ในเมืองแห่งนึง นามว่าเมือง เฉินโจว ผู้คนในเมืองอยู่รวมกันอย่างมีความสุข ในเมืองนี้มีตระกูล สองตระกูล
หนึ่งตระกูล จาง
สองตระลกู ลู่
...ผู้นำสองตระกูลนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน ตระกูล ลู่มีบุตร สามคนได้แก่ ลู่ เหว่ยซิน ลู่ เฉินมู่ และ ลู่ฉินเหมย ฉินเหมยบุตรคนเล็กเก่งทุกด้าน ส่วนตระกูลจาง มีบุตรสองคน จาง เจียลี่ และ...
...จาง หลิวหยาง ตระกูลทั้ง สองตระกูลต่างมีเพียงบุตรหญิง...
หามีบุตรชายไม่
... ณ เรือนจันทรา...
... "ข้าชอบประวัติของตระกูลเราทั้งสองตระกูลยิ่งนัก"...
...เสียงใสของเฉินมู่บุตรคนกลางแต่นิสัยคล้ายเด็ก...
..."เจ้าฟังแต่ประวัติตระกูลไม่เบื่อรึไง"...
...เสียงของเหว่ยซินตอบกลับน้องคนกลาง...
..."ข้าล่ะสงสัย ทำไมพวกท่านถึงต้องมาอยู่ที่ห้องข้า"...
ฉินเหมยถามพี่ๆทั้งสอง
"ก็เจ้าเอาแต่อ่านหนังสือ บาง คราข้าก็สงสัย ว่าผู้ใดเป็นพี่ผู้ใดเป็นน้อง"
... "ข้าที่เป็นผู้พี่ยังมิอ่าน หนังสือหนักเช่นเจ้า"...
... เฉินมู่พี่คนกลางที่รักในการ...
เที่ยวเล่น หนังสือเล่มเดียว
... ไม่แม้แต่จะจับต้องกล่าวบอกผู้เป็นน้อง...
"งั้นเจ้าก็ลองอ่านหนังสือ
เหมือนฉินเหมยสิ"
... "ไม่ล่ะ ข้าเบื่อ ข้าอยากหลับทุกครา ที่อ่าน"...
... ฉินเหมยได้เพียงแต่ขำพี่ คนกลางที่ดูจะไม่ชอบการ...
อ่านหนังสือจริงๆ
... "พรุ่งนี้ไปเดินเล่นที่สวนกัน...
...มั้ย"...
... เรื่องชวนไปเที่ยวคงไม่พ้นฃเฉินมู่...
..."ข้าไป"...
... "แล้วเจ้าล่ะฉินเหมย"...
... "ข้าไปด้วย"...
"เช่นนั้นพวกเราแยกย้าย
กันไปนอนเถอะ"
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินมู่ และ
... เหว่ยซินก็พากันกลับเรือนนอนของตน...
... "เช่นนั้นข้าก็ควรนอนได้...
แล้วสินะ"
"ข้าสับสนในตัวเองเหลือ
เกิน เจียอี"
"คุณหนูสับสนสิ่งใด
หรือเจ้าคะ"
"ท่านแม่มิได้สั่งให้ข้า
ต้องมีความรู้ ไม่ได้สั่ง
... ให้ข้าเก่งทุกสิ่ง"...
..."แต่เหตุใดกันนะ...."...
... "ข้าถึงทำทุกสิ่ง และกดดันตัวเองถึงเพียง...
นี้....."
..."หากคุณหนูคิดเช่นนั้น...
...คุณหนูเลิกกดดันตัวเองเถิด เจ้าค่ะ"...
"ข้าจักพยายาม"
..."ข้าเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้ว"...
"เจ้าก็นอนเถิด"
"เจ้าค่ะ"
หลังจากจบบทสนทนา
ต่างฝ่ายต่างแยกกันไปนอน
...----------------...
...----------------...
...----------------...
...----------------...
...----------------...
......................
......................
......................
......................
เรื่องนี้เป็นบรรยายเรื่องแรกของไรท์ในแอพnovel toon อาจจะยังไม่ร่อยชินเท่าไหร่เพราะปกติแต่งรีทอะไรท์ คอมเม้นท์พูดคุยกันได้นะ
...วันรุ่งขึ้น...
"ข้าตื่นเต้นยิ่งนัก"
...เสียงใสของเฉินมู่...
"เจ้าจะตื่นเต้นไปทำไม"
..."พวกเราไปแค่สวนดอกไม้เองนี่"...
...เสียงของเหว่ยซิน กล่าวถามน้องคนกลาง...
..."ก็ข้ามิได้จะไปพาไปแค่สวนดอกไม้"...
..."แล้วจะพาไปที่ใดอีกเล่า"...
..."ข้าจะพาท่านพี่กับ...
...ฉินเหมยไปตลาด"...
..."สิ่งใดทำให้เจ้าอยากไปตลาด???"...
... "ข้าอยากรู้ว่าชาวบ้านใช้ชีวิตกันอย่างไร ปกติเรามีคนใช้...
...ซื้อมาให้ทานนี่"...
..."เจ้านี่ขี้สงสัยยิ่งนัก"...
..."ข้ามาแล้ว"...
... "เจ้างามมากฉินเหมย"...
..."เจ้าคงมีหนุ่มน้อยใหยญ่ตามจีบ"...
..."ข้าไม่สนใจหรอก"...
..."เจ้าอายุ16แล้วหนา"...
..."ยังไม่ถึงไวของข้า"...
..."คนรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้ามีบุตรกันท่วนน่า"...
..."แล้วให้ใดท่านถึงยังไม่มีล่ะ"...
...เมื่อฉินเหมยถามเฉินมู่ ก็ถึงคราที่เฉินมู่เงียบ...
...ก็จริงตามที่ฉินเหมยว่า นางคะยั้นคะยอให้น้องมีคู่ครองแต่นางก็ไม่มีคู่ครองหรือบุตร...
..."รีบไปกันเถอะ"...
..."เดี๋ยวตลาดจะวายเอา"...
..."ค่ะ"...
...เสียงของทั้งสองตอบรับพี่คนโต เมื่อทั้งสามชมดอกไม้เสร็จก็ถึงเวลาไปตลาด...
ที่ตลาด เจียหลง
... "ตลาดดูครึกครื้น...
... เสียงของพี่คนโตกล่าว...
... "ฉินเหมยเจ้าพอจะรู้จักร้านขายผ้าหรือไม่"...
"ข้าพอจะรู้จักอยู่ร้านนึง"
"ร้านของตระกูลจาง"
"ร้านของหลิวหยางนะหรอ"
"ค่ะ"
... "อืม.....จะว่าไปพวกเราก็ไม่เคยเจอตระกูลนั้นเลยแหะ"...
..."ก็ถือโอกาศไปเจอตระกูลนั้นเลยนี่"...
..."งั้นไปกันเถอะ!!"...
...เมื่อเฉินมู่กล่าวจบก็รีบเดินไปยังร้านผ้าของตระกูลจางทันที...
..."ช่างน่าแปลกใจจริงๆที่พวกข้าได้เห็นใบหน้าของตระกูลลู่"...
..."จะจักรู้สึกแปลกใจไปทำไม"...
......เสียงของเฉินมู่กล่าวถามเจียลี่......
..."ข้าก็แค่แปลกใจร้อยวันพันปีข้ามิค่อยจักได้เห็นพวกเจ้า"...
..."โดยเฉพาะเจ้าฉินเหมย"...
... "เจ้าคงมัวแต่อ่านตำรามิมีเวลา มาเที่ยวข้างนอก"...
...เจียลี่หันมาพูดกับหญิงสาวหน้าตาสะสวย ที่แลดูอายุจะคราวเดียวกันกับน้องของตน...
......"ท่านพี่ข้ากลับมาแล้ว"......
..."อ่อ....นี่ เจ้าจำได้มั้ยหลิวหยางนี่ฉินเหมยพวกเจ้าน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน"...
..."ท่านพี่มิต้องแนะนำให้มากความข้าจำนางได้เราเคยเล่นด้วยกันตอนยังเด็ก"...
..."เจ้ายังจำข้าได้อยู่ฤา"...
..."มิมีผู้ใดในเมืองเฉินโจวเหมือนหนอนหนังสือเช่นเจ้า"...
..."ในเมืองเฉินโจวก็มิมีหญิงคนใดปากปีจอเท่าเจ้า"...
..."นี่ฉินเหมย!!!!"...
..."มีแต่เพียงเจ้านั้นแลที่คอยหาเรื่องข้า ท่านพี่ดูผ้าไปเถอะข้าจักไปเดินเล่นที่อื่นอยู่ตรงนี้รู้สึกเหม็นกลิ่นกะไรมิรู้"...
..."กลิ่นกะไรฤาฉินเหมยข้าว่าผ้าของข้ามิมีกลิ่นเหม็นนะ"...
..."มันมิได้เหม็นที่ผ้าของท่านพี่เจียลี่หรอกค่ะ"...
..."เหม็นที่หน้าหลิวหยางต่างหาก"...
เมื่อฉินเหมยพูดจบก็เดินหนีทิ้งให้หลิวหยางยืนอารมณ์ไม่ดีอยู่ผู้เดียว
..."เช่นนั้นข้าขอตามนางไปละกัน"...
...เมื่อกล่าวจบหลิวหยางก็เดิมตามฉินเหมยไป...
..."ฉินเหมยน้องเจ้าคงจะไม่ชอบน้องข้าจริงๆ"...
..."น้องข้าไม่ชอบคนเยี่ยงหลิวหยางอยู่แล้ว"...
..."แต่ก็เหมาะสมกันดีนะ"...
..."เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้น"...
... "ก็สายตาที่น้องเจ้ามองน้องข้าเยี่ยงไรเล่า"...
..."ข้าว่าสายตาของหลิวหยางก็มองปกตินะ"...
..."เจ้ามองเช่นไรให้มันปกติ"...
..."หลิวหยางดูเอ็นดูน้องเรามากเลยนะ"...
...เสียงของเฉินมู่กล่าวตอบพี่คนโตที่เหมือนจะไม่รู้??ว่าลูกคนเล็กของตระกูลที่เป็นสหายกันแอบชอบน้องของตน...
...ฝั่งหลิวหยางและฉินเหมย...
..."เจ้าจะตามข้ามาทำไม"ตลาดนี้ผู้ใดจะเดินก็ได้มิใช่รือเจ้าหาเป็นเจ้าของตลาดไม่"...
..."ได้"...
...สิ้นสุดเสียงของฉินเหมย ฉินเหมยก็รีบก้าวให้ไวขึ้น ด้วยรูปร่างที่ปราดเปรียวทำให้เคลื่อนที่ได้ง่ายและทำให้คลาดกับหลิวหยางในที่สุด"...
..."หายไปไหนแล้วนะ เผลอแปปเดียวเอง"...
..."ไหนเจ้าบอกไม่ได้ตามข้ามา"...
...เมื่อหลิวหยางกล่าวจบก็ได้ยินเสียงใสที่คุ้นหู เดาไม่ผิดว่าต้องเป็นคนที่ตนตามหาแน่ๆ...
..."เจ้าเคลื่อนที่ได้ไวเสียจริง"...
..."เจ้าบอกไม่ได้ตามข้ามาแล้วมา ตามหาข้าด้วยเหตุอันใด"...
...".........."...
...หลิวหยางได้เงียบพลางมองหน้าหญิงงามที่อยู่ตรงหน้า ผิวขาว แก้มชมพูผมสีดำที่เงางาม กำลังมองตนพร้อมกับใบหน้าที่ราวกับกระต่ายทำหน้าขู่...
..."ข้าอยากรู้เรื่องนึงน่ะหลิวหยาง"...
..."เจ้าถามข้ามาสิ"...
..."ทำไมผมของเจ้าถึงเป็นสีเหลืองล่ะ"...
..."ข้าก็ไม่รู้คงจะตักถังใส่ผงสีกระมังฮ่าๆๆๆๆๆ"...
..."เราหาที่นั่งคุยกันมั้ย"...
..."อืม เอาสิ"...
...สะพานกวงจิ่น...
..."เจ้ารู้มั้ยฉินเหมย"...
..."ตอนเด็กๆข้ามักโดนแกล้งบ่อยๆ เพราะสีผมของข้าต่างจากผู้อื่น แต่มักจะมีคนมาช่วยข้าตลอดเลยนะ"...
..."ท่านผู้นั้นใจดีจัง"...
...หลิวหยางเงียบพลางหันไปมองหน้าอีกคน ก็นะฉินเหมยเป็นพวกจิตใจดีมีเมตตาพอได้รับฟังเรื่องที่มีคนจิตใจเมตตาเจ้าตัวจะกลายเป็นอีกคนไปเลย ตาแป๋วใสเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสานั่นมันคืออะไรกันนะ...
..."ใช่ ใจดีมาก"...
..."แล้วยามเจ้าโตเจ้าไม่ได้เล่นกับเพื่อนคนนั้นแล้วหรอ"...
..."ได้เล่นสิ ได้เล่นได้คุยแต่ข้าก็วุ่นกับการต่อสู้ คนใจดีท่านนั้นก็วุ่นแต่การอ่านหนังสืออ่านวรรณกรรม ซ้อมดาบ"...
..."คนใจดีท่านนั่นคงจักเก่งทุกด้านเป็นแน่"...
..."ฉินเหมยมันเกิดเรื่องอะไรกับเจ้า เหตุใดเจ้าจึงจำไม่ได้ว่าเจ้าช่วยข้าไว้"...
..."ข้าก็ไม่รู้แต่ก่อนหน้านี่เมื่อเดือนก่อน มีคนเล่าให้ข้าฟังว่าเรือนบุปผาโดนปล้นแต่คนปล้นเอาอะไรไปไม่ได้เลย"...
..."แถมยังตีหัวข้าอีก"...
...****************...
...****************...
...****************...
...----------------...
...----------------...
...----------------...
...----------------...
...----------------...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!