บรรยากาศยามเช้าของเดือนพฤศจิกายน หน้าหนาวเข้ามาแล้วสินะ อากาศเริ่มเย็นหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเย็นมากอากาศเย็นกำลังดีฉันอยู่ในชุดนักศึกษากำลังเดินไปหน้าบ้านเพื่อไปมหาลัย
"อรุณสวัสดิ์ไลลา"เสียงผู้ชายข้างบ้านทัก ฉันรีบหันไปยิ้มหวานให้เขาทันที
"รอนานไหม...มิโน่"เขาคือเพื่อนบ้านของฉันเองแหละ แล้วก็เป็นแฟนฉันด้วย
"สำหรับไลลาแล้ว...นานแค่ไหน โน่ก็รอได้" มิโน่พูดพร้อมกับส่งยิ้มพิมใจมาให้
"ทำเป็นพูดดี" ฉันส่งยิ้มแบบขำๆ ไปให้
"เชิญครับ...คุณหนูไลลา" มิโน่พูดพร้อมกับเปิดประตูรถยนต์ให้
"เวอร์น่า..." ฉันได้แต่ขำกับความขี้เล่นของมิโน่
ทันทีที่ฉันเข้ามานั่งภายในรถเรียบร้อย มิโน่ก็รีบขึ้นมานั่งฝั่งคนขับแต่ก็ไม่ยอมออกรถสักที ฉันหันหน้าไปมองมิโน่ด้วยความสงสัยซึ่งมิโน่ก็มองหน้าฉันอยู่ก่อนแล้ว
"อะไร" ฉันเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความไม่เข้าใจ
"จริงๆ เลย..."มิโน่พูดพร้อมกับเอื้อมมือมาโอบตัวฉันเพื่อดึงเข็มขัดนิรภัยข้างประตูรถ
จังหวะที่มิโน่เอี้ยวตัวมานั้นเหมือนมิโน่จงใจหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมองสบตาฉัน ฉันได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าขยับตัว มิโน่ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาเพื่อให้ริมฝีปากของเราตรงกัน ฉันกลั้นหายใจไปชั่วขณะพร้อมกับหลับตาปี๋ ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะสัมผัสกัน ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อน
คลื่น.....คลื่น.....คลื่น.....
เสียงโทรศัพท์ของฉันเอง มิโน่จึงถอยกลับไปนั่งที่คนขับเหมือนเดิมพร้อมกับดึงสายเข็มขัดนิรภัยไปล็อกให้ฉันด้วย ฉันกดรับสายกรอกเสียงลงไปคุยกับคนที่อยู่ในสาย
"ว่าไง..เฌอรีน" เพื่อนฉันเองแหละคุณหนูเฌอรีน
"ทำอะไรอยู่จ๊ะ...ทำไมรับสายฉันช้าจัง"น้ำเสียงอารมณ์ดีมาจากคนปลายสาย
"ไม่ได้ทำไร...กำลังจะไปมหาลัย" ฉันตอบเฌอรีนพร้อมกับแอบหันไปมองคนข้างๆ ซึ่งกำลังนั่งอมยิ้มล้อเลียนฉันอยู่ ฉันเลยแกล้งทำหน้าง้อใส่มิโน่ อยากแกล้งฉันดีนักเดี๋ยวจะงอนซะให้เข็ด
"แล้วแกมายังไง...มากับมิโน่หรอ"เฌอรีนถามขึ้น
"ใช่จ้ะ" ฉันตอบ "งั้นรีบเลย...ฉันรออยู่แค่นี้แหระบาย" เฌอรีนพูดพร้อมกดวางสายไป ฉันรีบหันไปมองหน้าคนขี้แกล้งทันที
"จะยิ้มอะไรนักหนา มิโน่ ออกรถได้แล้ว" ฉันทำเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก
"รู้นะ...ว่าเขินอ่ะ" สิ่งที่มิโน่พูดออกมาทำให้หน้าเห่อแดงเหมือนลูกตำลึงสุก
"ตั้งใจขับรถไปเลย...คนบ้า" มิโน่ยิ้มอย่างล้อเลียน ทำให้ฉันไม่กล้าหันไปมองหน้าเขาอีก ก็เลยหันไปมองทางข้างหน้าแทน
ฉันได้รู้จักกับมิโน่เมื่อตอนย้ายมาอยู่ที่บ้านของพ่อกับภรรยาพ่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันก็ไปๆ มาๆ ช่วงปิดเทอมก็จะมาอยู่กับพ่อทำให้ได้รู้จักกับหนุ่มหล่อข้างบ้าน ที่ฉันเลือกอยู่กับแม่ที่บ้านต่างจังหวัดก็เพราะตอนนั้นแม่ยังไม่มีใคร แต่พอแม่แต่งงานใหม่พ่อก็ขอให้ฉันมาอยู่ด้วยซึ่งตอนนั้นฉันก็เรียนจบมัธยมปลายพอดีก็เลยตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพ่อเพื่อมาเรียนต่อมหาลัยที่พ่อหาไว้ให้ โชคดีของฉันที่แม่เลี้ยงฉันค่อนข้างใจดีเธอรักและเอ็นดูฉันเหมือนลูกแท้ๆ และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฉันตัดสิ้นใจมาอยู่กับพ่อถาวรก็เพราะน้องชายไงล่ะ ไดมอนด์ น้องต่างมารดาของฉัน ฉันกับน้องชายเราสนิทกันมากเมื่อตอนเด็กๆ น้องติดฉันงอมแงมเลยล่ะ
____มหาลัย____
"ทางนี้ๆ "เสียงจากผู้หญิงผมสีบลอด์นทองยาวประบ่า ตากลมโตเหมือนตุ๊กตา เฌอรีนนั้นเอง
"ทำไมมาช้าจัง..."เฌอรีนทำเสียงดุอย่างไม่จริงจังนัก ฉันได้แต่ยิ้มเฌอรีน ฉันแอบหันไปมองคนข้างๆ มิโน่ส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ ฉันได้แต่อมยิ้มด้วยความเขินอาย
"จะรีบไรนักหนาห๊ะ...ยัยคุณหนูเฌอ" มิโน่หันไปพูดกับเฌอรีน เปลี่ยนเป็นอารมณ์หงุดหงิดใส่เฌอรีนทันที
"พอใจ...มีปัญหาไรมะ"เฌอรีนก็ไม่ยอมง่ายๆ เถียงมิโน่กลับอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน มิโน่เตรียมจะเถียงกลับฉันเลยต้องห้ามทับไว้ก่อน
"พอได้แล้ว...ทั้งคู่เลย"มิโน่ถอนหายใจแรงหนึ่งที ส่วนเฌอรีนก็ทำท่าหงุดหงิดเหมือนเด็กถูกขัดใจ
"ป่ะ...เข้าเรียนกัน"ฉันบอกทั้งสองคนพร้อมกับเกี่ยวแขนมิโน่และเฌอรีนให้เข้าห้องเรียนพร้อมกัน
เฌอรีนไม่รู้หรอกว่าฉันกับมิโน่คบกัน แม้แต่ที่บ้านก็ไม่มีใครรู้ยกเว้น ไดมอนด์ น้องชายฉันเอง ที่ไม่บอกใครก็เพราะฉันกลัวจะคิดพ่อมากและอาจจะไม่ไว้ใจให้มาเรียนพร้อมกับมิโน่ พ่อค่อนข้างหวงฉันอยู่ก็เพราะพ่อมีลูกสาวคนเดียว ที่ไม่บอกเฌอรีนก็เพราะกลัวว่าเฌอรีนจะล้อฉัน เราสามคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เข้ามหาลัยปี1จนตอนนี้เราอยู่ปี4 ก็เลยสนิทกันมาก อีกอย่างมิโน่ก็พึ่งจะมาขอคบกับฉันก่อนเปิดเทอมไม่กี่เดือนเอง ถึงฉันกับมิโน่จะรู้จักกันมาก่อนก็เถอะ แต่เราก็วางตัวในสถานะเพื่อนมาโดยตลอด
แต่แล้วความเป็นเพื่อนของเราก็ต้องจบลงและความรักของฉันด้วย
"ไลลา"เสียงของเฌอรีนกระซิบเรียกฉัน สายตาของเธอหันไปมองมิโน่ว่าได้ยินเธอรึเปล่า
"อะไรหรอ...เฌอรีน" ฉันกระซิบถามกลับไป
"วันนี้วันเกิดมิโน่ใช่ป่ะ"เฌอรีนถาม
"อืม..ใช่ ทำไมหรอ" ฉันถามเฌอรีน
"ไปหาของขวัญให้มิโน่กัน"เฌอรีนชวน
"ฉันเตรียมไว้แล้ว"ฉันบอกเฌอรีน
"เร็วจังเหะ..."เฌอรีนพูด ฉันได้แต่นั่งอมยิ้มกับตัวเอง
"งั้น...ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"เฌอรีนพูดพร้อมกับทำท่าทางออดอ้อนอย่างน่ารัก
"แล้วจะไปยังไง...ถ้ามิโน่รู้เดี๋ยวก็ไปด้วยอีกล่ะ"เพราะไม่ว่าฉันจะไปไหนมิโน่มักจะติดตามไปทุกที่
"ก็อย่าบอกสิ...เดียวฉันจัดการเอง" เมื่อเฌอรีนเห็นฉันทำหน้าสงสัยอย่างไม่เข้าใจ
"นี่...มิโน่นายจะจัดปาร์ตี้วันเกิดที่ไหนหรอ" เฌอรีนถามมิโน่
"รุ่นพี่ฉันจะพาไปเลี้ยงที่ ST ผับนะ"มิโน่ตอบ
"ดีเลย...ตอนนี้ฉันกับไลลายังไม่มีชุดสวยๆ ใส่เลยอ่ะ งั้นฉันกับไลลาไปช้อปปิ้งก่อนนะ" พูดจบเฌอรีนก็ลากฉันออกจากห้องเรียนทันที
เสียงมิโน่ร้องเรียกบอกให้รอก่อน แต่เฌอรีนก็ไม่รีรอรีบพาฉันเดินออกมาจนถึงหน้ามหาลัย
"แล้วเราจะไปกันยังไงล่ะ"อย่างน้อยถ้ามิโน่ไปด้วยก็จะได้มีคนพาไปเพราะเขามีรถ
"เดี่ยวฉันโทรบอกพี่ชายฉันมารับดีกว่า"เฌอรีนบอก
"นี่แกมีพี่ชายด้วยหรอ...ฉันไม่เห็นจะรู้เลย"ฉันถามด้วยความสงสัย เพราะเฌอรีนเป็นลูกคนเดียวของบ้าน
"ลูกพี่ลูกน้องนะ...พี่ชายฉันหล่อมากเลยนะจะบอกให้ ระวังแกจะหลงเสน่ห์พี่ฉันเขาล่ะ" เฌอรีนบอก ฉันยืนยิ้มขำๆ กับคำพูดอวดสรรพคุณความหล่อของพี่ชายซะเวอร์เชียว
"ตอนนี้เฌอรีนอยู่หน้า มอ.ค่ะ มารับไปช้อปหน่อยสิ" เฌอรีนพูดพร้อมกับทำเสียงออดอ้อนให้กับคนในสาย
"น่ารักที่สุด...เดี๋ยวจะติดต่อสาวๆ สวยๆ ให้เป็นการตอบแทนนะคะ" ฉันยืนดูเฌอรีนคุยโทรศัพท์ก็อดกำกับท่าทางของเพื่อนไม่ได้ ถ้าผู้ชายคนไหนเจอยัยเฌอรีนอ้อนแล้วละก็หลงทุกราย
"เรียบร้อย" เฌอรีนหันมาบอกฉัน
"แล้วพี่แกเขาไม่ทำงานทำการหรอ..."ฉันถามเฌอรีน จะมีสักกี่งานที่ทำให้คนเรามีเวลาว่างมากพอที่จะออกไปไหนมาไหนได้อย่างใจคิด
"จะทำไม่ทำพี่ฉันก็ไม่อดตายหรอก...เพราะว่าเขาเป็นเจ้าของค่ายเพลงชื่อดังเชียวนะ อิสระจะตาย"เฌอรีนพูดอย่างชื้นชม
"หรอยะ"ฉันอดแหวะเพื่อนไม่ได้ ไม่รู้จะอวยอะไรกันนักหนา เฌอรีนยักไหล่แบบกวนๆ ใส่ฉันหนึ่งที ฉันก็ได้แต่ส่ายหน้าขำกับท่าทางของเพื่อน
ยืนรอสักพักก็มีรถหรูสีน้ำเงินคันหนึ่งมาจอดตรงหน้าฉันกับเฌอรีน เฌอรีนรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ฉันก็เปิดประตูไปนั่งที่เบาะด้านหลังเฌอรีน
"พี่เรย์ นี่เพื่อนเฌอรีนเอง ชื่อไลลา ไลลานี่พี่เรย์พี่ชายสุดหล่อที่ฉันเล่าให้ฟังอ่ะ" ฉันยกมือไหว้พี่เรย์ พี่เรย์พยักหน้าให้ผ่านกระจกมองหลัง สายตาของฉันสบเข้ากับสายตาของพี่เรย์พอดี ตาคมจ้องฉันอย่างกะจะกินฉันเข้าไปทั้งตัวงั้นแหละ ฉันแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อพี่เรย์พูดประโยคถัดมา
"คนนี้หรอที่จะติดต่อให้พี่"พี่เรย์พูดพร้อมกับจ้องฉันไม่วางตา
"แล้วพี่เรย์...ชอบรึเปล่าล่ะ" ยิ่งได้ยินเฌอรีนพูด ฉันยิ่งอึ้งเข้าไปอีก
"ยัยเฌอรีน..."ฉันท่วงเพื่อนด้วยเสียงดุ
"น่ารักดี...พี่ชอบ" พี่เรย์พูดพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ผ่านกระจกมองหลัง
"งั้นก็จีบเลยสิค่ะ"เสียงเฌอรีนยุยงส่งเสริมไม่หยุด
"ถ้าแกยังไม่เลิกเล่น...ฉันจะไม่ไปกับแกแล้วนะ" ฉันบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"โธ่...ฉันล้อเล่นน่าไลลา ไม่เห็นจะต้องทำเสียงดุขนาดนั้นเลย"เฌอรีนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"สงสัยเพื่อนเฌอรีน...หัวใจไม่ว่างแน่ๆ เลย ไม่งั้นคงไม่ทำท่าทางเหมือนไม่พอใจแบบนั้นหรอก" คำพูดของพี่เรย์ทำให้เฌอรีนหันขวับมามองหน้าฉันทันที
"นี่แกมีแฟนแล้วหรอไลลา"เฌอรีนถามขึ้น เธอใช้ตากลมโตจ้องมองฉันอย่างคาดคั้น ทำให้ฉันพึงนึกขึ้นได้ว่าเฌอรีนยังไม่รู้เรื่องฉันกับมิโน่
"แล้วแกเห็นฉันคุยกับใครไหมล่ะ" ฉันเลี่ยงไม่ตอบแต่ถามกลับไปแทน เพื่อไม่ให้เฌอรีนจับพิรุธได้
"ก็ไม่นิ"เฌอรีนพูดพร้อมกับทำท่าคุนคิด
"จะไปกันได้รึยังค่ะ..."ฉันหันไปถามพี่เรย์ที่ตอนนี้เขาเอาแต่จ้องจับผิดฉันอยู่ นิ่งไว้ไลลาอย่าร้อนตัวเกินเหตุฉันบอกเตือนตัวเองในใจ
ห้างสรรพสินค้า
เฌอรีนลากฉันเข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนฉันเริ่มรู้สึกเวียนหัวนิดๆ แต่ล่ะร้านก็มีเสื้อผ้าสวยๆ ทั้งนั้น แต่ก็ยังไม่ถูกใจคุณหนูเฌอรีนสักร้าน จนมาถึงร้านหนึ่งตั้งอยู่สุดทางเดินชั้นสองของห้าง สไตล์เสื้อผ้าร้านนี้ค่อนข้างเซ็กซี่มาก ฉันขึงตัวยืนนิ่งอยู่หน้าร้านเพราะเฌอรีนทำท่าจะลากฉันเข้าร้านนี้นะสิ
"อะไรของแก..ไลลา"เฌอรีนหันมาถามเมื่อฉันไม่ยอมเดินตามแรงดึงของเธอ ฉันส่ายหน้าจนผมที่ยาวถึงกลางหลังสะบัดไปมา
"เถอะน่า...แป๊บเดียว" แต่เฌอรีนก็ไม่ยอม
ในที่สุดฉันก็ถูกเพื่อนสาวลากเข้ามาในร้านเป็นที่เรียบร้อย จนได้.. ที่ฉันไม่อยากเข้าร้านนี้ก็เพราะฉันต้องมาเป็นหุ่นให้ยัยเพื่อนตัวดีลองชุดนั้นชุดนี้ให้หล่อนดูนะสิ เฌอรีนบอกว่าฉันหุ่นดีใส่ชุดไหนก็ดูดีไปหมด ไม่ว่าจะลองชุดไหนฉันก็ต้องเดินออกมาให้เฌอรีนดู แค่เพื่อนคนเดียวฉันก็ไม่ได้อายอะไรหรอก นี่มีพี่เรย์อยู่ด้วยแล้วเพื่อนตัวดีของฉันก็ชอบหันไปถามความเห็นของพี่เรย์ด้วยนี่สิ เขายิ่งชอบจ้องมองอย่างกะจะกินฉันงั้นแหละ หน้าหล่อแบบนี้ไม่น่าจะอดอยากปากแห้งนะคงมีให้กินถึงที่เลยล่ะมั้งนั้น แต่ก็ไม่เลิกจ้องฉันสักที....
เฌอรีนหยิบชุดเสื้อสายเดี่ยวสีขาวกับกระโปรงสีเดียวกันกับเสื้อยาวถึงเข่าแต่ก็ผ่าลึกขึ้นมาถึงขาอ่อนด้านบน ฉันรีบส่ายหน้าทันทีที่เฌอรีนเอาชุดนั้นมาทาบบนตัวฉัน
"ฉันไม่ลองชุดนี้เด็ดขาด"ฉันบอกเพื่อน
"ก็ได้..งั้นใส่คืนนี้เลยแล้วกัน"เฌอรีนพูดเสร็จก็หยิบอีกชุดแบบเดียวกันแต่เป็นสีครีมไปคิดเงินทั้งสองชุด
"แกหมายความว่าไงเฌอรีน"ฉันเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
"ก็หมายความว่า...แกต้องใส่ชุดนี้เป็นเพื่อนฉัน" ฉันทำหน้าเหวอทันที
"แล้วทำไมฉันต้องใส่ด้วย" ฉันถามกลับอย่างไม่ยอมแพ้
"เพราะถ้าแกไม่ใส่...ฉันก็จะแก้ผ้าไปร่วมงานเลยไงล่ะ"เฌอรีนบอกพร้อมกับหัวเราะชอบใจที่เห็นฉันทำหน้าเหวอ
"แกไม่กล้าหรอก..."ฉันเชื่อว่ายัยเฌอรีนไม่กล้าทำหรอก
"ใช่...คนเดียวไม่กล้าหรอก แต่ฉันจะจับแกแก้ผ้าไปด้วยกัน..ฮ่าๆ ๆ ๆ "เสียงเพื่อนตัวแสบหัวเหาะชอบใจ
"ยัยบ้าเฌอรีน..." ฉันด่าอย่างไม่จริงจังนัก หลังจากซื้อของเสร็จพี่เรย์ก็ไปส่งเราสองคนที่บ้านของเฌอรีน
"ขอบคุณนะคะ..พี่เรย์"เฌอรีนบอกลูกพี่ลูกน้องของเธอ
"ไม่เป็นไรครับ...พี่ไปล่ะนะ"พี่เรย์บอกพร้อมกับออกรถไปทันที
"ป่ะ...แต่งตัวกัน"เฌอรีนบอก
ST ผับ
เรย์
หลังจากที่แยกกับสองสาวแล้วผมก็มานั่งดื่มเหล้าที่ผับของโลโค่มัน เป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องชายที่ถือว่าสนิทกับผมมาก รองจากเฮียเจ เฮียซัมดี เลยล่ะ จากผับเล็กๆ ของโลโค่ตอนนี้กลายเป็นผับใหญ่โตหรูหราแตกต่างไปจากเดิมมาก มีลูกเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสายแต่ล่ะคนดูแล้วกระเป๋าหนักๆ กันทั้งนั้นพูดง่ายๆ ก็พวกลูกผู้ดีมีตังค์นั่นแหละ ผมนั่งอยู่โซนวีไอพีชั้นสองซึ่งสามารถมองเห็นชั้นล่างได้อย่างทั่วถึง
“ว๊าว.....อะไรทำให้เฮียเรย์ของผมยอมออกมาจากถ้ำได้เนี้ย” เสียงพูดกวนประสาทแบบนี้โลโค่แน่นอน ที่มันพูดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกเพราะผมไม่ค่อยออกมาดื่มสักเท่าไร วันๆ ก็นั่งทำแต่เพลงให้เด็กในค่ายเพลงก็ผมเป็นโปรดิวเซอร์นิ
“ก็แค่อยากผ่อนคลายบ้างไรบ้าง” ผมตอบโลโค่ไป พร้อมยกแก้วเหล้าที่มีเหล้าอยู่ครึ่งแก้วยกขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว
“เฮียเรย์มาเที่ยวทั้งที เดียวโลโค่จัดสาวสวยเด็ดๆ ให้จะได้ช่วยผ่อนคลายยิ่งขึ้น” โลโค่พูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมยักไหล่ให้โลโค่หนึ่งที
“มาดิ” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์กลับไปให้โลโค่เหมือนกัน
โลโค่เดินออกไปไม่ถึงสองนาทีก็กลับมาพร้อมกับผู้หญิงสี่คน มันไม่ได้เอามาคนเดียวหรอก มันเอามาแค่สองคน อีกสองคนมากับเฮียซัมดีและเฮียเจ ผมนับถือสองคนนี้เหมือนพี่ชายแท้ๆ แล้วเฮียสองคนนี้ก็ยังเป็นหุ้นส่วนค่ายเพลงของผมด้วย
“ไง...ออกมาจากถ้ำได้ล่ะ” เฮียซัมดีถาม
ผมไม่ตอบแต่ยกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกับเฮียซัมดีแทน พร้อมกับส่งยิ้มกวนๆ ไปให้ เฮียซัมดีก็ยิ้มกวนกลับมาเหมือนกัน
“นี่...สาวสวย เธอรู้ไหม วันนี้เป็นบุญของเธอแล้วล่ะ...ที่จะได้เจอของดี” เฮียเจพูดกับสาวสวยที่นั่งข้างผม ผมเลยส่งสายตาอ่านกินไปให้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เธอก็ส่งสายตาร้อนแรงกลับมา
“เอาให้ถึงใจเลยนะ...คนสวย” โลโค่บอกเธอ มือไม้เธอก็อยู่ไม่สุข ลูบไล้หน้าอกผมเล่นอย่างสนุกมือ ปากสวยๆ ก็คอยจูบซอกคอผมเบาๆ ขยันปลุกอารมณ์จริงๆ
พลันสายตาของผมก็ไปเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่ชั้นล่างกับเพื่อนๆ หลายคน ผมจำได้ดีเพราะเธอคือ ไลลา เพื่อนสาวคนสวยของเฌอรีนญาติลูกพี่ลูกน้องผม ผมได้เจอไลลาครั้งแรกเมื่อตอนกลางวันที่หน้ามหาลัย ใบหน้าสวยรูปไข่ ริมฝีปากกระจับสีชมพูน่าสัมผัส ผิวขาวออร่าพุง แล้วหน้าอกหน้าใจที่เกินตัวนั้นอีก หุ่นไลลาค่อนข้างเอ็กซ์เอวคอดกิ่วน่าลูบไล้ที่สุด ไลลาใส่ชุดสายเดียวสีขาวที่เฌอรีนซื้อให้เมื่อตอนกลางวัน ไลลานั่งตรงกลางระหว่างเฌอรีนกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผมเห็นมันนั่งมองแต่ไลลาด้วยสายตาหวานเยิ้ม ก็แงแหละเธอออกจะน่ามองขนาดนั้น ผมยังอดมองไม่ได้เลย
ไลลา
“ไลลา...แกสวยมาก เหมือนเจ้าสาวยั่วสวาทเลยอะ” เสียงเฌอรีนออกปากชมฉัน
“แกก็ใช่ย่อย...เฌอรีน” ฉันชมเพื่อนกลับ ฉันกับเฌอรีนเหมือนแฝดคนล่ะฝาเลย ก็เพราะชุดที่เราใส่นั้นเหมือนกันต่างก็แค่สี ฉันใส่สีขาวส่วนเฌอรีนใส่สีครีม ฉันมองตัวเองในกระจกอย่างกังวลก็ไอ้เสื้อสายเดียวที่ฉันใส่อยู่เหมือนจะหลุดแล่ไม่หลุดแล่มันรู้สึกวิวๆ มากอะ กระโปรงก็ผ่าขึ้นสูงจนถึงขาอ่อนด้านบน ถ้านั่งไม่ระวังนะ...มีโผล่แน่
ฉันกับเฌอรีนเดินออกมาพร้อมกับเค้กวานิลลาก้อนใหญ่ที่บนหน้าเค้กเขียนว่า “Happy Birth Day Mino” ฉันเดินมาหยุดตรงหน้ามิโน่พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ มิโน่ก็ยิ้มหวานกลับมาให้ฉันด้วยสายตาที่อบอุ่น
“สุขสันต์วันเกิดนะ...มิโน่... (สุดที่รักของไลลา) ” ฉันได้แต่พูดในสิ่งที่คิดอยู่ในใจ ฉันไม่มีความกล้าพอที่จะพูดมันออกมา
“ขอบคุณนะ...ไลลา” มิโน่ตอบพร้อมส่งสายตาแสนอบอุ่นมาให้ฉัน
“ขอบคุณไลลาคนเดียวได้ไงยะ...ฉันก็ช่วยไลลาซื้อเค้กเหมือนกันนะ” เฌอรีนพูดแบบงอนๆ อย่างไม่จริงจังนัก
“รู้น่า...ขอบคุณเธอด้วยเฌอรีน” มิโน่ตอบด้วยน้ำเสียงขำๆ
“ย่ะ” เฌอรีนแหวะให้มิโน่
“เอาล่ะ มาดื่มให้กับหนุ่มหล่อมิโน่กันดีกว่าพวกเรา” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น ทั้งโต๊ะก็เลยยื่นแก้วมาชนกัน
“หมดแก้ว” เสียงเฌอรีนบอกทุกคน
หลังจากนั้นทุกคนก็เอาของขวัญให้มิโน่ เฌอรีนซื้อนาฬิกาให้มิโน่ ระหว่างที่มิโน่กำลังแกะของขวัญ ฉันก็ยังไม่กล้าให้ของขวัญมิโน่ต่อหน้าเพื่อนๆ เพราะถ้าให้ตอนนี้มิโน่ต้องแกะโชว์ทุกคน ของขวัญที่ฉันจะให้มิโน่มันคือสร้อยข้อมือสีเงินเมทัลลิกมันมีสองเส้น เส้นนึ่งเป็นของผู้ชายอีกเส้นเป็นของผู้หญิง ซึ่งฉันสลักชื่อ “LiLa” ไว้ที่เส้นของผู้ชาย ส่วนเส้นเส็กฉันสลักว่า “MiNo” เส้นเล็กนั้นฉันจะใส่เองแต่จะให้มิโน่เป็นคนใส่ให้
“เดี๋ยวขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ...มึนหัวมากอ่ะตอนนี้” มิโน่หันหน้ามาบอกฉัน ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ฉันหันมาหาเฌอรีน แต่ก็ไม่เห็นเพื่อนสาวนั่งอยู่ตรงนี้แล้ว สงสัยไปห้องน้ำแน่เลย จังหวะที่มองหาเพื่อนนั้นสายตาของฉันก็สบเข้ากับสายตาของใครบางคน พี่เรย์ ที่เหมือนจะจ้องฉันอยู่ก่อนแล้วด้วยซ้ำ พอพี่เรย์เห็นว่าฉันมองเขาอยู่เขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้นชูให้ฉันหนึ่งที ซึ่งฉันก็ทำเมินใส่เพราะไม่อยากจะสนใจเท่าไร
ไม่เห็นเฌอรีนกลับมาสักทีก็รู้สึกเป็นห่วงเพราะเธอดื่มหนักมาก มิโน่ก็ด้วย ไปเข้าห้องน้ำนานจัง ฉันจึงลุกออกจากที่นั่งพร้อมกับถุงกระดาษใส่ของขวัญไปห้องน้ำซึ่งคาดว่าเพื่อนน่าจะอยู่ที่นั่น
ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำหาทุกห้องก็ไม่เจอเฌอรีน ระหว่างที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำฉันก็เดินสวนทางกับผู้หญิงสองคนกำลังซุบซิบนินทาใครอยู่
“สงสัยอยากเป็นบรรยากาศ โรงแรมมีไม่ยอมไปถึงได้เล่นเสียวกันที่บันไดหนีไฟแบบนั้นนะ” ฉันกำลังจะเดินหนีไปแล้ว ก็ต้องสะดุดกับประโยคถัดมาของสองสาว
“ยัยชุดครีมนั้นเร่าร้อนน่าดู ฮ่า ฮ่า...เสียดายที่เห็นหน้าผู้ชายไม่ถนัด” ฉันรีบหันขวับไปมองสองคนนั้นทันที
“ฉันได้ยินหล่อนครางเรียกชื่อผู้ชายด้วยอ่ะ...มิๆ ..โน่ๆ ..อะไรสักอย่างแหละ” ฉันถึงกับชาวาบไปทั้งตัวในใจก็ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ฉันรีบเดินไปที่บันไดหนีไฟทันที ภายในใจก็ว้าวุ่นไปหมดใจนึ่งก็ปลอบตัวเองว่ามันไม่มีอะไรแต่อีกใจก็อยากจะเห็นกับตาเพื่อความแน่ใจ
พอฉันเดินมาถึงหน้าประตูหนีไฟฉันก็ได้ยิงเสียงที่คุ้นเลยของเพื่อนตัวเอง เฌอรีน เสียงของเธอบ่งบอกว่าเธอกำลังสุขสมกับกิจกรรมสุดหรรษา เสียงชายหญิงควรครางแข่งกันอย่างเมามันส์ ฉันเอื้อมมือที่สั่นเทาพยายามบังคับให้มันหยุดสั่นน้ำตาก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาบดบังสายตา ฉันพยายามกั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมาตอนนี้เพราะมันจะทำให้เห็นอะไรได้ไม่ชัด มือฉันจับที่ลูกบิดประตูพร้อมออกแรงบิดแล้วผลักมันเข้าไป
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ฉันพูดไม่ออกได้แต่ยืนตัวสั่นรู้สึกชาไปทั้งตัวแขนขาไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนวิญญาณได้ออกจากร่างไปแล้ว ผู้ชายที่ฉันรักกับเพื่อนสนิทพวกเขากำลังมีความสุขกันสินะ ฉันมองเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเฌอรีน เสื้อสายเดียวสีครีมของเธอหล่นมากองอยู่ที่เอวคอดตัวของเธอก็นั่งอยู่บนตักคร่อมผู้ชายคนนั้นไว้อยู่ เธอซบหน้าลงกับอกแกร่งของเขา “มิโน่” ฉันอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครืออย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นหน้าผู้ชายชัดๆ มิโน่กำลังเงยหน้าขึ้นมามอง ฉันรีบก้าวถอยหลังปิดประตูอย่างรวดเร็ว น้ำตาที่กั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ไหลออกมาไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ ฉันวิ่งออกมาจนถึงลานจอดรถและกำลังจะวิ่งต่อไปที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกรถแท็กซี่ ระหว่างนั้นฉันก็วิ่งไปชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ” ฉันก้มหน้าเอ่ยขอโทษโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง
“พี่เรย์” พี่เรย์นั้นเอง เขามากับผู้หญิงสวยเซี๊ยะคนหนึ่งซึ่งหล่อนควงแขนพี่เรย์เอาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“ขอตัวก่อนค่ะ” ฉันรีบเดินหนีพี่เรย์ ไม่อยากให้ใครเห็นว่าฉันร้องไห้
“เดียวสิไลลา...” พี่เรย์วิ่งมาดักหน้าฉันไว้
“จะกลับแล้วใช่ไหม” ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ
“เดียวพี่ไปส่ง” ฉันกำลังจะปฏิเสธ ก็มีเสียงผู้หญิงที่มากับพี่เรย์ท้วงขึ้น
“แล้วฉันล่ะ” เธอพูดกับพี่เรย์แล้วหันมาทำตาเขียวใส่ฉัน
“กลับเองสิ” เขาตอบเธออย่างไร้เยื่อใย
“เออ...ไลลา กลับเองได้ค่ะ” ฉันขึงตัวไว้ก่อนจะขึ้นรถพี่เรย์ ฉันแอบหันไปมองผู้หญิงที่มากับพี่เรย์หล่อนยืนเหวี่ยงวีน เตะตีอากาศเล่น พี่เรย์ใจร้ายชะมัด
“เออ...ไลลากลับเองได้ค่ะ” ฉันขึงตัวไว้อีกครั้งก่อนจะขึ้นรถพี่เรย์
“พี่ไม่ชอบพูดซ้ำนะ...” พร้อมกับส่งสายตาดุๆ มาให้ฉัน
ฉันก็เลยต้องจำยอมขึ้นรถให้พี่เรย์ไปส่งที่บ้าน เราเงียบกันมาตลอดทางจนถึงหน้าบ้านฉัน
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เรย์
“จะไม่เล่าอะไรให้พี่ฟังหน่อยหรอ” พี่เรย์ถามขึ้น ฉันหันไปสบตากับพี่เรย์ เขาส่งสายตาอย่างคาดคั้น
“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ” ตอนนี้ฉันอยากจะขึ้นไปห้องนอนของตัวเองให้เร็วที่สุด
“แล้วเฌอรีนไปไหน...ทำไมไม่กลับมาด้วยกัน” พอพี่เรย์เอ่ยชื่อเพื่อนสาวของฉันขึ้นก็ทำให้ต่อมน้ำตาเริ่มทำงานอีกครั้ง
“ไม่รู้ค่ะ...ขอตัวนะคะ” ฉันไม่รอให้พี่เรย์ตอบกลับ รีบลงจากรถพี่เรย์ทันที ไม่ไหวแล้วกลั้นไว้อีกต่อไปไม่ได้แล้วทันทีที่ก้าวขาเข้ามาให้ห้องฉันทิ้งตัวลงกับเตียงนอนปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนรู้สึกแสบตาไปหมด ฉันนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป
เรย์
หลังจากที่ส่งไลลาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถกลับคอนโดทันที พอมาถึงลานจอดรถของคอนโดสายตาผมก็มองไปเจอกับถุงกระดาษ ผมรีบหยิบขึ้นมาดูภายในถุงกระดาษมีกล่องสีดำสองกล่อง ในกล่องมีสร้อยข้อมือสีเงินเมทัลลิก ผมหยิบสร้อยข้อมือเส้นใหญ่ขึ้นมาดูเส้นนี้สลักชื่อไว้ว่า LiLa ส่วนเส้นเล็กสลักไว้ว่า MiNo ผมก็เลยถือวิสาสระใส่สร้อยข้อมือที่เขียนว่า LiLa
“พอดีเลยเหะ..” ผมนั่งยิ้มให้กับตัวเอง ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ชำเลืองไปมองอีกเส้น
“มิโน่..หรอ” นี่จะใช่สาเหตุที่ทำให้ไลลาร้องไห้รึเปล่านะ ผมเห็นอยู่หรอกว่าไลลาร้องไห้ พอไลลาเห็นหน้าผมเธอก็แกล้งทำเหมือนไม่มีอะไร แล้วเธอก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมอดผ่อนคลายด้วย เพราะว่าพอผมเจอไลลาผมก็สะบัดสาวสวยทิ้งทันทีทั้งที่กำลังจะพาเธอไปต่ออยู่แล้วเชียว
“หึ...” แค่นึกถึงใบหน้าของไลลาก็ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“ไลลา” ผู้ชายที่ฉันวิ่งชนเรียกชื่อฉัน ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!