NovelToon NovelToon

เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นโอเมก้า

ปฐมบท

...ตอนที่ 0...

...ปฐมบท...

“ฝุ่น เมื่อไหร่จะกลับมาบ้านบ้าง แม่คิดถึง”

ผมได้แต่ยิ้มตอบกลับปลายสาย เพราะตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปหาแม่ตอนไหน ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องพักของหมอ อย่าว่าแต่เวลากลับบ้านเลยแค่เวลานอนผมเองยังไม่มี ผมเองก็พึ่งได้พักจากเคสฉุกเฉินเมื่อกี้นี้เอง บางทีก็แอบคิดว่าตัวเองเหมาะกับการทำงานสายนี้จริงๆ หรือเปล่า

“ฝุ่น ยังไม่รู้เลยครับแม่ แต่สุดสัปดาห์นี้ ฝุ่นน่าจะแลกเวรกับหมอเกศได้ ถ้ายังไงเดี๋ยวฝุ่นกลับไปหานะครับ”

แม่ยิ้มตอบกลับแล้วพยักหน้ารับให้ผม ผมคุยอะไรกับท่านนิดหน่อยก็วางสายไป ผมโน้มตัวไปด้านหลังยืดเส้นยืดสายไล่อาการปวดเมื่อยตามบ่าตามไหล่ออกไปนิดหน่อย เนี่ยแหละเวลาพักที่ผมโหยหามาโดยตลอด

“ คุณหมอคะ”

เฮ้อ ขออีกสักหน่อยเถอะ เวลาพักอ่ะ

“ครับ มีเคสด่วนอีกเหรอครับ”

คนตรงหน้าผมอมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินถือเอกสารมาทางผม ผมรับเอกสารมาแล้วตรวจดูก็เป็นเอกสารสำหรับการชันสูตรพอตรวจดูคร่าวๆ แล้วก็เป็นศพที่จมน้ำแต่ดูจากเวลาที่พบศพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี่เอง ผมพยักหน้ารับแล้วเตรียมตัวพร้อมกับเอกสารไปยังห้องที่เขาเอาศพไปไว้ พอไปถึงก็มีตำรวจมามุ่งกันเต็มไปหมด

“สวัสดีครับคุณหมอ เจอกันอีกแล้วนะครับ”

ผมยกมือรับไหว้กับคนตรงหน้า

“สวัสดีครับ ครั้งนี้เป็นคดีพิเศษเหรอครับ เห็นมาเฝ้าด้วยตัวเองเลย”

“เปล่าหรอกครับ แค่บุคคลนี้น่าสงสัยนะครับ”

ผมขมวดคิ้วให้กับคำตอบ

“ยังไงเหรอครับ”

ผมพูดไปพลางก็ตรวจศพตรงหน้าไป

“เขาไม่มีประวัติอะไรเลยครับ แถมคนที่เจอศพเขาให้การกับผมว่า จู่ๆ ก็มีแสงสีขาววาบเข้ามาแล้วศพก็ลอยมา”

“งั้นหรือครับ คนให้การไม่ได้เสพยาหรอกใช่ไหมครับ”

ผมถามไป คนตรงหน้าหลุดหัวเราะออกมา พอผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขาก็หยุดแล้วสะบัดหัวเบาๆ เชิงเป็นการบอกว่าไม่ใช่ ผมเลิกสนใจกับประวัติของคนคนนี้รีบทำให้มันเสร็จดีกว่า เพราะงานผมค่อนข้างมีเยอะ

“ผมดูคร่าวๆ แล้วนะครับ น่าจะเป็นการเสียชีวิตกะทันหัน แถมร่างกายยังไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายเหมือนจงใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่เดี๋ยวผมขอผ่าดูข้างในก่อนนะครับว่าเสียชีวิตเพราะจมน้ำจริงๆ หรือเปล่า ประมาณสองอาทิตย์น่าจะสรุปผลได้ผมจะแจ้งเรื่องไปให้ครับ”

ผมรีบจดผลตรวจที่ผมได้มาอย่างคร่าวๆ เพราะจะให้ผมฟันธงเลยว่าผู้เสียชีวิตคนนี้จงใจฆ่าตัวตายเลยไม่ได้เพราะต้องลองผ่าดูว่าภายในปอดมีน้ำหรือเศษดินเศษโคลนหรือเปล่า พอคิดได้แบบนั้นผมก็เตรียมเก็บของเพราะวันนี้มีหมอแค่คนเดียวก็คือผมแถมตอนนี้ก็ดึกมากๆแล้ว แถมแลบก็ปิดแล้วด้วย พอผมเก็บของเสร็จเช็กทุกอย่างแล้วไม่น่าลืมอะไรแล้ว ผมบอกลากับตำรวจตรงหน้าเสร็จก็เดินกลับมายังห้องพักแพทย์ตามเดิม ก้มมองนาฬิกาในมือแล้วตอนนี้ก็ตี 5 พอดี คงไม่มีอะไรแล้วแหละ พอคิดแบบนั้นผมเลยเดินไปยังสระบัวหลังโรงพยาบาลที่ผมอยู่ ที่ตรงนี้เป็นที่ที่ผมชอบที่สุดเพราะมันทั้งเงียบคนก็ไม่เยอะ ผมเอนตัวลงนอนบนสนามหญ้าแล้วเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้าที่ตอนนี้เริ่มจะสว่างกลายมาเป็นเช้าของวันใหม่

“นี่ คุณครับ”

ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น พอเริ่มปรับแสงในตาได้ก็เริ่มหาเจ้าของเสียง แต่ก็ไม่พบใครเลย แล้วเมื่อกี้มันเสียงใคร หรือจะหูฟาด?

“คุณ ได้ยินผมไหมครับ”

ได้ยินอีกแล้ว ครั้งนี้รู้สึกเหมือนต้นเสียงจะอยู่ใกล้ขึ้น ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเอามือปัดเศษฝุ่นที่เกาะตามกางเกงแบบลวกๆ ออก

“เอ่อ... สวัสดีครับได้ยินผมไหมครับ”

ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความเงียบอีกครั้ง หรือตอนนี้ผมกำลังโดนผีหลอกเหรอ เฮ้อ.. ชั่งเถอะ ผมสะบัดหัวไล่ความคิดที่ตอนนี้กำลังจะเลอะเถอะบานปลายไปใหญ่ กลับไปทำงานต่อดีกว่า ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้ก็ 6 โมงแล้ว อีก 2 ชั่วโมงก็ออกกะแล้ว

“คุณครับ เห็นผมไหมครับ”

ผมหันขวับไปตามเสียงเรียกอีกรอบ เอาจริงตอนนี้ผมเริ่มจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่เพราะหันไปไม่เห็นอีกแล้ว แต่เสียงมันใกล้กับสระบัวตรงหน้า ไหนๆ ก็ถึงขนาดนี้แล้วลองเดินไปดูหน่อยละกัน เพราะผมเองก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติจำพวกผีอะไรเทือกนี้หรอก ผมค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้สระบัวตรงหน้ามากขึ้น เดินมาเรื่อยๆ จนตอนนี้แค่ก้าวเดียวผมก็ตกลงไปในสระบัวแล้ว แต่ก็ไม่เห็นวี่แววสิ่งมีชีวิตอะไรเลย คงไม่มีอะไรจริงๆ นั่นแหละ ครั้งนี้คงต้องกลับจริงๆ

อ้ะ!!!

ตู้มมม!

พอผมหันไปก็ชนเข้ากับ ผู้ชายคนหนึ่งเข้าอย่างจัง ผมเลยเซตก ลงมาสระบัวจนได้ แต่เดี๋ยวนะ! สระบัวหลังโรงพยาบาลน้ำมันแค่เข่าเองไม่ใช่เหรอ ผมค่อยๆ ตั้งสติแล้วกวาดสายตามองรอบๆ กับความมืดใต้น้ำพอปรับสายตาได้ก็เห็นเหมือนมีคนจมน้ำใกล้ๆ กับผม แต่คนตรงหน้าเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจแล้วจู่ๆ ก็เริ่มจมดิ่งลงไปต่อหน้า ผมรีบช้อนร่างนั้นขึ้นมาแล้วค่อยๆ พยุงขึ้นมาบนฝั่ง

“เฮือกกก! เกือบตาย”

ผมรีบโกยอากาศหายใจเข้าปอดแบบรีบๆ พอเริ่มตั้งสติได้ก็รีบทำการช่วยเหลือคนตรงหน้าทันที ผมเริ่มประกบฝ่ามือทำการปั๊มหัวใจพอครบเทิร์นกำลังจะผ่ายปอดก็โดนกระฉากแขนอย่างแรง พลิกแล้วไหมเนี่ย ไหล่อะ

“เอามือออกไปจากหนาวนะ!”

“หนาว..หนาวฟื้นสิครับ หนาวว!”

“ถ้าหนาวเป็นอะไรไปคนที่ต้องรับผิดชอบคือนาย จำเอาไว้”

พูดจบคนตรงหน้าผมก็อุ้มคนที่จมน้ำไปทันที ส่วนคนที่ตามคนคนนั้นมาก็มองผมด้วยสายตาดูแคลนเหลือเกิน เหมือนผมไปฆ่าใครตายอย่างนั้นแหละ แต่ เอ๊ะ..? แล้วที่นี้มันที่ไหนเนี่ย

“หว้าย!!! คุณทิวาของป้า หนาวไหมคะ”

จู่ๆ ก็มีป้าคนหนึ่งเอาผ้ามาให้ผม แต่นั่นชื่อใคร แล้วทำไมคนคนนี้ถึงเรียกผมแบบนั้น แล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!

...To be Continue...

...100%...

...1 คอมเมนท์ \= 1 กำลังใจ ❤️...

...ตรงนี้ไม่ต้องอ่านก็ได้นะคะ ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก...

...สวัสดีค่ะ นักเขียนเรื่องนี้เองค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของนักเขียนเอง อยากลองแต่งแนวชายแท้หลุดเข้ามาในโลกของโอเมก้าดู แล้วก็ตัวละครเองก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องอัลฟ่ากับโอเมก้าเลย เรื่องนี้จะออกเป็นแนวสบายๆ ดราม่าไม่เยอะแต่ก็แอบมีบ้าง พอเป็นสีสัน อิๆ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่เป็นตอนที่เอาไว้เกริ่นๆ ว่านายเอกหลุดเข้ามาได้ยังไง ถึงจะงงๆไปบ้างแต่กลางเรื่องมีเฉลยแน่นอนค่ะ ตอนแรกนักเขียนก็ไม่ได้อยากออกมาพิมพ์อะไรแบบนี้แต่ มันกดปล่อยตอนต่อไม่ได้เพราะมันไม่เกิน 1500 คำ แง ...

แต่ยังไงก็ขอบคุณนักอ่านที่เข้ามาอ่านทุกคนเลยนะคะ ที่เข้ามาอ่านนักเขียนมือใหม่คนนี้ ถ้าเกิดมีคำไหนที่เขียนผิด หรือตรงไหนฟังดูแล้วงงๆ ก็คอมเมนท์บอกได้เลยนะคะ นักเขียนจะรีบเข้ามาแก้อย่างด่วนจี๋เลย เรื่องนี้ตัวนายเอกเป็นคนที่ไม่คิดอะไรเลยค่ะ เป็นคนโผ่งผาง ไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร ก็เป็นชายแท้นี่เนอะ แถมเป็นหมออีก ส่วนพระเอกเรานักเขียนอยากให้เป็นชายหนุ่มในฝันเลยค่ะ ถึงจะแอบกวนๆแถมหื่นไปบ้าง ก็อยากให้เขาเป็นที่พึ่งสำหรับนายเอกของเรา เพราะนายเอกของเราค่อนข้างรับศึกหนักเลยค่ะ เพราะมันจะมีหลายๆเรื่องที่นายเอกต้องไปแก้ปัญหาหลายๆอย่างของเจ้าของร่างนี้ นางเอกเราค่อนข้างเป็นคนไม่ค่อยอดทนเท่าไหร่ ส่วนความคิดนายเอกนี่ นักเขียนจะให้ออกเป็นแนวชายแท้ซ่ะมากกว่า แต่ก็นั้นแหละ เรื่องนี้วางโครงเรื่องไว้คร่าวๆประมาณ 30 ตอน แต่อาจจะมีมากกว่านั้น ส่วนเวลาอัป นักเขียนจะพยายามอัปทุกวันค่ะ ไม่หนีหายไปไหนแน่นอน เฮ้อ.. เขียนมาถึงตรงนี้แล้วไม่รู้จะพิมพ์อะไรต่อแล้ว อีกนิดก็จะสปอยหมดแล้วนะคะ 555 เอาเป็นว่านักเขียนขอบคุณนักอ่านอีกครั้งนะคะใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณจริงๆที่กดเข้ามาอ่าน เพราะตอนแต่งเรื่องนี้ก็แอบกลัวๆว่ามันจะไม่มีใครอ่าน แต่พอเริ่มทำจริงๆก็ไม่มีคนอ่านจริงๆนั้นแหละค่ะ 55 เรื่องนี้จะเปิดให้อ่านฟรีจนจบแน่ แต่หลังจากจบแล้วในอนาคตนักเขียนก็ไม่แน่ใจอาจจะปิดตอนไปบางส่วนเพราะอยากลองขายดู ถึงจะได้ไม่มากหรือไม่ได้เลยก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังได้ลองทำ สุดท้ายนี้ก็ ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ ขอบคุณจริงๆ ❤️

แล้วนี่มันร่างใคร

...ตอนที่ 1...

...แล้วนี่มันร่างใคร...

ผมเหม่อมองออกไปทางหน้าต่างของรถยนต์ ทั้งเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย คนอื่นๆ ที่ผมไม่รู้จัก แถมชื่อที่พวกเขาเรียกไม่ใช่ชื่อผมอีก พอนึกย้อนกลับไปผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้านี้เท่าไหร่ เพราะผมเชื่อแค่สิ่งที่พิสูจน์ได้เท่านั้น แต่ไอเรื่องที่ผมเจออยู่ตรงนี้พูดไปใครมันจะเชื่อ แถมถ้าพูดส่งๆไปคงโดนใครสักคนได้จับส่งโรงพยาบาลจิตเวชแน่ๆ แล้วผมต้องใช้ชีวิตแบบไหนต่อ ต้องติดอยู่ในร่างของคนอื่นแบบนี้อีกนานไหม

“คุณหนูคะ ไม่เป็นไรนะคะ ป้าจะอยู่ข้างคุณหนูเองค่ะ”

คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมคือป้าแม่บ้านที่เลี้ยงเจ้าของร่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เขาเรียกอะไรนะ แม่นมเหรอ

“เอ่อคือ.. ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ”

ผมหันไปสบตากับคนที่นั่งข้างๆ ผมทันที คนตรงหน้าเหมือนจะงุนงงเล็กน้อย ผมไม่แปลกใจหรอก เพราะดูแล้วเจ้าของร่างนี้กับคนตรงหน้าน่าจะสนิทกันพอตัวเลย แต่ผมไม่ใช่เจ้าของร่างนี้สักหน่อย ชื่อเธอผมยังไม่รู้เลย ส่วนสรรพนามที่เรียกกันอย่าหวังว่าผมจะรู้ หรือจะแกล้งความจำเสื่อมดี คิดไม่ออกแล้วโว้ยยย!!

“เอ่อ..คุณหนูมีอะไรเหรอคะ”

ผมสูดหายใจเข้าเต็มปอด เอาวะ ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้แกล้งเป็นคนอื่นคงไม่ไหวไม่นานก็คงโดนจับได้ เราก็แทบจะไม่รู้จักชื่อใครเลยสักคนแถมนิสัยเจ้าของร่างนี้เป็นไงผมก็ไม่รู้แกล้งความจำเสื่อมแล้วเริ่มใหม่ดีกว่า

“คือผมจำอะไรไม่ได้เลยครับ ช่วยเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ”

คนตรงหน้ามองผมด้วยสายตางุนงง ก็ใช่นะสิ ใครจะไม่งง ก็แค่จมน้ำใครมันจะไปความจำเสื่อมได้ หัวไม่ได้รับการกระทบกระเทือนสักหน่อย แต่ทำไงได้ผมคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ ถ้าให้แกล้งบ้าไปเลยก็คงเกินความสามารถผมเกินไป

“คือ..คุณหนู มาทำลายงานหมั้นคุณแสนกับคุณหนาว แล้วก็เอ่อ.. คุณหนูผลักคุณหนาวตกน้ำ แต่ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณหนูตกไปด้วยได้ยังไง”

ผมขมวดคิ้วให้กับคำตอบที่ได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย แล้วทำไมเจ้าของร่างนี้ต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย ผมไม่แปลกใจเลยทำไมคนในงานเขาถึงมองผมด้วยสายตาแบบนั้น แล้วคนที่กระฉากแขนผมก็คงเป็นแฟนเขา

“แล้วทำไมผมถึงทำแบบนั้นเหรอครับ”

ผมจ้องรอคำตอบ ป้าที่โดนผมจี้ถามก็คงกระอักกระอ่วนเพราะเขาก็คงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเจ้าของร่างนี้เขาต้องการอะไร อยากจะลากมือมาถามจริงๆ ว่านายทำแบบนั้นไปทำไม

“ก็คุณแสนเป็นรักแรกของคุณหนูนี่ค่ะ แถมเป็นคู่หมั้นกันอีก ป้าก็ไม่แน่ใจว่าที่คุณหนูทำไปเพราะอะไรก็คงจะรักคุณแสนมากกระมังคะ”

ผมเอามือกุมขมับทันทีที่ได้ฟังจบ อย่างน้อยก็พอรู้เรื่องราวคร่าวๆ แล้วคงต้องหาโอกาสไปขอโทษคนทั้งสองแล้วละ ถึงยังไงคนที่ต้องใช้ชีวิตต่อในร่างนี้ก็คือผม อันดับแรกคงต้องค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละเรื่อง ขอร้องละอย่าให้มีเรื่องที่หนักกว่านี้เลย แค่นี้ผมก็ปวดหัวจะระเบิดอยู่แล้ว

“ถึงแล้วค่ะคุณหนู คุณผู้ชายทั้งสองน่าจะรออยู่แล้วค่ะ”

ผมพยักหน้ารับแล้วลงจากรถ แวบแรกที่เข้ามาในสายตาเลยคือ บ้านคนแน่เหรอ ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตขนาดนั้น พอๆ กับบ้านที่ผมพึ่งตกน้ำเลยมั้ง ผมค่อยๆ เดินตามป้าแม่บ้านเข้าไปแต่ก็ต้องสะดุดกับกลิ่นฉุนที่เตะเข้ากับจมูกผม มันเป็นกลิ่นที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร จะเหม็นก็ไม่ใช่จะหอมก็ไม่เชิงมันแทบจะอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลยแต่รู้สึกอึดอัดที่หน้าอกแปลกๆ จนผมต้องเอามือไปกุมเอาไว้ แต่ก็ต้องพยายามพยุงร่างตัวเองมายังห้อง ห้องหนึ่งที่มีผู้ชายวัยกลางคนสองคนนั่งรออยู่ ผมค่อยๆ เดินไปหาแต่ก็ไม่รู้ทำไมพอยิ่งเดินเข้าไปใกล้ผมก็ยิ่งอึดอัดตรงหน้าอกมากกว่าเดิมจนตอนนี้ผมแทบยืนด้วยขาไม่ไหวจนฟุ่บลงไปนั่งกับพื้นทันที

“หว้ายย!! คุณหนูค่ะ! เป็นอะไรไปคะ”

มันเจ็บจัง ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้เจ้าของร่างนี้เป็นโรคหัวใจหรือเปล่านะ

“นี่! คุณเลิกปล่อยฟีโรโมนสักที ลูกจะไม่ไหวแล้วนะ”

ผู้ชายตรงหน้ารีบพุ่งมาหาผมทันทีที่ผมฟุ่บลงไป แต่อีกคนกลับนั่งเฉยๆ แถมกอดอกจ้องมองมาทางผมเหมือนอยากจะฆ่าผมให้ตายๆไป เจ้าของร่างนี้เป็นคนยังไงกันนะ ถึงทำให้คนอื่นเกลียดได้ขนาดนี้ผมคงต้องรีบสืบดูแล้วว่าเจ้าของร่างนี้ไปทำอะไรมาอีกหรือเปล่าจะได้หาแผนรับมือ

“ค่อยๆ หายใจนะทิวา นั่นแหละลูก ค่อยๆ”

ผมค่อยๆ หายใจตามที่คนตรงหน้าบอก ตอนนี้ตรงหน้าอกก็ค่อยๆ คลายออกเริ่มจะไม่ค่อยอึดอัดแล้ว เริ่มหายใจได้สะดวกขึ้นคนตรงหน้าผมค่อยๆ ช่วยพยุงผมขึ้นไปนั่งตรงโซฟา แล้วกลับไปนั่งข้างๆ อีกคนทันที แต่คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าผมให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมากถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ อีกคนจะดูตัวสูงและร่างใหญ่กว่า อีกคนจะค่อนข้างร่างเล็กเลยให้ความรู้สึกเหมือนอยากปกป้องคนคนนี้ อาจจะเป็นที่กรรมพันธุ์ก็ได้มั้ง แต่ไออาการที่แน่นหน้าอกเมื่อกี้คงต้องรีบหาคำตอบแล้วแหละ ว่าสาเหตุจริงๆ มันคืออะไร

“ทิวากร!!”

จู่ๆ คนตรงหน้าผมก็ตะคอกออกมาเสียงดัง ผมที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็สะดุ้งให้กับเสียงนั่น แต่ทิวากรคงเป็นชื่อเต็มๆ ผมสินะ

“เมื่อไหร่ลูกจะเลิกยุ่งกับคุณแสนสักที ตอนนี้ป๊าแทบจะเดินไปที่ไหนไม่ได้แล้วเพราะการกระทำต่ำๆ ที่ลูกทำ”

ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเพราะจะให้ผมพูดหรือเถียงอะไรไปก็คงไม่ได้เพราะผมแทบจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย เจ้าของร่างนี้คงทำไว้แสบจริงๆ พอคนตรงหน้าเห็นผมไม่ตอบโต้อะไรก็คลายมือที่กอดอกออก สีหน้าก็ดูจะผ่อนคลายขึ้น ไม่เหมือนตอนแรกๆ ที่แทบจะจับผมกินให้ได้

“ป๊าเข้าใจการกระทำของลูกนะ แต่ตอนนี้คุณแสนเขาหมั้นกับหนูหนาวแล้ว ลูกไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว”

“ครับ”

ผมพยักหน้าตอบรับเห็นด้วย เพราะผมเองก็ไม่นิยมไปยุ่งกับคนที่มีแฟนแล้วหรอกนะ ถึงจริงๆแล้วผมเองก็ยังไม่เคยมีแฟนเลยก็เถอะ คนตรงหน้าผมที่แทนตัวเองว่าป๊า มีสีหน้าตกใจกับคำตอบผม แต่มันน่าตกใจอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ

“ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรก็บอกพ่อได้นะ”

ผู้ชายอีกคนที่ร่างเล็กกว่าถามผม ผมสะบัดหัวเบาๆ เชิงบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร คนตรงหน้าผมเอามือจับหน้าอกแล้วถอนหายใจออกมาแบบโล่งอก

“ดีแล้วที่คิดได้ อีก 3 วันพี่เหนือจะกลับมาแล้ว ป๊าคุยกับทางนั้นเรียบร้อยแล้วเรื่องหมั้นหมายกันเตรียมเก็บของแล้วย้ายไปอยู่กับเขา”

ผมพยักหน้ารับเพราะผมเองก็เหนื่อยกับเรื่องพวกนี้แล้วเหมือนกัน รีบตอบรับรีบไปพักดีกว่าพรุ่งนี้มีอะไรที่ผมต้องไปหาคำตอบอีกเยอะเลย พอเห็นผมไม่พูดอะไรคนทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าผมก็ยิ้มออกมาเหมือนโล่งอก

“ทิวาโตแล้วสินะลูก มีอะไรก็กลับมาหาพ่อได้ทุกเมื่อเลยนะ ไปพักเถอะ อีกสามวันก็เตรียมตัวนะลูก พ่อบอกพี่เหนือไว้ให้แล้ว”

ผมพยักหน้ารับแล้วรีบเดินตามป้าแม่บ้านขึ้นไปบนห้อง พอเข้าห้องได้ผมก็รีบทิ้งตัวลงบนเตียงทันที พอเงยหน้าขึ้นไปมองบนเพดานแล้วก็เผลอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่วันนี้กำลังจะจบลง ทั้งสถานที่ ที่ไม่คุ้นเคยไหนจะคนที่ผมไม่รู้จักอีกแล้วเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่ผมไม่รู้อะไรด้วยเลย

นายเป็นคนยังไงกันแน่ ?

นั่นแหละเป็นคำถามที่ผมอยากถามเจ้าของร่างนี้ที่สุด

...To be Continue...

...100%...

...1 คอมเมนท์ \= 1 กำลังใจ ❤️...

การแบ่งแยกชนชั้น

...ตอนที่ 2...

...การแบ่งแยกชนชั้น?...

แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาภายในห้องทำให้ผมตื่นขึ้นมา สายตามองไปรอบๆ ก็เห็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยตามเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคงไม่ใช่ฝันสินะ พอคิดได้แบบนั้นผมก็ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อได้แต่ยอมรับแล้วใช้ชีวิตต่อไป ผมค่อยๆ ลุกจากที่นอนไปเตรียมตัวอาบน้ำ ก็ยังดีที่ได้มาสวมร่างของคนที่ค่อนข้างจะมีฐานะเรื่องอื่นที่เจอมาก็เลยไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ ผมเงยหน้ามองตัวเองในกระจกแล้วได้แต่แปลกใจ คนคนนี้ดูยังไงๆ ก็ไม่เหมือนผู้ชายเลยสักนิด ยังดูเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำ แล้วไอร่างเล็กๆ ผอมแห้งนี่มันคืออะไร ไหนจะหน้าตาที่มันดูน่ารักๆ นุ่มนิ่มๆ แปลกๆ

“ไอเชี่ยย!! มันหายไปไหนว่ะ!”

ผมก้มมองส่วนล่างของตัวเองก็ได้แต่สบถออกมา ทำไมถึงได้เล็กแบบนี้ แล้วไอลูกชาย56 ของผม ถึงได้กลายเป็นหนอนน้อยขนาดนี้ แล้วเมื่อวานที่เขาพูดถึงเรื่องหมั้นนั้นอีก ผมไม่มีปัญหาอะไรกับการคลุมถุงชนหรอก แต่ถ้าผมต้องเอาไอเจ้านี้ไปโชว์คู่หมั้น ผมไม่อายเขาแย่เหรอ ผมคงต้องไปโรงพยาบาลแล้วแหละ ผมว่าร่างกายนี้ต้องมีปัญหาแน่ๆ ตั้งแต่เรื่องส่วนสูงนี่แล้ว หรือเจ้าของร่างนี้เป็นโรคขาดสารอาหารงั้นเหรอ ไหนจะอาการของเมื่อวานที่จู่ๆ ก็รู้สึกแน่นหน้าอกแบบนั้นอีก ผมว่าต้องมีอะไรผิดปกติกับร่างกายนี้แน่ๆ

“เอ้า! ทิวาลูกจะไปไหนไม่กินข้าวก่อนเหรอลูก”

ผมสะบัดหัวเบาๆ คนคนนี้เมื่อวานแทนตัวเองว่าพ่อสินะถ้าจำไม่ผิด คนคนนี้ก็ร่างเล็กเหมือนกันพอๆ กับผมตอนนี้เลยด้วยซ้ำมั้ง หรือเป็นเพราะกรรมพันธุ์แต่คนที่แทนตัวเองว่าป๊าเมื่อวานเขาตัวสูงมากเลยนี่นา แต่อืม.. ในสองคนนี้ใครคือพ่อแท้ๆ ของเจ้าของร่างกันนะ แล้วคนที่เป็นแม่ไปไหนแต่พอดูคร่าวๆ แล้วเราเองก็เหมือนคนตรงหน้ามากกว่าคนที่เป็นป๊าเราอีกนี่นา ลองถามไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“เอ่อคือ.. พ่อครับ แล้วแม่แท้ๆ ของผมอยู่ไหนเหรอครับ”

เพล้งง!!

“แม่เหรอ? ลูกพูดอะไร”

ผมรีบก้มลงไปช่วยเก็บเศษจานที่แตกทันที ทำไมต้องตกใจอะไรขนาดนั้น คนตรงหน้าผมก็ก้มลงมาช่วยเก็บแล้วจ้องมองมาที่ผม สายตาที่มองมาทั้งงุนงงแล้วก็สงสัย ผมต้องเป็นคนที่ต้องสงสัยไม่ใช่เหรอ แค่ถามหาแม่ทำไมต้องตกใจเว่อวังขนาดนั้น

“คือผม..แค่อยากรู้น่ะครับตอนนี้ผมเองก็อายุ เอ่ออ..19ปี”

“20 ไม่ใช่เหรอปีนี้จะ 21 ปี”

“อ่าใช่ครับ! 20 ปี คือผมก็อายุขนาดนี้แต่ทำไมผมยังตัวแค่นี้อยู่เลยน่ะครับ แล้วไหนจะส่วนสูงกับน้ำหนักเหมือนทุกอย่างหยุดโตเลย ผมเหมือนเป็นแค่เด็ก15 เลยด้วยซ้ำมั้ง”

ผมรีบยิงคำถามใส่ เพราะตอนนี้อยากจะรู้คำตอบแล้วว่าเจ้าของร่างนี้เป็นโรคอะไรกันแน่ ทำไมทุกอย่างถึงได้เล็กขนาดนั้น คนตรงหน้าขมวดคิ้วใส่ผมแล้วถอนหายใจออกมาแต่ก็ยังไม่พูดอะไร นอกจากรีบเก็บเศษจานที่แตก พอเก็บเสร็จเขาก็จับมือผมไปนั่งที่โซฟาทันที

“ลูกถามพ่อว่าอะไรนะ? ทุกอย่างเล็กงั้นเหรอ มันเป็นปกติของโอเมก้าอยู่แล้วที่ทุกส่วนของร่างกายจะเล็กแบบนั้น เรื่องนี้ลูกไม่รู้เหรอ”

โอเมก้า? โอเมก้า 3 ที่แปลว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัวนั้นหรือเปล่า หรือจะเป็น โอเมก้า 6 หรือมันจะเป็นความหมายอื่นเพราะมนุษย์เรามันมีโรคที่ชื่อว่าโอเมก้าด้วยเหรอ ผมสะบัดหัวเบาๆ บ่งบอกว่าผมไม่เข้าใจเพราะคนตรงหน้าผมจ้องมาเหมือนรอคำตอบ

“ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า อืม...ตัวก็ไม่ได้ร้อน ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”

คนตรงหน้าผมรีบเอามือมาอังหน้าผากผมเบาๆ ผมคว้าข้อมือนั้นลงแล้วค่อยๆ กำมือนั้นไว้หลวมๆ

“เปล่าครับผมสบายดี ผมแค่อยากรู้ว่าโอเมก้าคืออะไรเหรอครับ มันคือชื่อโรคหรืออะไรทำนองนี้หรือเปล่าทำไหมผมถึงไม่เคยได้ยินเลยละ”

คนตรงหน้าเอามือที่ว่างอยู่กุมขมับเล็กน้อย พร้อมกับถอนหายใจออกมา นี่ผมถามอะไรแปลกๆ เหรอ หรือโรคนี้ของโลกนี้มันเป็นเรื่องปกติแบบไข้หวัดหรือเปล่า นี่ผมถามอะไรแปลกๆ ไปหรือเปล่านะ?

“เฮ้ออ..ทิวา พ่อก็พอจะรู้นะ ว่าลูกเรียนไม่ค่อยเก่งแต่ไอเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ได้เรียนกันตั้งแต่ 5ขวบเลยนะการแบ่งแยกชนชั้นน่ะ”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ กับคำตอบที่ได้รับมา พอเห็นสายตาผิดหวังจากคนตรงหน้าผมก็เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ มันคงจะเป็นเรื่องพื้นฐานของโลกนี้จริงๆ ละมั้งไอโอเมก้าเนี่ย

“นี่เงยหน้าหน่อย เฮ้อ..มาเดี๋ยวพ่อจะบอกใหม่ตั้งแต่แรก แล้วครั้งนี้อย่าลืมอีกละเพราะนี้มันคือพื้นฐานเลยด้วยซ้ำ”

“ครับ”

“โลกของเราแบ่งออกเป็นสี่ชนชั้นใหญ่ ชนชั้นแรกคือ อีนิกม่า บุคคลเหล่านั้นคือจุดสูงสุดของห่วงโซ่ทั้งหมด รองลงมาก็คือ อัลฟ่า ถ้านึกภาพไม่ออกก็แบบป๊าของลูกนั้นแหละ ต่อไปก็โอเมก้า ก็คือพ่อแล้วก็ลูกไงละ ส่วนชนชั้นสุดท้ายก็จะเป็นเบต้า ก็คนใช้บ้านเรานี่แหละป้าที่ดูแลลูกอยู่ก็คือเบต้า”

แล้วไอทั้งหมดนั้นมันคืออะไรกันละนั้น ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าไอพวกนี้มันต่างกันยังไง

“แล้วไอพวกนั้นมันต่างกันยังไงเหรอครับ”

“อืม..พ่อจะพูดไงดีนะ ก็เอ่อ..อีนิกม่าสามารถทำให้ทุกสายพันธุ์ตั้งครรภ์ลูกของเขาได้ ส่วน อัลฟ่า สามารถทำให้โอเมก้าตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่สามารถมีลูกกับเบต้าได้ ส่วนเผ่าพันธุ์สุดท้ายอย่างเบต้าก็สามารถมีลูกกับเบต้าด้วยกันเอง”

พอฟังจบผมก็พูดอะไรไม่ออก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแล้วตัวผมเองก็จัดอยู่ในโอเมก้างั้นเหรอ งั้นแสดงว่าป๊ากับพ่อก็คืออัลฟ่ากับโอเมก้า ส่วนคนที่คลอดผมออกมาก็คือพ่อที่เป็นโอเมก้างั้นเหรอ

“คุณน่านค่ะ คุณแสนมาขอพบคุณน่านกับคุณวิทย์ค่ะ”

“อืม บอกให้ไปรอที่ห้องรับแขกเลย วิทย์น่าจะอยู่ที่นั่น ส่วนลูกจะไปทำอะไรก็ไปเถอะเดี๋ยวพ่อกับป๊าไปคุยธุระก่อน”

ผมพยักหน้ารับ คนตรงหน้าผมก็รีบลุกเดินตามสาวใช้ไปทันที แต่เอาจริงเรื่องทั้งหมดที่ได้ยินมาเมื่อกี้มันเป็นเรื่องที่แปลก ทำให้ผมอยากรู้แล้วว่าโครงสร้างร่างกายของคนพวกนี้มันเป็นยังไง เผลอๆ ผมอาจจะค้นพบวิธีที่ทำให้ผู้ชายท้องได้ แล้วถ้าผมได้กลับไปยังโลกเดิม ผมก็อาจจะสร้างรายได้จากตรงนี้เป็นกอบเป็นกำเลยนะ แต่เมื่อกี้เหมือนคนที่ชื่อแสนมางั้นเหรอ ถ้าจำไม่ผิดคนนั้นคือคนที่เคยเป็นคู่หมั้นผมใช่ไหม แล้วอีกอย่างผมก็ไปทำลายงานหมั้นเขาอีก ไหนๆ ก็มีโอกาสแล้วผมก็ควรจะขอโทษเขา แล้วสิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยก็คือสระน้ำบ้านเขาที่ผมโผล่มา ผมอยากไปที่นั้นอีก ถ้าไม่รีบเคลียร์เรื่องนี้ผมอาจจะไม่ได้ไปที่สระนั้นอีก ก็ครั้งสุดท้ายที่เจอ เขาออกจะเกลียดผมขนาดนั้น

“คุณแสน คุณกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร!!!”

ยังไม่ทันถึงห้องรับแขก เสียงตะคอกก็ดังลั่นขึ้น ถ้าจำไม่ผิดเสียงนั้นน่าจะเป็นเสียงป๊าผมแน่ๆ แต่ก็คงจำไม่ผิดหรอกเพราะเมื่อวานผมโดนมาแล้ว เอาจริงบรรยากาศแบบนี้ไม่น่าเข้าไปเลย ไหนจะกลิ่นแปลกๆ แบบนี้อีกเล่นเอารู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกไปหมด

“คุณวิทย์ก็น่าจะรู้จักนิสัยทิวาดีนี่ครับ เรื่องที่เขาไปทำร้ายร่างกายหนาวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ครั้งนี้ผมคิดว่ามันหนักไปเจตนาฆ่าเลยนะครับ ก็คุณวิทย์เป็นคนบอกเองนี่ครับว่าทิวามีคู่หมั้นใหม่แล้ว ถ้าจะส่งตัวไปให้เร็วขึ้นมันจะเป็นอะไรไปครับ”

คนที่เป็นป๊าผมเขาโกรธจนตัวสั่น กำมือแน่นพอเห็นแบบนั้นผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปใหญ่แต่ไออาการแน่นหน้าอกนี่ก็เริ่มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องยกมือกุมหน้าอกตัวเอง

“ผมว่าตอนนี้ผมใจดีเกินไปด้วยซ้ำ คุณวิทย์คิดว่าแบบนั้นไหมครับ ถ้าผมไม่เห็นแก่หน้าคุณวิทย์ผมคงแจ้งความจับทิวาไปแล้ว ที่ผมมาคุยเรื่องนี้ผมไม่ได้มาขอร้องนะครับแต่เป็นคำสั่ง ถ้าคุณวิทย์ไม่ส่งทิวาให้ไปอยู่บ้านคู่หมั้นภายในวันสองวันนี้ผมคงต้องแจ้งความ เพราะผมเองก็เป็นห่วงคู่หมั้นผมเหมือนกัน ผมไม่รู้หรอกว่าทิวาจะคลุ้มคลั่งอีกเมื่อไหร่”

“แต่อีก 3วัน คุณเหนือจะมารับทิวาแล้วนี่ครับ แถมตอนนี้ทิวาก็ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว น่านว่าเรามาคุยกันดีๆ ดีกว่า ทางเราก็สัญญาแล้วว่าจะไม่ให้ทิวาเข้าไปยุ่งกับคุณแสน แล้วก็หนูหนาวแล้ว”

ไม่ยุ่งไม่ได้สิ แล้วแบบนี้ผมจะไปที่สระน้ำนั้นยังไงละ นั้นมันคือข้อมูลแค่อย่างเดียวที่อาจจะพาผมกลับไปยังโลกเดิมได้เลยนะ แล้วจะทำยังไงดีให้เรื่องบ้าๆ พวกนี้จบลงสักที อืมม.....

“ผมไว้ใจอะไรไม่ได้หรอก ผมรู้สึกเหมือนทางคุณพึ่งจะสัญญาไปเองนะ แต่แค่ไม่กี่วันทิวาก็ทำอีกแถมครั้งนี้มันก็รุนแรงเกินไป ถ้าทิวาไม่ไปวันนี้ผมถือว่าผมกับทางคุณวิทย์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก สัญญาร่วมหุ้นก็จะเป็นโมฆะ แล้วผมก็จะแจ้งจับทิวาทันทีทางผมรวบรวมหลักฐานไว้หมดแล้ว หวังว่าคุณวิทย์จะมีคำตอบดีๆ ให้ผมนะครับ”

ทำไงดี ผมก็ไม่อยากจะเข้าคุกหรอกนะ แถมเรื่องบ้าๆ พวกนี้ผมเองก็ไม่ได้เป็นก่อขึ้นมา ถ้าต้องให้มารับผิดมันก็อะไรๆอยู่ แถมเรื่องคู่หมั้นผมเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จะเป็นใครก็เอาเถอะเพราะผมเองก็ไม่ได้จะอยู่ที่นี้นานนักหรอก ถ้าหาวิธีกลับไปได้ผมก็จะรีบไปทันที ยังไงเรื่องมันก็เป็นถึงขนาดนี้แล้ว เป็นไงกัน!

“ได้ครับ!! ผมจะไปวันนี้เลย”

“ให้ผมเก็บของไปเลยไหมครับ...?”

...To be Continue...

...100%...

...1 คอมเมนท์ \= 1 กำลังใจ ❤️...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!