...คุณแต่ละคนคงมีเพื่อนไม่น้อย มีเพื่อนสักคนหรือไม่ที่ถูกใจคุณทุกอย่าง จนอยากจะเก็บเขาไว้ใกล้ๆตลอดเวลา ไม่อยากให้เขาเปลี่ยนแปลงไปเลย ถ้าคุณหาคุณสมบัติอย่างนั้นไม่ได้จากคน ก็ลองหาจากหนังสือดู คุณอาจพบก็ได้ ...
...สถานศึกษาทุกแห่งมีหน้าที่จัดสรรหนังสือและเอกสารดีๆ มีประโยชน์ มาไว้ให้ผู้เรียนอ่านในห้องสมุด ครูอาจารย์ก็สรรหาตำราเรียนดีๆมาแนะนำให้อ่านกัน หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ก็ผลิตหนังสือวารสาร นิตยสาร และเอกสารอื่นๆ มากมายออกมาจำหน่ายจ่ายแจกตามร้านและแผงลอยจำหน่ายหนังสือก็มีผลผลิตจากสำนักพิมพ์ต่างๆนับไม่ถ้วน ก็อยู่ที่ว่าคุณสนใจจะอ่านหนังสือหรือไม่ เลือกอ่านอะไร อ่านอย่างไร และอ่านทำไม บางคนสนใจอ่านเพราะความจำเป็นบังคับ บางคนสนใจอ่านเพราะได้ความเพลิดเพลิน บางคนสนใจอ่านเพราะได้ความรู้ความคิดใหม่ๆ บางคนสนใจอ่านเพื่อนำไปใช้ประโยชน์โดนตรง ...
...ตามหลักจิตวิทยานั้น เราจะสนใจอะไรก็ต่อเมื่อคาลหวังผลตอบแทนทางกายหรือทางใจ โดยไม่ต้องรอนานเกินไป หรืออย่างน้อยก็รู้ว่าต้องรอนานเท่าไหร่”” คุณลองตั้งใจถามตัวเองก็แล้วกันว่าต้องการอะไรเป็นรางวัลในการอ่านแต่ละครั้ง แล้วก็สัญญากับตัวเอง หรือขอรางวัลจากคนอื่นก็ได้เพื่อจะได้ลงมืออ่านจนสำเร็จ ไม่ว่าสิ่งที่อ่านจะยากเพียงใดก็จะพยายามทำความเข้าใจไปให้ตลอดด้วยวิธีต่างๆ เมื่อสำเร็จแล้วก็ต้องให้รางวัลตัวเองจริงๆ อาจเป็นขนม การไปเที่ยว การนอนให้เต็มที่ หรือหนังสือที่อยากได้จริงๆ สักเล่ม ...
... ...
... แต่ถึงทำตามคำแนะนำแล้วก็อาจจะมีปัญหาต่างๆ จนไม่อาจปรึกษาตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นก็ควรหันไปหาบุคคลต่างๆที่เรารู้จัก คบหาอยู่ ข้อสำคัญคือ อย่าอายที่จะพูดว่า ฉันไม่รู้ ฉันไม่เข้าใจ เพราะคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดรอบรู้เก่งที่สุดนั่น ที่จริงเป็นคนที่มีโทษสมบัติตรงข้ามกับที่ตัวคิดเสียมากกว่า...
...“”คนที่รู้จักการไม่รู้ต่างหากคืนคนฉลาด และจะฉลาดขึ้นอีกถ้ารู้จักแสวงหาคำตอบจากผู้ที่รู้ดีกว่า ””...
...หากคุณรู้จักคำว่า “เพื่อน” ดีพอ ก็ควรรู้ด้วยว่า เพื่อนน่าจะเป็นคนแรกที่เราปรึกษาด้วย ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ การศึกษาขั้นไหน แม้เพื่อนจะกำลังเรียนวิชาเดียวกับคุณ เขาอาจจะเข้าใจได้ดีกว่าคุณก็ได้ ถ้าหากเขาฝึกฝนเรื่องนั้นมามาก มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆมากกว่าคุณ ยิ่งได้จับกลุ่มคุยกัน หรือติวหนังสือกัน ความรู้ก็น่าจะยิ่งแตกฉาน เข้าใจได้หลายแง่มุม และอาจพอบว่ากำลังสงสัยประเด็นเดียวกัน จะได้ช่วยกันไปถามผู้สอนให้อธิบายพร้อมกัน พวกนักเรียนกลัวครูมักจะพาลเกลียดวิชาที่ครูนั่นสอน แต่คุณจะเป็นคนสอบตกดังนั้นถ้าเราจะช่วยกันสงสัย ช่วยกันถาม ครูอาจารย์ก็จะรู้ว่าผู้เรียนยังไม่เข้าใจอะไร และอธิบายจนเข้าใจ ไม่ใช่ออกข้อสอบไปทั้งๆ ที่สอนไปแบบไม่มีใครเข้าใจ ...
...ถ้าคุณไม่รู้ไม่เข้าใจแล้วก็ไม่ปรึกษาครู คุณอย่าไปโทษครู เพราะครูอาจจะนึกว่าตัวเองสอนดีแล้วก็ได้ มาคิดกันใหม่ว่าการช่วยบอกครูก็เท่ากับช่วยตัวเองดีกว่า ...
...สมมุติว่าปรึกษาตัวเองก็ยังไม่เห็นแสงสว่าง ปรึกษาครูก็ไม่กล้าหรือปรึกษาแล้วก็ยังมืดอยู่อีก วิธีที่สะดวกสบายใจสำหรับนักอ่านก็คือ “”อ่านเสริม “”...
...เด็กเล็กๆ มักอ่านหนังสือโดยโคลงศีรษะไปพลางใช้นิ้วหรือดินสอจิ้มไปทีละคำๆ ทำปากขมุบขมิบหรือส่งเสียงเจื้อยแจ้วไปพลาง แล้วหากถามว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรก็อาจจะตอบว่า “”ไม่ทราบฮ่ะ“” เพราะเด็กอาจจะ “เรียงคำ” ได้ถูกต้องชัดเจนทุกคน แต่ไม่ “เข้าใจ” ความหมาย ...
...แต่คุณคงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่อาจจะยังใช้วิธีอ่านแบบจี้เป็นคำๆ หรือเป็นบรรทัดๆอยู่ ไม่เช่นนั้นก็ใช้วิธีอ่านไปขีดเส้นใต้คำหรือข้อความไปเรื่อยๆ จนเลอะไปทั้งหน้า จนไม่รู้ว่าตรงไหนสำคัญมาก ตรงไหนสำคัญน้อย และตรงไหนไม่สำคัญ วิธีนั้นทำให้อ่านช้า และซ้ำอ่านไม่เข้าใจด้วย...
...มนุษย์ทั่วๆไปนั้น เมื่อถูกไฟก็รู้สึกร้อน เมื่อถูกน้ำแข็งก็รู้สึกเย็นเมื่อหิวก็ต้องกินอาหาร เมื่อกินอาหารแล้วก็อิ่ม แต่การเรียนรู้เพื่อให้เกิดความรู้นั้นมิได้เป็นอัตโนมัติอย่างตัวอย่างที่ยกมาข้างต้น คนเราต้องเรียนรู้และจะรู้กว้างขวางขึ้น ลึกซึ้งขึ้นได้ก็ด้วยการพัฒนาทั้งวิธีการและเนื้อหา ...
...หนังสือเล่มเล็กๆนี้ทำหน้าที่ช่วยแนะนำผู้อ่านที่ปรารถนาจะอ่านเป็น และอ่านเก่ง ไม่ว่าจะอ่านอะไร ทั้งในการศึกษาเล่าเรียนและในการดำเนินชีวิตให้ก้าวหน้าไปโดยปลอดภัยการตัดสินใจไม่ผิดพลาด ...
...เมื่อคุณพัฒนาขึ้นตามลำดับตั้งแต่เด็กๆนั้น คุณได้รู้จักผู้คนต่างๆมากขึ้นทุกวัน คุณคงเคยได้ฟังเรื่องราวที่ว่า หากคนรอบตัวคุณเป็นคนไม่ฉลาด ไม่พูดไม่จา คุณก็จะกลายเป็นคนเฉื่อยชาอย่างนั้นไปด้วยอย่างที่ว่าเป็นไปตามสิ่งแวดล้อมนั่นเอง แนะนำให้คุณคบหาผู้คนให้มากๆ แต่พยายามเลือกคบคนที่มีความ สามารถ ฉลาด มีความคิดความเห็นและพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ คนแรกที่คุณควรจะปรึกษาเรื่องการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณ ก็คือ ตัวของคุณเอง ปรึกษาตัวเองด้วยการคิดอย่างมีเหตุผลในด้านการอ่าน หากอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็ควรฝึกฝนตนเองตามที่วิธีที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ หากจะปรึกษาตัวเองในการอ่าน เรื่องราว หรือ ตำราที่มีต่างๆกันออกไป วิธีที่ดีที่สุดคือ “ตั้งคำถาม” เพราะคนที่ถามเป็น ถามตรงประเด็นนั้น นับว่าเป็นบัวเหนือน้ำแล้ว ถ้าแม้แต่จะตั้งคำถามก็ยังทำไม่ได้ ก็คงต้องเป็นบัวใต้น้ำต่อไปก่อน เพราะนั่น หมายความว่าคุณไร้ความสามารถ จนแม้กระทั่งจะขอให้ผู้อื่นช่วยก็ยังไม่รู้จะขอให้เขาช่วยอะไรเลย...
...การอ่านที่ดีนั่นได้กล่าวแล้วว่า มิใช่มีแต่การอ่านเพื่อเรียนเท่านั้น เมื่อคุณพัฒนาความสามารถของตนเองขึ้นมาแล้ว ผลที่ตามมาจะมิได้มีอยู่เฉพาะตัวเอง เพราะคุณรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่ด้อยโอกาสเพราะเขา “อ่านไม่เป็น ไม่อ่าน หรือมีปัญหาการอ่าน” หากคุณมีโอกาสจะช่วยผู้อื่นได้ ก็นับได้ว่าคุณเป็น “เพื่อน” คนหนึ่งที่ทุกคนต้องการคบหา ...
...ขอให้คุณอ่านข้อความต่อไปนี้เพื่อจะได้ตระหนักว่า หากคุณอ่านเก่ง คุณอาจจะมีคุณค่าได้อย่างบุคคลตัวอย่างคนหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จอย่างหน้าชื่นชม ทั้งๆ ที่เกิดมาจนและไม่มีเงินซื้อหนังสือด้วยซ้ำไป “การอ่านช่วยให้ฉันเห็นคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ ความรู้นั้นได้มาหลายทาง การอ่านเป็นทางหนึ่งของการแสวงหาความรู้ การอ่านหนังสือนั้นมีความสำคัญต่อความนึกคิดของคน ตลอดจนพฤติกรรมที่แสดงออกต่อเพื่อนมนุษย์”...
...ขณะนี้ที่ฉันเป็นเด็กและยังไม่ได้เข้าโรงเรียน ฉันเห็นพี่ๆ และเด็กข้างบ้านอ่านหนังสือดูมีความสนุกสนานกับการอ่าน ฉันเริ่มใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งฉันจะได้เข้าโรงเรียน จะได้อ่านหนังสือกับเขาบ้าง หนังสือการ์ตูน " หนูจ๋า " เป็นหนังสือที่ฉันโปรดปรานมากที่สุด แต่ฉันไม่มีเงินที่จะซื้อหนังสือ ต้องไปเช่าหนังสือจากร้านมาอ่าน ฉันได้เริ่มเข้าโรงเรียนได้เงินจาก พ่อ-แม่ วันละ๑๐ บาท ฉันเก็บออมเงินที่ได้มาจาก พ่อ-แม่ เพื่อจะเอาเงินไปเช่าหนังสือในราคาเล่มละ ๓๐ บาท เมื่อฉันอ่านหนังสือตอนแรกๆ ฉันรู้สึกภาคภูมิใจ ฉันมักจะอ่านหนังสือเสียงดังอวดเพื่อนๆ ที่อ่านไม่ออก ตามอารมณ์ของเด็กที่มักจะนึกว่าตนเองนั้นเก่งกว่าใครๆ เมื่อฉันต้องออกจากโรงเรียนตอน ป.๖ เพื่อนๆได้เรียนต่อ แต่ฉันต้องออกเพราะ พ่อ-แม่ ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ ฉันช่วยพ่อ-แม่ หาเงินด้วยไปทำงาน เศรษฐกิจ-ทำสวน ฉันรู้สึกเสียใจมาก มันทำให้ฉันต้องห่างจากหนังสือมากนัก ในขณะที่ฉันคิดเสมอว่า แทนที่จะได้เป็นนักเรียน แต่เงินไม่สามารถตัดฉันขาดออกจากการเป็นคนที่ชอบหาความรู้ด้วยการอ่านเอง และศึกษาเองได้ ...
...ฉันคิดอยู่เสมอว่า ความรู้หรือการศึกษาที่เรามีนั้นต้องมีมาและได้มาเพื่อการแบ่งปันกัน เอื้ออาทรต่อกัน จึงจะเรียกว่าผู้มีการศึกษาและนี้แหละค่ะที่อิทธิพลของการอ่านทำให้ชีวิตของดิฉันจากเด็กสลัมที่เรียนจบแค่ ป.๖ มาเป็นครูประทีป"" ...
...นอกจากครูประทีป อึ้งทรงธรรม แล้ว ยังมีบุคคลอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จในการอาชีพหรือในการทำงานอดิเรก เพราะว่าเขา " ขยันอ่าน รักการอ่าน อ่านทุกอย่างที่เห็น " จนกระทั่ง "อ่านเก่ง" บางคนสร้างตัวจากความยากจน บัดนี้กลายเป็นมหาเศรษฐี บางคนมีอาชีพอย่างหนึ่ง และมีงานอดิเรกที่สร้างรายได้มากกว่ารายได้จากอาชีพหลัก เพราะเขาศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองโดยเริ่มจากการอ่าน ...
...ถ้าคุณอ่านเก่ง คุณจะรู้ว่าโลกนี้ จักรวาลนี้กว้างใหญ่ ความรู้ต่างๆ ก็มีมากเหลือจะตักตวงได้หมด...
...คราวนี้คุณยืดอกให้ผึ่งผาย หายใจให้เต็มที่ สบตาทุกคนที่พบ เพราะ คุณมีพลังการอ่านที่ยิ่งใหญ่ คุณจะไม่ง่วง ไม่ท้อ ไม่เบื่อ ไม่เหงา ไม่สับสน ไม่มีปมด้อย เพราะคุณมีความสามารถพัฒนาตัวเองได้โดยไม่หยุดยั้ง...
...ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม คุณมี "โอกาส" ทำชีวิตให้มีค่าและประสบความสำเร็จตามที่ตัวเองต้องการได้ค่ะ ...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!
