นายเอก: เทพพระจันทร์
ชื่อจันทร์วิมล /วิมล
ประวัติ:
แม่พ่อเสียมาตั้งแต่เค้าอายุ12ปี และถูกเลี้ยงดูโดยเจ้าเมืองมาตั้งแต่เด็กจนโต
" ข้าจะไม่ยอมนั่งเสียใจอีกเป็นแน่"
พระเอก: มาร
ชื่อพิชาญเมธ /พิรุณ
ประวัติ:
แม่เสียตั้งแต่ยังเป็นทารก ส่วนคนเป็นพ่อกับตกอยู่ในความแค้นจนไม่สนใจใยดีกับเขาแม้แต่นิด
" เจ้าไม่จำเป็นต้องเอาตัวมาปกป้องข้าก็ได้"
รินดา: เพื่อนข้างบ้านนายเอก
ประวัติ:
รินดาเป็นเด็กที่น่ารักและเข้าใจสถานการต่างๆได้อย่างรวดเร็วและเธอมีพ่อแม่ค่อยช่วยเหลือเสมอเพราะพ่อแม่เธอร่ำรวยเป็นอย่างมากอย่างช่วยเหลือครอบครัวของนายเอก บ่อยครั้งมาก แต่เธอกลับมีความลับที่ซ่อนอยู่
"ร่างการนี้มีเพียงข้าเพียงผู้เดียวที่ควบคุมมันได้"
ดารามีน/มีน : เทพคุ้มกันนายเอก
ไม่มีข้อมูลรู้เพียงว่าเป็นเทวที่เจ้าเมืองจาตุมหาราชิส่งลงมาดูแลนายเองบนโลกมนุษย์
"ข้าจะทำลายทุกอย่างที่เจ้ามีคอยดูเถอะ"
รันราภัทร/รัน : มาร -เพื่อนสมัยเด็กพระเอก
ประวัติ:
พ่อแม่ตายตั้งแต่อย่างเด็กโดยเหล่าเทพในช่วงการแย่งชิง จึงทำให้ตกอยู่ในความแค้นมาเป็นเวลานาน และมีน้องชายอยู่1คน
"ข้าถูกหลอกมาโดยตลอดเลยหรือ"
อัลวิน/วิน : เป็นพี่น้องร่วมสาบาน
ประวัติ:
ไม่มีพ่อแม่ มีเพียงอาของเขาที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กจงทำให้วินนั้นมีนิสัยที่เย็นชาและเกเร ไร้ความรู้สึก
"ข้าจะทำเช่นไรก็เรื่องของข้า"
นาย: เพื่อนพระเอก
ประวัติ:
นายเป็นเพื่อนกับพระเอกและทำงานด้วยกันเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน นายเป็นมนุษย์ธรรมดาต้องหาเลี้ยงตนเองเพราะเป็นเด็กกำพร้า
"ถึงจะเป็นแค่มนุษย์แต่ก็เป็นเพื่อนเจ้า"
รัชเรนทร์ :
เป็นเจ้าเมืองจาตุมหาราชิบนสวนสวรรค์
"ผู้ที่ท้าทายกับข้าหรือร่วมรักกับมารต้องตายสถานเดียว"
อราบิล: พ่อนายเอง
ชลิตา: แม่นายเอก
โชคอนันต์: พ่อ พระเอก
กชนิภา: แม่ พระเอก
สปอย
" พิรุณข้าว่าเจ้าหน้าคล้ายๆกับคนหนึ่ง..."วิมลถามอย่างสงสัย . เขารีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว"เจ้าจะบ้าหรอจะมีคนเหมือนข้าได้ไงตาเจ้าลายหมดมั้ง"
"ข้าว่าข้ามองไม่ผิดนะ"
"ผิดแน่ไม่มีใครหล่อกว่าข้าแล้ว" (หลงตัวเองแล้ว1)
"หลงตัวเอง"
"แล้วเจ้าว่าจริงมั้ยละ หึ!" เข้าใกล้อีกคน
่
; กาลครั้งหนึ่ง ณ. เมืองสวรรค์ที่มีนามว่าจาตุมาหาราชิก ได้มีข่าวลือกันว่าเทพแห่งพระจันทร์นั้นมีใบหน้าที่งดงามยิ่งกว่าเทวทั้งปวงจนไม่ผู้ใดเทียบได้แต่กลับมีนิสัยที่เย็นชา นิ่งเงียบ จนทำให้มีเทพที่อยากสนุกๆกับการที่ได้ครอบครองความงดงาม แต่เทพแห่งจันทร์นั้น ไม่มีอารมณ์เล่นกับพวกเหล่าเทพ รู้สึกว่าพวกนั้นไม่ได้เคารพตัวเอง จึงทำให้เทพเหล่านั้น โกรธมาก วันต่อมาจึงท้าให้เทพองค์นั้น ต่อสู้กันอย่างเป็นสุภาพบุรุษ แต่กลับ ทำให้เทพเหล่านั้นพ่ายแพ้ไปอย่างโดยง่าย และบาดเจ็บล้มตายหลายคน โดยที่ เทพแห่งพระจันทร์ไม่มีความ ปราณีต ให้กับพวกเขา
แต่กลับมีคนไปฟ้อง จึงทำให้เรื่องนี้ไปถึงหูของเจ้าเมือง.และจึงเรียก เทพแห่งพระจันทร์ เข้าพบ
"จันทร์วิมล!! เจ้าทำอะไรลงไป" เจ้าเมืองถามด้วย ความโกรธ . เจ้าเหมือนจาตุมาหาราชิก มีนามว่า วัชเรนทร์
" เฮ้อ!! ใครใช้ให้พวกเขา...."
ขนาดเดียวกันที่วิมลกำลังพูดอยู่นั้นเจ้าเมืองก็ได้พูดแทรกขึ้นมาทั้งที "เห้อ!ชั่งเถอะ เจ้า รู้ไหมว่าเจ้าทำให้เทพเหล่าลนั้นบาดเจ็บสาหัสและล้มตายกันหลายคน ยังมีผู้คนที่ไม่พอใจเจ้าอย่างมาก" ท่านวัชเรนทร์เอ๋ยขึ้นทันทีพร้อมตัดบทพูดนั้นไป ยังไม่ปราณี . และใช่แล้ว วัชเรนทร์เป็นนามของเจ้าเมืองนั่นเอง
"... ข้าไม่เข้าใจ ทำไมท่านตั้งปกป้องพวกนั้นด้วย" วิมลจ้องมองด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ของเขาค้างที่ใบหน้าเจ้าเมืองครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลง
กลับกันยังมีมารที่รอวันแก้แค้นนี้มาถึง. ความรู้สึกเสียใจที่พลุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงเจ็บร้าวในอกราวกับหัวใจโดนเข็มแหลงคมทิ่มแทงเข้าไป
"ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าได้ ลิ้มรสชาติของความเจ็บปวดดู" โชคอนันต์กล่าวขึ้นทันทีที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้และเขานั้นคือจองมารผู้ที่ปกครองเมืองมาร ณ.ปัจจุบัน
แต่กลับรู้หรือไม่ว่านี่คือแผนซ้อนแผน ของ
วัชเรนทร์ตั้งแต่ต้นแล้ว
"อืม.. ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะให้เจ้าไปใช้ความผิดในโลกมนุษย์ ในวัน15คํ่า"
ท่านวัชเรนทร์กล่าวขึ้นทั้งที่ในใจก็รู้ว่าวันนั้นคือวันอะไรและหากให้เทพพระจันทร์ไปโลกมนุษย์ในวันนั้นถือว่าเป็นการขับไล่ ให้ออกจากเมืองสวรรค์
"ได้เช่นไร ในเมื่อข้าไม่ได้ทำผิดกฏอยู่ผู้เดียว เทพพวกนั้นก็ทำผิดเช่นกันแล้วข้าต้องไปผู้เดียวด้วย!!!" เขาจึงกล่าววาจาไร้เยื่อใยเข้าบาดหูทันที
"จันทร์วิมล!! "วัชเรนทร์ขึ้นเสียงด้วยความเมื่ออีกคนไม่เคราพเขา
"จะให้ข้าไปจริงๆใช่ไหม ได้เดี๋ยวข้าจะไปให้สมใจท่านเลย และก็ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตของข้าอีก" วิมล กล่าวเสร็จก็วิ่งออกไปยังไม่รอให้เจ้าเมืองซักถาม เพราะในต้องนี้ความไว้ใจนับถือไหม้เกรียนด้วยความตรอมตรมไปเสียแล้ว
"...นี่ข้าทำถูกแล้วจริงๆงั้นหรือ" ความรู้สึกผิดผลันโถมใส่กลางใจอย่างปวดร้าว
"เจ้าจะไปกลัวอะไร ถ้าเจ้าไม่ทำเช่นนี้ แล้วเมื่อไหร่มันจะสำเร็จล่ะ! ไหนเจ้าบอกว่าเจ้าจะแก้แค้นคนที่ทำให้เจ้าเสียพี่น้องและพ่อแม่ไปไงล่ะ" ชายปริศนากล่าวขึ้น
ในวันขึ้น15ค่ำ...แต่เดิมแล้วทุกคนจะมาไว้อาลัยแก่เทพพระจันทร์เพราะเป็นวันที่พระจันทร์ส่องแสงงดงามอย่างสง่าให้มีแสงสว่างในตอนกลางคืน แต่กลับกลายเป็นในวันที่ทุกคนต่าง ต้องมาอำลาแทน
เพื่อให้เทพ พระจันทร์ลงไปยังโลกมนุษย์ ถือเป็นการไม่เคารพเป็นอย่างยิ่ง มีทั้งคนที่ไม่พอใจ และไม่เห็นด้วย แต่พวกเขากลับทำอะไรไม่ได้ เพราะตนเป็นคนส่วนน้อยนั่นเอง
"เป็นเทพเช่นไรถึงได้สังหารพวกเดียวกันได้เช่นกัน"
(ข้าผิดขนาดนั้นเลยหรือ ทั้งที่พวกเขาเป็นคนท้าทายข้าก่อน .ท่านพ่อท่านแม่พวกท่านอยู่ไหนกัน ข้าคิดถึงพวกท่านเหลือเกิน) น้ำตาแต่ละหยดที่ร่วงรินมาราวกับตกต้องกลางอก ชายหนุ่มจนหัวใจเขาคล้ายถูกบีบรัดด้วยความเจ็บปวด
"ไปเลย!!ไม่ต้องกลับมาอีกนะไอเลว!!" เหล่าเทวตะโกนไล่อย่างพร้อมใจ จนเทพพระจันทร์ไม่อาจจะยืนฟังเสียงพวกนี้ได้เลยราวกับได้ยินเสียงหัวใจตนเองถูกฉีกทิ้งแล้วเหวี้ยงทิ้งลงพื้นดินเช่นเดียวกับดอกไม้อย่างไร้ประโยชน์
ท่านเจ้าเมืองได้ฟังคำเหล่านั้นแล้ว รู้สึกเหมือนหัวใจพลันกระตุกวาบราวกับถูกสายฟ้าผ่าเปรี้ยงก็ไม่ปาน
วิมลจ้องมองเจ้าเมืองราวกับพยายามแอบซ่อนความเจ็บปวดอย่างสุดกำลัง ก่อนจะหันหน้าไปทางออกลงดิ่งโลกมนุษย์
ณ.ในโลกมนุษย์
ณ. โรงพยาบาล
หญิงคนหนึ่งในตอนนี้เค้ากำลังจะคลอดลูก"อ๊าก!!! ฉันไม่ไหวแล้ว"ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดนั้นเองและเค้ามีชื่อว่าชลิตา
คุณหมอเมื่อเห็นดังนั้นจึงได้พูดปลอบใจ"คุณแม่ใจเย็นนะคะเด็กจะออกมาแล้วค่ะคุณแม่"พร้อมให้กำลังใจอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายนั้นเป็นอะไร
สักพักใหญ่ๆเด็กก็ร้องไห้ไม่ยอมหยุด "อุแง้!! อุแง้!!"เด็กตัวเล็กดิ้นไปมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรคุณหมอจึงอุ้มเด็กน้อยออกมาหาญาติคนไข้ "คุณพ่อของเด็กใช่ไหมค่ะ"หมอพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้กับคนที่เป็นพ่อ
ชายคนหนึ่งเมื่อได้ยินก็ได้ลุกขึ้นทันที"ค...ครับ ใช่แล้วครับ"เค้าตอบอย่างมีความสุขเมื่อเห็นเด็กน้อยในอ้อมกอดของคุณหมอ และใช่ชายคนนั้นคืออราบิลซึ่งเป็นพ่อของเด็กน้อย
คุณหมอได้พูดขึ้นทันทีหลังจากนั้น "ยินดีด้วยนะคะ คุณได้ลูกชายคะ" คุณหมอได้บอกและส่งยิ้มให้กับเด็กน้อยในอ้อมกอด คนเป็นพ่ออย่างอราบิลดีใจเป็นอย่างมากแต่ก็ได้ไม่นานมากนะ พยาบาลรีบวิ่งมาและได้พูดขึ้นว่า "คุณหมอ เกิดเรื่องแล้วค่ะ"เค้าไม่พูดอะไรต่อพร้อมกับเพ่งมองอราบิลอย่างลังเล
คุณหมอได้แต่มองพยาบาลไปมาอยู่สักพักใหญ่ก่อนจะพูดขึ้น"มีอะไร เกิดอะไรขึ้น"คุณหมอจับไหล่พยาบาลแล้วถามอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา
"คือ...คือ.."
"พูดมาสิว่ามีอะไร"คุณหมอพูดเสียงดังขึ้น
พอเค้าเห็นหน้าอีกคนไม่ค่อยดีจึงพูดออกไป"คนไข้ไม่หายใจแล้วคะ ตอนนี้กำลังพยายามยึดชีวิตของคนไข้อยู่ค่ะ "
อราบิลได้ยินสิ่งที่พยาบาลพูด ก็เข่าทรุดลงกับพื้นทันทีนํ้าตาแห่งความเจ็บปวดไหลทะลักออกมาแม้ จะฝืน ยังอดกลั้นไม่ไหว
"แต่ตอนนี้คนไข้ยังมีลมหายใจอยู่นะคะ"
นับตั้งแต่นั้นมาคนเป็นพ่ออย่างอราบิลก็เอาแต่โทษตนเองเรื่อยๆมา ได้แต่คิดถึงเสียจนปวดร้าวไปทั้งดวงวิญญาณ ภาพสะท้อนความเจ็บชํ้าฉายชัดในดวงตาคู่นั้นจนนํ้าตารินอาบแก้มทั้งสองข้าง
ณ.ในโรงพยาบาล
"คุณคะ คือว่าคนไข้อยากเจอคุณอ่ะค่ะ"
อราบิลลุกขึ้นยืนแล้ว เดินไปอย่างเงียบๆอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความอ่อนแอไร้ที่พึ่งซะเสียแล้ว
เขาเข้ามานั่งข้างๆภรรยาของเขาอยู่สักพักนํ้าตาแห่งความเจ็บปวดก็รินอาบแก้มทั้งสองข้าง
" ที่รักคุณต้องไม่เป็นไรนะ"
เขาจับมือข้างหนึ่งของชลิตาที่นอนอยู่ไว้แน่น เธอก็ได้แต่พยักหน้าเบาๆและส่งยิ้มให้กับอีกคนแน่ตนจะเจ็บปวดแต่ก็กลั้นไว้
"อ..อราบิล"
" คุณต้องดูแลลูกของเราให้ดีนะ หลังจากนี้ไป..."เธอจ้องมองคนรักของเธออยู่สักพัก หวังว่าเขาจะทำตามที่เธอได้สั่งเสียไว้
เมื่อได้ยินคนรักพูดออกมาอย่างนั้นเขาก็แทบจะนํ้าตาตก ความเจ็บร้าวที่ต้องสูญเสียคนรักไปกำลังลุกลามอยู่ในกายอย่างบ้าคลั่งราวกับนํ้าที่จะรินไหลมาดับไฟ
"คุณต้องไม่เป็นไรสิ ที่รัก"เขายอมือปิดหน้าครวญครางด้วยความอัปยศอดสู่ใจรํ่าร้องไห้ออกมาอย่างปวดร้าว
"ฮึก ฮือๆโฮ~~"เขารํ่าร้องออกมาอย่างไม่อายใครจนตัวสั่นอยู่ข้างภรรยาของเขาอยู่นาน
เธอเห็นคนรักร้องไห้ก็เจ็บปวดทรมานอย่าฃชงมาก"ที่รัก...จำไว้นะลูกของเรานั้นตัองมีชื่อว่าสุรีย์วรรณ วันนี้เป็นวันที่พระจันทร์งดงามตลอดคืน"
เธอพูดจบก็ได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วนํ้าใสๆก็ไหล่รินอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างเจ็บปวด.( นี่คงจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่แม่จะปกป้องลูกได้แล้วสินะ ทั้งสองชาติแม่คนนี้ยังไม่ได้ปกป้องลูกของแม่เลย แม่ขอโทษนะลูก หวังว่าลูกจะเป็นเด็กดีนะ)
เขาที่ได้ยินคนรักของตนพูดเช่นนั้นจึงรับปากเธอไป"ได้ คุณต้องจำไว้ด้วยนะชื่อของลูกคือวิมล"หัวใจที่แตกสลาย
เธอได้ยินก็ได้พยักหน้าตอบรับ"ได้ ฉันจะจำไว้นะลูกแม่ แม่จะอยู่ข้างๆนะลูก"เธอลูบหัวเด็กน้อยที่ตอนนี้หลับไปแล้ว หยาดนํ้าตารินอาบแก้มด้วยความเสียใจและความรู้สึกผิด
หลังจากนั้นไม่นานมือของเธอร่วงลงบนเตียงอย่างช้าๆก่อนเธอจะแน่นิ่งไปในที่สุด เธอนั้นได้สิ้นใจไปอย่างหวงคืนไม่ได้อีกตลอดกาล
อราบิลที่เห็นว่าคนรักได้สิ้นใจลงแล้วจึงได้แต่ร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจ"ชลิตา!!!"
เขาก็ได้แต่นั่งนึกไปมาก็เท่านั้นเวลามันย้อนกลับไปไม่ได้อีกต่อไป ช่วงเวลาก็ผ่านมาสิบปีเต็มแล้วเด็กน้อยในวันนั้นก็เติบโตขึ้นมากแล้วเช่นกันและเข้าเรียนในชั้นประถมแล้วด้วย
"เห้อ!! นึกไปนึกมานี่ก็ผ่านมาสิบปีแล้วนะชลิตา ข้าคิดถึงเธอมากเลยนะรู้มั้ย"เขาในตอนนี้ได้แก่ชราลงแล้ว เขานั่งบนเก้าอี้หน้าบ้านพร้อมกับลมเย็นๆพักมาอย่างสงบและมีเสียงนกเสียงกาที่ร้องอยู่เป็น
ระยะๆ
เด็กน้อยที่กลับมาได้ยินพ่อของเขาพูดถึงชื่อผู้หญิงคนหนึ่งบ่อยๆและในครั้งนี้เขาจึงตัดสินใจถามพ่อไปตรงๆ
"พ่อครับ.."เด็กน้อยไม่พูดต่อเพราะกลัวว่าคนเป็นพ่อจะด่าเอาได้จึงได้แต่เงียบไปอย่างนั้น
พอเขาเห็นเด็กน้อยยืนนิ่งไปคนเป็นพ่ออย่างเขาจึงได้ถามลูกชายไป"มีอะไรหรือเปล่าวิมลลูกพ่อ"เขาได้พูดไปอย่างนิ่งเฉยแต่ในคำพูดนั้นกลับเป็นห่วงอย่างมากจากที่เขานั่งมองไปมานั้นได้หันมาคุยกับเด็กน้อยตรงๆ
เด็กน้อยเห็นว่าคนเป็นพ่อตอบกลับมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่ผ่านจึงได้ตอบกลับไป
" คนที่ชื่อชลิตาเป็นใครหรอครับ"เขายังคงยืนสับสนว่าทำไมคนเป็นพ่อที่เงียบมาสักพักแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
อราบิลได้ยืนขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกพูดออกมาเขาจึงเดินมาใกล้ๆเด็กน้อยแล้วนั่งลงตรงหน้าพร้อมกับน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาของผู้เป็นพ่อ
"ฮื่อ!" เขาได้แต่ลูบหัวเด็กน้อยไปมาอย่างเสียใจอยู่สักพักใหญ่
เมื่อเด็กน้อยเห็นว่าคนเป็นพ่อร้องไห้ก็อดที่จะถามไปไม่ได้"พ่อเป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไมครับ"เด็กน้อยถามคุณพ่ออย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
พอเขาเห็นว่าลูกไม่เข้าใจจึงได้บอกไป"คนที่ชื่อ
ชลิตาเป็นแม่ของลูก เธอจากไปตั้งแต่ในวันที่ลูกเกิดมา..."คนเป็นพ่อได้พูดออกไปอย่างกลั้นน้ำตาไว้เพราะไม่อยากให้ลูกรู้ว่าร้องไห้เขาจึงได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้นสักพัก
"ผมทำพ่อร้องไห้หรอครับ"วิมลสงงสัยจึงได้ถามไปอย่างรู้สึกผิด
"เด็กน้อยของพ่อ ลูกไม่ได้ทำอะไรหรอกพ่อแค่คิดถึงแม่ของลูกก็เท่านั้น"
ด้วยความสงสัยของเด็กน้อยได้ถามไปว่า"แล้วชื่อนี้แม่เป็นคนตั้งให้หรอครับ" เด็กน้อยถามคนเป็นพ่ออย่างอยากรู้แม้จะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูดออกมา
คนเป็นพ่อเห็นว่าลูกสงสัยเลยได้บอกลูกไปตามตรง" วิมล เป็นชื่อที่พ่อตั้งให้ และสุริย์วรรณเป็นชื่อที่แม่ของลูกตั้งให้ซึ่งเป็นชื่อที่อยู่บนเสื้อของลูก"
"ตอนนี้ก็มืดแล้วเราเข้าบ้านกันดีกว่านะ"อราบิลพูดจบก็ดึงมือของเด็กน้อยเข้าบ้าน
"ครับ"เด็กน้อยไม่ได้คิดอะไรมากและเดินตามพ่อเข้าไปในบ้านอย่างง่ายดายถึงแม้เด็กน้อยจะยังสงสัยอยู่ไม่น้อยแต่ก็ได้แต่คิดเองไปแบบนั่น
"พ่อครับ"
"มีอะไรหรือเปล่าวิมล?"อราบิลหันมาถามด้วยความสงสัย
"พ่อเคยรู้สึกแบบผมมั้ยครับ ว่าผมเคยเป็นลูกของพ่อ"วิมลถามไปอย่างจริงจังเพราะตนเองก็อย่างรู้
"..."อราบิลจ้องเด็กน้อยไปมาอย่างสงสัย
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
จุ่ๆก็มีเสียงประตูดังขึ้นมาอราบิลจึงหันไปสนใจที่ประตูทันที
"เอาไว้ค่อยคุยกันนะ"
"ครับ"
"วิมล!! เปิดประตูให้หน่อยสิ อยู่บ้านมั้ย"เธอเคาะประตูและตะโกนเรียกอีกครั้ง
"เอ้า. รินดา"มาทำอะไรในเวลานี้กันเนี้ย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!