"รายงานแม่ทัพตอนนี้ประตูเมืองเราใกล้จะต้านกองทัพต้าซ่งไม่ได้แล้วขอรับ"ทหารรายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงานผู้บัญชาการหวังลี่หรือแม่ทัพหวังที่ตอนนี้กำลังวางแผนการรบกับแม่ทัพท่านอื่นอยู่ก็รู้สึกตกใจไม่น้อยที่จู่ๆอีกฝ่ายก็เคลื่อนทัพมากะทันหันเช่นนี้
"ครั้งที่แล้วฝ่ายต้าซ่งเสียกำลังทหารไปมากทำไมถึงเคลื่อนทัพโจมตีไวเช่นนี้"หวังลี่ถามด้วยความสงสัยถึงแม้พลกำลังของเขาจะน้อยกว่าแต่ฝั่งเขาได้เปรียบทางภูมิศาสตร์จึงต้านฝั่งตรงข้ามมาได้หลายเดือน
"หน่วยสอดแนมส่งข่าวมาว่าแคว้นต้าซ่งเปลี่ยนผู้นำทัพกะทันหันขอรับ"ทหารผู้นั้นตอบกลับหวังลี่ไป
"เป็นผู้ใดกัน"
"หยางหลิงอี้ขอรับ"หวังลี่ที่ได้ยินชื่อของอีกฝ่ายใจของเขาแทบหล่นไปที่ตาตุ่มเพราะไม่คิดว่าคนผู้นั้นจะมานำทัพเองคนที่ได้ฉายาว่าเทพสงครามของแคว้นต้าซ่ง'หยางหลิงอี้'แคว้นฉู่คงถึงคราวล่มสลายจริงๆเสียแล้ว
"ไป๋ซูเจ้ารีบอพยพชาวบ้านออกไปจากที่นี่ส่วนเจ้าหวังซีเจ้ารีบกลับไปที่จวนพาแม่กับน้องเจ้าหนีไปซะ"หวังลี่หันไปสั่งคนสนิทกับบุตรชายคนโตของตน
"ท่านพ่อแล้วท่าน"หวังซีถามด้วยความเป็นห่วงพ่อ
"พ่อแก่มากแล้วได้ตายเพื่อแคว้นเป็นความปรารถนาสุดท้ายของพ่อเจ้ารีบไปอย่าทำให้พ่อต้องผิดหวัง"
หวังซีก้มคำนับพ่อของตนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะรีบกลับไปที่จวนหวังลี่มองดูบุตรชายตนจนละสายตาแล้วเขาเองก็ได้แต่ภาวนาให้ครอบครัวเขาปลอดภัยชายวัยกลางคนถือกระบี่พร้อมออกไปทำศึก
ด้านฝั่งหวังซีเมื่อกลับมาถึงจวนก็พบเพียงมารดากับน้องรองทั้งคู่ดูตื่นตระหนกเป็นอย่างมากหวังซีพยายามมองหาน้องเล็กที่โดยปกติจะอยูในจวนแต่ตอนนี้กับหายไป
"อาซีเกิดเรื่องอะไรขึ้นพ่อเจ้าไปไหน"ฮูหยินแม่ทัพถามบุตรชายตน
"ท่านแม่ตอนนี้เมืองเราใกล้แตกแล้วอีกไม่นานแคว้นต้าซ่งก็คงมาถึงเมืองหลวงท่านพ่อให้ข้าพาท่านแม่กับน้องหนีไปก่อน"หวังซีอธิบายทุกอย่างให้ผู้เป็นแม่ฟังหวังฮูหยินที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมดเข่าแทบทรุดกร่ำไห้ออกมายังดีที่หวังซีรับตัวทัน
"เจ้ารองไปตามฟางจิงมาโดยด่วน"หวังฮูหยินหันไปบอกบุตรชายคนรองแต่ไม่ทันที่หวังหลงหรือคุณชายรองจะออกไปก็มีสาวใช้มารายงานซะก่อน
"แย่แล้วๆคุณชายน้อยหายตัวไปเจ้าค่ะ"
"เจ้าว่าไงนะ"น้ำเสียงตกใจของหวังซีดังขึ้นสองมือแกร่งเขย่าตัวสาวใช้ผู้นั้นเบาๆ
"เมื่อครู่บ่าวยังเห็นคุณชายน้อยอยู่ตรงนี้อยู่เลย"
"น้องเล็กต้องไปหาท่านพ่อแน่"เสียงของหวังหลงพูดขึ้น
"เจ้ารองเจ้าพาท่านแม่ออกไปก่อนข้าจะไปตามน้องเล็ก"
"ระวังตัวด้วย"น้ำเสียงความเป็นห่วงของหวังหลงพูดออกไป
หวังซีพยักหน้ารับแล้วรีบออกตามหาหวังฟางจิงทันที
หวังฟางจิงที่แอบหนีออกมาหาบิดาของตนหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่พี่ใหญ่บอกกับท่านแม่ไปสถานการณ์ในตอนนี้ดูวุ่นวายเป็นอย่างมากชาวบ้านส่วนมากต่างรีบอพยพออกจากที่นี่ส่วนตัวเขาได้เพียงแค่หลบหลีกทหารบางส่วนที่รู้จักเขาจนกระทั่งมาถึงที่กระโจมของบิดาตนเองหวังฟางจิงเดินเข้ามาภายในกระโจมซึ่งตอนนี้ไร้ผู้คนอยู่หวังฟางจิงเมื่อเห็นท่าไม่ดีก็รีบหมุนตัวออกจากที่นี่จนไปชนกับแผงอกแกร่งของคนผู้หนึ่งจนเกือบล้มแต่แขนแกร่งคว้าเอวบางไว้ได้หวังฟางจิงที่ทรงตัวอยู่แล้วก็รีบผละตัวออกมาดวงตากลมโตภายใต้หน้ากากมองบุรุษมาใหม่ท่าทางน่าเกรงขามของชายคนนั้นทำให้หวังฟางจิงแอบกลัวไม่น้อย
"เจ้าเป็นใคร"เสียงสั่นของหวังฟางจิงถามคนตรงหน้าหยางหลิงอี้ที่ได้ยินเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัวของคนที่สวมหน้ากากทำให้เขาเริ่มสนใจคนผู้นี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
เดิมทีเขานำทัพบุกเข้าเมืองมาได้สักพักแล้วกว่าจะบุกเข้ามาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียวเพราะ'กว่าจะปราบแม่ทัพหวังได้ก็ทำเขาลงแรงไปไม่น้อย'หยางหลิงอี้ชื่นชมในความสามารถของแม่ทัพหวังแต่ก็น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้หยางหลิงอี้รอบเข้าเมืองมาก่อนก็ดันไปสะดุดตากับท่าทางของชายผู้สวมหน้ากากที่ทำตัวลับๆล่อๆเข้ากระโจมไปทำให้หยางหลิงอี้อดไม่ได้ที่จะตามเข้าไปอย่างเงียบๆร่างบุรุษหนุ่มผู้นั้นที่ไม่รู้ว่ามีอีกคนตามมาก็ไม่ทันระวังจนเผลอชนอกเขาอย่างจังดีที่เขารับคนตรงหน้าได้ทันแต่'เป็นถึงบุรุษเหตุใดเอวถึงบางอย่างกับสตรีเช่นนี้'หยางหลิงอี้ได้แค่เพียงคิดไว้ในใจสายตาคมที่จ้องมองคนที่ตัวเล็กกว่าทำให้เหยื่อเผลอดันตัวเขาออกและเอ่ยถามเขา
"ข้าเป็นทหารชั้นผู้น้อยนามว่าเหลียนฟาง"หยางหลิงอี้เลือกที่จะหลอกให้เหยื่อตรงหน้าให้ตายใจหวังฟางจิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งยามที่หยางหลิงอี้จะเข้าใกล้หวังฟางจิงก็ถอยออกมาตลอดราวกับสัญชาตญาณของเขากำลังบอกว่าคนผู้นี้อันตรายเกินไป
"แล้วท่านเป็นใครกัน"หยางหลิงอี้ถามกลับ
"หวังฟางจิง"หวังฟางจิงพยายามคุมเสียงตนไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้ชายหนุ่มกำลังหาทางที่จะออกจากกระโจมแห่งนี้ดูเหมือนหยางหลิงอี้จะเดาความคิดของร่างบางออกไม่รอจังหวะที่หวังฟางจิงกำลังจะวิ่งออกไปหยางหลิงอี้กระชากแขนอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวทันที
"ปล่อยข้า!"หวังฟางจิงดิ้นสุดฤทธิ์แต่มีหรือแรงอันน้อยนิดจะสุดแรงอีกฝ่ายได้ยิ่งดิ้นอีกคนยิ่งกอดแน่นขึ้นฟางจิงได้แค่ภาวนาให้ใครก็ได้มาช่วยเขาที
"ปล่อยคุณชายน้อยเดี๋ยวนี้!"หยางหลิงอี้เบี่ยงตัวหลบลูกธนูที่ยิงมาของไป๋ซูหวังฟางจิงทีรอทีเผลอรีบสะบัดตัวออกมาแล้ววิ่งไปหลบหลังไป๋ซู
หยางหลิงอี้กัดฟันกรอดสายตาหมายจะสังหารคนมองไปยังไป๋ซูอย่างไม่ปิดมิดกล้ามาทำลายความสนุกของเขาก็เตรียมรอความตายได้เลย
"ท่านอาท่านพ่อข้าอยู่ที่ไหน"หวังฟางจิงถามด้วยความหวังอันน้อยนิดสีหน้าของไป๋ซูสลดลงเมื่อนึกถึงผู้เป็นเหมือนพี่น้อง
"ท่านแม่ทัพสิ้นแล้ว"เหมือนฟ้าผ่ากลางใจน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสายของหวังฟางจิงทำให้ไป๋ซูปวดใจตามไปด้วยเขาเองก็เห็นหวังฟางจิงเป็นเหมือนบุตรชายของตนถึงต่อให้เขาต้องตายก็ต้องพาแก้วตาดวงใจของท่านแม่ทัพออกไปให้ได้
"เสี่ยวจิงฟังอาด้านนอกมีม้าอยู่เจ้าหนีไปก่อนส่วนเขาอาจะจัดการเอง"น้ำเสียงจริงจังของไป๋ซูบอกหวังฟางจิง
"ท่านอา"หวังฟางจิงชั่งใจสักครู่ก่อนจะก้าวเท้าออกไปแต่ต้องชะงักกับคำพูดของหยางหลิงอี้
"เจ้าหนีเขาตาย"นี่ไม่ใช่คำขู่แต่เขาทำจริงหยางหลิงอี้จ้องมองไปยังร่างบางในสายตานั้นเต็มไปด้วยจิตสังหาร
"ฟางจิงรีบไป!แม่กับพี่ชายเจ้ารอเจ้าอยู่พวกเขาเสียท่านแม่ทัพไปแล้วจะเสียเจ้าไปอีกคนไม่ได้!"ไป๋ซูตะคอกใส่หวังฟางจิงสองแขนอยู่ในท่าง้างธนูเตรียมยิงหยางหลิงอี้ได้ทุกเมื่อ
ริมฝีปากของหยางหลิงอี้เหยียดขึ้นเขาเหยียดยิ้มด้วยความน่าสมเพชให้กับไป๋ซูรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองต้องตายแล้วจะฝืนอยู่ทำไมอีกหวังฟางจิงตัดสินใจรีบวิ่งออกให้ไวที่สุดเหลือเพียงแค่ไป๋ซูกับหลิงอี้
"เจ้าทำข้าเสียเวลามากพอแล้ว"หยางหลิงอี้พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์กระบี่อ่อนของหลิงอี้ก็เชือดไปที่ลำคอไป๋ซูเลือดที่กระเซ็นโดนใบหน้าคมหยางหลิงอี้เช็ดออกอย่างไม่ใส่ใจร่างสูงก้มลงหยิบธนูของไป๋ซูขึ้นพร้อมง้างไปทางหวังฟางจิงที่กำลังควบม้าหนีเขาปลายนิ้วปล่อยลูกธนูออกไปอย่างรวดเร็ว
'ของฝากนี้ข้าฝากไว้ก่อนไว้ข้าจัดการทางนี้เสร็จเมื่อไหร่ข้าจะไปทวงคือเอง'
"ให้ข้าตามไปหรือไม่"เสียงของเจียงหมิงคนสนิทของหยางหลิงอี้ที่พึ่งมาถึงถามขึ้น
"ไม่ต้องสภาพเช่นนั้นคงหนีไปได้ไม่ไกลเตรียมบุกเข้าเมืองหลวงเถอะ"น้ำเสียงเรียบเฉยของหยางหลิงอี้ทำให้เจียงหมิงไม่กล้าพูดอะไรต่อในใจเขาขอเพียงให้ชายผู้นั้นหนีไปให้ไกลที่สุด
หวังฟางจิงรู้สึกเจ็บจวนจะตายเมื่อยามที่เขาพยายามควบม้าหนีแต่จู่ๆก็มีธนูปักทะลุไหล่เขาดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือใครร่างบางกัดฟันฝืนทนไปได้สักพักก่อนที่จะสลบไป
กลิ่นยาสมุนไพรทำให้เปลือกตาสีมุกค่อยๆลืมตาขึ้นหวังฟางจิงพยุงตัวเองขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียงดวงตากลมกวาดมองบริเวณรอบห้องจนไปสดุดตากับบุรุษชุดฟ้าผู้หนึ่ง
"ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นสักที"เสียงนุ่มนวลของชายผู้นั้นพูดขึ้นชายหนุ่มถือถ้วยยาเดินมาหาหวังฟางจิงร่างบางขยับตัวถอยหนีทันทีเมื่อชายผู้นั้นเข้าใกล้
"ไม่ต้องกลัวข้าเป็นคนช่วยเจ้าไว้"ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทีที่สุภาพรอยยิ้มแสนอ่อนโยนถูกส่งมาให้หวังฟางจิง
"...."
"ข้ามีนามว่าหลี่เฟิงซีแล้วเจ้าล่ะ"
"หวังฟางจิงขอบคุณท่านที่ช่วยข้า"ร่างบางที่เห็นท่าทีเป็นมิตรของชายตรงหน้าจึงลดความระแวงลงมาบ้าง
"เรื่องเล็กน้อยฝีมือของผู้ที่ธนูนี้ไม่เลวเลยทีเดียวทำเอาเจ้าสลบไปตั้งสามวัน"หลี่เฟิงซีเอ่ยเรื่องบาดแผลขึ้นทำให้หวังฟางจิงนึกถึงชายที่โหดเหี้ยมผู้นั้นก็ทำให้ร่างกายเริ่มสั่นขึ้นหลี่เฟิงซีที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
"เจ้าหิวหรือไม่เดี๋ยวข้าทำอะไรให้เจ้ากินดีกว่า"หลี่เฟิงซีพาหวังฟางจิงออกมานั่งรอด้านนอกส่วนตัวเองก็รีบไปทำอาหารให้คนงามกิน
หลี่เฟิงซีใช้เวลาไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกับอาหารสองสามอย่างกลิ่นหอมของอาหารทำให้หวังฟางจิงรู้สึกหิวไม่น้อยใบหน้างามเงยหน้ามองหลี่เฟิงซีเพื่อที่จะขอบคุณแต่ก็ต้องหลุดขำออกมาใบหน้าของหลี่เฟิงซีตอนนี้มีแต่รอยดำจากการทำอาหารหลี่เฟิงซีเผลอมองรอยยิ้มของร่างบางจนตัวเองเผยยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"คนงามเจ้าขำอะไร"
"หน้าเจ้า"หวังฟางจิงชี้ไปที่แก้มของหลี่เฟิงซีมือหนาลูบตามแก้มที่เจ้าตัวชี้ก็พบแต่คราบดำจากเขม่าควัน
"ทำให้ตัวเองขายหน้าแล้ว"หลี่เฟิงซีพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะขอตัวไปล้างหน้าให้เรียบร้อยหวังฟางจิงที่ทนความหิวไม่ไหวก็ลงมือจัดการอาหารด้วยความหิว
"ฝีมือข้าใช้ได้หรือไม่"หลี่เฟิงซีมองดูจานที่ว่างเปล่ารอยยิ้มรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ผุดขึ้นมาอีกรอบ
"ใช้ได้ไม่สิต้องบอกว่าอร่อยมากเลยตั้งหาก"
"คนงามเจ้าชอบก็ดีแล้ว"
คำก็คนงามสองคำก็คนงามคิ้วสวยขมวดเข้าหากันและอดที่จะค้านอีกฝ่ายไปไม่ได้
"คนงามอะไรกันข้าก็เป็นบุรุษเหมือนกับเจ้า"
"เจ้าไม่เคยส่องกระจกมองหน้าตนเองเลยหรือว่าเจ้างามแค่ไหนงามกว่าตอนเจ้าสวมหน้ากากไว้เสียอีก"
"หน้ากากข้าล่ะ"
"น่าจะตกระหว่างทางหายไปแล้ว"
"ช่างเถอะหายแล้วก็หายไปยังไงซะก็มีแค่เจ้ากับคนในครอบครัวที่เคยเห็นหน้าข้า"
"หลังจากนี้เจ้าคิดจะทำอะไรต่อ"
"ตามหาครอบครัวแล้วเจ้าล่ะ"
"กลับบ้านข้าออกมานานเกินไปแล้วถึงเวลาต้องกลับซะที"
"อ๋อจริงสิคนงามข้ามีอะไรจะให้เจ้าด้วย"หลี่เฟิงซีหยิบอาวุธลับประจำตัวให้หวังฟางจิง
"อาวุธลับนี้ดูงดงามและแปลกตาดี"
"นี่เป็นอาวุธลับที่ท่านแม่ทำให้ข้าเจ้าต้องใช้อย่างระวังด้วยเข็มด้านในมีพิษอยู่"
"อวี้หลาน...เป็นชื่อของแม่เจ้าใช่หรือไม่"
"ใช่ในใต้หล้านี้ไม่มีใครทำอาวุธได้ร้ายกาจเท่าท่านแม่ของข้าแล้ว"น้ำเสียงสุดภาคภูมิใจของหลี่เฟิงซีเอ่ยออกมาทำให้ฟางจิงคิดถึงพี่รองขึ้นมา
"ขอบคุณเจ้าอีกครั้ง"
"เจ้ารีบกลับเข้าไปพักเถอะข้าจะไปเก็บสมุนไพรต่อสักพักใหญ่"หลี่เฟิงซีสะพายตะกร้าเตรียมพร้อมเดินทางออกไปหวังฟางจิงโบกมือส่งหลี่เฟิงซีจนร่างสูงลับสายตา
หวังฟางจิงที่กำลังเดินเข้าห้องแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆมีธนูจากไหนไม่รู้ผ่านเฉียดหน้าเขาไปปักตรงประตูร่างบางยืนนิ่งไม่กล้าแม้จะหันไปทางผู้ที่ยิงมาเสียงฝีเท้าของคนผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนมาหยุดที่ด้านหลังใบหน้าคมคายก้มลงมากระซิบบอกอะไรบางอย่างกับหวังฟางจิงหลัง
"ข้ากลับมาทวงลูกธนูแล้ว"
...^^^...^^^...จากที่ได้ยินเสียงของมัจจุราชในคราบคนแล้วร่างบางก็แทบทรุดทันที...^^^...^^^...
สามวันก่อน
หลังจากที่หยางหลิงอี้ล่มแคว้นฉู่ได้สำเร็จเขาก็เริ่มออกตามหาหวังฟางจิงได้สองวันโดยเริ่มจากทิศทางที่ร่างบางควบม้าหนีเขาไปก่อนหยางหลิงอี้แกะรอยม้าตัวนั้นจนมาหยุดที่เขาลูกหนึ่ง
"ซื่อจื่อจากตรงนี้ก็ไร้ร่องรอยแล้ว"เจียงหมิงเดินมารายงานหลิงอี้
หยางหลิงอี้ลงจากม้าเดินมาดูเส้นทางที่คาดว่าหวังฟางจิงจะไปได้ต่อหากตัวเขาจำไม่ผิดเส้นทางต่อไปข้างหน้าจะเป็นแคว้นต้าซ่งของเขาแล้ว
"เขาคงไม่หนีไปถึงแคว้นเราแล้วหรือ"เจียงหมิงออกความเห็น
"ไม่มีทางหวังฟางจิงคงทนบาดแผลไม่ได้นานขนาดนั้น"เสียงเรียบพูดขึ้นเขาลงน้ำหนักแรงตอนยิงไปไม่น้อยไม่มีทางที่หวังฟางจิงจะทนได้ถึงขนานนี้
"อาจจะมีคนช่วยไปแล้วก็ได้"
"ก็ไม่แน่แต่ในช่วงสงครามแบบนี้คงไม่มีชาวบ้านมาที่นี่"หยางหลิงอี้เดินดูเส้นทางไปเรื่อยๆจนกระทั่งสายตาคมเหลือบไปเห็นอะไรบางที่พุ่มไม้หยางหลิงอี้หยิบสิ่งนั่นขึ้นมาดู
"หน้ากากนี้ดูคุ้นๆ...ซื่อจื่อหรือว่า.."เจียงหมิงจูงม้าเดินตามมาทีหลังกล่าวขึ้นมาหยางหลิงอี้เหยียดยิ้มร้ายขึ้น
'หวังฟางจิงเจ้าซ่อนตัวไว้ให้ดีนับจากนี้ข้าจะไล่ล่าเจ้าเต็มตัวแล้ว'
"เจียงหมิงเอาผีเสื้อตามกลิ่นมาให้ข้า"หยางหลิงอี้รับกล่องไม้มาจากเจียงหมิงมือหนาเลื่อนไม้บนกล่องออกเพื่อปล่อยผีเสื้อออกมาเจียงหมิงนึกไม่ถึงว่าเจ้านายตนจะทาน้ำหวานจากดอกไม้พันธุ์พิเศษไว้บนลูกธนูดอกนั้นผีเสื้อตัวนั้นบินตามกลิ่นของดอกไม้ทำให้หยางหลิงอี้กับเจียงหมิงจึงรีบขึ้นม้าตามผีเสื้อตัวนั้นไป
ทิศทางที่ผีเสื้อตัวนั้นพามาเริ่มเข้าไปในป่าลึกเรื่อยๆทำให้เจียงหมิงเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผีเสื้อตัวนี้พามาถูกหรือเปล่าเพราะหนึ่งวันที่เขาและซื่อจื่อตามเจ้าปีกน้อยนี้มาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนคนนั้นที่ซื่อจื่อตามหาเลย
"ซื่อจื่อนี่เราตามเข้ามาใจกลางป่าแล้วนะขอรับยังไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของบุรุษผู้นั้นเลยไม่ใช่ว่าจะถูกสัตว์ร้ายคราบไปกินแล้วหรือ"
"อยู่ต้องพบคนตายต้องพบศพ"
"ซื่อจื่อกับเชลยผู้นี้ท่านดูมุ่งมั่นยิ่งนักหากข้าไม่ได้ติดตามท่านมานานข้าเองก็คงคิดว่าซื่อจื่อมาตาม.."เจียงหมิงเงียบลงทันทีเมื่อเห็นสายตาพิฆาตมองกลับมา
"หากเจ้ายังพูดอีกข้าจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งซะ"
"ไม่พูดแล้วไม่พูดแล้ว"เจียงหมิงเอามือปิดปากตนไว้
พวกเขาทั้งคู่เดินทางไปเรื่อยๆหยางหลิงอี้รู้สึกถึงความผิดปกติบ้างอย่างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่สัตว์ในป่าเริ่มหายไปสายลมพัดนำกลิ่นหอมอ่อนๆผ่านจมูกของร่างสูงหยางหลิงอี้ที่ได้กลิ่นก็รู้ถึงสาเหตุที่บริเวณนี้ไร้สัตว์ป่าทันที
"ระวังตัวด้วยที่นี่มีกับดัก"หยางหลิงอี้หันไปพูดกับเจียงหมิงทั้งคู่เพิ่มความระวังมากขึ้น
"ซื่อจื่อตรงนั้นมีบ้านพัก"เจียงหมิงชี้ไปยังเรือนไม้ที่อยู่ห่างจากเขาไม่มาก
หยางหลิงอี้เลือกที่จะโดดขึ้นซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใกล้เรือนไม้นั้นร่างสูงทอดมองบริเวณรอบๆของเรือนจนกระทั่งมีคนภายในเรือนออกมาสองคนบุรุษใบหน้างามคงจะเป็นหวังฟางจิงส่วนอีกคน...คิ้วของหยางหลิงอี้ขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อเห็นคนที่คิดว่ายากจะได้เจอกัน'หลี่เฟิงซี'เจ้านั่นมาทำอะไรที่นี่
"นั่นมัน...เขามาทำอะไรที่นี่ซื่อจื่อเราควรบุกพาตัวคนออกมาเลยหรือไม่"น้ำเสียงสงสัยของเจียงหมิงพูดขึ้นเจียงหมิงหันไปถามหยางหลิงอี้
"ยัง..เป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงเขาหน่อยดีกว่า"สายตาที่หยางหลิงอี้มองไปยังหลี่เฟิงซียากที่จะคาดเดาพวกเขายืนดูต่อไปเสียงพูดคุยหัวเราะของหวังฟางจิงดังขึ้นหยางหลิงอี้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาไหนจะรอยยิ้มนั้นอีก
จนแล้วจนเล่าในที่สุดหลี่เฟิงซีก็แยกตัวออกจากเรือนไปหยางหลิงอี้ที่รอโอกาสนี้ก็เลือกที่จะทวนความจำของหวังฟางจิงสักหน่อยร่างสูงเดินไปหยิบธนูแล้วตั้งใจยิงเฉียดใบหน้าหวังฟางจิงเป็นไปตามคาดร่างบางยืนหยุดอยู่นิ่งหยางหลิงอี้ยกยิ้มอย่างพอใจร่างสูงเดินเข้าไปหาหวังฟางจิงช้าๆเขาจงใจโน้มใบหน้าเข้าหาหวังฟางจิงกลิ่นหอมของสมุนไพรทำให้เขาเผลอสูดดมไปหลายครั้งก่อนที่ร่างสูงจะกล่าวทักทาย
"ข้ากลับมาทวงลูกธนูแล้ว"
ปัจจุบัน
หยางหลิงอี้จับหวังฟางจิงหันมาทางตนมือหนาช้อนคางเล็กขึ้นหยางหลิงอี้รู้สึกชอบมองดวงตาของอีกฝ่ายในยามร้องไห้มากที่สุด'ดูน่ารังแกไม่น้อย'
"ที่แท้หน้าตาเจ้าก็เป็นเช่นนี้"
"..."
"เจ้าไม่ดีใจที่เจอข้าอีกครั้งหรือ"
"จะ เจ้าจำผิดคนแล้วข้าไม่เคยพบเจ้าเลยสักครั้ง"เพราะหยางหลิงอี้ยังไม่เคยเห็นใบหน้าเขาหวังฟางจิงจึงปฏิเสธอีกฝ่ายออกไป
"หึ..เช่นนั้นแผลที่ไหล่เจ้าได้มาได้อย่างไร"หยางหลิงอี้กดเข้าที่แผลหวังฟางจิงอย่างแรงบาดแผลปริออกอีกรอบทำให้มีเลือดออกมาร่างบางลิ่วหน้าด้วยความเจ็บก่อนที่จะถูกปล่อยเป็นอิสระ
เมื่อโกหกหยางหลิงอี้ต่อไปไม่ได้แล้วหวังฟางจิงจึงปล่อยอาวุธลับที่หลี่เฟิงซีให้ไว้ใส่หยางหลิงอี้ร่างสูงเบี่ยงตัวหลบไปหลังต้นไม้หวังฟางจิงใช้โอกาสนี้คิดจะหนีอีกรอบแต่ไม่ทันที่จะหนีก็ถูกเจียงหมิงตีจนสลบไป
"ซื่อจื่อท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"ข้าไม่เป็นไรนำตัวมันกลับไป"หยางหลิงอี้เปรยตามองคนที่สลบในอ้อมกอดของเจียงหมิง
"ขอรับ"เจียงหมิงได้แต่สงสัยกับความคิดของนายตัวเองหากเป็นคนอื่นคงได้ตายไปแล้วแต่พอมาเป็นร่างบางนอกจากซื่อจื่อจะไว้ชีวิตแล้วยังจะพากลับไปด้วยอีก
ด้านหลี่เฟิงซีเดินมาพักที่ลำธารใกล้ๆกับเรือนของตนหลังจากที่ไปเก็บสมุนไพรมาเกือบทั้งวันหลี่เฟิงซีใช้น้ำพรมหน้าตัวเองสายตาเรียวสังเกตเห็นร่างใครบางคนลอยติดอยู่กับโขดหินไม่ไกลจากเขามากสองขาก้าวไปหาร่างที่ลอยอยู่หลี่เฟิงซีตรวจชีพจรของอีกฝ่ายดูเมื่อรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่บุรุษอาภรณ์ฟ้าดึงชายผู้นั้นขึ้นมาบนฝั่ง
"ตัวหนักซะจริง"หลี่เฟิงซีบ่นไปถอดชุดเกราะของอีกฝ่ายไปขืนให้เขาลากไปทั้งชุดแบบนี้วันนี้ก็คงไม่ถึงที่พัก
"เสี่ยวจิง!!"หวังซีสะดุ้งตัวขึ้นมาจากฝันร้ายของตนหลี่เฟิงซีรีบเดินเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย
"เจ้าฟื้นแล้ว...อย่าพึ่งลุก!"หลี่เฟิงซีรีบกดตัวหวังซีให้หยุดเฉยๆบาดแผลเต็มตัวแบบนี้ยังจะไปอีกหวังซีปัดมือเรียวออกก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้าที่พู่ห้อยเอวที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ
"เจ้าได้มันมาจากไหน"หวังซีหยิบพู่ห้อยเอวนั้นขึ้นมาแล้วถามไปยังหลี่เฟิงซี
"ของคนงามแซ่หวังที่ข้าช่วยไว้"
"เขาอยู่ไหน"
"หายไปแล้ว..ตอนข้าพาเจ้ากลับมาก็พบว่าที่นี่มีร่องรอยการต่อสู้..นั้นเจ้าจะไปไหน"หลี่เฟิงซีเดินมาห้ามอีกคนไว้
"ข้าจะไปตามหาน้องข้า"
"ด้วยสภาพของเจ้าตอนนี้เนี้ยนะ"
"...."
"ข้าแนะนำให้เจ้ารักษาตัวให้หายซะก่อนส่วนเรื่องของคนงาม...ข้าหมายถึงฟางจิงข้าจะช่วยตามหาอีกแรง"พอหลี่เฟิงซีเรียกหวังฟางจิงว่าคนงามก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากสายตาที่มองมาของหวังซี
"ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้เช่นไร"น้ำเสียงเย็นชาของหวังซีถามหลี่เฟิงซี
"เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้า"
"เจ้าเป็นใครกันแน่"หวังซีไล่มองหลี่เฟิงซีอย่างละเอียดอาภรณ์สีฟ้าที่หลี่เฟิงซีสวมใส่แม้จะดูเรียบง่ายแต่เนื้อผ้ากับมีราคาสูงลิ่วไหนจะท่าทางวางตัวของอีกฝ่ายที่ดูจะเป็นมิตรแต่ก็แฝงด้วยเล่ห์เลี่ยม
"ข้าหลี่เฟิงซีเป็นเพียงคนหน้าตาดีที่ช่วยเจ้าไว้แล้วเจ้าล่ะ"หลี่เฟิงซีกล่าวออกมาอย่างหน้าไม่อายทำให้หวังซีกรอกตาขึ้นอย่างเหลืออดใครจะไปคิดล่ะว่าบุรุษที่ดูสุภาพอ่อนโยนเช่นหลี่เฟิงซีจะหลงตัวเองได้ขนาดนี้
"หวังซี"เสียงเรียบตอบกลับไป
"หวังซีเจ้าพักผ่อนเถอะข้าจะไปต้มยาอีกสักหม้อก็ไปแล้วพอเจ้าหายดีแล้วก็รีบไปตามหาครอบครัวเจ้าก่อนแล้วค่อยมาหาข้านี่ป้ายของหออวี้หลานยามเจ้ามีปัญหาก็ให้ชูป้ายนี่ขึ้นเดี๋ยวจะคนมาช่วยเจ้าเอง"หลี่เฟิงซีวางป้ายคำสั่งบนมือของหวังซีแล้วเดินออกไปหวังซีที่มีตัวเลือกไม่มากก็ขอเลือกที่จะเดิมพันกับหลี่เฟิงซีสักครั้ง
หลายวันมานี้หวังฟางจิงโดนกลั่นแกล้งหลายสารพัดจากหยางหลิงอี้ถึงแม้เขาจะหาโอกาสหนีกี่รอบก็โดนตามจับมาได้ทุกครั้งจนพวกเราเดินทางมาถึงเมืองของหยางหลิงอี้สภาพอากาศที่นี่ค่อนข้างหนาวสำหรับหวังฟางจิงข้อมือของร่างบางบัดนี้มีแต่รอยแดงจากการถูกมัดหยางหลิงอี้กระชากเชือกที่ผูกกับข้อมือเล็กนั้นให้ตามมาหลายสายตาจากสองข้างทางมองมาที่หวังฟางจิงซึ่งนั้นทำให้ร่างบางรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากหวังฟางจิงเดินตามหยางหลิงอี้จนมาถึงหน้าจวนก็มีหญิงสาวมายืนรอรับ
"หลิงอี้เจ้ากลับมาแล้ว"หญิงสาวผู้นั้นวิ่งมาหาหยางหลิงอี้ทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายมาถึงใบหน้างามยิ้มระบายออกมาอย่างดีใจเมื่อคนที่ตัวเองรักกลับมาถึงแต่ก็ต้องมาสะดุดกับอีกคนที่หยางหลิงอี้พากลับมาด้วย
"คนผู้นี้คือ..."หรูอี้ถามขึ้นด้วยความสงสัยนางมองใบหน้าของหวังฟางจิงหากคนตรงหน้าไม่เนื้อตัวมอมแมมก็คงดูดีไม่น้อยไปกว่านาง
"เจ้าไม่ต้องรู้หรูอี้...เจียงหมิงพาเขาไปเรือนเล็กหลังจวนกำชับทหารเฝ้าไว้ให้ดี"หยางหลิงอี้โยนปลายเชือกไปให้เจียงหมิงแล้วเดินเข้าจวนไปทันที
"ขอรับซื่อจื่อ"เจียงหมิงรับคำสั่งเสร็จก็พาหวังฟางจิงไปเรือนเล็กหรูอี้ที่มองสองคนนั่นเดินออกไปแล้วก็คิดจะหันมาถามหยางหลิงอี้แต่พอหันกลับมาก็ไม่พบร่างสูงแล้วใบหน้าสวยได้แต่เก็บความรู้ไม่พอใจไว้ในใจแล้วเดินกลับเข้าจวนไป
"เจียงหมิงข้าหิวแล้ว"เมื่ออยู่ด้วยกันแค่สองคนหวังฟางจิงก็บ่นให้เจียงหมิงฟังบ้างหลายวันที่ผ่านมานี้ถ้าไม่ได้เจียงหมิงแอบช่วยเขาไว้้เขาเองก็คงมาไม่ถึงเมืองแน่ๆ
"รู้แล้วเจ้าเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเดี๋ยวข้าให้คนยกอาหารมาให้"เจียงหมิงยืนแก้เชือกที่รัดข้อมือร่างบางทิ้งในใจก็อดนึกสงสารหวังฟางจิงอยู่ไม่น้อย
"ขอบคุณเจียงหมิง"หวังฟางจิงถอนหายใจหลังจากมองรอยแดงที่ข้อมือ
"ข้าขอเตือนตอนนี้เจ้าอยู่ภายในจวนของซื่อจื่ออย่าคิดจะหนีไปไหนอีกยิ่งเจ้าดื้อดึงซื่อจื่อก็ยิ่งร้ายกับเจ้าทางที่ดีเจ้าอยู่เฉยๆจะดีกว่า"
"ข้ารู้แล้วๆเจ้ารีบไปเถอะ"หวังฟางจิงดันตัวเจียงหมิงออกไปเจียงได้เพียงแต่ส่ายหน้าให้กับความดื้อดึงของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินออกไปโดยดี
หวังฟางจิงผลักประตูเข้าไปในเรือนหลังนี้ถึงจะดูซอมซ่อไปบ้างแต่หากตกแต่งอีกนิดหน่อยก็อยู่ได้แล้วร่างบางคิดเช่นนั้นสองขาเรียวเดินสำรวจห้องได้เพียงครู่ก็มีสาวใช้สองสามคนเดินเข้ามาหาเขา
"ซื่อจื่อให้พวกบ่าวมารับใช้คุณชายเจ้าค่ะ"หวังฟางจิงที่เห็นพวกนางกำลังย่อตัวคำนับเขาก็รีบห้ามทันที
"พี่สาวทั้งสามไม่ต้องมากพิธีหรอกข้าเป็นแค่เชลยไม่ใช่คุณชายอะไรทั้งนั้นเรียกข้าว่าฟางจิงเถอะ"
"เกรงว่าจะไม่ได้เจ้าค่ะคุณชายเป็นแขกของจวนหากให้เรียกชื่อโดยตรงพวกบ่าวคงโดนโบยแน่ๆ"หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
"งั้นแล้วแต่พี่สาวเถอะ"หวังฟางจิงพูดอย่างจำใจแม้แต่คนในจวนยังจะเจ้าระเบียบอีก
"เจ้าค่ะคุณชาย...บ่าวเตรียมน้ำไว้ในอ่างให้แล้วเชิญคุณชายทางนี้เจ้าค่ะ"หวังฟางจิงเดินตามไปอย่างว่าง่ายจนมาถึงฉากกั้นห้องอาบน้ำ
"เอ๊ะ!..พี่สาวท่านจะทำอะไร"หวังฟางจิงร้องเสียงหลงทันทีเมื่อพี่สาวทั้งสามพากันรุมถอดชุดเขาออก
"ปรนนิบัติคุณชายเจ้าค่ะ"
"มะ ไม่ต้องเรื่องนี้ข้าทำเองดีกว่ารบกวนพวกพี่ออกไปรอข้าด้านนอกก่อน..ถ้ามีอะไรเดี๋ยวข้าเรียกเอง"
"เจ้าค่ะ"
หวังฟางจิงถอนหายใจออกมาหลังจากที่พวกนางออกไปกันหมดแล้วร่างบางรีบถอดชุดตัวเองออกแล้วเดินลงไปแช่น้ำ
เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกรอบทำให้หวังฟางจิงที่เผลอหลับสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาดวงตากลมมองไปที่ราวพาดเสื้อก็พบเพียงแค่ผ้าคุมสีดำไม่มีชุดสำหรับเปลี่ยน
'สงสัยพี่สาวคงจะลืมแล้วเอาเข้ามาให้'หวังฟางจิงคิดเช่นนั้นร่างขาวลุกขึ้นมาจากอ่างมือเรียวเอือมหยิบชุดบางสีดำขึ้นมาสวมก่อนที่จะเดินออกมาจากฉากกั้น
"พี่สาวท่านลืมเอาชุด...หยางหลิงอี้!?"เพราะมัวแต่ก้มหน้าจึงไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในห้องเป็นหยางหลิงอี้ไม่ใช่สาวใช้ตามที่หวังฟางจิงคิด
หยางหลิงอี้ยื่นมองหวังฟางจิงตั้งแต่ที่ร่างบางเดินออกมาแล้วเดิมทีเขาแค่จะมาดูว่าอีกคนเป็นเช่นไรบ้างแต่พอได้เห็นหวังฟางจิงสวมชุดบางออกมานั่นทำให้เขาหยุดชะงักไปชั่วครู่ไม่รู้ว่าชุดตัวใหญ่หรืออีกคนไม่ระวังทำให้ชุดผ่าลงมาเกือบเห็นอกขาวหวังฟางจิงเหมาะกับสีดำดี..ดีจนเขาอยากจะกระชากชุดทิ้ง
"เจ้ามองอะไรกัน"หวังฟางจิงรีบกระชับชุดเข้าหาตัวทันทีเมื่อเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมาของหยางหลิงอี้
"มีอะไรน่ามองกัน...ข้าแค่แวะมาดูว่าเจ้าจะหนีข้าไปอีกไหม"
"ในเมื่อเจ้าก็เห็นว่าข้ายังอยู่ก็ออกไปได้แล้ว"
"เจ้าไล่ข้า?"
"แล้วแต่เจ้าจะคิด"
"ช่างเถอะวันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปสักครั้งรีบแต่งตัวซะอีกเดี๋ยวข้าจะให้คนยกอาหารมาให้"หยางหลิงอี้พูดจบก็รีบเดินออกไปหวังฟางจิงรีบเดินไปลงกลอนประตูกันไว้เผื่อหยางหลิงอี้จะวนกลับมาอีก
ในขนาดเดียวกันหลังจากที่หวังฟางจิงเปลี่ยนชุดเสร็จก็มีเสียงเคาะประตูอีกรอบร่างบางเดินไปเปิดประตูก็พบกับสตรีที่ยืนรอที่หน้าจวนคนนั้น
"หรูอี้?"
"เจ้ายังอยากหนีหรือไม่"หรูอี้ถามหวังฟางจิงทันทีที่เจอ
หรูอี้เดินออกไปแล้วก่อนนางจะไปหรูอี้ให้เวลาร่างบางทบทวนถึงยามซวี (19:00น.-21:00น.)หวังฟางจิงยังไม่ได้รับปากกับอีกฝ่ายไปเป็นเพราะตอนนี้ตัวเขาเองไม่สามารถเชื่อใจใครได้หวังฟางจิงเดินกลับไปกลับมารอบห้องจนสาวใช้ต้องเอ่ยทัก
"คุณชายหวังท่านเลิกเดินไปมาก่อนเถอะเจ้าคะพวกบ่าวมองจนตาลายไปหมดแล้ว"สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้นหวังฟางจิงจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้ดวงตากลมมองไปยังสาวใช้คล้ายเหมือนอยากจะถามอะไรแต่ก็ไม่กล้าสาวใช้คนเดิมที่เห็นสายตาเช่นนั้นก็เอ่ยถามอีกรอบ
"หากมีคำถามเชิญคุณชายหวังถามมาเถิดเจ้าค่ะ"
"ข้าถามได้จริงๆหรอ"สาวใช้พยักหน้าหวังฟางจิงถือโอกาสดึงเหล่าสาวใช้มานั่งด้วยกัน
"แม่นางหรูอี้เป็นใครกัน"
"คุณหนูรองหรูเป็นบุตรสาวของคหบดีหรูจ้าวมีสัญญาหมั้นหมายกับซื่อจื่อตั้งแต่เด็กเจ้าค่ะ"
"ที่แท้ก็เป็นคู่หมั้น...แล้วนิสัยนางเป็นเช่นไร"มิน่าตอนแรกถึงมองข้าอย่างกับกลัวว่าข้าจะแย่งของรักนางไป
"บ่าวเองก็ไม่ค่อยได้รับใช้คุณหนูรองหรูมากนักแต่หากดูแล้วนางเองก็เป็นสตรีจิตใจดีนางหนึ่งเจ้าค่ะ"สาวใช้พูดไปตามสิ่งที่ตนเคยได้ยินมา
"ข้าอยากจะพักผ่อนแล้วพวกพี่สาวออกไปเถอะ"ในเมื่อหรูอี้ออกตัวอยากช่วยตนขนาดนี้เขาเองก็ขอฝากความหวังนี้ไว้ที่นางแล้ว..หวังฟางจิงเอ่ยปากให้เหล่าสาวใช้ออกไปเผื่อที่จะได้มีเวลาคิดแผนหลบหนี
.
ยามซวี(19:00น.-21:00น.)
หวังฟางจิงเปิดประตูออกไปดูสถานการณ์ด้านนอกอีกครั้งก็พบว่ามีทหารเฝ้าอยู่หน้าประตูสองนายหนึ่งในนั้นหันมามองตนหวังฟางจิงยิ้มแห้งแล้วปิดประตูเข้าห้องเช่นเดิม
'เฝ้าซะขนาดนี้แล้วข้าจะออกไปได้เช่นไร 'หวังฟางจิงถอนหายใจออกมาจู่ๆเขาก็เหมือนได้ยินเสียงพูดคุยอยู่หน้าห้องเสียงเคาะประตูดังขึ้นสองสามครั้งแล้วมีเสียงเอ่ยออกมา
"คุณชายหวังบ่าวเอาเสื้อผ้ามาให้เจ้าค่ะ"
หวังฟางจิงเดินไปเปิดประตูให้สาวใช้น่าแปลกที่ครั้งนี้เป็นสาวใช้ที่ตนไม่คุ้นหน้าร่างบางเก็บความสงสัยไว้และให้นางเข้ามาสาวใช้คนนั้นวางเสื้อผ้าลงบนโต๊ะนางหันมายิ้มให้ร่างบางและทวงคำตอบจากหวังฟางจิง
"คุณหนูให้บ่าวมาถามคำตอบจากคุณชายเจ้าค่ะ"ที่แท้หรูอี้ที่ส่งนางมา..
"ข้าตกลงเพียงแต่ด้านนอกมีทหารเฝ้าอยู่เราจะออกไปได้ยังไง"
"เรื่องนั้นบ่าวจัดการไว้หมดแล้วเชิญคุณชายเปลี่ยนชุดเจ้าค่ะ"
หวังฟางจิงรู้สึกขัดเขินอยู่ไม่น้อยเพราะชุดที่ตนสวมอยู่ในตอนนี้เป็นชุดของสาวใช้หวังฟางจิงเดินตามหลังสาวใช้ผู้นั้นไปเรื่อยๆส่วนทหารสองคนที่ตัวเขากังวลในตอนแรกก็ได้สลบไปแล้วเรียบร้อยเมื่อใกล้ถึงปลายทางจู่ๆสตรีผู้นั้นก็อยู่เดินแล้วหันมองพูดกับเขา
"คุณชายเดินไปตามทางอีกหน่อยคุณหนูกำลังรอท่านอยู่"
"เจ้าจะไปไหน"
"บ่าวมีเรื่องที่ต้องไปจัดการให้เรียบร้อยเจ้าค่ะ"
"ขอบคุณเจ้ามาก"หญิงสาวรับคำขอบคุณเสร็จก็เดินออกไปร่างบางเดินไปตามทางที่สาวใช้บอกมาจนพบกับหรูอี้ 'นางไม่ได้โกหก' หวังฟางจิงรีบเดินไปหาทันทีที่เห็นหรูอี้
"หวังฟางจิงเจ้ามาจริงๆด้วย..ว่าแต่เจ้าออกมาได้เช่นไร?"ความสงสัยของหรูอี้ถามออกไปทันทีที่เห็นหวังฟางจิง
"เจ้าให้สาวใช้พาข้าออกมาไม่ใช่หรือ"แม้หรูอี้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรถึงแม้ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งแต่ก็ต้องขอบคุณเป็นอย่างมากที่พาศัตรูอย่างหวังฟางจิงมาส่งถึงที่หรูอี้แสร้งยิ้มให้หวังฟางจิงอีกครั้ง
"ใช่..ข้าลืมไปงั้นเรารีบไปกันเถอะ"หรูอี้โกหกอีกฝ่ายให้ตายใจมือบางของสตรีดึงข้อมือของหวังฟางจิงให้ตามตนออกไปขึ้นรถม้าที่เตรียมไว้อยู่หลังจวน
.
"เจ้าดูสิหวังฟางจิงงามผู้นี้ไม่น้อยไม่น่าพี่ชายข้าถึงหวงไม่ให้ข้าเจอเขาสักที"หญิงสาวหันไปพูดกับสาวใช้ที่พาหวังฟางจิงไปหาหรูอี้การกระทำของว่าที่พี่สะใภ้อยู่ในสายตาของเสวี่ยเจียวอวี่ทั้งหมด
"ทำเช่นนี้จะดีหรือคุณหนูหากซื่อจื่อรู้เข้า.."
เสวี่ยเจียวอวี่พูดแทรกขึ้นมาทันที "เขารู้ก็ไม่ใช่ความผิดข้า..ข้าไม่ได้เป็นคนเริ่มหรูอี้ต่างหากส่วนข้าก็แค่ส่งเสริมนางนิดหน่อย"
"คุณหนู"น้ำเสียงสาวใช้พูดขึ้นอย่างเหนื่อยใจให้กับคุณหนูของตัวเองทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าซื่อจื่อเป็นคนเช่นไรก็ยังชอบไปก่อกวนซื่อจื่ออยู่ตลอดเวลาตัวนางเองก็ได้แค่นึกสงสารอีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
'คุณชายหวังท่านจะรู้หรือไม่ว่าถูกหลอกเข้าให้แล้ว'
"เลิกพูดได้แล้วข้าวางแผนซ้อนแผนนางเพื่อช่วยพี่ข้าอยู่นะเจ้ารีบส่งคนไปบอกพี่ชายข้าซะส่วนข้าจะไปดูแลความปลอดภัยให้ระหว่างที่พี่ข้าไม่อยู่"เสวี่ยเจียวอวี่ยังคงยึดมั่นความตั้งใจเดิมไม่เปลี่ยนเดิมทีตัวเขาเองก็ไม่ชอบหรูอี้อยู่แล้วเพราะสตรีนางนั้นมักจะชอบทำตัวเสแสร้งอ่อนแออยู่ตลอดเวลา
และเรื่องทั้งหมดเป็นเขาเองที่เป็นคนยุแยงให้หรูอี้วางแผนกำจัดหวังฟางจิงออกไปโดยหารู้ไม่ว่าตัวเขาเองก็ได้ซ้อนแผนรอไว้แล้ว 'ข้าชักจะอยากเห็นสีหน้าของหรูอี้ตอนที่รู้ว่าแผนที่ตัวเองล่มไม่เป็นท่าจะเป็นเช่นไร'เสวี่ยเจียวอวี่ยิ้มร่าขึ้นมาเมื่อยามที่จะได้เห็นเรื่องเห็นเรื่องสนุกๆที่กำลังจะเกิดขึ้น
"เจ้าค่ะคุณหนู"
.
รถม้าของหรูอี้ได้มาหยุดที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งหรูอี้เดินนำหน้าเข้าไปในโรงเตี๊ยมก่อนตามด้วยหวังฟางจิงเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ในโรงเตี๊ยมเดินเข้ามาหาพวกเขาทันที
"ข้าต้องการหนึ่งห้อง"เสียงหวานของหรูอี้พูดขึ้น
"ขอรับเชิญคุณหนูตามข้ามา"เสี่ยวเอ้อร์ผู้นั้นพาขึ้นมาชั้นสองของโรงเตี๊ยมพอถึงหน้าห้องเสี่ยวเอ้อร์ก็เดินจากไปหวังฟางจิงผลักประตูเข้าไปในห้อง
"คืนนี้เจ้าพักที่นี้ไปก่อนไว้พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าออกนอกเมือง"
"ขอบคุณเจ้าหรูอี้บุญคุณครั้งนี้ข้าจะไม่ลืม"
"ไม่เป็นไร"หรูอี้ยิ้มปลอบใจหวังฟางจิง 'เพราะเจ้าจะไม่มีวันลืมได้เลย'หรูอี้ขอตัวกลับไปก่อนทิ้งหวังฟางจิงไว้เพียงลำพังก่อนขึ้นรถม้าหรูอี้ส่งสัญญาณให้กลับบุรุษสองคนที่ปลอมเป็นชาวบ้านใบหน้าสวยกรีดยิ้มร้ายขึ้นเมื่อเห็นว่าแผนของตัวเองสำเร็จไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
รถม้าของหรูอี้ออกไปแล้ว..หวังฟางจิงที่มองมาจากหน้าต่างก็เดินกลับไปนั่งที่เตียงตอนนี้เขาควรดีใจสิที่จะได้เป็นอิสระแต่ทำไมในใจเขาถึงรู้สึกเมื่อว่าตนเองกำลังคิดผิดที่เลือกจะหนีออกมาหวังฟางจิงสะบัดหัวเบาๆเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านร่างบางเตรียมจะดับเทียนเพื่อที่จะพักผ่อน
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นคิ้วสวยขมวดเข้าหากันหวังฟางจิงเดินเข้าใกล้ประตูอย่างช้าๆ
"คุณชายยังอยู่ไหมขอรับคุณหนูเราลืมให้ของบางอย่างกับคุณชาย"เสียงชายวัยกลางคนพูดขึ้นหวังฟางจิงเปิดประตูออกไปเมื่อเห็นว่าเป็นคนของหรูอี้แต่ไม่ทันได้ระวังตัวก็ถูกเป่าผงยาสลบใส่ทำให้ร่างบางหมดสติไปทันที
.
เปลือกตาสีมุกลืมตาขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้แปลกออกไปเขาฟื้นมาอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งไว้อย่างดีหวังฟางจิงค่อยๆยันตัวขึ้นเมื่อได้สติกลับมาแล้วร่างบางรีบหาทางออกทันทีมือเรียวผลักประตูออกมาจากห้องดวงตากลมกวาดมองสถานการณ์รอบๆก็ต้องตกใจอีกรอบเพราะสถานที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้คือ'หอโคมแดง'นี่ตัวเขาถูกจับมาขายสินะหวังฟางจิงนึกขันให้กับโชคชะตาตนเอง
"เจ้ารีบไปดูทางนั้น"ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรมากเสียงของบุรุษประมาณสองสามคนก็ดังขึ้นชายหนุ่มกลุ่มนั้นเหมือนหาอะไรบางอย่างซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องหาตนแน่ๆหวังฟางจิงเริ่มร้อนใจอีกรอบมือเรียวรีบหยิบผ้าคลุมหน้าแล้วตีเนียนเดินเข้าห้องตามกลุ่มของคณิกาไป
เมื่อเข้ามาภายในห้องได้สำเร็จหวังฟางจิงก็ถอนหายใจออกมาเบาๆที่รอดจากสถานการณ์เมื่อกี้มาได้ก็ต้องกลั้นหายใจไปชั่วขณะเพราะเขาเจอคนที่ไม่สมควรจะเจอ
"นี่เหล่าคณิกาเลื่องชื่อของข้าเจ้าค่ะซื่อจื่อ"ผู้ดูแลหอแนะนำเหล่านางและนายคณิกาที่เข้ามาหยางหลิงอี้ไล่สายตามองดูทีละคนแต่กลับมาสะดุดตาที่บุรุษร่างบางที่สวมอาภรณ์สีชมพูถึงแม้จะมีผ้าปิดไว้ครึ่งหน้าแต่เขาก็จำคนผู้นี้ได้ 'เจอตัวสักทีหวังฟางจิง' มุมปากของหยางหลิงอี้ยกยิ้มขึ้นมาเพียงนิดซึ่งนั้นก็ทำให้หวังฟางจิงขนลุกเป็นอย่างมาก
'หยางหลิงอี้!ให้ตายเถอะนี่ข้าเอาตัวเองมาฆ่าตัวตายชัดๆ'หวังฟางจิงสบถคำไว้ในใจสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของร่างบางหยางหลิงอี้เห็นหมดแล้ว
สาเหตุที่เขามาที่นี่เพราะเขาได้รับสารลับจากบุคคลปริศนาว่าหวังฟางจิงอยู่ที่หอโคมแดงเดิมที่ตัวเขาเองก็ไม่เชื่อจนกระทั่งมีทหารมารายงานว่าหวังฟางจิงหายตัวไปเขาเองก็เลยลองมาดูแต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอตัวหวังฟางจิงจริงๆ
"ข้าต้องการแค่เขาที่เหลือออกไปให้หมด"หยางหลิงอี้ชี้ตัวเจาะจงไปที่หวังฟางจิงโดยเฉพาะหัวหน้าหอที่รู้งานจึงรีบโน้มตัวขอลาทันทีพร้อมกับคนที่เหลือหวังฟางจิงยังคงยืนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับไปไหนจนหยางหลิงอี้ต้องพูออกมา
"หอโคมแดงไม่ได้สอนเจ้าปรนนิบัติแขกหรือไง"
"ขออภัยซื่อจื่อหากข้าทำให้ท่านไม่พอใจไม่สู้ท่านเปลี่ยนคนดีหรือไม่"หวังฟางจิงพูดจบก็รีบหมุนตัวจะออกไปแต่ไม่ทันหยางหลิงอี้แขนแกร่งคว้าเอวบางเข้ามากอดจากด้านหลังอย่างแรงแก้มนุ่มของหวังฟางจิงถูกหยางหลิงอี้กัดเข้าคล้ายคนตัวสูงกว่าจะลงโทษ
"อ๊ะ! ข้าเจ็บนะ"
'กัดมาได้เจ้าคนหรือสุนัขกัน!'หวังฟางจิงชำเลืองมองหยางหลิงอี้ด้วยความโกรธร่างสูงที่พอใจกับสายตาของหวังฟางจิงก็ปล่อยในอีกคนเป็นอิสระแล้วกลับมานั่งที่เดิม
"ถ้าข้าไม่อนุญาตเจ้าก็ห้ามไปไหน"หยางหลิงอี้กวักมือเรียกร่างบางให้เข้ามาหาหวังฟางจิงที่ไม่มีทางเลือกจึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย
"เอาผ้าออกได้แล้วข้ารู้ว่าเป็นเจ้าหวังฟางจิง"
"นึกไม่ถึงเลยว่าซื่อจื่อผู้ยิ่งใหญ่จะมาสถานที่เช่นนี้เป็นด้วย"หวังฟางจิงดึงผ้าคลุมหน้าออกแล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามกับหยางหลิงอี้และไม่วายที่จะพูดประชดใส่ร่างสูง
"เป็นข้าที่ต้องถามประโยคนี้กับเจ้ากลางวันยังเป็นเชลยข้าไหนกลางคืนถึงมาเป็นนายคณิกาได้"หยางหลิงอี้พูดจบก็จิบสุราร่างบางไม่ได้โต้ตอบอะไรมีเพียงแต่จะส่งสายตาไม่พอใจให้หยางหลิงอี้
"..."
"หากเจ้าชื่นชอบอาชีพเช่นนี้ข้าควรจะสนองให้เจ้าดีหรือไม่"หยางหลิงอี้ลุกขึ้นเดินไปหาหวังฟางจิงช้าๆสายตาเจ้าเล่ห์ของร่างสูงที่มองมาดูปิดไม่มิดร่างบางที่เห็นท่าไม่ค่อยจะดีจึงรีบลุกขึ้นและถอยหลังทิ้งระยะห่างกับหยางหลิงอี้ไว้
"เจ้าจะทำอะไร"หวังฟางจิงค่อยๆเดินถอยหลังส่วนหยางหลิงอี้ก็เดินตามมาอย่างใจเย็นจนร่างบางเดินถอยชนกับเตียงจนล้มลงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่กลิ่นกำยานภายในห้องเปลี่ยนไปตัวเขารู้สึกถึงความร้อนบางอย่างจากร่างกายหยางหลิงอี้ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
หยางหลิงอี้จับปลายคางของหวังฟางจิงขึ้นร่างสูงจ้องมองแววตาที่หวาดกลัวของร่างบางอย่างนึกสนุกไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์กำยานหรือเปล่าครั้งยามที่เผลอมองริมฝีปากแดงสดนั้นทำเอาเขาอยากจะบดขยี้ให้แดงกว่าเดิมแต่แค่คิดจะเห็นผลได้ที่ไหนใบหน้าคมโน้มลงชกชิมความปรารถนาที่คิดไว้ทันทีลิ้นร้อนของหยางหลิงอี้เกี่ยวตวัดอย่างเอาแต่ใจมีหรือที่คนไม่มีประสบการณ์อย่างหวังฟางจิงจะตามทันบทจูบที่แสนเอาแต่ใจนี้จบท้ายด้วยการที่ฟันคมกัดลงที่ริมฝีปากบางจนด้เลือดถือเป็นการลงโทษเบาๆหยางหลิงอี้ผละใบหน้าออกเพื่อมองดูผลงานตัวเองมือเรียวสวยของหวังฟางจิงตบเข้าที่ใบหน้าของหยางหลิงอี้อย่างแรง
"เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!"เสียงเดือดดาลของหวังฟางหวังพูดขึ้นหยางหลิงอี้ลูบแก้มตัวเองข้างที่โดนหวังฟางจิงตบสายตาร่างสูงเปลี่ยนไปทันทีจากที่ดูเจ้าเล่ห์ในตอนแรกก็เป็นดุดันแทนมือแกร่งคว้าเอวบางที่คิดจะหนีเหวี่ยงลงที่เตียงอย่างแรงหวังฟางจิงหวาดกลัวหยางหลิงอี้ในตอนนี้ที่สุดร่างบางพยายามขยับถอยหนีแต่ก็ถูกมือหนาดึงกลับมาหวังฟางจิงดิ้นอย่างสุดแรงสองมือเรียวที่พยายามปะทุร้ายหยางหลิงอี้ก็ถูกรวบไว้เหนือหัว
"โทษตัวเจ้าเองเถอะที่คิดจะหนีข้า"
" อะ...อื้ออ"หยางหลิงอี้โน้มใบหน้าลงมาเพื่อหวังจะช่วงชิมความหวานจากปากแดงอีกครั้งแต่ครั้งนี้หวังฟางขัดขืนเต็มทีฟันคมของร่างสูงกัดลงที่ปากบางจนได้เลือดหวังฟางจิงเผลอร้องออกมาจึงทำให้อีกคนที่รอจังหวะสอดลิ้นร้อนเข้าไปตวัดชิมความหวานจากปลายลิ้นเล็กกลิ่นคาวเลือดที่ป่นเข้ามาทำให้ปลุกสัญชาตญาณความป่าเถื่อนเพิ่มมาอีกเท่าตัว
มืออีกข้างที่ว่างก็เลื่อนลงมาปลดเชือดคาดเอวของหวังฟางจิงออกและมัดข้อมือเล็กไว้ใบหน้าคมค่อยๆเลื่อนลงมาคลอเคลียแถวลำคอขาวกลิ่นประจำตัวของหวังฟางจิงทำให้หยางหลิงอี้รู้สึกมอมเมาหนักกว่าเก่าริมฝีปากร้ายตีตราทั่วทั้งลำคอขาวแล้วค่อยไล่ลงมาถึงแผ่นอกลิ้นร้อนไล่เกี่ยวตวัดยอดอกสลับกับดูดเม้มร่างขาวแอ่นอกขึ้นตามอารมณ์เป็นเพราะฤทธิ์กำยานที่ทำให้ร่างบางเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับหยางหลิงอี้เข้าให้แล้วมือหนาของหยางหลิงอี้ลูบไล้ตามผิวนุ่มลื่นลงมาเรื่อยๆจนถึงแกนกายขนาดพอมือ
"อะ...อย่า"หวังฟางจิงร้องประท้วงขึ้นร่างสูงกุมแกนกายร่างบางมือหนารูดขยับขึ้นลงตามจังหวะที่ร่างสูงกำหนดเสียงครางหวานดังขึ้นเป็นระยะร่างสูงมองใบหน้าที่ใกล้จะสุขสมเต็มทีหยางหลิงอี้เร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้นไม่นานนักน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาเปื้อนเต็มฝ่ามือหนาหวังฟางจิงนอนเหนื่อยหอบอย่างหมดแรงร่างบางสะดุ้งตัวขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความชื้นแฉะที่ช่องทางหลังเป็นหยางหลิงอี้ที่นำน้ำรักของเขามาป้ายที่ช่องทางอุ่นสองปลายนิ้วค่อยๆแทรกเข้ามาหวังฟางจิงลิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
" อ๊ะ อื้ออ...เอาออกไป"หวังฟางจิงพยายามดันตัวออกยามที่อีกฝ่ายกดนิ้วเข้ามาจากสองไปสามนิ้วหวังฟางจิงพยายามกลั้นเสียงจนกระทั่งเผลอร้องออกมาหยางหลิงอี้ยกยิ้มร้ายขึ้นเมื่อรู้ว่าตนควานหาจุดของอีกฝ่ายเจอเข้าให้แล้ว
" อื้ออ..อะ..อ๊ะ!"ร่างสูงจงใจกระแทกนิ้วให้โดนจุดหลายๆรอบหยางหลิงอี้รอบมองใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างยั่วยวนซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างสูงอดไม่ได้ที่จะโน้มศรีษะลงบดจูบหวังฟางจิงอีกรอบก่อนที่จะถอดนิ้วออก
"ต่อไปจะเป็นของจริง"หยางหลิงอี้ถอยออกมาปลดอาภรณ์ตนเองออกจนหมดใบหน้าแดงของหวังฟางจิงหันหน้าหนีทันทีหยางหลิงอี้ดึงคนตัวเล็กกว่ามามือที่ถูกมัดไว้ก็นำมาคล้องที่คอร่างสูงในตอนนี้หวังฟางจิงอยู่ในท่าคร่อมร่างสูง
"หยางหลิงอี้เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ..ขะ..ข้าสัญญาว่าจะไม่หนีเจ้าไปแล้ว"น้ำตาของร่างบางไม่ได้ทำให้หยางหลิงอี้สงสารแม้แต่น้อยตรงกันข้ามมันกลับทำให้อีกฝ่ายดูน่ารังแกมากกว่าเก่าอีก
"สายไปแล้วรอรับบทลงโทษจากข้าเถอะฟางจิง"หยางหลิงอี้จับเอวบางกดลงบนแกนกายใหญ่รวดเดียวความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วถึงแม้ก่อนหน้านี้ร่างสูงเบิกช่องทางเขาไว้บ้างแล้วแต่เทียบเท่ากับขนาดของหยางหลิงอี้ก็แทบไม่มีความหมายการกระทำที่รุนแรงของอีกฝ่ายทำให้หวังฟางจิงพยายามดันตัวขึ้นแต่ก็ถูกอีกคนกดตัวแช่ไว้หยางหลิงอี้ขบกรามแน่นเมื่อช่องทางอุ่นรัดแกนกายมากไป
"อื้ออข้าเจ็บ..เอาออกไป"
"อย่าเกร็ง"หยางหลิงอี้คว้าใบหน้าสวยเข้ามาจูบเผื่อจะคลายความเกร็งของอีกฝ่ายได้และดูเหมือนจะได้ผลใบหน้าคมผละออกใบหน้าสวยยังคงหลงเหลือคราบน้ำตาอยู่บ้าง
"อ๊ะ!..ข้าเจ็บ.."เพียงแค่หยางหลิงอี้กระทุ้งเข้าออกเบาๆสีหน้าเกยด้วยความเจ็บของหวังฟางจิงก็แสดงออกมาทันที
"ทำไมหากเจ้าเจ็บก็ลองขยับเองซะสิ"หวังฟางจิงตัดสินใจค่อยๆเริ่มขยับตามจังหวะท่าทางที่ดูเงอะงะของร่างบางดูขัดใจหยางหลิงอี้อยู่บ้างจนมือหนาต้องเข้ามาประคองเอวบางไว้จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่ร่างสูงหวังฟางจิงก้มหน้าซบไหล่หนาเสียงครางอื้ออยู่ในลำคอของหวังฟางจิง'เหมือนลูกหมาน้อยไม่มีผิด'หยางหลิงอี้แกล้งกระแทกสวนเอวบางขึ้นมาสองสามรอบนั้นทำให้ร่างบางเผลอฝังเขี้ยวลงบ่ากว้างของร่างสูงเพื่อระบายความเจ็บแต่ยิ่งร่างบางกัดนานแค่ไหนคนตัวสูงก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นเท่านั้นจนหวังฟางจิงต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ละผละใบหน้าออกคราวนี้หยางหลิงอี้เปลี่ยนท่าทางจากที่ให้ร่างบางนั่งคร่อมตนก็เปลี่ยนเป็นให้อีกฝ่ายอยู่ในท่าคลานเอ็นร้อนสอดเข้าที่ช่องทางอุ่นอีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้หยางหลิงอี้เลือกที่จะทำตามสัญชาตญาณดิบของตนเสียงกรีดร้องของร่างบางร้องขอให้ช้าลง
"หลิงอี้ อ๊ะ..อ๊า..ชะ..ช้าลงหน่อย"ดูเหมือนการขอร้องจะใช้ไม่ได้ผลและดูเหมือนจะกระตุ้นให้ร่างสูงกระทำหนักกว่าเก่าหยางหลิงอี้โน้มตัวลงฝังเขี้ยวที่แผ่นหลังขาวอยู่หลายจุดถือเป็นการเอาคืนที่หวังฟางจิงได้กัดตนไปเสียงร้องครวญครางป่นสะอื้นดังสลับกันเป็นระยะร่างบางปลดปล่อยไปได้หลายรอบแล้วแต่อีกฝ่ายดูท่าทีจะไม่จบลงง่ายๆจนกระทั่งรอบสุดท้ายทีคนตัวเล็กจะรับได้ก็ได้ขอร้องร่างสูงไปอีกครั้ง
"หลิงอี้..ข้า..อ๊ะ..จะไม่ไหวแล้ว"เสียงแหบแห้งของหวังฟางจิงบ่งบอกว่าหมดแรงแล้วจริงๆหยางหลิงอี้จับเอวบางเร่งจังหวะกระแทกเข้าออกก่อนที่จะถอนแกนกายออกน้ำสีขาวขุ่นไหลออกตามโคนขาขาวช่างเป็นภาพที่น่าดูสำหรับหยางซื่อจื่อหวังฟางจิงที่มีท่าทีจะล้มลงก็ถูกหยางหลิงอี้คว้าตัวไว้ซะก่อน
"จำไว้นับจากนี้เจ้าเป็นของข้าเพียงผู้เดียว"หยางหลิงอี้พูดขึ้นก่อนที่หวังฟางจิงจะสลบไปเมื่ออีกฝ่ายสลบไปแล้วหยางหลิงอี้ก็หยุดได้ด้วยเช่นกันร่างสูงลุกขึ้นมาสวมอาภรณ์ให้เรียบร้อยดวงตาคมทอดมองหวังฟางจิงที่สลบอยู่กายที่เคยขาวราวกับหิมะบัดนี้โดนเขาแต่งแต้มรอยแดงเต็มไปหมด
หยางหลิงอี้แกะเชือกที่ผูกกับข้อมือเล็กออกและนำผ้ามาคลุมตัวหวังฟางจิงแล้วอุ้มร่างบางออกมาขึ้นรถม้าใบหน้าคมหันกลับไปชำเหลืองหอโคมแดงอีกรอบใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆของหยางหลิงอี้ทำเอาเจียงหมิงไม่กล้าเงยหน้ามองซื่อจื่อของเขาเลยสักนิด
"เผาที่นี้ทิ้งซะ"หยางหลิงอี้พูดกับเจียงหมิง
"แต่ซื่อจื่อ.."
"นี่คือจุดจบของคนที่กล้ามาแตะของของข้าถ้าข้าไม่อนุญาตใครหน้าไหนก็อย่ามายุ่ง"
"ข้าน้อยรับคำสั่ง"เจียงหมิงเดินแยกตัวออกไปหลังจากที่เขาได้รับคำสั่งจากซื่อจื่อ
เจียงหมิงมองหอโคมแดงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถอนหายใจแล้วพูดออกมา 'จะโทษก็โทษที่พวกเจ้ารับคนมาไม่ดูประวัติซะเถิด'
รถม้าของหยางหลิงอี้เคลื่อนตัวออกมาได้สักพักหยางหลิงอี้ก็รู้สึกถึงความผิดปกติจู่ๆมีธนูที่ลอดเข้าในรถม้าของร่างสูงโชคดีที่หยางหลิงอี้เบี่ยงหลบได้ทันไม่นานนักก็มีเสียงต่อสู้กันอยู่ภายนอกร่างสูงยกยิ้มร้ายขึ้น'หากอยากตายกันมากนักข้าจะสงเคราะห์ให้ 'หยางหลิงอี้ประคองหวังฟางจิงให้นอนพิงกับมุมรถแล้วออกไปจัดการกับกลุ่มมือสังหารด้านนอก
หวังฟางจิงลืมตาขึ้นหลังจากที่หยางหลิงอี้ออกไปแล้วร่างบางค่อยๆขยับตัวเดินออกมาด้วยความยากลำบากนี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะมีโอกาสได้หนีอีกครั้งหวังฟางจิงกัดฟันทนความเจ็บรีบวิ่งออกมาทันทีหยางหลิงอี้ที่จัดการมือสังหารได้แล้วสายตาคมเหลือบไปเห็นหวังฟางจิงที่พยายามจะหนีร่างสูงที่กำลังจะไปหาร่างบางก็มีกระบี่ด้ามหนึ่งพุ่งเข้ามาหาตนซะก่อนหยางหลิงอี้ถอยตั้งรับกระบี่ของบุคคลปริศนาหยางหลิงอี้รู้สึกได้ว่าฝีมือของคนผู้นี้สูสีกับเขามากทั้งคู่ฟาดฟันกระบี่ไปเรื่อยๆจนตอนนี้เป็นบุรุษชุดดำที่เริ่มจะเสียเปรียบให้หยางหลิงอี้เมื่อเห็นท่าจะไม่ดีชายชุดดำรอโอกาสที่อีกฝ่ายเผลอก็ปาระเบิดหมอกยาสลบใส่หยางหลิงอี้แล้วรีบพาตัวหวังฟางจิงไป
"ซื่อจื่อให้ข้าตามไปหรือไม่"เจียงหมิงที่มาที่หลังเอ่ยถามหยางหลิงอี้ที่ถอยออกมาจากหมอกควันได้
"ไม่ต้องสั่งทหารที่เฝ้าประตูเมืองทั้งหมดว่านับจากนี้ให้ตรวจคนเข้าออกให้ละเอียดหากพบคนน่าสงสัยให้จับตัวไว้ทันที"
"ขอรับซื่อจื่อ"
.
หวังฟางจิงลืมตาขึ้นอีกครั้งภาพจำสุดท้ายก่อนที่ตนจะสลบไปเขากำลังหนีหยางหลิงอี้ออกมาแล้วดันเผลอสูดกลิ่นยาสลบเข้าจากนั้นเขาก็หมดสติไปร่างบางยันตัวขึ้นช้าๆจมูกเขากลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคยทำให้ร่างบางนึกถึงใครบางคนขึ้นมา
"เจอเจ้าทีไรสภาพเจ้าดูไม่ได้ตลอดเลยนะ"น้ำเสียงที่ดูอ่อนโยนของคนนั้นพูดขึ้นรอยยิ้มอันอบอุ่นที่ส่งมาให้ร่างบางยังคงเหมือนเดิม
"หลี่เฟิงซี"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!