ผัวะ!
เสียงตบลูกปิงปองลงโต๊ะอีกฝั่ง ชายหนุ่มเก็บแต้มสุดท้ายไปได้อย่างสวยงาม ส่วนฝ่ายตรงข้ามเอามือกุมหัวเมื่อรับรู้ว่าตัวเองพ่ายแพ้ไปเรียนร้อยเดิมพันครั้งนี้คือซูซิหมุนที่ภัตตาคารระดับห้าดาว
“เก็บชอตเมื่อกี้ได้หรือเปล่า”
“ได้ค่ะพี่!”
ตากล้องสาวมองภาพหวดลูกปิงปองของแอมบาสซาเดอร์จากคณะนิเทศด้วยความพึงพอใจ ถึงเธอจะเป็นทีมงานของ lUCA Student Councilncil แต่ก็เป็นนักศึกษาของคณะของคณะนิเทศศาสตร์เช่นเดียวกับเขา เพราะฉะนั้น…การทำคลิปให้กับ 'คิรัน' จะต้องพิเศษกว่าคณะอื่นสักนิสสส มีการเก็บภาพชีวิตประจำของเขาประกอบด้วยการสัมภาษณ์ด้วย เพราะฉะนั้นหลังตัดต่อคลิปการแข่งขันนี้เสร็จก็จะมีภาพอิริยาบทยาบทถต่างๆๆ ของเจ้าตัวต่อท้ายเข้าไปด้วย
อย่าหาว่าลำเอียงนะ เพราะนอกจากคิรันจะอยู่คณะเดียวกับเธอแล้ว เธอยังแอบชื่อชมนิสัยใจคอเขาเป็นพิเศษด้วย อย่างตอนที่เธอมาขอสัมภาษณ์รวมถึงเก็บต่างๆๆ
คิรันไม่งี่เง่า…
จริงอยู่ว่าตามประสาสาหนุ่มเท่เก๋กู๊ดเหล่านี้จะเกลี๊ยดดดเกลีดการต้องมาโดนสัมภาษณ์ ถ่ายรูปรัวๆ ราวกับรู้กันดีว่าหนุ่มหล่อของมหา‘ลัยต้องเป็นคนขี้รำคาญ ไม่ชอบพรีเซนต์หนังหน้า เอ๊ย ใบหน้า ไม่ชอบก็หลบอยู่ตามหลืบ แอ็กติ้งเท่ๆๆ ครูๆๆอยู่เงียนๆ คนเดียว เห็นตามต้องคอยหลบเลี่ยงมีงานให้ช่วยทำก็จะต้องอิดออด พวกเธอต้องไปอ้อนวอนขอความเมตคาอะไรเทือกนั้น
ซึ่ง…มัน…โคตรน่าเบื่อเลย!
ทำงานให้กับทางมหาลัยนะ เกรดก็ไม่ได้เพิ่ม คะแนนช่วยต่ำเตี้ยเงินก็ไม่ได้! แล้วทำไมต้องมาเจอหนุ่มหล่อขี้เก๊กพวกนั้นอีก(ฟะ)เพราะฉะนั้นการได้ทำงานรวมกับคิรัว…จึงไม่ต่างอะไรกับคำว่า สวรรค์ มาโปรด 'อ้อ…น้องชายฝาแฝดของเขาก็น่ารักร่าชัง ทำงานด้วยง่าย เธอจึงรู้สึกชื่นชอบพี่น้องคู่นี้อย่างบอกไม่ถูก แม้จะรู้ว่าคิรันอยากจะกระโจนออกจากตำแหน่งแอมบาสซาเดอร์ขนาดไหน(ตามประสาหนุ่มหล่อที่ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นล่ะมั้ง) แต่เขาก็ไม่ได้เป็นตัวถ่วง หรือขัดขวางประมาณว่า นู่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้ ฉันรีบ ฉันรำคาญ ฉันนู่น ฉันนั่น ฉันนี่…
‘ขออัดคลิปคิรันวันนี้ทั้งวันได้หรือเปล่า'
‘ทั้งวัน'
"ไม่ได้เหรอคะ…คือคิรันก็ทำตัวตามปกติเลยค่ะ ทำอุไรก็ทำโลดดดด"
"เอาเถอะ ผมไม่ใช่คนถือกล้องอยู่แล้ว"
ง่ายไปป่ะเนอะ เธอนึกว่าจะต้องโดนสวดยับหาว่าวุ่นวาย บลาๆๆเอาเถอะ
คำเดียวจบ!แล้วเขาก็ปล่อยให้พวกเธอเก็บภาพอย่างเมามันโดยไม่ทำสีหน้ารำคาญ เหนื่อยหน่าย บลาๆๆ แบะๆๆ อะไรแบบนั้น แถมก่อนหน้านี้ที่จ้องถ่ายภาพลงเว็บ อัดคลิปสั้นๆ สัมภาษณ์นู่นนี่เล็กๆน้อยๆ เขาก็มาตามที่ขอ ไม่ต้องให้ไปลากตัวจากแดนสนธยาให้เหนื่อยยากลำบากลำบน(แต่มาตรงเวลากลับตรงเวลา ไม่มีแถมให้นะ) ถึงเขาจะไมใช่คนมีน้ำใจอย่างเหลือล้น แต่ก็ไม่ทำตัวงี่เง่าให้กลุ่มคนทำงานฟรีให้กับมหลัยอย่างพวกเธอต้องหนักใจ
"ฉันล้สงท้องรอละไอ้เควิน วันนี้เลยนะ"
"โห่ นี่ฉันต้องเลี้ยงแกอีกแล้วเหรอฟะไอ้รัน"
"แพ้แล้วจะเบี้ยวหรือไงวะ"
"ชิ!"
คิรันเดินหัวเราะครืนออกมาพร้อมกับเพื่อน แต่เมื่อเขาเห็นทีมงานสัมภาษณ์ที่ดักรออยู่ตรงทางออกของยิม เจ้าตัวจึงตระหนักได้ว่าวันนี้มีคนมาขอถ่ายภาพชีวิตประจำวันของเขาแล้วก็สัมภาษณ์อะไรสักอย่างในฐานะที่เขาได้เป็นแอมบาสซาเดอร์ แน่นอนว่าไม่อยากเป็นเลย กิจกรรมพวกนี้คงมาเบียดเบียนเวลาเล่นกีฬาของเขา แต่เอาเหอะ โดนเลือกมาแล้วนี่…(เลือกไปทำอะไรยังไม่รู้เลย-_-)มันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงสักเท่าไหร่ด้วย
"สัมภาษณ์เลยมั้ย>.<"
คิรันหันไปบอกเพื่อนให้เดินไปก่อน ส่วนเขาก็เดินไปที่ม้านั่งเพื่อจะได้เริ่มให้สัมภาษณ์ ทีมงานรีบตามมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ยอมให้เสียเวลายิ่งเห็นว่าเขาไม่เรื่องมากก็ยิ่งรู้สึกเกรงใจมากขึ้นไปอีกซะงั้น…
ตากล้องสาวซูมตรงไปที่ใบหน้าหล่อเลิศที่ผสมผสานถึงสามเชื้อชาติ ไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น เขามีผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีเทาคมกริบที่ให้ความรู้สึกสุขุมและแน่วแน่ ทว่าประกายที่วูบไหวอยู่ภายในก็ทำให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก คนคนนี้ไม่แข็ง…แต่ก็ไม่อ่อนจนเกินไป
"เริ่มที่ข้อแรกเลยนะคะ ช่วยแนะนำตัวหน่อยจ้า"
"คืรัน ปีสอง คณะนิเทศ สาขาภาพยนตร์ครับ"
"รู้สึกยังไงบ้างคะที่ได้รับเลือกให้เป็นแอมบาสวาเดอร์"
ผู้สัมภาษณ์รู้ดีว่าคำถามนั้นสิ้นคิด ถามแบบนี้ทีไรก็โดนตอกกลับหน้าหงายทุกทีT-Tแต่ทำไงได้ มันเป็นคำถามบังคับนี่นา
"ก็….ขอบคุณละกันครับที่เลือกผม"
โอ้…ขอบคุณที่ไม่หักหน้ากันค่ะT^T; ผู้สัมภาษณ์แอบคิดในใจ
"เอ่อ…เมื่อกี้เราเห็นคิรันตีปิงปอง นี่เป็นกีฬาโปรดของคุณเหรอคะ"
"ใช่ครับ…ที่จริงผมชอบเล่นกีฬามาก เพราะพ่อผมก็ชอบเหมือนกันเวลาอยู่กับพ่อ พวกเราจะใช้เวลาไปกับการเล่นกีฬาเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่เล่ยบ่อยๆก็คงเป็นปิงปองกับฟุตบอลนั่นล่ะครับ"
"ว่าแต่ว่าทำไมมาเลือกคณะนี้ล่ะคะ ทั้งๆที่มีคณะเกี่ยวกับกีฬาตั้งมากมายในมหาลัยเรา"
"นิเทศมีอะไรน่าสนใจเยอะมาก แล้วผมก็ชอบการทำงานเยื้องหลังอะไรพวกนี้"
"อ้อ…คิรันมีแฟรหรือยังคะ"
สิ้นเสียงปุ๊บ ผู้สัมภาษณ์แอบกดดันนิดหน่อย ชวนคุยเรื่องทั่วไปอยู่ดีๆ พุ่งมาที่คำถามส่วนตัวเฉยเลย เธอชักเริ่มไม่กล้ามองหน้าคิรันแล้วสิ
"ไม่มีครับ"
"จริงเหรอคะ!!!"
เธอแทบไม่เชื่อ คิรันน่ะหรือจะไม่มีแฟน! ก็เห็นอยู่กีบลิเดีย สาวอเมริกันสุดสวยอยู่พักใหญ่(มีคนนี้ล่ะที่ควงนานสุด)นั่นไม่ใช่แฟรหรอกหรือ!สาวในมหาลัยเกือบถอดใจแล้วเชียวนะ เพราะปกติคิรันเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยมาก ไม่รู้ว่าแฟนหรือเพื่อน เขามักอยู่กับพวกเด็กอินเตอร์ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับเด็กเอเซีย(ซึ่งทีมงานส่วนใหญ่ก็มีแต่เด็กเอเซีย) เลยไม่ค่อยมีข่าวอะไรมาให้คุยมากนัก ดราม่าให้ตามก็ไม่มี พอเห็นว่าเขาไปไหนมาไหนกับสาวผมบลอนด์หน้าเดิมนานๆ จึงอดฟันธงว่าพวกเขาเป็นแฟนกันไม่ได้
"จริงครับ"
"แหม…ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะเนี่ย โฮะๆ"
"หมดคำถามยังครับ-_-"
"อ๊ะ…อ่อ…เอ่อ คิรันมีสเป็กมั้ยคะ แบบว่าชอบสาวสไตล์ไหน"
"ตาฟ้า ผมบลอนด์ สูง ผิวสีน้ำผึ้ง"
อืม…ตรงกันข้ามกับพวกเราสุดๆกระซิก
"ดูเหมือนจะไม่ใช่สาวเอเซียเลยนะคะ"
"ไม่ใช่ครับ"
ผู้สัมภาษณ์สะอึก คุณชายก็ไม่คิดจะอ้อมค้อมถนอมน้ำใจกันเล้ยยยคราวนี้ความฝันของสาวๆผมดำ ตาดำคงจบลงเรียบร้อยแล้วในคลิปนี้ เธอไม่อยากถามอะไรอีกต่อไปแล้ว…หมดแรงจูงใจไปชั่วขณะ
"เอ่อ ถ้างั้นมาถึงคำถามบังคับเลยละกันค่ะ คิรันมาจากคณะนิเทศซึ่งใช่ตัวย่อว่า Comm-Arts อยากให้ช่วยนึกถึงคำศัพท์ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวคิรัน โดยใช้อักษรจากตัวย่อคณะนิเทศค่ะ"
"โอเคcมาจากComment"
"คอมเม้น…เพราะอะไรคะ ลืมบอกว่าต้องให้เหตุผลด้วยแฮะๆ"
"ผมคิดว่าทุกสาขาอาชีพ การได้รับคอมเม้นต์อย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมาจะช่วยให้เรามีประสิทธิภาพมากขึ้น"
"ต่อเลยค่ะ…"
"OมาจากรางวัลOscar(ออสการ์)ผมคิดว่าทุกคนที่ทำหนัง…ไม่มีใครไม่อยากสัมผัสเจ้าตุ๊กตาทองตัวนี้ เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศจริงๆ"
"คิรันอยากทำหนังเหรอคะ!"
"ก็ผมเรียนสาขาภาพยนตร์ไง-_-"
"อุ๊ย ลืมค่ะ-.-"
คิรันทำหน้าเอือมๆนิดหน่อย ก็เป็นแบบนี้ทั้งปี ไม่ค่อยมีใครใส่ใจรายละเอียดของเขาสักเท่าไหร่หรอก ทุกคนมอแต่…หน้าเขา หน้า หน้า หน้าแล้วก็หน้า!!! ทุกอย่างคือหน้าตาไปซะหมด
อยากรู้ชะมัดว่าถ้าไม่ใช่หน้าแบบนี้ จะยังมีใครมากริ๊ดมาโหวตให้เป็นแอมบาสซาเดอร์บ้าบออยู่นี่อยู่อีกมั้ย
"Mตัวแรกเป็นMovingeแล้วกัน ผมชอบดูหนัง"
"ฉันก็ชอบค่ะ!"
"Mตัวที่สอง…เอาเป็นManchesterer เมืองที่ผมเกิด แล้วก็เป็นทีมฟุตบอลสุดโปรดด้วย"
"คุณเป็นเด็กผีนี่เอง!"
ผู้สัมภาษณ์พยายามชวนคุยด้วยท่าทางกระตือรือร้น แต่คิรันกลับพูดต่อโดยไม่สนใจเธอสักนิด
"AมาจากActionมันเป็นคำสั่งเริ่มการถ่ายทำ"
"อ๋อ แอ็กชั่น!!!"
…ก็ยังพยายามอยู่-_-;
"Rมาจากคำว่าRightht"
"ด้านขวาเหรอคะ"
"เอ่อ…มันก็แปลว่าขวานั้นล่ั แต่ในความหมายถึงถูกต้อง…หรือไม่ก็หมายถึงใช่"
"คนที่ใช่ ใช่ไหมคะ!!!"
"ประมาณนั้น เอาล่ะ…สุดท้ายก็Sมาจากคำว่าSimilarlyar"
"ใกล้เคียง"
"ครับ"
"นี่คิรันกำลังจะบอกว่าที่โสดซิงไม่มีแฟนนี่คือกำลังตามหาคนที่ใช่และใกล้เคียงอยู่ใช่มั้ยค้า>0<"
คิรันมองคนสัมภาษณ์ตัวเองอย่างทึ่งๆทำไมถึงได้เอาไปปะติปะต่อจนเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้ ที่จริงเขาแค่นึกศัพท์ไม่ออกแล้วเท่านั้นเองก็เลสตอบๆไปเพื่อให้การสัมภาษณ์ยุติโดยเร็วที่สุดนั้นเอง
"ใช่ คนที่ใช่และใกล้เคียงกับคนอย่างผมที่สุด"
"แอร๊ยยยย>\~<"
แต่หนึ่งในล้านจะมีหรือเปล่า…ชายหนุ่มคิดในใจ
จบ23:17
ฉันชื่อ "ซัง" ค่ะ คุณอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ซอ-อะ-งอ ซัง\=_\= มันไม่ได้มาจากคำในภาษาไทยอย่างซังข้าว หรือซังกะตายอะไรแบบนั้นหรอกนะ มันเป็นชื่อภาษาจีนที่แปลว่า…ผู้หญิงที่มีความสวยงามมากกกก(ใครจะคิดว่าจากซังกะตายจะกลายเป็นสาวสวยในภาษาจีนได้เนาะ-_-)เห็นชื่อจีนจ๋าแบบนี้ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าฉันมีสายเลือดชาติไหนผสมอยู่ด้วยอันที่จริงดีเอ็นเอมันฟ้องอยู่บนหน้าเลยค่ะ! สมัยเด็กๆเวลาไปไหนตนชอบเข้าใจผิดว่าฉันหลับตาเดิน หลับตาวิ่ง หลับตากิน หลับตาดูทีวี…
อ๊ายยย จะบ้าหรือไงเล่า!! เป็นคนตาชั้นเดียวมันผิดตรงไหนฟะ\(ฟะ\)
ดีนะพอโตขึ้นมาตาฉันก็โตขึ้นตามลำดับ\(แต่ส่วนสูงกลับไปไม่ถึงไหนแทนซะงั้น\-\_\-\) เอาเป็นว่าฉันคือสาวไทยเชื้อสายจีน\(บ้านก็ดันอยู่เยาวราช ขายเกาลัดมาสี่รุ่น อร่อยเฟ่อร์\~\) พอเห็นหน้าหมวยๆแบบนี้ทีไร ใครต่อใครก็ต้องถามฉันว่าพูดภาษาจีนได้มั้ย…อ่านออกเขียนได้หรือเปล่า บลาๆๆๆ
เอ่อ!!!! มีเชื้อสายจีนแต่ฉันไม่ได้เป็นคนจีนนะเฟ้ย ถือพาสปอร์ตสัญชาติไทยนะ เกิดที่ไทย โตที่ไทย เอ๊ย! ยังไม่ตายแล้วฉันจะไปพูดภาษาจีนกับเค้าได้ยังไงกันเล่า แต่จะว่าไปแล้วฉันเองก็โตมากับภาษาจีนนะ อย่างเวลาที่ป่าป๊ากับหม่าม๊าสปีกไซนีสกันบ่อยๆ ฉันก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง เลยทำให้ค่อนข้างคุ้นเคยและพอรู้ศัพท์นู่นนี่อยู่ไม่น้อย ทว่าเมื่อเทียบกับญาติพี่น้องในรุ่นเดียวกันแล้ว ทุกคนต่างก็พูดภาษาจีนกันคล่องมากอย่าลูกพี่ลูกน้องที่อายุห้าขวบยังนับหนึ่งถึงร้อยเป็นภาษาจีนได้เลย ส่วนฉัน …เจ๊ก หนอ ซา สี่….พอเกินสิบนี่อั๊วไม่รู้แล้ว\=\_\=;;หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย ป่าป๊ากับหม่าม้าก็อยากให้ฉันเรียนต่อสาขาภาษาจีน จะได้ไม่น้อยหน้าญาติพี่น้องคนไหน พอถึงตรุษจีนเมื่อไหร่อาม่าจะได้ให้อั่งเปาเยอะๆด้วย แต่ทว่ามันสายไปเสียแล้ว ป่าป๊าส่งฉันเรียนโรงเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เล็กจนโตขนาดนี้ จะให้กลับลำก็ไม่ทันน่ะสิเคอะ😭;;;อีกทั้งฉันสอบติดมหาวิทยาลันอินเตอร์อันทรงเกียรติอย่าlUCAในคณะนิเทศศาสตร์สาขาศิลปะการแสดงด้วย!!!!
คุณพระ! จากภาษาจีนมาเป็นศิลปะการแสดงได้ยังไงหนูยังงง
(ทำไมจะไม่ได้ล่ะในเมื่อชื่อฉันที่แปลกๆ ยังแปลว่าสวยได้เลน-_-)
แต่ฉันไม่ได้ไปแสดงอะไรกับเค้าหรอกนะ โปรดอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ถ้าฉันไปเป็นนักแสดงจริงๆ เดี๋ยวคนดูจะหาว่าฉันหลับตาพูดอีก-_-คืออฉันเลือกเรียนไปทางด้านการทำงานเบื้องหลัง อย่างพวกเขียนบทและกำกับการแสดงอะไรประมาณนี้ล่ะ นี่คือมหาวิทยาลัยอินเตอร์อันดับหนึ่งของเอเซีย ใครสอบติดที่นี่ได้ก็ล้วนเป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อแม่ทั้งนั้น
"ซัง! แกได้ยินที่เค้าลือกันหรือยังว่าเราจะต้องเรียนกับพวกสาขาภาพยนตร์ด้วยนะเทอมนี้"
ฉันยักไหล่ไหวๆ ทำเหมือนไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่ สืบเนื่องจากมหาลัยlUCAขึ้นชื่อว่ามีการเรียนการสอนในเชิงบรูณาการอยู่แล้ว ถ้าจะจับสาขาเราไปเจอกับสาขาภาพยนตร์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือจับเด็กที่อยากสร้าหนัวกับเด็กที่อยากเขียนบทมาเรียนด้วยกันเมกเซ้นส์ดีออก
"แบบนี้เราก็มีโอกาศได้เรียนกับคิรันใช่มั้ยเนี่ย>0<"
"เออใช่! คิรันที่เป็นแอมบาสซาเดอร์คนนั้นใช่ป่ะแอ๋ม ฮิ้ว!\~ ต่อไปนี้ในชั่วโมงเรียนก็คงจะกระชุ่มกระชวยขึ้นแล้ว"
แปลกแต่จริงที่ว่าสาขาของฉันคลาคล่ำไปด้วยชะนี เอ๊ย สตรีเป็นจำนวนมาก ส่วนสุภาพบุรุษก็มีบ้างประปราย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประชากรสีม่วงเกือบทั้งหมด\(เผื่อใครไม่รู้ฉันหมายถึงเกย์\-\_\-\)ว่ากันตามตรงแล้วสาขาของเราแห้งแล้งผู้ชาย\(แท้ๆ\) มากเลยทีเดียว ไม่แปลกที่เพื่อนสาวจะตื่นเต้นกันถึงเพียงนี้
ฉันก็ใช่ย่อย อ่ะโฮะๆๆ
ก็คิรันน่ะดังจะตาย!!! เขาได้รับเลือกให้เป็นแอมบาสซาเดอร์ของคณะนิเทศ ลูกครึ่งไทย—อังกฤษ—ญี่ปุ่นอย่างเขา...อย่าให้อธิบายถึงความหล่อเลย โดดเด่นหาใครเปรียบเทียม\>\_<ตอนที่มหาลัยเปิดให้โหวตเพื่อหาแอมบาสซาเดอร์\(เลือกไปทำอะไรฉันยังไม่รู้เลบ\-\_\-’\)พอเห็นหน้าคิรันอยู่ในช้อยส์ ฉันก็กดรัวยิกๆ จนเม้าส์เจ๊งคานิ้วไปเลยจ้า สดท้ายเขาก็ได้เป็นตัวแทนของคณะเราจริงๆ ฉันกล้าพูดได้เลยว่าที่เขาได้รับเลือกนั่นก็เพราะแรงกอของฉัน ฮี่ๆ
"นี่ไงๆวิชาการสร้างภาพยนตร์2"
"อ้ายยยย ฉันอยากเรียนวิชานี้ทุกวันจังเลย!"
"ได้แบบนั้นก็ดีสิ คราวนี้ฉันจะได้เจอคนหล่ออย่างน้อยก็สามชั่วโมงต่ออาทิตย์ ฮี่ๆๆ น้ำลายจะไหล"
ฉันเลียริมฝีปากแผล็บๆทำจมูกบานไปด้วย-..-
"อี๋!!ซัง แกลามกอ่ะ"
"อุบาทว์ว่ะ ฉันน่าจะเอาหน้าแกตอนนี้ลงเฟสบุ๊กนะเนี่ย"
"เฮ้ย อย่าน้า>0<"
จากนั้นพวกเราก็หัวเราะกันครืน\~ พวกเราสามสาวสวย ซัง แอ๋ม และโบว์สนิทสนมกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง อดหลับอดนอนทำรายงานด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้(ก็เพิ่งปีสอง พูดเหมือนนานเลย ฮ่าๆๆ)
"ไปเถอะ กลับบ้านกันได้แล้ว"
"ป่ะๆ"
พวกเราสามช่าชิงร้อยชิงล้านก็พากันเดินออกจากคณะตามปกติ ในระหว่างที่รอไฟเขียวสำหรับข้ามถยย พอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นไฟเขียวปุ๊บยัยแอ๋มก็โพล่งขึ้นมาปั๊บ
"เฮ้ย เดี๋ยวฉันอยากซื้อชาไข่มุกที่ใต้สะพานก่อนดีกว่า ฉันอยากกินอ่ะ แหะๆ"
"ฉันก็อยากกินด้วย"
ฉันมองหน้าเพื่อนสองคนอย่างอึนๆ ทำไมต้องมานึกอย่างกินของอ้วนตอนนี้ด้วยฟะ แล้วตอนที่ยืนรอข้ามถนนทำไมไม่ไปซื้อเนี่ย พอไฟเขียวให้ข้ามได้ดันจะไปซื้อวะงั้น โว้!
"ดูมันทำหน้าเขา...เออๆๆ แกไปก่อนเลยก็ได้ซัง แกนั่งรถเมล์กลับบ้านส่วนพวกฉันนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ยังไงก็ต้องแยกกันหลังข้ามถนนอยู่ดี งั้นแยกกันตอนนี้ก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง"
เกิดการเปรียบเทียบขึ้นมากะทันหัน ทำไมฉันรู้สึกเหมือนตัวเองดูน่าสงสาร ทำไมฉันถึงกลับรถเมล์คนเดียว! แหม...ก็อยากนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่นะ แต่เยาวราชมันไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดินผ่านนี่หว่า นั่งไปลงสถานีหัวลำโพงก็ต้องต่อรถเมล์อีกอยู่ดี สู้นั่งต่อเดียวถึงบ้านไม่ดีกว่าเหรอ
"ไหนพวกเราสาบานว่าจะข้ามถนนตรงนี้ด้วยกันทุกวันไงล่ะ"
ฉันแกล้งตัดพ้อ โบว์กับแอ๋มมองหน้ากันเหลอหลา
"เอ่อ....ฉันไม่นึกว่าแกเอาจริงเอาจังเรื่องที่เราต้องข้ามถนนด้วยกันทุกวันขนาดนี้เลยซัง..."
ฉันกำลังจะบอกว่าล้อเล่น...
"งั้นพวกเราข้ามถนนไปส่งแกก่อน แล้วค่อยข้ามกลับมาซื้อชาไข่มุกก็ได้"
เอ่อ....บางทีเพื่อนฉันก็ซื่อบื้อเกินกว่าจะรู้ว่านี่เป็นมุก
"ยัยพวกบ้า! ฉันแกล้งพูดไปงั้นล่ะ! ไปๆๆ ไปซื้อชาไข่มุกของพวกแกไป ไว้เจอกันพรุ่งนี้"
"โอเค้ งั้นพรุ่งนี้อย่าสายล่ะ ชั่วโมงแรกของวิชาทำหนังกับคิรัน ฮิ้ววว\~"
"ไม่สายๆๆๆ แจ้ไม่สายแน่นอน^0^"
ฉันโบกมือให้เพื่อนอย่างร่าเริงก่อนจะวิ่งข้ามถนนไป
ชะอุ๊ย...0_๐สัญญาณรูปคนเป็นไฟสีแดง ก่อนที่ฉันจะทันได้ชักเท้า กลับขึ้นไปยังฟุตบาธ รถคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาที่ฉัน...
บรื้นนนนนนนนนนนนน
ฮก ลก ซิ่ว ช่วยลูกล่วยยยยยยย
โครม!!!!!
"ซัง!!!!!"
ปล.ค้างคาไปก่อนนะคะ 😭😆
😏😭😏😭😏😭😏😏😏❤️😏😏😏😏😏❤️❤️🤪😊✌🏻😍☺️✌🏻😍☺️🤪😂🤪😍☺️✌🏻😍☺️✌🏻☺️☺️✌🏻✌🏻😍😑😍😍🤪☺️😌🤪😍🤪☺️✌🏻😍✌🏻😍😁🤪🤪😊✌🏻🤪😍✌🏻😍🥲✌🏻😩🤪😍☺️🥲😑😆🥲❤️😆✌🏻😍🥹🤪🥲😳😘🤪🥲🥹😘😳😂🥲😩☺️😳😳😔😘😔😘😂✌🏻😑😩😂🤪😍😍😳😍🥹😳✌🏻😫😳
K❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️BK❤️B K❤️B
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!