NovelToon NovelToon

Bring Love Magic มิติรักในฝัน {1'}

  กระดาษวาดภาพกับคำทำนายแห่งโชคชะตา

...Deep sleep .... to find true love and the heart of life that will be lost....

...มนต์ตราทลายมิติ......

...การหลับใหลสู่ห้วงความฝันอันนิรันดร์นำพาหัวใจสู่อีกครึ่งหัวใจ...

...ก่อเกิดรักแท้ที่พบพาและสลายไปตามกาลเอย...

...บทนำ...

ค่ำคืนอันมืดมิด...กับสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมามีเพียงแสงไฟจากเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทางให้แสงสว่าง ไม่มีแม้แต่ผู้คนสัญจรไปมา แต่กลับปรากฎร่างบางในชุดนักเรียนมอปลายของโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เด็กสาวอายุราวๆ 18 -19 ปีวิ่งจ้ำเท้าไปยังกลางถนนเพื่อเข้าไปช่วยหญิงชรานางหนึ่งที่กำลังเข็นรถขายของเก่าข้ามถนนสายหลักด้วยท่าทีทุลักทุเล......

''ยายคะ''

เด็กสาวตะโกนเรียกหญิงชราสุดเสียง ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองตามเสียงด้านหลังด้วยความงุนงง สายตาสีฝ่าฟางจำจ้องมองไปยังเด็กสาวร่างบางตรงหน้าที่เรียกตนด้วยใบหน้าราบเรียบ

''.......?''

'' เดียวหนูช่วยคะ...''

''อะ...ไม่เป็นไรยัยหนู ยายเข็นเองได้''

เสียงแหบแห้งของหญิงชราพูดขึ้นราวกับไม่อยากให้เด็กสาวตรงหน้ามาลำบากช่วยตนเข็นรถขายของเก่าๆของตนจึงมีท่าทีเกรงอกเกรงใจ มองไปยังเด็กสาวด้วยความลำบากใจ

''ไม่เป็นไรคะ หนูอยากช่วยจริงๆ''

''.....''

สีหน้าและแววตาสีสวยของเด็กสาว...ไม่มีแววลังเลเลยแม้แต่น้อย ทำให้ยายชรานิ่งไประยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้สติกลับคืนมาเมื่อเด็กสาวตรงหน้าร้องทักเตือน

''รีบหน่อยดีกว่าค่ะ ดูเหมือนฝนกำลังจะตก...''

เปรี้ยง!!!!

''.....''

เสียงฟ้าผ่าที่ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ กับสายลมที่มากับฝนทำให้เด็กสาวเปียกไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เด็กสาวร่างบางหยุดช่วยเข็นรถขายของให้หญิงชราแต่อย่างใด กลับเร่งมือมากขึ้นจนข้ามไปอีกฝั่งของถนนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย....

''ขอบใจมากนะยัยหนูที่ช่วยยาย...''

''ไม่เป็นไรค่ะ''

เปรี้ยง!!!!

เสียงฟ้าร้องสนั่นไปทั่ว หากมองขึ้นไปบนฟ้าจะเจอกับหยาดฝนที่ตกกระหน่ำลงมาบนพื้นดิน นัยน์ตาสีหวานของเด็กสาว ฉายแววกังวนออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะในขนาดนี้เป็นเวลายามวิกาลทั่วท้องฟ้ามืดมิด แถมฝนยังตกกระหน่ำลงมาอีกแต่เธอกลับยังไม่ถึงบ้าน......

''ยัยหนู ส่งยายแค่ตรงนี้ก็พอ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เดียวที่บ้านจะเป็นห่วงเอานะ''

''.....แต่ว่า''

เด็กสาวทำท่าทางลังเลขึ้นมาเล็กน้อย นึกถึงผลที่จะตามมาอีกมากมายหลายร้อยแปด ก่อนจะยอมพยักหน้ารับเบาๆด้วยความไม่แน่ชัด

''งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ...''

เด็กสาวพูดพร้อมหันหลังเตรียมเดินกลับด้วยรอยยิ้มบางๆ ดวงตาคู่สวยมีความกังวนหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็จำใจต้องเดินกลับบ้านไปโดยที่ไม่ได้ไปส่งหญิงชราให้ถึงจุดหมายจึงมีรู้สึกผิดอยู่ภายในอก

หมับ!

''....!?!''

เด็กสาวชะงักฝีเท้าหยุดอยู่กับที่ ดวงตาคู่สวยมองไปยังฝ่ามือซีดเซียวที่จับรั้นแขนข้างซ้ายของเธอไว้ด้วยแววตามึนงง ก่อนจะหันกลับไปมองหญิงชราตรงหน้าที่จับแขนเธอเอาไว้อย่างสงสัย

''คุณยายมีอะไรหรือเปล่าค่ะ?''

เด็กสาวหันกลับมาถามหญิงชราตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนนุ่มถึงแม้บนใบหน้าของเด็กสาวจะไม่ได้แสดงอารมณ์ได้ออกมาเลยก็ตาม แต่หญิงชราตรงหน้ากลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ส่งมาเพียงแค่สบสายตามองดวงตาคู่สวยคู่นั้น.......

ช่างบริสุทธิ์์อย่างเรียบง่ายไม่มีอารมณ์ใดมาเจือปน รู้สึกนึกคิดอย่างไรก็แสดงออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบัง

แต่ไม่ได้ไร้เดียงสา.....หญิงชรายิ้มออกมาบางๆ มองเด็กสาวตรงหน้าด้วยแววตาอบอุ่น.....และยืนบางสิ่งให้

''เอานี้...ยายให้''

''....?''

สาวน้อยก้มลงไปมองของในมือที่ถูกหญิงชราจับยัดของสิ่งหนึ่งไว้ให้...... เธอมองสิ่งนั้นพร้อมขยักคิ้วเหมือนจะไม่เข้าใจมากนักกับการให้ 'ม้วนกระดาษ' ในตอนนี้ช่วงที่สายฝนกำลังตกลงมากระทบผิวจนเปียกปอนแบบนี้ เด็กสาวทำหน้ามึนไปชั่ววูบหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติรีบเก็บม้วนกระดาษใส่กระเป๋าเป้พลาสติกสีส้มใสกันน้ำไว้เพื่อไม่ให้มันเปียก

''หึๆ....''

เสียงหัวเราะแหบแห้งดังมาจากหญิงชราเบาๆ เกิดจากการที่มองท่าทีกระวนกระวายของเด็กสาวเมื่อครู่ ช่างหน้าเอ็นดูอย่างยิ่งก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทีอ่อนโยน....

''ถือว่าเป็นของตอบแทนแล้วกันนะ..."

''อะ..เออ?''

เด็กสาวทำสีหน้ามึนตึงไปพักใหญ่ กว่าจะตั้งสติคิดปะติปะต่อเรื่องจนเข้าใจ หญิงชราตรงหน้าที่มีแววตาอ่อนโยนอยู่เสมอนั้นมองมาทางเด็กสาวด้วยใบหน้ายิ้มอ่อน

เด็กสาวสบสายตาเข้ากับหญิงชราด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจ....

ก่อนที่ความรู้สึกบางอย่างจะแล่นเข้ามาภายในร่างกายจนแทบร้อนผ่าว เด็กสาวเอามือกุมลงไปบนหน้าอกข้างซ้ายที่ร้อนระอุราวกับภายในเป็นก้อนเปลวเพลิงแทบจะเผ่าไหม้หัวใจให้เป็นผง ใบหน้าแสดงความเจ็บปวดออกมาพร้อมหยาดเหงื่อที่ไหลรินลงมาบนใบหน้า ปะปนหยดลงบนพื้นดินพร้อมหยดฝนที่ตกกระหน่ำ

ร่างกายที่ราวกับกำลังจะล้มลง....ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะแปลเปลี่ยนกลายเป็นสายหมอกหนาปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับถูกดึงเข้ามาในมิติที่ไม่รู้จัก

ร่างทั้งร่างลอยอยู่เหนือพื้น ล่องลอยอยู่กลางอากาศ ใบหน้าของเด็กสาวเหมอลอยราวกับผู้ไร้วิญญาณ....ถูกสะกดให้ไร้สึกความรู้สึก สัมผัสรับรู้ได้เพียง.....เสียงกระซิบอันแผ่วเบา

''ยัยหนู....จงจำไว้ว่า 'โชคชะตา' นั้นทำได้เพียงแค่นำพาเจ้า ไม่สามารถกำหนดหรือลิขิตชะตาของทุกสิ่งได้....''

เสียงที่เคยแหบแห้งแปลเปลี่ยนเป็นเสียงหวานละมุนแต่ทรงอำนาจจางๆแอบแฝง แต่ยังไม่ทันที่ประโยคคำพูดนั้นจะจบลง เสียงที่ดังก้องอยู่ในหูก็ถูกลบเลือนหายไป.....

เรื่องราวในภาพแห่งความฝัน

 

...Slumber I...

... ...

สองตาจับจ้องมองไปข้างหน้าสองหูฟังคำพูดอันแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินนั้นร่างกายไร้ซึ่งความสามารถในการควบคุม รอบกายไร้ซึ้งหนทางในการก้าวเดิน.....

มีเพียงเมฆหมองล้อมรอบกาย เธอก้มหน้าลงก้าวเท้าไปข้างหน้าช้าๆ ถึงแม้ว่าปลายทางข้างหน้าจะมีเพียงหมอกควันสีเทาไม่มีที่สิ้นสุดแต่สองขาก็ยังคงก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆดั่งคนที่กำลังหลงทาง

ทำไมกัน....

นัยน์ตาสีสวยจับจ้องมองไปข้างหน้า....

''อึก....ฮือ''

จ้องมองร่างบางของสาวสวยตรงหน้าที่นั่งลงบนพื้นร่ำไห้ด้วยน้ำเสียงอดกลั้นสองมือสวยปิดหน้าร่ำไห้

''คุณ...''

เธอยืดมือข้างหนึ่งไปข้างหน้าร้องเรียกสาวร่างระหงส์ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ชุดสีขาวสว่างสวายสวยงามของเธอตรงหน้าช่างดึงดูดสายตาให้ชวนมอง

สาวสวยตรงหน้าเมื่อได้ยินเสียงอันแผ่วเบานั้นได้หยุดร้องไห้ลง พร้อมเงยใบหน้าขึ้นมองมาทางเธอด้วยแววตาว่างเปล่า นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มราวฤดูใบไม้ผลิ ใบหน้าหวานใสละมุนเรียบเนียน ริมฝีปากสีส้มอ่อนนุ่ม....

''อะไรกัน....''

เด็กสาวเบิกตากว้างมองตรงไปอย่างคนข้างหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ใบหน้านั้นสะกดสายตาของเธอเอาไว้ไม่สามารถที่จะละจากใบหน้านั่นไปได้แม้เสียววินาที

นี้มัน.....ตัวของเธอเองอย่างงั้นหรอ?

ราวกับกำลังส่องกระจกดูเงา มองคนตรงหน้าที่มีใบหน้าเหมือนกับเธอทุกประกาศ.....ยิ้มละมุนปนความโศกเศร้าสะท้อนในแววตามาให้เธอ

ก่อนที่ร่างตรงหน้าจะจางหายไปในช่วงพริบตา

''ดะ...เดียวก่อนสิ!''

เธอวิ่งเข้าไปหาหญิงสาวที่มีใบหน้าคลายคลึงกันจายหายไปในสายหมอก ไขว้คว้าไว้ได้เพียงหมอกควันที่ละเหยลอยอยู่รอบกาย ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็ไม่เห็นหนทางที่จะไปต่อได้เลย

นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน.....แล้วนี้เธอมาอยู่ที่ไหน

วิ้ง!!!!

''อ๊ะ!!...''

แสงสีขาวนวลสว่างวับขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้นันย์ตาสีสวยปรับสภาพตามไม่ทันจนต้องหันหน้าหลบหนี

แสบตา......

ก่อนร่างบางจะค่อยๆหันไปจ้องมองแสงตรงหน้าช้าๆเมื่อสายตาพอจะปรับให้ชินกับแสงตรงหน้าได้บ้าง เธอก็พบเจอเข้ากับบางสิ่งท่ามกลางแสงสว่างนั่น มีเงาจางๆใจกลางแสงปรากฏต่อสายตา

นัยน์ตาสีสวยหรี่ลงเล็กน้อยทำให้มองเห็นเงาตรงหน้าชัดเจนมากขึ้นปรากฏเป็นเรือนร่างของบุรุษรูปงามสูงสง่าที่ร่างทั้งร่างปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวมวน หากแต่มันช่างเป็นภาพที่เลืองรางจนหน้าใจหาย ยิ่งเงยหน้าขึ้นไปมองส่วนของใบหน้ายิ่งมองไม่เห็นแม้แต่ครึ่งเสี้ยว เพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยแสงอันเจิดจา แต่กลับมองเห็นเพียงรอยยิ้มแสนละมุนอบอุ่นเบาบางสะกดให้เธอไม่สามารถละสายตาจากรอยยิ้มนั้นได้แม้เสี้ยววินาที

ตึกตัก.......

อะ.....ความรู้สึกเจ็บแปล๊บๆในอกนี้มันอะไรกัน เธอเอามือทับลงบนอกที่เต้นย่ำเตือนความรู้สึกที่เธอไม่คุ้นชินแถมมันยังปวดร้าวขึ้นเรื่อย ๆ

''อึก!...''

ตุบ!

ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านจนต้องร่วงลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่แสดงความเจ็บปวดภายในอกข้างซ้าย เจ็บ....ปวดหัวใจเหมือนถูกบีบรัดด้วยโซ่นับหมื่นๆเส้น ราวกับถูกกระชากมันออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทรมาน.....

ใครก็ได้.......ใครก็ได้ช่วยที

วิ้ง!!!!......

''อะ?.....''

แสงสีนวลลออยืดเข้ามาข้างหน้าเด็กสาว ปรากฏเป็นฝามือกว้างแสนอ่อนโยน ร่างของบุรุษตรงหน้าที่ถึงแม้จะมองไม่เห็นใบหน้าแต่กลับให้ความรู้สึกดีจนยากที่จะเข้าใจ เขายืดมือออกมาข้างหน้าราวกับจะช่วยให้เธอลุกขึ้นมาจากพื้น

เธอมองฝามือขาวนวลตรงหน้าด้วยแววตาไร้อารมณ์ ความเจ็บปวดแปลกๆในอกก็เริ่มบรรเทาลงช้าๆ เธอยืดมือตัวเองออกไปข้างหน้าหวังจะสัมผัสฝามือกว้างที่ยืดออกมา.........

เพียงเสี้ยวนาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกัน แสงสว่างสีขาววับขึ้นมากับตา!

''อะ!...''

วูบ!!!!

เฮือก!!

''แฮ่กๆๆ.....''

ภาพผนังสีขาวอันคุ้นเคยปรากฎสู่สายตา ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะหลับตาลงพร้อมสูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าหวานมีหยดเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย.....

ก่อนจะทำใจถอนหายใจออกมาช้าๆ

อา.......

ฝันแบบนี้อีกแล้ว....

''ชาร์ล็อต...ช่วงนี้เรื่องเรียนลูกเป็นอย่างไงบ้าง''

''........''

ภายในห้องอาหารขนาดเล็กในบ้าน บนโต๊ะอาหารถูกประดับประดาด้วยกับข้าวง่ายๆสองสามอย่างว่างเรียบรายอยู่บนโต๊ะ เสียงของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นเริ่มบทสนทนาด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มจางๆ

''ก็ดีค่ะ....(-- )''

''คิดไว้หรือยังว่าจะต่อมหาลัยไหน...?''

''มีมหาลัยที่เลือกไว้แล้วค่ะ...''

''....แล้วจะเปิดเทอมเมื่อไรละ''

เสียงทุ้มต่ำราบเรียบถามออกมาจากปากของผู้เป็นพ่อที่นั้งประจำอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ บรรยายกาศภายในครอบครัวที่ดูเหมือนจะอึมครึม แต่จริงๆแล้ว กลับเป็นเพียงเรื่องปกติของครอบครัว'เทย์เลอร์'ครอบครัวที่ไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหาในครอบครัวเลยสักครั้ง

''สองเดือนหน้าค่ะ...''

''จบมอปลายแล้วสินะ....เวลาผ่านไปเร็วจริง''

ผู้เป็นแม่พูดออกมาเสียงแผ่วเบาพร้อมรอยยิ้มบางเมื่อนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กของลูกสาวตรงหน้าเธอ

''คณะที่ลูกเลือกต่อคือ คณะศิลป์กรรม สินะ''

''.....''

''ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหมชาร์ล็อต....''

ผู้เป็นพ่อชายวัยกลางคนตรงหน้าเธอที่มีใบหน้าและแววตาจริงจังเรียบนิ่งเมือนกับเธอไม่มีผิด ราวกับว่าคัดลอกใบหน้ากันมาก็ไม่ปาน ท่านหันขึ้นมามองเธอพร้อมถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

ทั้งสองจ้องมองตากัน....

''ค่ะ....''

''ชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอน...ทุกคนเกิดมาย่อมมีความฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำมันให้สำเร็จได้''

เสียงทุ้มต่ำกดดันให้เด็กสาวตรงหน้าได้รับรู้ความเป็นจริงของโลกเพื่อไม่ให้หลงระเริงไปกับสิ่งที่ต้องการ เพราะโลกใบนี้มันไม่เคยมีที่ยืนสำหรับผู้ล้มเหลวได้ยืนยัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง

''.....''

''ความฝัน....คือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง''

ชาร์ล๊อตวางช้อนซ้อมลงบนจานอย่างนิ่งเงียบ.....เธอเบื่อผู้เป็นพ่อที่ไม่ยอมรับความฝันของเธอสักที เพียงเพราะว่ามันเป็นความฝันที่เขาคิดว่าไร้ประโยชน์และไม่ทำให้ชีวิตของเธอเจริญก้าวหน้าได้

''แต่ถ้าลูกตั้งมั่นที่จะก้าวไปตามความฝันนั้น...แม่ขอให้พยายามจนถึงที่สุดเพราะไม่มีใครกำหนดได้ว่า ความฝันจะเป็นแค่ฝันตลอดไปหรือความจริงที่กำลังจะมาถึง''

เธอมองสบตาผู้แม่ที่ส่งแววตาอันอ่อนโยนมาให้...แต่กลับแฝงไปด้วยความห่วงใยและกังวน

ท่านค่อยสนับสนุนอยู่ข้างเธอเสมอถึงแม้ทางที่เธอเลือกเดินไม่ใช่ทางที่ท่านต้องการที่จะให้เดินไปก็ตาม

''หนูเข้าใจ....''

เพราะความฝันที่เธอเลือกเดิน...มันต้องดิ้นรนขนาดไหนถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ละ ถึงยังงั้นฉันก็ยังรักที่จะทำมัน

''พวกเราเคารพการตัดสินใจของลูกเสมอนะ...ชาร์ล็อต''

''ถ้าเป็นสิ่งที่หนู'รัก' หนูไม่มีวันทิ้งมันไปหรอกค่ะ''เธอพูดจบก็ลุกออกจากเก้าอีกประจำตำแหน่งและเดินออกไปจากโต๊ะอะหารพร้อมกล่าวออกมาแผ่วเบา

''อิ่มแล้วค่ะ...''

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เสียงกระซิบ...ในห้วงคำนึง

Slumber II

แกร๊ก......

ฟุบ!!

ภายในห้องนอนสีขาวสะอาดตาของชาร์ล๊อต ครึ่งหนึ่งใช้เป็นพื้นที่สำหรับการจัดสรรอุปกรณ์การวาดภาพของเธอทั้งสิ้น ซึ่งภายในดูเรียบง่ายสบายตาข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆถูกจัดเป็นระเบียบเข้าที่เข้าทาง

เธอล้มตัวลงไปนอนบนเตียงด้วยนัยน์ตาที่ปิดกันสนิท....

'ชาร์ล๊อต'

''ใครน่ะ....''

'ชาร์ล๊อต'

ฟุบ!!

เธอลุกขึ้นนักงานเตียง....นัยน์ตาสวยไม่เข้ากับแววตาภายในที่ราบเรียบ จ้องมองไปทั่วทั้งบริเวณห้องเพื่อหาต้นเสียงนุ่มละมุนที่ดังข้างๆหูมาสักระยะหนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับแผ่นกระดาษลวดลายสวยงดงามที่เธอได้มาจากการที่ไปช่วยคุณยายคนหนึ่งลากรถข้ามถนนเมื่ออาทิตย์ก่อน....มันเป็นวันเดียวกับที่เธอจบการศึกษาชั้นมัธยมปีสุดท้ายมาหมกๆและกำลังจะเดินกลับบ้านรอข้ามถนนตรงไฟแดง ก่อนที่ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นมืดครึมไปชั่วปริบตาอย่างไม่ทันตั้งตัวและสาดฝนลงมาพอดีกับที่เธอเจอคุณยายกำลังทำการข้ามถนนมาอย่างทุลักทุเลจึงอดที่จะเข้าไปช่วยไม่ได้

หลังจากนั้นก็ได้กระดาษแผ่นนี้มาและเธอก็กลับบ้าน?.......

เธอกุมขมับและนวดเบาๆ...

อา.....เธอจำเหตุการณ์ในตอนนั้นได้อย่างเบลอๆ คงเป็นเพราะฝนที่ตกลงมาในวันนั้นทำให้เป็นไข้อยู่หลายวัน เลยจำอะไรในวันนั้นได้ไม่มากนัก

แต่ก็ช่างมันเถอะ....

หมับ

เธอลุกขึ้นเดินไปได้สักพัก กระดาษแผ่นนั้นที่ตั้งอยู่บนขาตั้งภาพวาดที่เติมไปด้วยแผ่นกระดาษวาดรูปอีกมากมายและอุปกรณ์ในการวาดรูปอีกจำนวนหนึ่งที่เธอได้วาดค้างเอาไว้ รูปภายในกระดาษประกฎภาพวาดเค้าโครงหน้าของชายวัยหนุ่มที่ไม่สมบูณ์นัก แต่กลับฉายความงดงามพิจิตา

''....''

และมันคือกระดาษผ้า ที่ใช้ในการวาดรูป เนื้อผ้าเรียบเนียนขาวผ่องมาพร้อมขอบลวดลายกระดาษที่เป็นสีทองสวย เมื่อยามแรกที่เห็นก็นึกว่าเป็นเพียงแค่กระดาษธรรมดาเสียอีก ไม่คิดว่าคุณยายคนนั้นจะให้กระดาษแบบนี้มา

มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่าน่ะ?

มันไม่มีทางที่คุณยายคนนั้นจะรู้ได้ว่าเธอเป็นนักวาดรูปได้ และเป็นไปได้ยากที่อีกฝ่ายจะบังเอิญหยิบของแบบนี้ติดมือมาให้เป็นของตอบแทนได้อย่างเหมาะเจาะขนาดนี้

เธอขมวดคิวเรียวขึ้นคิดหนัก...ช่วงนี้ร่างกายเธอรู้สึกแปลกๆและฝันแปลกๆติดต่อกันมาหลายวันแล้วตั้งแต่วันนั้น...วันที่เธอจบจากการเป็นนักเรียนไฮสคูลวันสุดท้ายของปีแถมยังเป็นวันเดียวกับที่เธอได้กระดาษแผ่นนี้มา

จากนั้น....

ภาพชายหนุ่มรูปงามในฝันก็ปรากฏขึ้นในหัวติดอยู่ในความนึกคิด มีรัศมีออร่าความสง่างามที่มิอาจมีใครมาเทียบได้ช่างเหมาะกับที่จะนำมาวาดลงบนกระดาษซักแผ่นซะจริง

ใช่ แล้วเธอก็นำมาวาดไว้ในกระดาษแผ่นนี้....

''น่าเสียดายที่ยังเห็นหน้าไม่ชัดเท่าไร....''

แววตาของเธออ่อนลง...แต่ไม่เป็นไรหรอก ฝีมือระดับเธอแล้วคงวาดออกมาได้ไม่ยากเท่าไรนักอย่างไงเสียภาพของเขาก็ติดอยู่ในภวังค์ของเธอไปแล้วอย่างที่ไม่อาจจะลืมมันลง แล้วทุกครั้งที่ฝันถึง...

ก็มักจะเริ่มมองเห็นนัยน์ตาคู่งามที่ฉายความอบอุ่นคู่นั้นได้บ้าง....เค้าโครงใบหน้าเองก็ชัดมากขึ้นไปอีก แบบนี้ก็หมายความว่าอีกไม่นานเธอคงจะได้ชมภาพใบหน้าของเขาได้แบบเต็มใบหน้าเสียที....

เธอมองรูปวาดตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนลง...

นิ้วเรียวยาวของเธอยกขึ้นหวังจะสัมผัสรูปตรงหน้าที่ช่างดึงดูดราวกับอยู่ในความฝัน ถึงแม้บุคคลในภาพจะเป็นคนในความฝันของเธอจริงๆก็ตามที

ก๊อกๆๆๆ

''อะ....''

นิ้วเรียวยาวของเธอหยุดลงเพียงแค่เสี้ยวขอการสัมผัส แววตากลับมาราบเรียบดังเดิมพลากมองไปทางประตู ก่อนจะถอนหายใจเดินไปเปิดประตู

''แม่?....''

หญิงวัยกลางคนยิ้มรับเสียงเรียกขันด้วยสายตาอันอ่อนโยนที่มองกลับมา ชาร์ล๊อตทำได้เพียงก้มใบหน้าลงก่อนจะเปิดประตูเต็มๆให้แม่ของเธอได้เข้ามาภายในห้อง

''แม่มีเรื่องจะคุยกับชาร์ล๊อต....''

''ค่ะ.....''

เธอไม่รอให้ผู้เป็นแม่ได้พูดจบ ก็ขันรับขึ้นมาแผ่วเบา เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าอีกไม่นานผู้เป็นแม่ต้องขึ้นมาหาเธอแน่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องเมื่อมื้อค่ำที่ผ่านแล้วก็ตามที เธอรักการวาดภาพมาตั้งแต่เด็กๆ....มันเป็นทั้งความใฝ่ฝันและส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ ถึงแม้ใครต่อใครจะว่าอย่างไงก็ตาม

''ช่างนี้ลูกดูเครียดๆหรือเปล่า?....''

เธอยกพู่กันขึ้นมาลงสีตรงหน้าต่อเพื่อเก็บรายละเอียดภาพอีกเล็กน้อย ในขนาดที่แม่ของเธอนั้นนั่งมองดูอยู่ข้างๆแม้ว่าเธอจะไม่ได้หันหน้าไปคุยกับแม่ตรงๆ แต่เธอนั้นก็ยังคงตอบคำถามของผู้เป็นแม่ทุกคำ

'' ค่ะใกล้เข้ามหาลัยแล้ว หนูเลยมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย''

''ช่วงนี้ก็ดูแลตัวเองดีๆนะลูก อีกหนึ่งเดือนก็จะเปิดเรียนแล้ว''

''......''

ไร้คำตอบจากเด็กสาวตรงหน้าที่ใจจดใจจ่ออยู่กับเพียงแค่แผ่นกระดาษวาดรูปบนขาโต๊ะวางภาพ เธอไม่ละสายตาจากมันเลยแม้แต่วินาที ถึงแม้ว่ากำลังพูดคุยกันอยู่ก็ตาม

''เฮ้อ.....''

คุณนายเทนเลอร์ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย ถึงจะชินกับนิสัยของลูกสาวคนนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็สร้างความเหนื่อยใจให้ไม่น้อย

''แม่เข้าใจ....และยอมรับการตัดสินใจของลูกเสมอนะ''

แม่ก็พูดแบบนี้ตลอด.....

''ค่ะ....''

จบการตอบรับจากเด็กสาวที่ต้องให้ตอบรับอย่างไร แม้แต่สายตาก็ยังไม่สบด้วย เธอรู้ดีเส้นทางที่ลูกของเธอเรื่องอาจเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสักมากมาย แต่หน้าที่ของเธอนั้นทำได้เพียงสนับสนุนเส้นทางที่ลูกของเธอเลือกได้เพียงเท่านั้น เธอไม่มีสิทธิ์์ทำอะไรได้มากกว่านั้นเลย

''งั้นแม่ไม่อยู่กวนแล้ว....แม่ไปก่อนนะลูก''

ฝามืออันอบอุ่นลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องของลูกสาวเธอไป.......

เธอละสายตาออกจากภาพวาดตรงหน้า หันมองไปอย่างบานประตูที่ปิดแนบสนิทชาร์ล๊อตวางพู่กันลงบนถาดสี

เธอถอนหายใจออกมาเบาๆกับคำพูดทุกคำของผู้เป็นแม่ แน่นอนว่าเธอฟังมันทุกคำไม่ตกหล่นถึงแม้ว่าท่าทางของเธอเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนักก็ตาม เพราะต่อให้อาชีพในอนาคตของเธอจะทำให้ท่านต้องทุกข์ใจมากเพียงไหนแต่เธอนั้นเห็นแก่ตัวเกินกว่าจะทำตามความต้องการของใครๆ ทำในสิ่งที่รักมากกว่าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

ใช่เธอนั้นเห็นแก่ตัว....แต่คำว่า 'ความฝัน' มันก็บอกอยู่ในตัวของมันแล้วว่าทำเพื่อตัวเองเท่านั้น เพราะทุกคนใช่จะมีความฝันที่เหมือนกันทุกคน เพราะแบบนั้นและ มุมมองความคิดถึงได้แตกต่าง แต่เธอจะไม่เดินแยกไปตามทางที่เธอไม่ได้เลือกอย่างแน่นอน

ชาร์ล๊อตลุกขึ้นเดินไปอย่างชั้นเก็บภาพวาดของเธอ ที่เต็มไปด้วยม้วนภาพมากมายเรียงรายเป็นทรงกระบอกเพื่อประหยัดพื้นที่ในการเก็บรักษาภาพวาดของเธอตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เธอเอือมมือหยิบม้วนกระดาษสีน้ำตาลซีดที่แผ่นกระดาษมีสภาพไม่สมบูรณ์นักถ้าเทียบกับแผ่นอื่น ๆ เธอคลี่แผ่นกระดาษที่ทั้งเก่าและกรอบราวจะสลายลงภายในอุ้มมือ ในนั้นมีภาพวาดเมื่อสมัยประถม 3 ของเธอ และเป็นภาพแรกที่เธอเริ่มลงมือวาดอย่างจริงจังจนมันสมบูรณ์ออกมาได้ไม่หน้าดูเท่าไร

ใช่.....มันไม่ใช่ภาพที่หน้าดูนักแต่ก็ดูสวยมากแล้วสำหรับนักวาดตัวน้อยมือสมัครเล่นแล้วกับเธอในตอนนี้ก็ยังคงดูสวยและงดงามเสมอมา ต่อให้ในตอนนี้ฝีมือการวาดของเธอจะพัฒนาไปไกลมากแค่ไหนก็ตาม เธอยิ้มออกมาบางๆบนริมฝีปาก เธอชอบภาพนี้ต่อให้ใครหลายๆคนจะบอกว่ามันเป็นภาพที่ไม่ได้มีความสวยงามเลยก็ตาม สิ่งที่เธอในตอนนี้ไม่สามารถทำได้เหมือนในภาพวาดใบนี้คงเป็น จิตนาการ ที่ไม่มีสิ้นสุด

''....คงต้องหาเวลาว่างไปเที่ยวบ้างแล้ว''

เพื่อหาประสบการณ์และแรงบานดาลใจในการวาดภาพต่อๆไปของเธอ....แต่ชาร์ล๊อตนั้นหาเวลาว่างในช่วงนี้ไม่ได้แน่นอน คงต้องพับความคิดนั้นไปสักพักใหญ่ๆเลยละ เธอม้วนภาพเก็บลงบนชั้นตามเดิมก่อนจะเดินกลับไปเพื่อล้มตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่ของตน

วิ้ง!

''......!?!''

ชาร์ล๊อตชะงักฝีเท้าลง หันไปมองตามเสียงประหลาดที่ดังก้องภายในห้อง เธอหันสายตามองไปทั่วห้องเพื่อตามหาต้นเสียง จนดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยเหลือบไปสบเข้ากับนัตน์ตาสีม่วงอ่อนในภาพวาดของชายในฝัน....

ที่สะกดลมหายใจของเธอไปชั่วขนาด ชาร์ล๊อตเดินเข้าไปหาภาพวาดนั้นที่กำลังส่องแสงสีเหลืองนวลตาออกมาอย่างอัศจรรย์ใจ เธอก้าวเข้าหาภาพวาดนั้นราวกับถูกมนต์สะกด จ้องมองนัตน์ตาคู่สวยตรงหน้าที่จำได้ว่า เธอไม่เคยวาดเพราะได้เว้นส่วนของใบหน้าช่องบนไว้

แล้วทำไม?.....

วุบ!

''....!!!''

ตุบ!!!....

.................................................................

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!