NovelToon NovelToon

(อ่านฟรี)เสน่ห์หาหัวใจน้ำแข็ง

#1 พี่ชาย

คฤหาสน์ที่เงียบเหงา

"คุณชายเจ้าคะ นายท่านส่งจดหมายตอบกลับมาเจ้าค่ะ"

คาเรียลมองจดหมายเงียบๆ ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

ยื่นมือรับจดหมายมาจากสาวใช้ แล้วค่อยๆเปิดอ่านอย่างช้าๆ ด้วยจิตใจที่ขุ่นมัว

ข้าอยากจะรู้นัก ว่าท่านพ่อของข้าจะตอบมาเช่นไร เหตุใดจึงใจร้ายกับข้า และไม่เคยเหลียวแลทั้งมารดาที่ท่านบอกว่ารักมากมาย ช่างไม่สมกับข่าวลือในตำนาน ในช่วงยามหนุ่มสาวของทั้งสองไม่ ทำไมท่านพ่อไม่เคยแม้จะมาเยี่ยมท่านแม่ในยามที่ป่วยหนักเช่นนั้นกัน? จนกระทั่ง....คาเรียลคิดคร่ำควรด้วยความเศร้า

*เนื้อความในจดหมาย ลูกรักของพ่อ เจ้าคงเหงามาก แม้ในยามที่เจ้าเศร้าเสียใจ และภรรยาของข้าที่เจ็บป่วยจากโลกนี้ไป ข้าผู้เป็นบิดามิได้ทำหน้าที่พ่อ และ สามีที่ดีซักเท่าใด ข้าจึงขออภัยเจ้าทั้งสอง ที่มิสามารถกลับไปดูใจภรรยาที่รัก และ เคียงข้างเจ้า จากบิดาของเจ้า

 

"หึ..บิดาของข้างั้นหรือ? "

 

มุมปากกระกระตุก หัวเราะในอก ด้วยความคับแค้นใจ

ท่านจะมาก็มาได้มิใช่หรือ? สถานะการณ์บ้านเมืองช่วงเวลาที่ผ่านมา  คงแค่เพียงรักษาการณ์เท่านั้น  มิได้ออกรบเสียหน่อย สงครามที่แสนยาวนานได้จบไปได้หนึ่งปีแล้ว ข้างหลังท่าน ภรรยาที่รักของท่านสิ ที่เฝ้ารอคอยท่าน ห่วงหาท่าน คิดถึงคนึงหา จนนาทีสุดท้าย ยังสั่งเสียให้ข้าอย่าได้โกรธเคืองท่าน ข้าที่เฝ้ามองท่านแม่อย่างเจ็บปวด จะทำใจได้หรือ ให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช่นนั้นหรือ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

บรรยากาศเช้านี้  ก็ยังคงดำเนินต่อไปเฉกเช่นทุกๆเช้าเช่นเดิม   

แม่อันเป็นที่รักของข้า ได้จากข้าไปไนที่ไกลโพ้นที่ยาวนานมาช่วงหนึ่งเวลาแล้วสินะ  ในขณะ  ที่คาเรีลยกำลังอ่านหนังสือ 

"ก๊อกๆ" เสียงเคาะโต๊ะดังขึ้นเบาๆ

"ท่านชายน้อยคาเรียลเจ้าคะ พ่อบ้านได้รับจดหมายจากนายท่าน  อีกไม่นาน นายท่านจะกลับมาแล้วเจ้าคะ"

แม่นมมาลีน่า ที่คอยดูแลทั้งท่านแม่และข้า สีหน้าตื่นเต้นไม่น้อย  

"แม่นม ไม่เห็นต้องวิ่งมารายงานข้า ข้ามิได้ต้องการท่านพ่อเสียหน่อย มีแม่นมคนเดียวก็พอแล้ว"

ข้ามิได้สนใจเลยซักนิด กาลเวลาทำให้ข้าเติบโตขึ้น จากเด็กที่อารมณ์ยากจะเข้าใจ ในเหตุผลของพวกผู้ใหญ่เลย  แต่ทว่าข้าก็ยังคนไม่เข้าใจเช่นเดิม แต่ไม่อยากรับรู้มากเท่าใดแล้ว

เพี้ยะ.... เสียงฝ่ามือที่ฟาดมาของมาลีนานั่นไม่ได้เบาเลย ด้วยความรู้สึกอย่างหมั่นใส้ เด็กชายที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของนาง

"นี่แหนะ ท่านชายน้อยเจ้าคะ อย่าได้พูดเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ เหตุใดต้องโกรธเคืองนายท่านเช่นนั้น ปีนี้ อายุสิบขวบแล้วนะเจ้าคะ โตขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะ"

ใช่ สามปีแล้วสินะที่ท่านแม่จากข้าไป และ หกปีแล้ว ที่ข้ามิเคยได้พบหน้าบิดาของตนเองเลยแม้แค่น้อย

"เห็นพ่อบ้านแจ้งว่า ให้จัดห้องทำความสะอาดห้องตรงข้ามท่านชายน้อยด้วยนะเจ้าคะ สงสัยจะมีแขก แต่ก็น่าแปลกนะเจ้าคะ ทำไมไม่จัดห้องในส่วนของโซนห้องรับแขกกัน "

เอะ!!!!! จัดห้องงั้นเหรอ? โซนนี้เป็นส่วนของครอบครัวนี่นา เพราะเหตุใดกันถึงได้มาพื้นที่โซนของครอบครัว?  ข้ามีความไม่เข้าใจเล็กน้อย

"หรือว่า..." ข้าก็อุทานคำนี้อยู่ในใจ

แม่นมและข้าต่างมองหน้าและสบตากัน อย่างเข้าใจของความ ความคิดของทั้งสองฝ่าย

"ไม่ใช่หรอกมั้งเจ้าคะท่านชายน้อย นายท่านมิใช่คนแบบนั้น ถ้าหากว่ามี นายท่านจะต้องแจ้งท่านชายน้อยก่อนอยู่แล้ว"

มาลีน่าเอ่ยด้วยความกังวล แต่ว่า ถ้าหากมิเป็นเช่นนั้น จะจัดห้องโซนส่วนครอบครัวทำไมกัน แค่คิดหัวใจข้าก็เต้นด้วยจังหวะที่เร็ว ข้ารู้สึกเคืองโกรธเหลือเกินในเวลานี้

................

 

"ท่านชายเจ้าคะ นายท่านรออยู่ห้องอาหารแล้วเจ้าคะ"

เวลาช่างเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

"ข้ามิอยากไปมาลีน่า ทำไงดี"

มีเสียงเอื่อยเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา มาลีน่ามองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น  มองลึกลงเข้าไป และได้ปากฏไห้เห็นความเหงาและเศร้าหมองอยู่ข้างใน

ข้ามิอยากไปเจอยัยเด็กเหลือขอนั้นเลย

เป็นอย่างที่คิด บิดาของคาเรียลได้พาเด็กหญิงอายุห้าขวบกลับเข้ามาในคฤหาสน์ด้วย

นี่สินะคงเป็นเหตุผลที่ไม่กลับมาดูใจท่านแม่ของข้า และ ทิ้งให้ข้าโดดเดี่ยวมาตลอดเวลาสามปีที่ท่านแม่จากไป

"ท่านชาย ท่านชายน้อยเจ้าคะ โตแล้วไม่งอแงนะเจ้าคะ แต่ว่า ถ้าไม่อยากไปจริงๆ ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปเจ้าคะ มาลีน่าจะหาเรื่องกุเรื่องแจ้งให้นายท่านทราบเอง ท่านชายของมาลีน่าจะได้ไม่หน้าโกรธจนหน้าดำอย่างนี้เจ้าคะ"

นี่สินะคนสำคัญของข้า  ปกป้องข้า  แต่ข้าว่ามาลีน่างอแงเองซะมากกว่า ข้ารู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียว อย่างน้อยข้าก็มีมาลีน่าละน่า

 

....................................................................

"พี่ชาย...พี่ชาย"

ข้ากระซิบข้างๆหูของพี่ชายคนที่นอนอยู่ตรงต้นไม้ต้นนี้   โห นี่ใช่พี่ชายของข้ามั้ยนะ? ใช่มนุษย์รึเปล่า เหตุใดท่านพ่อคลาสโม้ของข้าจึงดูดุดัน แล้วพี่ชายคนตรงหน้านี้จะใช้พี่ชายของข้าเหรอ? เอ๋ถ้าไม่ใช่ล่ะ?     ถ้างั้นดีซะอีก ข้าจะได้แต่งตั้งให้เป็นสามีของข้าในอนาคต คนนี้ข้าจอง ข้าได้ยินชาวบ้านที่หมู่บ้านข้าพูดว่า บุรุษที่ร่ำรวย มักจะผิวพันธุ์ดี ผิวขาวเหมือนใยไหม ใช่เลย ใช่แน่ๆ คนนี้แหละ ข้าจะหลงรัก และ ต้องเอามาเป็นสามีข้าในอนาคตให้จงได้ ข้าจะได้สบายยยยย

 

"ฮ้าว....แต่ทำไมง่วงจัง ฟี่zZz"

เด็กหญิงมิเกล คิดอย่างดีใจ  ปลุกพี่ชายก็ไม่ตื่นจึงได้ล้มลงนอนข้างๆคาเรียลและหลับไป

ข้าชื่อมิเกล ปีนี้ห้าขวบแล้วค่ะ ไกล้จะแต่งงานได้แล้ว (มั้ง น่าจะใช่) แค่คิดก็ตั้งตารอเลย ท่านปู่ของข้าบอกว่า ข้าจะมีความสุขมากๆ ถ้าหากข้าแต่งงานมีสามี ข้าจะมีคนดูแล มีคนเกาหลังเวลานอนให้ข้าด้วย และหาของอร่อยๆ ให้ข้ากิน เพียงแค่คาดคิดก็มีความสุขแล้ว

 ว่าแต่ข้าคิดถึงท่านปู่จัง ท่านปู่ไม่ยอมมาหาข้าเลย  ทำไมต้องให้ข้าแต่งงานและมีบุตรก่อนกันนะ  ทำไม? ท่านปู่ต้องไปหาสมุนไพรนานขนาดนั้นด้วยนะ ข้าไม่เข้าใจเลย ข้าอยากเจอท่านปู่เร็วๆ ก็ต้องแต่งงานมีบุตรให้ไวๆงั้นเหรอ?   ใช่!! ข้าฉลาดจริงๆ

ทว่าข้าย้ายกลับมาอยู่กับท่านพ่อคลาสโม้ช่างโชคดีจริงๆ  เจอว่าที่สามีแล้ว ตั้งใจเตรียมตัวแต่งงานกับเจ้าบ่าวในอนาคตดีกว่า ถ้าข้ามีบุตรท่านปู่จะได้กลับมาหาข้าไวๆ เอ๋...แล้วเค้าแต่งงานกันตอนไหน? แต่งเลยได้รึเปล่านร้า ข้าเจอว่าที่สามีแล้วนะท่านปู่ แต่งได้รึยาง แต่งได้แล้วม้าง

# 2 งานเลี้ยง

คฤหาสน์อันโอ่อ่าของตระกูลเทลโลร์ ได้มีงานเลี้ยงต้อนรับในการกลับมาของท่าน คลาสโก้ เทลโลร์ เกิดขึ้น  ผู้ทักษ์แห่งชายแดนอาณาจักรยูเรียกาตาร์ที่เป็อานาจักร์ที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนลึกลับแห่งนี้ กำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราและเสียงดนตรีอันไพเราะ

ในขณะเดียวกันนั้น ในมุมของห้องโถงอันกว้างใหญ่ มีดวงตาสีนิลเข้ม ที่ถอดแบบมาจากมารดาที่ได้รับการลงคะแนนจากเหล่าบรรดาบุรุษว่าเป็นสตรีงามอันดับหนึ่ง ของเมืองแห่งนี้

สายตาที่เปรียบเสมือนเปลวเพลิงนั้นได้จ้องมองไปยังผู้คนในงานด้วยความโกรธเกี้ยวอยู่หลังม่านกำมะหยี่สีเขียวเข้มอันหรูหราริมหน้าต่าง

"หึ!!!งานเลี้ยงใหญ่โตเช่นนี้บิดาของข้าจัดให้ใครกันแน่? มิใช่จัดเพื่อเป็นการเปิดตัวบุตรสาวคนใหม่ของท่านหรอกนะ"

คาเรียลกระตุกมุมปากและมีเสียงพึมพัมเบาๆ และเบนสายตาไปยังเด็กหญิงคนนั้น ที่ยืนอยู่ข้างๆผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาของตนเอง

"มาลีน่า เจ้าเห็นท่านชายคาเรียลหรือไม่?  ทำไมข้ายังไม่เห็นเจ้าเด็กแสบนั่นเลย"

"ตั้งแต่ข้ากลับมา ยังไม่ได้พูดคุยกันกับเจ้าเด็กนั้นเลยสักครั้ง"

"เจ้าค่ะนายท่าน ท่านชายน้อยได้มาแล้วนะเจ้าคะ แต่ข้าไม่รู้ว่าท่านชายน้อยหายไปไหนอีกแล้วเจ้าค่ะ"

ผู้เป็นบิดาได้ถามหาบุตรชายกับแม่นมมาลีน่าอย่างหงุดหงิดใจ  เพราะตั้งแต่กลับมา เขาได้พบหน้าคาเรียล กันเพียงแค่ครั้งเดียวในวันที่กลับมาถึงเท่านั้น  ไม่ได้มีเวลาพูดคุยและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นมาต่างๆมากมายในระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา เขาได้ไปทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่เพื่ออาณาจักรและครอบครัว

คาร์เรียลได้กำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ เขาไม่สามารถมองหน้าเด็กผู้หญิงคนนั้นได้อีกต่อไป จึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องโถงไปยังส่วนด้านหลังคฤหาสน์

ท่านพ่อ ท่านยังคงเป็นบิดาของข้ารึเปล่านะ  คาเรียลนอนมองจันทราที่สว่างไสวด้วยความรู้สึกผิดหวัง

ตอนนี้ข้ารู้สึกเกลียดท่านพ่อมากว่าสิ่งใดในโลก ท่านพ่อบอกว่ารักท่านแม่ของข้ามาก แม่นมก็บอกว่าท่านพ่อรักท่านแม่ของข้ามาก เหตุใดท่านจึงมีเมียน้อยและมีลูกนอกสมรสเกิดขึ้นมากัน  มิหนำซ้ำ ท่านยังมิใยดีต่อท่านแม่ของข้าเลย 

คาเรียลได้ปาดน้ำตาที่ซึมออกมากอย่างลวกๆ และหลับตาลงอยู่ใต้ร่มไม้ต้นนี้ที่ปรกคุมอยู่ในความมืด

เวลาผ่านไป  งานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไปอย่างครื้นเครง ส่วนอีกมุมของคฤหาสน์ ก็คงเงียบสงบเฉกเช่นหัวใจที่หนาวเย็น ที่โหยหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป

งานเลี้ยงเช่นนี้มันช่างอึดอัดสำหรับเด็กชายที่จิตใจหม่นหมองสิ้นดี   เวลาร่วงเลยและผ่านไป

..........

 

ตั้งแต่วันนั้น  ข้าตื่นขึ้นมา  ก็ไม่พบเจอว่าที่สามีของข้าเลย ข้าช่างเสียดายยิ่งนัก ข้าจะได้ทำการพูดตกลงสู่ขออย่างเป็นทางการไว้ซักหน่อย

"เฮ้อ!!!!" 

แบบนี้เมื่อไหร่จะไดัเจอท่านปู่ล่ะ   เอะ!!!ข้านึกออกแล้ว  ข้ายังมีท่านพี่คาเรียลนี่นา  ถ้าหากได้เจอข้าขอท่านพี่แต่งงานกันก็ได้นี่  ไม่เห็นต้องง้ออีตาเด็กนั้นเลย หาตัวยากเสียจริงเชียว ตื่นก็ไม่ยอมปลุกข้าอีกต่างหาก  ไม่มีน้ำใจ ชิ!

แต่ว่า... ข้ากับท่านพี่ก็ยังไม่ทันได้เจอกัน โอ้ยๆๆๆๆ  ไม่น่าเผลอหลับเลย

รีเกลดึงทึ้งผมด้วยความหงุดตัวเอง ที่พลาดโอกาสได้เจอพี่ชายในวันที่มาถึง  ตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในห้องแปลกไหม่อันหรูหรา ต่างจากร้านของท่านปู่แล้วและไม่ใช่แค่แตกต่าง  แต่มันช่างแตกต่างกันสุดๆไปเลย

ข้าอดเจอท่านพี่คาเรียลเลย จะหน้าตาเป็นยังไงนะ จะสู้เด็กนั้นได้รึเปล่า   เอาเถอะ เพื่อท่านปู่  ข้ายินดีแต่งท่านเป็นสามี พี่ชายของข้า

........

​​​​​​ฤดูร้อนมาถึงแล้ว...      ที่ลานฝึกดาบที่กำลังมีแสงแดดร้อนๆ และบรรยากาศกลิ่นกายเหล่าบุรุษ ที่เป็นอัศวินลอยคละคลุ้งในอากาศ  เต็มไปด้วยความขลังและน่าเกรงขาม

"ท่านชายน้อยคาเรียลขอรับ  ได้โปรดหยุดพักบ้างเถอะ ขอรับ ถ้าหากเจ็บป่วยขึ้นมา นายท่านจะดุเอาได้นะขอรับ"

พ่อบ้านออกมาตามคาเรียล ที่ตั้งแต่บิดาของเขากลับมา ก็แทบจะไม่ได้เจอได้คุยกันเลย  มีเพียงพูดถามคำ ตอบคำเหมือนขอไปที เป็นครั้งคราวเท่านั้น และใช้เวลาส่วนไหญ่หมดไปกับสนามฝึกที่นี่ กับห้องเรียนจนหมดเวลาของแต่ละวัน 

เสมือนเป็นการปกปิดการโหยหาบางสิ่ง และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำให้มีอารมณ์ขุ่นมัว

"ข้าเข้าใจแล้ว  ท่านไปทำหน้าที่ของท่านเถอะ"

.........

ใต้ต้นไม้ใหญ่สวนหลังคฤหาสน์

"นับตั้งแต่ที่เจอยัยเด็กนั้น ข้าก็ไม่ได้มานานแล้วสินะ"

คาเรียลนั่งพิงต้นไม้แล้วบ่นพึมพำ

คิดถึงจัง  ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นที่ท่านแม่ของข้าชอบมานั่งอ่านหนังสือ และ ผ่อนคลาย    ข้าคิดถึงท่านจังท่านแม่ของข้า 

ลมที่พัดมาปะทะใบหน้า  ทำให้คาเรียลเคลิ้มล่องลอยไปตามสายลม  เสียงรอบๆข้าง ค่อยๆจางหายไปและ เงียบสงบ

มีเพียงเสียงลมหายใจ และ ลมที่พัดผ่านมาเท่านั้น พัดมากระทบรางกายอันเหน็ดเหนื่อยจากการฝึกดาบ ให้รู้สึกสบายตัวขึ้น

"เจ้าเด็กผู้ชาย เจ้าเด็กผู้ชาย" เสียงกระซิบเบาๆ

"ตื่นสิ ตื่นมาคุยกับข้าหน่อย"

คาเรียลค่อยๆลืมตาขึ้นมาตามเสียงเรียกนั้น     

ใครกันนะ มารบกวนการพักผ่อนของข้า

"เจ้าตื่นได้ซักทีนะ   ข้าเรียกตั้งนาน"

มิเกลบ่นให้กับความขี้เซาของคาเรียล

คาเรียลย่นหัวคิ้ว  เมื่อหาเจ้าของเสียงที่รบกวนจนเขาตื่นจากห้วงนิทราขึ้นมา   มันช่างอารมณ์เสีย เสียจริงที่ที่ได้เห็นหน้าของนาง

"ทำไมเป็นเจ้าอีกแล้ว?"

มิเกลยิ้มตอบคำถามที่สาดเข้ามาด้วยความหงุดหงิด มิเกลมิได้สนใจอันไดกับความเกี๊ยวกาจของเขาเลย

"เจ้าจำข้าได้เหรอ?  ทำไมวันนั้นเจ้าไม่ปลุกข้าบ้าง  รู้มั้ย? ข้าตื่นมาก็เย็นแล้ว เกือบกลายเป็นอาหารของยุงแล้ว  เจ้าใจร้ายมากเลยนะรู้มั้ย"

เจ้าของเสียงนั้นต่อว่าคาเรียลอย่างจริงจัง  ด้วยความที่นาง รอเขาตื่น  เพราะมีข้อเสนอ และเรื่องพูดคุยกับเจ้าของหน้าบูดบึ้งที่อยู่ตรงหน้านี้

"ผู้หญิงอะไร มานอนกอดผู้ชาย ที่บ้านของเจ้าไม่ได้สั่งสอนเจ้ารึไง"

คาเรียลตื่นขึ้นมาตกใจแทบแย่ อยู่ๆยัยเด็กมิเกลมานอนกอดเขาได้อย่างไร ถึงแม้เขาจะยังเด็ก แต่ ชายหญิงไม่ควรไกล้ชิดกัน ถึงแม่จะเป็นลูกอีกคน หรือ อีกอย่างก็คือน้องสาวต่างแม่ของเขานั้นเอง

มิเกลยิ้มจนตาหยี

"สอนสิ  ท่านปู่ข้าสอน  แต่ข้าอยากเจอท่านปู่นี่นา ข้าไม่ถือ เพราะข้าจุ๊บปากเจ้า จองเจ้าเป็นสามีแล้ว เจ้าต้องแต่งงานกับข้า"

ถึงแม้นางจะนอกใจไปหาท่านพี่คาเรียลแล้วก็เถอะ ก็ข้าหาเค้าไม่เจอนี่นา  เผื่อหาไม่เจอ ก็ต้องหาคนใหม่มาเป็นสามีสิ ไม่งั้นก็ไม่ได้เจอท่านปู่ซักทีสิน่า

#3 ปะทะคารม

"เจ้า..เจ้านี่มันช่าง”

คาเรียลได้ยินสิ่งที่นางเอ่ยออกมาจากริมฝีปากเล็กๆเสียงเจี้ยวจ้าวนั้น ช่างน่าตกใจ เหตุใดนางจึงไม่มีความเป็นสตรีซักนิด เขาถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่สบถถ้อยคำออกไปด้วยอารมณ์โมโหและฉุนเฉียว ที่ถูกเด็กหญิงไม่รู้ความ ชั่วช้าผู้นี้ขโมยจุ๊บโดยที่ไม่รู้ตัว นางช่างบังอาจนัก นางมิรู้เลยหรือไง บุรุษและสตรีนั้นมิควรไกล้ชิดกัน ถึงแม่ว่าเด็กห้าขวบอาจจะเด็กเกินไป เกินกว่าจะเข้าใจ แต่การมาแอบจุ๊บ มันก็ออกจะเกินไปหน่อย

แม้ว่าตัวเขาเองก็มีอายุเพียง สิบขวบ แต่ด้วยความอ้างว้างและโดดเดี่ยวที่ท่านแม่ได้หนีจากคาเรียลไป ทำให้เขาใช้ชีวิตโตกว่าวัยอันสมควร ทั้งฝึกดาบและอ่านหนังสือมากขึ้น หาความรู้ในทุกๆทาง เพื่อปกปิดความอ้างว้างและความเจ็บปวด ทั้งเสียท่านแม่ และท่านพ่อที่ไม่ได้พบหน้ากันเลยแม้แต่น้อยนานถึงหกปี

"ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าคิดอะไร ที่เข้ามาวุ่นวายกับข้า รบกวนข้า เพราะสาเหตุอันใด แต่เจ้าตัวเล็กเพียงแค่นี้ อายุเท่าไรกันเชียวที่จะมาคิดหาบุรุษ”

“แก่แดด แก่ลมยิ่งนัก"

คาเรียลกล่าวด้วยอารมณ์ที่ไม่รู้ว่าควรจะโมโห หรือควรอารมณ์ไหนดี ทั้งไม่เข้าใจและงงกับยัยเด็กเหลือขอนี่

สมองก้อนน้อยๆของนางก้อนนี้มีสิ่งใดอยู่ข้างในกันถึงได้มีความคิดเฉกเช่นนี้

เสียงดุดันอันดังของเด็กชายทำให้มิเกลตกใจเป็นอย่างมาก  จึงก้มหน้า น้ำตาเริ่มคลอออกมาฉ่ำรอบดวงตา ไม่นานนัก น้ำตาก็ค่อยๆไหลออกมาทางหางตา

“ฮึก ฮึก ข้า ข้า ไม่เข้าใจ แง๊ “

มิเกลไม่ทันได้กล่าวจบ น้ำตาหลั่งไหลออกมาเป็นทาง ตามมาด้วยเสียงสะอื้นไห้ จากแผ่วเบา เริ่มดังขึ้นและดังขึ้น

ข้าควรทำเช่นไรเล่าแบบนี้ เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามไรผมของคาเรียล

“เจ้าหยุดร้องได้ไหม หยุดร้องก่อน”

“แง๊..... “

แต่ดูเหมือนว่าการห้าปามจะไม่เป็นผล ยิ่งห้าม เสียงร้องยิ่งดัง ดังหนักกว่าเดิมขึ้นมาอีก

คาเรียลจึงตัดสินใจดึงน้องสาวต่างมารดาแล้วอุดปากเล็กๆ นั้นด้วยฝ่ามือ

“เจ้าหยุดร้องเถอะข้าขอร้อง จะร้องไห้เสียงดังไปทำไม เฮ้อ!!! ข้าขอโทษๆ”

คาเรียลกล่าวด้วยเสียงดุดันปนรำคาญใจ เขาไม่ชอบเสียงร้องไห้เลย มันหน้าเวียนหัวมาก ถ้ามีใครผ่านมาเจอ คงได้ดุเขา และคงกล่าวโทษว่าเขารังแกเด็กผู้หญิง ผู้เป็นน้องสาวต่างแม่เป็นแน่

“เอาละๆ หยุดร้องแล้วค่อยคุยกันเถอะ”

คาเรียลเอ่ยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง ความไม่พอใจ และอารมณ์โมโหก็เริ่มบรรเทาลง และค่อยๆ จางหายไปเมื่อเห็นยัยจอมยุ่งน้ำตาไหลพราก เป็นเส้นทางแม่น้ำสายไหม่ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบเช่นนี้  อีกอย่าง เสียงแหลมเล็กของนางมันช่างน่าหนวกหูเสียจริง ได้ยินแล้ว แก้วหูของข้าแทบแตก

ได้ยินดังนั้น มิเกลจึงค่อยๆ ฮึบ ฮึบ และพยายามหยุดร้องไห้ เพราะกลัวว่าเขาจะเกิดโมโหและดุขึ้นมาอีกครั้ง

“เหตุใดเจ้าต้องดุข้าด้วยเล่า ข้าก็แค่อยากเจอท่านปู่ไวๆ ข้าคิดถึงท่านปู่ของข้า”

มิเกลเอ่ยถามคำถามหน้าเศร้า ไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กผู้ชายผู้นี้จึงโมโหนางมากมาย

“อีกอย่างข้าก็โตแล้ว ปีนี้ข้าอายุตั้ง ห้าขวบแล้วนะ อีกไม่นานก็คงสามารถแต่งงานได้แล้วด้วย”

คาเรียลได้แต่ส่ายหัว กับความไร้เดียงสาของนาง

“แล้วท่านปู่เจ้าไปไหนหรือ ทำไมต้องรอให้มาหาเจ้าละ เจ้าไปหาเองก็ได้นี่ ทำไมเจ้าไม่ไปหาล่ะ?”

“เพียงแค่เจ้าบอกท่านพ่อของเจ้าก็ได้แล้ว ท่านพ่อของเจ้าเป็นผู้พิทักษ์ดินแดนผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าไม่รู้หรอกหรือ จะพาไปไม่ได้เชียวหรืออย่างไร”

“ข้าก็ไม่รู้ว่าท่านปู่ของข้าอยู่ที่ไหน ท่านเพียงสั่งท่านพ่อให้บอกข้า บอกว่าไปเก็บสมุนไพรในป่าที่ไกลแสนไกล บอกให้ข้ามากับท่านพ่อ และให้ข้า ใช้ชีวิตให้ดี เติบโตและกินอาหารดีๆ ถ้าหากข้าแต่งงานและมีบุตรแล้ว ถึงเวลาท่านจะกลับมาหาข้าเอง ท่านพ่อบอกข้าไว้เช่นนี้ ข้าจึงไปตามหาท่านไม่ได้ยังไงเล่า”

ในความคิดของมิเกลนั้น คิดออกเพียงทางเดียวต้องแต่งงานและมีบุตร โดยที่ไม่เข้าใจความหมายของมันสักนิดเอาเสียเลย

คาเรียลได้ยินดังนั้น จึงเริ่มเข้าใจ และจ้องมองดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตา มีความหม่นหมองอยู่ในดวงตาคู่เล็กๆ นั้น

“แล้วท่านแม่ของเจ้าเล่า เหตุใดมิตามท่านพ่อของเจ้ากลับมาอยู่ด้วยกัน กับเจ้าและท่านพ่อของเจ้า”

คาเรียลได้เอ่ยถามคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ ท่านพ่อข้ามีเมียน้อยจนลืมมารดาของข้า แล้วเหตุไดจึงมิพานางกลับมาด้วย ทำไมถึงมีแค่ยัยตัวแสบมาเพียงคนเดียว

“อันนี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะข้าไม่เคยเจอท่านแม่มาก่อน ข้าเคยถามท่านปู่ว่าเหตุใดข้าจึงไม่มีท่านแม่ ท่านปู่บอกว่าข้ามีท่านแม่ เพียงแต่ท่านแม่ของข้าไปเก็บดอกไม้สวยๆ จะนำมาให้ข้าตอนเด็กๆ"

"แต่ท่านแม่ข้าบังเอิญได้เจอสะพานสายรุ้ง ซึ่งมีตำนานว่า จะเป็นสะพานที่เชื่อมต่อดินแดนที่มีดอกไม้วิเศษ ถ้าหากใครได้ครอบครองจะมีความสุขมากๆเลย แต่ ว่าต้องแลกกับการเดินทางในระยะทางที่ไกลแสนไกล ใช้ระยะเวลานานมากจึงถึงตอนนี้ ก็ยังไม่กลับมา"

นางพูดอย่างเศร้าๆ

เพราะท่านแม่ของข้ารักข้ามาก จึงอยากเก็บมาให้ข้า แต่ข้าไม่เป็นไร ข้าจำความได้ก็มีท่านปู่กับท่านพ่อแล้ว ท่านทั้งสองเคียงข้างข้า  จนวันนึง ท่านปู่ดื้อดึงนัก อยู่ๆ ก็หายไป สั่งไว้เพียงคำกล่าวไว้กับท่านพ่อข้าไว้เช่นนั้นเท่านั้น”

คาเรียลมอง มิเกลเอ่ยถึงท่านปู่ และ ท่านพ่อของเขาในท่าทางที่มีความสุข  ดูแล้วนางคงไม่รู้เรื่องอะไร นางช่างสดใส และ ดูน่ารัก น่าถนอม นี่สินะท่านพ่อของข้า ถึงไดรักนาง

"อืม แววตาของยัยตัวแสบดูจริงใจไม่น้อย การมีน้องสาวก็ไม่เลวว่ามั้ย?” คาเรียลพึมพำเบาๆ

แต่ว่า ยัยตัวแสบไม่รู้ว่าข้าคือใครนี่สิ แกล้งนางไปอีกซักพักดีไหมนะ ก็คงจะสนุกน่าดูเชียว คาเรียลยิ้มเบาๆ อย่างอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!