NovelToon NovelToon

Admin'S Diary

วันเสาร์ ที่ 8 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2567

     วันนี้เป็นวันที่แอดจะต้องไปทำงานกลุ่มกับเพื่อน ซึ่งก็ตื่นมาทำงานบ้านตอน 6 โมงเช้าเพื่อทำงานบ้านก่อนตามปกติ

     หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ 8 โมง แม่ก็ขับรถไปส่ง(แอดยังขับรถไม่เป็นนะ)บ้านเพื่อนค่อนข้างอยู่ไกล ขับไป 30 นาทีกว่าจะถึง ระหว่างทางก็คุยนุ่น คุยนี่กับแม่ไปบ้าง

"มีร้านค้าหรือเซเว่นก่อนจะไปถึงบ้านเพื่อนไหม?"

"ไม่มี มีแต่ร้านธรรมดา"

"งั้นหนูไปร้านค้าธรรมดาก็ได้ "เข้าใจว่าร้านธรรมดาคือร้านค้าแต่ตอบเชิงเล่นๆ

"ก็ร้านค้านั้นแหละ"

     แล้วก็ชอบคุยตอนขับรถอยู่สุดๆ แล้วลมมันตีเลยไม่ค่อยได้ยินเสียงเลย เป็นไม่กี่ช่วงเวลาที่ได้คุยกับแม่ถึงจะอยู่ด้วยกันก็ตาม แต่ตอนอยู่ที่บ้านกลับทำตัวเหมือนไม่รู้จักกัน ไม่คุยอะไรกันสักคำ มีตอนที่คุยกันแค่ตอนขับรถกับตอนกินข้าว ระหว่างทางที่คุยกันอยู่แอดก็โดนแมลงหรือตัวอะไรไม่รู้เข้าตา

"แม่ๆแมลงเข้าตา"

"เจ็บมากไหม? ค่อยจอดตรงร้านค้า" เป็นห่วง,รีบขับรถ

"จอดเลยได้ไหมอ่ะ อะไรเข้าตาไม่รู้ จับแล้วมาเป็นตัวเลย" ปกติแอดจะบอกว่าไม่เป็นอะไรตลอด จะชอบคิดมากเอาเอง แล้วไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง(ต่อให้เป็นก็ไม่เป็นไร:)แล้วค่อยเอาออกเองแต่ตอนนั้นคือแมลงยังอยู่ก็ตัวไม่ใหญ่มากโชคที่หลับตาทันนิดนึงแต่เจ็บ

"ถึงร้านค้าแล้ว เป็นไง" จอดรถแล้วหันมาดู

"แมลงมันออกแล้ว มีอะไรคาอยู่ไหม" มันยังระคายเคืองตาอยู่

"ไม่มีแล้ว" มองดู

     จากนั้นก็เดินเข้าไปซื้อของ แล้วไปถึงบ้านเพื่อนถึงบ้านเพื่อนตอน 8.30 น. ตอนที่เพื่อนออกมารับคือยังใส่ชุดนอนเสื้อแขนยาวกับกางเกงขายาวบางๆลายชินมอนสีฟ้าอยู่แถมขาดใหญ่มากตรงแขนที่รอยเย็บทั้งสองข้าง ตอนถึงก็สวัสดีแม่ของเพื่อน หน้าตาดูเด็กมากจนเห็นครั้งแรกบอกว่าเป็นพี่สาวก็เชื่อ พอเห็นอย่างนั้นหลังยกมือไหว้แม่เพื่อน

"ทำไมเองมาเร็วจัง?"

"เร็วตรงไหนนี่ 8.30 น. แล้ว?"

"เองบอกว่าจะมา 9-10 โมง"

"เอ้า..ฮ่าๆๆ มาก่อนเวลามารยาทไง"

"พวกนั้นยังไม่มาเลยคนบอกว่าจะมาสาย กลับมาคนแรก"

"แกแหละทำไมยังใส่ชุดนอนอยู่เลย " พูดเล่นๆ ขำๆกับเพื่อน

"เห็นไหมเนี่ยเราทำอะไร ถูบ้านอยู่เราทำงานบ้านนะ" ขำ,ถือไม่ถูพื้น (ถือจริงๆ ไม่ได้ทำอะไรถือเฉยๆ แค่ถือออ)

"เห็นไหมเนี่ยเราตื่นมา 6 โมง มาถึง 8 โมง อาบน้ำตั้ง 1 ชั่วโมงแล้วมาหาเองยังไม่ทันอาบน้ำเลย "

"5555555555"

"แล้วทำไมชุดขาดอ่ะ" สงสัย

"พี่ดึงขาด"

"อ๋อ" สงสัยอยู่แต่ไม่ถามต่อ

     สักพักไม่นานมากนักเพื่อนก็มากันจนครบ มีอยู่สามคนรวมแอดด้วยเป็นสี่ พอดีมากกก เพราะงานที่มาทำคือบทละคร มีสี่ตัวละครพอดี จะอธิบายว่าเพื่อนของแอดเป็นยังไงเผื่อจะได้ไม่งงแต่ถ้าใครงงแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงนะ>< เป็นการแต่งนิยายบรรยายครั้งแรกพอเกิดเกตุการณ์แล้วก็มาบันทึกไว้เลยเพราะแอดเป็นคนลืมง่ายมากๆ แต่ไม่อยากลืมเรื่องนี้เลย เป็นคนอธิบายไม่ค่อยเก่งด้วย

     เพื่อนแอดคนแรกเจ้าบ้านนามแฝงเอาเป็นชินแล้วกัน เป็นคนที่สวย สวยมากๆ ตัวแม่ตัวมัม ตัวมารดา เป็นแม่จริงๆ ที่ปรึกษาของกลุ่มเป็นมัมมี้ เรียนเก่งถนัดเทคโนโลยี เก่งทุกอย่างความรู้รอบตัวเยอะ หลงป่าจะรอดไหม?(รอดแหละ) รู้อาการแทบทุกโรคจะเป็นหมอได้อีกไม่ไกล(เพื่อนจะเป็นเภสัชกร ตรงนี้เหตุผลว่าทำไมอยากเป็นคือ..ความลับ อิอิ) เป็นคนเซนต์แรงมากกกสุดๆๆ จนไม่เรียกว่าเซนต์เปรียบเป็นอ่านใจหรือรู้อนาคตล่วงหน้ายังได้(มองทะลุถึงความรู้สึกของคนอื่นและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แต่กลับไม่เข้าใจตัวเอง) MBTI\=infj

     คนที่สองนามแฝงคือธัน (ถ้าใครเข้าใจความคิดแอดน่าจะรู้ชื่อได้นะ;) เป็นผู้หญิงน่ารักมากๆ สดใสเฟรนลี่(ไม่ชอบเสียงดัง หรือคนอยู่มาก)คำนิยามสั้นๆที่เหมาะกันเพื่อนคนนี้ คือ ยิ้มได้ก็ร้องไห้ได้เหมือนกัน,ยิ้มทั้งที่ในใจยังร้องไห้,ร้อยยิ้มเธอมีค่าสำหรับเรามากนะ เก่งมากๆแล้วนะ MBTI\=infj

♡คนเก่ง (⁠*⁠˘⁠︶⁠˘⁠*⁠)⁠~.⁠。⁠*⁠♡

     คนที่สามนามแฝงคือฟิน ใส่แว่น สวยน่ารักรวมกันในคนเดียว~ เรียนเก่งมากๆ มีความรับผิดชอบ ขยันกดดันตัวเองตลอด คิดมาก อยากให้แกผ่อนคลายบ้างถึงจะพูดได้แต่ทำยาก การที่แกกดดันตัวเองถึงจะพยายามทำได้อยู่แต่มันฝืนแล้วลำบากมากเลยนะ(⁠╥⁠﹏⁠╥⁠) ใส่ใจเพื่อน(หวงหนักมากๆ หึงด้วย) เรียนจบแล้วอยากเอาพวงมาลัยมาให้ เป็นคนที่ไม่เชิงเฟรนลี่แต่เป็นมิตร(มิจฉาชีพ)ล้อเล่นๆ>< เพื่อนเราดีทุกคนเลย MBTI\=intj

     คนที่สี่ แอดเองงง นามแฝงเป็นคาริม(ครีมก็ได้ นี่มีแต่คนชอบย่อแอดย่อเอง°^° อิอิ) จะมาให้บอกว่าตัวเองเป็นยังไงเดี๋ยวจะหาว่าอวย เป็นคนคิดมากสุดๆ คิดไปไหนไม่รู้ กดดันตัวเอง ไม่ชอบเสียงดังหรือคนเยอะๆ ชอบอยู่คนเดียว แสดงความรู้สึกไม่เก่งหน้านิ่ง ค่อยเป็นห่วงอยู่ห่างๆ ไม่ชอบเป็นจุดสนใจไม่มีความกล้า(อายกรือกลัวอะไรไม่รู้) ปกปิดความรู้สึกไว้ถึงจะบอกว่าชิวๆ ไม่เป็นไร(ดูอินดี้แต่ความจริงคือเครียดและคิดมากตลอดเวลา) ไม่ชอบให้ใครมาลุกล้ำความส่วนตัว ไม่ได้ตั้งใจขีดเส้นไว้แต่มันทำไปเองโดยไม่รู้ตัว (ไม่อยากให้ใครข้ามเส้นมา) MBTI\=intj

แล้วความตลกมันอยู่ตรงนี้ infj ที่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น แต่ไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองมีอยู่ในกลุ่มสองคนเข้าใจกันเองเลยดิ5555 แล้ว intj มีความลับเยอะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่เก็บความรู้สึกไว้ กลับมี infj อยู่ในกลุ่มถึงสองคน ว้าวุ่นเลยทีนี้

     ตอนแรกเป็น istj แค่ย้ายจากบ้านฟ้าเป็นบ้านม่วง น่าจะเกิดจากความเครียดถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ หลายเรื่อง ความจริงทุกคนมีความเครียดหมดนั้นแหละ แต่แอดแค่ไม่รู้จะทำอะไรรู้สึกไม่มีที่พึ่งไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือสังคมรอบตัวก็ไม่น่าจะไว้ใจที่จะระบายอารมณ์ได้ ก็อย่างที่คิดเก็บเอาไว้ทั้งหมดไม่เคยปรึกษาหรือระบายออกมาเก็บไว้คนเดียว จนสงสัยว่าอาจจะเก็บกดหรือเป็นโรคซึมเศร้าก็ได้แต่ก็ถามตัวเองตลอดว่า ขนาดไหนถึงจะเป็นนะ เราไม่มีทางเข้าใจคนที่เป็นหลอก แม้แต่ความรู้สึกของตัวเองยังไม่เข้าใจเลยแล้วจะมีใครเข้าใจเราไม่มีหลอกไม่มีสักคนเลย แต่อย่างน้อยให้เราใส่ใจคนอื่น ชมคนอื่นเยอะๆและค่อยเป็นกำลังใจนึงก็พอ ไม่อยากให้คนอื่นเศร้าและเสียใจแบบเราถึงเราจะห้ามไม่ให้เสียใจหรือร้องไห้ไม่ได้แต่เราจะอยู่ข้างๆเสมอ ไม่หายไปไหนเลย

     ยาวอยู่นะสำหรับใครที่ตั้งใจอ่านมาถึงตอนนี้ก็ขอบคุณมากที่ อ่านความเอาแต่ใจของแอดทั้งที่ยังไม่เข้าเรื่องเลย ตัดไปตอนเย็นเลยนะ <3

     เรากลับบ้านมาหลังจากทำงานกลุ่มเสร็จ ตอนบ่าย 4 โมง แล้วก็ทำงานบ้านเสร็จ บ่าย 5 โมง ก็ไปเก็บชะอมอีกสวน (ไปกับยาย น่ากลัวหรือน่าอายอยู่นะเล่าตอนนี้555) คือเป็นทางเนินอะไรแบบสูง มีป่ายางอยู่รอบๆ น่ากลัว เดินเข้าไปแล้วเงียบมากๆ รู้สึกแปลกๆ แบบไม่อยากเดินเข้าไปอีกเพราะทางมันมองไปแล้วไม่เห็นอะไรนอกจากป่ารู้สึกว่าถ้าหลงคือจะไม่ได้กลับมาอีกเลยแต่อยากเห็นอ่ะ เลยเดินต่อแล้วหันกลับไปมองข้างหลังตลอดเลยยิ่งเข้าไปยิ่งมืด ตอนกลับคือสนุกเพราะเป็นทางเนิดเลยรีบวิ่งลงมาแต่ตอนนั้นคือดีดมากๆ อยากปีนต้นไม้อยากขยับตัว55555 แทบจะวิ่งกลับบ้านแล้วถ้าไม่มีหมา(หยิบกิ่งไม้มาถือ มีรถดีๆ อยากวิ่ง แต่โดนดับฝัน~)

     อาบน้ำ 6 โมง กินข้าว 1 ทุ่ม ตอนกินข้าวก็คุยกับแม่บ้างเป็นเวลาที่ได้คุยกับแม่ 1 วันต่อครั้ง(ถ้าได้กินข้าวด้วยกัน) เวลาขับรถด้วยกันไม่ค่อยมีเพราะเราขึ้นรถรับส่ง แล้วก็ไม่ชอบออกไปไหน วัดอยู่ใกล้ๆเดินไปก็ถึงยังไม่เข้าวัดเลย อย่าว่าออกจากบ้านว่ายากแล้ว ออกจากห้องยากกว่า ถึงจะอยู่บ้านเดียวกันก็จริงแต่เราจะแยกตัวออกไปอยู่คนเดียว ถ้ามีคนอยู่ในห้องเราจะไปอยู่ในครัว ไม่ก็หน้าบ้าน เป็นเพราะงี้น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่สนิทกัน มีน้องชายอยู่คนนึงไม่ต้องพูดถึงเคมีขัดกันสุดยอด ของสุดยอดของสุดยอด อายุห่างกันครึ่งนึง(โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์อีกล่ะ เอามาใช้หน่อยล่ะกัน)แต่ยังไม่รู้อายุแอดเลยเนอะ อืม..บอกดีไหมน่า อยากบอกตอนอายุ 16 แล้วอ่ะ~

ระหว่างที่คุยกันเลยเอาวิดีโอเพื่อนให้แม่ดู

"สวยเนอะ"

"ใช่สวย ทำไมชินหรอ?"

"ใช่เพื่อนหนูสวยทุกคนเลย มีหนูคนเดียวที่ไม่สวย"

"ทำไมเธอถึงคิดว่าตัวเองไม่สวย"

"ก็มีคนสวยกว่า ทั้งห้องอ่ะ หนูขี้เหร่สุดแล้ว ขนาดผู้ชายยังสวยกว่าเลย"(บางคนนะที่อยากเป็นผู้หญิง นอกนั้นก็น่าตาพอใช้ได้(อาจจะหล่อจริงมั้งแค่ไม่ใช่สเปค) แต่นิสัย..)

"ทำไมถึงคิดลบขนาดนั้นล่ะ ใครบอกว่าเธอไม่สวย ไม่เก่ง? มีไหม"

"ไม่มี แต่ก็ไม่มีคนบอกว่าสวย"

"แล้วทำไมต้องให้คนอื่นมาบอกว่าเธอสวยหรือกำหนดคุณค่าของเธอหรอ ไม่มีคนบอกว่าสวย ก็ชมตัวเองสิขนาดแม่ยังชมตัวเองเลย ดูแม่สิสวยตรงไหน มีแผลที่หน้าด้วยจับดูสิเอา แล้วจะกล้าเดินไปไหนมาไหนกับแม่ไหม?"

"กล้า"

"แล้วทำไมถึงดูถูกตัวเองจังล่ะ"

"เปล่า ดูดิขนาดแม่คลอดหนูออกมายังไม่ชมเลย" อันนี้พูดเล่นๆกับแม่นะ><

"ทำไมถึงบอกว่าตัวเองไม่สวย ผิวก็ขาว หุ่นก็ดี แต่กลับไม่มันใจในตัวเอง จะมัวกลัวอะไรอยู่ล่ะ"

"หนูกลัวว่าจะเลี้ยงแม่ไม่ได้ หนูทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ไม่เก่งอะไรเลย" ร้องไห้ ตั้งใจกลั้นน้ำตาแล้วนะเพราะไม่กล้าร้องไห้ต่อหน้าแม่หรือคนอื่นจะแอบร้องไห้คนเดียวตลอด แต่มันกลั้นไม่ไหวจริงกลัวแม่จะว่า คิดว่าตัวเองโตแล้วเป็นพี่โตสุดต้องเข้มแข็งห้ามร้องไห้

(ความจริงแม่พูดละเอียดกว่านี้แต่เราเอาย่อๆพอเนอะ~)

"จะคิดมากอะไรขนาดนั้น นี่เธอเป็นเด็กเก็บกดนะ ไม่ต้องคิดไปถึงอนาคตขนาดนั้นก็ได้มันไกลมากเลยนะ แม่ไม่เคยบอกว่าต้องมาเลี้ยงแม่นะ แค่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอแล้ว แม่แค่อยากให้เธอไปเรียนหนังสือแล้วก็มีความสุขกับช่วงวันรุ่นแค่นั้น ตอนนี้ใครเป็นคนหาเงินให้? "

"แม่..หนูรักแม่นะ" กอดแม่แล้วก็ปล่อยโฮ ร้องหนักมากๆ ร้องนานด้วย ตอนคุยกันก็กินข้าวไปด้วย ปกติเวลาคุยกันเรื่องแบบนี้จะกินข้าวไม่ค่อยอร่อยแต่ วันนี้กลับรู้สึกสบายใจแปลกๆ ข้าวก็ยังอร่อยอยู่ ร้องให้ตอนกินนั้นข้าวนั้นแหละพยายามไม่สะอื้นแล้วแตงกวาเกือบติดคอไปหลายรอบ แม่ก็ขำ ติดตลกไปด้วยความจริงแม่อาจจะอยากร้องไห้ด้วยก็ได้แต่แม่คิดว่า โตแล้วมั่วแต่ร้องไห้ไม่ได้ เอาเวลาร้องให้ไปลงมือทำอย่างอื่นดีกว่า

"เอ้า5555 แม่ก็รักหนูเหมือนกัน ไปๆไม่ร้อง กินข้าวได้แล้ว"

"กินเสร็จแล้ว"

"งั้นก็เข้าบ้านนี่แหละนะเด็ก ร้องไห้ใหญ่เลย จะกินข้าวอร่อยไหมเนี่ย"ยิ้ม

ตอนที่แม่บอกว่าเป็นเด็กคือสบายใจที่สุดเลยอ่ะ มันแบบแอดคิดมาตลอดว่าเป็นเป็นพี่คนโตนะ ต้องอดทนพยายามอย่างเดียวหรอ? ยังข้างในก็ยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึงเท่านั้นเอง ตอนนั้นรู้สึกว่าต่อให้เราจะโตมาแค่ไหน แต่ในสายตาแม่เราก็ยังเป็นเด็กอยู่เสมอ ส่วนที่บอกว่าแอดเป็นคนเก็บกดก็อาจจะจริงไม่งั้นก็ซึมเศร้า ตอนที่มันติ่งสุดๆจนคิดว่าอยากเป็นโรคซึมเศร้าความรู้สึกที่แย่มากๆเลยนะ คิดว่าแบบอยากอยู่ในโรงพยาบาลไม่ต้องเจอกับใคร หรือเป็นคนเก็บกดที่ปล่อยออกมาที่เดียวโดยไม่ต้องคิดว่าทำอะไรบ้าง อยากคุมอารมณ์ไม่อยู่จนยกโต๊ะหรือเก้าอี้มาทุบคนที่แกล้งเรามาตลอดหลายปี จะผ่านไปกี่ชั้นก็ยังได้อยู่โรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกัน นินทาต่างๆนาๆบ้างเพราะเราเป็นหน้านิ่งไม่ชอบอารมณ์หรือแสดงละคร นินทาไรไม่รู้ นินทาไปเถอะไม่สนใจหรอกชีวิตคนนินทาแย่กว่าด้วยซ้ำแต่แค่รู้สึกว่าถ้ามีคนแบบนี้อยู่แล้ว ไม่คิดอะไรเลย หรือไม่มีความคิดมาทำให้เป็นเรื่องฝังใจของคนอื่น แล้วมาบอกว่าเรื่องแค่นี้เองทำไมต้องคิดมาก อื้ม..อาจจะจริงเรื่องแค่นี้เอง แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ที่ว่าถึงไม่เลิกทำสักทีแอดก็ไม่เข้าใจ อาจจะเป็นเพราะสนุกแต่การที่ใส่ใจอีกฝ่ายแล้วสนุกทั้งคู่จะไม่มีดีกว่าหรอ

พอแอดยิ่งคิดในแง่ดี แล้วไม่ตอบโต้อยู่เฉยๆ กลับยิ่งโดนหนักขึ้นแล้วที่บอกว่าผ่านไปเดี๋ยวก็คิดกันไปเอง เราที่คิดได้แล้วต้องอยู่กันพวกไม่มีหัวคิดไปจนถึงเมื่อไหร่กันนะ ก็เลยเลือกที่จะเงียบเพราะเบื่อแล้ว ไม่อยากจะพูดหรืออธิบาย เลยชอบการเขียนและจนบันทึกมากกว่า กับโลกทีมีแต่การ Bully และนินทา เลยเมินทุกอย่างไม่ฟังอะไร(เวลาว่างก็จะจินตนาการเรื่องราวในหัวว่าจะแต่งนิยายยังไงหรือแบบไหนแล้วก็จะมีไอเดียเยอะเลยแต่ ก็ไม่ได้อัพนิยายเพราะจิตนาการเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ)และคิดอยู่ในโลกของตัวเอง แต่มันก็ไม่ใช่การตอบโต้ทีถูกนะ เพราะถ้าเราไม่ทำอะไรก็จะยิ่งโดนมากขึ้น ก็บอกไม่ได้หรอกนะว่าผู้ชายหรือว่าเป็นผู้หญิงโดนหนักกว่าแต่อยากน้อยแอดก็ยังไม่เจอการทักทายแบบตบหัวเลย ก็ไม่ดีหรอกเพราะไม่ว่าจะเป็นบาดแผลจากการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจก็ไม่ควรทั้งนั้น อยากให้ใส่ใจความรู้สึกกันและกันมากขึ้นนะ🤍💞

มีตอนที่แอดคิดจะตัดนิ้วด้วยนะแค่คิดเฉยๆ ว่าเราเป็นภาระทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างถ้าเกิดว่าพิการสักที่นึงที่ไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตมากไม่ลำบาก อย่างน้อยน่าจะได้บัตรคนพิการที่ได้เงินอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนั้นคิดได้ยังไงแต่แบบมันติ่งจนคิดแบบนั้นเลย แต่แม่กลับจับมือแล้วบอกว่านี่ นิ้วมือก็ยังอยู่ครบ สองมือนี้ยังทำอะไรได้อีกเยอะไม่ต้องคิดไกลหรอก ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้เต็มที่และมีความสุขก็พอแล้ว เหมือนแม่รู้ว่าเราคิดอะไรและเป็นคนที่รู้จักเราดีที่สุด มันอบอุ่นมากๆ อยากจะจดจำไว้ตลอดไปเลย (⁠っ⁠˘̩⁠╭⁠╮⁠˘̩⁠)⁠っ~⁠♡ เข้าใจว่าต่อให้เรื่องมันจะเลวร้ายแค่ไหน แต่มันก็ร้ายขึ้นได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดแต่ในวันที่ท้อแท้ ต้องลุกขึ้นมาให้ไว้ที่สุด การที่ได้ลองทำก็ต้องล้มเหลวเป็นธรรมดาอยู่ที่ว่าเราจะลุกขึ้นมาใหม่ไหม

ไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนแอดไหม คือตอนที่ท้อสุดๆ จนทนไม่ได้แล้วไม่มีทางออกเลย ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ไม่รู้อะไรสักอย่าง แม้แต่ใจตัวเองหรือสิ่งที่ตัวเองชอบหรืออยากทำ มันจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอย่างเช่นที่แอดเล่าวันนี้ คือวัน พฤหัสบดี-ศุกร์ รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว แบบ อืม..ถ้าให้พูดก็เหมือนมีสิ่งนั้นตามอยู่มาให้เห็นแว๊บๆ บ่อยๆ ถ้าใครไม่เชื่อก็แล้วแต่คนซึ่งแอดก็ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มีเรื่องที่เก่ามากๆอยู่ตอนแอดท้ออีกเรื่องนึงที่จำได้ลางๆ แค่รู้สึกว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ทำให้แอดเป็นห่วงคนในครอบครัวแบบสุดซึ่งแล้วก็รู้ว่าตัวเองรักครอบครัวขนาดไหน มีเรื่องที่อยากเสริม คือ วันนี้น่าจะเป็นกอดและการบอกรักแม่หลังจากที่ไม่ได้พูดมากนานมากๆ เพราะซึนเดเระนั้นแหละ ไม่ค่อยได้พูด คะ/ค่ะ กับแม่หรือคนในครอบครัวด้วย จะพูดแต่ จ๊ะ จ๋า จร้า ไม่ค่อยพูดหวานหรอกแต่ไม่เคยพูดคำหยาบนะ (โดยปกติจะไม่พูดอยู่แล้วเพราะรู้สึกแปลกๆยอมโดนล้อว่าติ๋มดีกว่า อยู่เงียบๆนิ่งๆ สุภาพดีๆทำไมไม่ชอบอยากลองให้แอดขาดจิตสำนึกจนด่ายันโครตพ่อ โครตแม่รึไง เฮ้อ~ แปลกเนอะคนเรา แอดก็แปลก555) ก่อนจะพูดก็คิดกับตัวเองอยู่นะว่าจะพูดดีไหม แค่คิดว่าอยากจะทำให้ให้มากที่สุดก่อนจะไม่มีโอกาส แม่ก็เหมือนอ่านใจได้ตลอดเลยที่บอกว่าให้ทำอะไรก็ได้อยากทำอะไร ก็ทำตอนนี้เข้าใจที่แม่จะบอกแล้วว่าให้ทำในสิ่งที่ชอบก็พอไม่ต้องถามแม่หรอกเพราะแม่ก็ทำอยู่นี่ไง ที่แม่ทำทุกอย่างเพราะรัก ถ้าไม่รักแม่จะทำอยู่จนถึงทุกวันนี้ไหม อยากให้แม่อยู่ไหม ดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว เพราะงั้นลูกก็ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้เลย (ที่แอดกดดันตัวเองน่าจะเป็นเพราะกังวลว่าถ้าไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองจะอยู่ไม่รอด ทั้งที่อยากไปให้ไกลอยากลุดพ้น แต่ก็กลัวว่าจะไม่มีที่ให้กลับ ไม่มีที่ให้พึ่งคือ ทั้งที่อยู่กับแม่แค่คนเดียว กลับไม่สนิทกันหรือคุยกันได้ทุกเรื่องแอดคิดไปเองว่าไม่ทีใครเข้าใจสักคนทั้งที่คนที่เข้าใจแอดที่สุดอยู่ตรงหน้าถึงจะบอกว่าไม่ค่อยได้คุยกันแต่ก็สบายใจที่จะได้บอกทุกๆเรื่องกับแม่ ถึงจะกลัวว่าแม่ไม่พอใจก็กล้าเล่าเพราะอยากให้รู้ แม่ไม่เคยผิดหวังในตัวหนูอยู่แล้ว เพราะแม่ไม่คาดหวัง อาจจะเป็นคำที่มองได้สองมุมแต่สำหรับเราคือจะดีมาก เพราะยิ่งคนอื่นคาดหวังกับมากแค่ไหนเราจะกดดันตัวเองเพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าเราทำไม่ได้คนอื่นก็จะผิดหวังทั้งที่เราไม่ได้อยากทำ มีสิทธิอะไรมาคาดหวัง ผิดหวังก็เพราะมาคาดหวังเอาเองเราไม่ผิดเลย

ถ้าให้เห็นภาพก็แบบว่ามีคนมาคุยๆ ด้วยแล้วเราไม่อยากคุย ไม่อยากสนิทเพราะบางคนแค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นไง เซนต์เนอะแต่เราไม่ได้อคติว่าคนนี้ไม่ดีแต่แค่เซนต์บอกว่าเข้ากันไมได้ประมาณว่าต่อให้เป็นคนนิสัยดีสุดขอบฟ้าหาไม่ได้แต่เราก็ไม่อยากคุย แต่เขาก็ว่าเรา หยิ่งสวยมากมั้ง? มั่นเกินอ่ะใครจะอยากสนิทด้วย เห็นยิ้มให้เลยคิดว่าจะอยากคุยด้วยหรือเฟรนลี่ บางทียิ้มให้เราทำเป็นมารยาทนะ รู้ว่าบางอย่าง เช่น การให้ความหวังโดยการตอบแชตเป็นมายาท คือ ไม่ควรถ้ารู้ว่าเขาชอบแต่ยังตอบเป็นมารยาทก็บอกตรงๆเลยดีกว่ามันเสียเวลาทั้งสองฝ่ายอีกคนรำคาญ อีกคนเสียความรู้สึก ถ้าไม่รู้ว่าเขาชอบก็เป็นที่เขาที่มาชวนคุยแต่ไม่บอกว่าชอบ ก็เข้าใจว่าเป็นสเต็ปเพราะถ้าอยู่ๆบอกว่าชอบคงจีบไม่ติด(มีเหตุผลของแอดแต่เดี๋ยวจะยาวคนไทยไปเรื่อยของจริง) แต่บางคนก็ซื่อถ้าไม่บอกว่าชอบก็ไม่รู้ บางคนถึงรู้ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ เหตุผลของใครของมันออกไม่เข้าใจ มีหลายแบบเกิน ตอนนี้สบายใจขึ้นมาก 1% แล้ว (น้อยไปไหม) แอดคิดลบสุดๆ อ่ะดูถูกตัวเองมาก มองโลกในแง่ร้าย แต่มองคนอื่นดีแบบต่อจะให้แย่จากขุมนรกขนาดไหนแต่ถ้ามีข้อดีมาข้อนึงแอดก็จะมองข้อดีข้อเดียว โดยไม่สนข้อเสียร้อยแปดเลยด้วยความที่เป็นคนหัวแบบนี้ เลยโดนแกล้งได้ง่ายรึเปล่านะ?

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ถ้าได้เห็นข้อความนี้เป็นข้อความสุดท้ายแล้ว ไม่รู้จริงไหมจะไหลต่อ555 คนอ่านที่น่ารักของแอด~ มีเพื่อนอีกสองคนที่ยังไม่ได้บอกด้วยนะเพราะว่าอยู่คนละห้องเลยไม่ได้ทำงานกลุ่มด้วยกัน เพื่อนในกลุ่มมีห้าคน รวมแอดเป็นหกน้า~ ✊🏻📦💓 ทุกคนที่พยายามเก่งมากๆเลยนะ ลาจริงแล้ว บ๊ายบายนะทุกคนขอให้เป็นวันที่ดี มีความสุขเสมอ

\*อยากให้มีตอนต่อไปไหม? ถ้าไม่ชอบไม่ต้องอ่านก็ได้นะเพราะแอดอยากระบายเอาไว้เฉยๆ ขอบคุณที่อ่านนะ ทุกคนอ่านแล้วพื้นหลังเป็นสีอะไรถ้าไม่ชอบบอกได้นะ คนอ่านตัวน้อยๆของแอด จะน้อยจริงไหม(แอดสูง 151 งื้อ~\><) เพราะแอดใช้สีเทาแต่งสบายตาดี~ ซาโยนาระ ถ้ามีคำผิดหรืออะไรอาจจะผิดเยอะมากก็ได้เพราะงั้นแอดจะมาแก้ที่หลัง จบ.

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!