ปีคริสต์ศักราช 2989
ผมไม่อยากเชื่อหรอกว่าวันหนึ่งตัวเองจะถูกตีตราสร้างพันธะจากคนที่ผมเกลียด ผมอยากมีเมียผมอยากมีลูก ไม่ได้อยากเป็นเมียและไม่ได้อยากตั้งท้องให้ใคร
ผมอยากเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาแต่ร่างกายผมนี้สิมันดันพิเศษกว่าคนอื่น
แกร๊ก แอดดด
ประตูห้องนอนถูกเปิดก่อนที่น้ำเสียงทุ้ม ๆ จะดังพร้อมกับสารรูปเจ้ากรรมนายเวรของผม ที่มาในรูปแบบของวรนุชตัวใหญ่
ชัดเจน วงศ์ไพศาล นามสกุลโคตรผู้ดีแต่สันดานสถุนสุด ๆ
“เตอร์ลงมากินข้าว”
“กูไม่อยากร่วมโต๊ะกับมึง คำตอบกูชัดพอมั้ย สัด เจน” ผมย้ำคำหลังและจงใจเรียกชื่อมันผิด
ชัดเจนขมวดคิ้วเข้มใส่ผมด้วยสีหน้าไม่พอใจกับคำตอบที่ได้รับ ผมรู้ว่ามันไม่ชอบที่ผมพูดกวนมัน แต่ใครใช้ให้มันมัดผมไว้กับเตียงก่อนละ ผมก็คนนะถึงจะปากเปราะไปหน่อยก็เถอะ นิสัยเสียบ้างแต่ก็เทียบไม่ติดกับมันหรอก
“เตอร์มึงไม่กวนกูสักวันจะตายมั้ย กูเหนื่อยทะเลาะกับมึงแล้ว”
“ไม่อยากทะเลาะกับกูก็ปล่อยกูไปมึงจะรั้งกูไว้ทำห่าอะไร” ผมเริ่มเสียงดัง เรื่องง่าย ๆ ทำไมมันชอบทำให้เป็นเรื่องยาก ก็แค่ต่างคนต่างอยู่มันจะตายไหม
ชัดเจนมองมาที่ผมด้วยสายตาด้านชา มันใช้มือล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็กส์สีดำที่ใส่อยู่ ผมโคตรไม่ชอบท่าทางของมัน ที่ทำกับผมเหมือนผมเป็นเหยื่อ
“ถ้ามึงอยากไปก็ไปฉีดวัคซีนแล้วกูจะปล่อยมึงไป”
“วัคซีนอะไร”
“2021”
“มึงฉีดให้ตัวเองเถอะไอ้สัดเจน มึงจะฆ่ากูชัด ๆ กูไม่อยู่กับมึงแล้ว!! ”
คอปเตอร์โวยวายเสียงดังโยนหมอนใบนุ่มที่วางอยู่ใส่ชัดเจนด้วยอาการหัวเสีย ก่อนที่มือจะคว้ากระบอกปืนพกสั้นขึ้นมาจ่อใส่คนที่ยืนอยู่หน้าประตู
“ใครสอนให้มึงเล่นปืน” ชัดเจนไม่ได้ขยับตัวหรือแสดงท่าทางตกใจอะไรที่ถูกจ่อปืนใส่
เขาชินแล้ว มีวันไหนบ้างที่คอปเตอร์ไม่ทำร้ายเขา คำตอบคือไม่มี
“พ่อกูสิถามโง่ ๆ นะมึง” ผมตอบชัดเจนแล้วขยับปลายกระบอกปืนไปทางประตู “ปล่อยกูกลับบ้านไอ้เจนไม่งั้นกูยิงมึงเข้าโรงบาลอีกแน่” ผมไม่ได้จะขู่มันแต่ผมยิงจริง ๆ
“ยิงสิ....”
ปัง!!
ชัดเจนยังพูดไม่จบแต่ผมก็เหนี่ยวไกปืนไปแล้ว
คอปเตอร์แสยะยิ้มที่ได้เห็นเลือดสีเข้มไหลออกมาจากต้นแขนข้างขวาของชัดเจน
“บอส!! เกิดอะไรขึ้น” อีธานวิ่งมายืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับบอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ด้านหลัง
“พาไอ้เตอร์ไปส่งบ้าน”
“ครับบอส”
ถึงชัดเจนไม่ได้พูดออกมาแต่ทุกคนที่ยืนอยู่ก็เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดี
บอสถูกเมียยิงอีกแล้ว
คุณคอปเตอร์ไม่เคยแผ่ว ก็แน่ละใครบอกให้บอสไปฉุดทายาทตระกูลมาเฟียคู่อริมาทำพันธะ สุดท้ายก็กินลูกปืนแทบทุกวัน
สะใจอีธานนัก!!
“ไม่ต้องกูกลับเองพาบอสพวกมึงไปหาหมอเหอะ ถ้ามันตายพวกมึงก็ไม่รอด” คอปเตอร์ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินไปหยุดที่หน้าชัดเจน
ปลายกระบอกปืนเย็นเฉียบ สัมผัสผิวหน้าที่ร้อนผ่าวบริเวณกลางหน้าผากของชัดเจน
“ครั้งหน้ากูเล็งกระบาลมึงแน่ถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับกู”
ชัดเจนใช้มือข้างซ้ายรวบสองแขนของคอปเตอร์เอาไว้อย่างรวดเร็ว ถึงจะบาดเจ็บอยู่แต่ด้วยศักยภาพทางร่างกายที่แข็งแกร่งของชัดเจน มันเลยไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา
ผมรู้สึกสนุกที่เห็นความพยศของคอปเตอร์ มันรู้ว่าสู้ผมไม่ได้แต่ก็ไม่เคยยอมผม ต่อให้ผมย่ำยีมันเหมือนมดปลวกมันก็ไม่สนใจ คอปเตอร์ไม่รู้ว่ายิ่งมันวิ่งหนีเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งอยากวิ่งตาม
งับ!!
“ไอ้เหี้ยเจน!!”
“แผลนี้แลกกับที่มึงยิงกู กูแค่ให้มึงกลับบ้านไม่ได้บอกว่าจะปล่อยมึงไป และถ้ามึงคิดหนีกูรับรองว่าแก๊งป๋ามึงจะถูกลบออกไปจากโลกนี้แน่” ชัดเจนพูดจบก็เลียหยดเลือดที่มุมปาก บาดแผลที่เกิดจากรอยฟันบริเวณไหปลาร้าของคอปเตอร์ สร้างความพึงพอใจให้เขาเป็นอย่างมาก
“เอองั้นรบกวนมึงจัดการป๋ากูด้วยนะ เดี๋ยวกูกลับไปบอกให้ป๋ากูเตรียมตัวก่อน” คอปเตอร์สะบัดแขนออกจากมือของชัดเจน ก่อนจะยกนิ้วขึ้นลูบบริเวณที่ถูกกัด
“ห่าเอ้ยยย อยู่ ๆ ก็ถูกเหี้ยกัด” ผมด่าชัดเจนทางอ้อมรู้สึกแสบ ๆ ที่รอยแผลหน่อย ๆ ก่อนจะเดินชนบ่ามันออกจากห้องไป
ผมไม่ได้เกลียดชัดเจนมันนะ แต่ผมโคตรเกลียดมันเลยต่างหาก หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ
ผมเดินฝ่าดงกระบอกปืนของลูกน้องชัดเจนโดยไร้รอยขีดข่วน หลังจากที่ยิงเจ้านายของพวกมันไป ผมเดาว่าพวกมันคงอยากจะกรอกลูกปืนใส่ปากผมจนเนื้อเต้น
คอปเตอร์ใช้สันมือทุบต้นคอเบา ๆ เพื่อคลายอาการปวดเมื่อย ก่อนจะใช้มือขวาจับที่หัวไหล่ซ้ายแล้วออกแรงบิดเพื่อให้กระดูกเข้าที่
แกร๊ก
“แรงคนหรือแรงควาย รวบแขนกูทีกระดูกเคลื่อนเลยแม่ง”
ด้วยสภาพร่างกายมนุษย์ที่มีวิวัฒนาการ หรือที่เรียกว่าการกลายพันธุ์มาเกือบพันปี บวกกับได้รับการฝึกฝนที่แสนสาหัสจากตระกูล แค่การจัดกระดูกที่เคลื่อนให้เข้าที่ จึงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงสำหรับคอปเตอร์
ผมเดินเสยผมด้านหน้าที่เริ่มยาวขึ้นมาเล็กน้อย ผมไม่ได้นับว่าครั้งนี้ชัดเจนมันจับผมมากี่วัน ดูจากผมที่เริ่มยาวก็ราว ๆ สองอาทิตย์ได้ที่ผมไม่ได้กลับบ้าน
ส่วนป๋าผมก็โคตรเป็นพ่อที่ประเสริฐ ทุกครั้งที่ผมถูกจับตัวไปป๋าไม่เคยส่งคนมาช่วยหรือมาตาม ผมเคยถามป๋าว่าทำไมถึงไม่ยอมช่วยผม รู้ไหมว่าป๋าตอบผมยังไง ‘ป๋าลืม กว่าจะจำได้แกก็หนีออกมาเองได้แล้ว’
นับแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยหวังอะไรจากป๋าเลย พูดแล้วก็เจ็บกระดองใจ และรอบนี้ป๋าก็คงลืมผมอีกเหมือนเดิม
“พี่เซนผู้ชายต่างชาติคนนั้นมันเป็นใคร ทำไมทุกคนต้องทำท่ากลัวมันขนาดนั้น ผมว่าจะถามหลายครั้งแล้ว”
“ถ้าอยากรู้ว่าคุณเขาเป็นใคร ก็ลองเดินไปถามคุณเขาเอง แต่ถ้ายังรักชีวิตก็อย่าอยากรู้เลย เพราะมันจะดีกับตัวมึงเอง ฟังจากเสียงปืนข้างบนกูว่าคุณเขาคงอารมณ์ไม่ดีมาก” เซนตอบเด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานในแก๊งได้ไม่นานด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ที่นี่ไม่มีใครกล้าเรียกชื่อคุณคอปเตอร์สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะมันเป็นคำต้องห้ามสำหรับพวกเขา
“อย่าบอกนะว่าพี่เซนกลัวผู้ชายตัวเล็กนั่น”
เซนไม่ตอบเพราะเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คอปเตอร์เดินผ่านหน้ามาพอดี เซนโค้งตัวก้มหน้าลงให้อีกฝ่ายด้วยความเคารพ
ก็นี่เมียเจ้านายจะไม่ให้เขาเคารพได้ยังไง เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือบอสยังมีเมียบอส
ถึงพวกเขาจะกลัวบอสแต่บอสก็กลัวเมีย
เพราะฉะนั้นคุณคอปเตอร์ใหญ่สุด!!
“ผมนึกว่าพวกเราจะก้มหัวให้แค่บอส”
“พวกเราก้มหัวให้แค่บอสแต่นั่นเมียบอส บอสสั่งว่าใครไม่ให้ความเคารพ ฆ่า...” เซนเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะหันหน้าไปมองหนุ่มรุ่นน้องช้า ๆ เซนค่อย ๆ เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็น ทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าซีด
“มะ...เมียบอส?!”
“อืม คุณเขาเป็นผู้ชายกลุ่มพิเศษน่ะ เป็นทายาทตระกูลมาเฟียแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกิดประเทศเดียวกันกับบอส ตระกูลคุณเขาคุมแก๊งมาเฟียในประเทศนั้น”
“เมกา??”
ผลัวะ!!
“กูบอกอยู่แถบเอเชียมึงเสือกตอบว่าอยู่เมกา”
“พี่เซนผมยังพูดไม่จบผมกำลังจะบอกว่าเมกาบางนา”
“กูบอกว่าตอนทำงานอย่าเล่น เพราะกูเป็นคนตลกแต่ไม่ตลาด เห้ย! ตลิ่ง เห้ย! ตลอด เห้ย!”
“ถูกแล้ว!!”
“แล้วบอสไปได้คุณเขามายังไง ดูหน้าฝืน ๆ เหมือนไม่เต็มใจ” คิงมองแผ่นหลังคอปเตอร์สลับกับหน้าเซนอย่างต้องการคำตอบ
“ฉุด”
“โห้!! แล้วคุณเขายอมมาง่าย ๆ เลยใช่มั้ย” คิงทำสีหน้าเลื่อมใส มันก็แน่อยู่แล้วล่ะที่คุณเขาจะยอมง่าย ๆ ก็บอสเขาคุมมาเฟียทวีปเอเชียทั้งหมด ทั้งอำนาจ เงินทอง ภาพลักษณ์ รูปร่างหน้าตาบอสเขาก็มีครบ คุณเขาจะหนีไปไหนพ้น
เซนที่เห็นคิงทำหน้าเลื่อมใสและศรัทธาผู้เป็นนายก็รู้สึกสงสารจนน้ำตาตกใน เขายังไม่อยากดับศรัทธาที่น้องมันมีต่อบอส แต่ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ
“อืม บอสนอนโรงพยาบาลไปสามวันถูกยิง5นัดถูกแทง7แผล ส่วนคุณเขานอนโรงพยาบาลไปสามเดือนเข้าเฝือกเกือบทั้งตัว คุณเขาทุ่มสุดตัวไม่บอสก็เขาต้องตายกันไปข้างหนึ่ง” เซนเล่าย้อนไปเมื่อเหตุการณ์ประมาณสองปีก่อน ตอนที่เจ้านายบินไปติดต่อธุรกิจที่ประเทศไทย ก่อนอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา จะพาคุณคอปเตอร์กลับมาเก๊าด้วยสภาพที่ดูไม่จืด
ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยบาดแผล ถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ในยุคปัจจุบัน จะทันสมัยมากแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถลบรอยแผลเป็น ที่สาหัสสากรรจ์ขนาดนั้นได้
“พะ...พี่ไม่ได้ล้อผมเล่นใช่มั้ย”
“กูจริงจัง”
“แต่นั่นบอสเลยนะพี่เซน!! อีกอย่างพี่ก็เป็นคนพูดเองว่าคุณเขาเป็นผู้ชายกลุ่มพิเศษ พอมาเทียบกับบอสแล้วศักยภาพทางกายของคุณเขา ก็เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
“มันก็จริงอย่างที่มึงว่าแต่มึงอย่าลืมว่าคุณคอปเตอร์เกิดในตระกูลมาเฟีย เขาคงถูกฝึกมาหนักพอ ๆ กับบอส ศักยภาพทางกายเลยเหนือกว่าคนในกลุ่มพิเศษทั่วไป”
คิงพยายามคิดตามก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วคุณคอปเตอร์จะออกไปไหน บอสอนุญาตให้ออกไปด้วยเหรอ ไม่กลัวคุณเขาหนี? ”
“บอสคงปล่อยให้กลับบ้านแหละ แต่เดี๋ยวเดือนหน้าก็ถูกฉุดมาใหม่” เซนบอกไปแค่นั้นแต่เขากลับไม่ได้เล่าถึง ว่าทุกครั้งที่คอปเตอร์อยากหนีหรือว่าอยากกลับบ้าน บอสจะต้องเจ็บตัวก่อนหรือไม่ก็ทรัพย์สินใหญ่ ๆ เสียหาย เพราะฝีมือคุณเขาเองแหละไม่ใช่คนอื่น
จะมีใครหน้าไหนกล้ากระตุกหนวดมังกรแผ่นดินใหญ่ถ้าไม่ใช่เมียมังกรเอง
บึ่ม!!
เพล้ง เพล้ง
เสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณทางเข้าหน้าประตู ก่อนที่แรงอัดจากวัตถุชิ้นเล็ก จะอัดกระแทกกระจกรอบบริเวณจนแตกละเอียด เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดของตัวตึก ที่สูงจากพื้นดิน380เมตรโดยประมาณ
เศษฝุ่นลอยคละคลุ้งพร้อมกับเปลวไฟจากการระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่ บอดี้การ์ดที่อยู่ตามชั้นต่าง ๆ รีบยกโขยงกันลงมาชั้นล่างเมื่อถูกบุคคลปริศนาโจมตี
กระบอกปืนสีดำทมิฬนับร้อยกระบอกถูกยกขึ้น แผ่กลิ่นอายสังหารฆ่าฟัน ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเย็นเฉียบเข้าไปในขั้วหัวใจ
เซนกับคิงพวกเขาวิ่งมาทีหลังคนอื่น เพราะได้รับผลกระทบจากแรงอัดของระเบิด ทำให้เสื้อผ้าของพวกเขามอมแมมสกปรกไปด้วยฝุ่น และเนื้อตัวมีบาดแผลเล็กน้อยเพราะถูกเศษกระจกบาด
“ใครหน้าไหนมันกล้าโยนระเบิดเข้ามา เสนอหน้าออกมาสิวะ ไม่ใช่มุดหัวอยู่แบบนี้!!” เสียงหนึ่งในกลุ่มบอดี้การ์ดตะโกนถามขึ้นมา ที่จริงพวกเขาเห็นแผ่นหลังของคนที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย ยืนอยู่ใกล้ ๆ ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่อีกฟากของถนน
“มึงใช่มั้ยที่โยนระเบิดเข้ามา กูจะนับหนึ่งถึงสามให้มึงหันหน้ามา ไม่งั้นพวกกูยิงมึงทิ้งแน่”
บอดี้การ์ดทุกคนหันปลายกระบอกปืนไปที่ชายคนนั้น แต่คิงกลับสับสนเพราะแผ่นหลังนี้ช่างคุ้นตาเหลือเกิน เหมือนพึ่งเคยเห็นที่ไหน
“หนึ่ง”
“สอง..”
ทุกคนเตรียมเหนี่ยวไกปืนด้วยสีหน้านิ่งเฉย พวกเขาไม่เคยเห็นอกเห็นใจ คนที่คิดร้ายกับเจ้านายของพวกเขาอยู่แล้ว
“สะ...พวกมึงเก็บปืนเดี๋ยวนี้!!”
“จะยิงกูเหรอ งั้นเล็งที่หัวกูเลยนะ จะได้ตายไว ๆ” คอปเตอร์หันหน้ามาแล้วถาม ด้วยแววตาซื่อ ๆ พร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
ทำเอาพวกบอดี้การ์ดสะอึกน้ำลายกันเป็นแถบ
“แต่ถ้ายิงกูไม่ตายพวกมึงตายแน่”
เป็นอีกครั้งที่พวกเขาแทบจะหยุดหายใจ
เกือบไปแล้ว พวกเขาเกือบยิงคนสำคัญของบอสไป ปกติแค่ชื่อก็ยังเป็นคำต้องห้าม แต่นี่พวกเขาดันหันกระบอกปืนใส่เมียบอสเป็นร้อยกระบอก
ถ้าบอสรู้เข้า มีหวังพวกเขาตายหมู่แน่
อร้ากกก
ผมหันมองถนนซ้ายขวาก่อนจะเดินเตะเศษฝุ่นข้ามถนนมา สภาพผมก็มอมแมมไม่ต่างจากลูกน้องของชัดเจนที่อยู่แถวชั้นหนึ่ง แต่ครั้งนี้ผมได้ของแถมเป็นเศษกระจกขนาดสองนิ้ว ที่ปักทะลุฝ่ามือด้านขวามาด้วย
แจ็คพอตสุด ๆ
ผมเป็นคนโยนระเบิดลูกนี้เอง ไม่ได้หวังจะฆ่าใครแค่แทนคำอำลาให้ชัดเจนมัน แต่ระเบิดมันดันทำงานเร็วเกินไปกว่าที่ผมจะหนีทัน เลยโดนมาเต็ม ๆ แบบนี้
เพราะระเบิดที่ผมโยนเป็นระเบิดจิ๋วรุ่นใหม่ที่เพื่อนผมเป็นคนพัฒนา มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์แบบ100% ถึงยังไม่มีให้ซื้อขายกันในตลาดมืด
ที่จริงระเบิดลูกนี้ที่ขอเพื่อนมา ผมกะว่าจะเอาไปโยนใส่ลูกน้องป๋าให้ตกใจกันเล่น ๆ ที่บ้านแต่กลับถูกไอ้ชัดเจนมันฉุดมาก่อน
ผมคิดว่าพอโยนระเบิดเสร็จก็จะกลับบ้านเลย แต่ผมลืมคิดไปว่าไอ้สัดเจน มันพาผมบินมามาเก๊า โทรศัพท์มือถือก็หาย กระเป๋าสตางค์ก็ไม่มี จำเบอร์ใครก็ไม่ได้นอกจากเบอร์ป๋า ดีหน่อยที่โทรศัพท์สาธารณะของที่นี่มันโทรข้ามประเทศฟรี
แต่ที่ไม่ดีคือป๋ากูนี่แหละ โทรไปไม่เคยจะรับ!!
สุดท้ายผมก็เลยกลับมายืนอยู่หน้าตึกที่ผมพึ่งโยนระเบิดใส่ หวังว่ารอบนี้ชัดเจนมันคงจะไม่แดกหัวผม ที่ระเบิดตึกชั้นล่างสุดรักของมันพังยับ
พอชายหนุ่มหน้าตาละอ่อนเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเขา บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ก็เก็บอาวุธในมืออย่างรวดเร็ว ทำเหมือนไม่มีเหตุการณ์เมื่อสักครู่เกิดขึ้น
“เก็บปืนทำมั้ย กูเป็นคนโยนระเบิดเอง” คอปเตอร์เลิกคิ้วถาม พลางยื่นแขนทั้งสองข้างไปด้านหน้า
บอดี้การ์ดของหัวหน้ามาเฟียระดับทวีปเอเชียล้วนแต่มีฝีมือกันทั้งนั้น ถ้าเป็นคนธรรมดาหรือลูกน้องหางแถวในแก๊งอื่น คงไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้เหมือนที่คอปเตอร์ทำ
“พวกผมผิดเองครับ!!” บอดี้การ์ดพูดพร้อมกันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคอปเตอร์เลยสักคนเดียว
“พวกมึงเป็นคนโยนระเบิดเหรอถึงได้ยอมรับผิด” คำถามนี้ของคอปเตอร์ทำเอาหลายคนเหงื่อแตก
ใครจะกล้าตอบคุณเขากัน ในเมื่อคนที่ทำแบบนั้นได้ก็มีแค่บอสคนเดียว
ในขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียดประตูลิฟต์กระจกก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ก้าวเดินออกมาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสี่คน และหนึ่งในผู้ติดตามก็คืออีธานมือขวาของชัดเจน
แขนข้างที่ถูกคอปเตอร์ยิง ถูกพันด้วยผ้าพันแผลอย่างเรียบร้อย ใบหน้าสะอาดสะอ้านของชัดเจนไม่ได้บอกอารมณ์ของเขาในตอนนี้ เขาเพียงขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน แล้วมองตัวก่อปัญหาอย่างคอปเตอร์ด้วยแววตาอันน่าสะพรึง
คอปเตอร์ที่สัมผัสได้ถึงสายตาที่อันตรายก็กวาดตามอง ก่อนจะเห็นเจ้ากรรมนายเวรตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
ผมอยากถามมันจริง ๆ ว่าจะยืนเก๊กทำซากอะไร มึงไม่ได้หล่อเจน แล้วก็ไม่ต้องส่งสายตาน่าสมเพชแบบนั้นมาขู่กู กูไม่กลัว
คอปเตอร์คิดในใจ
“พวกมึงถอยออกมาให้หมด ไปเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อย เดี๋ยวกูจัดการต่อเอง”
“ครับบอส!!”
เมื่อได้ยินคำสั่งจากเจ้านายบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ก็สลายหายไปราวกับกลุ่มควัน
“กูบอกให้มึงกลับบ้าน ไม่ได้ให้มาระเบิดตึกกู” ชัดเจนเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน เขาเดินเข้าไปประชิดคนตัวเล็กกว่า แล้วมองสำรวจร่างกายของอีกฝ่ายอย่างละเอียดก่อนจะเหยียดยิ้มที่มุมปาก
ครั้งนี้ไอ้ตัววุ่นวายมันเล่นจนได้เลือด สมน้ำหน้ามัน!!
“จริง ๆ กูคิดจะฆ่ามึงแต่ระเบิดแม่งไม่แรง และมึงก็ไม่ต้องมองกูด้วยสายตาสมน้ำหน้า ถึงมือกูจะเป็นแผลแต่กูก็ยัดกำปั้นใส่ปากมึงได้สบาย ๆ”
“แล้วทำไมมึงไม่กลับบ้านอยากกลับนักไม่ใช่เหรอ หรือมึงรอป๋ามึงจุดธูปเรียกถึงจะกลับ” ผมไม่ได้สนใจท่าทีกวนโอ๊ยของไอ้เตอร์ มันไม่ได้จะฆ่าผมอย่างที่พูดหรอก ก็แค่มาดเยอะไปงั้น คลุกคลีกับมันมากว่าสองปีแค่มันอ้าปากผมก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
“เนี่ยเพราะมึงเลยนะที่พากูบินมามาเก๊า มึงรู้มั้ยว่าควันธูปป๋ากูไม่ผ่านตม. เลยมาไม่ถึงกู กูเลยกลับบ้านไม่ได้”
“ทำตัววุ่นวายไม่พอยังเสือกไร้สาระ”
“กูประชด มึงอย่าโง่”
“มึงมันดื้อ กูเคยบอกว่าอย่าหาเรื่องเจ็บตัวแต่มึงไม่เคยฟัง” ข้อมือขวาถูกชัดเจนดึงขึ้นมาดู แต่ก็แค่แวบเดียวก่อนที่คอปเตอร์จะดึงมือกลับ
“ไอ้เจนมึงอย่าทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของกู แผลแค่นี้มึงก็รู้ว่ามันไม่ทำให้กูตาย”
ชัดเจนขมวดคิ้วมองคอปเตอร์เล็กน้อย ก่อนจะคว้ามือด้านขวามาอีกครั้ง เขาไม่พูดอะไรแต่กลับล็อกข้อมือเล็กไว้แน่น แล้วใช้มืออีกข้างดึงเศษกระจกที่ปักทะลุอยู่ออกอย่างแรง สีหน้าชัดเจนไม่เปลี่ยนแม้จะเห็นความเจ็บที่สะท้อนอยู่ในแววตาคอปเตอร์
เมื่อไหร่มันจะเลิกพูดสักทีว่ามันไม่ใช่ของเขา หลัง ๆ มาถึงคอปเตอร์จะทำตัวดีขึ้นกว่าเก่า แต่นิสัยของมันก็ไม่ได้เปลี่ยน ที่มันยอมให้เขาพาตัวมาง่าย ๆ ก็เพราะร่างกายของมัน
อาการฮีททุกเดือนของคอปเตอร์หลังจากถูกชัดเจนกัดคอ แค่กินยาหรือฉีดยาระงับมันไม่หาย เหมือนร่างกายมันจดจำแบบนั้นไปแล้ว
“กูไม่ตายแต่ก็ไม่ใช่ว่ากูเจ็บไม่เป็น ไอ้สัด!!” ผมด่าไอ้เจนไปทั้ง ๆ ที่ตอนนี้อยากฆ่ามันแทบตาย ตอนมันดึงกระจกออกนี่โคตรแสบ ผมยอมถูกยิงดีกว่าถูกกระจกแทง
“มึงต้องให้กูย้ำกี่ครั้งว่ามึงเป็นของกู ถึงมึงไม่เต็มใจมึงก็ต้องอยู่กับกู” ชัดเจนยกฝ่ามือของคอปเตอร์ขึ้นประกบที่ปากของตน ลิ้นหนาถูกส่งออกมาสัมผัสกับรอยแผล
คอปเตอร์ยืนตัวแข็งพลางสบถด่าชัดเจนออกมาเสียงดัง
“ไอ้เจนมึงเอาอีกแล้วนะ ไอ้โรคจิต!! มึงเป็นตัวเห็บตัวเหาหรือยังไง ถึงชอบกินเลือดคนอื่นนัก ปล่อยมือกู!!” ทั้งด่าทั้งทุบและสะบัดมือทิ้งแต่ก็ไม่หลุด
“รำคาญ..”
ชัดเจนพูดแค่นั้นแล้วใช้มือล็อกต้นคอของคนตัวเล็ก ริมฝีปากหยักเปลี่ยนมาบดจูบริมฝีบางนุ่มนิ่มของคู่พันธะ รสฝาดปนคาวเลือดแผ่ซ่านไปทั่วโพรงปากของคอปเตอร์ เขาพยายามผลักไสคนตัวโตกว่าให้หยุดการกระทำที่แสนจะน่าอับอายในที่โจ่งแจ้ง
แต่ตอนที่ชัดเจนต้องการ คอปเตอร์ไม่เคยขัดขืนอีกฝ่ายได้เลย ยิ่งอยู่ใกล้ชัดเจนคอปเตอร์ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ เขาถึงไม่อยากอยู่ใกล้มัน
อีธานและลูกน้องคนอื่นที่อยู่บริเวณนั้น ต่างหันหน้าหนีพร้อมกันโดยที่เจ้านายไม่ต้องสั่ง บอสจะอารมณ์ขึ้นทุกครั้งที่คุณคอปเตอร์ดื้อแพ่งจนเกินไป ต่อให้คุณคอปเตอร์จะขัดขืนหรือโอนอ่อนผ่อนตามทีหลัง บอสก็จะไม่ยอมให้มันจบลงไปง่าย ๆ
นิ้วแกร่งเคลื่อนไปลูบไล้รอยพันธะบริเวณหลังลำคอระหง ที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้นด้วยความหลงใหล สัมผัสร้อนผ่าวนวดคลึงอยู่ที่เดิมไม่ขยับนิ้วไปไหน ชัดเจนถอนริมฝีปากเปลี่ยนมาขบกัดติ่งหูขาว ขบเม้มดึงดูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างเอาแต่ใจ
“อึก...อะ ไอ้เจนมึงพอก่อน อายคนเขาบ้าง” คอปเตอร์ใช้มือข้างที่เหลือทุบแผ่นหลังชัดเจน กลิ่นฟีโรโมนเฉพาะตัวของเขา ส่งกลิ่นหอมหวานฟุ้งกระจายอยู่โดยรอบ
ยิ่งคอปเตอร์ถูกคู่พันธะเล้าโลม เขาก็ยิ่งคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้ ชัดเจนรู้จุดอ่อนตรงนี้ของเขาดี และมันก็กำลังลงโทษเขา
ด้านชัดเจนที่ถูกกลิ่นฟีโรโมนของคู่กระตุ้นเส้นเลือดที่อยู่ในกายก็เต้นกระหน่ำ ร่างกายของคอปเตอร์เหมือนไฟที่กำลังลุกไหม้แผดเผา ทว่าชัดเจนกลับรู้สึกอยากสัมผัสให้มากกว่านี้ อยากบดจูบและตระกองกอดให้มากกว่านี้
“บอกกูว่ามึงเป็นของกู บอกกูว่ามึงต้องการกู” เสียงกระเส่าถามขึ้นแล้วจูบซับน้ำลายสีใส ที่เลอะอยู่มุมปากบวมแดงของคอปเตอร์
“เจน...”
“ตอบ...ถ้าไม่ตอบกูก็จะทรมานมึงอยู่แบบนี้ และถ้ากูทนไม่ไหวกูก็จะเอามึงอยู่ตรงนี้”
“กูต้องการมึง เป็นของมึงคนเดียว..” เสียงคอปเตอร์สั่นน้อย ๆ เพราะเขาเริ่มฮีทหนักจนร่างกายเสียการควบคุม บวกกับช่องทางด้านหลังที่ตอนนี้ชื้นแฉะไปด้วยน้ำเหนียวเหนอะ
“เด็กดี”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!