เรื่องนิรันดร์กาลสร้างจากจินตนาการของคนเเต่ง(สนองตนเองล้วนๆเป็นนิยายวายยย)ชื่อตัวละครไม่ได้ยิดติดกับประวัติศาสตร์หรือเรื่องเล่าของทางด้านศาสนาไหนใดๆทั้งสิ้น อาจจะมีชื่อในเรื่องเล่านิทานที่คุณคุ้นเคยของใครหลายๆคนเเต่เป็นเพียงชื่อที่นำมาใช้ในการเเต่ง
เมื่อครั้งที่จักรวาลยังว่างเปล่าจุดที่มืดที่สุดของเอกภพได้ถือกำเนิดผู้ถือครอง เเละนะจุดที่สว่างที่สุดของเอกภพ ก็กำเนิดผู้ถือครองเช่นเดียวกันจุด
ที่มืดที่สุดมีนามว่าดราก้อนไม่รู้ว่ากำเนิดมานานเเค่ไหนเเล้วที่เรียกกันว่าผู้สร้าง เป็นชายสีตัวดำสนิทมีจุดเล็กๆที่หล่อหลอมจากเอกภพนัดพันๆอยู่เต็มตัวมีตาที่สามที่เบิกกว้างอยู่ตรงหน้าผากที่ล่วงรู้อนาคตอดีตปัจจุบันเเละสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อนอย่างไม่มีกำหนด สร้างเอกภพขึ้นใหม่ได้อย่างที่ใจต้องการเเละเช่นเดียวกันก็สามารถทำลายล้างเอกภพได้ทุกเมื่อ พลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดเเละการกลืนกินเพื่อสร้างใหม่
จุดที่สว่างที่สุดมีนามว่าเทียร่าไม่รู้ว่าคือกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่เรียนว่าผู้ถือกำเนิด เป็นหญิง(เเล้วเเต่ใจนึกว่าจะเป็นชายหรือหญิง) ร่างสีขาวมีจุดเล็กๆระยิบระยับทั่วร่างกายช่วงท้องมีสีทองไล่ลีลงไปจนถึงเอว จะมีจุดที่เด่นชัดอยู่ 3 จุด ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เท่าที่จำความได้คือเธอเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ร่วมกับดราก้อนมันเริ่มจากจุดเดียวที่เด่นชัดเเละเพิ่มมาเรื่อยๆจนเป็นสามจุดเธอมีตาที่สามเช่นเดียวกับผู้สร้างเธอรู้เรื่องราวในอดีตอนาคตปัจจุบันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ครั้งที่เทียร่าสนใจในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เธอได้ถามดราก้อนว่าการใช้ชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ที่เเรกดราก้อนมิได้สนใจเลยสักนิด เพียงตอบเเค่ว่า
"เเค่สร้างจักรวาลใหม่ก็พอแล้ว"
เเต่เธอไม่ยอมจึงตามถามอยู่เรื่อยๆจนอีกคนทนไม่ไหว จึงยอมตามน้ำไปเรื่อย ตอนเเรกดราก้อนสร้างโลกที่มีพลังเเละเวทมนตร์ดราก้อนไม่เข้าใจในสิ่งที่เทียร่าทำไม่เข้าใจคำว่าครอบครัวเพื่อนมิตรสหายเเละความรัก เทียร่าทำให้เขาเข้าใจในความหมายนั้น ดราก้อนเข้าใจคำว่ารักได้อย่างลึกซึ้งเเต่สิ่งที่เขายังทำผิดพลาดอยู่คือครอบครัวเเละสิ่งที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับเขาเพื่อชิงตำแหน่งผู้สร้างมันเป็นเศษเสี้ยวของพลังเขาที่ใช้เมื่อตอนสร้างโลกนี้ขึ้นมา มันเป็นเพียงพลังส่วนเกินเท่านั้นเเต่มันกับสร้าง ยูวีเวียน ตัวกินเเสงสว่าง มันอยู่เพื่อกินเเละเเบ่งตัวเป็นจำนวนมากดราก้อนจึงต้องทำลายมันกำจัดมันมากเพียงเท่าใดก็ไม่หมดไม่สิ้น ไม่ว่าจะเกิดใหม่ทุกๆ 1 ล้านปีมันก็ยังตามมาเช่นเคย
...****************...
ยังงงงงพึ่งเริ่มยังไม่เข้าเนื้อเรื่องเลยนะ555 เรื่องนี้คือสนองตัวเองนะอ่านเพื่อความบันเทิงนะะ
พิมพ์ตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ♡♡
ณ **เพลอเชียร์**ดินเเดนซ์ที่จิตแห่งทวยเทพสถิตอยู่เป็นสถานที่สวยงามครื้นเครงเต็มไปด้วยความสุขสนุกสนานหรือศูนย์กลางของเอกภพ ในปราสาทที่เทพชั้นสูงอยู่ยิ่งขั้นสูงเท่าไหร่ยิ่งอยู่สูงเท่านั้น เเละเเน่นอนคนที่อยู่จุดสูงสุดนั้นคือ*ผู้สร้าง*และ*ผู้ถือกำเนิด*ในวังมักจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำอยู่เป็นประจำเพื่อความสนุกสนาน ในทุกวันมักจะเต็มไปด้วยความสุข เเต่ในวันนี้กับไม่ใช่....
"หยุดร้องเถอะ"
เทียร่าที่อยู่ในอ้อมกอดของดราก้อนพูดปลอบโยนผู้อันเป็นที่รัก
"หาเเค่ร่างนี่สูนสลายไปผมคงไม่เสียใจเเต่ดวงวิญญาณของเธอกำลังจะสลายไปจะไม่ให้ผมเสียใจได้ไง"
ดราก้อนกอดร่างของเทียร่าที่กำลังค่อยๆสลายไปน้ำตาของความเสียใจที่คนที่รักกำลังจะจากไปอย่างหวนกลับมาไม่ได้ไม่รู้ว่าจะเกิดมาตอนไหนหรือไม่สามารถเกิดมาได้อีกเขาเองก็ไม่อาจจะรู้ได้
เธอทำได้เพียงส่งยิ้มให้เขาเท่านั้น เพราะการตัดชีวิตมาหลายชาติทำให้ดวงวิญญาณของเธอไม่อาจจะคงทนอยู่เคียงคู่คนอันเป็นที่รักได้ เธออยากจะอยู่ในนานเท่าที่จะทำได้เเต่ไม่ไม่สามารถทำได้ตอนนี้ได้เเต่เฝ้ามองคนรักเศร้าโศกเสียใจอย่างสิ้นหวัง
"เฮ้ย ตอนจากนี้คุณต้องอยู่คนเดียวนะ"
"ไม่ๆ"
"คุณต้องทำได้สิ คุณคือผู้สร้างนะ"
"ถึงผมจะสร้างได้ทุกสิ่งเเต่ผมไม่สามารถสร้างตัวคุณขึ้นมาได้"ดราก้อนพูดด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวังที่สุดเท่าที่เคยมีมา เขาอยากจะสร้างเธอขึ้นมาใหม่เเต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะทั้งคู่เกิดขึ้นเองของเอกภพ ถ้าเทียร่าดับสูญไปก็จะไม่มีสายธารแห่งชีวิต สิ่งมีชีวิตใหม่ๆไม่อาจถือกำเนิดได้
"ฉันรักคุณมากเลยนะ"
"ผมก็รักคุณเช่นกัน"
"รัก...มาก......."
พอสิ้นคำร่างของเธอก็สูญสลายไปในอ้อมกอดของดราก้อน เขาสูญเสียไปแล้ว ทุกคนที่เห็นการจากไปของเทียร่าต่างก็เศร้าโศกเสียใจ ทั่วทั้งเพลอเซียร์ไร้ซึ่งแสงสว่างอย่างกระทันหันโดยเฉพาะพระราชวังที่สว่างไสวอยู่ตลอดเวลานะตอนนี้มันกับมัวหมองไร้ซึ่งชีวิตชีวาผู้ที่เป็นดังเเสงสว่างได้จากพวกเขาไปเเล้ว
.......
.......
.......
.......
เมนอสเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวาลเเต่ตอนนี้กับไม่ใช่ ตอนนี้เป็นเพียงดินแดนที่มนุษย์อาศัยอยู่เเละผู้ที่มีพลังเวทย์คือเครื่องมือสำหรับมนุษย์ สำหรับคนที่มีพลังเวทย์แข็งแกร่งก็จะถูกส่งตัวไปที่วัง
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูที่คุ้นเคยพรางทำให้อัลฟ่าชายที่สวมชุดกิโมโนอยู่ใต้ผ้าห่มลุกขึ้นไปเปิดประตู
"......"
"ลูกพี่อาหารเช้าครับ"
"อืม"
เคียร่าอัลฟ่าชายสูง 175 อายุ 20 ผมยาวสีขาวบริสุทธิ์หน้าตาที่สวยเกินว่าจะเป็นอัลฟ่าได้โอเมก้าที่ว่าสวยที่สุดในโลกก็ยังสู้ไม่ได้ แม้แต่หญิงสาวที่ได้เจอก็ต้องอิจฉาความงามของเธอ ดวงตาสีฟ้าครามดุดันในวันพระจันทร์สีน้ำเงิน เเละยังเป็นผู้มีเวทย์ระดับมหัตภัยต่อโลก
"ชาเขียวกับขนมปังปิ้ง 2 แผ่น"
พอลูกน้องได้ยินก็รีบไปทำให้ เคียร่าจึงไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่มีอัลฟ่าที่มีนามว่ารีไทร์สูงประมาณ 190 กว่าๆที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้ รีไทร์ก็เป็นผู้มีพลังเช่นเดียวกันเเต่อยู่ในระดับอัตราต่อประชาชน รีไทร์เเละเคียร่าจับมือกันก่อตั้งองกรณ์ช่วยเหลือผู้มีพลังเวทย์โดยเฉพาะพวกเด็กๆที่จะตกเป็นเหยื่อของคนที่ต้องการใช้พลังหากินเเละเป็นองกรณ์ต่อต้านกฎที่ว่าคนที่มีพลังเวทย์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
"วันนี้เธอตื่นสายนะ"
"อืม"
ทั้งสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเป็นเพียงเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเพียงเท่านั้นเฉพาะในความคิดของเคียร่า เเต่กับรีไทร์ที่อยากได้ความสัมพันธ์มากกว่านี้จึงได้ตามจีบอยู่ห่างๆ เคียร่ารู้ตัวมาตลอดว่ารีไทร์มีจุดประสงค์ที่อยากได้ตนมาเป็นเมียเเต่ก็ไม่ยอมมาโดนตลอด
"ฝันเเบบเดิมอีกเเล้วใช่มั้ย"
"ใช่"
ช่วงนี้เคียร่าฝันเเปลกๆมาเป็นเดือนๆเเล้วเเต่ที่หน้าเเปลกคือเธอฝันเหมือนเดิมมาซ้ำๆ ยิ่งคิดยิ่งหนักใจตอนนี้สิ่งที่เยียวยาได้คือชาเขียวร้อนๆของโปรดที่เรารัก เเล้วอะไรจะดีไปกว่าได้กินขนมปังปิ้งกรอบๆทาแยมสตรอเบอรี่ลงไป เเค่นี้ก็เป็นเช้าที่ดีเเล้วรสขมของชาเขียวเเละรสหวานของเเยมที่อยู่บนขนมมันเข้ากันดีมากๆถึงประเทศที่อยู่มันจะต่ำเพียงใดขอเเค่มีชาเขียวร้อนๆสักเเก้วก็ทำให้มีความสุขเเล้ว
"เดือนหน้าเราจะไปรับเด็กคนนี้"รีไทร์หยิบรูปให้อีกฝ่ายดู เคียร่าหยิบรูปขึ้นมาดูให้ชัดๆ เด็กสาวผมสีทองอายุประมาณ 8 ขวบได้
"อย่างอื่นอีกล่ะ"
"การพยากรณ์อนาคต"
"........."
พยากรณ์อนาคตงั้นหรอ? ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน อยากจะถามเธอเรื่องที่เราฝันอยู่เป็นประจำ ต้องช่วยเธอออกมาให้ได้ก่อน จะว่าไปเดือนหน้าก็เป็นวันเกิดปีที่ 21 ของเราเเล้วนิหวังว่าจะไม่ใช่วันที่ไปช่วยเธอออกมา ร่างสูงนั่งครุ่นคิดอยู่นานเหมือนกันจนมีเเรงเล็กๆดึงเเขนเสื้อกิโมโน
"พี่เคียร่าๆ"เสียงเล็กๆของเด็กน้อยวัย 10 ขวบไร้เดียงสามือทั้งสองจับเเขนเสื้อกิโมโนของร่างสูงอย่างกระตือรือร้น
"อยู่ๆต้นไม้ที่พวกเราดูเเลก็เเห้งตาย พี่ช่วยหน่อยได้มั้ยครับ"
"ได้สิ"
"ก่อนจะไปนายช่วยเเต่งตัวให้มันดีๆก่อนได้ไหม"
รีไทร์เดินเข้าไปจับชุดของอีกฝ่ายที่เปิดไหลจนเห็นเนื้อตัวจนถึงเอวฝั่งขวาทั้งหมด อีกฝ่ายไม่พูดอะไรเเต่สีหน้าบอกถึงความไม่พอใจอยู่หน่อยๆ รีไทร์จับชุดจนเรียบร้อยดีเเต่อีกฝ่ายมองด้วยความไม่ค่อยพอใจจึงจับเสื้อผ้าให้เหมือนเดิมเเล้วรีบจูงมือเด็กออกไป
.
.
.
เด็กชายตัวน้อยเดินจูงมือเคียร่ามายังสวนหลังบ้านที่เด็กๆชอบมาเล่นเเละฝึกการควบคุมพลังเวทย์ของตัวเองเพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้คนได้อย่างสงบสุข ตอนนี้เด็กที่อยู่ในองกรณ์มีอยู่ประมาณ 12 คนรวมถึงเด็กที่ใกล้โตเเล้ว เด็กๆยืนล้อมต้นไม้ต้นเล็กๆที่กำเหี่ยวเฉา เด็กพยายามรดน้ำใส่ปุ๋ยหรือใช้พลังเวทย์เพื่อฟื้นฟูเเต่ก็ไม่ได้ผล ร่างสูงที่เห็นเเบบนั้นก็ทำให้เอ็นดูเเล้วเเละดีใจในเวลาเดียวกันอย่างน้อยๆสิ่งที่เธอสอนก็ทำให้เด็กๆเข้าใจในชีวิตที่ต้องการอยู่
"ไหนๆให้พี่ดูหน่อย"
"พี่เคียร่าๆทำไมต้นไม้ต้นนี้ถึงไม่อยากมีชีวิตอยู่"
"น่าจะไม่ใช่นะ"
เคียร่าอยู่ในท่านั่งลงไปกับพื้นหญ้ามือทั้งสองโอบต้นไม้น้อยๆไว้ พลังเวทย์ค่อยไหลออกมาจากร่างกาย ใจนึกอยากใช้เเค่พอให้ต้นไม้ต้นน้อยๆฟื้นตัวเพียงเท่านั้นเเต่ชั่วพริบตาจากต้นไม้ต้นน้อยๆกับกลายเป็นต้นใหญ่เขียวขจีดอกไม้ผลิบานเต็มต้นเด็กๆพากันดีใจเเต่ไม่ใช่กับเคียร่า
เด็กๆพากันเล่นสนุกสนานกันโดยที่มีร่างสูงนั่งกอดเข่าอยู่ใต้ต้นไม้ที่พึ่งฟื้นฟูในใจพาเเต่คิดถึงเรื่องที่ตัวเองคุมพลังไม่ได้ หากตัวเราโตขึ้นพลังเวทย์ก็จะเพิ่มตามถ้ามันยังเป็นเเบบนั้นอยู่อีกไม่นานทางพระราชวังจะต้องเอาตัวเราไปเเน่เพราะทุกๆครั้งที่ออกไปข้างนอกเคียร่าจะซ่อนพลังที่ตนเองมีอยู่เอาไว้เเต่ตอนนี้เริ่มจะเก็บไว้ไม่ได้เเล้วครั้งสุดท้ายที่ตัวเองระเบิดพลังนั้นออกมาก็นานมากแล้ว ไหนจะเรื่องความฝันบ้าๆนั้นอีก ทุกครั้งที่หลับตาเคียร่าก็มักจะเห็นภาพดวงตาสีทองอำพัน เเววตาที่เหมือนมังกรตัวผู้ที่ดุร้ายเเต่พอหันมามองที่เรากับดูอบอุ่นมากเเล้วไหนจะเด็กทั้ง 3 คนที่อยู่ในวัยไล่เลี่ยกันเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
"น่าอิจฉาจัง..."
...****************...
หวัดว่าจะชอบกันนะๆๆๆพิมพ์ผิดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะ( ◜‿◝ )♡
ลมพัดผ่านเย็นๆพาทำให้อัลฟ่าร่างสูงที่อยู่ใต้ต้นไม้เผลอหลับได้ในไม่กี่เวลาเด็กๆที่เห็นคนเป็นพี่หลับต่างพากันไปนอนซุกไซร้นอนไปตามกันก่อนที่จะ...
"ลูกพี่ๆ!!!"
"ไอเดวิดมันใกล้ตายเเล้วพี่!!!"
"ห้ะ!!!"
เคียร่าที่ตอนเเรกง่วงนอนอยู่ตอนนี้กับตื่นเต็มตาเพราะลูกน้องมาบอกว่าคนสนิทของตนใกล้ตาย ร่างสูงรีบลุกวิ่งตามหลังลูกน้องที่มาบอกเรื่องให้ตนฟัง สถานการณ์ในบ้านตอนนี้ไม่สู้ดีนักเดวิดไปเจอกับพวกกรมการวังที่จ้องจะเล่นงานพวกเขาทุกครั้งที่มีโอกาสพวกนั้นไม่ปล่อยให้เดวิดหนีไปเขาจึงกลับมาในสภาพที่ซีกขวาหายไป รีไทร์เรียกหมอเผื่อจะช่วยยื้อชีวิตของเดวิดได้ก่อนที่เคียร่าจะมาเห็น เเต่ก็ต้องศูนย์เปล่าเขาหายใจเฮือกสุดท้ายก็จะสิ้นลมหายใจ
"เดวิด!!!.....ไม่ๆ"
"อย่าตายนะ!!!"
ดวงวิญญาณของเดวิดได้หลุดออกจากร่างกายเเล้วตอนนี้ไม่สามารถทำอะไรได้ เคียร่าที่ยังไม่สามารถรับได้กับเรื่องนี้คนสนิทของตนต้องมาตายต่อหน้าอีกเเล้วงั้นหรอ น้ำตาเริ่มเอ่อน้องมันเยอะขึ้นเรื่อยๆจนไหลเป็นสาย ภายในใจเต็มไปด้วยภาพของคนที่สนิทตายต่อหน้าของเธอ เคียร่าไม่อาจยอมรับได้ ทำได้เเต่วิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าขอให้ดวงวิญญาณของเดวิดกลับมาเธอนั่งภาวนาอยู่นานเเต่เหมือนพระผู้เป็นเจ้าจะไม่รับฟังคำวิงวอนของเธอเเม้เเต่นิดเคียร่าค่อยๆหมดความหวังเธอนั่งร้องไห้อยู่เเบบนี้จนรีไทร์ต้องเดินเข้ามาปลอบ
"พอเถอะเคียร่า"
"เดวิดไปสบายแล้วนะ"
"ไม่...ไม่ๆ!!"
เคียร่ากุมมือของเดวิดเอาไว้เธอจะลองใช้เวทมนตร์ของตนเพื่อนำวิญญาณของเขากลับคืนมาตอนนี้เคียร่าไม่เชื่ออะไรทั้งนั้นเเล้วตอนนี้ต้องเชื่อตัวเองรีไทร์ไม่ได้ห้ามเพราะการจะฟื้นคืนชีพคนตายนั้นเป็นไปไม่ได้ รีไทร์ได้เเต่มองอยู่ห่างๆ ทันได้นั้นก็มีนกประหลาดบินออกมาจากไหนไม่รู้มันมาเกาะที่เเขนของอัลฟ่าร่างสูง เคียร่ารู้ได้ทันทีว่านี่คือดวงวิญญาณของเดวิด ทำไมเคียร่าถึงรู้อะหรอเรื่องนี้ก็ไม่สามารถตอบได้ เเต่ว่ากันว่าเมื่อมีคนตายดวงวิญญาณจะเปลี่ยนเป็นนกที่ดูคล้ายนกฟินิกซ์สีขาว จากนกตัวนั้นกลายเป็นลูกพลังงานนั้นก็คือดวงวิญญาณสมบูรณ์ ร่างกายที่ได้ดวงวิญญาณกลับคืนมา ร่างกายด้านขวาที่หายไปมันเริ่มซ่อมแซมตัวเองเซลล์เเต่ละเซลล์เริ่มเชื่อมต่อกันเส้นเลือดเเล้วเส้นประสาทหลอมรวมกับเนื้อเยื่อเเละกระดูกที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ปอดเริ่มทำงานหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง เดวิดฟื้นคืนชีพขึ้นมา ทุกคนต่างตื่นตกใจเพราะไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะฟื้นคืนชีพคนตายกลับมาได้อย่าง 100% เคียร่าไม่รู้ตัวว่าตัวเองใช้พลังเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาของคนอื่นอยู่
"เวทมนตร์ดำงั้นหรอ!!"
"ฉันไม่รู้!"
เคียร่าตื่นตะหนกกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเเต่คนที่ตกใจมากกว่าคือรีไทร์ เหล่าลูกน้องรีบเข้าไปดูเเล้วถามอาการเดวิด ความทรงจำยังอยู่เหมือนเดิมทั้งตอนก่อนตายเเละความรู้สึกตอนตายได้อย่างดี
"ลูกพี่เคียร่า"
"เจ็บตรงไหนมั้ย ลองขยับเเขนขวาดูนะ"
.......
.......
.......
ปราสาทที่เพลอเซียร์ห้องกำเนิดของชีวิต เครื่องทอผ้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางห้องดูเหมือนจะมีผ้าผืนหนึ่งที่ยังทอไม่เสร็จเเละไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จด้วยผ้าผืนนั้นเรียกว่าผ้าต้นกำเนิดสิ่งต่าง ที่ตรงนั้นมันเคยเป็นของใครบ้างคนตอนนี้คนตรงนั้นไม่อยู่มาหลายพันล้านปีเเล้วเหลือเพียงคนที่สร้างใยไหมในการถักทอ คนผู้นั้นเฝ้ารอคอยการกลับมาอีกครั้งเขาได้เเต่ยืนมองเครื่องทอผ้านั้นอยู่ทุกวัน อยู่ๆเครื่องทอผ้าก็ทำงานมันเริ่มขยับเหมือนตอนที่ผู้เป็นนายเคยใช้ ผู้ที่ยืนดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของมันมันเป็นอย่างดี
กลับมาที่เมนอส โนวา ออฟเดอะคิง วัย 20 ปีทำงานอยู่ในวังตำเเหน่งขุนนางชั้นสูง เป็นอีกวันที่ต้องทำงานในวังตอนนี้กำลังคิดว่าวันนี้ใกล้จะจบเเล้วเขาเบื่อหน่ายกับการทำงานเเละความคิดลบๆของขุนนางคนอื่นเรื่องที่จะกำจัดคนที่มีเวทมนตร์ไม่อยู่ใต้ คำสั่งของกษัตริย์เเละเหล่าขุนนางโนวาก็เป็นขุนนางที่มีพลังเวทย์เช่นเดียวกันครอบครัว เขาจำเป็นต้องทำตามที่กษัตริย์สั่งหากไม่ทำก็อาจจะถูกกำจัดเหมือนกับญาติคนอื่นๆ โนวาเดินตามโถงทางเดินเพื่อไปหาพ่อที่เป็นขุนนางเช่นเดียวกัน เเต่สายตาไม่รักดีเหลือบไปเห็นคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆสระน้ำเก่า ดวงตาสีทองที่เหมือนในตามังกรทั้งสามสามารถสะกดสายตาของโนวาไว้ร่างกายขยับเดินเข้าไปหาเเต่ไม่ทันได้เข้าใกล้ก็ได้ยินเสียงคนเรียกเขาหันไปทางต้นตอของเสียงพอหันกลับมาอีกครั้งชายคนนั้นก็หายไปซะเเล้วโนวาจึงรีบเดินไปหาพ่อ
"พ่อ"
"มาแล้วหรอ กลับกันเถอะ"
"ครับ"
สองพ่อลูกรีบเดินออกจากวังโนวาที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังมีใครอีกคนที่อยู่ในเงาของเขากำลังตามไปอย่างไม่ระวังตัว
คฤหาสน์ของตระกูลออฟเดอะคิงที่มีมาช้านานว่ากันว่าเคยเป็นกษัตริย์ที่ปกครองเมืองนี้เเต่มันก็เป็นเเค่ตำนานเท่านั้นไม่มีใครเชื่อว่าเรื่องเล่าจะเป็นความจริงหรือไม่ ตอนนี้ตระกูลของเขาเป็นเพียงเบี้ยหมากของกษัตริย์
"ยินดีต้อนรับกลับนะ"
หญิงสาวอัลฟ่าพูดตอนรับสามีเเละลูกที่พึ่งกลับมาถึงบ้านด้วยความอบอุ่น เขาเป็นเเม่ของโนวาเเล้วเป็นคุณหญิงของตระกูล
"ดีนละครับ"
"ยังนอนอยู่จ๊ะ"
คนเป็นเเม่รีบตอบลูกโดยทันที ดูเหมือนว่าจะเป็นคนสำคัญของโนวา ช่วงนี้สองพ่อลูกต้องเข้าไปทำงานในวังอยู่บ่อยครั้งเพราะเรื่องที่มีคนลักพาตัวคนที่มีพลังเวทย์ไปอยู่บ่อยๆจึงทำให้ครอบครัวไม่ค่อยได้พูดหากันเท่าที่ควรถึงจะเป็นเเบบนั้นเเต่ตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้ ต่างคนพาพูดคุยอย่างเป็นกันเอง บรรยากาศกำลังอบอุ่นผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆ
"สวัสดี"
เสียงไม่ได้มาจากพวกเขาทั้ง 3คนเเต่มาจากบุคคลที่ 4 ห้องนั่งเล่นในตอนนี้มีเพียงพวกเขา 3 คนเเล้วคนที่ 4 มาจากไหน!
...****************...
พิมพ์ผิดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!