เนื้อหา : *อายุตัวละครในนิยายบรรลุนิติภาวะ*
เนื้อเรื่อง : อิซางิในวัย 21 ปีไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้อีกตลอดชีวิต แสงสว่างของเขาไม่เคยทอดทิ้งและยังคงเปล่งประกาย
*หมายเหตุอายุตัวละคร*
อิซางิ [อายุ 24]
*ทุกคนบรรลุนิติภาวะ*
ต่อให้กลายเป็นกองหน้าระดับหนึ่งของโลกแทนที่ โนเอล โนอา และกลายเป็นกองหน้า U-20 ของญี่ปุ่นผ่านประเทศคว้าแชมป์โลกหลายลีก
ผมกลายเป็นเอสของทีม กลายเป็นศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของโลกแทนที่ไอดอลของผม โนเอล โนอา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะความพยายามของผม ความพยายามที่จะเป็นที่หนึ่งในวงการฟุตบอล ผมทำสำเร็จ
ถ้วยรางวัลและชื่อของผม รูปภาพของผม ใบหน้าของผม ถูกประกาศไปทั่วโลก ทุกคนได้พบกับผมในฐานะอันดับหนึ่งคนใหม่ของโลก ผมชนะมิคาเอล ไคเซอร์ ผมทำให้ อิโตชิ ซาเอะและอิโตชิ ริน ยอมรับได้
สิ่งที่ผมเฝ้ารอมาทั้งชีวิตในฐานะนักฟุตบอล ผมทำสำเร็จ
แต่นั้นมันก็เหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนี้ผมเป็นแค่อดีตกองหน้าอันดับหนึ่ง อุบัติเหตุในสนามเกิดขึ้นในนัดที่ 42 ของชีวิตระหว่างบราซิลกับญี่ปุ่น ผมโดนฝ่ายตรงข้ามสกัดขาและถีบเข้าที่สะโพกอย่างแรง ก่อนจะล้มตัวลงกระแทกพื้น
ผมถูกส่งเข้าโรงพยาบาลทันที หมอวินิจฉัยอาการของผม กระดูกหลังร้าวแต่สามารถรักษาได้ สะโพกหักจากแรงเตะอย่างจัง และต่อให้รักษาหายร่างกายของผมก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
ผมแขวนสตั๊ด
จบแล้ว จบสิ้นแล้ว ชีวิตนักบอลของผม อนาคตกองหน้าที่จะก้าวสู่บันไดจนกลายเป็นตำนานเหมือนคุณโนเอล มันจบสิ้นแล้ว
เป็นเรื่องสลดที่สุดและเศร้าที่สุด เสียใจที่สุดในชีวิตพ่อของผมแม่ของผม พวกท่านรํ่าไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คนที่กระทำได้รับผลเพียงใบแดงเท่านั้น
ไม่ยุติธรรม
ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด
ทำไม
ทำไม
ทำไม
ถ้าผู้ตัดสินในตอนนั้นเป็น ปีแอร์ลุยจี กอลลีนา ไอเวรนั้นจะโดนตัดสินในสิ่งที่ผมอยากให้มันโดนไหม
แต่คิดไปก็เท่านั้นชีวิตผมจบแล้ว
เด็กอายุ 19 ที่ต้องแขวนสตั๊ด
ความทรงจำจะไม่มีวันลืม
เจ็บปวด
'นายดูเหม่อๆนะอิซางิ'
นํ้าเสียงเย็นเยือกราวกับมหาสมุทรลึก แต่กลิ่นอายของ ภูเขาเอเวอร์เรส ผมละสายตาจากหน้าต่างหันมองอีกฝ่ายผู้ชายที่เป็นเสมือนไอดอลของผมและเป็นมาสเตอร์ในตอนที่ผมอยู่Blue lookและตอนนี้กลับมาเป็นอันดับหนึ่งของวงการแทนที่ผม
โนเอล โนอา
'ผม..เห้อ...ผมแค่สมเพชตัวเอง'
'นายคิดพูดแบบนั้นตลอด ผ่านมา 2 ปีแล้วยังอมทุกข์เหมือนเดิม'
ผมมองใบหน้าที่เสมือนภูเขานํ้าแข็งเย็นเยือก ดวงตาสีทองประกายยังคงส่องสว่าง บนโลกใบนี้ผมมั่นใจเลยว่า
ดวงดาวบนท้องฟ้าที่ว่าสวยสด ก็ไม่อาจสู้ดวงตาคู่นี้ได้
ตลอดที่ผ่านมาสองปีผมอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อกายภาพบำบัดร่างกาย โนเอลเป็นคนเดียวที่มาเยี่ยมผมบ่อยที่สุดแทบจะมาทุกวันแล้วด้วยซํ้า ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมเขาถึงมาหาผมได้บ่อยขนาดนี้
ไม่มีแข่งบอลรึไงแล้วไม่ซ้อมหรอฟร้ะ
ผมถอนหายใจซํ้าแล้วซํ้าเล่าปล่อยให้เวลาเลยผ่านมา 2 ปีอย่างไม่เกิดประโยชน์ ผมหันไปมองที่หน้าต่างอีกครั้งแสงอุ่นสะท้อนนัยตาผม ความรู้สึกอบอวลของชั้นบรรยากาศกำลังโอบกอดผม ผมเชื่ออย่างนั้น
'มาสเตอร์ คุณมาเยี่ยมผมตลอดสองปีแทบจะมาทุกวัน คุณไม่มีซ้อมรึไง'
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยถามเขาแต่ผมถามเขามาล้านรอบแล้วและเขาก็จะตอบเหมือนเดิม
'ฉันแบ่งเวลาแล้ว'
เห้อออ ผมท้อจริงๆศีรษะของผมลงกระทบกับสิ่งที่นุ่มนวลเพื่อเตรียมจะนอนหลับอีกครั้ง พยายามดิ้นรนหลีกหนีความจริงอันเจ็บปวด หนีกลับเข้าสู่ภวังค์ฝันอันเงียบงัน ที่ผมสามารถแต่งเติมเรื่องราวอย่างอิสระ
'ผมขอนอน...สักสองชั่วโมง'
'นายมีนัดกับหมอ'
'ผมรู้แต่ขอผม...อยู่ในที่ขอผมก่อนถึงเวลานั้นเถอะ'
ผมไม่อยากรับรู้ความจริงเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง เกี่ยวกับร่างกายที่ไร้ประโยชน์ ร่างกายที่ไม่สามารถกลับสู่วงการได้ดั้งเดิม ร่างกายที่ไม่สามารถโลดแล่นบนพื้นหญ้ามรกตเหล่านั้น
เอโกะเคยบอกว่าผมคือแร่ดิบที่มีพรสวรรค์และได้กลายเป็น เพรชที่ถูกเจียระไนจนเปล่งประกาย แต่ตอนนี้ผมดับสูญ แสงที่เคยเปล่งประกายกลับเลือนหาย ชื่อของผมถูกลบเลือนจากวงการ
ผมมันไร้ประโยชน์
ยิ่งคิดนํ้าตาก็ยิ่งไหล เสียงเงียบเบาจนไม่ได้ยิน แต่ผมรู้ดีว่ามาสเตอร์ต้องเห็นแน่ๆ ก็นั้นสินะเขาสายตาดีจะตายไป
ฝ่ามือหนาประทับลงบนศีรษะลูบไล้อย่างเบามือความอบอุ่นและอ่อนโยนส่งผลต่อนํ้าตาของผม ร้องหนักกว่าเดิมซะแล้ว เพราะมาสเตอร์เลย
'ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยนช์'
'ผมรู้...'
ยินดีด้วยคุณได้ออกจากโรงพยาบาลและกลับไปใช้ชีวิตข้างนอกได้แล้วครับคุณอิซางิ นั้นคือคำที่คุณหมอประจำตัวบอกผมหลังจากผมอยู่รักษาในโรงพยาบาลมาเกือบห้าปี ตอนนี้ผมอายุ 24 แล้วและร่างกายก็กลับมาเดินได้ปกติเพียงแต่ ไม่สามารถกลับไปเล่นบอลอย่างเต็มที่เหมือนแต่ก่อน
ผมเดินออกจากที่นั้นราวกับทิ้งบ้านหลังหนึ่งที่เคยอยู่ใช้ชีวิตหลายปี ผมกลับมาถึงบ้านในห้องนอนของผม ห้องนอนที่ไม่ได้กลับมาถึง 5 ปีภายในห้องยังคงเหมือนเดิมรูปโปสเตอร์ทุกใบที่เป็นรูปของไอดอลอย่างโนเอล โนอายังคงอยู่ ถ้วยแชมป์รูปภาพชัยชนะและรอยยิ้ม ยังอยู่เสมอ
ผมมองไปยังเสื้อฟุตบอลอดีตเอสของทีมBlue look
เสื้อเบอร์ 11 อิซางิ โยอิจิ
นํ้าตาไหลอีกแล้ว ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บปวดราวกับตอกยํ้าว่าผมไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป ผมเหมือนกับยูกิมิยะ หมอนั้นเมื่อ 4 ปีก่อนที่Blue lookในการคัดเลือกครั้งสุดท้าย ยูกิมิยะฝืนร่างกายของตัวเองจนทำให้ดวงตาข้างขวาเกือบบอด ทำให้เขาต้องหยุดความฝันของเขาไปในตอนนั้นและการเล่นฟุตบอลก็จบลง
ร่างกายทรุดตัวลงกับพื้นผมปล่อยให้เสียงร้องและนํ้าตาได้ระบายออกมา
ทรมาน ทรมาน ทรมานชิบหาย ทรมานเกินไปแล้ว
มันเจ็บปวดที่เห็นคนอื่นได้เล่นฟุตบอล
เจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหว
ไม่อยากอยู่แล้ว
ความฝันของผม
มันพังทลายลงไปแล้ว
พวกคนที่ตกรอบในBlue lookคงกำลังสมเพชผม นั้นสินะผมทำลายความฝันของพวกเขาและตอนนี้ความฝันของผมก็พังแล้วเหมือนกัน
'ไงอิซางิ ฉันคิดถึงนายชมัด' ผมได้มาพบกับบาจิระหลังจากไม่ได้เจอกันเกือบห้าปีหลังจากที่ผมแขวนสตั้ด หมอนี้ยังไม่เปลี่ยนไปเลยแต่ที่เปลี่ยนคงเป็นฝีมือในการเลี้ยงบอลที่เทพเกิน
'อาการของนายดีขึ้นรึยัง'
'ดีขึ้นแล้วละ'
'พวกเราคิดถึงนายนะอิซางิ Blue lock ที่ไม่มีเอาแบบนาย มันโคตรจะ...'
หมอนั้นไม่พูดต่อแต่ผมก็รู้ดีว่ามีอะไรเกิดขึ้น' ทีมเสียศูนย์ 'บาจิระที่เคยเล่นประกบคู่กับผมถูกเปลี่ยนไปประกบกับรินแทน นั้นทำให้การเล่นจึงเปลี่ยนไปด้วยปีศาจในตัวหมอนี้ก็หยุดพัฒนาไปดื้อๆ ส่วนรินหมอนั้นไร้คู่แข่งชีวิตดูจืดซะไม่มี คุนิงามิไม่ต้องพูดถึงเลยฮีดร่คนเดิมไม่กลับมาและปีศาจคนใหม่ก็เปลี่ยนไปเกินกว่าทั้งทีมจะรับอีโก้บ้าๆไหว ซาเอะที่เข้าร่วมกับทีมBlue lookก็กลายเป็นคู่ขากับชินโดทันที คาราสุกับฮิโอริสองคนนั้นเข้าขากันดีจนไม่ยอมแจกบอลให้คนอื่น กากามารุเล่นเป็นประตูแต่ฝีมือหมอนั้นดูตกลง จิงิริที่เคยเป็นตัวกลายเป็นตัวสำรองเพราะร่างกายที่อ่อนล้าจากการวิ่ง
ทุกคนเปลี่ยนไป Blue lock ที่เคยมีอิซางิผู้เปรียบเสมือนศูนย์กลาง ตอนนี้กำลังแตกกระเจิง
'ฉันเข้าใจ แต่ฉัน...ฉันไม่สามารถ..'
ยิ่งพูดเท่าไหร่ก็ยิ่งจุกอกมากเท่านั้น
'ฉันไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว
ขอโทษที่ไม่สามารถกลับไปเล่นฟุตบอล
กับนายได้อีกบาจิระ'
ฉันขอโทษ
เพื่อน
หลังจากที่ผมคุยกับหมอนั้นจบ เราสองคนก็จากลากันก่อนจะแยกย้ายกลับไปที่ของตัวเอง บาจิระกลับไปที่Blue lookส่วนผมกลับไปที่บ้าน
พ่อกับแม่ไม่อยู่เพราะไปทำงานต่างจังหวัดทำให้ตอนนี้ผมอยู่บ้านคนเดียว แต่ทำไมผมถึงเห็นไฟบ้านเปิดอยู่กันละ ผมรีบสาวเท้าเข้าไปในบ้านในใจก็เกรงว่าจะมีโจรขึ้นบ้าน
แต่พอเปิดประตูเข้าไปกับพบแผ่นหลังที่คุ้นเคย
'มาสเตอร์'
โนเอล
ผมยืนนิ่ง ตั้งแต่ผมอายุ 22 เขาก็ไม่เคยโผล่หน้ามาหาหรือมาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลเลย เขาหายไปตั้งสองปีแต่วันนี้กลับมาปรากฏตัวที่บ้านผมเนี่ยนะ
เจ้าของชื่อหันมาหาผม นัยตาสีทองยังคงสุกสว่างเสมอและมันจะเปล่งประกายแบบนั้นไปตลอดกาล ไม่มีใครแทนที่ดวงตาคู่นั้นได้
'ไปกินข้าวแล้วไปอาบนํ้า'
คำสั่งจากมาสเตอร์และไอดอลของผม
หลังจากทานข้าวและอาบนํ้าเสร็จผมนั่งอยู่ในห้องนอนของผมแต่มาสเตอร์ก็นั่งอยู่ด้วยน่ะสิ บนเตียงของผมบนเรือนร่างของมาสเตอร์
ตักแกร่งที่ผมกำลังนั่งอยู่ในตอนนี้คือตักของโนเอล โนอาให้ตายเถอะอยากจะกรี้ด ทำไมเขาถึงจับผมมานั่งบนตักของเขา
ไร้ซึ่งบนสนทนา มีเพียงเสียงของลมหายใจ
ลมหายใจร้อนรดที่ต้นคอของผม
เขินจะตายอยู่แล้ว
'มาสเตอร์'
'โนเอล เรียกชื่อฉัน'
'ครับ..'
แปลก ทำไมมาสเตอร์ทำตัวแบบนี้วะ ฝ่ามืออุ่นทาบลงที่หน้าท้องของผมซุกไซร้เข้าไปในเสื้อ ผมสะดุ้งโหยงแต่ก็อบอุ่นในเวลาเดียวกัน
'เหนื่อยรึเปล่า'
'เหนื่อย..ครับโนเอล'
'งั้นนอนเถอะ ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วละ'
ผมสงสัยในคำพูดของโนเอลและผมก็ไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เปลือกตาของผมมันหนักจนจะปิดแล้ว
' ราตรีสวัสดิ์นะครับโนเอล '
'ราตรีสวัสดิ์ อิซางิ '
ใบหน้าของมาสเตอร์..ไม่สิโนเอล ใบหน้าที่เปล่งประกายและดวงตาสีทองประกายนั้นคือภาพสุดท้ายที่ผมเห็น รอยยิ้มอ่อนนั้น อบอุ่นเหลือเกิน....
วันที่ 15 เดือน กรกฎาคม ปี 20xx
เกิดข่าวสลด อดีตเอสสไตรเกอร์ของBlue lookและกองหน้าอันดับหนึ่งของโลกจบชีวิตลงด้วยการทานยาเกินขนาดในบ้านของตน
คาดว่าเกิดจากการที่ประสบอุบัติเหตุทำให้กลับไปเล่นสิ่งที่ตนใฝ่ฝันไม่ได้
มาสเตอร์สไตรเกอร์เยอรมันอันดับหนึ่งของโลกได้ออกมาแสดงความเสียใจถึง อิซางิ โยอิจิและได้มาร่วมอำลาในงานศพ
ตัวกระผมนั้นเสียใจที่ไม่อาจได้เห็นเธอเปล่งประกายได้อีก แม่นในตอนที่เวลาจะคราชีวิตของแร่ดิบนั้น เพรชที่ถูกเจียระไนก็กำลังคำนึกถึงตัวของกระผมอยู่เสมอ ผมเสียใจที่ไม่อาจแม้แต่จะกล่าวคำลาหรือมอบแสงสว่างแก่เพรชเม็ดงามนั้น รอยยิ้มราวกับแสงดวงตะวันจะสลักไว้ในใจของกระผมเสมอต่อให้จะไม่มีวันได้เห็นมันอีกครั้งก็ตาม
-โนเอล โนอา-
'นายจะไปไหนโนเอล'
เอโกะมองใบหน้าของคนที่เป็นอันดับหนึ่ง โนอาเหลือบมองอีกฝ่าย
'ไปในที่ของฉัน'
สิ้นคำพูด โนอาเดินออกไปจากห้องควบคุมของBlue lookทันที ที่ของโนอา คือสนามฟุตบอลที่เขาจะส่องประกายไม่ใช่รึไง
นั้นคือสิ่งที่ทุกคนคิดแต่ความจริงนั้นคือที่แห่งนี้ต่างหาก
บนภูเขาเนินสูงห่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบเหมือนกับคนที่จากไปต้องการมาโดยตลอด ป้ายหลุมศพที่สะอาดเพราะถูกดูแลสม่ำเสมอและเสื้อที่เจ้าตัวเคยสวมใส่และกลายเป็นดาวที่เจิสจรัสที่สุด
โนเอลมาถึงได้สักพักเขายืนมองยังป้ายหลุมศพที่เขียนชื่อของอีกฝ่ายไว้
อิซางิ โยอิจิ
สายตาสีทองประกายยังคงจับจ้องที่หลุมศพ เขาเห็นภาพซ้อนของเด็กชายคนหนึ่งที่คว้าแชมป์โลกและกลายเป็นอันดับหนึ่งของวงการฟุตบอล รอยยิ้มนั้นยังคงส่องสว่างเสมอ
ร่างชายสไตรเกอร์อันดับหนึ่งคนปัจจุบันนั่งลงข้างป้ายหลุมศพ แผ่นหลังกว้างพิงกับป้าย นี้ก็ผ่านมาเกือบ 3 ปีหลังจากที่เด็กคนนั้นจากโลกที่แสนโหดร้าย โลกที่ทำลายความฝันของเขา
โนเอลหลับตาขบคิดเรื่องหลายๆอย่างและปล่อยให้กระแสลมและเสียงเบาของธรรมชาติโอบล้อมกายไว้ ถ้าเขากลับไปหาเด็กคนนั้น อิซางิคงไม่เลือกที่จะจบชีวิต เขาคงช่วยอีกฝ่ายไว้ทันแต่ไม่
เพราะเขาติดอยู่ที่สนามบินโดนเหล่าแฟนคลับตามตื้อจนไม่สามารถเอาตัวเองออกจากสนามบินได้เกือบชั่วโมง และพอเอาตัวเองออกมาได้ก็รีบมุ่งตรงไปยังบ้านของเด็กคนนั้น
แต่สิ่งที่เขาพบคือร่างที่ไร้ลมหายใจพร้อมกับยานอนหลับที่กระจัดกระจาย โนเอลพุ่งตัวไปกอดร่างนั้นในทันทีพร้อมโทรเรียกรถพยาบาล แต่มันสายเกินไปแล้ว
เพรชที่เปล่งประกายและส่องสว่างจากไปแล้ว
นั้นคือความรู้สึกผิดมาตลอด
ถ้าหากไปเร็วกว่านี้
ถ้าหาก
ถ้าหากว่า
นั้นสินะ
มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
ตอนนี้คงจมอยู่แต่ความเสียใจเท่านั้น
ลมหายใจร้อนถูกพ่นออกมาด้วยความเจ็บปวด ถึงแม้จะไม่ได้แสดงอาการเสียใจให้ใครเห็นแต่ก็ยังมีใครหลายคนที่สนิทกับเขาเดาออก
ให้ตายเถอะ
นํ้าตามันไหลออกมาอีกแล้ว
ยิ่งคิดถึงมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งร้องขึ้นมาเท่าไหร่
อิซางิ เด็กคนนั้น
มีความสำคัญต่อเขามาจริงๆ
อิซางิเป็นเด็กอัจฉริยะ และเขาเหมือนกับโนเอลความพยายามไขว่คว้า เป้าหมายที่จะเป็นจุดสูงสุดเหมือนกัน และก็ได้เป็นแล้วเหมือนกัน
แต่อีกฝ่ายกลับจบชีวิตไปแบบนี้
กลับมาได้ไหม
อิซางิ
กลับมาได้รีเปล่า
ฉันยังไม่ได้สอนเทคนิคการเตะของฉันให้กับนายจนครบเลยนะ
กลับมาโลดแล่นพร้อมรอยยิ้มนั้นสิ เอสสไตรเกอร์
สายลมเปลี่ยนไปความอบอุ่นบ้างอย่างคืบคลานเข้ามาในใจโอบกอดกายาที่กำลังเสียใจ โนเอลรู้สึกถึงความอบอุ่นบ้างอย่างที่กำลังกอดเขาจากด้านหลัง ฝ่ามืออุ่นที่กำลังเช็ดนํ้าตาให้เขา
มันช่างคุ้นเคย
อิซางิ นายใช่มั้ย
โนเอลไม่ได้ลืมตาแต่เขากลับรู้สึกถึงรอยยิ้มที่คุ้นเคยและสดใสดั่งดวงตะวัน อิซางิกำลังพูดอะไรบ้างอย่างกับเขาและมีเพียงเขาที่ได้ยินเท่านั้น
ไม่นานอึดใจความอบอุ่นก็พลันหายไปกับสายลม กลิ่นของป่าฝนลอยร่องไปตามกระแสลม กลิ่นประจำตัวที่คุ้นเคยของอิซางิ
รอยยิ้มอ่อนประดับบนใบหน้าของคนที่ขึ้นชื่อว่าไร้ความรู้สึกที่สุด
...โชคดี อิซางิ ขอบคุณที่คอยเฝ้ามอง...
...จบ...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!