ตอนที่ 1 คาสิโน
ภายในคาสิโนที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าใครก็ต่างมีความโลภกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่รวยอยู่แล้วก็ยังอยากได้ไม่มีวันจบสิ้น คนจนก็หวังอยากจะร่ำรวยขึ้นมาบ้าง คาสิโนแห่งนี้ล้วนแต่ต้อนรับทุกคนที่อยากเข้ามาใช้บริการ ไม่ใช่ว่าจะมีบ่อนการพนันที่เปิดอย่างถูกกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่ภายในยังมีร้านอาหารและชั้นบนก็ยังเปิดเป็นโรงแรมให้แขกได้พักอีกด้วย
เสียงลือเสียงเล่าจากหนึ่งคนสู่อีกคน ใครๆก็ต่างรู้กันดีว่าคาสิโนแห่งนี้ถูกปกครองด้วยชายหนุ่มที่น่าเกรงขาม จะเรียกว่าเขาเป็นมาเฟียก็คงจะไม่ผิด แต่หากยังไม่ค่อยมีใครได้เห็นหน้าชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของที่นี่ แม้จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านสว่างและด้านมืดเขาก็ไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยตัวตนให้คนอื่นได้รู้จักสักเท่าไหร่
เหมันต์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนที่ติดการพนัน หากอยากจะได้ทุนเพื่อเล่นต่อก็รู้ได้เลยว่าควรต้องทำยังไง แต่ทว่าก็ต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้ เพราะถ้าไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก็มีแต่ตายกับตายเพียงอย่างเดียว
ภายในห้องกระจกด้านบนของคาสิโน ควันบุหรี่ถูกพ่นออกจากริมฝีปากจนกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว ชายหนุ่มร่างหนาหมุนเก้าอี้หันกลับมาก่อนจะลุกเดินไปยังกำแพงกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นด้านล่างของคาสิโนได้เกือบทั้งชั้น
“นายครับมีคนขอกู้เงินเพิ่มครับ เห็นว่าเป็นเพื่อนของลูกชายคุณสุธีย์ เอายังไงดีครับนาย"
“ต้องการเท่าไหร่" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทก่อนที่มือหนาจะหยิบแก้วเครื่องดื่มสีเหลืองอำพันยกขึ้นจิบอย่างสบายใจ
“ห้าล้านครับนาย" เมฆาลูกน้องคนสนิทของเหมันต์เอ่ยตอบออกไป ปกติถ้ามีเด็กหลุดลอดเข้ามาในคาสิโน นายของเขาจะสั่งให้โยนออกไปทันทีโดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เหมันต์กำลังครุ่นคิดหรือเพราะเด็กนั่นเป็นเพื่อนกับลูกชายคุณสุธีย์ ลูกค้ารายใหญ่ของคาสิโนจึงยังไม่สั่งให้เขาเอาตัวออกไป
“ให้ไปตามที่ต้องการ" มุมปากยกขึ้นเผยรอยยิ้มแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไร
ร่างหนาเดินกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะหยิบแท็บเล็ตเครื่องหรูเลื่อนดูอะไรบางอย่าง
//..
ภายในร้านที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสหลากหลายชนิดดอกไม้ทั้งหมดถูกเตรียมไว้เพื่อขายในวันพรุ่งนี้ ข้าวของถูกจัดเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนที่ไฟในร้านจะถูกปิดลงเพราะถึงเวลาเลิกงานในช่วงเย็น
“พี่แนน ม่านไปแล้วนะครับ” เด็กหนุ่มร่างบางเอ่ยบอกกับผู้เป็นเจ้าของร้าน
“ม่านดาว พี่ว่าม่านทำงานหนักเกินไปแล้วนะ เลิกงานจากร้านพี่แล้วยังจะไปทำงานต่อที่คาสิโนนั่นอีก ม่านเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อนเนี่ย” เสียงจากแนนหญิงสาวเจ้าของร้านดอกไม้เอ่ยถามขึ้น ปกติหลังจากเลิกงานที่ร้านดอกไม้ ม่านดาวจะรับทำงานพิเศษที่ร้านอาหารภายในคาสิโน เนื่องจากน้องชายของเขายังต้องเรียนมหาลัยจึงต้องรีบหาเงินให้พอต่อค่าเทอมที่กำลังจะต้องจ่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“ม่านไม่ได้มีทางเลือกมากหรอกครับพี่แนน มีอะไรให้ทำม่านก็ต้องทำไปก่อน อีกไม่นานตะวันก็คงเรียนจบแล้ว หลังจากนั้นม่านคงได้พักผ่อนบ้างแหละครับ" ร่างเล็กยิ้มจนตาหยีส่งให้หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของร้าน อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาเข้างานแล้ว แม้คาสิโนจะอยู่ไม่ไกลจากร้านดอกไม้ที่เขาทำงานอยู่เท่าไหร่แต่ก็ต้องเข้างานให้ตรงเวลาเพื่อไม่ให้โดนหักเงินเดือน
“ม่านไปแล้วนะครับ" มือเล็กยกขึ้นไหว้ลาก่อนจะรีบเดินเลาะตามฟุตบาทริมทาง ร่างบางตรงไปยังคาสิโนที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกวัน
//..
ฝั่งคาสิโน
เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นทั่วใบหน้าที่กำลังเคร่งเครียดจนต้องใช้มือปาดออกครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ภายในคาสิโนจะเย็นจัดเพราะเครื่องปรับอากาศขนาดยักษ์ แต่มันก็ไม่ทำให้เด็กหนุ่มนักศึกษาที่กำลังเล่นการพนันอยู่หายร้อนได้ เงินหลายล้านที่พึ่งกู้มาไม่กี่นาทีก่อนนี้นั้นกำลังจะหมดไปอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่คาดคิด
“ตะวันพอก่อนดีมั้ยวะ มึงเสียจนจะหมดตัวแล้วนะเว้ย” ไททัสลูกชายคนเล็กของคุณสุธีย์พูดกับเพื่อนสนิทที่กำลังถูกผีพนันเข้าสิง แม้จะเตือนแล้วก็ยังห้ามความคึกคะนองของเพื่อนไม่ได้เขาจึงต้องปล่อยเลยตามเลย
“งั้นตานี้ก็เทให้หมดหน้าตักไปเลยแล้วกัน" สุดท้ายเมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะหมดตัวตะวันก็ไม่ได้สนใจ เขาทุ่มเงินทั้งหมดที่มีอยู่ลงเล่นครั้งสุดท้ายเผื่อว่าโชคอาจจะเข้าข้างอยู่บ้าง
“เป็นไปตามคาดครับนาย เด็กนั่นหมดตัวแล้วจะให้ผมเอายังไงต่อดีครับ" อคินลูกน้องอีกคนของเหมันต์พูดรายงานผู้เป็นเจ้านาย
“ปล่อยไปก่อน เดี๋ยวค่อยจัดการทีหลัง” เหมันต์เดินออกไปจากห้องหลังจากสั่งการลูกน้องเสร็จ
รถหรูคันใหญ่วิ่งออกจากลานจอดรถส่วนตัวภายในคาสิโนมุ่งหน้าออกนอกเมือง บ้านพักส่วนตัวที่มีการคุ้มกันจากบอดี้การ์ดหลายสิบคนเป็นที่อยู่ของ เหมันต์ เขาสร้างที่นี่ขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอสำหรับอยู่หลังแต่งงาน แต่มันก็ดันเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นก่อน จนที่นี่ต้องกลายเป็นบ้านพักของเขาไปโดยปริยาย
“วันนี้คุณชายกลับเร็วกว่าปกตินะคะ" เสียงจากหญิงชราเดินออกมาจากภายในห้องครัว พร้อมกับช่วยถอดเสื้อคลุมตัวนอกให้ชายหนุ่มร่างใหญ่
“พอดีวันนี้ผมอยากพักผ่อนครับก็เลยกลับเร็ว" ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงชราก่อนจะสวมกอดอย่างอ่อนโยน
ป้าแก้ว แม่นมที่คอยดูแลเหมันต์มาตั้งแต่เขาจำความได้ หลังจากพ่อและแม่ของเขาต้องไปคุมงานที่คาสิโนอีกแห่งที่ต่างประเทศ เขาจึงต้องอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีทางเลือกเพราะตอนนั้นเหมันต์ยังเด็กมากพ่อและแม่ของเขาจึงไม่อยากเสี่ยงให้ไปอยู่ที่ต่างประเทศด้วย
แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่พ่อแม่ของเหมันต์ก็ติดต่อมาตลอด บางครั้งเมื่อมีเวลาว่างก็จะบินกลับมาหาลูกชายอยู่บ่อยๆ เหมันต์จึงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรไป
“มีอะไรรึเปล่าคะ วันนี้ทำไมทำตัวอ้อนป้าแปลกๆ" มือเหี่ยวลูบที่แผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างเบามือ ทุกครั้งที่เหมันต์รู้สึกเหนื่อยเขาจะทำตัวแบบนี้ตลอด ซึ่งเธอก็จะคอยถามไถ่อยู่เสมอ
“ไม่มีอะไรครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวขึ้นไปพักก่อนนะครับ"
//..
ร้านอาหาร
“ม่านดาวแกทำแบบนี้กับแขกได้ยังไง รู้มั้ยว่าเขาเป็นถึงลูกท่านรัฐมนตรีเลยนะ” เสียงดุด่าจากผู้จัดการร้านดังขึ้น ทำให้พนักงานทุกคนในห้องถึงกับหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
“ก็เขาลวนลามม่านดาวก่อนนะครับ แค่โดนน้ำสาดมันยังน้อยเกินไป" เมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังโดนดุเรื่องที่ไม่ได้เริ่มก่อน มันก็อดไม่ได้ที่จะออกตัวแทน
ปกติม่านดาวไม่ใช่คนที่จะโต้ตอบอะไรใครเอาแต่ก้มหน้าทุกครั้งที่โดนเรียกตักเตือน แต่มันไม่ใช่กับเอวาเขาพร้อมบวกเสมอเมื่อเพื่อนต้องการ
“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลยเอวาแกก็เหมือนกัน ลูกค้าจะหนีหมดก็เพราะอย่างนี้ไง มีอย่างที่ไหนไปด่าลูกค้าแบบนั้น"
“ทำไมจะด่าไม่ได้ครับ ลูกค้าไม่ใช่พ่อใช่แม่ซักหน่อยที่จะยอมให้ทำอะไรตามใจชอบแล้วก็ปล่อยผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น" เอวาอารมณ์เสียทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะเป็นครั้งแรกแต่มีหลายครั้งที่ม่านดาวโดนลวนลามแต่ทางร้านก็ไม่ได้จัดการอะไรเลย
อีกอย่างเพราะม่านดาวเองก็ไม่อยากเป็นตัวปัญหาที่ทำให้ร้านต้องเสียชื่อเสียง แต่ครั้งนี้ม่านดาวคงจะทนไม่ใหวจริงๆถึงต้องทำแบบนั้นออกไป
“นี่จะเป็นการเตือนครั้งสุดท้ายนะม่านดาว ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกฉันจะไล่พวกแกออกทันทีได้ยินมั้ย" ผู้จัดการสาวปากแดงพูดกระแทกเสียงใส่ทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับอารมณ์หงุดหงิด
“ไม่ต้องไปสนใจหรอกม่าน ไล่ออกก็แค่หางานใหม่ ไม่เห็นจะยาก" เอวายักไหล่สองข้างเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรแม้จะถูกตำหนิก็ตาม
“ม่านทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเอวา ยิ่งช่วงนี้งานก็หายากม่านไม่มีทางเลือกมากนักหรอก แค่อดทนอีกไม่นานให้ตะวันเรียนจบ ม่านก็คงจะเลิกทำงานที่นี่แล้วแหละ" คนตัวเล็กฝืนยิ้มให้เพื่อนของเขา ทั้งที่ตัวเองเป็นคนก่อเรื่องแท้ๆแต่กลับให้เอวาเป็นคนออกหน้ารับแทนทุกครั้งไป
“งั้นก็อดทนแล้วกันนะม่าน มีอะไรที่เราช่วยได้ก็บอกเลยนะ เรายินดีจะช่วย"
“อือ ขอบคุณนะเอวา แต่ตอนนี้เรากลับบ้านกันเถอะนี่ก็ดึกมากแล้ว"
หลังจากเลิกงานช่วงดึกของทุกวัน ม่านดาวและเอวาจะกลับทางเดียวกันตลอด บ้านของม่านดาวอยู่ในซอยลึกห่างจากคาสิโนอยู่ไกลพอสมควรส่วนเอวาอาศัยอยู่ในซอยถัดไป
บ้านไม้หลังเล็กที่ผุพังตามกาลเวลาเป็นที่พักของม่านดาวและตะวันน้องชายคนเดียวของเขา หลังจากยายคนที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กเสียไปเมื่อหลายปีก่อนม่านดาวก็อาศัยอยู่กับน้องชายเพียงสองคน ตอนที่ยายของเขายังมีชีวิตอยู่เคยพูดถึงเรื่องที่ดินต่างจังหวัดที่ยายเคยซื้อไว้ตั้งแต่สาวๆ แต่ม่านดาวก็ไม่ได้คิดจะค้นหาว่ามันคือที่ไหนอีกทั้งโฉนดที่ดินแปลงนั้นที่ยายพูดถึงเขาก็ไม่เคยเห็นมันเลยซักครั้ง ยายคงจะเก็บไว้ในบ้านหลังนี้ไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งซึ่งม่านดาวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ร่างเล็กหยุดเดินเมื่อถึงหน้าบ้านปกติแล้วน้องชายของเขาจะเปิดไฟรอเป็นประจำ แต่วันนี้กลับแปลกไปเหมือนว่าไม่มีใครอยู่ภายในบ้านเลย ประตูรั้วไม้เก่าๆที่แทบจะหลุดออกจากกันเพราะตะปูที่ตอกไว้เริ่มจะขึ้นสนิมถูกมือเล็กเปิดออกก่อนจะปิดลงและคล้องโซ่เพื่อล็อกอีกชั้น
ม่านดาวเดินเข้าไปด้านในบ้านสวิตช์ไฟที่อยู่ด้านข้างประตูถูกกดเปิด เมื่อไฟสว่างขึ้นก็รู้ได้ทันทีว่าน้องชายสุดที่รักของเขานั้นยังไม่กลับเข้าบ้าน ทุกครั้งหากตะวันมีทำรายงานหรือทำอะไรก็จะโทรบอกก่อนหรือไม่ก็ส่งข้อความไว้ตลอด แต่วันนี้ตะวันยังไม่ติดต่อเขามาเลยมันทำให้ม่านดาวรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมา
Rrrrrr…
ไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ภายในกระเป๋าเป้ที่เขาสะพายติดตัวไว้ตลอดก็ดังขึ้นจนม่านดาวเองก็ตกใจ
“ตะวันอยู่ที่ไหนทำไมยังไม่กลับบ้านอีก" ม่านดาวถามออกไปทันทีที่กดรับสายจากผู้ที่เป็นน้องชาย
“พี่ม่าน… วันนี้ผมยังไม่กลับนะ พอดีที่มหาลัยมีออกค่าย น่าจะกลับอาทิตย์หน้าเลยครับ" ตะวันพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะให้พี่ชายรู้เรื่องที่เขาติดหนี้จำนวนมาก เขาอยากทำใจก่อนจะบอกความจริงแต่ระหว่างนี้เขาจะลองหาทางออกเองก่อนถ้าหากม่านดาวได้รู้ก็คงจะเสียใจมาก ตลอดเวลาพี่ชายของเขาทุ่มเทเพื่อหาเลี้ยงและส่งเสียเขาเพื่อให้ได้เรียน มีแค่ตนเองที่ทำตัวไม่เอาไหนแถมยังจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก
“พี่ก็กำลังเป็นห่วงตะวันอยู่พอดีเห็นว่ายังไม่เข้าบ้าน ดูแลตัวเองแล้วกันนะถ้าต้องการอะไรเพิ่มก็บอกพี่"
“ขอบคุณนะครับพี่ม่าน แค่นี้ก่อนนะครับผมต้องไปทำงานต่อแล้ว"
หลังจากวางสาย ม่านดาวตรงเข้าไปยังห้องพัก เขาทิ้งตัวลงบนที่นอนเก่าแต่ก็ยังดูสะอาดสะอ้าน เปลือกตาที่หนักอึ้งปิดลงเรื่อยๆจนทุกอย่างรอบตัวมืดสนิท ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายวันทำให้ร่างเล็กเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
Tbc.
เหมันต์ : ให้ไปตามที่ต้องการ 😏
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!