมากเพราะอดัมโจทย์ของตัวเองที่บังอาจให้คนมาวางระเบิดโกดังเก็บยาจนยาเกือบห้าหมือนตันเสียหายหมด รวมมูลค่าแล้วนับไม่ได้เลยอเล็คก็เลย ตามฆ่าอดัมด้วยความโกรธแค้นแต่พอรู้ว่ามีคนมาช่วยเขาไว้อเล็คแทบคลั่ง
ปัง
“ มันเป็นใครว่ะ หือ…” อเล็ค ตบโต๊ะเสียงดังอย่างโมโหเพราะคนของเขาเกือบจะฆ่าอดัมได้อยู่แล้ว แต่พอรู้ข่าวว่าคนที่เขาสั่งเก็บรอดไปได้มาเฟียถึงกับฟิวขาดทันที
“ ไอ้สองตัวบอกว่าเป็นเด็กผู้หญิงครับนาย มันบอกว่าเล่นเอาไอ้มืดกับไอ้เข้สลบอยู่ที่โรงพยายบาลเลยครับนาย “ มือขวาของอเล็คบอกเจ้านาย อเล็คเมื่อได้ยินว่าเป็นใครมาลูบคมเขาแถมยังเล่นเอามือดีที่เขาส่งไปจัดการอดัมสลบเมือดได้ อเล็คนิ่งเงียบพร้อมกับกัดกรามแน่นก่อนจะพูดเสียงรอดไรฟันออกมาด้วยความโกรธและน่ากลัว
“ มึงไแปเอาตัวมันมา ไม่ว่ามันจะมุดหัวอยู่ที่ไหนก็ไปเอาตัวมันมา “ อเล็คกัดกรามแน่นบอกลูน้องดูความโกระยิ่งรู้ว่าเป็นใครมาช่วยเขายิ่งเดือดมากว่าเดิม ลูกน้องเมื่อได้ยินแบบนั้นก็รีบไปทำตามคำสั่งของเจ้านายทันที
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!