NovelToon NovelToon

#ใยรักของภูทัต (MPREG)

ใยรัก-01

เด็กเล็กวัยห้าขวบเพศชายคนหนึ่งกำลังนั่งจุ้มปุ้กพยายามใช้สีไม้แท่งสั้นกุดระบายลงบนกระดาษกับรูปที่ตนตั้งใจวาดอย่างขะมักเขม้น  เด็กชายใยรัก  หรือ น้องรัก   เด็กน้อยผู้มีหน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อย  แก้มกลมป่อง พร้อมกับดวงตากลมโต ขนตาที่งอนยาวเป็นแพนั้นหากใครมาเห็นก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าได้เชื้อแม่มาแบบพันเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

พันวา ผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งร้อยพวงมาลัยเพื่อเตรียมไปขายในเช้าของวันพรุ่งนี้กลางสี่แยกก็คอยแอบมองลูกชายของตนเป็นระยะ  กล่องสีไม้อันเล็กที่มีแท่งสีอันสั้นมิหนำซ้ำยังมีเพียงแค่สี่สีในกล่องก็ถูกมือจิ๋วคว้าหยิบสลับกันเพื่อระบายลงกระดาษแผ่นเดิม   มุมปากของเด็กเล็กฉีกยิ้มกว้างพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจเมื่อรูปที่วาดนั้นได้เสร็จสิ้น  

"คิคิ แม่จ๋า ดูนี่ ๆ "

เด็กพุงกลมหยิบกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าแล้วหยัดตัวยืนก่อนจะเดินเตาะแตะไปหาผู้เป็นแม่เจ้าของใบหน้างามในห้องเช่าเล็ก ๆ  นั้นด้วยความอารมณ์ดี  ผลการศิลปะที่เจ้าตัวจิ๋วตั้งใจวาดในกระดาษมันทำให้ชายหนุ่มใบหน้าสวยนั้นยิ้มกว้างก่อนจะยื่นหน้าเพื่อฝังปลายจมูกลงแก้มกลมเด็กคนนี้แล้วสูดกลิ่นเด็กเล็กดัง ฟอด จนเต็มปอด

"วาดสวยมากครับ  น้องรักของแม่เก่งที่สุดเลย"

" หนูเก่งแบบนี้หนูจะได้เข้าโยงเยียนหรือยังน้าา"

"...."

คำถามของผู้เป็นกล่องดวงใจทำคนเป็นแม่จุกอก  ปีนี้น้องใยรักก็อายุได้ห้าขวบแล้ว ซึ่งอายุควรที่จะเริ่มเข้าโรงเรียนได้แล้ว แต่ด้วยชีวิตที่แสนลำบากและยากจนคงต้องทำให้น้องใยรักต้องเข้าเรียนช้ากว่าเกณฑ์สักปี  แต่ยังไงพันวาก็จะปากกัดตีนถีบส่งลูกเรียนให้ได้  

พันวาคิดอย่างนั้น....

"หนูนับเลขได้ด้วยน้า หนุ่ง ฉอง ฉาม ฉี่ ห้าาา"

".."

"แบบนี้หนูเก่งพอที่จะไปโยงเยียนได้ไหมแม่จ๋า"

"ได้ครับ ยังไงเดี๋ยวปีหน้าแม่จะให้หนูไปโรงเรียนนะ"

"เย้ หนูดีใจมากเยย รักแม่จ๋าน้าาา"

เด็กน้อยที่เป็นดั่งผ้าขาว จิตใจบริสุทธิ์ได้ยินคำสัญญาดังกล่าวก็กระโดดโลดเต้นดีใจพร้อมกับเดินโหยงเหยงเข้าไปกอดแม่แล้วหอมแก้มงามไปฟอดใหญ่ก่อนจะยิ้มร่าจนเห็นฟันน้ำนมซี่เล็กพร้อมดวงตากลมนั้นมันหยีจากรอยยิ้มจนกลายเป็นสระอิอย่างน่าหยิกน่าหยอก 

"แม่ก็รักหนูครับ ดึกแล้วไปนอนนะลูก"

พันวาวางเข็มที่ร้อยพวงมาลัยลงก่อนจะเอื้อมมือจุ่มกะละมังเล็กที่บรรจุน้ำเปล่าเพื่อล้างมือให้สะอาด  คนเป็นแม่จับลูกตัวน้อยเข้าอ้อมอกแล้วอุ้มกระเตงขึ้นพลางหอมแก้มนุ่มเจ้าน้องรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความรู้สึกมันเขี้ยว   สองแม่ลูกในห้องเช่าราคาถูกต่างส่งเสียงหัวเราะคิกคักจากความสุขเล็ก ๆ  เมื่อพันวาวางเด็กจิ๋วนั้นลงบนฟูกบางก่อนจะหยอกล้อด้วยการมุดใบหน้าลงซุกพุงกลมของน้องใยรักจนเกิดเสียงขำอีกครั้งของทั้งคู่   การส่งเข้านอนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของสองแม่ลูกเป็นดั่งชีวิตประจำวัน แม้สภาพแวดล้อมหรือคุณภาพชีวิตจะย่ำแย่ขนาดไหนแต่พันวาก็มีแรงใช้ชีวิตเพียงเพราะแก้วตาดวงใจของเขาคนนี้คือจุดหมายในการดิ้นรนบนเส้นทางชีวิตที่มีแต่ขวากหนาม  

"รีบนอนนะลูก ดึกแล้วครับ"

"ได้เยย แม่จ๋าอย่านอนดึกน้า  หนูอยากนอนกอดแม่จ๋า"

"เดี๋ยวแม่ก็จะนอนแล้ว ขอร้อยมาลัยต่ออีกสิบพวงนะครับ ถ้าพรุ่งนี้ขายหมดหนูจะได้กินนมพี่หมีที่หนูชอบนะ"

"จริงหยอ หนูจะรีบนอนเยย พรุ่งนี้แม่จ๋าต้องขายพวงมาลัยหมดแน่ ๆ "

พันวายกยิ้มกับคำพูดเจื้อยแจ้วของลูกชายก่อนจะจัดแจงท่านอนพร้อมหยิบตุ๊กตาเน่ารูปหมีสีน้ำตาลเก่า ๆ  ให้ใยรักได้กอด  ผ้าห่มผืนบางสีชมพูซีดที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยบนที่นอนถูกคลี่ออกแล้วปกคลุมให้เจ้าเด็กพุงกลมที่กำลังเตรียมตัวนอน  พันวาลูบหัวกลมเด็กจิ๋วตรงหน้าอย่างเบามือก่อนจะโน้มใบหน้างามเพื่อหอมแก้มลูกรักเป็นการส่งท้าย จากนั้นมุ้งสีน้ำเงินที่มีรอยขาดถูกเย็บปะด้วยเศษผ้าก็ถูกกางออกแล้วเกาะตามมุมห้องทั้งสี่มุม  พัดลมตัวเล็กเมื่อเริ่มเปิดเสียงดังเหมือนเครื่องบินเนือง ๆ  นั้นกำลังส่ายหน้าไปมาเพื่อเป่าให้ความเย็นเจ้าเด็กจิ๋วที่กำลังคล้อยหลับอยากว่าง่าย   พันวายกยิ้มกับภาพตรงหน้าของเด็กที่เสียงแจ๋วเมื่อครู่ตอนนี้กลับเงียบกริบเมื่อหัวถึงหมอนก่อนจะเดินไปนั่งร้อยพวงมาลัยต่อจนดึกดื่น  

เช้าวันต่อมากับสิ่งที่เป็นเหมือนโลกคู่ขนาน หนุ่มหล่อร่างสูงเจ้าของเรือนผมหนาสีดำขลับ  ใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายเหมือนพระเอกละครช่องดังกำลังส่องกระจกตรวจสอบความเรียบร้อยการแต่งกายของตนในห้องนอนที่กว้างหรู  

ภูทัต  ศิลป์โสทร  ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางที่กำลังเป็นที่นิยมแถมยังเป็นหนุ่มเนื้อหอมสำหรับเหล่าไฮโซและตัวท็อปของวงการบันเทิงที่หลายคนต่างหมายปอง  แต่ก็ทำได้แค่หมายปองเท่านั้น เพราะดูทีว่าหนุ่มโสดคนนี้จะไม่สนใจใครแม้แต่น้อย  ต่อให้มีใครมาขายขนมจีบแบบลดแลกแจกแถมหรือยื่นข้อเสนอต่าง ๆ  นานาเขาก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย  

"คุณภูทัตคะ  ทานข้าวเช้าที่นี่หรือที่ออฟฟิศคะ"

ลินดาเลขาคนสวยที่ทำงานในตำแหน่งนี้มาเกือบเจ็ดปีได้เดินเข้ามาในห้องนอนเจ้านายของตนอย่างถือวิสาสะ  แต่นั่นภูทัตก็ดูชินชาเพราะนอกเวลางานหรือช่วงไหนกรึ่มเมาบางครั้งทั้งสองคนก็แอบมีความสัมพันธ์กันอย่างฉาบฉวยตามประสาคนเหงา   

"ที่ออฟฟิศ"

"ได้ค่ะ งั้นลินรอที่รถนะคะ"

หญิงสาวผู้มีใบหน้าสวยเฉี่ยวทว่ามองผิวเผินทรงใบหน้าของเธอนั้นราวกับนางร้ายในละครกำลังเอ่ยยกยิ้มแล้วหมุนตัวออกจากห้องไปทันที   เห็นว่าเลขาผู้ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่องมารอเขาแต่เช้าตรู่ท่านประธานเองก็รีบจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อรีบไปทำงานให้เร็วที่สุด  

ยานยนต์คันหรูแล่นอย่างเชื่องช้าบนท้องถนนเมืองกรุงเส้นเดิมในทุกเช้าแต่วันนี้จราจรกลับแออัดเป็นพิเศษ  แม้จะเตรียมตัวออกจากบ้านเผื่อเวลาเข้างานเป็นชั่วโมงแต่ดูทีก็เหมือนว่าท่านประธานจะเข้าบริษัทสายเสียแล้วในวันนี้   ภูทัตมองเส้นถนนข้างหน้าที่คับแน่นไปด้วยรถชนิดต่าง ๆ  พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย  เลขาสาวผู้ทำหน้าที่เป็นคนขับรถมองกระจกหลังเพื่อสังเกตสีหน้าเจ้านายของตนก่อนจะยกยิ้มหวานขึ้น  

"ต้องชินนะคะ"

"มันติดมากกว่าทุกวัน"

"งั้นเดี๋ยวลินพาอ้อมไปอีกเส้นค่ะ"

ลินดาเอ่ยก่อนจะเปิดไฟเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางเพื่อตรงไปยังจุดหมายเดิม  แม้จะใช้เวลาเท่ากันในการถึงบริษัทแต่เธอก็รู้ว่าการที่รถแล่นบนท้องถนนมันทำให้เจ้านายขอเธอหงุดหงิดน้อยกว่าการที่รถจอดอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน  การทำงานด้วยกันมาสิบกว่าปีทำให้ลินดารู้ใจภูทัตแทบจะทุกอย่าง จนคนในบริษัทต่างเม้ามอยกันว่าทั้งคู่แอบคบหาดูใจกันเสียนี่  

"กรี๊ดดดดด "  เสียงกรีดร้องจากคนด้านนอกที่อยู่บนท้องถนนดังขึ้น

เอี๊ยดดด!!

ความประมาทเลินเล่อของลินดาเมื่อสัญญาณไฟจราจรขึ้นสีเหลืองแต่เลขาคนดีนั้นกลับไม่มีการแตะเบรก ในทางกลับกันเธอเตรียมตัวจะเหยียบคันเร่งให้พ้นแยกนี้ไปโดยเร็ว  ทว่าเมื่อมีชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้ารถอย่างกะทันหันเมื่อเห็นไฟสีแดงขึ้น เสียงเบรกจนล้อลากบนท้องถนนก็ดังสนั่นจนชวนแตกตื่น   ผู้โดยสารในรถทั้งเลขาและท่านประธานต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนขวัญแทบหายและไม่วายที่จะรีบลงไปดูว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่

"ลินดา!!"

"ขอโทษค่ะ"

ชายหนุ่มวัยสามสิบพลันลงจากรถก็เห็นชายตัวเล็กกำลังนั่งจับแผลที่ถลอกจนเลือดซึมบริเวรหัวเข่าและข้อศอก   ส่วนพวงมาลัยที่คล้องใส่ท่อพลาสติกสีฟ้าขนาดเล็กนั้นกระจัดกระจายไปบนพื้นถนน แม้จะไม่ได้เป็นอุบัติเหตุใหญ่แต่ชายคนนั้นก็เสียหายและได้รับบาดเจ็บอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่าเลขาของภูทัตเป็นคนผิด  

"คุณ เป็นอะไรมากไหมครับผมขอโทษแทนเลขาผมด้วย"  ท่านประธานเอ่ยน้ำเสียงนุ่มทุ้มอย่างรู้สึกผิดพลันย่อตัวรีบพยุงชายตัวเล็กกว่าตนแม้จะยังไม่ได้เห็นใบหน้าก็ตาม  

"ไม่เป็นไร....ครับ"

ผู้บาดเจ็บเอ่ยน้ำเสียงหวานพร้อมท่าทีไม่เอาความก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนาด้วยสีหน้าตกใจไปชั่วขณะ  อดีตคนรักของพันวาปรากฏตัวให้เห็นอีกครั้งในรอบหกปี   เจ้าของใบหน้าหล่อใช้ดวงตาคมกริบทอดมองใบหน้าสวยตรงหน้าอย่างจรดจ้องก่อนจะรีบปล่อยแขนเล็กที่ตนจับอยู่ออกราวกับรังเกียจ  

"หากินง่ายมากนะ จงใจให้รถฉันชนล่ะสิ"  ประโยคเชือดเฉือนเริ่มขึ้นทันทีที่ภูทัตเห็นใบหน้าของพันวาผู้เป็นอดีตรักแรกของเขา

"คุณภูทัต"  พันวาเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแผ่วเบา

"ลินดา"

"ค่ะ  ท่านประธาน"

"เอาเงินมาให้เขา จะได้จบ คนแบบนี้ต้องการแค่เงินเท่านั้น  เงินคือพระเจ้าสำหรับเขา"  

เมื่อเอ่ยจบชายหนุ่มก็หันหลังให้ชายตัวเล็กที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้วก็ตาม  ใบหน้าหล่อเก็บอาการและความรู้สึกที่ตีกันอย่างแปรปรวนในใจตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นใบหน้าสวยนั้น   ฝั่งพันวาเองกลับยืนนิ่งพร้อมหน้าชากับคำพูดที่ดูถูกดูแคลนตนเองอย่างจุกอก  

คนขายพวงมาลัยจากที่ยืนก้มหน้าอยู่ก็ต้องเงยขึ้นพร้อมน้ำตานองเมื่อหญิงสาวตำแหน่งเลขาของอดีตคนรักยื่นธนบัตรสีเทาให้สองใบพร้อมเบะปากใส่ด้วยท่าทีเหยียดหยาม  ดาลินมองพันวาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกยิ้มอย่างเย้ยหยันเมื่อชายหนุ่มตัวเล็กยอมรับเงินนั้นอย่างจำใจ จะว่าไปเมื่อมองโดยภาพรวมแล้วลินดาก็เป็นเหมือนนางร้ายดี ๆ  นี่เอง  

"ได้เงินแล้วก็หลบ  สองพันเนี่ยมันเยอะยิ่งกว่าเธอขายพวงมาลัยทั้งวันด้วยซ้ำ"  

พลางว่าจบลินดาก็หมุนตัวกลับแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้เจ้านายตนอย่างรู้งาน  แต่เมื่อภูทัตที่ทำทีไม่สนใจและกำลังจะก้าวขาขึ้นรถฝีเท้าของชายหนุ่มต้องชะงักขึ้น  

"แม่จ๋า แม่จ๋าเป็นไรมากไหม แม่จ๋าาาา"

เด็กตัวเล็กวิ่งหอบตุ๊กตาหมีเน่าตะโกนเรียกพันวาเสียงดังลั่นจนทำให้ร่างสูงต้องหันไปมองตามเสียงเจื้อยแจ้วนั้น  ภาพตรงหน้าเป็นเด็กตาแป๋วกำลังวิ่งดุ้กดิ้กเข้าหาพันวาเรื่อยจนผู้ที่ถูกเรียกว่า 'แม่' ต้องรีบเก็บของที่เกลื่อนกลาดวางไว้ริมฟุตบาทแล้วรีบวิ่งไปอุ้มเจ้าเด็กพุงกลมมากระเตงเข้าเอว

"ลูกของเธอกับผัวสันดานหมาสินะ"

เอ่ยจบประโยคภูทัตก็รีบขึ้นรถอย่างไม่สบอารมณ์  อดีตคนรักของเขาอย่างพันวาก็อุ้มลูกมองตามรถหรูที่แล่นผ่านหน้าไปพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลอาบหน้างาม 

"แม่จ๋าเจ็บมากไหม หนูโอ๋เอ๋น้า โอ๋เอ๋แม่จ๋า"

...น้องใยรักเอ่ยเสียงใสก่อนจะใช้มือจิ๋วของตนเช็ดน้ำตาให้แม่ผู้เป็นที่รักอย่างเบามือ  ...

...TBC...

...เดี๋ยวรู้กัน ว่าผัวสันดานหมามันคือใคร!!!...

...#ใยรักของภูทัต...

ใยรัก-02

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจในตอนเช้าที่ผ่านมา พันวาจึงตัดสินใจเก็บของใส่กล่องโฟมเล็ก ๆ กลับที่พัก  พวงมาลัยที่เป็นสินค้าเกิดความเสียหายเธอจึงไม่กล้าที่จะเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยการขายพวงมาลัยที่ตกพื้นแม้สภาพบางชิ้นจะยังคงความสวยงามอยู่ก็ตาม    ชายตัวเล็กกระเตงลูกน้อยไว้ที่เอวเดินตรงเข้าชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่สภาพแวดล้อมไม่สู้ดีนัก  สิ่งต่าง ๆ  ในชุมชนมักมีกลิ่นเหม็นของน้ำเน่าเสียและขยะข้างทางให้ชวนอาเจียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จุดหมายอย่างแรกก่อนจะถึงหอพักราคาถูกคือร้านชำขนาดเล็กของคุณลุงที่คุณแม่ลูกหนึ่งคนนี้มักจะแวะซื้อมาม่าปลากระป๋องหรือไข่เป็นประจำทุกสัปดาห์ แต่วันนี้ที่ชายคนนี้ต้องแวะซื้อกลับไม่ใช่อาหารแต่เป็นอุปกรณ์ทำแผลสดเพราะดูท่าทีการเดินของเขาเริ่มไม่ปกติ  ดูทีแล้วผลพวงนั้นมันมาจากอาการแสบปวดจากแผลที่ถูกรถหรูเฉี่ยวชนนั่นเอง

"อ้าวน้องวา  ยังไม่ครบเจ็ดวันเลยมาซื้อมาม่าแล้วเหรอ"

"เปล่าครับลุง  ขอซื้อแอลกอฮอล์ทำแผลกับเบตาดีนครับ"

"ตายแล้ว เป็นอะไรมาล่ะลูก"

"หกล้มนิดหน่อยครับ" พันวายิ้มแห้งเล็กน้อยก่อนจะชะเง้อมองตู้แช่เย็นหานมบางยี่ห้อแล้วเอ่ยสั่งของต่อ "ขอนมหมีน้ำผึ้งหนึ่งกล่องด้วยนะครับ"  

พันวาเอ่ยยิ้มแย้มเก็บอาการเจ็บแสบที่แผลก่อนจะหันไปฟัดแก้มกลมของตัวจิ๋วในอ้อมกอดที่ยิ้มแป้นเมื่อได้ยินคำว่า 'นมหมีน้ำผึ้ง'   ปกติแล้วพันวาจะซื้อนมรสหวานให้น้องใยรักกินได้เพียงเดือนละครั้งเพราะหนึ่งกล่องก็ราคาสูง การขายพวงมาลัยในแต่ละวันก็ได้เงินมากบ้างน้อยบ้าง เงินที่ได้มาก็เก็บไว้ให้ลูกเรียนส่วนหนึ่ง ส่วนที่สองไว้จ่ายค่าห้องเช่า และอีกส่วนเป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะในชีวิตประจำวัน

 หลังจากน้องใยรักหย่านมแม่แล้วเด็กตัวเล็กคนนี้จึงได้กินข้าวกับกล้วยสุก หรือสารพัดเมนูไข่  นาน ๆ  ครั้ง ถ้าเป็นมื้อหรู ๆ  คงเป็นหมูปิ้งหรือกับข้าวถุงละสี่สิบในตลาด  ส่วนขนมและนมรสหวานที่แสนอร่อยกว่าจะได้กินก็เฉลี่ยตกเดือนละครั้ง  หรือหากวันไหนน้องรักหิวนมมาก ๆ แต่ช่วงนั้นไม่มีเงินมากพอจะเจียดซื้อนมสักกล่องพันวาก็ทำได้เพียงใช้น้ำต้มข้าวรินใส่แก้วให้ลูกได้ดื่มอย่างน่าอดสู  

"นี่จ้า  หกสิบบาท"

"นี่จ้ะลุง"

"อะโหห  แบงค์ใหญ่แบบนี้ขายดีใช่ไหมวันนี้"  

คุณลุงเจ้าของร้านเอ่ยแซวเมื่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจ่ายเงินเป็นธนบัตรสีเทา พันวาไม่เอ่ยตอบกลับทำได้เพียงยิ้มแห้ง ๆ แล้วรอเงินทอนจากคุณลุงเท่านั้น 

"ขอบใจนะลูก ให้ขายดีทุกวันนะหนูวา"

"ขอบคุณครับ"  

ท่าทีที่อ่อนน้อมและรอยยิ้มที่เป็นมิตรเผยขึ้นต่อหน้าเจ้าของร้านชำได้เพียงครู่  ไม่นานชายหนุ่มร่างเล็กก็อุ้มกระเตงลูกชายวัยห้าขวบออกจากร้านแล้วเดินกลับไปยังหอพักเก่าโทรมราคาแสนถูกที่สองแม่ลูกมองว่านี่คือ 'บ้าน'  

เท้าความถึงอดีตพันวาเป็นเด็กกำพร้า ก่อนหน้าตอนยังไม่มีสมาชิกเพิ่มมาในชีวิตเขาได้เป็นพนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิงใกล้มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  พันวาทำงานไปด้วยส่งตัวเองเรียนไปด้วยและในช่วงเวลานั้นมันเป็นเวลาที่แสนมีความสุขเมื่อเขาได้พบเจอและได้รักกับ 'ชายคนหนึ่ง'  ในช่วงเวลานั้นทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้เพิ่มเจ้าแก้มก้อนเข้ามาในชีวิตอีกหนึ่งชีวิต  แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างที่เป็นดั่งละครน้ำเน่าหลังข่าวช่วงสองทุ่มครึ่งก็ทำให้กราฟชีวิตของพันวาจากที่พุ่งแตะจุดสูงสุดต้องร่วงหล่นมายังจุดต่ำสุดอย่างน่าเวทนา  

หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายทำให้ชายหนุ่มผู้นี้ต้องดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด  พันวาลาออกจากมหาวิทยาลัยและใช้เงินเก็บทั้งหมดที่ทำงานมาไว้เพื่อจ่ายค่าเทอมและค่าหอนั้นมาใช้จ่ายในการดูแลลูกแทน  ชีวิตที่ย่ำแย่แต่เธอก็ไม่เคยย่อท้อ  คุณแม่ใจสู้คนนี้ปากกัดตีนถีบถูไถชีวิตของตนเองและลูกมาได้รวมหกปี   ความคิดของพันวาในตอนนี้คือ....หากเขาเก็บเงินได้มากพอจะส่งลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้วเมื่อถึงตอนนั้นเธอจะหางานประจำที่ได้เงินเยอะกว่านี้ทำ  หากจะทำเลยในตอนนี้ในใจก็ห่วงน้องใยรักเสียเหลือเกิน  ผู้เป็นแม่ต้องกระวนกระวายใจเป็นแน่ถ้าหากปล่อยลูกอยู่คนเดียวแล้วตนต้องทำงานหาเงิน  หากถึงคราวที่ได้ฝากลูกเข้าโรงเรียนแล้วอย่างน้อยก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งว่ายังมีคุณครูในโรงเรียนที่ยังคอยดูลูกของตนได้บ้าง  

ในห้องเช่าห้องเดิมที่ที่อุดอู้ก็เริ่มโปร่งสบายขึ้นบ้างเมื่อชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูหลังห้องตรงระเบียงเพื่อให้ลมได้พัดโกรก  พัดลมเก่า ๆ ตัวเดิมเมื่อเริ่มเปิดใช้งานทีก็ร้องเสียง 'แอด ๆ ' ทุกครั้งเมื่อมันส่ายหน้า    พันวาเดินกลับมาหาลูกน้อยของตนที่นั่งจุ้มปุ้กพุงกลมและยิ้มแป้นแล้นมองกล่องนมพี่หมีที่เจ้าเด็กคนนี้โปรดปรานอย่างรู้ใจว่าแม่จ๋าของเขากำลังจะเดินมาเปิดกล่องแล้วเทนมให้ดื่ม  

"แบ่งกินนะลูก กินตอนนี้แล้วก็ตอนเย็น โอเคไหมครับ"

"ได้เยยแม่จ๋า" 

น้องใยรักเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและแสนอารมณ์ดี  เจ้าเด็กตัวขาวแก้มย้อยเริ่มตาโตเมื่อนมรสหวานเริ่มเทลงแก้วพลาสติกอันเล็กเพียงครึ่งแก้ว  มือเล็กทั้งสองยกขึ้นมาปรบมือแปะ ๆ แสดงความดีใจก่อนจะยกมือธุจ้าขอบคุณแม่คนสวยของเขาแล้วจับยกแก้วนมดื่มพลางหัวเราะชอบใจ  

"อาหร่อยยย คิคิ แม่จ๋ากินด้วยกันม้ายยย"

"ไม่ครับลูก อร่อยก็กินเลย"

คุณแม่เอ่ยยิ้มแล้วลูบหัวกลมของกล่องดวงใจอย่างเบามือ  ทว่าตอนนี้ตนก็เกิดความรู้สึกตึงและเจ็บแผลที่เข่าและศอกขึ้นเรื่อย  

"เดี๋ยวแม่ทำแผลก่อนนะน้องรัก หนูค่อย ๆ ดื่มนะครับ ถ้าทำหกพี่มดจะเข้ามาในห้องแล้วกัดหนูตัวแดงนะ"

"ค้าบบบ"  

พลางลูกรักรับปากชายตัวเล็กก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างแผลให้สะอาดก่อนจะเดินออกมาเพื่อเช็ดแผลให้แห้งแล้วใส่ยา ทว่าเสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันที่ใช้คุยสนทนาผ่านแชทดังขึ้นสองสามครั้งจนพันวานั้นแปลกใจ  คิ้วทรงงามเริ่มย่นเข้าหากันเพราะมันดังถี่ขึ้นเรื่อย  ปกติแล้วหากมีใครสักคนทักหาคงเป็นเจ้าของหอเพื่อเรียกเก็บค่าเช่าห้อง แต่นี่เขาเพิ่งจะจ่ายไปเมื่อต้นเดือน แล้วใครกันล่ะที่ทักมาหาเขาในเมื่อชายคนนี้ไม่มีสังคมที่ไหนเลย เพื่อนสมัยมหาลัยก็ขาดการติดต่อไปจนหมด  

...ภูทัต เพิ่มเพื่อนคุณ  ...

'ไม่ได้อยากจะหาข้อมูลของเธอแล้วติดต่อมาเท่าไหร่'

'แต่มีนักข่าวกำลังจะตีข่าวว่าฉันชนแล้วหนี'

'พรุ่งนี้คงมีคนไปดักรอเธอที่สี่แยกเพื่อสัมภาษณ์'

'รบกวนให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่าฉันชดเชยค่าเสียหายให้แล้ว'

'ฉันย้ำ พูดความจริงด้วย อย่าใช้นิสัยเดิมคือชอบโกหกมาทำฉันเดือดร้อนซ้ำสอง'

'อ่านแล้วไม่ต้องตอบ ฉันไม่อยากสนทนากับเธอ'

พันวาอ่านข้อความที่ส่งมายาวเหยียดพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย  ภูทัตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเหมือนเทพบุตรกลายเป็นชายแท้  เรื่องราวในอดีตที่ทั้งสองต่างฝังใจแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นหนังคนละม้วนหรือเปล่า ดูทีฟ้าจะกลั่นแกล้งให้เขากลับมาเจอกันแล้วเพิ่มความวุ่นวายในชีวิตของพันวาอีกแล้วเป็นแน่  

ชั้นยี่สิบห้าในตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองกรุงที่เป็นออฟฟิศและที่ตั้งของบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่นั้น  ท่านประธานบริษัทกำลังยืนในห้องทำงานพร้อมจิบกาแฟชมวิวเมืองหลวงที่ดูไม่สบายตาเท่าไหร่ก็ทำให้เขาถอนหายใจอีกครั้งของวัน  ร่างสูงล้วงมือถือขึ้นมามองแชทการสนทนาที่ตนส่งหาปลายทางเมื่อครู่ก็พบว่าอีกฝ่ายอ่านแต่ไม่ตอบจริง ๆ  นั่นยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดไปมากกว่าเดิมเสียนี่  

"ไม่มีมารยาท" 

ชายหนุ่มเอ่ยกับตนเองแผ่วเบาก่อนจะเดินกลับมายังโต๊ะทำงานแล้ววางแก้วกาแฟทรงงามที่เขาจิบมันไปเพียงอึกเดียวนั้นลง   ร่างสูงหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งท่านประธานแล้วกุมขมับนึกถึงแต่ใบหน้าของคนตัวเล็กในเหตุการณ์เมื่อเช้า   ภาพใบหน้าหวานของอดีตคนรักที่ดูผอมซูบแปลกตากลับทำให้เขาแคร่นขำในลำคอ  

"นี่สินะ กรรมที่ตามสนองคนพรรค์นั้น น่าสมเพชสิ้นดี"

แม้จะพูดเย้ยหยันออกมาแต่ดวงตาคมนั้นกลับแดงก่ำและคลอน้ำใส  สีหน้าของหนุ่มหล่อในตอนนี้กำลังสื่ออารมณ์อย่างเห็นได้ชัดว่ากำลังเจ็บปวดพร้อมเคียดแค้นอย่างอธิบายไม่ถูก  อดีตของทั้งสองมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ถึงทำให้ภูทัตคนนี้จ้องจงเกลียดจงชังเข้ากระดูกดำเหมือนพันวาเป็นตัวอะไรสักอย่าง แถมยังใช้คำพูดเชือดเฉือนอย่างไม่รักษาน้ำใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ราวกับอีกคนไปฆ่าใครตายเสียอย่างนั้น

...TBC...

...ไม่อยากคุยก็ให้เลขาคนสวยของแกติดต่อมาบอกเองสิ จะทักมาหาลูกชั้นทำไมจ๊ะนายภูทัต / มองบน...

...#ใยรักของภูทัต...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!