ณ เรือนไม้หลังหนึ่ง
มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น"นายหญิงเจ้าคะ ออกมาจบนายท่านเถอะเจ้าค่ะ นายท่านต้องการพบนายหญิงเจ้าค่ะ"เสียงของผู้หญิงที่พูดคือ นางผิน'และ'นางแย้มที่เรียกนายหญิงของตน
"ได้จ่ะพี่ผินพี่แย้ม"มีเสียงผู้หญิงอีกคนพูดขึ้นมาพร้อมกับเปิดประตูห้องของตนนั้นคือ"สร้อยฟ้า"นายหญิงของนางผินและนางแย้ม "ท่านตามีกะไรรือ พี่ผินพี่แย้ม"สร้อยฟ้าหันไปถามบ่าวทั้งสอง "บ่าวมิรู้ได้เจ้าค่ะ นายท่านบอกแค่ให้มาตามนายหญิง" สร้อยฟ้าตอบ "งั้นเรารีบไปเถอะกะเดี๋ยวท่านตาจักรอนาน"สร้อยฟ้าเดินไปที่กลางเรือน ้ื้
มีชายสูงอายุนั่งอยู่บนที่นั่งไม้ นั้นคือ"ขุนตั้ว" เป็นตาของสร้อยฟ้า"มาแล้วเจ้าค่ะ"เสียงของหญิงผู้หนึ่งได้ดังไปทั้งเรือนไม้ "มาแล้วก็ดี ตาจักให้หนูหมั้นหมายกับหลานของเพื่อนตานะ" เสียงหญิงถาม "เป็นใครหรือเจ้าค่ะ"เสียงชราบอก "ประเดี๋ยวเขาก็มา" เสียงหญิงตอบ "เจ้าค่ะ"
"ข้ามาช้าไปรือเปล่า" ผู้ที่พูดคือ"ขุนเกียรติ" เป็นสหายของขุนตั้ว "ไม่ช้าไปดอกขุนเกียรติ ไหนล่ะเจ้าหลานชายของเอ็ง" ขุนตั้วถามด้วยความสงสัย "ประเดี๋ยวมันก็มา มันชอบทำตัวช้ายืดยาว" ขุนเกียรติ
ตอบด้วบความเอื้อมละอา "เอาน่ายังไงซะมันก็ชาย จักเอากะไรกับมันนัก" ขุนตั่วพูดเพื่อที่จะให้สหายของตนเข้าใจ "มันก็เป็นเยี่ยงนี้มาตั้งแต่เด็กๆ"
"หลานสาวข้า สวัสดีขุนเกียรติสิลูก" "สวัสดีเจ้าค่ะ "
สร้อยฟ้าสวัสดีด้วยความเคารพ "จ่ะๆ หลานเอ็งนี้งามนัก
ใครกันเคยบอกข้า ว่าหลานขุนตั้วไม่งามเลยสักนิดแต่ข้าว่า ถ้านางไม่งามก็ไม่มีหญิงใดในพระนครงามอีกแล้ว"
"กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ" สร้อยฟ้าพูดด้วยความเขินอาย "มาแล้วเจ้าค่ะ"เสียงบ่าวในเรือนพูด ทุกคนหกสายตามองไปตรงทางขึ้นของเรือน
มีชายหนุ่มรูปงามได้เดินขึ้นมาบนเรือน"กราบประทานอภัยที่หลานมาสาย" ผู้ที่เอ่ยออกมาคือ ขุนกร คู่หมั้นของสร้อยฟ้า ขุนกรเดินมายืนข้างที่ขุนเกียรตินั่งขุนเกียรติเอ่ยขึ้นมา"ถ้าเอ็งจะมาเพลานี้ที่หลังไม่ต้องมาดอก น้องเขารอกันและเอ็งต้องไปนั่งข้างน้อง" ขุนตั้วพูด "เอาน่าๆ ไม่เป็นไรดอกยังไงก็มาแล้ว เพลาไหนสำคัญ" ขุนตั้วปลอบเพื่อนของตน"ขอบพระไทที่ให้อภัยแก่หลานพระเจ้าค่ะ" ขุนกรพูดจบพร้องกับยกมือไหว้สหายของตาตนเอง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองงงงงงง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บังเอิญคิดขึ้นมา ให้เพิ่มปรับปรุงส่วนไหนบอกได้นะขอรับบบ
"นั่งลงเถอะ" ขุนตั้วพูด "ขอรับ" ขุนกรตอบ "นี้สร้อยฟ้า หลานสาวท่านขุน" ขุนเกียรติพูด ขุนกรมองไปที่หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามตน "พาพี่เขาไปเที่ยวเรือนเถิด"ขุนตั้วพูด
"เจ้าค่ะ"สร้อยฟ้าตอบด้วยหน้านิ่งๆ แก้วฟ้าหันไปยิ้มกับขุนกรและ"ไปกันเถอะเจ้าค่ะ" คุณกรพยักหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
"ตาจักพูดกับขุนเกียรติก่อน หลานไปเที่ยวเถิด" ขุนตั้วพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "งั้นหลานไปก่อนนะเจ้าคะ" ขุนตั้วพยักหน้า "เชิญทางนี้เลยเจ้าค่ะ" สร้อยฟ้าพูด "อืม" ขุนกรพูด "อ้าวๆๆ เจ้ากรน้องพูดด้วยทำหน้าดีๆหน่อย" ขุนเกียรติพูดด้วยสีหน้าที่เอื้อมระอา
"ไม่เป็นไรดอกเจ้าค่ะข้าชินแล้ว" สร้อยฟ้าหันมาพูด
"เห็นไหมน้องเขาใจดีจะตาย ท่านตานั่นแหละจะจู้จี้อะไรกันนักกันหนา" ขุนกรพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว "เอาน่าๆ เอ็งก็อย่าไปจู้จี้หลานนักเลยขุนเกียรติ หลานมันโตแล้วเอ็งต้องเข้าใจ" ขุนตั้วพูดปลอบใจเพื่อนตัวเอง "แต่ถ้ามันโตแล้วทำนิสัยอย่างนี้ข้าก็ไม่เอาเช่นกันนะขุนตั้ว" ขุนเกียรติพูด
"มันเป็นวัยรุ่นแล้วนะขุนเกียรติเอ็งจะไปเอาอะไร ตอนเอ็งเป็นวัยรุ่นก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ" ขุนตั้วพูดเพื่อให้เพื่อนของตนใจเย็น "พอเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวท่านพี่จะมิได้ไปที่เรือนนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะรีบพาท่านพี่ไปดูที่เรือนและจักรีบพากลับมา" บอกด้วยความใจเย็นเพื่อให้ทั้ง 2 ไม่สิ 3 หยุดเถียงกัน "แล้วสร้อยฟ้าจากรีบพาพี่เขากลับทำไมฤา" ขุนตั้วพูดด้วยความมึนงง "อ้าว ท่านพี่ไม่ได้กลับไปเมืองสองแควก่อนหรือเจ้าคะ แล้วกลับมาหมั้นหมายในวันที่ต้องการของพวกท่าน 2 คน" สร้อยฟ้าพูดด้วยตั้งคำถามในใจ "หึ พี่เขาจากมานอนนี่ จนถึงวันที่มั่นหมายกัน" ขุนเกียรติพูด
"ไม่สิขุนเกียรติเราจะให้ขุนกรอยู่ที่บ้านเราตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเพราะฉะนั้นคุณกรจะต้องนอนห้องเดียวกันกับสร้อยฟ้า" ขุนตั้วพูด "มันจะดีหรือขุนตั้วท่านได้ปรึกษากับสร้อยฟ้าหรือยัง" ขุนเกียรติพูดด้วยความเกรงใจ
"งั้นข้าถามเลยกัน หลานตกลงหรือไม่" ขุนตั้วพูดเสร็จหันไปถามสร้อยฟ้า สร้อยฟ้ายืนนิ่งไม่พูดอะไรในใจสร้อยฟ้าได้แต่คิดว่า(มีข้าต้องนอนกับคนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 3 ชั่วโมงงั้นฤๅ เอาเถอะเพื่อความสบายใจของท่านตา)
"ได้เจ้าค่ะหลานตกลง" สร้อยฟ้าตอบตกลงด้วยจำใจเพราะไม่อยากให้ท่านตาเสียใจในสิ่งที่ตนทำ
"หลานตกลงจริงๆฤๅ" ขุนเกียรติพูดด้วยความเกรงใจแก่สร้อยฟ้าและขุนตั้ว "งั้นเดี๋ยวข้าจะให้หลานทั้งสองคนของข้าออกไปเล่นเที่ยวเล่นกันเดี๋ยวค่อยกลับมาดูว่าหลานของข้าจะตกลงอีกหรือไม่" ขุนตั้วพูด "งั้นก็ได้ออกไปเที่ยวเล่นกันเถอะ"ขุนเกียรติตอบด้วยความจำใจเพราะสงสารสร้อยฟ้า ขุนเกียรติรู้ดีว่าหลานของตนมีนิสัยเยี่ยงไร
เป็นไงบ้างทุกคน แอดแต่งตอนที่ 2 ดีไหมแอดมีตันบ้างแต่ก็แต่งต่อ
บายยยยยยย
"งั้นข้าพาท่านพี่ไปนะเจ้าค่ะ" สร้อยฟ้าพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาเพราะท่านขุนทั้ง 2 ท่านกำลังถกเถียงกัน
..."ไปกันเถอะสร้อยฟ้า ปล่อยให้เขาคุยกันเราเด็กๆมิควรไปยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่"ขุนกรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย...
"งั้นข้าไปแล้วนะเจ้าคะ...ท่านพี่ตามมาเถอะเจ้าค่ะ"
...สร้อยฟ้าพาขุนกรขึ้นมาบนเรือน เพื่อให้ดูว่าห้องไหนเป็นห้องใครและไม่ควรไปยุ่งในห้องใด ขุนกรได้รับฟังบ้างไม่รับฟังบ้าง ตามประสาวัยรุ่นผู้ชาย...
..."แม่นายขึ้นมาบนเรือนแล้วหรือเจ้าคะ เมื่อกี้ข้าเห็นแม่นายแล้วคุณท่านทั้งสองยืนอยู่ข้างล่าง แดดไม่ร้อนหรือเจ้าคะ" นั่นคือบ่าวรับใช้ของสร้อยฟ้าคือพี่ผินและพี่แย้มพี่ผินพี่แย้มมองดูสร้อยฟ้า และขุนกรณ์ ขุนเกียรติ...
...คุณตั้วอยู่ข้างบนอยากจะเรียกทั้งสี่ให้ขึ้นไปบนเรือนแต่เห็นว่ามีการพูดคุยกันพี่ผินพี่แย้มจึงไม่กล้าเรียกเพราะเดี๋ยวไปแทรกเจ้านายพูดกัน "แต่ไม่เป็นไรดอกเจ้าค่ะค่าเตรียมขนมหวานไว้ให้ท่านเริ่มตั้ง 2 คนแล้วไปกินเถอะเจ้าค่ะอยู่ในห้องกลางเรือน"...
..." สร้อยฟ้าไปกันเถอะข้าเมื่อยหมดแล้ว" คุณกรพูดด้วยความเอือมระอา " พี่ผินพี่แย้มพาขุนกรขึ้นไปก่อนเถิดข้าจะไปทำธุระของข้าสักหน่อย"สร้อยฟ้าพูดเหมือนมีอะไรในใจ "แม่นายจะกลับมากินขนมของบ่าวใช่หรือไม่ถ้าแม่นายแม่กลับมากินข้าก็ไม่รู้จะทำไว้ทำไมเพราะข้าทำให้แม่นายกินนะเจ้าคะ" พี่ผินพูดด้วยความผิดหวังเล็กน้อย...
..."ข้าต้องกลับมากินสิ บ่าวของข้าอุตส่าห์เป็นคนทำถ้าข้าไม่กินใครจะกินกันเล่า" สร้อยฟ้าพูดด้วยความเอ็นดูพี่ผินและพี่แย้ม"แต่ข้าไม่รู้ว่าข้าจะได้กลับมาเมื่อใดแต่น่าจะไม่นานมาก" "เจ้าค่ะ" "นี่พวกเจ้าจะพูดกันอีกนานหรือไม่ข้าเมื่อยข้าบอกว่าข้าเมื่อยทำไมเจ้าไม่พากล้าไปนั่ง"ขุนกรพูดด้วยความโมโห "ประธานโทษเจ้าค่ะเงินขุนกรณ์ไปนั่งก่อนเถอะเดี๋ยวข้าจะไปทำธุระของข้าท่านรออยู่นี่แหละ" สร้อยฟ้าพูดด้วยความเอือมระอา [ทำไมทำเยี่ยงนี้เป็นสุภาพบุรุษแต่ทำไมทำนิสัยยังไม่ใช่สุภาพบุรุษ คนนี้หรอที่จะทำให้ข้ามีความสุข คนนี้หรอที่จะทำให้ข้าไม่มีความทุกข์ น่าจะทำให้ข้าทุกข์มากกว่า]...
ทุกคนเราแต่งดีไหมมีตรงไหนให้ปรับปรุงบอกได้นะคะ
จุ้บๆๆๆๆๆๆๆๆ❣️
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!