NovelToon NovelToon

ท่านใต้ท้าวอย่าฟ้าวครับท่าน

อนาถಥ⁠‿⁠ಥ

"ผู้ป่วยครับ ผลวินิจฉัยออกมาเเล้วนะครับ ว่าผู้ป่วยเป็นไข้รากศาสตร์ รักษาสามสี่วันก็หายครับ ถ้ามีอาการหนาวสั่นชักเกร็งให้กลับมาหาหมอทันทีนะครับเเล้วก็อย่าลืมไปรับยาด้วยนะครับ" หลังจากที่พูดจบคุณหมอก็ได้ยืนใบตรวจโรค คืนให้กับร่างบาง

"ขอบคุณครับ" ร่างโปร่งได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเเหบเเห้ง ก่อนที่จะออกจากห้องเเละเดินไปยังโต๊ะ๑๑

"หมอจะให้รับยาไปทานก่อนนะครับ ถ้ายังไม่หายอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยกลับมานะครับ เชิญไปรับยาที่ตึกผู้ป่วยนอกได้เลยครับ" หลังจากหมอพูดจบร่างบางก็ได้พยักหน้าเเต่เดินไปถามที่หมอสั่ง

เจ้าตัวนั้นเดินไปไม่นานก็มายังห้องรับยาเเล้วยืนใบตรวจโรคของตนให้ เเล้วกลับไปนั่งที่เดิม

"นาย ณฤพัฒน์  เอ่อ นายณฤพัฒน์ เมธีนฤกุล เชิญมารับยาค่ะ" หลังจากที่ชื่อของร่างบางถูกเอ่ยขึ้นของตนขึ้น เขาก็ได้เดินตรงไปยังเคาเตอร์ทันที

"นี่นะคะ ยาลดน้ำมูก เเก้หวัด เเก้ไอ้ เเก้อักเสบ เเล้วก็ยาว่านทะลายโจรนะคะ ยาว่านทะลายโจรทานให้ครบสามวันถ้าหายเเล้วก็สามารถหยุดยาได้นะคะ ที่เหลือคุณก็ทานทุกหลังอาหาร เช้า กลางวัน เเละเย็นค่ะ "

"ขอบคุณครับ" ผมชื่อณฤพัฒน์ ชื่อเล่นว่าเวหา ผมอายุ๒๗ปีไม่นึกว่าจะมาป่วยในช่วงที่มีโควิทระบาดเเบบนี้ หลังจากนี้ผมก็คงต้องกลับบ้านก่อนเเล้ว

หลังจากที่ขับรถมาไม่นานก็มาถึงบ้านของร่างบางเเล้วจากนั้นเจ้าตัวนั้นได้นำรถไปจอดและกลับเข้าบ้าน

"ต้องหาอะไรทานแล้วค่อยทานยาสินะนี่ก็ค่ำแล้วด้วยทำอะไรกินดีนะ"หลังจากที่ร่างบางพูดจบก็ได้เดินเข้าไปที่ห้องครัวพรางครุ่นคิดว่าวันนี้ตัวเองจะทานอะไร

หลังจากที่ร่างบางไปเดินเข้าครัวแล้วแล้วก็รู้เมนูที่ตนจะทำแล้วก็ได้เริ่มลงมือทำอาหารทันทีหลังจากไม่นานเจ้าตัวก็เดินออกมาพร้อมทานอาหารในมือและนั่งลงที่โต๊ะทานอาหารทันทีแล้วลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

"โอ๊ยอิ่มจังต้องทานยาสินะทำไมต้องทานยาด้วยอ่ะไม่ชอบเลยนะ"ร่างบางนั้นบน เดินขึ้นไปห้องของตัวเองเพื่อไปกินยาที่หมอสั่งไว้

ทั้งๆที่ไม่ชอบกินยาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่าเขานั้นไม่อยากตายก่อนวัยอันควรเท่าไหร่เพราะตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเพื่อนวายุ หมอดูสุดที่รักหายตัวไปไหนไม่ได้เจอกันตั้งนานไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงบ้างเขายังไม่พร้อมที่จะตายหรอกนะ

"อ่าไหนดูซิกินยากี่เม็ดหล่ะเนี่ย๖เม็ดเลยหรอเนี่ย ยาจะไม่ติดคอตายก่อนใช่ป่ะกินๆไปเถอะเดี๋ยวก็หายจะบ่นอะไรนักหนาวะเวหา" หลังจากนั้นเวหาก็ได้ทำการกินยาแล้วนอนอยู่ที่เตียง

"หมอบอกไว้ว่าคนเราคุยกับกำแพงหรือคุยคนเดียวก็ไม่ได้เป็นบ้าแต่ถ้ากำแพงตอบกลับเราเมื่อไหร่เราค่อยไปหาหมอแล้วกัน"ร่างบางพูดออกมาพังถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆเขานั้นไม่เจอเพื่อนของตนมาหลายปีแล้วคิดถึงเพื่อนของเขามากเจ้าวายุเจ้าวาตภัยไปที่ไหนบรรลัยที่นั่น ยิ่งกว่าโคนันซะอีก ยิ่งพูดยิ่งคิดถึงมันแฮะ

"นอนนะไอ้เวหา พักผ่อนให้หายป่วยแล้วกลับไปว่าความให้ลูกความได้แล้วนะ" หลังจากนั้นร่างบางก็ได้พักผ่อนอย่างสมใจอยากที่ตนพูดไว้จริงๆ

จันทราลาลับไป สุริยันต์โผล่พ้นขอบฟ้าทันใด "ทำไมเช้าเร็วจังวะ" ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดบ่นสงสัยเขานั้นได้นอนเพียงไม่นานก็ตั้งแต่ขึ้นมาทานข้าวทานยาเสียแล้ว

หลังจากร่างบางทำธุระเสร็จก็ลงมาทำข้าวต้มนั่งทานแบบเงียบเหงาไม่มีเพื่อนคุยเหมือนเป็นพวกเก็บตัวแต่จริงๆแล้ว ร่างบางนั้นเป็นคนพูดมากจนทำให้เจ้าวายุด่าเขาอยู่บ่อยๆว่า

'ไอ้เวหามึงเลิกพูดมากสักทีได้ป่ะกูรำคาญมึงว่ะหุบปากสักทีถ้ามึงยังไม่หุบปากกูจะไม่ให้มึงลอกการบ้าน'

คิดแล้วมันก็รู้สึกแฮปปี้ดีจริงๆไอ้เจ้าวายุไอ้เพื่อนรักหายไปไหนมึงควรกลับมาได้นะเว้ยขาดมึงไปมันขาดความชิบหายไปด้วย

หลังจากร่างบางทานข้าวทานยาเสร็จก็ได้เริ่มติดต่อกับลูกความเขาคาดว่าอีกประมาณฟ๓-๔วันเขาจะหายแปลว่าคดีให้ลูกความได้จากนั้นไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ได้ค่ะจังหวะความคิดของเขาในทันที

พอเขากดรับเสียงปลายสายก็ดังขึ้นทันที

[สวัสดีครับคุณณฤพัฒน์]

"สวัสดีครับ"

"คุณเป็นทนายใช่ไหมครับผมอยากให้คุณช่วยว่าความให้ผมหน่อยผมต้องการลูกให้มาอยู่กับผมคุณสามารถช่วยผมได้ไหมครับ"หลังจากได้ยินคำขอร้องร่างบางก็ได้คุณคิดสักครู่กว่าจะตอบกลับไปว่า"ได้ครับ ช่วยเล่าเรื่องความคร่าวๆได้ไหมครับผมจะได้จัดทำเอกสารแล้วก็จะได้ทำการพาคุณไปฟ้องที่ศาลด้วย"

"ได้ครับผมกับภรรยามีลูกอยู่คนนึงและหลังจากนั้นภรรยาของผมคลอดลูกออกมาเธอก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านจากนั้นผมจับได้ว่าเธอไปมีคนอื่นพวกเราก็เลยหย่าร้างกันเธอกับลูกไปด้วยแต่คุณต้องการลูกเพราะจากที่ผมได้ยินข่าวมาว่าและเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้มันเป็นความจริงทั้งหมดนะครับผมไปสืบหามากว่าจะได้เสียเงินก็หลายแสนเลยนะครับเรื่องมันมีอยู่ว่าหลังจากที่เธอพาลูกไปเธอก็ได้เมากลับมาทุกวันและชอบมาทำร้ายลูกบ่อยๆจนลูกที่ยังเป็นเด็กอยู่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่นานมานี้ ผมได้ยินคนในหมู่บ้านที่เธออยู่เล่าว่า เธอทำร้ายลูกจนลูกนั้นความจำเสื่อมไปผมเลยต้องการให้ลูกกลับมาอยู่กับผมครับ ตอนไหนที่เธอบอกกลับมาเธอก็จะทำร้ายลูกถึงตอนที่เธอมีสติอยู่เธอก็ตอบว่าลูกอยู่บ่อยครั้งผมไม่อยากให้เด็กคนนี้กลายเป็นเด็กที่เก็บกดแล้วก็ฆ่าตัวตายไปในที่สุดผมต้องการให้เด็กคนนี้เป็นอย่างที่เด็กคนอื่นเป็น คุณสามารถช่วยผมได้ใช่ไหมครับ"

เป็นเรื่องที่น่าหดหู่มากจริงๆผมจะช่วยเขาก็แล้วกันนะถึงจะช่วยไม่ได้มากและไม่สามารถรับประกันได้แต่ก็จะพยายามช่วยละกันหลังจากที่ร่างบางคิด ก็ได้ตอบตกลงเขาไปไหนทันที

"ได้ครับผมจะช่วยลูกคุณให้สุดความสามารถแต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าผมจะช่วยคุณกับลูกได้ไหมผมไม่สามารถการันตีได้จริงๆแต่การกระทำของผู้หญิงคนนี้ถือว่าหนักมากจริงๆอาจจะช่วยคุณกับลูกให้ไปอยู่ด้วยกันอีกครั้งได้แต่ผมไม่รับประกันนะครับ" หลังจากที่ผมพูดจบเสียงไปสายก็เงียบไปพักใหญ่แล้วก็ตอบกลับผมมาว่า

"ได้ครับต่อให้ผมต้องจ่ายเท่าไหร่ผมก็ยอมขอให้ผมกับลูกมาอยู่ด้วยกันก็พอ"

"งั้นประมาณอีก๔-๕วันผมจะไปหาคุณนะครับแต่ ๓-๔วันนี้ผมต้องพักผ่อนเพราะว่าตอนนี้ผมป่วยผมไม่สามารถทำงานได้จริงๆต้องขออภัยช่วงเวลานี้เดี๋ยวผมจะเตรียมเอกสารไว้ล่วงหน้าแล้วกันนะครับ"

"ครับหายป่วยไวๆนะครับขอบคุณมากครับที่คุณตัดสินใจที่จะไปช่วยผมขอบคุณมากจริงๆ"

 "ไม่เป็นไรครับงั้นแค่นี้ก่อนนะครับไว้เจอกันถ้าผมหายวันไหนผมเตรียมเอกสารเสร็จวันไหนเดี๋ยวผมจะติดต่อคุณไปอีกทีนะครับขอบคุณครับที่ใช้บริการ"

"ครับ"

หลังจากนั้นร่างบางก็ได้วางสายทันทีที่ตนพูดจบเรื่องของสามพ่อแม่ลูกนี้มันก็น่าเศร้าอยู่นะ บางครั้งคนเป็นแม่ก็ทำเกินไปเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้เรื่องจริงๆแต่ผู้หญิงบนโลกนี้ก็ไม่ใช่ทุกคนหล่ะนะพอคิดไปก็สะเทือนใจไปถ้าจริงๆแล้วเคสแบบนี้ไม่ใช่เคสเเรก บางครอบครัวก็หนักกว่านี้เอาเถอะเราช่วยเขาเท่าที่ช่วยได้เเล้วกันนะ

หลังจากนั้นร่างบางก็ได้เริ่มทำเอกสารจนเวลาล่วงเลยไปจวนจะค่ำ และร่างบางชุกคิดขึ้นได้ว่าเขาลืมทานข้าวทานยาตอนเที่ยง หลังจากนั้นร่างบางก็ได้เดินเข้าครัวไปทำอาหารง่ายๆกลับมาทานยาตอนค่ำแทนแต่การทานอาหารครั้งนี้ร่างบานนั้นทานไปด้วยดูซีรีย์ไปด้วย 

"เฮ้ยๆทำไมพระเอกโง่จังวะแบบนี้ไม่ได้นะเว้ยแล้วนางเอกจะกลับไปหามันทำไมไปหาผัวใหม่สิลูกทำไมโง่ขนาดนี้" ร่างบางนั้นพูดไปด้วยวิจารณ์ซีรีย์ไปด้วย เพราะความจริงของตัวเอง 

ตอนนี้เขานะอารมณ์เสียอย่างมากก็นางเอกโง่มากจริงๆน่ารำคาญสุดๆต่อไปนี้จะไม่รู้ดูซีรีย์ละครน้ำเน่าแบบนี้อีกแล้ว 

เท่านั้นก็ได้จัดยามากินจนกระทั่ง เเค่กๆ"ยาติดคอ น้ำ น้ำ เเค่ก! น้ำหมด "ร่างบางจะเดินไปเอาน้ำที่ห้องครัวรับสะดุดกรองเอกสารตรงหัวฟาดพื้น 

"เเค่กๆ" ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาจะยังมาตายแบบนี้ไม่ได้การช่วยลูกความยังทำไม่เสร็จแทนเขาจะมาตายขนาดแบบนี้ไม่ได้ความรู้สึกที่ปวดหนึบแบบนี้มันทรมานมากจริงๆเขาเริ่มหายใจไม่ออกซะแล้ว เมียเขาก็ยังไม่มีเพื่อนก็หายไปเขาจะมาตายแบบนี้ไม่ได้การตายแบบนี้อนาถมากกว่าการตกท่อตายอีกนะทำไมอย่าต้องมาติดคอเขาตายแบบนี้ด้วย เขาไม่พร้อมสุดๆเขายังไม่พร้อมที่จะไปพบยมบาลหรือยมทูตเขายังไม่พร้อมจริงๆ 

จากนั้นร่างบางก็ยังค่อยหลับตาลงอย่างช้าๆและลมหายใจหรือการทำงานต่างๆของอวัยวะก็เริ่มดับมอดลง

"จู่ๆ ซี้ดดดด ไอ้เวหามึงไม่น่าเลย อนาถฉิบหาย" ผู้ที่มาใหม่หลังจากที่ร่างบางนั้นได้แค่คอยตายไปก็ได้พูดออกมาอย่างสงสารป่นสมเพช 

"แต่ครั้งนี้กูจะเอาวิญญาณของมึงไปไม่ได้ตอนนี้ไม่ได้ของมึงต้องไปตามยถากรรมของมึงแล้วนะไว้เจอกันใหม่เพื่อน" หลังจากนั้นผู้ที่มาใหม่ก็ได้หายตัวไปจากบ้านของเวหา

ทะลุ!!! บุงๆบลั่กลักๆ

"ใต้เท้ายังไม่ฟื้นเลย เจ้าคิดว่ายังไงหล่ะ ไปเรียกหมอมาตรวจอีกทีเถิด"

หลังจากที่ร่างบางได้ยินเสียงว่ากล่าวของคนในห้องพลันคิ้วขมวด

อะไรไม่ใช่ว่าเขาตายเเล้วหรอ อาการเจ็บคอยังไม่หายเลยด้วยซ้ำกับได้ยินอะไรไม่รู้ พูดจาเเปลกประหลาด เเถมยังเรียกใครว่าใต้เท้าอีก 

ตอนนี้ดวงตาของเขาปวดหนึบอีกรู้สึกไม่สบายตัวมากๆเลยเขาไม่ชอบความรู้สึกเเบบนี้สักนิด ในขณะเดียวกันร่างบางก็พยายามลืมตาขึ้น จนทำสำเร็จ

"อื้อ~" ร่างบางนั้นพยายามพลิกตัวเพราะเขานั้นรู้สึกปวดเมื่อยมากๆ เเละต้องตกใจเพราะได้ยินเสียงของใครบางคนถลามาข้างตัวเขาเเล้วกล่าวว่า

"ใต้เท้าท่านฟื้นเเล้ว ท่านเป็นเช่นไรบ้าง ท่านเจ็บตรงไหนหรือไม่ ท่านหิวรึป่าว ใต้เท้า"คนข้างกายของเขานั้นถามเขา ไม่ใช่ว่าเขาตายเเล้วหรอทำไมถึงยังได้ยินเสียงของคนพูดอีก ว่าเเต่

จู่ๆคนที่นอนอยู่ก็ลุกพรวดขึ้นมาทำเอาอี้หยางสะดุ้งไปตามๆกัน อี้หยางนั้นเขาเป็นพ่อบ้านของคนที่นอนอยู่ เเต่เขาไม่นึกว่าใต้เท้าคนเสเพลอยู่ๆก็ดีดตัวขึ้นมาเเล้วกล่าวว่า

"ต้องรีบไปว่าความให้ลูกความจะมานอนบื้ออยู่ทำไมว่ะเวหา" อี้หยางทั้งตกใจทั้งงุนงง เขาตกใจมากที่ใต้เท้ากล่าวว่า จะไปว่าความ เเละต้องงุนงงว่า เวหา คืออะไร ทำเอาอี้หยางถึงก็เอ่ยถามใต้เท้าคนเสเพลนี้ว่า

"เอ่อ..ใต้เท้า ท่านไม่เจ็บตรงไหนใช่หรือไม่"  ร่างที่กึ่งนั่งกึ่งนอนได้กล่าวถามอี้หยางว่า

"ใครเป็นใต้เท้านายกัน!...อึก!" ไม่นานนักร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าของอี้หยางก็ได้กุมหัวของตัวเองไว้เเล้วร้องออกมา

ร่างบางนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดมาก อยู่ๆก็มีฉากเหมือนภาพยนตร์เข้ามาในหัวเขาเป็นฉากๆ 

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า บุคคลที่เขามาสิงร่างนั้นคือใต้เท้าของเมืองอี้ ทางตะวันตกของเมืองหลวงเเต่อยู่สุดเขตชายเเดน ระหว่างเเคว้นโจว เเละเเคว้นชิง เมืองอี้นั้นเป็นเมืองเล็กๆที่ ใต้เท้าคนไหนมาเเล้วก็ต้องรีบทำผลงานเเล้วรีบหนีออกจากที่นี่ไปมากกว่า๑๒คนเเล้วเเละร่างนี้นั้นคือคนที่๑๓ที่มาที่นี่ สาเหตุที่ร่างนี้ถูกย้ายมาที่นี่ก็...ร่างนี้นั้นชอบเข้าหอนางโลมอยู่บ่อยครั้งเเต่มันมีอยู่กฎหนึ่งกล่าวไว้ว่าคนที่รับเป็นข้าราชการหรือขุนนางห้ามเข้าหอนางโลม มิเช่นนั้นจะถูกลดตำเเหน่ง นี้ยังไม่พอ ไปทะเลาวิวาทกับตระกูลสวี่อีกโดยตระกูลสวี่นั้นเป็นคนของอ๋องเเปดร่างนี้เลยโดนย้ายมาพร้อมลดขั้นจากขั้นสามกลายเป็นกลายเป็นขั้นหก ขุนนางต๊อกต๋อย อืมเเล้วก็โดนย้ายมาที่นี้เเถมยังเกือบโดนไล่ออกจากตระกลูไป๋ ร่างนี้มีชื่อว่า ไป๋ลู่เฟย เเถมยังเป็นใต้เท้าเสเพล ถ้าปกติจากนิยายที่ผมเวหาอ่าน ก็จะประมาณว่าหลังจากคนที่โดนทะลุมิมา เปลี่ยนเเปลงร่างที่อยู่ให้กลายเป็นคนเทพๆ เเต่สำหรับเวหาเเล้ว ไม่เปลี่ยนเเปลงเเน่นอน เสเพลสิดี หาดื่มเหล้าเมายาไปวันๆชีวิตเเสนสงบสุข โอ้คิดเเล้วก็อยากทำขึ้นมาเลย  หลังจากที่ร่างบางคิดๆอยู่ก็มีเสียงของคนดีคนเดิมพ่อบ้านอี้หยาง เป็นพ่อบ้านของร่างนี้เเทรกขึ้นมา

"ใต้เท้าเป็นเป็นอะไรมากรึไม่ขอรับ" อี้หยางถามร่างบางด้วยความเป็นห่วง เเต่คนที่กุมหัวตัวเองอยู่ตอบว่า

"เร-ข้าไม่เป็นไรสบายดี"เกือบไปเเล้วไหมไอ้เวหาเอ้ย

"เอ่อ...ขอรับ ท่านหิวรึยังขอรับข้าจะให้คนนำสำรับมาให้ เเล้วค่อยทานยา"หลังจากที่พ่อบ้านอี้หยางพูดจบ เวหาหรือไป๋ลู่เฟย ก็ได้ช็อคค้างไปสักพักเเล้วเอ่ยถามอี้หยางว่า

"เมื่อกี้คุ-เจ้าว่าอะไรนะ" ร่างบางถามอี้หยางด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ทำเอาผู้เป็นข้ารับใช้ถึงกับสงสัยว่า นายของตนทำไมดูตื่นตกใจอะไรขนาดนั้น เเละเขาเลือกที่จะย้ำคำพูดของตัวเอง

"ทานข้าวทานยาขอรับ"ตอนนี้สีหน้าของร่างบางซีดเผือดราวกับศพ จนทำให้คนที่เป็นพ่อบ้านถึงกับตกใจ ตนพูดอะไรผิดงั้นหรือทำไมนายของตนถึงดูกลัวขนาดนั้น เเละไม่นานเวหาหรือไป๋ลู่เฟยกล่าวขึ้น

"กินข้าวเเต่ไม่กินยาได้หรือไม่" เขายังไม่อยากตายอีกรอบหรอกนะใครอยากตายก็ตายก่อนไปเลยนะ อี้หยางนั้นได้ยินคำของนายตนเลยตอบนายของตนไปทันควันว่า

"ไม่ได้ขอรับใต้เท้ายังไงก็ไม่ได้เด็ดขาด"

"ทะ..ทำไม"ในขณะนี้ผู้เป็นนายเหนือหัวของอี้หยางนั้นดูเหมือนจะหวาดกลัวคำว่ายาเป็นอย่างมาก  หลังจากนั้นอี้หยางก็ได้ไขข้อสงสัยให้นายของตนฟังว่า

"ถ้าท่านไม่ทานยาแล้วท่านจะหายได้อย่างไรเล่าการทานยาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาท่านได้ยินคำเหล่านี้หรือไม่ว่าหวานเป็นลมขมเป็นยาและท่านต้องทานมัน" เขาเคยรู้หรอกนะว่าหวานเป็นลมขมเป็นยาน่ะเขาได้ยินคำนี้มาตั้งแต่เด็กๆแต่สำหรับเขาในตอนนี้หวานเป็นยาขมเป็นตาย มิหนำซ้ำอาจจะติดคอเขาตายด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบน้ำเขาอาจจะสำลักตายก็ได้หรือถ้าเป็นเม็ดคงจะเป็นเม็ดใหญ่ๆเหมือนพวกยาลูกกลอนไม่เอาด้วยหรอกยังไม่อยากตายนะ

"จะให้ตายยังไงข้าก็ไม่กินถ้าเจ้าอยากกินเจ้าก็กินเองเถอะ! "หลังจากนั้นเขาก็ได้พูดลงนอนอีกครั้งและนำผ้าห่มมาคุมโปงตัวเองอย่างเเง่งอน ทำเอาอี้หยางผู้ที่เป็นพ่อบ้านถึงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

เขาไม่นึกเลยว่าผู้เป็นนายของเขาจะหนักมากขนาดนี้เสเพลยังไม่พอยังดื้อด้านอีกด้วยพูดอะไรไม่เคยฟังเขาคิดผิดมากที่มาเป็นเรารับใช้ของใต้เท้าเสเพลคนนี้ไม่ไหวเลยจริงๆ  เขาไม่นึกว่าการมีนายอยู่หัวเป็นของตัวเองเหมือนจะมีลูกถึงขนาดนี้การเป็นพ่อคนมันช่างลำบากมากจริงๆ เขายอมแพ้แล้วล่ะ

หลังจากนั้นไม่นานผู้เป็นพ่อบ้านก็ได้เดินออกจากห้องของไป๋ลู่เฟยไปจากปลงตก

หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเค่อ พ่อบ้านยังก็ได้กลับมาพร้อมอาหารอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นเขาก็ได้เรียกผู้เป็นนายของตนให้มาทานอาหารแล้วทานยา

"ถ้าใต้เท้าท่านตื่นมาทานข้าวทานยาเถิด"หลังจากที่ลู่เฟย หลังจากที่ได้ยินประโยคคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อบ้านของตนนั้นก็พลันกน้าซีดเหมือนไก่ต้ม

"อี้หยางข้า....ข้ากินข้าวเเต่ไม่กินยาได้รึไม่"เขาเลยถามผู้เป็นพ่อบ้านของตนและได้คำตอบกลับที่สะเทือนใจของเขาเป็นอย่างมากคำตอบกลับนั้นตอบกลับว่า

"ไม่ได้เด็ดขาดขอรับยังไงท่านก็ต้องทาน" เขาก็เพิ่งรู้ว่าคนสมัยจีนโบราณนั้นเป็นพวกหัวเด็ดตีนขาด แต่เขาก็ไม่ยอมทำตามหรอกนะทานข้าวเสร็จก็จะหาวิธีหนีเลยไม่มีใครทำร้ายไปหาคนนี้ได้หรอก ทุกอย่างต้องก้าวไปด้วยเท้าเเละชีวิต ตอนนี้เขาก็งงเหมือนกันว่าเขาเพ้อเจ้ออะไรอยู่รีบไปทานข้าวดีกว่าหิวจะแย่อยู่แล้ว

หลังจากที่อี้หยางเห็นผู้เป็นนายทานข้าวเขาก็ได้เดินออกไปเพื่อไปนำยามาให้ผู้เป็นนายได้ดื่มแต่หลังจากที่เขากลับมานั้นพลันต้องตกใจเพราะว่า ผู้เป็นนายของตนนั้นได้หายไปจากตำหนักเสียแล้ว

ฮ่าๆๆคิดจะซ่ากับไอ้เวหาแล้วหรอ ยังเร็วไปอีก๑๐๐ ปีไอ้ชายตอนนี้เขานั้นได้เดินอยู่ในสวนที่ไหนสักแห่งของจวนแห่งนี้เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้างจวนตัวนั้น เป็นยังไงบ้างแต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมเลยยังไม่ได้ออกไปแต่คิดว่าอีกไม่นานคงจะต้องออกไปแล้วเพื่อดูอะไรหลายๆอย่างเขาเป็นทนายความและต้องทะลุมิติมาเป็นใต้เท้าอีกไม่หลุดไม่พ้นสักทีคิดแล้วเขาก็เหนื่อยใจ

อี้หยางในตอนนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านายของตนหายไปที่ใดตอนนี้ก็ต้องสั่งให้คนออกไปตามหาก่อนไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงที่หนีออกไปเพราะไม่อยากกินยาใช่หรือไม่นะปกติใต้เท้าคนนี้ก็เป็นคนหัวรั้นอยู่แล้วหลังจากที่ฟื้นขึ้นมาก็ยิ่งหัวรั้นกว่าเดิม เยี่ยมเลย

 "เจ้านำคนไปตามหาใต้เท้าซะ และอย่าให้คนข้างนอกรู้เด็ดขาดและใต้เท้าหายตัวไป" หลังจากที่เขาสั่งคนเสร็จเขานั้นก็ได้แยกตัวมาหาใต้เท้าเหมือนกัน และไม่นานนักเขาก็ได้เห็นแต่ท้าวแสนซนเดินเล่นอยู่ที่สวนหลังจวนเขาไม่รู้ว่าเขาจะพูดยังไงมันจุกอยู่ในอกไม่สามารถพูดไปได้จริงๆ เขาทั้งเหนื่อยใจทั้งโกรธที่ใต้เท้าคนนี้หัวรั้นได้ขนาดนี้พูดแล้วก็เหนื่อย

แรงไฟเเล้วไงเดี๋ยวเจอน้ำประปาส่วนภูมิภาค!

"ใต้เท้า!!ในที่สุดข้าก็หาท่านพบ"เสียงของใครบางคนที่ดังขึ้นจนทำให้ลู่เฟยนั้นถบคำหยาบออกมา

"เหี้ย!!!  อุปส์"ไป๋ลู่เฟยได้นำมือมาปิดปากของตนเอง เพราะเขาถบทคำหยาบออกมานั้นเอง ก่อนเขานั้นได้กล่าวกับพ่อบ้านของตนเองว่า

"พ่อบ้านอี้ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยน่า~" ตกใจหมดนึกว่าเเต่ผี ปัดโถ่

"ขออภัยด้วยใต้เท้า"หลังจากที่อี้หยางพูดจบก็ค่อมหัวให้ลู่เฟยทันที

"มะ..ไม่เป็นไร" เขาตกใจมากนะอยู่ๆ พ่อบ้านของร่างนี้ก็ก้มหัวให้ เเต่ว่านะ..เราหนีออกมา เพื่อไม่กินยาเเสดงว่า....

"กลับเข้าจวนเถอะขอรับ ใต้เท้า อากาศเย็นลงเรื่อยๆเเล้ว เดี๋ยวท่านจะล้มป่วยอีกรอบเอานะขอรับ"เเล้วก็กลับไปกินยาด้วย ประโยคหลังของอี้หยางไม่ได้กล่าวออกไปเเต่อย่างใด เพราะเขารู้ว่าถ้ากล่าวออกไปต้องไปเเน่ๆ หมายถึงหนีไปอีกรอบเเน่ๆ

"....ก็ได้..ฮะๆ"ลู่เฟยในตอนนี้อยากร้องไห้เเต่ร้องไห้ไม่ออกจริงๆ ได้ทำเพียงเเค่ขำเเห้งๆส่งกลับไปเท่านั้น

ในจวน

"ใต้เท้าขอรับ มาดื่มดีๆเถอะขอรับไม่งั้นจะไม่หายเอานะขอรับ"อี้หยางกล่าวขึ้น เพื่อให้นายของตนได้กินยาเเล้วพักสักทีเเต่กลับกัน ตอนนี้เขานั้นปวดหัวหนักกว่าเดิมอยากจะกุมขมับสักร้อยรอบ

"กรี้ด!!ไม่เอาอี้หยาง ไม่อ้าวววว!!" เสียงกรีดร้องของผู้เป็นนายมันช่างดูทรมานเสียเหลือเกิน ประหนึ่งว่าถ้ากินเข้าไปเเล้วจะตายทันที

ถ้าตอนนี้ลู่เฟย ได้ยินความคิดของอี้หยางคงจะตอบกลับว่า ก็กูเคยกินยาเเล้วก็ตายมาโผล่อยู่นี้ยังไงล่ะ ไอ้เวง!

เวลาผ่านไปเเล้วหนึ่งเค่อจนทำให้อี้หยางนั้น อ่อนใจ เลยปล่อยใต้เท้าได้พักผ่อน เเล้วตนจึงเดินออกมา

อี้หยางนั้นได้หมายมั่นในใจว่า เขาจะทำให้ใต้เท้าทานยาให้ได้ไม่ว่าวิธีไหน จะเลวทรามต่ำช้าขนาดไหนเขาก็จะทำ ในเมื่อมารดาผู้ให้กำเนิดนายน้อยไป๋ลู่ นั้นฝากฝั่งเขาไว้ เขาก็จะทำสุดความสามารถ จะทำให้นายน้อยของเขากินยาให้จงได้ เเรงไฟของอี้หยางในตอนนี้มันลุกโชนเป็นอย่างมาก 

ทางด้านของลู่เฟย

"ไม่เอาเเล้วไม่อยู่เเล้ว กูจะหนีออกจากบ้าน ไอ้วายุช่วยก็ด้วย ฮืออออ"เสียงพร่ำเรียกชื่อของเพื่อนต่างมิติอย่างโหยหา ไม่นานนักหยดน้ำสีใสก็ไหลลงอาบเเก้มของลู่เฟย 

"ฮึก..ฮือออ" หลังจากอี้หยางกับมาพร้อมกับยาถ้วบใหม่ที่ถ้วยเก่าหกไปเเล้ว เขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของคนในห้อง

"ใต้เท้า!!! ทะ ท่าน"ในตอนนี้น้ำเสียงของอี้หยางลกเป็นอย่างมาเขาไม่รู้หรอกว่า ลูก-เอ้ยนายของเขาร้องไห้ทำไม่รู้ ไม่มีสาเหตุ

"ฮือออออ!"ลู่เฟยนั้นก็ได้พุ่งไปกอดอี้หยางทันที 

"ท่านร้องไห้ทำไมขอรับนายท่าน ใครทำท่านร้องไห้ขอรับ ใยท่านถึงร้องไห้ขอรับ"อี้หนางเอ่ยถามผู้เป็นนาย พลางลูบหัวผู้เป็นนายที่กอดเอวของเขาอยู่ เเละไม่นานหนักลู่เฟยก็ได้ตอบอี้หยางว่า

"นา-เจ้านั้นเเหละเจ้าบังคับข้า เจ้ามันใจร้ายฮึก"  คำตอบของผู้เป็นนายทำเอาอี้หยางคิ้วกระตุกยิกๆ ทำให้อี้หยางสรุปได้ว่า สิ่งที่ทำให้นายของเขาร้องไห้คือ เขา เขาบังคับให้กินยา จู่ๆไฟของอี้หยางก็โดนน้ำประปาส่วนภูมิภาคของลู่เฟยดับทันที

ยามโหย่ว

อี้หยางปลอบผู้เป็นนายของตนเองครึ่งชั่วยามกว่านายของตนนั้นจะเงียบเเล้วหลับไป สิ่งหนึ่งที่ทำให้อี้หยางนั้นคิดได้คือ นายท่านไม่ชอบกินยา เเละไม่ชอบให้ใครยังคับตนเอง 

ตอนนี้อี้หยางนั้นได้ตรัสรู้เป็นที่เรียบเเละเป็นครั้งเเรกที่อี้หยางเห็นนายของตนร้องไห้หนักขนาดนี้ ทั้งๆที่เป็นคนเสเพลเเต่ไหนเเต่ไรเเต่เเต่ไม่ร้องไห้ โดนดุโดนด่าขนาดนั้นก็ไม่ร้องไห้ เเบบคนดื้อรั้นเเต่ครั้งนี้พอฟื้นขึ้นมากลับร้องไก้เพราะยา ทำเอาเขาอึ้งไม่รู้ว่ากล่าวคำใดมาปลอบใจนายของตน พออี้หยางนั้นจัดเเจงท่านอนของผู้เป็นนายเสร็จสับเขาก็ออกจากห้องของผู้เป็นนายทันที

เพื่อปล่อยให้นายของตนได้นอนพักและเขาก็ได้ใช้เวลานี้และการคิดหาวิธีที่ทำให้นายของตนนั้นกินยา

_______________________________________

เวลา

ยามจื่อ (子:zǐ) คือ 23.00 – 24.59 น.

ยามโฉ่ว (丑:chǒu) คือ 01.00 – 02.59 น.

ยามอิ๋น (寅:yín) คือ 03.00 – 04.59 น.

ยามเหม่า (卯:mǎo) คือ 05.00 – 06.59 น.

ยามเฉิน (辰:chén) คือ 07.00 – 08.59 น.

ยามซื่อ (巳:sì) คือ 09.00 – 10.59 น.

ยามอู่ (午:wǔ) คือ 11.00 – 12.59 น.

ยามเว่ย (未:wèi) คือ 13.00 – 14.59 น.

ยามเซิน (申:shēn) คือ 15.00 – 16.59 น.

ยามโหย่ว (酉:yǒu) คือ 17.00 – 18.59 น.

ยามซวี (戌:xū) คือ 19.00 – 20.59 น.

ยามห้าย (亥:hài) คือ 21.00 – 22.59 น

นับเวลา

ชั่วยาม 时辰 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน หนึ่งชั่วยาม เท่ากับเวลา 2 ชั่วโมง 

ครึ่งชั่วยาม 半个时辰 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับเวลา 1 ชั่วโมง 

หนึ่งก้านธูป 一炷香 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับเวลา 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมง

เค่อ 刻 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน หนึ่งเค่อ 一刻 เท่ากับเวลา 15 นาที

หนึ่งถ้วยชา 一盏茶 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับเวลา 15 นาที

หนึ่งจิบชา 一杯茶 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับเวลา 5 นาที

เฟิน 分 คือหน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับ นาที

ขั้นขุนนางฝ่ายบุ๋น

กำหนดให้ขั้นหนึ่ง(สูงสุด) เป็นภาพนกกระเรียนมงกุฎแดง,

ขั้นสอง – ไก่ฟ้าสีทอง,

ขั้นสาม – นกยูง,

ขั้นสี่ – ห่านป่า

ขั้นห้า - ไก่ฟ้าหลังขาว

ขั้นหก – นกกระยาง

ขั้นเจ็ด – นกเป็ดน้ำ

ขั้นแปด - นกขมิ้น

ขั้นเก้า – นกกระทา

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!