1 -
ในวันที่ท้องฟ้าสดใส กลิ่นอายแห่งความสุขที่มันเล่อล้นออกมาใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม ดวงตาที่ส่องสว่างไปด้วยความตื่นเต้น เสียงเพลงที่บรรเลงไปด้วยความยินดี ผู้คนมากมายต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
“ แม่..หนูตื่นเต้นจังเลย ” หญิงสาวในชุดราตรีสีขาวอมชมพูที่ดูมีราศรี ดูสง่างาม เครื่องประดับลวดลายดอกไม้สีชมพูอ่อนดูระยิบระยับไปทั่วร่างกาย มันช่างเหมาะกับเธอคนนี้มากเหลือเกิน ทั้งสีผิวที่ขาวราวกับก้อนปุยเมฆ ดวงตาสีดำสนิทดูแล้วสบายตา ปากอมแดงชมพูราวกับลูกชมพู่ที่ไกล้สุกเต็มที
“ ไม่ต้องตื่นเต้นไปหรอกลูกแม่ วันนี้หนูสวยมากเลยรู้มั้ย ” คนเป็นแม่เอ่ยปากพูดบอกก่อนจะเอื้อมมือไปจับทรงผมของหญิงสาวที่มันโด่เด่ออกมา คนเป็นแม่ส่่งยิ้มให้กับเธอผ่านกระจก
“ แม่ค่ะ...แม่คิดว่าพี่เขาจะรักหนูเหมือนที่แม่รักหนูหรือป่าวค่ะ ” เธอหันไปถามแม่ของเธอก่อนจะส่งสายตาว่าช่วยบอกเธอที คนเป็นแม่ได้แต่สายหัวไปมา อันเป็นว่าแม่เองนั้นก็ไม่รู้
“ ได้เวลาเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเข้างานครับ ” เสียงของชายคนนึงได้เอ่ยบอกเธอนั้นตื่นเต้นมากจนตัวเกร็งไปหมด เธอสูดหายใจเข้าให้ลึกที่สุดก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมที่จะเดินออกไปจากหลังประตูบานนี้
“ ลูกแม่สวยมากเลย ” แม่ของเธอเอ่ยชมก่อนจะเดินไปจัดชายกระโปรงที่มันพับติดกันอยู่เป็นก้อน
“ แม่...ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ”
“ ไม่ได้หรอก งานแต่งของลูกสาวทั้งคนนะ ” เธอนั้นได้แต่สายหัวไปมากับความดื้อดึงของแม่ ก่อนที่พ่อของเธอจะเดินเข้ามาอีกคนพ่อส่งยิ้มให้เธอก่อนจะมองเธอตั้งแต่ตัวจรดเท้า
“ โอ้โห้ ลูกพ่อนี้สวยจริงๆเลย ”
“ พ่อก็ชมเกินไปหนูไม่ได้สวยขนาดนั้นซักหน่อย ” เธอบอกพ่อของเธอไปด้วยความเขินอายก่อนที่พ่อของเธอจะเดินมาเอาแขนให้เธอคร้อง
“ ป่ะ ได้เวลาเเล้ว ” ฉันพยักหน้าตอบรับก่อนจะค่อยๆก้าวขาออกไปทีละก้าวทีละก้าว ใบหน้าของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แต่แล้วเมื่อเธอก้าวออกมาจากประตูบานนั้นเธอก็ต้องหยุดชะงักไปกลางคัน
เสียงเอะอะนินทาซุบซิบดังไปทั่ว เธอนั้นไปแต่ทำหน้างุนงงก่อนที่จะสังเกตุเห็นว่าที่เจ้าบ่าวของเธอแต่ก่อนที่เธอจะได้เดินเข้าไปทักเธอก็มองไปเห็นสิ่งที่สะดุดตาเธอเป็นอย่างมาก นั้นก็คือหญิงสาวท้องโตที่น่าจะท้องได้ราวๆ 6-7 เดือนที่มือของหญิงสาวคนนั้นได้กำมือของสามีเธอแน่น ตาของเธอลุกวาวขึึ้นมาทันทีเธอรีบเดินจ้ำอ้าวไม่สนว่าชุดที่เธอใส่มันจะเปื้อนรึป่าว
“ นี้! เธอเป็นใครนะปล่อยมือสามีฉันเดี๋ยวนี้นะ! ” เธอเดินมุ่งไปที่มือของทั้งสองคนก่อนจะจับมือของหญิงสาวแล้วสะบัดมือของเธอคนนั้นออกไปด้วยความโมโหที่มาจับมือของสามีเธอ
“ ทำบ้าอะไรของคุณ! ไม่เห็นรึไงว่าเธอท้องอยู่ ” คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีได้ตะหวาดใส่เธอเสียงดึงพร้อมกับที่แขนของเขาสะบัดออกจากมือของเธอและมุ่งตรงไปที่หญิงสาวคนนั้นทันที
“ นี้..นี้คุณ! แบบนี้มันหมายความว่าไง! ”
“ ..... ”
“ ฉันถามว่ามันหมายความว่ายังไง!! ” เธอตะหวาดเสียงดังพร้อมกับที่เดินไปดึงแขนของสามีเธอมาแต่กลับกันสามีเธอนั้นก็สะบัดมือเลี่ยงไม่ให้เธอจับ เธอถึงกับยืนแข็งทื่อกับกิรียา และสิ่งที่สามีเธอทำอยู่นะตอนนี้
“ ไอ้เบสต์! มึงพาอีผู้หญิงคนนี้มาทำไม! ” เสียงพ่อของเบสต์ผู้เป็นเจ้าบ่าวได้ดึงขึ้น เบสต์ได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมพูดอะไรเลยซักคำ
“ เออ..คือว่า ” หญิงสาวที่เบสต์พามาด้วยเอ่ยปากที่จะพูดแต่ก็ต้องอยุดชะงักเมื่อหันไปเห็นสายตาของ ราญาย์ ที่ต้อนที่จ้องเธอตาเขม็งราญาย์กำชุดแต่งานที่เธอสวมใส่อยู่แน่น
“ ...... ”
“ พี่เบสต์พี่จะเอายังไง ตกลงผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? ” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน ในตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า
“ คือว่า..พี่ ”
“ ...... ” เธอยืนเงียบเพื่อรอคำตอบของเบสต์แต่เขาก็ยังพูดตะกุกตะกักไปมา จนเธอเริ่มที่จะทนไม่ไหว
“ คือว่าอะไรพี่ก็พูดมาสิ! ”
“ คือว่าพี่ทำผู้หญิงคนนี้ท้อง..” สิ้นเสียงเธอก็ได้แต่ยืนอึ้งกับคำตอบของเขา แม่ของเธอที่ยืนอยู่ข้างๆก็เป็นลมล้มพับไปทันที เสียงเอะอะโวยดังไปทั่ว เธอนั้นได้แต่ยืนคิดแล้วคิดอีกว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องจริง
ไม่จริง ไม่จริงหลอกมันต้องเป็นความฝันแน่ๆ!
ถ้าไม่ใช่ความฝันพี่เบสต์อาดจะแค่แกล้งเราก็ได้!
“ พะ..พี่เบสต์อย่าแกล้งกันแบบนี้สิ มันไม่สนุกเลยน่ะ ” เธอพยายามพูดบอกไปเพื่อปลอบใจตัวเอง แล้วยังคงคิดว่ามันต้องไม่ใช่ความจริง
“ ไม่ พี่ไม่ได้แกล้ง ”
“ ..... ” พูดจบน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลรินออกมาอย่างช้าๆ เธอล้มพับลงไปกับพื้นแข้งขาของเธออ่อนแรงไปหมด เธอนั่งทรุดตัวอยู่ที่พื้นในใจสั่นไหวไปหมด
“ พี่ขอโทษ ” เบสต์พูดทั้งน้ำตา เธอได้แต่คิดว่าเขาจะร้องทำไมคนที่ควรร้องมันควรจะเป็นเธอ ความรู้สึกที่ถูกหักหลัง ความรู้สึกที่ถูกหลอก มันประดำประเดเต็มหัวของเธอไปหมด
“ ทำไม...ทำไมกัน!! ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับฉัน! ” เธอพูดทั้งน้ำตาก่อนจะหันสายตาไปทางหญิงสาว ผู้หญิงคนนั้นได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆมือของเบสต์ก็ยังคงโอยกอดไปที่ท้องของเธอ
เธออยากที่จะลุกขึ้นไปแล้วกระชากผู้หญิงคนนั้นออกมาเต็มที แต่พอมองไปที่ท้องของหญิงสาว เธอก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจ
“ วันนี้..มันควรจะเป็นวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันิย่างมีความสุขแท้ๆ”
“ พี่ขอโท- ” ยังไม่ทันทีเบสต์จะได้พูดจบก็มีมืออันเล็กและบางฟาดลงมาที่ใบหน้าของเขาทันที เบสต์ถึงกับหน้าหัน เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาที่มุมปากของเขา
“ ฉันเกลียดพี่!! เกลียดผู้หญิงคนนั้นที่ได้ใจพี่ไปด้วย! ” เธอกัดฟันพูดทั้งน้ำตาก่อนจะวิ่งออกไปจากงาน เธอวิ่งไปที่รถของเธอก่อนจะรีบบึ่งขับรถออกไปด้วยความเร็ว เธอร้องให้สะอื้นไม่หยุด
“ ที่ตรงนั้นมันควรจะเป็นฉัน....ฮึก ” เธอได้แต่รำพึงรำพันก่อนจะเหยียบคันเร่งของรถ ด้วยความเร็วที่เธอนั้นเหยียบไป แต่แล้วอยู่ๆก็มีหมาตัวนึงวิ่งมาตัดหน้ารถของเธอ ราญาย์รีบหักพวงมาลัยหนีก่อนที่จะเหยียบเบรกแต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว
โคร่ม!
เสียงของหน้ารถกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ได้ดังขึ้นเสียงดังสนั่นไปทั่ว เสียงของผู้คนมากมายกำลังแตกตื่น เธอยังพอมีสติอยู่นิดหน่อยเธอหันสายตามองไปรอบๆแต่เธอก็เห็นไม่ชัด เลือดสีแดงสดไหลยาวตั้งแต่ตัวยาวไปถึงแขน ใบหน้าที่มีแต่เลือดสีแดงสด ดวงตาเริ่มสั่นคลอนด้วยความเจ็บ
ขามัน...ไม่รู้สึกอะไรเลย ภาพในหัวมัน..ขาวโพลนไปหมด
ฮึก...หายใจไม่ค่อยออกเลย...ใครก็ ช่วย..
2 -
แสงสีขาวเริ่มถ่าโถมเข้ามาทันทีที่ราญาย์นั้นลืมตาตื่นขึ้นมา เสียงของแม่ที่เรียกชื่อของเธออยู่อย่างไม่ขาดสาย
“ แม่... ” เสียงของเธอที่เปล่งออกมานั้นแหบแห้งจนแทบไม่ได้ยิน แม่ของเธอรีบลุกขึ้นไปเทน้ำให้กับเธอทันที
“ ค่อยๆลุกน่ะลูก เห้อขวัญเอยขวัญมานะลูก ” แม่พยุงตัวของเธอขึ้นมาก่อนจะลูบหัวเพื่อปลอบประโลมเธออย่างอ่อนโยน แม่ยื่นแก้วน้ำมาให้กับเธอแต่ก่อนที่เธอจะได้กินน้ำอยู่ไปเธอก็รู้สึกเจ็บที่ท้องน้อยขึ้นมาจนแก้วน้ำในมือหล่นลงพื้นจนแตก
“ อึก.. ”
“ หมอ! เรียกหมอที! ” เสียงแม่ของเธอพูดขึ้นด้วยท่าทีตกใจ ไม่นานหมอก็วิ่งเข้ามาดูอาการของเธอ
“ ..... ” คนเป็นหมอพอตรวจเสร็จก็เงียบไปทันที หน้าตาที่เลิกลักของคุณหมอทำให้เธอกับแม่เริ่มกังวลใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆกับเธอรึป่าว
“ คุณหมอค่ะ ผลตรวจเป็นไงบ้าง ” คนเป็นแม่ได้แต่เอ่ยถามอย่างกังวลใจ คนเป็นหมอก็ไม่แพ้กันเขาได้แต่พยักหน้าให้กับหมอและพยาบาลคนอื่นๆที่เข้ามาตรวจด้วย
“ คือว่าอาการที่เจ็บตรงท้องน้อยมันเกินจากการกระแทกอย่างรุนแรงทำให้เด็กในท้องของคุณได้รับแรงกระแทกจนมีการตกเลือดในบางส่วนครับ ”
พูดจบทั่งเธอแม่และพ่อที่ตอนนี้เดินมาได้ยินพอดีหลังจากที่ไปซื้อของมา เธอเองก็ช็อคไม่แพ้กันหลังได้ยินคำว่าเด็กในท้อง เธอรู้สึกชาไปทั้งตัว ส่วนแม่ของเธอถึงกับยืนไม่อยู่เลยทีเดียว
“ ดะ..เด็กอย่างงั้นหรอคะ? ” เธอเริ่มตั้งคำถามกับคุณหมอที่อยู่ตรงหน้าอย่างตื่นตระหนกทันที คุณหมอก็ได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะยื่นผลตรวจมาให้กับเธอดู
“ 2 เดือน นี้ฉันท้องตั้งสองเดือนแล้วงั้นหรอทำไมมั้นไม่เห็นมีอาการว่าจะท้องเลยละ.. ”
“ เออคือว่าหมอขอพูดตรงส่วนนี้หน่อยนะครับ การที่คุณนั้นตั้งท้องได้สองเดือนแถมยังไม่แสดงอาการใดๆให้รับรู้มันสามารถเกิดขึ้นได้ครับ บางคนเวลาท้องก็ไม่มีอาการแพ้ท้องเลยซักนิดก็มีครับ ”
คุณหมอยื่นอธิบายยาวเยียดจนเธอได้แต่ทำหน้าอึ้งๆ ตอนนี้หัวสมองของเธอมันเริ่มคิดกันไปมาว่าจะทำอย่างไรดี ตอนนี้เธอท้องได้สองเดือน แต่ผู้หญิงอีกคนที่สามีเธอได้แอบไปมีชู้กับท้องได้ราวๆ6เดือน
“ อ่า...นี้มัน..บ้าที่สุดเลย ” เธอได้แต่สบดออกมาด้วยความหนักใจ ว่าตัวเธอเองนั้นจะกลับไปบอกสามีเธอว่าท้อง หรือเธอจะไม่บอกแล้วเก็บเงียบไว้ดี แต่สุดท้ายเธอนั้นก็คิดว่าจะไม่บอกแล้วเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ให้อดีตสามีที่นอกใจเธอรู้เด็ดขาด
“ แม่ค่ะพ่อค่ะ หนูขออะไรอย่างได้มั้ยค่ะ ”
“ อะไรละลูกแค่ลูกพูดมาพ่อกะแม่ก็พร้อมจะให้ลูกทุกๆอย่างเลยน่ะ ”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของพ่อทำเธอที่กำลังกลุ้มใจถึงกับต้องยิ้มออกมา แม้ว่าพ่อของเธอจะพูดแบบนั้นก็ยังกังวลว่าพ่อคงจะไม่ให้ในสิ่งที่เธอขอครั้งนี้แน่
“ พ่อกับแม่ช่วยเก็บเรื่องนี้หนูท้องไว้เป็นความลับกับพี่เบสต์ได้มั้ยคะ ”
“ อะไรน่ะ!! ไม่ได้! พ่อไม่ยอมเด็ดขาดลูกตัวเองท้องทั้งคนจะไม่ให้บอกคนที่มันทำลูกพ่อท้องได้ไง! มันต้องรับผิดชอบในสิ่งที่มันทำ! ”
“ แต่ว่าพ่- ”
“ ไม่ก็คือไม่! พ่อจะบอกเรื่องที่ลูกท้องกับมันเพราะมันต้องรับผิดชอบ! ”
เธอกะไว้แล้วว่าพ่อของเธอคงจะไม่ยินยอมเรื่องที่เธอจะขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับอยู่แล้ว ก็อย่างว่าลูกตัวเองท้องทั้งคนส่วนคนที่ทำลูกตัวเองท้องกับแอบไปมีชู้แล้วชู้ก็ดันท้องสะงั้น
“ พ่อค่ะถือว่าหนูขอนะ หนูไม่อยากให้คนอย่างเขาต้องมารู้ว่าหนูท้องแถมลูกในท้องก็ยังเป็นของเขา ถ้าเลือกที่จะให้หนูบอกเรื่องนี้กับคนอย่างเขาหนูยอมตายยังดีซะกว่าอีก ”
“ แต่ว่า!! ”
“ น่ะค่ะพ่อ ” เธอพยายามพูดเพื่อให้พ่อของเธอนั้นใจอ่อนเพราะเธอเองก็คงไม่อยากให้คนเลวๆอย่างเขาต้องมารู้ว่าเธอนั้นท้อง พ่อของเธอก็ได้แต่สายหัวไปมาเพราะทนความดื้อรั้นและคำขอร้องของเธอไม่ไหว
“ ก็ได้! ชิ ” สุดท้ายคนเป็นพ่อก็ต้องแพ้พ้ายให้กับคนเป็นลูกอย่างเธออีกเช่นเคย พ่อของเธอตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจนัก เธอก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา
“ ขอบคุณค่ะพ่อ อ๋อแล้วก็หนูมีเรื่องตะขออีกอย่างนึงค่ะ ”
“ อะไรอีกละทีนี้ ” คนเป็นพ่อเริ่มทำหน้าเจื่อนว่าลูกของเธอนั้นคงไม่ขออะไรเกี่ยวกับอดีตสามีเธออีกใช่มั้ย แต่สิ่งที่เธอจะพูดต่อไปนี้ก็ทำให้คนเป็นพ่อที่รักการสร้างและต่อเติมบ้านยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“ หนูอยากย้ายไปอยู่ที่บ้านเกิดของเราค่ะ หนูจะคลอดลูกที่นั้นและก็จะอยู่กับลูกนั้นด้วยค่ะ แต่ว่าที่บ้านเกิดมันมีส่วนที่พูดพังอยู่เยอะเลยอยากให้พ่อช่วยซ่อมมันให้หน่อยน่ะค่ะ และก็ฝากเติมหน้าต่างกับระเบียงให้ด้วยน่ะค่ะ ”
“ เรื่องแค่นี้พ่อทำได้อยู่แล้ว ใช่มั้ยแม่ ” คนเป็นพ่อพูดโอ้อวดทันทีก่อนจะหันไปชักช่วนแม่ด้วยอีกคน แม่ก็ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าตอบกลับพ่อด้วยความท้อใจที่พ่อของเธอนั้นชอบทำตัวอวดเก่งต่อหน้าลูกสาว
ไม่นานเธอก็ได้ออกจากโรงพยาบาลก่อนออกก็ได้ทำการตรวจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอผลก็ออกมาว่าเด็กในท้องแข็งแรงดี เธอก็ได้แต่ยิ้มด้วยความดีใจที่ลูกของเธอนั้นยังปลอดภัยดีอยู่
ไม่นานรถก็ขี่มาจอดที่หน้าบ้านของเธอก่อนที่จะลงรถแล้วเดินเข้าบ้าน แต่ก่อนจะถึงตัวบ้านแม่ของเธอก็สักเกตุเห็นว่ามีซองจดหมายมาเสียบอยูที่ตู้ไปรษณีย์ แม่ของเธอหยิบจดหมายนั้นออกมาและเห็นว่าหน้าซองจดหมายนั้นมีชื่อของเบสต์ที่เป็นคนส่งจดหมายมาอยู่
“ ญาย์ลูกหนูจะอ่านรึป่าว ”
“ อ่านค่ะ ” เธอตอบตกลงทันทีเพราะเธอเองก็สงสัยว่าข้างในนั้นมันเขียนว่าอะไร ทันทีที่เปิดจดหมายออกมากลิ่นหอมที่คุ้นเคยก็รอยมาติดจมูกทันที เธอจำกลิ่นนี้ได้มันเป็นกลิ่นน้ำตอบกุหลาบขาวที่เธอชอบ เธอกัดฟันแน่ด้วยความโกรธว่าทำไมต้องฉีดกลิ่นนี้มาด้วยเพราะมันจะทำให้เธอหวนนึกถึงอดีตของเธอและเขา
“ น่าโมโหชะมัด ”
“ งั้นลูกอ่านไปเถอะแม่กับพ่อยกของเข้าบ้านก่อนน่ะ ” เธอพยักหน้าตอบก่อนจะหันมาดึงกระดาษออกมาพอเปิดออกมาเธอกลับพบว่าที่จริงแล้วจดหมายนั้นคนที่ส่งมาไม่ใช่เบสต์แต่เป็นผู้หญิงที่เขาพามาถล่มงานแต่งในวันนั้น เธอถึงกับเลือดขึ้นหน้าที่ชู้อย่างนางกลับกล้าที่จะส่งจดหมายมาหาเธอ มันเหมือนเป็นสิ่งที่รนอย่างผู้หญิงคนนั้นส่งมาหยามเธอ
“ เหอะ! กล้าดียังไงเป็นแค่เมียน้อยที่แย่งสามีคนอื่นไป แต่กลับกล้าที่จะส่งจดหมายมาหยามกัน! ”
เธอตะหวาดเสียงดังด้วยความขนาดแค่เห็นคำเขียนเล็กๆที่อยู่หน้าซองจดหมายแม้ยังไม่ได้เปิดอ่านเธอก็โกรธถึงขีดสุดแล้ว เธอพยายามข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้ก่อนที่จะเปิดหน้ากระดาษขึ้นมาอ่าน
ส่งถึงคุณราญาย์อดีตภรรยาของคุณเบสต์
ดิฉัน พรฐิติญาร์ เป็นคนส่งจดหมายนี้มาเพื่อเรียนให้อดีตภรรยาอย่างคุณทราบ ว่าดิฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะแย่งสามีของคุณแต่อย่างใดสามีคุณเองต่างหากที่เป็นฝ่ายมาหาดิฉันก่อน แม่ดิฉันจะรู้อยู่แล้วว่าคุณเบสต์นั้นมีภรรยาอยู่แล้ว แล้วว่าลึกๆแล้วฉันเองก็แอบมีใจให้กับคุณเบสต์เช่นกัน ส่วนคุณเบสต์เองเขาก็รักฉันเพราะฉะนั้นฉันก็จะไม่มีคำขอโทษแต่อย่างใดเพราะว่าเราสองคนนั้นรักกัน แถมยังมีลูกผู้ชายที่ตอนนี้ตั้งครรภ์แล้วอีก6เดือน เขาเป็นคนบอกกับฉันเองด้วยซ้ำว่าเขานั้นไม่ได้รักคุณ แต่เขากลับบอกว่ารักฉันมากกว่าคุณซะอีก เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าคุณจะโกรธเคืองยังไงดิฉันก็ไม่ขอโทษหรอกค่ะ เพราะงั้นห้ามแม้แต่จะคิดมาตามตื้นอดีตสามีคุณที่ตอนนี้เป็นสามีของฉันเด็ดขาด หวังว่าคุณจะเข้าใจค่ะ
ขอบคุณที่อ่านคะ
จาก พรฐิติญาร์
“ ..... ” หลังอ่านจบเธอถึงกับโมโหจนอยากจะฉีกหน้าของผู้หญิงคนนั้นเป็นชิ้นๆ ถึงแม้หน้าตาของผู้หญิงคนนั้นจะดูใสซื่อ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นนางมารร้ายที่รู้แล้วว่าเบสต์นั้นมีเธออยู่ทั้งคนแต่ก็ยังคิดที่จะแย่งไป คำอ่านในจดหมายที่ส่งมาเหมือนจะเป็นคำขอโทษแต่กลับกันมันกลับเป็นเหมือนคำเยาะเย้ยคำขู่ ไม่มีแต่จะขอโทษใด้ๆแถมยังมาดูถูกเธออีก
“ ได้! คนอย่างฉันไม่มีวันกลับไปกินของเน่าของเก่าอยู่แล้ว! ” เธอพูดด้วยความโกรธก่อนจะฉีกกระดาษนั้นเป็นชิ้นๆแล้วเดินสะบัดผมเข้าบ้านไปด้วยความขุ่นเคือง
3 -
แล้วเวลาก็ผ่านไปสามสัปดาห์ ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นพ่อของเธอก็ได้ขี่รถกลับบ้านเกิดเพื่อไปซ่อมบ้านให้เธอก่อนที่จะไปอยู่ ไม่นานบ้านที่พ่อซ่อมให้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
“ แกคิดดีแล้วใช่มั้ยญาย์ ” เนย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เธอไว้ใจและกล้าจะบอกเรื่องที่เธอท้องให้กับเนยฟัง วันแรกที่เนยรู้ข่าวเธอก็แทบจะสติแตกจนอยากจะไปหยุ่มหัวของชู้คนนั้นให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
“ อื่อ คิดดีแล้วละ ”
“ เห้ออ โอเคๆแกว่าไงฉันก็ว่างั้นแหละ ” เนยพูดก่อนจะเดินมาช่วยเธอจัดประเป๋า ระหว่างที่กำลังเก็บของอยู่นั้นเธอก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอรูปหัวใจที่วางอยู่บนหลังตู้
“ ..... ” เธอหยิบสร้อยคอเส้นนั้นลงมาก่อนจะนึกถึงช่วงเวลาที่เบสต์นั้นเป็นคนมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับเธอในวันครบรอบ3ปี เธอตัดสินใจที่จะทิ้งสร้อยเส้นนั้นไป เธอไม่อยากนึกถึงอดีต เธออยากที่จะเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างกับลูกของเธอ
“ เสร็จซักที ป่ะขนของขึ้นรถกัน ” เนยหันมาบอกกับเธอ ขณะที่เธอกำลังจะหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ขึ้นมาเนยก็หันหน้ามาร้องห้ามทันที
“ เฮ้ยๆๆๆ แกปล่อยกระเป๋านั้นลงเลยนะมันใบใหญ่ขนาดนี้แกจะถือทำไมเอามานี้เดี๋ยวฉันถือเอง เกิดให้เธอถือหลานฉันได้หลุดออกมาดูโลกก่อนกำหนดแน่ๆ ”
เนยบ่นเธออย่างยาวเยียดจนเธอนั้นถึงกับหลุดขำออกมาพรืดใหญ่ ท่าทางที่ดูเป็นห่วงเป็นใยเธอจนเกินเบอร์มันช่างดูตลก เนยก็ได้แต่บ่นไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนเห่อที่จะได้มีหลาน
“ ฮ่า ฮ่า นี้กทำอย่างกับว่าฉันพิการยังไงก็ไม่รู้ ”
“ ไม่ต้องเลย ถ้าเกินท้องเกิดกระแทกกระเป๋าขึ้นมามีหวังฉันได้รู้สึกผิดจนลูกแกโตแน่ ” เธอได้แต่หัวเราะกับความเงะงะของเนย ก่อนที่จะเดินนำเนยลงมาจากตัวบ้านลงมาที่ลานจอดรถที่ตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอยืนรออยูแล้ว
“ ป่ะ ไปกัน ” คนเป็นแม่เดินมาจับมือของเธออย่างอ่อนโยนก่อนที่เธอกับแม่จะหันไปมองบ้านหลังเล็กที่มันมีความทรงจำมากมายของเธอตั้งแต่เด็กจนโต เธอรู้สึกว่าไม่อยากจะจากบ้านหลังนี้ไปแต่มันก็ไม่มีทางเลือก น้ำตาของเธอเริ่มคลอเบ้าคนเป็นแม่กับพ่อก็ได้เดินมาสวบกอดเธอเอาไว้
“ ไม่เป็นไรนะลูก บ้านหลังนี้มันจะเป็นส่วนนึงของความทรงจำของตลอดไป ” แม่ของเธอพูดขึ้น เธอเริ่มสะอื้นให้ออกมาด้วยความที่รู้สึกที่ผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้ เธอกลั้นน้ำตาไม่อยู่ พ่อกับแม่และเนยก็เช่นกัน
“ ไปเถอะลูก เราต้องเริ่มต้นใหม่กันนะ ” พ่อของเธอพูดก่อนจะพาเธอเดินไปที่รถเธอนั้นได้แต่เช็ดน้ำตาอย่างเศร้าใจ เนยเพื่อนสนิทของเธอก็เดินตามเข้ามานั่งในรถข้างๆกับเธอก่อนจะจัับมือเธอแล้วสงสายตามาเพื่อปลอบประโลมเธอ
“ ฮึ้บ! ไปกันค่ะบ้านใหม่รอเราอยู่ ” ญาย์พูดก่อนหยุดร้องให้แล้วตัดสินใจที่จะใช้ชีวตอย่างมีความสุขกับบ้านหลังใหม่ที่บ้านเกิดของเธอ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่เธอรู้สึกตัวตื่นอีกที่ก็มืดค่ำแล้วไฟหน้ารถที่กำลังขี่อยู่บนถนนที่คุคะทำให้รถถึงกับเด้งและสายไปมาไม่หยุด ไม่นานรถก็ขี่มาจอดที่หน้าบ้านสองชั้นยกสูงหลังนึงไฟจากหน้ารถทำให้เห็นว่าหน้าบ้านนั้นมีป้ายชื่ออันใหญ่แขวนอยู่ด้วย
บ้้านของ ราญาย์
ใช่แล้วป้ายนั้นมันเขียนชื่อของเธออยู่ตัวเบ้อเริ่ม เธอถึงกับอึ้งไปเลยพอพ่อเดินลงมาแล้วไปเปิดไฟก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เห็นลูกสาวตัวเองถึงกับทำหน้าเหวอ ญาย์หันไปถรึงตาใส่เนยที่ตอนนี้ยืนขำอยู่ข้างๆพอเนยหันไปเห็นว่าตอนนี้ญาย์นั้นจะกินหัวของเธออยู่แล้วก็หยุดหัวเราะทันที
“ โถ่ พ่อค่ะเล่นใหญ่ไปมั้ยเนี้ย ”
“ เอาน่า เห็นมั้ยสวยดีออก ” เธอถึงกับพูดไม่ออกกับพ่อของเธอที่ชอบเล่นใหญ่อยู่ตลอด แต่ก็ใช่ว่าเธอนั้นไม่ชอบ กลับกันเธอชอบซะมากกว่า
“ ขอบคุณนะค่ะ ” เธอหันไปบอกกับพ่อของเธอ พ่อเธอก็ได้แต่ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเดินไปยกของรถจากรถมาวางไว้หน้าบ้านก่อน ไฟสีส้มอ่อนที่ตอนนี้มันช่างดูงดงามจนเธอถึงกับต้องเดินไปดูหน้าบ้านใหม่อีกที บ้านหลังสีน้ำตาลอมแดงข้างๆมีกระถางดอกไม้วางอยู่เต็มไปหมด ไฟดวงน้อยที่แขวนตามต้นไม้ส่องสว่างกันระยิบระยับมันสวยจนเธอถึงกับยืนมองไม่วางตา
“ สวยใช่มั้ยละ ฮ่า ฮ่า ” พ่อบอกกับเธอก่อนจะเดินไปขนของเข้าไปเก็บไว้ภายในบ้านก่อน
“ ญาย์เข้าบ้านกันแกข้างนอกเริ่หนาวแล้วน่ะ ”
“ อะ..อืม ” เธอตอบรับก่อนจะเดินเข้าบ้านตามเนยไป ภายในตัวบ้านนั้นมีสามห้องนอน2ห้องน้ำ ส่วนห้องครัวก็กว้างพอดีแถมในบ้านยังมีพื้นที่พอที่จะให้ลูกของเธอนั้นวิ่งเล่นได้เลย
“ คืนนี้ลูกนอนห้องข้างบนนะ ”
“ อ่อได้คะ พ่อกับแม่ก็เหมือนกันไปนอนเลยคะมันดึกแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาช่วยกันจัดของก็ได้นะค่ะแม่ ”
“ นั้นสิค่ะคุณน้า ไปนอนพักกันเถอะคะเดินทางมากันก็เหนื่อยกันมากแล้ว ”
เนยพูดสมทบก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าส่วนนึงขึ้นไปบนห้อง คืนนี้เนยนั้นจะนอนกับเธอก่อนพรุ่งนี้ก็ค่อยว่ากันอีกที ทันทีที่เปิดห้องออกมากลิ่นหอมเหมือนเชอรี่ลอยมาเตะจมูกของเธอ
“ เชอรี่หรอ ”
“ อ่อพอดีว่าข้างๆบ้านหลังนี้มีคนปลูกสวนเชอรี่อยู่น่ะ ทำไมเหม็นหรอ ”
“ ไม่ๆ มันหอมดีน่่ะพอได้กลิ่นและรู้สึกสดชื้นนะเลยถาม ” เธอบอกกับเนยไป เนยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าเธอจะเหม็นกลิ่นเชอรี่เอา
“ เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนนะรู้สึกเหนียวตัวไปหมด ”
“ ได้สิเดี๋ยวฉันจัดที่นอนรอนะ ” เธอตอบไปก่อนจะเดินไปปัดกวาดเช็ดถู ผ้าห่มสีเทาลายดอกกุหลาบขาวที่เธอชอบพ่อของเธอก๋ได้จัดเตรียมไว้ให้แล้วเรียบร้อย
ไม่นานเนยก็เดินออกมาห้องน้ำหลังทำธุระเสร็จ เนยเดินตรงมาที่เตียงทีนทีแต่ก็ต้องหยุดกึกไปก่อน ญาย์ส่งสายตาใสาเนยออกแนวดุผ่านทางสายตา
“ นี้ผมนะเช็ดให้แห้งก่อนได้มั้ย ดูสิผมเปียกน้ำอยู่เลย ”
“ จร้าๆ ” เนยตอบรับก่อนจะเดินไปเปิดกระเป๋าเพื่อหาไดเป่าผม ส่วนญาย์เธอก็เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ในขณะที่เธออาบน้ำอยู่นั้นเธอก็สังเกตุเห็นว่าหน้าท้องของเธอมันเริ่มใหญ่ขึ้นแล้ว เธอได้แต่อมยิ้มแล้วคิดว่าลูกของเธอจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!