NovelToon NovelToon

The Skull

บทที่ 0 กล่อง ?

 5 กุมภาพันธ์ คริสต์ศักราช 2001

ผม วิล จอนสัน ผมอาศัยอยู่ในบ้านเล็กๆแถบชานเมืองที่ได้รับมาจากคุณปู่ของผมที่เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันนี้เป็นหยุดจากงานราชการตำรวจอันแสนจะน่าเบื่อและเหน็ดเหนื่อยของผม ผมได้เปิดประเดิมเช้าวันหยุดของผมโดยการจัดบ้านใหม่ทั้งหมดเพราะในตอนนี้เหมือนรังหนูเลยล่ะ ผมได้จัดบ้านไปทีละส่วนๆจนมาถึงห้องนอนของคุณปู่ของผมที่ไม่มีคนนอนมา 2 ปีแล้วแต่มันยังสะอาดเพราะผมเข้ามาทำความสะอาดในทุกๆวัน ผมกวาดสายตาไปรอบๆ...

และผมได้เห็นสิ่งผิดปกติด้านหลังของตู้เสื้อผ้าในห้อง ด้วยความสงสัยผมลองย้ายมันและดูสิ่งผิดปกตินี้น ผมได้ใช้แรงในการเคลื่อนย้ายตู้เสื้อผ้าไปไว้ด้านข้าง มันหนักไม่ใช่เล่นๆเลย ผมได้พบว่าสิ่งผิดปกติที่ผมเห็นนั้นคือประตูไม้สีดำที่ไม่มีลูกบิดและมีการแกะสัญลักษณ์กะโหลกขนาดใหญ่สลักอยู่ตรงกลางประตูไม้นั่นมันให้ความรู้สึกที่ชวนขนหัวลุกเป็นอย่างมาก " ประตูนี่มันอะไรกัน? " ผมกล่าวด้วยความมึนงงและสงสัย...

ผมได้ลองเปิดมันดูแต่เปิดยังไงก็เปิดไม่ออกทั้งผลักและสอดนิ้วไปตามร่องของประตูแต่ก็ไม่ได้ผล สุดท้ายผมได้ใช้เท้าของผมพยายามถีบไปที่ประตู แต่ก่อนที่เท้าของผมจะโดนประตู จู่ๆประตูนั้นก็อ้าออกอย่างช้าๆ ผมได้วางเท้าลงอย่างมึนงงแต่ผมไม่ได้คิดอะไรผมได้ลองเข้าไปดูในห้องหลังประตูนั้นแต่มันมืดมาก ผมได้แต่กลับไปเอาไฟฉายที่ห้องของผมและกลับมา ผมในตอนนี้พร้อมเข้าไปแล้ว ผมเข้าไปในห้องนั้นและพบว่ามันเป็นบันไดที่พาไปยังชั้นใต้ดินผมเดินลงไปตามทางเพื่อสำรวจ จากการกะระยะทางของผมตอนนี้ผมเดินลงไปมากกว่า 7 ม.กว่าจะถึงล่างสุดนี่มันลึกมากๆ แต่ดูเหมือนห้องนี้ก็จะเหมือนห้องในชั้นใต้ดินทั่วๆไปที่ใช้เก็บของ ก่อนอื่นผมต้องหาสวิทช์เพื่อเปิดไฟเพราะในนี้ค่อนข้างมืด และโชคดีที่หลอดไฟในห้องนี้ยังคงใช้การได้อยู่ผมได้มองไปรอบๆและได้สดุดตากับกล่องเก็บของกล่องหนึ่ง กล่องนั้นมีลักษณะเป็นโลหะสีเทาๆดำๆและไม่มีที่ล็อคไม่อะไรเลยเป็นกล่องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ไม่มีแม้แต่ลวดลายอะไรเลย....

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆกล่องนั้นขึ้นเรื่อยๆจนถึงด้านหน้าของกล่องนั้น จู่ๆกล่องก็เริ่มส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดและเปิดออกด้วยความรุนแรงผมตกใจมากจนล้มลงกับพื้น ผมยังคงตกใจอยู่ผมได้เรียกคืนสติ ผมได้ลุกขึ้นและเดินไปดูที่กล่องนั้นอย่างช้าๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น และผมพบว่าในกล่องนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากหินแกะสลักสีดำคล้ายถ่านแวววาวมีผิวขรุขระเป็นร่องๆเหมือนเนื้อไม้ขนาดเท่าฝ่ามือมีรูปทรงเป็นกะโหลกมนุษย์มันดูใหม่มากๆเหมือนพึ่งซื้อมา แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรตอนที่ผมมองไปหินสลักนั้นมันทำให้ผมหนาวสั่นและขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับว่ามีคนกำลังมองผมอยู่...

ผมได้รวบรวมความกล้าอีกครั้งและหยิบหินสลักนั้นขึ้นมา มันเย็นมากเหมือนกำลังแตะกับก้อนน้ำแข็งที่เหน็บหนาว " เย็นมาก.. " ผมกล่าว จู่ๆผมก็รู้สึกเสียวสันหลังแว๊บๆ ผมหันไปด้านหลังทันทีด้วยความระแวง แต่ผมไม่พบอะไรนอกจากบันไดทางขึ้นลงของชั้นใต้ดินนี้ ความกลัวและความระแวงเริ่มแทรกซึมเข้าไปในในจิตใจของผม ทุกวินาทีหลังจากที่กล่องมันเปิดออกในชั้นใต้ดินแห่งนี้ก็เหมือนกับว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ผมพยายามทำตัวให้มีสติไม่ให้ความกลัวของผมเพิ่มมากไปกว่านี้...

ทันใดนั้นที่ผมได้มองไปที่หินแกะสลักนั้นทีามันอยู่บนมือของผม ผมพบว่าแทนที่มันจะเป็นหินแกะสลักแต่มันกลับเป็นลูกกะตาเต็มดวงอยู่บนมือของผม ผมตกใจมากและขว้างมันไปที่กำแพงอย่างรุนแรง ผมได้มองไปที่มันและพบว่าหินสลักนั่นมันได้แตกไปแล้ว "ภาพหลอนหรอ? " ผมกล่าวด้วยความมึนงงอย่างมาก แต่ผมไม่สนเรื่องที่หินนั่นแตกเท่าไหร่ในตอนนี้ตัวผมเริ่มรู้สึกแปลกๆกับที่แห่งนี้ขึ้นทุกทีๆ ทางเข้าชวนขนหัวลุก กล่องโลหะที่เปิดเองได้ หินแกะสลักที่มีรูปทรงที่แปลกประหลาด เห็นภาพหลอนทั้งที่สติยังครบถ้วน มันแปลกไปซะทุกอย่าง ผมมองไปที่หินสลักนั่นอีกรอบ และด้วยความระแวงผมรีบวิ่งขึ้นบันไดเพื่อกลับห้องของตัวเอง หลังจากผมออกมาจากชั้นใต้ดินนั่นมายังห้องของคุณปู่ นี่มันทำให้ผมผ่อนคลายมากแทบจะในทันที ความตรึงเครียด ความระแวง ความกลัวที่งหมดนี้นหายไปอย่างหมดจด ผมรีบปิดประตูนั่นและดันตู้เสื้อผ้ามาวางไว้ที่เดิม...

ผมรีบออกไปจากห้องนี้และกลับห้องของตัวเอง ผมโยนตัวเองนอนลงบนเตียง และพยายามลืมทุกอย่างเกี่ยวกับชั้นใต้ดินนั่นและหลับตาลงรอวันใหม่ที่สดใสมากกว่าเดิม แต่ผมไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าผมได้ไปสกิดสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเข้าแล้ว และมันกำลังจับจ้องผมในตอนนี้...

จบบทที่ 0 กล่อง ?

บทที่ 1 วันธรรมดาๆ

9 กุมพาพันธุ์ คริสต์ศักราช 2001

4 วันต่อมาหลังจากวันที่ผมเจอชั้นใต้ดินนั่น วันนี้คือวันที่ผมจะต้องกลับไปทำงานน่าเบื่อๆ ผมตื่นเช้าและอาบน้ำเตรียมตัวออกไปทำงานเหมือนที่ทำมาตลอด หลังจากผมอาบน้ำเสร็จและออกมาจากห้องน้ำ จู่ก็มีเสียงเหมือนกับมีอะไรหล่นจากที่สูง ผมคิดว่าเป็นโจรที่เข้ามาขโมยของ ผมเดินไปหยิบปืนในตู้เสื้อผ้าของผมในห้องนอน ผมเดินไปที่ห้องครัวด้วยความระมัดระวัง ผมเดินไปถึงห้องครัวและพบว่าสิ่งที่หล่นคือเครื่องนวดแป้ง ผมกวาดสายตาไปรอบๆและผมได้พบกับเจนแมวของผม ผมได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ผมกลับไปที่ห้องและเตรียมใส่ชุดเครื่องแบบเพื่อไปทำงาน หลังจากเตรียมตัวแล้วผมได้ออกรถในทันที แต่ในระหว่างทางนั้นเองผมได้พบกับคนสองคนที่กำลังตีกันอยู่ผมได้จอดรถใกล้ๆและลงไป " เฮ้!!! " ผมตะโกนเพื่อที่จะห้ามพวกเขา แต่ทันทีที่ผมได้สังเกตพวกเขาดูดีๆแล้ว ผมแทบจะกรี๊ดออกมาเหมือนผู้หญิง ผมพูดไม่ออกเลย... พวกเขาสองคนมีรูปร่างที่ผอมแห้งมีผิวที่ซีดเซียวเส้นเลือดดำโผล่ตามตัวเหมือนรากไม้เหมือนกับซอมบี้ในหนังเลยล่ะ จู่ๆพวกเขาสองค- ไม่สิ...พวกมันทั้งสองตัวหันมาหาผมอย่างช้าๆตอนที่พวกมันกำลังหันมามีเสียงกร๊อบแกร็บอยู่ตลอด ผมเรียกคืนสติและได้ยิงไปที่พวกมันตัวนึง แต่มันกลับไม่มีการกรีดร้องและอาการที่ดูเจ็บปวดแม้แต่น้อย ในตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าไม่มีตอนไหนควรหนีเท่าตอนนี้อีกแล้ว แต่ทำใดนั้นมันก็คำรามด้วยเสียงที่ดูเดี๋ยวกราด เสียงนั้นมันทำเอาผมไม่สามารถขยับขาได้เนื้อตัวของผมชาไปหมด มันทั้งสองเดินเข้ามาใกล้ๆผมเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นที่ผมกระพริบตาลงพวกมันสองตัวก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนไม่เคยมีพวกมันอยู่ตรงนี้ ผมรีบวิ่งออกจากตรงนั้นไปที่รถและออกรถในทันที

" นี่มันบ้าอะไรกันวะ!!? " ผมบ่นด้วยความกลัวและมึนงง "เชี่ยเอ้ยๆๆ " ผมเริ่มเสียสติในตอนนี้ผมเข้าใจอารมณ์ของตัวละครในหนังผีสยองขวัญแล้วล่ะ ผมพยายามเรียกคืนสติและเร่งเครื่องไปที่ทำงานในทันที หลังจากถึงที่ทำงานของผมที่นี่คือ สถานีตำรวจเมืองอีเทอร์สาขา 3 ผมได้เดินเข้าไปในที่ทำงาน

ในระหว่างที่ผมกำลังเข้าไปมีชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าทางเข้าเหมือนว่าเขากำลังรอใครซักคนหนึ่ง " ไงวิล " เขาทักทายผมพร้อมโบกมือ เขาคือเพื่อนร่วมงานของผมจิม วิลลี่ " ไงจิม " ผมทักทายเขากลับพร้อมโบกมือ จิมยื่นแก้วกาแฟร้อนๆให้ผม " ขอบคุณจิม " ผมขอบคุณและยิ้ม " คนทำงานแบบพวกเราต้องมีคาเฟอีนในร่างกายนะ " จิมกล่าวและหัวเราะผมหัวเราะตามและกอดคอเขาเข้าไปในที่ทำงานผมผ่านไปครึ่งวันผมแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยยสของผมในตอนนี้ที่ต่ำเอามากๆผมแทบจะไม่สามารถหาอะไรทำได้เลบคดีก็โดนคนอื่นแย่งไปหมด ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นผมเรียบรับมันโดยทันทีผมแทบจะเบื่อตายอยู่ในที่สุดก็มีงานมาให้ทำซักที " ฮัลโหลสถานีตำรวจเมืองอีเทอร์ครับ " ผมกล่าวผ่านโทรศัพท์ " ตำรวจใช่มั้ย " ปลายสายกล่าว " ครับมีอะไรให้ช่วยครับ " ผมกล่าว " ถนนฮาวี่เลข 34/123 ไม้สีขาว " ปลายสายบอกที่อยู่ของตัวเองและวางไป นี่มันแปลกมากโทรมาหาตำรวจแต่กลับไม่แจ้งรายละเอียดปกติแล้วเราจะไม่รับทำงานแบบนี้แต่ผมไม่สนอีกต่อไปแล้วในตอนนี้ผมเบื่อมากๆ ผมออกจากสถานีและขึ้นรถในทันที ผมขับออกจากสถานีและตรงไปยังถนนฮาวี่แถบชานเมือง ผมมาถึงถนนฮาวี่ผมพยายามหาบ้านไม้สีขาวจนพบลักษณะเป็นบ้านไม้สีขาวเล็กๆสองชั้น ผมจอดรถอยู่ที่หน้าบ้านหลังนั้น ผมได้ลงออกจากรถและเดินไปที่หน้าประตูบ้าน " นี่เจ้าหน้าที่เปิดประตูเดี้ยวนี้! " ผมตะโกนออกไปผมคิดว่าอาจจะมีโจรขึ้นบ้านทำให้ปลายสายไม่สามารถแจ้งรายะเอียดได้และที่ตะโกนออกไปก็เพื่อให้โจรตกใจแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับแต่มันก็ปกติอยู่แล้วสำหรับโจรที่จะเงียบ ผมลองบิดลูกบิดประตูดูและมันไม่ได้ล็อคผมเปิดประตูและเข้าไปในบ้านหลังนั้นและพบว่าบ้านหลังนี้ไม่มีอะไรเลยโซฟาโต๊ะเก้าอี้ทีวีไม่มีเลยว่างเปล่า ผมไม่คิดว่าไม่น่าจะมีคนอยู่ได้โดยไม่มีฟอนิเจอร์อะไรเลยนะ ถึงโจรจะขโมยไปแต่มันก็น่าจะไม่เร็วขนาดนี้ ผมได้ลองขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองและใช่ชั้นนี้ก็ว่างเปล่าโล่งยิ่งกว่าสมองของผมซะอีก จู่ๆผมก็ได้กลิ่นที่เหม็นมากๆกลิ่นนั้นดูเหมือนจะมาจากชั้นล่าง ผมเดินลงไปที่ชั้นแรกและหันซ้ายไป และสิ่งที่ผมเห็นก็คือศพนับสิบนอนเรียงรายกันที่นองไปด้วยทะเลเลือดและส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมแทบจะอ้วกออกมาเลยล่ะ ผมได้วิ่งออกมาจากบ้านหลังนั้นเพราะกลิ่นมันเหม็นจนแทบจะทำให้ผมหายใจไม่ออก " แค่ก!ๆ เหม็นชิปหาย " ผมกล่าว ผมได้หันกลับไปที่บ้านหลังนั้นแต่ทันทีที่ผมหันกลับไปบ้านหลังนั้นก็หายไปแล้วหายไปแบบหายไปเลยเหมือนกับมันไม่เคยอยู่ตรงนี้ ผมเดินถอยหลังไปเรื่อยและรีบหันหน้าวิ่งไปที่รถ " นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ยบ้านเดินได้หรอ! " ผมกล่าวในตอนนี้สติของผมไม่คงที่ ไมเกรนเริ่มแดกสมองของผมเหมือนกับว่าสมองซีกซ้ายของผมได้หายไปแล้ว ผมเปิดประตูรถและปิดเสียงดังปึงด้วยความรุนแรงและสตาร์ทรถในทันทีและหยีบจนคันเร่งจนมิด ระหว่างทางกลับผมมองไปรอบๆ และพบว่าหมู่บ้านทั้งหมดก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้กลายเป็นป่าทึบสีเขียวขจีทั้งรกและยุ่งเหยิง จู่ๆหมอกก็เริ่มลงหนาขึ้นทั้งที่นี่ก็แค่ช่วงบ่าย ผมได้เปิดไฟรถแต่ก็ไม่ได้ช่วยเลยแม้แต่น้อย " เชี่ยเอ้ยๆๆๆๆ " ผมกล่าวซ้ำไปซ้ำมาด้วยความกระวลกระวาย แต่ผ่านไปไม่นานหมอกก็เริ่มจางหายในตอนนั้นผมคิดว่าผมรอดแล้วแต่จู่ๆทันใดนั้นก็เหมือนมีชายแก่คนนึงมายืนขวางทางและพบว่าคนๆนั้นคือปู่ของผม ผมตกใจมากผมหยีบจนมิดและชนไปที่เขาอย่างจัง

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!