เรื่องของผีทะเลมีหลายตำนานและเรื่องราวที่ได้ยินกันมาตั้งแต่อดีตโบราณ หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ "นาคปลาหลังใหญ่" ซึ่งเป็นตำนานที่เชื่อกันว่ามีจริงในภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย นาคปลาหลังใหญ่เป็นประเภทของนาคที่มีรูปร่างเหมือนปลาหลังใหญ่ มีหางเป็นหางปลา จะปรากฎขึ้นมาในช่วงเวลาที่น้ำทะเลร่วงตัวและอากาศเปลี่ยนแปลง มักจะถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังเวทมนต์และมีความผูกพันกับการเกิดเหตุร้ายแรงในทะเล

นาคปลาหลังใหญ่มักถูกเชื่อว่ามีพลังเวทมนต์และอาจเป็นปรากฏการณ์ในหลายตำนานเรื่องผีทะเลในท้องทะเลตะวันออก มีเรื่องราวของชาวประมงที่ได้พบเจอนาคปลาหลังใหญ่ในการล่าสัตว์ทะเล ซึ่งมักจะเกิดอาการไม่สะดวกสบายหรือโชคร้ายต่อชาวประมง บางครั้งก็มีเรื่องราวที่ผู้คนที่เดินเรือไปใกล้ชายฝั่งพบกับนาคปลาหลังใหญ่ที่ปล่อยลมหมุนร้าน เป็นเหตุให้เกิดอาการร้อนไข้หรือโรคที่ไม่แน่ใจว่ามาจากอะไรก็ได้ ถึงแม้ว่านาคปลาหลังใหญ่จะเป็นเรื่องที่น่ากลัวและเป็นสิ่งกลางโทษ แต่ก็ยังมีการเชื่อว่ามีวิธีในการหลบหนีหรือป้องกันตัวได้ หนึ่งในวิธีที่เชื่อกันมากที่สุดคือการนำเสนอเครื่องแต่งกายหรือตัวเล่นที่สะท้อนแสงแดดอย่างสวยงามเพื่อขอปกป้องหลบหนีจากความอันตรายของนาคปลาหลังใหญ่ได้ เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตำนานและความเชื่อที่เป็นส่วนหนึ่งของชาวประมงและชุมชนชายฝั่งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย

นอกจากนาคปลาหลังใหญ่แล้ว เรายังได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ "ผีดิบ" ในท้องทะเลด้วย ผีดิบเป็นตำนานที่มีต้นกำเนิดจากชาวเรือในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาเชื่อว่าเมื่อมีคนเสียชีวิตในทะเล จะเกิดปัญหาต่อวัฒนธรรมการประมงและการเดินเรือ ดังนั้นพวกเขาได้สร้างเรื่องราวขึ้นมาเกี่ยวกับผีดิบ เป็นผีที่เกิดจากวิญญาณของผู้เสียชีวิตในทะเลที่ไม่มีการปล่อยตัวออกมา เพื่อแสดงให้คนในชุมชนรู้ว่ามีความสำคัญในการเคารพชีวิตในทะเลและอย่าละเมิดทรัพยากรธรรมชาติในทะเล ผีดิบมักถูกเชื่อว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น แต่ในบางเรื่องนั้นก็มีการเล่าถึงการเอาตัวรอดจากผีดิบด้วยวิธีการซึ่งช่างอัจฉริยะและสร้างความสะดวกให้กับชาวเรือที่จะเผชิญหน้ากับความอันตรายในทะเล ผีดิบเป็นส่วนหนึ่งของสืบทอดวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวเรือในทะเลตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องตนเองและความเชื่อของชุมชนท้องถิ่น

นอกจากนี้เรายังมีเรื่องราวของ "ผีน้ำ" ในท้องทะเลด้วยครับ/ค่ะ ผีน้ำเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกเชื่อว่าอาศัยอยู่ในน้ำ มักจะมีลักษณะเป็นคนหรือสัตว์ที่เป็นน้ำ เช่น เงือก, นางเงือก หรือวัวน้ำ มีเรื่องราวของชาวประมงที่ได้ยินเสียงดังของเครื่องดนตรีหรือเสียงเพลงดนตรีใต้น้ำขณะที่ทะเลเงียบสงบ นับเป็นเครื่องหมายที่มีผีน้ำปรากฏอยู่ในบริเวณนั้น มักมีการเล่าเรื่องราวของผู้ที่มีประสบการณ์กับผีน้ำว่าได้พบเห็นกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่เป็นธรรมชาติในน้ำ ซึ่งการพบเห็นเช่นนี้มักจะก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความสะเทือนใจให้กับผู้ที่มีประสบการณ์นี้ นอกจากนี้ ผีน้ำยังเป็นส่วนหนึ่งของตำนานและเรื่องราวที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประชาชนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งและเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์กับทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเป็นองค์กรธรรมชาติและการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนและคงอยู่

นอกจากนี้ เรื่องราวของผีทะเลยังเป็นที่น่าสนใจในวงการวรรณกรรมและศิลปะด้วย มีหลายเรื่องนิยายและภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผีทะเลอย่างน่าตื่นเต้น เรื่องราวเหล่านี้มักจะผสมผสานกับความลึกลับและสมบัติของทะเลให้กับผู้ชมและผู้อ่าน การสร้างตัวละครผีทะเลที่น่ากลัวและดึงดูด รวมถึงการสร้างฉากที่มืดมนและน่าเกลียดชักช้า เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความตื่นเต้นและความสะท้านใจในการสำรวจโลกใต้ทะเลที่ยังคงมีความลึกลับอยู่อีกมากมายง

งนอกเหนือจากนักเขียนและผู้สร้างภาพยนตร์ที่นำเรื่องราวของผีทะเลมาสร้างเป็นผลงานศิลปะ เรื่องราวของผีทะเลยังได้ถูกนำเสนอในวงการวิทยาศาสตร์และการสำรวจทะเลด้วย บางครั้งเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในทะเลที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือศรัทธายังได้เรียกร้องความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์และนักสำรวจ โดยมีการสืบค้นและศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าใจพฤติกรรมและลักษณะของสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล การสำรวจและการค้นคว้าเหล่านี้ช่วยให้เราได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับโลกใต้ทะเลและการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมที่อาจมีผลต่อชีวิตบนโลกในอนาคต