รั้วมหาลัย University Fence
Episode 1
[ลิขสิทธิ์ทางปัญญาของสงวนสิทธิ์ไว้ ณ ที่นี้ด้วย]
⚠️ขำเตือน⚠️ อะฮุฮิฮุฮิ เอ้ย!ไม่ใช่
เนื้อหาดังต่อไปนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนอาจมีคำหยาบและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ
วันนี้เป็นเช้าที่สภาพอากาศของปลายฤดูร้อนที่มีเมฆมากจนปิดบังดวงอาทิตย์บางส่วนจนแทบมิดของเดือนพฤษภาคม
เสียงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นของนักเรียนที่พึ่งมาเหยียบมหาลัยในฐานะนักศึกษา
วิกตอเรีย
อา~ร้อนชะมัดเลย...
เสียงแหลมนุ่มของคนขี้หนาวที่กำลังนอนบนตักของเพื่อนอย่างเบื่อหน่ายและบ่นกับความร้อนระอุอย่างกับจะละลาย
มิลค์
นี่เราสอบเข้ามาเป็นกระบองเพชรกันรึไงเนี่ย?//สะบัดพัดไปมา
หญิงสาวนั่งพิงกำแพงพร้อมโบกพัดในมือไปมามีหวังให้มีลมพัดผ่านมาคลายความร้อน
มิลค์
ขนาดนั่งอยู่ในร่มก็ร้อนจะตายอยู่แล้วถ้ามีแดดจะร้อนขนาดไหน?
มิลค์
ขนาดนั่งพัดอยู่ยังไม่เย็นขึ้นเลย
วิกตอเรีย
พัดให้ตายยังไงก็คงจะมีแต่ร้อนขึ้นอยู่ดี
ไม่ทันจะได้ตัดพ้ออะไรมากเสียงโทรโข่งของรุ่นพี่ก็ดังขึ้นอย่างขัดจังหวะ
อมันดา
น้องๆคณะแพทย์ปี 1 ทุกคนคะ โปรดมารวมตัวกันที่ใต้ตึก 1 ของคณะค่ะ!
วิกตอเรีย
ต้องแยกกันแล้วสินะ ขอบคุณสำหรับตักค่–?!//กำลังลุกขึ้น
อยู่ก็มีขวดน้ำเย็นมาแตะอยู่ที่หัวของทั้ง2คน
เสียงเรียบไร้อารมณ์ผิดกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคนที่ซื้อน้ำมา
มิลค์
ฮีล?ที่แท้ก็ไปซื้อน้ำนี่เองก็ว่าหายไปไหนตั้งนานแน่ะ~!//กระโดดกอด
ฮีลเลอร์
อ..โอ้ย!หนักขึ้นเยอะเลยนะยัยบ๊อง//ยีหัวมิลค์
ชายร่างสูงโปร่งยื่นน้ำให้วิกตอเรียพลางแกล้งมิลค์
วิกตอเรีย
ขอบใจ//รับน้ำมาดื่มทันทีด้วยความกระหาย
อมันดา
น้องๆคนไหนรู้ตัวว่าเป็นนักศึกษาแพทย์ปี1ช่วยไปรวมตัวอยู่ที่ใต้ตึก 1 ของคณะด้วยค่ะ!//ตะโกนผ่านโทรโข่งอีกครั้งเพื่อย้ำเตือน
ไม่ทันได้ดื่มได้มากนักก็ได้มีเสียงโทรโข่งตะโกนเรียกนักศึกษาแพทย์ไปประจำอยู่ที่ใต้ตึก 1 ของคณะอีกครั้ง
วิกตอเรีย
กูคงต้องไปแล้วจริงๆแหละ ไว้เจอกันนะ//รีบวิ่งไปตามสถานที่ที่กำหนด
เมื่อคนตัวเล็กเก็บสัมภาระที่วางไว้ข้างๆตนเองเสร็จก็รีบวิ่งออกไปตามจุดที่นัดหมายทันที
ทั้ง2เพื่อนสนิทที่ตามติดมาอยู่ในมหาลัยเดียวกันแต่อยู่คนละเส้นทางความฝันโบกมือลาอย่างเป็นมิตร
ผ่านไป15นาทีก็วิ่งมาถึงจุดนัดรวมตัวของคณะ
วิกตอเรีย
แฮก..แฮก...!(ทำไมมันถึงได้ไกลขนาดนี้กันนะ?)//เหนื่อยหอบ
อมันดา
สวัสดีค่ะน้องๆ วันนี้พี่"อมันดา"อยู่คณะแพทย์ปี 2 เป็นพิธีกรข้างต้นของวันนี้นะคะ
เธอพูดใส่ไมโครโฟนที่ถืออยู่พลางยกป้ายที่ห้อยคอไว้ขึ้นเพื่อเป็นการบอก
[Insting : Aman_aquarius]
อมันดา
ก่อนที่จะทำกิจกรรมพี่จะรบกวนน้องๆช่วยเขียนชื่อที่ป้ายที่พวกพี่กำลังจะแจกให้หน่อยนะคะ
ทันทีที่พูดจบกลุ่มคนที่เป็นรุ่นพี่เดินออกมาจากหลังเวทีแล้วค่อยๆแจกป้ายห้อยกระดาษพร้อมกับปากกาเมจิกสีดำคนละแท่ง
เวย์
นี่สำหรับน้องค่ะ// ยิ้มอย่างสดใส
ผมตรงยาวสีทองยิ้มหวานพร้อมนำอุปกรณ์ที่ถูกบังคับให้แจกยื่นให้พร้อมกับขนมบางส่วน
วิกตอเรีย
ขอบคุณค่ะ—?!//รับมา
ขณะที่มือขาวเรียวยาวกำลังรับขนมและสิ่งของจากคนที่อายุมากกว่าก็ถูกจับแขนข้างหนึ่งไว้แน่นพร้อมกับจับคางให้เชิดขึ้นจนเกือบทำให้ริมฝีปากของทั้ง2บรรจบกัน
ของที่ได้รับมาทั้งหมดที่ได้มาหล่นลงกระทบกับพื้น
เวย์
เราน่ะตาสวยมากเลยนะรู้ไหม?//กระซิบ
รั้วมหาลัย university fence
Episode 2
สงครามปราสาทฟางสีเทาที่รั้งตัวตนไว้
เวย์
เราน่ะตาสวยมากเลยนะรู้ไหม?//กระซิบ
ทันทีที่คนตัวเล็กกว่ารู้ตัวก็รีบผลักคนที่อายุมากกว่าออก
เวย์
ห..หึ้ยยยย?!พ..พี่ขอโทษพี่เเค่อยากแกล้งเราเล่น//ลนลาน
คนที่ถูกหยอกล้อมองตาขวางใส่ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่พอใจ
เวย์
เป็นเด็กที่sensitiveจังเลย
ไวน์
เขาไม่ได้sensitiveแต่เป็นมึงนั่นแหละที่เล่นแรงเกินไป
เสียงทุ้มต่ำเหมือนพึ่งตื่นของคนเป็นที่น้องชายที่เอือมระอาพี่สาวของตนเต็มที่
เวย์
แต่กูว่ากูก็ไม่ได้เล่นแรงขนาดนั้นสักหน่อย!//เมินเฉย
ไวน์
เฮ้อ...ตรงนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก//ลากเวย์ไปที่หลังเวที
จากการทำกิจกรรมรับน้องที่เหนื่อยเป็นทุนเดิมแล้วก็ถูกถาโถมความเหนื่อยจากการเล่นสงครามปราสาทที่เล่นกับคนที่เกิดก่อนตัวเอง2นาทีที่ไม่รู้จักโตกันมาตลอดชีวิตจนเกือบสุดจะทน
เวย์
มีอะไรเทศนากูอีกล่ะ?//กรอกตามองบน
ดวงตากลมโตกรอกตามองบนพร้อมพูดคำพูดประชดประชันด้วยความรำคาญ
ไวน์
คือมึงฟังกูนะ"ไม่ใช่ทุกคนนะที่จะenjoyไปกับสิ่งที่มึงเล่นตลกเหมือนเด็กไม่รู้จักโตอ่ะ"
เวย์
กูแค่อยากให้บรรยากาศมันสนุกขึ้นเองอ่ะ กูแค่ไม่อยากให้น้องเขาเครียด
ไวน์
บรรยากาศสนุกขึ้นหรอ?ไม่อยากให้น้องเขาเครียดหรอ?
ไวน์
อยากให้บรรยากาศมันสนุกขึ้นหรอ?มึงรู้ไหม?ถึงมึงจะทำให้บรรยากาศมันสนุกขึ้นได้ก็จริงแต่น้องเขาก็ไม่สนุกด้วยหรอกนะ!
ไวน์
"มึงเหมือนกับทำให้น้องเขาดูเป็นตัวตลกอ่ะ"
ไวน์
อีกอย่างบรรยากาศมันก็สนุกดีอยู่แล้วแล้วมึงจะทำแบบนี้อีกทำไมอ่ะมึงต้องการให้มันสนุกขึ้นอีกมากแค่ไหนหรอ?ถึงมึงจะพอใจอ่ะ?
เสียงพูดคุยของ2พี่น้องเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆจนกลุ่มคนที่เป็นสตาฟประจำอยู่หลังเวทีเริ่มถอยออกห่าง
เวย์
ก็มึงเองนั่นแหละที่ทำให้บรรยากาศมันเครียดอ่ะ!มึงเคยทำอะไรสำเร็จบ้างไหมถ้าไม่มีกูอ่ะ?!
ไวน์
อย่าพาลดิ่!นี่เราคุยเรื่องอะไรกันอยู่อ่ะ?!มึงหัดแยกแยะบ้างดิ่ ใช้วุฒิภาวะของตัวเองให้เป็นประโยชน์ดิ่!ไม่มีใครอยู่ให้มึงทำตัวเป็นเด็กได้ตลอดชีวิตหรอกนะ!!
เวย์
ฮึก...!//น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
คนเป็นพี่เริ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดหลายคนที่อยู่รอบๆเริ่มค่อยๆถาโถมเข้ามารุมปลอบและต่อว่าคนน้อง
ไม่ต่างกับความรู้สึกโศกเศร้า โกรธ เกลียด และชินชา ที่ถาโถมเข้ามาในจิตใจของผู้ที่เป็นน้องชายอย่างล้นหลามอีกครั้ง
เหมือนฟางที่รั้งเขาไว้อีกเส้นกำลังจะถูกตัดขาดลงไปอย่างสิ้นเชิง
มิเกล
ทำไมต้องว่าไอเวย์แรงขนาดนั้นด้วยวะ?!เป็นเหี้ยอะไรมากป้ะ?มึงมีวุฒิภาวะตายห่านั้นแหละ!//กอดเพื่อนสนิทของตนเอาไว้เแน่น
ความรู้สึกหน่วงที่สะอิดสะเอียนอย่างจุกอกเหมือนลูกตุ้มที่ถ่วงตัวของเขาเอาไว้
เขาขอเพียงมีใครสักคน..ไม่สิ!
ขอเพียงแค่เขานั้นได้วิ่งหนีออกมาอย่างอิสระโดยไม่ต้องมานั่งกังวลอะไรวิ่งหนีออกมาอย่างสบายใจ และวิ่งออกมาให้ไกลที่สุดเท่าที่ในชีวิตนี้ของเขานั้นจะทำได้
ให้ไกลจาก"ความมืดมน"ที่ตัวเขานั้นต่อสู้กับมันมาทั้งชีวิต
รั้วมหาลัย university fence
Episode 3
อมันดา
(ให้ตายเถอะ...)//อึ้ง
ความชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นอย่างแยกแยะเวลาไม่ถูกของคนกลุ่มหนึ่งผู้ที่ถูกเรียกว่า"รุ่นพี่"และคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่"วัยผู้ใหญ่"จนดูเป็นภาพที่น่าอดสูอย่างกับเด็กอนุบาลตีกัน
มิหนำซ้ำยังอุส่าเข้าไปรุมด่าคนที่ตักเตือนพี่สาวของตัวเองที่ทำภาพที่อุบาทตาโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมอีก
แต่ตอนนี้ตัวเธอนั้นคงยังทำอะไรไม่ได้นอกจากทำให้สถานการณ์สงบลง
ไม่งั้นถ้าไปสะสางเรื่องราวทุกอย่างตอนนี้ก็คงจะกลายเป็นคนที่"แยกแยะไม่ออกแม้แต่หน้าที่ของตน"ที่เธอว่าในใจเอาไว้ในข้างต้น
"เป็นคนประเภทที่เธอเกลียดมากที่สุด"
อมันดา
สตาฟด้านหลังเวทีคะกรุณาเงียบสักครู่หน่อยได้ไหมคะ?
คำพูดที่ปราณีและนุ่มนวลที่สุดเท่าที่เธอจะคิดออกในตอนนี้
มันอาจดูเป็นประโยคขอร้องแต่จริงๆแล้วนี่คือประโยคคำสั่งต่างหาก
อมันดา
ถ้าไม่อยากอายรุ่นน้องน่ะค่ะ
เมื่อสิ้นสุดประโยคลงเสียงที่ฮือฮาของรุ่นพี่สตาฟหรือแม้แต่รุ่นน้องบางส่วนที่ได้ยินเธอดุสตาฟเองก็ค่อยๆเงียบลง
จนในที่สุดทุกอย่างก็เงียบลงจนเหลือแต่เสียงลมที่พัดเข้ามาใต้อาคารโปร่ง
อมันดา
เห้อ...//สูดหายใจเข้า
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเป็นการปรับอารมณ์
อมันดา
เอาล่ะค่ะ~!เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มกิจกรรมที่1ได้ค่ะ!
ปลายเล็บของนิ้วเรียวยาวที่ไม่ได้แต่งแต้มสีใดๆแต่กลับเป็นสีแดงเข้มใสอย่างน่าประหลาดเคาะกับพื้นไม้เพื่อให้เกิดเสียง
อมันดา
คะ?มีอะไรให้พี่ช่วยเอ่ย?(น้องที่โดนเวย์แกล้งเมื่อกี้สินะ?)//ย่อตัวลง
ย่อตัวลงให้อยู่กับคนข้างล่างมากที่สุดโดยไม่เสียมารยาทเพื่อให้เกียรติ
วิกตอเรีย
//หยิบโบว์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
โบว์ที่ถูกถักด้วยผ้าไหมสีขาวนุ่มลื่นเล่นแสงกับแสงที่สะท้อนออกมาที่หายไปของผมแกะยาวสีชมพูที่ถูกไฮไลท์ด้วยสีแดงเข้มสดข้างหนึ่ง
อมันดา
อ๊ะ?(หายไปตอนไหนกัน?)
วิกตอเรีย
อันนี้ของพี่ใช่ไหมคะ?มันตกพื้นแต่โชคดีที่ยังไม่ถูกเหยียบ
อมันดา
ใช่ค่ะของพี่เอง ขอบคุณมากๆเลยนะคะ~!(โชคดีจังที่น้องเก็บมาให้)//หยิบโบว์ขึ้นจากมือของอีกคน
อมันดา
(พอไม่มีกระจกแล้วผูกยากจัง)//พยายามจะผูกโบว์กลับไป
ไม่ว่าจะพยายามผูกกลับไปกี่ครั้งโบว์เส้นไหมก็ลื่นทำท่าว่าจะหลุดมือไปซะทุกครั้ง
อมันดา
ขอบคุณค่ะ(ต้องพึ่งน้องเขาอีกแล้ว ฮือออ น่าอายชะมัด...)//ยื่นโบว์เส้นไหมให้
เธอยื่นโบว์เส้นไหมส่งให้กับคนที่เก็บได้พร้อมกับค่อยๆโน้มตัวเพื่อลงไปข้างหน้าเพื่อให้ผูกโบว์ให้กับเธอได้ง่ายขึ้น
อมันดา
(ปกติเวทีมันสูงขนาดนั้นเลยหรอ?)
สายตาที่ก้มลงต่ำจนเห็นเรือนร่างทั้งหมดของคนที่กำลังผูกโบว์ให้ในมุมสูงที่ปลายเท้ากำลังเขย่ง(อย่างสุดชีวิต)อยู่
วิกตอเรีย
เสร็จแล้วค่ะ(เหมือนจะเป็นตะคริวแฮะ...)
ปลายเท้าทั้ง2ข้างที่ฝืนเขย่ง(อย่างสุดชีวิต)มานานจนกล้ามเนื้อหดเกร็งตัว*ทำให้ต้องรีบเดินไปนั่งให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เจ็บไปมากกว่านี้
ตะคริว เป็นอาการที่กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งตัวอย่างฉับพลัน มีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ทำให้เกิดความเจ็บปวดบริเวณที่กล้ามเนื้อหดเกร็ง บริเวณที่เกิดได้บ่อยคือกล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและด้านหน้า ส่วนการเป็นตะคริวตอนกลางคืนขณะนอนหลับที่ทำให้ต้องตื่นมากลางดึก จะเรียกว่า “ตะคริวตอนกลางคืน (Nocturnal Leg Cramps)”
อมันดา
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ~!ส่วนป้ายที่น้องยังไม่ได้รับรับได้ที่พี่
สตาฟตรงนั้นได้เลยนะคะ..?(หายไปแล้ว?)
มือที่ผายไปทางสตาฟที่ดูแลเรื่องอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมเพื่อเป็นการแนะทางให้คนที่ผูกโบว์ให้แต่พูดไม่ทันขาดคำตัวของเธอคนนั้นก็ได้หายไปแล้ว
รั้วมหาลัย university fence
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!