ณ กองพันทหารในเมืองมิวนิค , 22 ธันวาคม ปี 1942
" ฉันได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ส่งทหารไปเพิ่มที่เวียนนา ฉันคิดว่านายมีความสามารถใช้ได้ เพราะฉะนั้น ฉันขอสั่งให้นายไปประจำการที่เวียนนาร่วมกับนายทหารอีก 119 นาย นายมีเวลาเตรียมตัว 1 สัปดาห์ เตรียมตัวไว้ให้พร้อมหล่ะ มุลเลอร์ "
" รับทราบครับผู้บังคับบัญชา "
เฟลิกซ์ มุลเลอร์ นายทหารเยอรมันวัย 28 ปีที่มีความสามารถเก่งกาจ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปประจำการที่เวียนนาร่วมกับทหารอีก 119 นายในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า โดยที่เขานั้นไม่ได้เต็มใจจะไปที่นั่นเลย แต่ที่นี่คือเยอรมันไรซ์ คำสั่งก็คือคำสั่ง ไม่ทำก็ต้องตาย ไม่สามารถปฏิเสธได้ เฟลิกซ์จึงรับคำ
ในสัปดาห์นั้นเอง เขาได้จัดเสื้อผ้าต่าง ๆ จัดเตรียมปืนให้อยู่ในสภาพที่ดี และทำสิ่งอื่น ๆ
เมื่อถึงเช้าวันนั้น เขาได้ไปลา พอล เบอร์เกอร์ เพื่อนสนิทของเขาเพียงคนเดียวในกองพันทหารแห่งนี้
" ฉันไปแล้วนะเพื่อน "
เฟลิกซ์กล่าวลาพอลอย่างไม่ค่อยเต็มใจจะไปสักเท่าไหร่
" บาย..โชคดีหล่ะ มุลเลอร์ "
พอลกล่าวลาตอบเฟลิกซ์ โดยหวังว่าเฟลิกซ์จะปลอดภัย
เฟลิกซ์ได้ขึ้นรถบรรทุกทหารเพื่อไปยังเวียนนาโดยมีทหารอีก 29 นายที่อยู่บนรถคันเดียวกัน
การเดินทางใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่งกว่าจะไปถึงเวียนนา
เมื่อมาถึงแล้ว ผู้บังคับบัญชาของกองพันทหารในเวียนนา ก็ได้สั่งนายทหารทั้ง 120 นายให้มารายงานตัว เมื่อรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว ผู้บังคับบัญชาก็ได้จัดหาบ้านหลังต่าง ๆ ในเมืองเพื่อให้ทหารได้พักอาศัย
โดยเฟลิกซ์ได้พักอาศัยในบ้านของ อันนา โยเซฟา หญิงสาววัย 27 ปีที่อาศัยอยู่ตามลำพัง เนื่องจากพ่อแม่บุญธรรมของเธอเป็นชาวยิว พวกเขาจึงถูกจับไปในเมื่อ 1 ปีก่อน แต่อันนาไม่ใช่ชาวยิว จึงไม่ถูกจับไปด้วย
" สวัสดีครับ มีใครอยู่ไหมครับ ? "
เฟลิกซ์ถามเพื่อเช็คว่ามีคนอยู่ในบ้านหรือปล่าว
" มีค่ะ "
อันนาตอบโดยไม่ได้หันไปมองว่าเป็นใคร เพราะเธอกำลังเขียนจดหมายถึงคนที่เธอชอบที่อยู่อีกย่านหนึ่ง
" งั้นผมขอเข้าไปนะครับ "
เฟลิกซ์ขออนุญาตเข้าไปในบ้านของอันนาก่อนที่จะเข้าไป
เฟลิกซ์เดินเข้าไปในบ้านของอันนา ข้างในบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม แต่มีเชิงเทียนและสิ่งต่าง ๆ แบบในบ้านของชาวยิว เฟลิกซ์จึงถามอันนา
" คุณเป็นชาวยิวหรือปล่าวครับ ? "
เพราะหากอันนาเป็นชาวยิว เธอก็จำเป็นจะต้องถูกจับไปค่ายกักกัน
" ฉันไม่ได้เป็นชาวยิวหรอกค่ะ แต่พ่อแม่บุญธรรมของฉันเป็นชาวยิว พวกท่านถูกจับไปเมื่อ 1 ปีก่อน ฉันคิดถึงพ่อแม่ ฉันก็เลยยังไม่เก็บของพวกนี้ไปทิ้งค่ะ "
อันนาตอบพร้อมกับหันมาหาเฟลิกซ์
เฟลิกซ์ตกตะลึงกับใบหน้าอันงดงามของเธอ ดังเทพีในเทพนิยายกรีกยังไงอย่างงั้น เฟลิกซ์ถึงกับตาค้างไปเลย
" คุณเป็นทหารที่ถูกส่งมาอยู่ที่นี่หรอคะ ? "
อันนาถามเฟลิกซ์ เฟลิกซ์ไม่ตอบเพราะกำลังตกตะลึงกับใบหน้าของเธออยู่
" คุณคะ ? "
อันนาเรียกเฟลิกซ์ที่กำลังตาค้างอยู่
" ใช่ครับ ๆ กองทัพส่งผมมาอยู่ที่นี่ ให้ผมมาอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณลำบากใจครับ "
เฟลิกซ์ที่พึ่งนึกได้จึงตอบอันนา พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างเขิน ๆ
" ฉันรู้เรื่องนี้แล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ "
อันนาตอบพร้อมกับยิ้มออกมา
" ห้องของคุณอยู่ที่ชั้น 2 นะคะ เป็นห้องเก่าของฉันเองค่ะ "
อันนาบอกกับเฟลิกซ์
" ครับ ขอบคุณมากนะครับ "
เฟลิกซ์กล่าวขอบคุณอันนาแล้วจึงเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง
เฟลิกซ์เดินเข้าไปในห้องเก่าของอันนา ข้างในถูกจัดอย่างเรียบง่าย มีรูปของอันนาและพ่อกับแม่ของเธอแขวนอยู่บนหัวเตียง มีตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของ 1 ตู้ มีกระถางต้นไม้วางอยู่ที่นอกระเบียง
" ห้องดูสวยเหมือนเจ้าของห้องเลยแฮะ "
เฟลิกซ์คิดในใจพร้อมกับยิ้มออกมา
เฟลิกซ์เริ่มจัดสิ่งของของตัวเอง จัดเก็บสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบภายในห้องของอันนา
ในค่ำวันนั้นเอง หลังจากเฟลิกซ์เข้านอน เขาได้นึกถึงใบหน้าของอันนาแล้วพรรณนาในใจ
" ทำไมเรารู้สึกใจเต้นแรงตอนเห็นเธอนะ หรือว่าเราจะชอบเธอแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานเราก็จะต้องไปจากที่นี่แล้ว เราจีบเธอดีกว่า ถึงไม่ได้เธอมา ยังดีกว่าไม่ได้ทำตามใจหวัง "
เฟลิกซ์พรรณนาในใจแล้วเผลอหลับไป
ในเช้ารุ่งขึ้น เฟลิกซ์ได้ตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายที่เขาได้เห็นเมื่อสักครู่นี้
เฟลิกซ์ได้ฝันถึงเหตุการณ์อัคคีภัย ณ บ้านเกิดของเขาที่แฟรงค์เฟิร์ตเมื่อ 13 ปีที่แล้ว เขาได้เห็นพ่อและแม่ของเขาถูกคานบ้านทับไว้ เขาพยายามดับไฟแต่ไม่สำเร็จ แม่ของเขาสั่งให้เขาออกไปจากบ้าน เขาไปตามคนมาช่วย แต่ไม่ทันการณ์ พ่อแม่ของเขาได้จากเขาไปแล้ว
เขาฝันเรื่องนี้ซ้ำ ๆ กันทุกวันนับตั้งแต่ที่พ่อแม่เขาจากไป เฟลิกซ์ชินกับเรื่องนี้แล้ว จึงไม่ได้ร้องไห้เหมือนที่เป็นในตอนแรก
เฟลิกซ์ทำกิจวัตรยามเช้าตามปกติ เฟลิกซ์ไปรับอาหารที่กองบัญชาการ จากนั้น เขาได้รับคำสั่งให้ไปตั้งด่านตรวจค้นรอบเมืองเวียนนา
เฟลิกซ์ต้องไปประจำการที่ด่านตรวจทิศใต้ของเมืองเวียนนา กับเพื่อนนายทหารอีก 1 นาย
เขาได้ทำหน้าที่อย่างดี รถทุกคันที่ผ่านออกไปดูปกติทั้งหมด แต่รถคันเก่า ๆ คันหนึ่งที่ดูน่าสงสัยผ่านมา เขาจึงขอตรวจค้นรถคันนี้
" ผมขอตรวจค้นรถหน่อยนะครับลุง "
และก็เป็นอย่างที่เขาคาด ข้างในรถเต็มไปด้วยชาวยิวจำนวนมาก แต่เขาไปเจอกับชายชาวออสเตรียคนหนึ่ง ที่มีภรรยาเป็นชาวยิวที่กำลังตั้งท้องอยู่
เฟลิกซ์รู้สึกสงสารพวกเขาเป็นอย่างมาก เขาจึงได้แอบปล่อยให้รถคันนั้นออกไปในขณะที่เพื่อนนายทหารอีกนายกำลังไปทำธุระส่วนตัวอยู่
" โอเค ลุงรีบไปเถอะครับ ผมเห็นใจ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า ผมจะโดนลงโทษเอาครับ "
เฟลิกซ์รีบบอกให้คุณลุงคนขับรถรีบขับออกไป ก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า
" ขอบใจมาก ๆ นะพ่อหนุ่ม ลุงไปแล้วนะ "
คุณลุงคนขับกล่าวขอบใจเฟลิกซ์พร้อมกับยิ้มให้ ก่อนที่จะรีบขับรถออกไปจากด่านตรวจ
หลังจากนั้น เฟลิกซ์ก็ได้ทำหน้าที่ตามปกติจนถึงตอนเย็น
เขาได้กลับมาที่บ้านพักของเขา เขาได้หยิบกีตาร์ของเขาที่ขนมาด้วยมาเล่นแก้เครียด เขาร้องเพลงคลอไปด้วย
อันนาที่กำลังทำอาหารอยู่ข้างล่างได้ยินเสียงกีตาร์ ทำให้เธอหวนคิดถึงพ่อของเธอ เพราะพ่อของเธอนั้นชอบเล่นกีตาร์อยู่บ่อย ๆ เธอจึงร้องเพลงคลอกีตาร์แบบที่เธอเคยทำตอนที่พ่อของเธอเล่นกีตาร์
อันนาร้องคลอไปเรื่อย ๆ จนเฟลิกซ์เล่นกีตาร์จบ ทั้งสองต่างปรบมือให้กัน แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนต่อ
อันนาเธอได้รับจดหมายจากหนุ่มที่เธอชอบ เนื้อความในจดหมายกล่าวนัดหมายให้เธอไปหาเขาในวันรุ่งขึ้น
อันนาได้อ่านแล้วรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอต้องเป็นฝ่ายนัดหมายเขาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่ต้องนัดหมายเขาเอง
อันนาจึงรีบเข้านอนเพื่อที่จะตื่นขึ้นมาเตรียมตัวในวันรุ่งขึ้น
เฟลิกซ์นั้นกำลังวางแผนที่จะจีบเธออยู่ ในขณะที่อันนานั้นกำลังวางแผนที่จะจีบผู้ชายคนอื่นอยู่
เฟลิกซ์ได้เข้านอนอย่างสบายใจ โดยที่เขาไม่ได้รับรู้เรื่องใด ๆ เลย
เฟลิกซ์ได้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาได้ลุกไปอาบน้ำ แต่งตัวเตรียมที่จะไปทำงาน
เมื่อเขาเดินออกมาจากบ้าน เขาเห็นอันนากำลังเตรียมที่จะออกไปข้างนอกเหมือนกัน เขาจึงเดินเข้าไปถามอันนา
" คุณกำลังจะออกไปไหนหรอครับ "
เฟลิกซ์เดินเข้าไปถามอันนา
" อ๋อ ฉันกำลังจะออกไปทำธุระค่ะ "
อันนาเอ่ยตอบเฟลิกซ์พร้อมกับยิ้ม
" ให้ผมไปส่งมั้ยครับ ? "
เฟลิกซ์อาสาที่จะพาอันนาไปส่ง
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไปเองได้ "
อันนาเอ่ยตอบเฟลิกซ์ด้วยความเกรงใจ
" ให้ผมไปส่งเถอะครับ จะได้ไม่ลำบาก "
เฟลิกซ์ยังยืนยันที่จะอาสาพาอันนาไปส่ง
" โอเค ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ "
อันนาเอ่ยตอบเฟลิกซ์พร้อมกับยิ้ม
เฟลิกซ์ขับจักรยานของตัวเองโดยมีอันนาซ้อนไปด้วย
ระหว่างทาง เฟลิกซ์กับอันนาได้คุยเรื่องต่าง ๆ อย่างถูกคอ ใช้เวลา 15 นาทีกว่าจะไปถึง
เฟลิกซ์ได้ทำความรู้จักกับอันนามากขึ้น ทั้งถามชื่อ ถามอายุ คุยสัพเพเหระกันไปเรื่อย ๆ
เฟลิกซ์พยายามเก็บอาการของเขาเมื่อรู้ว่าอันนามีคนที่ชอบแล้ว เขาปั่นจักรยานไปที่กองบัญชาการเหมือนปกติ
เขาได้ครุ่นคิดเรื่องคนที่อันนาชอบ คิดว่าจะทำยังไง เขาถึงจะตัดใจได้
เมื่อถึงกองบัญชาการ เขาได้ไปรับอาหารตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเขานั้นมีสีหน้าที่ดูอมทุกข์เป็นอย่างมาก เขาพยายามทำตัวตามปกติ
ในวันนี้ เขาได้รับคำสั่งให้ไปเคาะบ้านหลังต่าง ๆ เพื่อสืบหาชาวยิว เขาได้พบความผิดปกติในบ้านหลังต่าง ๆ แต่เขาเลือกที่จะไม่ค้นต่อ เขาพยายามช่วยชาวยิวไว้ให้เยอะที่สุด
และเขายังได้ช่วยเด็กชาวยิวที่กำลังหนีไปยังสวิสเซอร์แลนด์ไว้ได้หลายกลุ่มด้วย
ที่เขาเลือกที่จะทำสิ่งนี้ เพราะเคยมีเพื่อนของเขาคนหนึ่งเป็นนักสังคมสงเคราะห์ชาวเยอรมัน เขาได้ถูกจับไปเมื่อ 4 เดือนก่อน เขาได้รับความผิดฐานช่วยเหลือชาวยิว
เขาได้ฝากฝังเฟลิกซ์ไว้ว่าทำอะไรก็ได้ที่จะสามารถช่วยชาวยิวได้ เขาได้ฝากฝังให้เฟลิกซ์ทำหน้าที่แทนเขาก่อนที่จะถูกจับไป
เฟลิกซ์ก็ได้กลับมายังที่พักของเขา เขาได้ซื้อของมาฝากอันนา ก่อนที่จะไปอาบน้ำและเข้านอน
เขาได้ระบายความเครียดต่าง ๆ ด้วยการร้องไห้ออกมา เป็นครั้งแรกที่เขาร้องไห้ออกมาในรอบหลายเดือน
อันนาได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากห้องของเฟลิกซ์ เธอจึงได้ไปเคาะประตูถามเฟลิกซ์
" มีอะไรหรือปล่าวคะ บอกฉันได้นะคะ "
อันนาได้ถามเฟลิกซ์ เฟลิกซ์ได้ตอบอันนาไป
" ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่เครียดนิดหน่อย "
เฟลิกซ์ได้ตอบอันนาด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
" จริง ๆ นะคะ ? "
อันนาถามเฟลิกซ์ด้วยความเป็นห่วง
" ครับ "
เฟลิกซ์ตอบอันนา อันนาไม่เชื่อ เธอจึงได้เข้าไปปลอบและคุยเรื่องปมของกันและกัน ทั้งสองได้เข้าใจกัน หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้แยกย้ายกันไปนอน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!