หน้าทางเข้าโรงเรียน มีนักเรียนชายคนหนึ่ง ตัวสูงโปร่ง ราว 190 เซนติเมตร ผมสีดำแต่คิ้วทั้งสองข้างดันสีแดงเข้ม เป็นอะไรที่ดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย
เขาเดินมาในอาการงัวเงียเหมือนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตัวเอนไปมาเหมือนต้นไม้โดนลมพัด นั่นคือวีระที่ออกจากบ้านมาในชื่อชิน
"หาว....." ชินอ้าปากกว้าง พร้อมสูดลมเข้าไปเต็มปอด ใต้ตาคล้ำ
"โอย....ให้ตายสิทำไมถึงได้ง่วงแบบนี้นะ" ชินบ่นระหว่างเดินไปตามทาง
ในที่สุดเขาก็เจอห้องเรียน 4/3 หลังจากที่เดินเลยไปและวนกลับถึงสามรอบได้ วีระเดินเข้าไปในห้องเรียน โดยไม่ต้องเปิดประตู
"เพราะมั้นเปิดไว้อยู่แล้วไง;-;"
ในห้องที่นักเรียนคนอื่นกำลังคุยกันอยู่ หนึ่งคนที่คุยเป็นนักเรียนชายชื่อ ซัน
"เห้ยดูสิพึ่งย้ายมาไม่ถึงเดือนมีสาวเอาของกินให้ทุกวัน....แหม....น่าอิจฉาจริงๆ" ซันพูดจา แซวชินตามปกติ
ชินได้ยินดังนั้นจึงพูดเสียงเรียบ"อ่า..อีกแล้วหรอ ยัยนั่นอีกแล้วสิเนี่ย" เหมือนว่าตอนนี้อาการง่วงหายไปเหมือนไม่เคยมีเลย
ถึงซันจะไม่รู้ แต่ชินรู้ดีเลย กลิ่นน้ำหอมบนกระดาษ และ...ตัวหนึงสือที่เป็นเอกลักษณ์อย่างกับเธอเป็นหมอมานาน แน่นอน... เพราะมันอ่านยาก
ชินเดินไปยังโต๊ะของเขาที่มีขนมวางไว้อยู่ ข้างกันมีผู้ชายนั่งฟุบหลับอยู่ เขาคือปราณ คนที่เปรียบเหมือนน้องชายของวีระ
"นี่ปราณมีรสกล้วยหอมด้ว--"ยังไม่ทันจบประโยค เสียงกรนนั้นพลันหายไป และมีใบหน้าของปราณพุ่งเข้ามางับฉกฉวยขนมรสกล้วยหอมไปจากมือชินอย่างแม่นยำ
ปราณเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย และหันมาหาชิน ทำหน้ายิ้มยิงฟัน ยกนิ้วโป้งพร้อมบอกอย่างภาคภูมิใจ "แซบเวอร์"
12:00น.
ในเวลานี้ นักเรียนทุกคนที่เรียนจบชั่วโมงแล้ว จึงพากันลงมาทานอาหารกลางวัน
ม้าหินอ่อนหน้าอาคาร ม.4 มีนักเรียนชายสองคนนั่งอยู่ ผู้ชายผมสีผมตาลนั่งฟุบอยู่ ส่วนอีกคนผมสีน้ำเงินมืดๆนั่งหลังตรง สายตาจับจ้องไปยังอะไรบางอย่างข้างหน้า
ลีออนที่นั่งฟุบอยู่เงยหน้าขึ้นมาพูดกับลัคกี้ที่นั่งมองอะไรอยู่
"เดี๋ยวเบาหวานก็ขึ้นตาหรอกจ้องอยู่นั่นแหล่ะให้ตายสิ"
ลัคกี้ในตอนนี้หน้าตาบึ้งตึง เขานั่งมองนักเรียนชายหญิงคู่นั้นที่อยู่หางไปไม่ไกล พร้อมบรรยายสิ่งที่เห็น
"อื้อหือ..ดู๊ดู..มียิ้มส่งสายตาให้กัน..โห....ดู๊ดู....มีป้อนข้าวหืม......พวกคนมีคู่เขาห่อข้าวมากินเองหรอวะเนี่ย"
จากนั้นเป็นทีของลีออนบ่นพึมพัม พร้อมหันหน้าไปทางอาคาร ม.4
"ไอ้สองคนนั้นมันจะมาตอนไหนวะ?"
ทันใดนั้นเหมือนคำพูดของลีออนจะส่งผล ทั้งสองเดินออกมาจากอาคาร ม.4 ลีออนเพียงคิดอยู่ในใจ พูดให้เร็วกว่านี้เสียก็ดีไอ้พวกนั้นจะได้ลงมาเร็วๆ
ลัคกี้หันหน้าไปทางชายทั้งสอง เป็นผู้ชายตัวสูงในชุดนักเรียน คนที่สูงราวๆ 180 เซนติเมตร คือบาส ส่วนคนที่สูงกว่าบาสประมาณ 5 เซนติเมตร คือจิน คู่หูหุ่นนายแบบเดินมาหาเพื่อนสนิททั้งสองที่นั่งรออยู่ ลัคกี้กี้พูดด้วยความหมั่นไส้
"โห..หล่อนักนะพวกมึง "
จินยิ้มยิงฟัง พร้อมขยิบตาซ้าย เชิดออกไหล่อย่างภาคภูมิพร้อมพูดพระโยคแทงใจดำ
"อืม...พวกไม่มีวาสนาคงไม่เข้าใจหรอกว่าคนหล่อมันเป็นไง"
จากนั้นทั้งสี่คนจึงเดินตามกันต้อยต้อย เพื่อไปยังโรงอาหาร โดยที่ลัคกี้กับจินยังทะเลาะกันเรื่องหล่ออยู่
จากนั้นไม่ถึงสามนาทีมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากอาคาร ม.4 เธอเป็นผู้หญิงตัวสูงราว 170 เซนติเมตร ผมสีส้มมัดหางม้า ใส่แว่นเลนส์เทาสีทึบจนมองไม่เห็นดวงตา มาพร้อมกับข้าวหล่อห่อใหญ่ เธอชื่อเบลล์
เป็นแบบนี้ทุกวัน เบลล์ตรงไปยังสวนหลังอาคาร และนั่งลงที่เก้าอี้ยาวตัวโปรด วางข้าวกล่องไว้บนตัก เธอเปิดกล่องหยิบช้อนซ่อม ในขณะนั้น
"โห ....น่าอร่อยนะขอคำนึงได้ป่ะ?" เสียงจากผู้ชายที่เหมือนว่าจะอยู่ใกล้กับเบลล์ตอนนี้ เบลล์รับรู้ได้ทันทีว่านั่นคือใคร เธอหันไปทางซ้ายพบกับผู้ชายนั่งพิงเก้าอี้ยาว นั่งข้างกับเธออยู่
จบตอนที่1
"หืม..นาย...มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
เบลล์เอ่ยถามชินที่นั่งอย่าสบายอยู่ข้างเธอ ชินหันขวับไปมองเบลล์ จากนั้นเขาทำหน้ามึนงง
"ก็.....สามนาทีก่อนละมั้ง" คำตอบจากชินผู้ทำหน้ามึน เธอพยักหน้ารับ จากนั้นหันหน้ากลับไป และกำลังจะตักข้าวใส่ปากต่อ
"นี่..เธอไม่ต้องเอาขนมไปให้แล้วก็ได้นะมันเปลืองตังค์ หรือถ้าจะให้จริงๆ ขอเป็นเงินสดดีกว่า" ชินบอกกับเบลล์ในเชิงล้อเล่น พร้อมหน้าตากวนโอ๊ย
"เราไม่ได้เป็นคนเอาขนมไปให้นะ นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่-"
"พิสูจน์สิเบลล์ พิสูจน์ให้ดูหน่อยเขียนตัวอักษรอะไรก็ได้ลงกระดาษ" ชินพูดสวนเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
"ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ พ่อคนขี้เก๊ก"เธอเลือกที่จะไม่เถียงต่อและทานข้าวของเธอต่อไป ชินนั่งยิ้มด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ
"หุหุหุ" เสียงหัวเราะของชินมันน่าจับมาตีปากซะให้รู้เรื่อง เธอคิดอยู่ในใจระหว่างเคี้ยวตุ้ยตุ้ย เธอยัดเข้าไปจนแก้มตุ่ย ยังไงก็ตาม ชินที่นั่งมองอยู่ก็คิดว่าน่ารักอีกแบบ
"โห..สาวรุ่นถึงจะเนิร์ดก็ยังน่ารัก อยากเห็นใบหน้าที่ไม่ใส่แว่นจังเลยน้า..." ชินคิดอยู่ในใจ
...12:30...
เบลล์ทานมื้อกลางวันที่แสนอร่อยเสร็จและกำลังทานขนมอยู่ตอนนี้ ข้าวกล่องห่อใหญ่นั้น สาวรุ่นสวาปามจนเกลี้ยง เหมือนกระเพาะของเธอทำมาจากหลุมยังไงยังงั้น
ชินในตอนนี้พึ่งจะไปซื้อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยมา เขานำมานั่งกินอยู่ที่เดิม น่าแปลกเสียจริง หากเป็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อหรือพี่ชาย เธอคงลุกหนีไปแล้ว แต่ชินเป็นใครเธอถึงยังนั่งอยู่ได้ ชินคิดอยู่ในใจ
"นี่เธอ พอดีฉันบังเอิญซื้อขนมแล้วมันเกาะมือมาอีกชิ้น เอาไหม" สูตรเก่าสูตรเดิมเหมือนตอนเช้า วิธีฉกเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือส่วนที่ใช้กับคน มือของเธอฉกฉวยไปทันที
"ขอบคุณค่ะ" เบลล์กล่าว ดีแล้วที่ฟังเขาพูดจบและอย่างน้อยก็ขอบคุณ ชินคิด
"อ้าวจริงด้วย คนระวังตัวแบบเธอ...รับของจากคนแปลกหน้าด้วยหรือ?" ชินถามหยอกล้อสาวรุ่นที่นั่งกินขนมจนเลอะปาก
"เอ๊ะ...!" สิ้นเสียงอุทานเธอรีบคืนขนมให้ชินและลุกขึ้นเดินหนีไปพร้อมกล่องเปล่าที่เคยมีข้าวอยู่
"แหม....คนแบบเธอนี่บ้างก็ซื่อ บางครั้งก็รู้ทัน อะไรล่ะนั่น?" ชินพูดตามหลังเธอพร้อมหัวเราะคิกคัก
หลังพุ่มหญ้า อยู่ไม่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้มาก หลังเก้าอี้ยาวที่ทั้งสองนั่งอยู่ มีผู้สังเกตการณ์ทั้งสองนั่งอยู่ ทั้งสองคนจับมือกับแล้วพูดเบาๆ
"เป็นไปตามแผน" ปราณปละผู้หญิงตัวเล็กอีกคนกำลังแอบมองชินและเบลล์อยู่ อย่างกับกำลังดูหนังแนวความรัก
"นี่พี่อัง ผมว่านะพี่ แบบนี้ไปได้กล้วยแน่นอน"ปราณพูดขึ้นมาด้วยคำแปลกๆ จนต้องโดนอังอังดุ
"ไอ้บ้า!!!!! ไปได้สวยเว่ยไปได้สวยไม่ใช่กล้วย" น้ำเสียงที่พูดค่อนข้างดุดันต่างจากขนาดตัวของเธอ
"โห..ทำอะไรกันอยู่หรอ" เสียงจากผู้ชายข้างหลังอังอัง ห้อง4/1 พูดขึ้นมา
"ไม่ต้องยุ่งจะไปไหนก็ไปคนเขาทำธุระ" เธอพูดกับคนที่อยู่ข้างหลังโดยไม่มองว่าเป็นใครเพราะกำลังง่วนกับการแอบดูชิน
ปราณสะกิดอังอัง ให้หันมองข้างหลังพอเธอหันไปหาปราณจึงเห็นปราณทำหน้าเหมือนเจอผี จนเธอทนไม่ไหวจึงหันหลังไป
"อะไรวะปราณทำหน้าอย่างกับเจอผ---" เธอทำสีหน้าไม่ต่างกันเมื่อเห็นคนข้างหลัง
"คะ..คะ..ครูคะ..เอ่อหนูเปล่านะ.."
"โหแต่เมื่อกี้เต็มปากเต็มคำเลยนะพี่"ปราณพูดสวนอังอัง
"อืม..พวกเธอรู้ไหมว่าการทำตัวแบบนี้มันน่าสงสัยนะ" ครูสนธยาหัวหน้าฝ่ายปกครองหน้าตานิ่งขรึมพูดกับบทั้งสองคน ด้วยเสียงเรียบ
"ขอโต๊ดครับ/ค่ะ จะไปแล้ว~~~" ทั้งสองพูดก่อนวิ่งเตลิดออกไปคนละทาง
"แหม..หนุ่มสาวสมัยนี้นี่..แข็งแรงกันจริงๆเลย" ครูสนธยาพูดเบาๆแล้วหลังจากนั้นจึงยิ้มอ่อนๆ
...17:00...
ชินยืนอยู่หน้าโรงเรียนเหมือนกำลังรอใครอยู่ แน่นอนว่าไม่ใช่เบลล์แต่เป็นคนอื่น
"มาแล้วมาแล้วรอนานไหมครับพี่" เสียงปราณดังมา ทั้งสองคนอังอังกับปราณ เลิกเรียนช้าไปครึ่งชั่วโมง เพราะพวกเขาถูกเรียกตัวโดยครูสนธยาไปบำเพ็ญประโยชน์ ถึงมันจะไม่ใช่ความผิดร้ายแรงแต่กูถูกยัดข้อหาถ้ำมอง
"โอย....ปวดแขนจังเลยอ่า"อังอังพูดด้วยดสียงที่ไร้เรี่ยวแรงและแหบแห้ง
"แก่แล้วก็งี้แหล่ะพี่อังเอ้ย" ปราณพูดด้วยการดัดเสียงให้แก่ล้อเลียนอังอัง ห่อนจะถูกอังอังเตะเข้าเอวข้าวซ้ายเต็มๆ
"อัก!!!..โอ๊ย" ปราณร้ิงออกมาด้วยความเจ็บจากนั้นเขารีบจ้ำอ้าวหนีอังอัง แล้วอังอังก็วิ่งตามไปติดๆ
"หยุดนะโว้ยไอ้หางตายาว!!!!!!" อังอังตะโกนไล่หลังปราณไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ชินยิ้มมุมปากเข้าจับไปที่ผมสีดำและดึง นั่นคือวิค เมื่อเอาออกแล้วปรากฏเป็นผมสีแดงเข้ม ใบหน้าในตอนนี้ความทะเล้นไม่ได้เลย แต่รอยยิ้มของเขาก็ยังไม่จางไป
เขาเริ่มก้าวเดินและตะโกนเรียกน้องๆ "นี่!!!ระวังล้มนะเดินช้าๆก็ได้อังอังเลิกรังแกน้องได้แล้ว!!"
...จบตอนที่2...
ในตอนนี้ก็เป็นเวลา หนึ่งทุ่มแล้ว ณ ห้องเช่า ในห้อง 530 ชั้น 5 บนโต๊ะอาหาร ทั้งสามคนนั่งล้อมวงกันอยู่ ในวงนั้น มีวีระ ปราณ อังอัง
"อ๊ะมาแล้วครูมาแล้ว" พูดเสียงดัง เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู คนคนนั้นเข้ามาปรากฏว่าเป็นครูสนธยา หัวหน้าฝ่ายปกครองของโรงเรียน
"ไงเด็กๆ ไม่ต้องเรียกครูแล้วเรียกลุงเถอะปราณ" เขาทักทายทุกคนพร้อมบอกปราณ
และแล้วทั้งสี่คนก็ได้อยู่กันพร้อม หน้าและเริ่มทานอาหาร ปราณรีบฉกฉวยเอาเนื้อทอดอย่างรวดเร็วชนิดที่ว่าอังอังตีมือแทบไม่ทัน วีระหัวเราะร่ากับความซุกซนและความเจ้าระเบียบของน้องๆ
ย้อนไปเมื่อตอนประมาณสี่โมงครึ่ง วีระที่ยืนรอปราณและอังอังอยู่ เมื่อพบว่าเบลล์เดินออกมา วีระกำลังจะเดินเข้าไปหา ทันใดนั้นมีรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งขับมาจอดข้างหน้าเธอ เป็นผู้ชายที่ผมสีน้ำตาลมัดหางม้า หน้าตาดูเกลี้ยงเกลา ดวงตาสีแดงเชอรี่สวยงาม เขามาในชุดอาชีวะ
"ผู้ชายอะไรหน้าตาสะสวยจัง" วีระคิดในใจ
"ขึ้นมาเลยจ้า" ผู้ชายคนนั้นพูดกับเธอเสียงที่มาดแมนเลยทีเดียว จากนั้นเธอก็ขึ้นขี่รถกับชายคนนั้น และเขาก็ขับออกไปทันที
"หืม......นั่นแฟนเธอหรือเปล่านะ" เขาพูดเสียงไม่เกินกระซิบ ชายหนุ่มตอนนี้รู้สึกว่าคล้ายกับจะหน้าชา แต่อย่างไรเสีย คนเราก็ไม่มีทางดูคนอื่นออก ร้อยเปอร์เซ็นต์
ตัดมาที่ปัจจุบัน วีระนั่งทานข้าวกับน้องทั้งสองและลุงของเขา วีระและน้องๆ เป็นเด็กกำพร้า เป็นเด็กที่คุณลุงนำมาเลี้ยงดู ทั้งสามคนรักลุงเหมือนพ่อแท้ๆ วีระ อังอัง และปราณ อายุพอๆกัน
หากแต่ว่าถูกรับมาเลี้ยงในเวลาที่ต่างกัน
วีระถูกลุงเลี้ยงมาตั้งแต่จำความได้ ปราณถูกรับมาเลี้ยงตอนอายุ12เพราะพ่อฆ่าตัวตายและแม่หนีไปกับผู้ชาย อังอังถูกรับมาในปีถัดไปเพราะพ่อแม่ถูกฆาตกรรม แต่ทว่าด้วยความฉลาดของอังอัง ทำให้น้องเล็กไม่ใช่เธอแต่เป็นปราณ ทั้งสามคนได้รับนามสกุล อิทธิเดชาชัย หากแต่ว่าพวกเขาไม่ใช่สายเลือดแท้โดยกำเนิด ยกเว้นวีระที่เป็นอิทธิเดชาชัยแท้ แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่คือใคร
"พี่คะช่วยหน่อยหนูที!!! ปราณไอ้บ้าก็บอกว่านั่นของฉันไง!!!!" อังอัง ขอความช่วยเหลือจากวีระ และหันไปเอ็ดตโรปราณ
วีระและคุณลุง นั่งหัวเราะ แหะแหะ ทำสีหน้าท่าทางเหมือนดูเด็กทะเลาะกัน เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ไม่วายที่อังอังกับปราณจะทะเลาะกันบนโต๊ะอาหาร
ในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่ง ที่ชั้นสองของบ้าน หญิงสาวคนหนึ่งนั่งบนที่นอนโดยมีหมอนรองตัก นั่งมองรูปอะไรบางอย่าง
"คิดถึงจังเลย " เธอพูดพร้อมยิ้มทั้งน้ำตา ในตอนนี้เห็นแค่หน้าส่วนล่าง ส่วนตาถึงหัวมองไม่เห็น เธออยู่ในชุดนอนประกอบด้วยเสื้อแขนสั้นกางเกงขายาว ลายลูกไม้
ในยามดึกเวลาเกือบเที่ยงคืน มีผู้ชายตัวสูงยืนอยู่ในซอกตึก ข้างหน้าซอกตึกมีรถลีมูซีนขับมาจอด คนขับออกมาจากรถ รีบวิ่งออกมาเปิดประตูด้านหลังข้างขวา พร้อมผายมือ
"เชิญครับท่าน" คนขับรถกล่าวอย่างนอบน้อม จากนั้นมีขางโผล่ออกมาจากในรถ ใส่รองเท้าหนังท่าทางราคาแพง และขัดทำความสะอาดมาเสียเงาวั๊บ
ก่อนจะโผล่ออกมาทั้งตัว เป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย มองจากสายตาน่าจะอายุราว เกือบ 30 ปี ใส่กางเกงขายาวกว้าง พร้อมกับเข็มขัดหนังจระเข้ราคาแพง เสื้อเชิ๊ตแขนยาวผูกเนคไท ขนาดตัวสูงไม่เกิน 160 เซนติเมตร
"รอฉันตรงนี้ เดี๋ยวฉันกลับมา" เสียงเรียบของเธอบอกกับคนขับรถ แล้วเขาก็เชื่อฟังแต่โดยดี จากนั้นเธอเดินเข้าไปในซอกตึกคนเดียว
"รอนานไหมคะ?" เธอเดินมาถึงและกล่าวทักทายเชิงถามวีระ เขายืนรออยู่นานแล้ว เพราะความตื่นเต้นที่จะได้รับจดหมายจากแม่ เพียงเพราะตั้งแต่เกิดเขาไม่เคยเจอแม่เลย ใกล้ได้มากสุดเพียงผ่านจดหมาย
"คุณน้าอรชร สวัสดีครับ" วีระไหว้คุณอรชร และเธอก็รับไหว้ เห็นแบบนี้เธอเองก็อายุ ถึง43 ปีได้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแม่เลยก็ได้ เธอยิ้มให้กับวีระอย่างอ่อนโยน ก่อนยื่นจดหมายให้กับวีระ
"ขอบคุณครับ อ๊ะจริงสิ แล้วพี่ ธิดาไม่มาเหรอครับ? เห็นคุณน้าบอกจะมา" วีระถามอย่างสงสัยหลังจากรับจดหมายแล้ว
"อะ..อ๋อ...พี่ธิดาไม่ว่างค่ะ" คุณอรชรตอบอย่างเสียงตะกุกตะกัก เหมือนมีลับลมคมใน วีระมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่คิดอะไร
จากนั้นวีระกับคุณอรชรจึงแยกทางกัน วีระกลับไปยังห้องพักที่ปราณนอนรออยู่บนพื้นข้างๆกันเป็นที่นอนวีระและอังอังก็อยู่บนเตียงนอน คุณลุงอยู่คนเดียวอีกห้อง
คุณอรชรเดินกลับไปขึ้นรถลีมูซีน หลังจากนั้นรถก็ถูกขับออกไปทันที บนชั้น4 มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองพวกเขาทั้งสองอยู่ เขามองเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่วัระเดินเข้าไปจากนั้นไม่นานมากมีผู้หญิงอีคนตามเข้าไป ไม่ถึงสามนาทีทั้งสองก็เดินออกมา
"วีระคงได้รับจดหมายแล้ว" เสียงคุณลุงที่มองมาตั้งแต่แรก เขาพูดพร้อมยิ้มอ่อน
ในตึกสูงใจกลาง กรุงเทพฯ ในห้องชั้นบนสุด ของตึก บริษัทเดชาชัยกรุ๊ป มีผู้หญิงนั่งง่วนอยู่กับงานมากมายห่ายกอง และผู้ชายในชุดสูท ร่างกายกำยำตัวสูงราว 2เมตรกว่าๆ
"หน็อย ประธานนะประธาน บอกว่าจะรีบไปรีบกลับ แล้วอะไรกันงานใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว" เสียงของเลขาธิดาบ่นไปพรางทำงานไปด้วย
"เอาน่า...เดี๋ยวประธานก็กลับมา " เสียงทุ้มต่ำแต่อ่อนโยนบอกกับธิดาพรางหอบเอกสารอุตลุด
"แต่ว่าพี่ นธี คะมันน่าจริงๆเลยนะอายุก็ปูนนั้นแล้ว" เธอบ่นกับความไม่รับผิดชอบของคุณอรชร เป็นแบบนี้แทบทุกวัน
"เอาน่า..." นธีพูดได้เพียงแค่นั้น และงานก็ไม่หยุดมือเลย เหล่าพนักงานเกือบแปดร้อยคนตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงสองร้อยที่ทำโอทีอยู่ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่สวัสดิการของพนักงานเรียกได้ว่าดีที่สุดในประเทศแล้วตอนนี้
ในห้อง530 วีระล้มหัวลงที่นอนพร้อมเปิดจดหมายอ่าน เขาชอบที่จะอ่านจดหมายก่อนนอน
...จบตอนที่3...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!