NovelToon NovelToon

ชีวิตมนุษย์เป็ด

มันเริ่มตั้งเเต่ตอนไหนนะ?

...สวัสดีทุกๆคนเราเชื่อว่าหลายๆคนที่เข้ามาอ่านน่าจะเป็นคนประเภทเดียวกันนะ...

ย้อนกลับไปตั้งเเต่จำความได้\~

ตอนประมาณอนุบาล1-2เราชอบตัดแปะกระดาษเเละชอบปั้นดินน้ำมันมาก เหมือนครูจะเห็นเเววในตัวเรา(มั๊ง)ครูก็เอาเราไปแข่งเเต่จำไม่ได้ว่าเราได้ไปแข่งปั้นดินน้ำมันหรือตัดแปะเพราะนานมากก เเต่ก็นั้นเเหล่ะเราไม่ชนะ เเต่ก็ไม่ได้ผิดหวังเพราะไม่ได้คาดหวัง ดีใจเเค่ครูพาออกไปข้างนอก ไปเเข่งก็เหมือนไปเล่นนั้นเเหล่ะ5555

ประมาณป.1เราเป็นคนที่ชอบระบายสีมากเเต่ไม่ชอบวาดรูป ลงทุกการประกวดทุกการเเข่งขันเเต่ก็ติดเเค่ที่3 ไม่เคยได้ที่หนึ่งเลยสักครั้ง เเต่ก็เป็นเหมือนเดิมเราเเค่ทำในสิ่งที่ชอบเเต่ก็ไม่ได้หวังว่าจะได้ที่1เพราะได้ทำในสิ่งที่ชอบก็ดีใจเเล้ว เป็นคนที่ชอบระบายสีเเต่ก็ไม่สวยขนาดนั้น เเบบเเค่พอดูได้ ตั้งเเต่ตอนนั้นจนมาถึงปัจจุบัน5555แต่ก็อาจจะพัฒนาขึ้นมาบ้างตามอายุ^^

ป.3เราชอบรำมากๆแบบเป็นเเนวอิสานเพราะเราเรียนอยู่อุดร เวลาเห็นพี่ๆซ้อมรำเราก็จะไปแอบรำตามเเต่ก็ยังไม่ได้รำเเบบจริงจังเพราะยังไม่มีใครเห็นเเวว จนมาวันหนึ่งเราก็รำตามพี่ๆที่เขาซ้อมเเล้ว ปอ.ก็เข้ามาเห็นพอดี ก็เลยบอกให้ครูสอนเรารำด้วย เพระาเห็นว่าเราน่าจะชอบ ตั้งเเต่นั้นเวลาครูซ้อมให้พี่เรากับเพื่อนๆก็จะไปซ้อมด้วย จนเราขึ้นป.4เราก็ได้รำแบบจริงจัง ครูก็พาไปแข่ง รอบเเรกตื่นเต้นมากกก เเต่ก็จบด้วยการไม่ผ่านระดับโรงเรียน พอมาครั้งที่สองเราผ่านระดับโรงเรียนได้ ดีใจมากตอนนั้นไม่คิดไม่ฝันว่าจะผ่าน หลังจากนั้นก็เรียนเเละซ้อมมาเรื่อยๆจนกระทั่งการเเข่งระดับเขตมาถึง รอบนี้ก็ตื่นเต้นเช่นเคยเรากับเพื่อนๆพี่ๆก็พากันเต็มที่ เเต่ก็ไม่ผ่านระดับเขตไประดับจังหวังได้ รอบนี้ก็แอบเศร้าเหมือนกันนะ เพราะอยากจะให้โรงเรียนมีชื่อเสียงมากขึ้น เเต่ก็นะมีเเพ้ก็ต้องมีชนะเเละดีสุดคือครูเลี้ยงขนมจากเศร้าๆก็มามีความสุขได้^^

มาช่วงจะขึ้นป.5-ป.6เป็นช่วงชีวิตที่เรามีการเปลี่ยนแปลง เราต้องย้ายโรงเรียนจากอุดรมายังสระบุรี เป็นช่วงที่เราต้องปรับตัวเองเป็นอย่างมาก ทั้งการพูดการเข้าสังคม เเรกๆเราก็กลัวนะว่าจะรอดรึเปล่า วันเเรกที่ไปโรงเรียนเราร้องไห้ด้วยเเหล่ะเเต่ไม่ได้ร้องจริงจังนะเพราะอายคนอื่น555เเค่มีน้ำตาซิบๆเราต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อนใหม่ประมาณ1อาทิตย์เต็มๆกว่าเราจะเริ่มเป็นฝ่ายคุยกับเพื่อนก่อน ช่วงป.5เป็นช่วงเวลาที่เราต้องปรับตัวเข้าหาสภาพเเวดลอมเเละสภาพสังคม เลยทำให้เราไม่รู้ว่าตัวเองชอบทำอะไร เเต่โรงเรียนก็มีกิจกรรมให้ทำเราก็เเค่เข้าร่วม กีฬาสีเราก็เป็นคนเชียร์ เต้นประกวดวันเด็กเราก็เต้นได้5555 ตอนเเรกไม่ได้อยากจะเต้นสักเท่าไหร่หรอกเเต่ทำไงได้เพราครูเลือกมาเเล้ว เเต่ก็ไม่เป็นไรเพราะตอนอนุบาลโดนจับเต้นบ่อย จำได้ขึ้นใจเลยว่าโดนจับเต้นเพลงยามเย็น ย้อนกลับไปดูภาพละขำก๊ากบล็อกตาเขียวฉ่ำ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองชอบทำอะไร เเละที่สำคัญครูจับเราไปเเข่งศิลปะหัตถกรรม เป็นการประกวดเพลงคุณธรรม จำได้ขึ้นใจว่าคือเพลง “ปล่อย” ทั้งร้องทั้งเต้นสนุกมากเพราะเพลงมันส์ได้ใจ5555 เเละก็ไปแข่งรอบเเรกระดับโรงเรียน อเมซิ่งมากกผ่านได้ไงเรากับเพื่อนๆน้องๆได้เเต่พากันงง ก็นั้นเเลห่ะผ่านรอบเเรกเราก็ต้องซ้อมเพื่อเเข่งรอบต่อไปแต่!!!รอบนี้ครูให้คนเราเป็นคนนำทีมเเล้วก็เป็นคนคิดท่า เพราะครูต้องไปช่วยน้อง ตอนนั้นเเบบแอบกดดันนิดๆเพราะซ้อมไปซ้อมมาท่าไม่ซ้ำกันเลยซักครั้ง เเต่ก็นั้นเเลห่ะนะชีวิตเรา5555ก็ต้องดิ้นรนเเล้วสู้ต่อไป หลังจากนั้นก็ช่วยกันคิดท่าเเล้วก็ซ้อมวนไป จนไปแข่งระดับเขตตื่นเต้นมากกรรมการนั่งแบบใกล้ชิดมากก เต้นๆไปก็พากันลืมท่าเเต่ก็ใช่การดนสดให้จบเพลง หลังจากเต้นเสร็จพากันห่อเหี่ยวมากก เเต่ครูก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกเราทำเต็มที่กันเเล้ว เเละใช่ค่ะเราไม่ได้ไปต่อในระดับจังหวัด

(ครั้งเเรกได้รางวัลเหรียญทองรองชนะเลิศอันดับ1ส่วนครั้งที่สองได้รางวัลระดับเหรียญเงิน •^•)

ช่วงปิดเทอม เราได้อยู่ที่บ้านมากขึ้นเเละด้วยความเหงาเเละความชอบที่อยู่ก็รู้สึกว่าตัวเองชอบปลูกต้นไม้ปลูกทุกอย่างที่มีเม็ด ตั้งเเต่มะม่วง ลิ้นจี่ ส้ม ยันแอปเปิ้ล เเละก็ดันเกิดทุกต้นที่ปลูกนะ เเต่สุดท้ายมาตายเพราะเราลืมรดน้ำต้นไม้เละมันก็จะวนหลูบอยู่อย่างงี้ แอบเสียดายเหมือนกันนะเกิดทุกอย่างเเต่มาตายเพราะลืมรดน้ำ5555

ป.6 ไม่รู้ว่าครูเห็นเเววอะไรในตัวเรา ครูก็เรียกให้เราไปซ้อมสวดมนตร์ทำนองสรภัญญะ พอไปซ้อมได้ประมาณ1-2วันหลังพักเที่ยง วันต่อมาครูก็ให้เพื่อนมาบอกเราว่าไม่ต้องซ้อมเเล้วนะ เราก็โอเคไม่เป็นไรเเต่ดีใจด้วยซ้ำ ก็กลับไปเรียนต่อเเเบบสบายใจเฉิบ5555 แต่วันต่อมาเพื่อก็บอกให้เรากลับไปซ้อมเหมือนเดิม เเบบอ้าววเเล้วที่เราดีใจไปเมื่อวานล่ะ? แต่ก็นั้นเเหล่ะเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็กลับไปซ้อมแบบนี้ไปจนถึงวันเเข่ง รอบเเรกผ่าน พอมารอบสองเพื่อนที่นำสวดดันเสียงหายเเละกรรมก็ตกมาอยู่ที่เราเพราะครูให้เราเป็นคนนำสวดแทน ตื่นเต้นมากกเเละก็นำสวดเกือบจะดี เเต่ก็เเค่เกือบเพราะความตื่นเต้นทำให้เราสวดสลับบท เเละผลออกมาคือไม่ผ่านจ้าา เสียดายเพราะครูบอกถ้าผ่านจะเลี้ยงKFC 55555 หลังจากนั้นเราก็ได้ทำหน้าที่สวดมนตร์เเละเเผ่เมตตาหน้าเสาธง เเละได้นำเต้นออกกำลังกายตอนเช้าด้วย เเละที่รู้สึกภูมิใจก็คือเราได้นำร้องเพลงปาเจราในวันครูแบบภูมิใจมากก

เเละก็มาช่วงม.1 ตอนเเรกเราคิดว่าเราจะไม่ได้เรียนต่อเเล้ว เพราะเราสอบเข้าห้องเรียนพิเศษเเต่ผลออกมาคือ ไม่ติดเเต่ยังดีที่ตอนนั้นเป็นการเปิดให้สอบรอบเเรก เเละเราก็ต้องไปสอบใหม่อีกครั้งซึ่งถ้าครั้งนี้ไม่ติดคือจบเห่เเน่ เพราะเราจะไม่มีที่เรียน พอวันประกาศผลเราก็ไปดูรายชื่อปรากฏว่าไม่มีชื่อเรา เเละเราก็กำลังจะเดินกลับเเต่ลุงบอกว่าดูดีๆให้ดูใหม่อีกที เราก็เลยดูใหม่ จนเจอชื่อตัวเอง ตอนนั้นรู้สึกว่าถ้าลุงไม่บอกให้ดูใหม่คงไม่มีที่เรียนเป็นเเน่ เเละนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราต้องต้องปรับตัวเเละต้องปรับอย่างยิ่งใหญ่เพราะสังคมมันใหญ่ขึ้นมากๆ ตอนนี้เราก็ยังหาความชอบไม่ได้ เเต่เราก็ยังได้นำสวดมนตร์เเละรองเพลงชาติ อยู่ดีเพราะครูรู้ว่าเราเคยไปแข่ง เเต่เป็นการสวดในเเค่ในระดับชั้น ช่วงม.1-3เราเเทบไม่ได้ไปแข่งอะไรเลย เพราะด้วยความกลัวเเละยังไม่ชิน ก็เเค่ได้ไปเข้าค่ายทำกิจกรรมที่ห้องโครงการเขาจัดให้ เเละที่สำคัญมีโควิดจ้าาา

จนใชมาถึงช่วงปิดเทอมตอนม.3เรามาเอาเงินออมกับครูเเละได้เจอเพื่อนที่อยู่ในนาฏศิลป์ตั้งเเต่ม.ต้น เพื่อนก็รู้ว่าเราชอบรำเเต่ก็ไม่ได้เข้าตอนม.1เพราะเราไม่รู้ว่าต้องสมัครยังไง เพื่อนก็เลยถามว่ายังอยากเข้าอยู่มั้ยเราก็พยักหน้า เพื่อนก็พาไปหาครูนาฏศิลป์ ตอนเเรกก็กลัวๆเพราะเรากลัวว่าครูจะให้รำให้ดูซึ่งตอนนั้นลืมไปหมดแล้ว เเต่ผลปรากฏว่าไม่ต้องรำให้ดู เพราะว่าครูจำเราได้ตอนที่เรียนออนไลน์เเล้วต้องถ่ายคลิปรำส่ง เเต่เราก็เข้าในฐานะเด็กนักเรียนห้องเรียนพิเศษ ก็โอเคพูดคุยกับครูสักพักพอครูดึงเข้ากลุ่มนาฏศิลป์ ก็กลับบ้านพอมีการเเจ้งเตื่อนรายชื่อคนที่จะต้องไปซ้อมรำ เราก็เข้าไปดูเเต่ก็ยังไม่มีชื่อเรา จนมาวันหนึ่งเพื่อนก็ทักมาหาเเละบอกให้เราไปซ้อม ตอนนั้นตื่นเต้นมากกก เพราะห่างหายจากการรำไปนานมากกกก เเละเพลงเเรกที่เราได้รำนั้นก็คือ “ปู่เเก้วเรียกไก่”

เราต้องซ้อมอย่างหนักเพราะเรามาช้ากว่าคนอื่น การเเสดงนี้เราไปเเสดงที่ “อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์”ตื่นเต้นมากเเละอยากจะขอร้องให้เปิดม่านอีกชั้นให้หน่อยเเต่ก็ไม่ได้เพราะมีเครื่องดนตรีอยู่ อาจจะบอกว่าเวทีเล็กมาก เเละเรากับเพื่อนก็ต้องเปลี่ยนเเถวกระทันหันเพราะไม่งั้นจะตกเวที รำๆม่านเเทบจะกลืนกิน5555 แต่อาหารกับขนมอร่อยมากกเเละพอพักทานอาหารเสร็จพี่ไกด์ก็พาเดินชมอาคาร สวยมากๆ

ม.4ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อยู่กับการรำเป็นหลัก หลังจากนั้นเราก็ได้ไปรำเเละได้ไปแสดงหลายๆงาน รำถวายพระพรวันเเม่ที่โรงเรียน(ฉุยฉายกิ่งไม้เงินทอง) แม้ตอนนั้นจะไม่สบายเเต่ด้วยใจที่ฮึดสู้ของเรานั้น ก็ผ่านไปได้ด้วยดีเเม้ว่าจะลืมท่าบ้างหมุนๆเเล้วจะล้มบ้างเพราะเวียนหัว เเต่ก่อนที่เราจะได้มารำฉุยฉาย เราได้เป็นคนยกโต๊ะจากการเเสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์มาก่อนเพราะเราจำท่าไม่ได้เลยไม่ได้รำ55555 จนผ่านจากการเเสดงนั้นมาเราถึงได้มารำในงานวันเเม่ เเละก็มีอีกงานที่น่าจดจำคือพระรามตามกวาง ไปแสดงที่สภากาแฟที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เป็นการที่เราต้องซ้อมให้จำท่าให้ได้ภายในวันนิดๆ เเละที่สำคัญเป็นกวางที่ไม่มีเขา5555 เเละซวยไปกว่านั้นก่อนที่เราจะขึ้นไปเเสดงก็มีการไปซ้อมกันหลังเวที เเละมันก็มีคันไฟอยู่ที่พื้น ซึ่งเราเห็นเราก็เลยบอกให้เพื่อนๆระวัง ไปๆมาๆตัวเองดันไปเหยียบเอง ทั้งเจ็บทั้งปวด พอถึงเวลาเเสดงได้เเต่บอกตัวเองว่าถ้ากระดกเท้าห้ามล้ม ไม่ล้มเเต่ก็เกือบล้ม รำเสร็จลงมาเดินกระเผลกๆเลยจ้า จากนั้นไม่นานเท้าบวม55555 หลังจากนั้นก็ได้ไปรำอีกครั้งคือรำถวายพระพรที่ศาลากลางจังหวัดสระบุรี เเน่นอนว่าเราได้รำฉุยฉาย รำแทบจะเก็บทุกคอลเลคชั่นเเต่ครั้งนี้เราภูมิใจมากเพราะช่างเเต่งหน้าถามว่าทำไมไม่คุ้นหน้า เราก็เลยบอกไปว่า ตอนเเรกไม่ได้รำไปเป็นคนยกโต๊ะเพราะจำท่ารำไม่ได้ เเต่ตอนนี้จำท่าได้เเล้วก็เลยได้รำ ช่างเเต่งหน้ายิ้มเเล้วก็บอกเลิศมากค่ะลูกสาว555

เเละนี้จะเป็นงานที่เราได้รำเเละรู้สึกภูมิใจมากเป็นพิเศษเพราะมีศิลปินเเห่งชาติมาสอนเรารำเองเลย นั้นก็คือ

นางรัตนา พวงประยงค์ ที่เราได้รำก็จะเป็นการเเสดงระบำกฤดาภินิหาร เเละการรำครั้งนี้เราก็ต้องรีบจำท่าอีกเเล้ว เพราะโดนเรียกตัวมารำด่วน เรียกได้ว่าเเทบทุกการเเสดงเราจะเป็นตัวฉุกเฉินก็ว่าได้

เเต่!!!จะมีการรำอันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นการรำที่ทำร้ายตัวเอง คือ ระบำกรับ เรียกได้ว่ารำไปแทบจะร้องไห้ไปเพราะโดนกรับตีมือเเล้วไปโดนตรงกระดูกพอดี ตีขากับไหลก็เจ็บเเต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร สรุปขาช้ำไหล่ช้ำจ้าา พอกระเสี่ยวเเบบนั่งเขาก็ถลอกเพราะซ้อมหลายครั้ง พอนั่งผิดท่าเเต่ขยับไม่ได้เพราะไม่งั้นได้เริ่มใหม่ก็ต้องกัดฟันนั่งเเบบนั้นเเล้วรำไป รำเสร็จก้มดูเท้า เลือดซิบเลยจ้าาเล็บจิกเนื้อเท้าตัวเอง เเละที่พีคไปกว่านั้นคือการเเสดงนี้ เราได้ไปรำที่อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์อีกเเล้ว5555 เเล้วก็มีไปแข่งขั้นรำวงมาตรฐานงานศิลปะหัตถกรรม รำดับเขตได้เหรียญทอง ชนะเลิศ ส่วนระดับประเทศได้เหรียญทอง เเต่เป็นลำดับประมาณ20นิดๆเพราะจำไม่ได้

นอกจากรำเรายังมีไปไปฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมสุดยอดนักพูด จะเป็นการพูดเกี่ยวกับประวัติการก่อตั้งของโรงเรียน ซึ่งจะรวมทุกระดับชั้น เเละก็จะเป็นตัวเเทนของเเต่ละห้อง ซึ่งตอนเเรกเราไม่คิดจะลงหรอก เเต่เพื่อนในห้องไม่มีใครลงเเล้วครูบอกว่าไม่งั้นจะซุ่มเลขที่ เราเลยเดินไปถามครูว่ามีเกียรติบัตรให้มั้ย พอครูบอกว่ามีเราก็เลยบอกว่า งั้นหนูลงเองค่ะ เพื่อนๆก็ตบมือให้5555ที่ลงเพราะเกียรติบัตรล้วนๆ^_^ พอถึงวันที่จะต้องไปพูดครูก็จับกลุ่มคละๆกันไป พอถึงกลุ่มเราพูด พี่ในกลุ่มก็พูดนำก่อน พอมาถึงตาเราพูด พอเราเริ่มพูดครูก็พากันมองมาที่เราพร้อมกัน เราก็ตกใจนิดๆคิดว่าพูดอะไรผิดไปรึเปล่า เเต่ซักพักครูๆที่เป็นกรรมการยิ้ม เราก็เลยโอเคไม่มีอะไร

หรอกมั๊ง ก็พากันนำเสนอจนจบ พอประกาศผมถามว่าชนะมั้ย?ก็ไม่5555 เเต่หลังจากนั้นครูภาษาไทยเห็นหน้าเราเเล้วจำได้เลยชวนว่าไปพูดสุนทรพจน์มั้ย เราก็เลยบอกว่าถ้าไม่ชนกับนาฏศิลป์หนูก็ไปให้ได้ค่ะ ครูก็เลยบอกว่าโอเคเดี๋ยวยังไงค่อยว่ากัน เเต่หลังจากนั้นครูก็หายไปเลย5555

เเข่งวาดรูปวันภาษาไทยก็เกือบส่งไม่ทันเพราะดูกำหนดการส่งวันผิดต้องรีบวาด เเละก็ต้องซ้อมวิ่งด้วย เพราะเป็นช่วงซ้อมกีฬาสีด้วย ทั้งวาดไปเเละก็ไปวิ่งวิ่งเสร็จกลับมาก็วาดต่อ เราก็นั่งวาดตรงบันไดข้างสนามวิ่ง สักพักฝนก็เหมือนจะตก เเละใช่มันตกจริงๆ เราต้องรีบวิ่งขึ้นโดมเพราะกลัวภาพเปียก สู้ชีวิตมากก คนที่นั่งข้างๆก็ชมว่าวาดสวยนะ เราก็ได้เเต่พูดว่าขอบคุณค่ะเเละก็ยิ้มให้ พอวาดเสร็จจะลงสีเดี๋ยวเวลาจะไม่ทันเราเลยเลือกที่จะลงเงาเอา พอฝนตกเบาลงเราก็รีบวิ่งขึ้นตึกภาษาไทยเพราะว่าครูจะกลับบ้านเเล้ว โชคดีที่ไปทันแบบเฉียดฉิว เเต่ผลออกมาก็ไม่ได้เเละดันมีคนวาดรูปเดียวกันกับเราด้วย เเต่เขาระบายสี ก็งงใจตัวเองเหมือนกันว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ถึงเลือกวาดลายไทย 55555

พอช่วงกีฬาสีเราก็ลงกีฬาเเละก็ควงธงเพราะไม่อยากขึ้นสเเตน555 ตอนเเรกที่ไปลงควงธงก็แอบกลัวๆเหมือนกันไม่ว่าว่าจะทำท่าไม่ได้นะ เเต่กลัวว่าธงจะฟาดพื้นมั้ยเพราะเขาขอคนที่สูงประมาณ160ขึ้น เเต่เราสูงเเค่156 เเต่พอลองควงดูก็มีฟาดบ้างอะไรบ้าง เลยลงแบบจริงจัง ก็ซ้อมไปซ้อมมาจนเข้ามือธงก็ไม่ฟาดพื้นเเล้ว เเต่ฟาดหัวตัวเองเเทน5555 ลงวิ่งพลัดก็ได้ที่3 ยอมรับเลยว่าอยู่ไม้สุดท้ายกดดันมากกเพราะเราต้องสับตีนเเตกเพื่อให้เเซงคนข้างหน้า เเต่ก็นั้นเเละฮ่ะไม่เสียเเรงที่ซับจนตีนเเตก ก็ได้ที่3 หายใจไม่ทันเกือบเป็นลม พอวิ่งเสร็จก็ต้องกลับไปควงธงต่อ สู้ชีวิตมากกก เเต่ก็สนุกนะสนุกเเบบเหนื่อยๆ พอผลประกาศ สีเราชนะจ้าา ดีใจมากก แบบไม่เสียเปล่าที่พวกเราทำกันมา

ม.5เป็นช่วงที่เราเริ่มออกจากการรำเเล้วไปหาอย่างอื่นทำ ไม่ใช่ว่าไปชอบอย่างอื่นหรอกนะ เเต่หา เกียรติบัตรใส่Portfolio เพราะเราต้องเก็บหลายๆอย่างหลายๆด้านเเละส่วนมากเกียรติบัตรตอนม.ปลายจะมีเเต่รำอย่างเดียวเลยต้องไปหากิจกรรมอย่างอื่นทำบ้าง เช่นประกวดภาพถ่ายทางวิทยาศาสตร์ด้วย CU SmartLens ทั้งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เเละของโรงเรียน เเข่งประกวดคำขวัญ/แคบชันทางวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน ได้รองชนะเลิศอันดับ1แข่งคัดลายมือภาษาจีน ก็ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองเเต่ไม่รู้ลำดับ เข้าร่วมกิจกรรม MATH CAMP

อันนี้ที่เข้าร่วมก็เพราะเกียรติบัตรเพราะเป็นคนไม่ชอบคณิต

พอเเข่งกีฬาสี ปีนี้ห้องเราได้เป็นประธานสี เพื่อนเคยเห็นว่าเราควงธงก็เลยจับให้เราเป็นประธานควงธงเลยจ้าา ต้องไปสอนเพื่อนๆน้องๆ ฉ่ำ ส่วนกีฬา ปีนี้มีเข้ามาให้ก็คือ เเบดมินตัน ซึ่งเป็นอะไรที่ว้าวซ่ามากก เพราะเราชอบเล่นเเบดมาก ก็เลยลง ก็ต้องเเข่งกับคนในสีเพื่อเอาตัวแทน เราก็ได้เป็นตัวเเทนของผู้หญิงเดี่ยว เเต่พอไปแข่งกับสีอื่นก็แพ้รอบที่1กับ2 พอมาเเข่งชิ่งที่3เราก็ไม่รู้ว่าเขานัดวันไหนเพราะโทรศัพท์หาย เพื่อนคนที่เป็นตัวสำรองก็เลยต้องเเข่งเเทน เราก็เลยได้เเต่ให้กำลังใจเพราะเราไปถึงช้าไป เเละผลออกมาก็คือแพ้ แต่ก็ไม่ซีเรียสกัน ปีนี้เป็นปีที่เราบอกกับตัวเองว่าจะไม่เเข่งวิ่ง สุดท้ายก็ต้องวิ่งอยู่ดีเพราไม่มีใครวิ่งเลย เราลงไป2ร้ายการคืน วิ่ง100เมตรหญิงเดี่ยว เเละก็ วิ่งพลัดผสม4*100 เหนื่อยมากก จากนั้นก็ไปควงธงต่อ เเต่ปีนี้สีเราไม่ได้ชนะ เราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจก็เเค่เฉยๆ เเล้วก็ไปม่วนจอยกับควงธงสีอื่น5555 ควงธงรู้สึกว่าจะดีดสุดเเล้ว >•<

เขาร่วมกิจกรรมวันตรุษจีนโดยการร้องเพลงเเละเต้น ก็คิดเหมือนกันนะว่ากล้าทำได้ยังไง555 เเต่เพื่อนๆชมก็รู้สึกดีใจมากกกที่เพื่อนชอบ^-^ เข้าร่วมกิจกรรมดาวเดือนโรงเรียน ก็ไม่ได้เป็น เเต่ดีใจที่สุดคือครูบอกว่าชอบตอนที่เราเดินเพราะมันดูมั่นใจดี เเต่มาตกม้าตายเพราะตอบคำถาม เเต่ก็ไม่ได้ซีเรียสที่ลงไปเพราะครูเคมีล้วนๆ ครูบอกว่าถ้าได้ที่1จะบวกคะเเนนให้ทั้งห้อง เลยลองลงเสี่ยงดวง^-^

เเต่งนิยายได้ เเต่เเต่งไม่จบ เเละที่ไม่ได้เเต่งต่อเพราะคิดว่าไม่มีคนอ่าน เลยลบแอปออก 🤣พอมีไฟอยากจะกลับมาเเต่งเรื่องใหม่ ดันมาเห็นว่าเรื่องเก่ามีคนอ่านไปตั้งเยอะเเละก็รอให้อัพตอนใหม่ เเต่ก็นั้นเเหล่ะฮ่ะ1ปีผ่านไปเราพึ่งมาเห็น ขอโทษที่ทำให้รอนะ🙏(เรื่องฉันติดหนี้นายมาเฟียตอนไหน เพื่อมีคนอยากจะไปอ่านเเต่ก็น่าจะไม่ได้อัพใหม่หรอกเพราะคนที่รออ่านน่าจะหายไปหมดแล้ว)

ตัดคลิปได้ขยันลงเเรกๆ หลังๆก็ไม่ได้ลง เพราะไม่ว่างทั้งเรียนทั้งทำงานเเละก็ห่างหายไป

ชอบทำขนม เเต่ก็อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง ชอบปลูกต้นไม้ เเต่ก็ตายทุกครั้งเพราะลืมรดน้ำ

ชอบรำ ชอบร้องเพลง ชอบภาษาจีน ชอบระบายสี เเต่ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น

กีฬาชอบเเบดมินตัน เเต่ก็ไม่ได้เก่ง ส่วนตะกร้อก็เเตะพอได้ วอลเลย์ก็ดีกว่าตะกร้อนิดหนึ่ง 😹

...“ทุกคนเริ่มรู้ตัวตอนไหนกันเอ่ย?ว่าตัวเองคือมนุษย์เป็ด”...

เราเริ่มมารู้ตัวก็ตอนที่เจอในติ๊กต๊อกกับคำว่ามนุษเป็ดคืออะไร ประมาณช่วง ม.4 พอเราได้เข้าไปดูเเล้ว เเบบว่าอ้าวนี้เราไม่ใช่คนไม่เอาถ่านเเต่เราเป็นคนที่เอาทุกด้านเลยต่างหาก เลยทำให้เราทำได้ไม่สุดสักทางเพราะเราต้องแบ่งไปทำอันนู้นบ้างอันนี้บ้าง ไม่ได้มีเวลาจดจอกับเเค่สิ่งๆหนึ่ง เพราะฉะนั้นมนุษเป็ดทั้งหลายจงภูมิใจในตัวเองมากๆนะ ไม่ได้มีเเค่คุณคนเดียวเเต่ยังมีพวกเราอีกตั้งเยอะที่เป็นเหมือนกัน เราก็เเค่เบื่อง่ายเท่านั้นเอง ทำอะไรที่มีความสุขเเละก็ไม่เดือดร้อนคนอื่นก็ทำไปเลย ไม่จำเป็นว่าเราต้องมีความสุขกับเเค่สิ่งๆเดียว เราสามารถมีความสุขกับหลายๆสิ่งหลายๆอย่างได้ เรามันนักผจญภัยที่ต้องออกท่องโลกใหม่ๆเสมอ อย่าหยุดหาความสุขเเละอย่าหยุดออกผจญภัยเพียงเพราะคนอื่นบอกว่าคุณเป็นคนไม่เอาถ่าน เราเป็นกำลังใจให้มนุษเป็ดหลายๆคนที่เข้ามาอ่านนะ เเละหวังว่าจะชอบในการผจญภัยของเราไม่มากก็น้อยน๊าา^•^

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!