NovelToon NovelToon

ข้าคือพรหมยุทธ์กระบี่

1

 

 

ย้อน กลับไปเมื่อ 1 เดือนก่อน ผมชื่อ บอส อายุ23ปี ผม เป็นเด็กกำพร้า และด้วยเพราะว่าเป็นเด็กกำพร้า และอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก

พอเรียน จบม.6 ผมจึงตัดสินใจ ออกจากบ้านเด็กกำพร้า ออกมาหาห้องเช่าอยู่ และ ตัดสินใจ ไม่เรียนต่อ แต่ไปสมัครงาน หางานทำตั้งแต่อายุ 19 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็น ร้านอาหาร 2 ชั้น  จนผมอายุ23ปี  

ผมนั้นชอบอ่านนิยายและดูอนิเมะหรือซีรีย์ที่เกี่ยวกับแฟนตาซีกำลังภายใน มากๆ มากถึงขนาดที่ว่าเข้าขั้นออกไปทางบ้าเลยเเหละ และนิยายที่ผมติดมากคือ  จอมยุทธ์ภูติถังซาน ซึ่งผมมักจะมานั่งดูหลังเลิกงานเป็นประจำ

แต่วันนั้นหลังเลิกงานพอกลับมาถึงห้องก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นพอผมกลับมาถึงห้องและเปิดประตูห้องเข้ามาจู่ๆก็มีหลุมดำขนาดใหญ่ดูดผมเข้าไปข้างในข้างในหลุมดำนั้นมีแรงกดดันมหาศาลจนทำให้ผมนั้นสลบไป และพอตื่นขึ้นมาผมก็อยู่ที่นี่แล้ว

" ที่นี่ คือที่ไหน ?"

คือคำพูดแรกที่ผมพูดขึ้นมา หลังจากที่ ตื่นขึ้นมา และผมตกใจมาก ที่มองเห็น สภาพแวดล้อมรอบข้าง ที่ มีแต่ป่าเต็มไปหมด ใกล้ๆจุดที่ผมนอนอยู่มีน้ำตกเล็กๆห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ ความรู้สึกในตอนนั้นคือผมทั้งตกใจทั้งกลัวจนอยากจะร้องไห้เพราะผมไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน และไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือมันเป็นเพราะหลุมดำนั้นที่ดูดผมมา ตอนนั้นผมรู้สึกมืดแปดด้านไปหมด

 

แล้วอยู่ๆ ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับโลกนี้ก็ได้ไหลเข้ามาในหัวของผมจนผมรู้สึกปวดหัวและนั้นทำให้ผมได้รู้ว่าในโลกนี้มีการใช้พลังที่เรียกว่าพลังธาตุ ทุกคนบนโลกนี้ สามารถปลุกพลังธาตุได้ ตั้งแต่อายุ 6 ปี แต่ผม นั้นไม่มีพลังธาตุ  

โลกแห่งนี้ เรียกว่า ทวีปเทียนหลง ทวีปนี้แบ่งออกเป็น 5 แคว้น ได้เเก่ แคว้นฉู่    แคว้นฉี   แคว้นอี้   แคว้นหวง   และแคว้นหู่   ในโลกนี้คนที่ไม่มีพลังธาตุ จะไม่สามารถฝึกฝนได้และถูกเรียก ว่าเป็นขยะ  

ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั้นภายในตัวของผมก็เกิดมีพลังงานบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น ในขณะที่ผมกำลังงุนงงอยู่นั้น จู่ๆ สิ่งแวดล้อมรอบข้างผมก็เปลี่ยนไป

ผมได้เข้าไปยังที่ ที่หนึ่ง ที่นั่น มีทุ่งหญ้าและมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ และมีอากาศที่บริสุทธิ์กว่าป่าที่ผมตื่นขึ้นมาตอนแรกเป็นอย่างมาก บริเวณใกล้ๆนั้น มีบ้าน1หลังตั้งอยู่ และตรงข้างบ้านมีบ่อน้ำที่เป็นบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ข้างๆและถัดออกไป ก็จะมีแปลงพืชผักผลไม้ต่างๆ ปลูกขึ้นอยู่เรียงราย ด้านหลังบ้านที่เป็นบ้านก็มีต้นผลไม้มากมายหลายชนิด พร้อมทั้งสมุนไพรต่างไปขึ้นอยู่กันเต็มไปหมด

" นี้มันที่ไหนกัน ! "

ผมร้องอุทานออกมาอีกครั้ง ด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น พอหายตกตะลึงผมก็เลยได้สำรวจดูว่าที่นี่คือที่ไหนมีใครอยู่หรือเปล่าก็ปรากฏว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากผมคนเดียว

พอเข้าไปดูในตัวบ้านก็พบกับสิ่งของต่างๆเหมือนกับบ้านปกติทั่งไปในโลกที่ผมจากมา ทุกอย่างในบ้านสามารถใช้ได้ตามปกติ ต่างกันที่เวลาผมหยิบของอะไรขึ้นมา ก็จะมีอันใหม่โผล่ขึ้นมาแทนอันเก่า พวกพืชผักผลไม้ที่ปลูกอยู่นอกบ้านก็เช่นเดียวกัน

และนั้นทำให้ผมรู้ว่าที่ที่ผมอยู่นี้คือมิติส่วนตัวของผมเอง เหมือนในนิยายแฟนตาซีหลายๆเรื่องที่ผมเคยอ่านมา

" นี่เรามาอยู่ในโลกแฟนตาซีเหรอเนี่ย! "

ผมอุทานขึ้นในใจเมื่อได้สำรวจที่นี่ทั้งหมดแล้ว

 

และจากการที่ผมได้ทดลองอะไรหลายอย่างในระยะ1เดือนมานี้ทำให้ผมได้รู้ว่า 1วันของโลกภายนอก เท่ากับ1วันในมิติ และผมก็ยังได้รู้ว่าผมก็สามารถใช้พลังได้เหมือนกันแต่พลังของผมนั้นเป็นพลังวิญญาณยุทธไม่ใช่พลังธาตุ ซึ่งคนในโลกนี้ก็ไม่รู้จักวิญญาณยุทธ

ซึ่งวิญญาณยุทธของผมนั้นเป็นวิญญาณยุทธคู่ นั้นก็คือ วิญญาณยุทธ กระบี่เฉินซิน และ วิญญาณยุทธหอแก้ว 9 สมบัติเหมือนในเรื่องถังซาน ในตอนที่ผมรู้นั้นผมดีใจเป็นอย่างมากที่ผมสามารถใช้พลังได้ แถมใช้ได้โดยไม่ต้องฝึกอีกด้วย เเค่พูดทักษะออกมาเหมือนในอนิเมะ ก็ใช้งานได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะใช้งานได้ตามใจผมสะมากกว่า

ส่วนระดับพลังของผมนั้นผมว่าน่าจะอยู่ในระดับ99ไม่ก็ระดับ100 โคตรจะแฟนตาซี

 

นี้ก็ผ่านมา1เดือนแล้วที่ผม ได้มาอยู่ในโลกแห่งนี้ ผมก็ได้แต่นั่งๆนอนๆอยู่ในมิติจนผมรู้สึกเบื่อคิดอยากจะออกไปข้างนอกบ้าง

ผมคงยังไม่ได้บอกสินะครับว่า เมื่อผมมาอยู่ในโลกนี้แล้วผมจึงได้เปลี่ยนชื่อเพื่อให้เข้ากับโลกใบนี้ว่า ไป๋ชิง

เเละตอนนี้ก็ใกล้จะถึงแล้ว ที่ผมควรที่จะออกไปจากป่าแห่งนี้ แล้ว เพื่อที่จะเข้าไปสำรวจในเมือง ในวันพรุ่งนี้

ซึ่งต้องบอกให้รู้ก่อนว่าป่าที่ผมอยู่นี้ เรียกว่าป่าเทวะทมิฬ ที่อยู่ในแคว้นฉู่ และแคว้นฉู่เป็นแคว้นใหญ่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้ง 4 แคว้น ซึ่งป่าเทวะทมิฬเป็นป่าที่มีสัตว์อสูรที่ดุร้ายอาศัยอยู่มากมายคนธรรมดาจึงไม่กล้าเข้ามาอยู่ในป่าแห่งนี้

จะได้เวลาสำรวจโลกใบนี้แล้วววว

 

 

2

 

หลายคนอาจสงสัยว่าหลังจากที่ผมมาอยู่ที่นี่หน้าตาผมเป็นยังไงต้องบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าผมเป็นคนที่หน้าตาดีอยู่แล้ว พอมาอยู่ที่นี่หน้าตาของผมยิ่งดูดีไปกันใหญ่บวกกับผมที่ยาวสลวยเหมือนคนจีนโบราณในซีรีย์กับชุดที่ผู้ชายในซีรีย์จีนโบราณใส่กันบวกกับหน้าหวานๆสดใสของผมจึงเสริมทำให้ผมดูสวยมีเสน่ห์ราวกับนางเซียน (ผมไม่ได้อวยตัวเองนะจิงจิ๊งง) ใครได้เห็นหน้าผมคงมีตกตะลึงกันบ้างแหละขนาดผมเห็นตัวเองผมยังรู้สึกเขินเองเลย ฮ่าๆ

เพราะว่าเป็นอย่างนี้ ผมเลยได้สร้างหน้ากากมาใส่ไว้เพื่อป้องกันเรื่องวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นตามมา ก่อนเดินทางออกจากป่า ในวันพรุ่งนี้

 

และในระหว่างทางที่ผมกำลังนอนพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติภายนอกมิติแล้วกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังแว่วมาเหมือนว่ามันอยู่ใกล้ๆ

"เสียงอะไรอ่ะ คนจะนอน งึ่มๆ "

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียและด้วยความสงสัย

ผม จึงใช้พลังเหาะไปดูทันที  

เมื่อไปถึงผมก็ได้แอบสังเกตการณ์ดูอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆแถวนั้นจึงทำให้เห็นว่ามีกลุ่มชายชุดดำกลุ่มนึงประมาณ 10 คนกำลังรุมทำร้ายเด็กหนุ่มหน้าสวยคนหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเหลืออยู่คนเดียวและศพที่นอนข้างๆ 5- 6 ศพน่าจะเป็นศพของผู้ติดตามของเด็กหนุ่มคนนั้นแต่โดนฆ่าตายทั้งหมด และดูเหมือนคุณชายคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน

คุณชายคนนั้นก็คือ จางเย่ชิง เป็นบุตรคนที่สามของประมุขตระกูลจาง ที่เกิดกับฮูหยินเอก และจางเยว่ชิงนั้น

เป็นเกอ หรือก็คือ ผู้ชายที่สามารถท้องได้ ซึ่งในโลก นี้ มีอยู่3เพศ คือ เพศชาย เพศหญิง และ เกอ  

และเกอนั้นไม่เป็นที่ยอมรับกันสักเท่าไหร่ในโลกนี้ถึงขั้น ไม่ยอมรับเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างนี้ จางเย่ชิง จึงไม่เป็นที่ยอมรับในตระกูลซักเท่าไหร่ ยิ่งไม่สามารถปลุกพลังธาตุได้ สถานนะในตระกูลของ จางเยว่ชิง ยิ่งแย่ลงไปอีก เพราะ ตระกูลจางเป็นหนึ่งใน 5 ตระกูลใหญ่ของเเคว้นฉู่ การที่ จางเย่ชิง เป็นเกอ และไม่สามารถปลุกพลังธาตุได้นั้น ถือวันเป็นความอัปยศของตระกูลเลยก็ว่าได้

ชายชุดดำคนหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นมาว่า

"อย่าพยายามหนีอีกเลยคุณชาย มาให้ข้าฆ่าเจ้าซะดีๆ ขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์"

"พวกเจ้าเป็นใครทำไมต้องมาทำร้ายข้า" เย่ชิงถามออกไป

"เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แต่ว่าวันนี้เป็นวันตายของเจ้าก็พอ"

ชายชุดดำคนเดิมพูด

"ใช่ขยะยังเจ้าทำให้พวกข้าเสียเวลามามากเเล้วแค่คุณชายไร้ประโยชน์ที่ไม่มีพลังธาตุคนเดียวแท้ๆ น่าเสียดายหน้าตาที่งดงามของเจ้า"  ชายชุดดำอีกคนพูดขึ้น

"ฮูหยินรองเป็นคนจ้างพวกเจ้ามาใช่หรือไม่ พวกเจ้าทำอย่างนี้ไม่กลัวท่านพ่อข้าจะจัดการพวกเจ้างั้นหรอ"  จางเย่ชิงพูดขึ้น

"ถ้าข้าบอกว่าใช่เจ้าจะทำอะไรได้งั้นรึ เจ้าคิดว่าถ้าขยะไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถปลุกพลังธาตุได้อย่างเจ้าแถมยังเป็นเกออีก หายไป เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้าจะรับรู้อะไรงั้นหรอทุกวันนี้เจ้าก็ไม่มีที่ยืนอยู่ในตระกูลจางของเจ้าแล้ว ฮ่าๆ" ชายชุดดำ

"อย่าพูดมากรีบจัดการให้มันเสร็จๆจะได้กลับซะทีเสียเวลามามากแล้ว " หัวหน้าของกลุ่มชายชุดดำสั่ง

ขอรับหัวหน้า

ผมที่เห็นแบบนั้นจึงได้ใช้พลังลอยเข้าไปหากลุ่มของชายชุดดำ และใช้พลังวิญญาณซัดออกไปทันที ในขณะที่หนึ่งในพวกคนชุดดำกำลังใช้จากฟันไปที่คุณชายตระกูลจาง

ฟิ้ววว ตูมมม  " อ้ากก "

" เจ้าเป็นใครกล้าดียังไงมายุ่งเรื่องของข้าไสหัวออกมา "

หัวหน้าของกลุ่มชายชุดดำคำรามขึ้นพร้อมกับหันมองไปรอบๆบริเวณ

"พวกเจ้านั่นแหละเป็นใครกล้าดียังไงมาทำร้ายคนต่อหน้าข้ามารบกวนเวลานอนของข้า"

ผมที่ลอยอยู่บนอากาศพูดออกไปอย่างหงุดหงิด

เมื่อกลุ่มชายชุดดำและเย่ชิงมองไปตามเสียงเรียก ก็ต้องตกใจและตกตะลึง

บุรุษหนุ่มน้อยในชุดอาภรณ์ สีขาวอายุราวๆไม่ถึง20 สวมหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า รูปร่างผอมเพรียว ริมฝีปากอวบอิ่ม สองเเก้มแดงระเรื่อ น่าสัมผัส สองคิ้วยาวเรียวงาม มองโดยรวมราวกับนางเซียนลงมาท่องเเดนมนุษย์ ขนาดมีหน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่ยังไม่อาจปิดบังความงามได้

" จะเจ้า  เป็นใคร "  หัวหน้ากลุ่มชายชุดดำกล่าวขึ้นด้วยความหวาดกลัว

"ข้าคือคนที่มาจัดการพวกเจ้าอย่างไรละ" ผมพูดเสียงเย็นด้วยความหงุดหงิดว่าแล้วก็เรียกใช้ทักษะวิณญาณยุทธทันที

"ทักษะที่ 6 หมื่นกระบี่หวนตระกูล"

พอผมพูดจบก็เกิดมีกระบี่ขึ้นมากลางอากาศเป็นจำนวนมากแล้วพุ่งลงไปหากลุ่มชายชุดดำเหมือนฝนตก

"ฟิ้ววๆๆๆ ชิ้งงๆๆๆ"

"อ้ากกๆ อ้ากกกๆๆ"

เสียงกระบี่กระทบกันและเสียงร้องโหนหวนของชายชุดดำดังก้องไปทั่วทั้งป่าแล้วก็เงียบหายไป

 

เมื่อจัดการกลุ่มชายชุดดำเสร็จแล้วผมจึงมองไปหาคุณชายหน้าสวยที่กำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ ซึ่งดูจากหน้าตาแล้วน่าจะอายุเท่าๆกันกับเขาเป็นแน่

ผมจึง ได้ใช้ทักษะหอแก้ว9สมบัติรักษา

"9 สมบัติเลื่องชื่อ หอแก้ว9สมบัติ เรียกรักษา"

เมื่อเมื่อผมพูดจบก็เกิดเป็นแสง 9 สีและปรากฏเป็นรูปหอคอยแก้ว 9 ชั้นลอยอยู่เหนือหัวของคุณชายตระกูลจาง ทำให้ อาการบาดเจ็บ ทั้งหมดที่เคยมีก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง เหมือนกับว่าไม่ได้มีอาการบาดเจ็บมาก่อน เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจให้กับเย่ชิงเป็นอย่างมาก

"ขอบคุณท่านเซียนที่ช่วยข้าขอรับ  ชื่อว่าจางเย่ชิง เป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลจาง แห่งแคว้นฉู่ โปรดรับการคำนับจากข้าด้วยขอรับ"

เย่ชิงพูดพร้อมโค้งคำนับไป๋ชิง

" อาการบาดเจ็บเจ้าหายดีแล้ว แต่ข้าดูจากร่างกายของเจ้าเเล้ว เจ้าคงโดนพิษมาน่ะสินะ "

ผมพูดขึ้น  โดยไม่ได้สนใจว่าเย่ชิงจะคารวะผมอยู่

"โดนพิษ ?ข้าโดนพิษอะไรงั้นหรอ  "

"ข้าหมายถึงพิษที่ทำให้เจ้าปลุกพลังธาตุไม่ได้ "

"พิษที่ทำให้ข้าปลุกพลังธาตุไม่ได้งั้นหรอ "เย่ชิงถามขึ้นอย่างตกใจ

"ใช่ ถ้าให้เดาเจ้าคงยังไม่สามารถปลุกพลังธาตุได้สินะ"

"ใช่ ขอรับ"  จางเย่ชิงก้มหน้าตอบเสียงเศร้า

เมื่อผมได้ยินแบบนั้นผมจึงได้พูดว่า

" งั้นข้าช่วยเจ้าเอง "

ว่าแล้วผมก็เรียกหอแก้ว9สมบัติออกมา

" 9 สมบัติกระจายแก้ว หอแก้ว 9 สมบัติ 1 เรียกรักษา 2 เรียกฟื้นฟู "

เมื่อผมพูดจบก็เกิดเป็นหอแก้ว9สีลอยขึ้นมาเหนือหัวของเย่ชิง พร้อมกับทำการรักษาและฟื้นฟูพลังธาตุของเย่ชิงในทันทีทำให้ร่างกายของเย่ชิง มีเมือกสีดำๆไหลออกมาตามรูขุมขนจากนั้น พลังธาตุในกายของเยาชิงก็ปรากฏขึ้นทำให้พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งปกคลุมอยู่

ทำให้เย่ชิงได้รู้ว่าตนนั้นมีพลังธาตุเหมันต์ ซึ่งเป็นธาตุหายาก และระดับพลังการฝึกฝนของเขาเองก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมากจากรวบรวมลมปรานขั้น 1จนถึงรวบรวมลมปราณขั้น 10และทะลวงเข้าสู่สร้างรากฐานขั้น 1 ได้สำเร็จ

" เอาล่ะในเมื่อข้าช่วยเจ้าแล้วเจ้าควรรีบออกไปจากป่าแห่งนี้ซะอย่าอยู่รบกวนข้า "

ว่าแล้วผมก็หายตัวไปทันทีโดยไม่ทันได้ให้เย่ชิงกล่าวสิ่งใดอีก ก็คนมัน ง่วง! อ่ะ

นั่นสร้างความดีใจให้กับเย่ชิงเป็นอย่างมาก เขาจึงหันไปทางที่ได้เห็นท่านเซียนออกมาแล้วก็คุกเข่าลงแล้วคำนับไปทางนั้นพร้อมพูดว่า

"ขอบคุณท่านเซียนที่เมตตาขอรับ"

ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหาทางออกจากป่าทันทีโดยไม่รู้ตัวเลยว่าหน้าตาของตนเองนั้นได้เปลี่ยนไป

 

ฝากติดตามกันด้วยนะค้าบบ

 

3

 

 

" ท่านพี่ มีข่าวของชิงเอ๋อบ้างหรือไม่เจ้าคะ "

เสียงของ จางลี่เหม่ย ฮูหยินเอกเอ่ยถามสามีด้วยความโศกเศร้า ที่ลูกชายคนเล็กของนางที่โดนลอบทำร้ายเเละหายเข้าไปในป่าทมิฬ จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครพบเจอเลย แม้ว่าจะส่ง องครักษ์เงาไปตามหาตลอดก็ไม่พบแม้แต่เงาของลูกชายคนเล็กของตนเลย จนตอนนี้ข่าวการหายตัวไปของคุณชายเกอ ตระกูลจางได้เเพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงแล้ว

"ลู่เอ๋อ เทียนเอ๋อ พวกเจ้าสองคนเล่าเจอน้องบ้างหรือไม่"

เมื่อเห็นสามีนางยังไม่ตอบถึงหันไปถามลูกชายทั้งสองของนาง

"ยังไม่เจอเลยขอรับท่านเเม่ "

จางเย่ลู่ ลูกชายคนโตตอบมารดาของตน

"ท่านไม่ต้องห่วงนะขอรับท่านเเม่ พวกข้าสัญญาว่าจะต้องพาน้องกลับมาอย่างปล่อยภัยขอรับ  ท่านแม่อย่าได้กังวลมากเกินไปเลยนะขอรับ เดียวอาการป่วยท่านจะทรุดลงไปอีก"

จางเย่เทียน เอ่ยกับมารดาของตน

"ถ้าน้องข้าเป็นอะไรไปข้าไม่เอาพวกมันไว้แน่"

จางเย่ลู่ กล่าวออกมาด้วยความเคียดเเค้น ตั้งแต่วันที่เขาได้รู้เรื่องที่ฮูหยินรองทำ ทำให้เขาได้พยามสืบหาหลักฐานต่างๆเพื่อนำมาจัดการกับฮูหยินรอง  แต่เขาก็ไม่สามารถหาหลักฐานใดมาได้ เหมือนกับว่า เรื่องต่างๆที่นางเคยทำหายไปอย่างไร้เบาะเเส นี้อาจเป็นเพราะตระกูลเฟยก็เป็นได้

ฮูหยินรอง จางจิวเหริน นั้นเมื่อก่อนก็คือ เฟยจิวเหริน ลูกสาวคนรองของตระกูลเฟย ซึ่งตระกูลเฟย เป็น1ใน5ตระกูลใหญ่ของแคว้นฉู่ เหมือนกันกับตระกูลจาง

ที่ท่านพ่อต้องรับนางมาเป็นฮูหยินรองนั้นเพราะมีเหตุจำเป็นบางอย่าง

"เรื่องของตระกูลเฟย และรองฮูหยิน พ่อกำลังตามสืบอยู่อีกไม่นานคงได้ความอะไรบ้าง พวกเจ้าอย่าได้กังวลไปเลย"

จางหย่งป๋อ ประมุขของตระกูลจางเอ่ยกับลูกชายทั้งสองและฮูหยินเอกของตน เขาเองก็กังวลกับเรื่องของลูกชายคนเล็กของเขาเหมือนกัน พร้อมทั้งรู้สึกผิดที่เขาได้รับเอาอสรพิษเข้ามาไว้ในบ้านจนกระทั้งมันเเว้งกัดลูกของเขาเอง

เขายอมรับว่าโกรธเป็นอย่างมากเมือได้ยินสิ่งที่ลูกชายทั้งสองคนของเขาเล่าให้ฟัง แต่เขายังไม่สามารถทำอะไรได้มนตอนนี้เพราะไม่มีหลักฐาน และเกรงใจตระกูลเฟย

แต่เขาเองก็ไม่ได้กลัวตระกูลเฟยแต่อย่างใด ถ้าตระกูลเฟยกล้าเเตะต้องลูกชายของเขา เขานี้ล่ะจะจัดการกับตระกูลเฟยเอง

"ขอรับท่านพ่อ"

ในขณะที่ทั้งสี่คนกำลังคุยกันอยู่นั้น พ่อบ้านจางก็ได้เข้ามารายงานว่าฮูหยินรองกับบุตรสาว มาขอเข้าพบ

"หึ ยังจะมีหน้ามาอีกรึ "จางลี่เหม่ยพูดอย่างเคียดเเค้น

" ใจเย็นก่อนขอรับท่านเเม่ ให้พวกนางเข้ามาก่อนขอรับ ข้าอยากรู้ว่าพวกนางจะมาทำไม "

จางเย่ลู่ เอ่ยขึ้น

" หึ ก็ได้ แม่จะเชื่อเจ้า "

" ให้นางเข้ามา "  

ประมุขตระกูลจาง ออกคำสั่งกับท่านพ่อบ้าน

"คาระวะเจ้าคะท่านพี่  ท่านพี่หญิง"   

ฮูหยินรองพูดขึ้นก่อนที่ลูกสาวของนางทั้งสองคนจะพูดตาม

"คารวะเจ้าคะท่านพ่อ พี่ใหญ่ พี่รอง"   

"พวกเจ้าตามสบายเถอะ" จางหย่งป๋อพูดขึ้น

"ขอบคุณเจ้าคะ "

เมื่อนั่งลง ฮูหยินรองจึงเอ่ยปากถามออกไป และเเสร้งเป็นตีหน้าเศร้าทันที

"กำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่รึเจ้าคะพี่หญิง ทำไมถึงได้ทำหน้าเศร้าเช่นนั้น   แล้วเรื่องของชิงเอ๋อเป็นอย่างไรกันบ้างแล้วเจ้าคะ หาตัวพบหรือยังเจ้าค่ะท่านพี่ น้องและลูกละเป็นห่วงชิงเอ่อจริงๆเลยเจ้าค่ะ"

นางถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย ประมาณว่าเป็นห่วงเสียเต็มประดา หากแต่ว่าภายในใจนั้น กลับรู้สึกสะใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นใบหน้าของจางลี่เหม่ย ฮูหยินเอกนั้นตอบซูบเพราะตรอมใจเรื่องลูกชายคนเล็กที่หายตัวไป

ตายๆไปซะได้ก็ดีทั้งแม่ทั้งลูก 

นี้คือความคิดของฮูหยินรอง

จางลี่เหม่ยนางไม่ตอบคำถามของฮูหยินรองด้วยว่ากำลังควบคุมตัวเองไม่ให้โกรธ ทั้งที่นางนั้นอยากจะลงขึ้นไปตบหน้านางอสรพิษตัวนี้ตั้งเเต่ที่เห็นหน้านางเดินเข้ามาในห้องเเล้ว ด้วยว่านางรู้มาจากลูกชายทั้งสองว่า นางอสรพิษนี้คือคนที่จ้างนักฆ่า ไปฆ่าลูกของนาง

ในขณะที่ จะได้มีใครเอ่ยตอบคำถามของฮูหยินรองนั้น ก็มีเสียงดังมาจากทางด้านหน้าประตูจวนว่า

"ท่านพ่อ ท่านเเม่ พี่ใหญ่ พี่รอง ข้ากลับมาเเล้วขอรับ"

ทำให้คนในจวนตกใจเป็นอย่างมาก ทุกคนจำเสียงนั้นได้นั้นเป็นเสียงของคนที่เขากำลังตามหา

"ชิงเอ๋อ !"

ทั้งสี่คนร้องขึ้นพร้อมกัน ก่อนพากันวิ่งออกมาทางหน้าจวนด้วยความรวดเร็ว ยกเว้นอีกสามคนที่นั่งอยู่ในนั้น

"ทำไมมันยังไม่ตาย " 

ฮูหยินรองกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่ ทำไมมันยังไม่ตาย"

หลานหลิง เอ่ยออกมาเช่นกัน

"เราออกไปดูกันเถอะเจ้าคะ"

หลานฮวาบอกแม่กับน้องสาว

ตัดมาทางหน้าจวน ทั้งสี่คนที่วิ่งออกมาถึงหน้าจวนก็เจอกับ บุรุษรูปร่างบาง ใบหน้างดงาม  ผิวขาวบริสุทธิ์ยืนอยู่หน้าจวน ทั้งสี่คนทำหน้างุนงงเพราะไม่รู้จักคนที่อยู่ตรงหน้า แต่สายตาของทั้งสี่คนก็ได้สอดส่ายหายเจ้าของเสียงที่พวกเขาได้ยินแต่ก็ไม่เจอพอเห็นเป็นเช่นนี้ จางลี่เหม่ยนางจึงทรุดลงได้ร้องให้ออกมาทันที

"ชิงเอ๋อ ฮือ สวรรค์ เหตุใดถึงทำให้ข้าได้ยินเสียงชิงเอ๋อเเล้วแต่เหตุใดไม่ทำให้ข้าได้เจอชิงเอ๋อของข้าบ้าง ฮือ"

"ฮูหยิน / ท่านแม่!"

ประมุขจางและลูกชายทั้งสองต่างวิ่งเข้ามาหา ฮูหยินและท่านเเม่ของตนจางเย่ชิงที่เห็นแบบนั้นจึงวิ่งเข้าไปหาเช่นกัน

"ท่านเเม่ ท่านพี่ ท่านพ่อข้า กลับมาเเล้วทำไมถึงทำเหมือนไม่รู้จักข้ากัน ท่านแม่ ข้าจางเย่ชิง ไงขอรับ ชิงเอ๋อของท่านแม่ไงขอรับ" 

จางเย่ชิงรีบบอก มารดา ท่านพี่ และท่าพ่อของตน

"เจ้าคือชิงเอ๋องั้นรึ"  

จางฮูหยินเงยหน้าถาม

"ใช่ขอรับ เป็นข้าเอง ท่านแม่ลองดูดีๆสิขอรับ"

เมื่อทั้งสี่คนเมื่อได้เห็นใบหน้าของคนตรงหน้า ก็ตกตะลึงทันที

"จะ เจ้า ชิงเอ๋อ จริงๆรึ เหตุใดเจ้าถึงได้"

จางลี่เหม่ยพูดออกมาอย่าติดๆขัดๆ ด้วยความตกตะลึงเเละความดีใจ ซึ่งอีกสามคนก็เช่นเดียวกัน  ทั้งสี่ได้ดึงเย่ชิงเข้าไปกอดด้วยความดีใจ จนลืมไปว่านี้มันยังอยู่หน้าจวนจนกระทั้งจางหย่งป๋อเป็นคนเเรกที่ได้สติ จึงบอกกับทุกคนว่า

"อะแฮ่ม ข้าว่าเราเข้าไปคุยกันด้านในกันดีกว่า ชิงเอ๋อของเราก็กลับมาอย่างปลอดภัยเเล้ว"

"ขอรับ /เจ้าคะ "

ทั้งหมดนับคำอย่างเขินอายก่อนที่จะพากันเข้าข้างในจวนทั้งหมด

ทางฝั่งของชาวบ้านที่อยู่บริเวณ ต่างก็ยังตกตะลึงในความงามของเย่ชิงอยู่

"นั้นมันคุณชายน้อยขยะ จางเย่ชิง จริงๆรึ เขายังไม่ตายรึนี้แถมกลับแล้วมายังงด งดงาม มากอีกด้วย ข้าขอถอนคำพูดที่ข้าเคยว่าเขาหน้าตาอัปลักษณ์ " 

"ถ้านี้เรียกว่า อัปลักษณ์ แล้วอย่างสตรีเช่นข้าเรียกว่าอะไรกัน" 

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าชาวบ้านดังขึ้นมาไม่ขาดสาย และเเล้วข่าวลือ เรื่องของคุณชายสามตระกูลจาง ก็กล่าวเป็นข่าวดังไปทั่วเเคว้นทันที ว่าคุณชายสาม ตระกูลจาง จางเย่ชิง ที่ได้หายตัวไปในป่าเทวะทมิฬ ได้รอดกลับมาเเล้ว และยังมีหน้าตาที่งดงาม จดหญิงงามอันดับหนึ่งในเเค้วนนี้เทียบไม่ติด

ถ้าจางเย่ชิงได้ยินข่าวลือนี้ คงจะพูดว่า หน้าตาข้าแค่นี้บอกว่างามที่สุดในแคว้น ถ้าพวกเจ้าได้เจอกับท่านเซียน พวกเจ้าจะพูดว่าอย่างไร

ในทางของฮูหยินรองและลูกสาวที่เเอบดูอยู่ ก็ยังตกใจกับการเปลี่ยนแปลงไปของหน้าตาของเย่ชิง และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เย่ชิง มันยังมีชีวิตอยู่ แถมมันยังงดงามขึ้นด้วยซ้ำ ยิ่งเพิ่มความโกรธ เกลียด ในใจของทั้งสามมากขึ้นไปอีก

"มันยังไม่ตายจริงด้วยท่านแม่"  

หลานฮวาพูดขึ้น

"ท่านแม่ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ มันจะงดงามกว่าข้าไม่ได้นะเจ้าคะ ข้าไม่ยอม แค่มันเมื่อก่อน ท่านพี่ทั้งสองคนก็หลงมันหัวปักหัวปำแล้วนี้มันยังดงามขึ้นมากว่าเเต่ก่อนอีกท่านพี่ทั้งสองคนคงจะรักมันมากว่าข้าแน่เจ้าค่ะ"

หลานหลิงเอ่ยขึ้นอย่างริษยา

"ใจเย็นๆก่อนลูกตอนนี้มันอาจดวงดีรอดมาได้ แต่คราวหน้าแม่สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้มันรอดไปได้เเน่"

ฮูหยินรองเอ่ยบอกกับลูกๆของตน

"แต่ตอนนี้แม่ว่าเราเข้าไปข้างในกันดีกว่า แม่อยากรู้ว่ามันรอดตายออกมาได้ยัง รึว่ามีคนคอยช่วยเหลือมันไว้ "

"เจ้าค่ะท่านเเม่" 

สองพูดขึ้นพร้อมกัน

ว่าแล้วสามเเม่ลูกก็จึงพากันรีบเดินเข้าไปในจวนทันที

ตัดมาที่ห้องโถงจวนตระกูลจาง

เมื่อทั้ง 5 คนเดินเข้ามานั้งในห้องโถงเรียบร้อยเเล้วก็มีฮูหยินรอง และ ลูกสาวเดินเข้ามา พอมาถึงฮูหยินรองจึงแสร้งร้องถามเย่ชิงออกไปด้วยสีหน้าตกใจระคนดีใจว่า

" ชิงเอ๋อของน้า ชิงเอ๋อของน้าจริงๆด้วย น้าดีใจยิ่งนักที่เจ้ารอดกลับมาได้  เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนที่น้าได้ยินข่าวว่าเจ้าโดนทำร้ายแล้วหายตัวไป น้ากับลูกเป็นห่วงเจ้าจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย ตอนนี้เจ้าไม่เป็นอะไรแล้วใช่หรือไม่ "

ฮูหยินรองพูดอย่างกับว่าดีใจเสียเต็มประดาที่เห็นเย่ชิงนั้นรอดกลับมาได้ แต่ภายในใจนั้นมีแต่คำก่นด่าสาปเเช่งเต็มไปหมด

" ข้าไม่เป็นอะไรเเล้วขอรับแม่รอง ขอบคุณแม่รองที่เป็นห่วง "

เย่ชิงพูดตอบ แล้วไม่ได้สนใจอีก ด้วยรู้อยู่ว่านั้นคือการแสดงละครของฮูหยินรอง

" ชิงเอ๋อลูกพ่อ เรื่องมันเป็นมายังไงไหนลองเล่าให้พ่อฟังหน่อยได้หรือไม่ลูก "

จางหย่งป๋อถามลูกชายคนเล็กของตนพร้อมลูบหัว 

ตอนนี้เขารู้สึกดีใจและโล่งใจมากที่เห็นว่าลูกเขานั้นยังปลอดภัยดี แต่เขาก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ ลูกเขารอดมาได้ยังไง หรือว่ามีใครมาช่วยลูกของเขาไว้ แล้วทำไมลูกชายคนเล็กของเขาจึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้

" ได้ขอรับท่านพ่อที่ลูกรอดตายมาได้เพราะว่ามีท่านเซียนช่วยไว้ขอรับ "

" ท่านเซียน !"  

ทุกคนร้องขึ้นพร้อมกัน

"ขอรับท่านเซียนเป็นคนจัดการกลุ่มชายชุดดำนั้นทั้งหมดและยังได้รักษาข้าจนหาย จนตอนนี้ข้าสามารถปลุกพลังธาตุได้แล้วขอรับท่านพ่อท่านแม่ ข้าสามารถใช้พลังธาตุได้แล้วขอรับ "

เย่ชิง ว่าแล้วก็ปลดปล่อยพลังธาตุของตัวเองออกมาให้ทุกคนได้ดู จนอุณหภูมิในห้องนั้นลดลงเเละเกิดมีเกล็ดน้ำแข็งเกิดขึ้นอยู่เต็มห้อง

"พลังธาตุเหมันต์ ! " 

ทุกคนอุทานออกมาพร้อมกันเสียงดัง

" แล้วตอนนี้ท่านเซียนนั้นอยู่ที่ใดหรือ " 

จางหย่งป๋อถามบุตรชาย

" ตอนนี้ท่านเซียนอยู่ที่ป่าทมิฬขอรับท่านพ่อ " 

เย่ชิงตอบ

"สวรรค์คงเห็นใจลูกข้าแล้วเป็นแน่ถึงได้ส่งท่านเซียนมาช่วยให้ลูกข้าไม่ได้เป็นขยะอีกต่อไป" จางลี่เหม่ยพูดขึ้นอย่างดีใจ

และแล้วข่าวลือเรื่องที่คุณชายสามตระกูลจางที่ถูกนักฆ่ารอบทำร้ายและได้รอดตายกลับมาและยังมีหน้าตาที่งดงามขึ้นกว่าแต่ก่อนและยังสามารถปลุกพลังธาตุได้เพราะมีท่านเซียนในป่าเทวะทมิฬช่วยไว้ก็ได้กระจายไปทั่วแคว้นทันทีโดยที่เจ้าตัวต้นเรื่องไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

 

 

 

 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!