ตัวข้าพระเจ้าใช้ชื่อแทนว่าเด็กชายแดน
ตั้งแต่จำความได้ในหมู่บ้านแห่งนี้มีประมาณสองร้อยหลังคาเรือน
ตอนนั้นแดนอายุได้ประมาณ10-15ปี ที่หมูบ้านของแดนเป็นหมู่บ้านชนบทแต่ก็มีไฟฟ้าเข้าถึงแล้วการเดินทางถือว่าสะดวกสบายมีรถสองแถววิ่งเข้าเมือง
ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่หมู่บ้านนี้จะมีสามแยกที่มีต้นมะม่วงใหญ่สามต้นที่แดงเกิดมาก็เห็นแล้ว
หมู่บ้านของแดนจะอยู่บนที่เนิน ถ้ามองจากไกลๆเข้ามาในหมู่บ้านจะมองเห็นต้นมะม่วงสามต้นนั้นเหมือนหัวคนที่ถูกตัดขาด ข้างทางถนนเส้นผ่านหมู่บ้านจะมีตู้โทรศัทพ์ยอดเหรียญตั้งทิ้งไว้แต่ไม่มีโทรศัทพ์
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ แดนจะจับกลุ่มกับเพื่อนๆพี่ๆห้าถึงหกคน นัดเวลากันเจ็ดโมงไปเก็บลูกกระสุนที่เป็นหินแดงเพื่อใช้ในการยิงนก กิ้งก่าและแย้(เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ30ปีที่แล้ว)
ช่วงนั้นช่วงหน้าหนาว วันนั้นเป็นเช้าวันเสาร์ที่หมู่บ้านจะมีสระใบหนึ่ง(สระวัดร้าง)
สระนั้นจะมีผีผู้หญิงชื่อตาโบ๋ สระใบนั้นจะมีที่ปลูกผักของแต่ละคน ตอนเช้าและช่วงเย็นจะไปรดน้ำผักกัน
เสาร์นั้นเองหลังจากเก็บลูกกระสุนหิดแดงเสร็จสำหรับใช้กับหนังสติ๊ก
เป็นเวลาประมาณแปดโมงครึ่ง มีน้าคนนึงที่รู้จักกำลังรถน้ำผักอยู่
ขณะที่น้ากำลังก้มตักน้ำโดยใช้ด้วยบัวรถผักตักน้ำ ตัวแดนและเพื่อนได้เดินขึ้นไปบนคูสระพอดี
ระหว่างที่เดินอยู่นั้นก็ได้หันไปดูน้าที่กำลังตักน้ำ และมองไปเห็นว่าแกไม่ได้ขยับตัวหยุดนิ่งในท่าที่กำลังตักน้ำ
แดนและเพื่อนได้มองไปที่กลางสระ ขณะนั้นเองที่กลางสระได้เกิดคลื่นน้ำที่กลางสระ โดยที่ไม่มีลมพัด
คลื่นนั้นเหมือนปลาวิ่งเข้าหาฝั่ง โดยที่ทิศทางของคลื่นได้ตรงไปที่น้าที่กำลังตักน้ำ ซึ่งแกก็ไม่ได้ขยับเหมือนแกจะข้างไป
แดนและเพื่อนเห็นดังนั้นก็ได้ตะโกนเรียกน้า ให้ขึ้นจากน้ำ แต่ก็เหมือนว่าน้าแกไม่ได้ยิน
แดนและเพื่อนเห็นท่าไม่ดีก็ได้ใช้หนังสติ๊กยิงคลื่นลูกนั้นที่วิ่งไปหาน้า
ช่วยกันยิงอยู่ซักพักแล้วคลื่นนั้นก็หันกลับไปทางสระเหมือนเดิม จนคลื่นนั้นไปถึงกลางสระและหายไป
แดนและเพื่อนได้ตะโกนเรียกน้าอีกครั้ง ทำให้น้าตกใจสะดุ้งรู้สึกตัว
เหมือนแกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวแก แกยังตะโกนถามว่าจะไปไหนกัน
แดนก็เลยเดินเข้าไปถามว่าเมื่อกี้เป็นอะไรมั้ย
น้าแกตอบว่าไม่เป็นอะไร
แดนดับเพื่อนก็ได้แต่มองหน้ากันไปมาและบอกให้น้ากลับบ้านเพราะแดนมันเริ่มจะร้อนและ
แต่น้าก็บอกว่าขอรถน้ำผักอีกสักหน่อยค่อยกลับ
แดงและเพื่อนได้ไปนั่งรอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับน้าอีกรึป่าวที่อีกฝั่งของสระจนน้าได้กลับบ้านไป
แดนและเพื่อนจึงได้ไปตามล่าภารกิจยิงแย้และกะปอม(กิ้งก่า)
หลังจากวันนั้นก็มีคนเจอเรื่อยๆ เจอเหตุการณ์แปลกๆเรื่อยๆและมีอีกเหตุการณ์นึง
ช่วงเย็นของอีกวันหนึ่งที่กำลังขุดแปลงผักที่กำลังปลูกผักของอีกฝั่งสระใบแดง
ตรงนั้นจะมีต้นตะโกและต้นมักขามเทศและต้นมะม่วงใหญ่ต้นนึง
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับญาติ
ขณะที่ป้าคนนั้นกำลังขุดแปลงผักอยู่ เพื่อเตรียมปลูกผักอยู่ซึ่งมีลูกชายคอยช่วย ลูกชายก็เป็นลูกพี่ของแดนประมาณหนึ่งปีกำลังช่วยแม่ปลูกปลงผักอยู่
เวลาประมาณห้าโมงเย็นซึ่งต่างจังหวัดก็ใกล้จะมืดแล้วหรือเนียกว่าเวลาผีตากผ้าอ้อม(โผล้เผล้)
ลูกชายได้มากินน้ำและหันไปมองแม่ ทำให้เขาตกใจกับสิ่งที่เห็น
เมื่อเห็นเป็นเงาดำๆกำลังวิ่งรอบตัวแม่อยู่ ซึ่งตัวแม่ก็ได้หยุดนิ่งไปเลย เขาทำอะไรไม่ถูก ตกใจมาก
พอดีระหว่างนั้นได้มีคนเดินผ่านมาพอดี ก็เลยเรียกให้คนนั้นเข้าไปช่วยเข้าไปเรียกแม่
ซึ่งคนที่เขาไปช่วยก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แต่มองไปเห็นป้าที่ยืนนิ่งไม่ขยับ ก็เลยเดินเข้าไปกระชากมือที่กำลังจับจอบอยู่จนทำให้ป้าแกตกใจสะดุ้งแล้วถามว่าเกิดไรขึ้น แต่น้าคนนั้นก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่เข้ามาคุยด้วย และบอกให้ป้าแกพาลูกชายกลับบ้านเพราะมันมืดแล้ว*ลืมบอกไปว่าพื้นที่ตรงนั้นวัดเก่า
ช่วงฤดูทำนาไปช่วงเก็บเกี่ยวประมาณเดือนกลางเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งแดนได้ไปทำนากับครอบครัว(นานี้เป็นเช่า)
ช่วงทางที่ใช้สำหรับไปนา จะไปลงกลางสี่แยกหมู่บ้าน
ถนนที่ใช้ไปนาจะต่ำกว่าถนนหมู่บ้าน แล้วจะเป็นทางราดลงไปสามารถใช้ความเร็วได้โดยการปั่นจักรยานจะมีบางช่วงที่ถนนเป็นดินทราย
ระหว่างทางนั้นจะผ่านพื้นที่วัดเก่า มีต้นโพประมาณห้าต้น ขึ้นปกคลุมทางที่จะไปนาซึ่งตรงนั้นก็ตะเป็นดินทรายพอดี
เรื่องเล่าที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับวัด มีเณรได้ตกซ้วม
ตามเรื่องเล่าแต่ก่อนเป็นซ้วมหลุม มัไม้พาดสำหรับทำกิจธุระและได้มีเณรน้องผลัดตกลงไปตาย
วันนั้นพ่อของแดนได้เข้าบ้าน เพื่อที่จะจับไก่เข้ากระสอบข้าวไปปล่อยที่นา ได้เดินทางออกจากบ้านไปที่นาโดยผ่านทางเส้นนั้น
ปกติจะไม่ค่อยใช้ทางเส้นนั้น จะใช้การเดินลัดทุ่งนาไป แต่วันนั้นพ่อแดนลืมเอาไฟฉายไปด้วย จึงได้ใช้ทางเส้นนั้น เพราะมันเดินง่าย
แต่ระหว่างที่เดินมาทางเส้นนั้น ได้มีลูกสุนัขสามสี่ตัววิ่งตามมาด้วย
พ่อของแดนเข้าใจว่าเป็นลูกสุนัขภายในหมู่บ้านก็ไม่ได้คิดอะไร
พอเดินมาถึงต้นโพ ก็ได้ยินเสียงไก่ในกระสอบข้าวดิ้นและร้องอ๊อกๆสี่ถึงห้าครั้งจากนั้นก็เงียบไป
พอเดินเลยเขตุต้นโพไปก็เลยเขย่าถุงที่ใส่ไก่ดู ทำไมไก่ไม่ดิ้น จึงเปิดกระสอบข้าวดู ปรากฏว่าไก่ในกระสอบข้าวตายหมด และหันไปดูลูกสุนัขสี่ห้าตัวที่สิ่งตามมาถึงกลางทางระหว่างต้นโพก็หานไปหมดแล้ว
พ่อแดนคิดว่าน่าจะโดนเข้าให้แล้ว น่าจะเป็นลูกหมาสี่ห้าตัวที่วิ่งตามหลังนั่นและที่เป็นปอบและกินไก่ที่พ่อของแดนจะเอาไปปล่อยที่นา
พอไปถึงที่นาก็ได้กินต้นได้
มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ ำด้มีเจ้าของนาข้างๆกันแกก็ใช้เส้นทางเดิมในการไปนา ที่จะผ่านต้นโพต้นนี้
ซึ่งวันนั้นเป็นวันพระ แกก็ได้เข้ามาเอากับข้าวและซื้อของที่จำเป็นต้องใช้
ขณะที่แกเดินผ่านต้นโพต้นนั้น เป็นเวลาประมาณซักสองทุ่มถึงสามทุ่ม ซึ่งต่างตังหวัดนั้นส่วนมากจะนอนกันแล้ว
ขณะที่แกเกินผ่านต้นโพ หน้าของแกก็ได้ไปสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างคล้ายรากไทร แกก็เลยเอะใจก็เลยเอามือจับดูว่ามันเป็นอะไร
แกคิดในใจว่าไม่มีต้นไทรจะมีรากไทรย้อยลงมาได้อย่างไร
ด้วยความสงสัย แกก็เลยเปิดไฟส่องขึ้นไปดู สิ่งที่แกเห็นไม่ใช่รากไทรมันเป็นผมของผู้หญิงที่ยาวลงมา นั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งต้นโพ
เท่านั้นแหละแกก็วิ่งและตะโกนไปด้วย แกก็ได้ปิดไฟวิ่ง
จนมาถึงที่นาและมาเล่าให้พ่อของแดนฟังว่าเจออะไร
ซึ่งพ่อแดนก็บอกว่า อาทิตย์ที่แล้วก็โดนมาเหมือนกัน
หลังจากนั้นผ่านไปอีกหนึ่งปี ได้ไปเช่าที่นาที่ใหม่ ซึ่งไม่ได้ใช้เส้นทางนี้แล้ว แต่ไปเช่าอีกฝั่งนึงของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นถนนที่ใช้ประจำในการทำใาหากินในการส่งนกส่องกบส่องปลาและใส่เบ็ดซึ่งเป็นทางที่คุ้นชิน
ตอนนั้นเป็นฤดูเก็บเกี่ยว ต้องนอนนา เพื่อเกี่ยวข้าวสมัยนั้นยังไม่มีรถเกี่ยว ต้องใช้เคียวเกี่ยวข้าวช่วยกัน
ลิมบอกไปว่าแดนมีพี่ชายสองคน
ซึ่งตัวแดนและพี่ชายคนโตของแดนและพ่อ
วันนั้นเป็นคืนเดือนหงาย ซึ่งมีพี่ที่นอนนาข้างๆ ได้เข้าไปเอาข้าวและน้ำเพื่อจะมานอนข้างคืนที่นาของตนเอง
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะเริ่มนอนนากันเพื่อที่จะเกี่ยวข้าว ซึ่งเป็นบรรยากาศที่สนุกสนาน
ระหว่างที่พี่นาข้างๆเดินออกมาจากหมู่บ้านเพื่อจะไปที่นาของตนเองและนอนค้างคืน
ระหว่างทางต้องผ่านโพนหรือโนดดินที่มีต้นไม้ขึ้นสองสามแห่งระหว่างทางเล็กๆ
พอแกเดินพ้นทางนั้นออกมา ก็เจอที่นาของอีกเจ้านึงซึ่งเป็นคนรู้จักกันแต่แกไม่ได้นอนนา
แกเดินไปได้ซักพัก แกมองไปข้างหน้าซ้ายมือบนคันแทนา ได้เห็นลูกควายตัวหนึ่งเดินบนคันนาที่อยู่ซ้ายมือ
ด้วยความที่หมู่บ้านนั้นเลี้ยงความกันเยอะ ก็เลยคิดว่าลูกควายของใครหลถดออกมา
แกก็เลยคิดว่าจะจับไว้เพื่อพรุ่งนี้เช้าาจะมีคนมาตามหาลูกควาย
แต่พอแกสาวเท้าเดินตาม ก็ไม่ทันสักที พร้อมกับทำเสียงร้องแงๆให้มันหันกลับมา แต่ก็ไม่เป็นผล มันยังเดินนำหน้าไปเรื่อยๆ
ซึ่งแกเองก็เดินตามาได้ซักพัก จากลูกควายที่แกเห็นเป็นตัวเล็กๆมันก็ได้ตัวใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น
จึงทำให้แกหยุดเดินตาม และควายตัวนั้นก็หยุดเดินเหมือนกัน ควายตัวนั้นได้หันมาเดินทางข้ามทางข้างหน้าของแก ตัดเข้าโพนและหายเข้าไปในโพนต่อหน้าต่อตาแก
เท่านั้นเอง แกก็ได้หลับตาวิ่งไปข้างหน้าพร้อใกับตะโกนว่า
"เอาหนังสติ๊กมายิ่งนก!!!"ตลอดทางที่แกวิ่ง
ขณะที่แดนและครอบครัวก็ได้ยินเสียงตะโกนก็ได้คุยกันว่ส ตะเอาหนังสติ๊กไปยิงนกทำไมทั้งๆที่ไฟก็ไม่ได้เอามาด้วย แล้วมองเห็นนกได้ยังไง
พอวิ่งมาถึงที่นาแดนก็ได้วิ่งเข้ามาพูดให้ฟังว่าเจออะไร
สุดท้ายก็ได้นอนด้วยกันทั้งสี่คน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!