NovelToon NovelToon

นางหน้าพระพักตร์ห้ามรักฝ่าบาท

ปฐมบท

“อันอัน อันอันๆๆๆๆ เข้ามานี่เดี๋ยวนี้”ร่างเล็กในอาภรณ์ดั่งขันทีแต่มิได้สวมหมวกบนศีรษะเหมือนขันที วิ่งเข้ามาข้างในห้องบรรทมของอินจิ๋น ร่างบางของนางในคนหนึ่งกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงแววตาแดงซ้ำถูกผลักเข้าหาอันอัน ที่รับร่างนางไว้ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน

“พานางออกไป”ตวาดลั่น

“ฝ่าบาทเหตุใดกัน”อดที่จะถามไม่ได้ก็นางถูกต้องตามที่อินจิ๋นปรารถนาทุกประการ ฉุกใจเมื่อเห็นรอยน้ำตาหรือว่า ตายแล้วอันอันเจ้าพลาดแล้ว

“ข้าไม่ชอบใจ ทำมาร้องไห้ ต่อหน้าดั่งเช่นข้าจะฆ่าจะแกงนางทั้งๆ ที่ข้าเป็นฮ่องเต้ จะหาความสำราญกับเรือนร่างของนาง แต่นางกลับมาร้องไห้ดุจกำลังไว้ทุกข์”

อันอันถอนหายใจดึงมือนางในที่ยังอ่อนเยาว์ให้ลุกขึ้น ร้อยนางร้อยวัน ไม่เคยพลาดวันนี้อันอันกลับมองผิดไป

“วันนี้เจ้าทำงานพลาดพรุ่งนี้จะต้องหานางในคนใหม่ที่ถูกใจมาปรนนิบัติข้า ปกติเป็นเจ้าที่รู้ใจข้าที่สุดอันอัน อย่าให้บกพร่องเช่นนี้อีก”น้ำเสียงตำหนิอย่างชัดเจน

อันอันประสานมือในชุดขันทีรุ่มร่ามแม้จะมองขัดตาทว่ากลับกลายเป็นสิ่งที่คุ้นตาของอินจิ๋นไปเสียแล้ว

ดึงมือนางในที่ร้องไห้ไม่หยุดออกมาข้างนอก

“นี่เงินของเจ้าแล้วไปเสีย.. กลับไปใช้ชีวิตนอกวังหลวงกับครอบครัวเสีย ฝ่าบาทไม่ต้องการเจ้าแล้ว”

ไม่อยากพูดคำนี้ปกตินางในที่ผ่านการปรนนิบัติฝ่าบาทแม้ไม่ได้รับการแต่งตั้ง แต่ก็มักจะได้อยู่ทำงานในวังหลวงด้วยหน้าที่ที่แสนสบายไม่ดูแลสวนดอกไม้ก็เป็นผู้ช่วยในห้องเครื่อง หรือนางในที่คอยดูแลข้าวของมีค่าหรือห้องเก็บตำราแล้วแต่อันอันจะจัดสรร

“กูกู๋ ข้าน้อยอับจนหนทาง อยากทำงานในวังหลวง เพื่อนำเงินจุนเจือครอบครัว”ยังคงสะอื้นเบาๆ นางในที่พยายามสอบเข้ามาเช่นเดียวกับอันอันมีไม่มากส่วนใหญ่จะด้วยบิดาเป็นขุนนาง

“ข้าก็อับจนหนทางไม่อาจให้เจ้าอยู่ที่นี่ได้ หากเจ้ายอมทอดกายให้ฝ่าบาทอาจได้รั้งตำแหน่งสำคัญในวังหลวง หรือหากฝ่าบาทพึงใจเจ้าจริงๆ บางทีข้าก็ไม่ต้องพาเจ้ามาชาระล้างไม่แน่เจ้าอาจมีเลือดเนื้อเชื้อไขของฝ่าบาท.. ในครรภ์ถึงเวลานั้นหญิงใต้หล้าต้องอิจฉาเจ้า แต่นี่เจ้ากลับร้องไห้จนฝ่าบาทไม่พอพระทัย”

นึกไปก็เป็นอันอันที่พลาดเอง ลืมปลอบประโลมนางก่อนเข้าไปถวายตัวให้นางอยากลิ้มรสอนาคตที่หอมหวาน ยิ่งยากใครๆ ก็อยากจะฟันฝ่า

“ขะขะกลัวก็ข้ายังเพิ่งสิบเจ็ด แม่ฝ่าบาทจะไม่ได้แก่เฒ่าอีกทั้งยังหล่อเหลาราวเทพสวรรค์ แต่กูกู๋ท่านเห็นไหม พรหมจรรย์ของเรายามที่กำลังจะถูกพรากไปมันทำให้ในใจนึกหวั่นไม่น้อย”

อันอันยิ้ม อย่าว่าแต่นางเลยสองปีมานี้อันอันเข้ามาในวังหลวงในตำแหน่งนางหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาทมีหน้าที่จัดหานางในมาถวายยามค่ำคืน ยังนึกชื่นชมพวกนางที่ ไม่มีใครแสดงท่าทีหวาดกลัว เมื่อต้องร่วมแท่นนอนกับอินจิ๋น หากเป็นอันอันคงสั่นเป็นเจ้าเข้า แม้จะอายุ20ปีแล้วก็ตามพวกนางเพิ่งจะแตกเนื้อสาวสิบเจ็ดสิบแปดจะต้องมีใครสักคนที่มีอาการเช่นเดียวกับอันอัน

“เอาอย่างนี้ในทุกเดือนเจ้าเข้ามาพบข้า ข้ามอบเงินส่วนหนึ่งให้เจ้าเพียงแค่เจ้าทำงานเล็กน้อยให้ข้า”

สาวน้อยพยักหน้าขึ้นลงแววตาซาบซึ้งใจ

อินจิ๋นไว้ใจอันอันยิ่งนัก เบี้ยหวัดที่มากมายประทานให้เพิ่มขึ้นในทุกเดือน ไหนจะยามที่เขาถูกใจหญิงงามคนใดที่อันอันเลือกเข้ามาปรนนิบัติในค่ำคืนนั้นๆ อันอันก็จะเป็นคนที่ได้รับของกำนัลล้ำค่า นอกเหนือจากที่พวกนางได้รับ อันอันจึงเป็นที่เกรงขามของเหล่านางใน ทั้งใหม่และเก่าขุนนางหลายคนมักจะติดสินบนให้อันอันส่งบุตรีของพวกเขาให้กับฝ่าบาทเพื่อต้องการให้บุตรีตั้งครรภ์กับอินจิ๋นเพื่อหวังตำแหน่งฮองเฮา ที่จนป่านนี้แม้สนมเขายังไม่แต่งตั้ง ฮองเฮาก็ปล่อยให้ว่างเว้น มีเพียงให้อันอันคัดนางในหน้าตาดีถูกใจอินจิ๋นเพื่อปรนเปรอเขายามค่ำคืนเท่านั้น

“นายหญิง”ขันทีข้างกายอินจิ๋นประสานมือตรงหน้าอันอันด้วยความนอบน้อม

“ว่ามา”น้ำเสียงอ่อนโยน

“ท่านขุนพล ส่งบุตรี เข้ามาในวังหลวงในอีกสองวัน”

“แล้วอย่างไร”แม้จะเข้าใจดี แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เสี่ยวจื้อร้อยวันพันปีไม่ยุ่งเรื่องนี้ขุนพลคนนี้ธรรมดาต้องมาขอร้องอันอันเสียเอง

“ท่านขุนพลเพิ่งถูกฝ่าบาทสงสัยเรื่องความภักดี จึง…ให้ข้าเชิญนายหญิงที่จวนท่านขุนพลในค่ำคืนนี้”

“ข้าไม่รับสินบนหากเรื่องนี้รู้ถึงหูฝ่าบาท ข้ามิต้องตายอย่างไร้ดินกลบฝังหรือไร”

รู้ดีว่าถึงแม้อยากจะรับเพียงใดอันอันก็ไม่มีทางทำผิดต่ออินจิ๋นก็ในเมื่อสิ่งที่ได้มาจากอินจิ๋นมากจนไม่ควรรับจากคนอื่นอีก

“นายหญิง แต่ท่านขุนพล”อึกอักด้วยความลำบากใจ

“เขาให้เจ้าเท่าไหร่ จึงอาสามาพูดแทนท่านขุนพล ข้าไม่รับสินบนแต่นำคำพูดของข้าไปบอกเขา เผื่อว่าโอกาสหน้าอันอันจะได้ พึ่งพาท่านขุนพลบ้าง”ขันทีหนุ่มน้อยนามเสี่ยวจื้อก้มหน้ามองพื้น

“ขอรับนายหญิง”อ้อมแอ้ม

“อืมบอกเขาว่า ฝ่าบาทนิยมหญิงงามที่ชดช้อยยามเยื้องย่างเหมือนไม่ได้ก้าวเดิน สะโพกกลมกลึง แต่ไม่ต้องผายออกจนเกินงาม ถันต้องเต่งตึงดันอาภรณ์ขึ้นมาอวดโฉมและที่สำคัญที่สุด จะต้องอ่อนหวานเขินอายแต่จะต้องปรนิบัติฝ่าบาทด้วยความเต็มใจยิ่ง แค่นี้หวังว่าท่านขุนพลจะจัดการให้บุตรีของเขา เป็นอย่างคำพูดของข้าที่ฝากบอกไป สักวันข้าก็คงส่งนางเข้าปรนิบัติฝ่าบาท หากจัดการตามที่ข้าบอกไม่ได้ข้าเองก็จนปัญญา”

เสี่ยวจื้อถอนหายใจประสานมือ ก้าวเดินจากไปในทันที อันอันถอนหายใจ

หญิงที่ฝ่าบาทนิยม และต้องการในทุกคืนมีบุคลิกคล้ายกันแทบทุกคนแต่ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีท่าทียั่วยวนที่ไม่ยั่วยวน อันอันอาศัยสายตาผู้หญิงด้วยกันจึงมองออกว่าใครที่พร้อมจะยั่วยวนฝ่าบาทด้วยความไม่ยั่วยวนของนางพูดง่ายๆ คือแสร้งเดียงสายามอยู่ต่อหน้าอินจิ๋นแต่ต้องไม่เจนจัดหรือเนียมอายจนเกินไปเมื่ออยู่บนแท่นนอน นั่นคือต้องเป็นธรรมชาติที่สุด

อันอันยิ้มให้กับตัวเอง อันอันเคยตกตะลึงกับมัดกล้ามที่อกกว้างของอินจิ๋นเคย ..ลอบกลืนน้ำลายกับริมฝีปากอิ่มที่ขยับขึ้นลงยามที่ยื่นหน้าเข้ามาพูดคุยกับอันอัน บุรุษผู้นี้มิใช่แค่เพียงสูงส่งแต่ทว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่แค่เพียงเข้าใกล้กลับรู้สึกว่าใจสั่นระรัว

แต่ดูอันอันสิ หาได้มีสิ่งที่อินจิ๋นนิยมไม่ มีเพียงความรู้ใจเท่านั้นที่อันอันมีให้อันอันรู้ใจอินจิ๋นดีกว่าใครในวังหลวงแห่งนี้ ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เรื่องไหนอันอันก็จัดการได้หมดจด อินจิ๋นเคยเปรยๆ ยามที่เมามายว่าหากไม่มีอันอันอินจิ๋นคงไม่อาจจัดการทุกอย่างได้เพียงลำพัง

“นายหญิงเจ้าขา ฝ่าบาทให้ข้าน้อยมาบอกนายหญิงว่าพรุ่งนี้ราชทูตจากแคว้นฉีจะเดินทางมาถวายเครื่องบรรณาการ นายหญิงจะต้องเขาร่วมแสดงความยินดี และต้อนรับองค์หญิงใหญ่ของแคว้นฉีที่จะมาพร้อมกับขบวนทูต ครั้งนี้ฝ่าบาทให้นายหญิงจัดการเรื่องการต้อนรับ"

อันอันถอนหายใจ งานใหญ่อีกแล้ว

“เข้าใจแล้ว วันนี้ดึกแล้วข้าเหนื่อยเหลือเกินเจ้าไปนอนเสียข้าเองก็อยากจะพัก”

หันหลังเดินเข้าห้องไม่รอให้นางกำนัลย่อกาย ก็นางอายุไล่เลี่ยกับอันอัน ใครบ้างจะไม่เกรงกลัวอันอัน ในเมื่อฝ่าบาทถือหางนางเพียงนั้น

ปิดประตูเบาๆ ปลดอาภรณ์ให้ลงไปกองกับพื้นอาภรณ์ชุดขันทีรุ่มร่ามกับมวยผมที่ต้องเกล้ารวบจนตึงเปรี๊ยะเพื่อความเป็นระเบียบ ใบหน้าที่ขาวซีดไร้การแต่งแต้มดังเช่น หญิงทั่วไปในวังหลวง

วันนี้อากาศไม่เย็นอย่างเช่นทุกวัน อันอันแช่น้ำอุ่นจนพอใจ ก้าวขาขึ้นจากน้ำหมดเวลากับการแช่น้ำอุ่นเสียนาน ดึงผ้าผืนน้อยพันสิ่งสงวนไว้เสีย ประทุมถันที่ดันผ้าผืนน้อยบางเบาออกมายอดประทุมถันที่เต่งตึงสีชมพูระเรื่อ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปากอันอันรู้ได้ทันทีว่าตัวเองเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง แต่หากยังอยู่ในวังหลวงก็คงหา บุรุษมาชอบพอได้ยาก อาศัยรับใช้ใกล้ชิดอีกหลายปีกว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตนอกวังหลวง เมื่อนั้นร่างกายก็คงโรยรา ไร้คนหมายปอง ทรุดกายลงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งผมยาวสลวยเปียกชื้นด้วยหยดน้ำเกาะพร่างพราว ใบหน้าซีดขาวแต่ได้รูปริมฝีปากสีชมพู อันอันหยิบสีชาดสีเข้มกว่าริมฝีปากเล็กน้อยที่วางทิ้งไว้เสียนานขึ้นมาขบเม้ม ริมฝีปากกลายเป็นสีชมพูเข้มกลีบดอกเหลียนฮวาในทันที เลือนนิ้วมือไปบนริมฝีปากอวบอิ่ม จับแปรงสางผมขึ้นมาสางผมยาวสลวยไม่ต้องเกล้ามัด ใบหน้างดงามในกระจกเงาริมฝีปากสีชมพูน่ามอง ผมยาวสลวยระอยู่บนไหล่ขาวเนียนและแผ่นหลังขาวผ่อง ลำคอระหง กับดวงตากลมโต

“เจ้าก็งดงามเหมือนกันอันอัน”ยิ้มให้ตัวเองในกระจกก่อนจะลุกขึ้นตั้งใจสวมอาภรณ์ในชุดบางเบาจะได้หลับสบายผ่อนคลายให้สมกับที่เหนื่อยมาทั้งวัน

เสียงประตูเปิดออกทันทีอันอันยังอยู่ในสภาพที่ใช้ผ้าผืนน้อยปิดบังเพียงสิ่งสงวน

หะแรกคิดว่าเป็นนางกำนัลที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อแจ้งข่าวของอินจิ๋นที่มักจะมีข่าวมาแจ้งบอกอันอันไม่ว่าเวลาไหน นางเข้ามาโดยวิสาสะคงเห็นว่าไฟในห้องยังสว่างอยู่

“ อืมป่านนี้เจ้ายังต้องส่งข่าวให้ข้าอีกหรือ”หันหลังหยิบอาภรณ์ พูดไปยิ้มไป แต่ไม่ลืมใช้มือกุมรอยขมวดผ้าผืนน้อยที่อกอิ่มไว้แน่นหมิ่นเหม่ว่ามันจะหลุดเสียให้ได้ นางไม่ได้นอนอันอันก็ยังไม่ได้นอน คิดตำหนิอินจิ๋นที่มักจะมีคำบัญชายามดึกเสมอ คิดได้ตอนไหนก็บัญชาในตอนนั้น คนที่ต้องทำตามคืออันอัน

“.......”ตาคมจ้องมองร่างอวบอิ่มด้านหลังตาไม่กะพริบรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก

“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าในแบบนี้”อันอันหันมาอ้าปากค้าง อินจิ๋นเองก็อ้าปากค้างเช่นกันเมื่อเห็นว่าใบหน้างดงามของอันอันที่เขาเคยมองข้าม อีกทั้งริมฝีปากที่เคยเป็นเพียงสีชมพูซีดจางบัดนี้กลับเป็นสีชมพูเข้ม อินจิ๋นเผลอขบเม้มริมฝีปากอย่างลืมตัว เรือนผมยาวสลวยไม่ได้เกล้ามัด ยาวลงมาตัดกับผิวขาวเนียน สายตาคมจ้องมองต่ำลงมายังมือบางที่กุมขมวดผ้าที่อกอิ่ม ยอดประทุมถันดันผ้าผืนน้อยขึ้นมาอวดโฉมสล้างไม่ได้ตกย้อยด้วยอกอิ่มที่หากสัมผัสคงเต็มไม้เต็มมือเต็มปากเต็มคำ ผิวขาวสะอาดตาต่ำลงมาเป็นเรียวขางามที่โผล่พ้นผ้าผืนน้อยที่ปิดไว้เพียงสิ่งสงวน เนื้อเนียนของขาขาวโผล่ออกมาขาวจนอินจิ๋นต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ชุดขันทีรุ่มร่ามที่เคยคิดว่าขัดตา บัดนี้อินจิ๋นกับรู้สึกว่าผ้าผืนน้อยนั่นขัดตายิ่งกว่า หากมีกระบี่ในมือเขาคงฟันมันขาดยับไปแล้ว สะบัดพับผ้าอาภรณ์ในมือห่มคลุมร่างโป๊ให้อันอันเสียก่อนจะเบือนหน้าหนี อันอันใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม

คงอุจาดตาไม่อยากมองจึงทำเช่นนี้ อินจิ๋นเอามือไพล่หลังหันหลังให้อันอัน

“ข้านำอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เดิมจะให้นางกำนัลนำมาแต่เห็นว่าเรียกหาพวกนางแล้วต่างเงียบงันคงหลับกันจนสิ้น …อีกอย่างข้านอนไม่หลับ”ยิ่งมาเห็นอันอันแบบนี้เขายิ่งนอนไม่หลับ

“อาภรณ์ชุดใหม่”อันอันเลิกคิ้ว จะนอนหลับได้อย่างไรก็คืนนี้ไร้นางในคอยปรนนิบัติให้หลับใหลไปเพราะความอ่อนเพลีย

“ข้าเห็นว่าพรุ่งนี้แขกเมืองจะมาเจ้าก็ไม่แคล้วสวมใส่อาภรณ์ชุดขันทีรุ่มร่าม ข้าขัดนัยน์ตายิ่งนัก”

หันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง อันอันพยักหน้ายิ้มบางๆ

“อันอันขอบพระทัยฝ่าบาท”ดึงอาภรณ์ให้รัดกุม ย่อกายลงแทนที่จะประสานมือเหมือนทุกครั้ง อินจิ๋นถอนหายใจกับท่าทีอ่อนหวานที่เขาเพิ่งจะเคยเห็น

“หากไม่มีอะไรแล้ว ข้ากลับก่อน จะเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อย”ก้าวเดินสวนเข้ามาในห้อง อันอันอ้าปากค้าง

“ฝ่าบาทประตูอยู่ด้านนั้น”อินจิ๋นยิ้มโชว์เขี้ยวสวยสองฝั่งซ้ายขวา

“อืม… ข้าคง… ง่วงแล้วต้องไปนอนแล้วเจ้าก็นอนเสียพรุ่งนี้มีงานใหญ่รออยู่”พูดไปยิ้มไป ก้าวออกจากห้องปิดประตูเบาๆ

กดหัวใจให้ด้วยเจ้าค่ะนายหญิงทั้งหลายหัวใจคือกำลังใจชั้นยอดทีเดียว

ชุดนี้เหมาะกับเจ้า

 อันอันทิ้งตัวลงนอน ไม่วายคิดถึงใบหน้ายิ้มหวานที่มีเขี้ยวสองข้าง อยู่ข้างกายอินจิ๋นมา2ปีนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มของอินจิ๋น นอกนั้นมีแต่สั่งๆๆ และสั่ง

เข้าสดใส นั่งลงบนโต๊ะแป้งเพียงแค่จะผัดหน้ายังคิดดูก่อน ตัดสินใจลุกขึ้นมาอาภรณ์ชุดใหม่ที่อินจิ๋นนำมามอบให้ ถอนหายใจยาวลองสวมดูรึว่าจะไปกันได้กับอันอันไหม อาภรณ์สีขาวพิสุทธิ์ในแบบฮั่นฝู่ รัดหน้าอกเต่งตึงให้กลมมนน่ามองเนินอกถูกดันขึ้นมาด้านบนเอวคอดกิ่ว ที่ถูกรัดด้วยสายรัดเอวเนื้อผ้าบางเบา พลิ้วไหวปักลายดิ้นสีฟ้าที่ชายเสื้อและกระโปรงขับผิวขาวให้ยิ่งขาวเนียนหากจะแต่งแต้มใบหน้าด้วยสีชาดเสียหน่อย อันอันคงงดงามเกินใคร ทว่ากับไม่ยอมแต่งแต้มสีสันบนใบหน้า ผมยาวสลวยถูกเกล้าไว้เช่นทุกครั้ง ถึงกระนั้นก็งดงามแปลกตากว่าชุดขันที จะติก็ตรงที่ผ้ารัดอกที่รัดจนเนินเนื้อถูกดันให้เชิดสูงเด่นมากเกินไป อันอันดึงเสื้อคลุมสีเดียวกันมาสวมทับเพื่อปกปืดร่องอกและเนินอกเต่งตึงเสีย

ประตูเปิดออกช้าๆ

ร่างสูงในเสื้อคลุมมังกรก้าวเข้ามาข้างใน ตรงเข้ามายืนมองอันอันจากด้านหลัง

อันอันมองจากบานกระจกแล้วหันกลับมาประสานมือตรงหน้า

"อันอันถวายพระพรฝ่าบาท"สีหน้ายามนี้บ่งบอกว่าไม่ชอบใจนัก เหลือบตามอง อาภรณ์สีขาวกับผิวขาวเรียบเนียน อกอิ่มดันเนื้อผ้าออกมาอวดโฉม แม้จะมีเสื้อคลุม ปิดบังไว้แต่เสื้อคลุมกับบางเบาจนมองเห็นไปถึงไหนถึงไหน แม้จะมองว่างดงาม ทว่ากลับรู้สึกไม่พอใจเมื่ออาภรณ์ชุดนี้ช่างมองแล้วยั่วยวนยิ่ง หากบุรุษอื่นได้เห็นอันอันในอาภรณ์ชุดนี้ เขากลับรู้สึกว่าไม่ชอบใจนัก

"ถอดอาภรณ์นั่นออกเสีย"อันอันยกมือขึ้นกระชับเสื้อคลุมที่คลุมทับไหล่บางอีกชั้น ดวงตาแสดงความฉงน ไม่เข้าใจในท่าทีขึ้งโกรธของอีกคน

"ข้าบอกให้ถอดอาภรณ์นั่นออกเสีย"น้ำเสียงอ่อนลงเบือนหน้าหนีจากอกอิ่มที่เขาอยากจะมองมากกว่าเบือนหน้าหนี

"ทำไมกัน ก็อาภรณ์นี่ฝ่าบาทเป็นคนประทานมาให้" นึกน้อยใจว่า ไม่อยากให้อันอันสวมอาภรณ์งดงามตัวนี้หรือไร อินจิ๋นถอนหายใจยาว

"นั่นล่ะ ข้าไม่อยากให้เจ้าสวมมัน แล้วนี่อาภรณ์ชุดใหม่ที่ข้านำมาด้วยเปลี่ยนไปสวมใส่ตัวนี้แทน”

วางอาภรณ์ลงบนโต๊ะก้าวขาออกจากห้องไปในทันที จะบงการสิ่งใดย่อมได้เสมอก็เขาเป็นฮ่องเต้นี่อันอันจะกล้าขัดบัญชาหรือไร

อันอันหยิบอาภรณ์ตัวใหม่ขึ้นมาสวม อาภรณ์ในแบบจี๋ฝูเผา ผ่าข้างที่มีกระดุมปิดมิดไปถึงลำคอส่วนด้านล่างคลุมยาวมาถึงน่อง

อันอันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็ดีแล้วแค่นางหน้าพระพักตร์จะงดงามไปทำไมกัน สวมอาภรณ์ในแบบจี๋ฝูเผา ก้าวเดินออกจากห้องไปในทันที

“นายหญิงเจ้าขา ฝ่าบาทเชิญนายหญิงที่ท้องพระโรงทันที”

“ข้าไม่ต้องจัดการเรื่องการต้อนรับหรือไร”เอ่ยปากถามนางกำนัล

“ฝ่าบาทบอกว่าเมื่อคืนนายหญิงนอนดึก เกรงว่าวันนี้จะไม่ไหวไหนจะต้องคอยรับใช้ฝ่าบาท ฝ่าบาทจึงให้ขันทีพิธีการรับหน้าที่ไปแล้วนายหญิงแค่เพียงไปร่วมงานต้อนรับองค์หญิงใหญ่ ที่ท้องพระโรงพร้อมกับฝ่าบาทและเหล่าขุนนาง”

อันอันยิ้มบางๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ท้องพระโรงคราคร่ำไปด้วยเหล่าขุนนางที่จับกลุ่มพุดคุย อินจิ๋นนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอย่างสง่างาม ข้างๆ เสี่ยวจื้อยืนก้มหน้า

“อันอัน มานี่”เหมือนกับคอยอยู่ตลอดเวลาว่า อันอันจะเข้ามาตอนไหน อันอันดึงชายกระโปรงก้าวขาเข้าไปในท้องพระโรงเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีอะไรตื่นเต้น ไม่มีใครมองมา มีเพียงหน้าที่ตรงหน้าให้ต้องทำ พื้นที่ข้างๆ อินจิ๋นยังว่างอันอันก้าวขาไปยืนตรงนั้น

“อืมชุดนี้เหมาะกับเจ้าเสียจริง”อันอันประสานมือเช่นเคย อินจิ๋นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ที่ไม่เห็นอันอันย่อกายงดงามเช่นเดียวกันกับเมื่อคืนที่ผ่านมา

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

“เสี่ยวจื้อให้นางกำนัลนำอาภรณ์ชุดนั้นที่ห้องของนางหน้าพระพักตร์อันอันไปเผาทิ้งเสีย”เสี่ยวจื้อทำสีหน้างงงัน

“อาภรณ์ชุดไหนกันฝ่าบาท”จึงถามเพื่อความกระจ่าง

“ชุดฮั่นฝูสีขาวขลิบฟ้าตัวนั้น” อันอันถอนหายใจ

“ฝ่าบาทอาภรณ์นั่น เป็นผ้าเนื้อดีจากทางเหนืออีกอย่างราคาค่อนข้างสูง”

“ข้าบอกให้เผาก็เผา”อันอัน ไม่ได้รู้สึกอะไร หลายอย่างที่อินจิ๋นทำมักไร้เหตุผลเสมอ เสี่ยวจื้อหันประกระซิบกับนางกำนัลก่อนที่นางจะออกจากท้องพระโรงซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าไปทำอะไรนางก็คงนำอาภรณ์งดงามยั่วยวนตัวนั้นไปเผาเสียตามบัญชาของคนไร้เหตุผลนามอินจิ๋น

“ขบวนราชทูตแคว้นฉี เดินทางมาถึงแล้วววววว”เสียงขันทีพิธีการขานขึ้นดังๆ ขุนนางที่กำลังจับกลุ่มคุยกันกลับเงีบยเสียงหันหน้ามายังทางเดินทอดยาว มุ่งสุ่ใจกลางท้องพระโรงที่ด้านบนสุดเป็นบัลลังก์มังกรสูงสง่า

“อือหือ อ่าาาา”เสียงแซ่ซ้องเมื่อเห็นว่า ขบวนราชทูตที่เดินเข้ามามีหญิงงามราวเทพีสวรรค์ สวมใส่อาภรณ์สีแดงบ่งบอกถึงความนัยย์บางอย่าง ชุดฮั่นฝูที่สวมใส่ พลิ้วไหวงดงามรับกับใบหน้า ริมฝีปากแต้มด้วยชาดสีแดงเข้ม อวบอิ่มจนน่าจุมพิตยิ่ง อกอวบถูกดันออกมาล้ำหน้ากว่าสิ่งอื่นใด เอวคอดกิ่ว สะโพกกลมมนบั้นท้ายงอนงามจนสะดุดตา อินจิ๋นเหลือบตามององค์หญิงใหญ่แคว้นฉี อันอันยิ้ม แบบนี้ช่างตรงตามความนิยมของอินจิ๋นยิ่งนักคืนนี้หรือคืนไหนสักคืนอันอันคงไม่ต้องเหนื่อยในการจัดหานางใน ไม่วันไหนก็วันไหนอินจิ๋นจะต้องรวบหัวรวบหางองค์หญิงใหญ่ที่ทอดสะพานเพียงนี้แต่จะว่าไปอินจิ๋น ไม่ชอบหญิงที่มักจะยั่วยวนเกินงามเขามักจะนิยมหญิงที่มีท่าทีชดช้อยและอ่อนหวานน่าถนุถนอมมากกว่า อันอันเผลอยิ้ม อยากรู้จริงว่าใครกันส่งข้อมูลความนิยมของอินจิ๋นให้กับองค์หญิงใหญ่ แล้วยังอยากจะรู้ว่าอินจิ๋นจะแพ้ทางให้กับองค์หญิงใหญ่ผู้นี้หรือไม่ ในเมื่อนางเดาใจอินจิ๋นถูกแปดในสิบส่วน

“องค์หญิงใหญ่ชิงซีถวายพระพรฝ่าบาท”น้ำเสียงดุจระฆังทอง ดวงตาหวานหยดทว่าไม่สบตาอินจิ๋น อันอันยิ้มนางถูกเก้าส่วน รู้ว่าอินจิ๋นไม่ชอบหญิงงามที่ใช้สายตาเชิญชวน

“อันอัน”

อันอันก้มลงเอาหูแนบกับริมฝีปากอินจิ๋นเหมือนที่เคยทำ แต่ครั้งนี้อินจิ๋นกลับใกล้กว่าที่เคยลมหายใจอุ่นๆ รินรดที่สองแก้มเนียน

“เจ้าว่านางเป็นอย่างไรบ้าง”ชิงซีเหลือบตามองอันอันเพียงแว่บเดียว ก็มีท่าทีเป็นปกติ

“นางเป็นแบบที่ฝ่าบาทโปรดปราน”อันอันพูดตามที่คิด

“ข้าชอบนาง”

“ฝ่าบาท… แคว้นฉีเดินทางมาเจริญสัมพันธไมตรีในครั้งนี้ได้นำเครื่องบรรณาการ อันประกอบไปด้วยผ้าไหม หนึ่งหีบ แร่เงินสองหีบ เครื่องลายครามสองหีบ และเครื่องทองอีกหนึ่งหีบ พร้อมกันนี้ฮ่องเต้แคว้นฉีได้ ให้ความสำคัญกับไมตรีครั้งนี้อย่างมากจึงหมายใจว่า.. ฝ่าบาทจะไม่ปฏิเสธบรรณาการชิ้นสำคัญ คือองค์หญิงใหญ่อันเป็นที่รักของฮ่องเต้และชาวแคว้นฉี ในการนี้องค์หญิงใหญ่ได้เดินทางพร้อมเครื่องบรรณาการมาเพื่อถวายตัวกับฝ่าบาท”อันอันอมยิ้ม อินจิ๋นหลุบตามองพื้น

“ขอบพระทัยฝ่าบาทแคว้นฉียิ่งนัก ข้ายินดีรับเครื่องบรรณาการ”อันอัน ก้มหน้ามองมือตัวเอง อินจิ๋นกวักมือเรียกอันอันให้ก้มตัวลงไปให้เขากระซิบกระซาบ

“เจ้าว่านางจะยินดีให้ข้าทำเหมือนที่เคยทำไหม”อันอันยิ้มบางๆ

“นั่นอยู่ที่ฝ่าบาทว่าจะ..พอ กับสิ่งที่เคยทำมาเสียนานได้หรือยัง แต่อันอันคิดว่า ฝ่าบาทควรพอได้แล้ว”พูดไปยิ้มไปก็ในเมื่อนางเป็นถึงองค์หญิงจะไม่ให้เกียรตินางได้อย่างไร

“หากข้าพอ ก็คงต้องปลดเจ้าจากตำแหน่งไม่จำเป็นต้องใช้เจ้าอีกแล้ว”อันอันใจหายวาบแต่ทว่ากับ ยิ้มกลบเกลื่อนเสีย

“ข้าว่า จะต้องลองดูว่านางจะตรึงใจข้าได้ดีเพียงใด บางทีข้าอาจหยุดที่นาง”น้ำเสียงแหบพร่าเหมือนในทุกครั้งที่พบเจอหญิงงามถูกใจ

“อันอันหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”น้ำเสียงที่พยายามปรับให้เป็นปกติ

“อืม ข้ายังไม่พบใครที่ทำให้ข้าหยุดเรื่องนี้ได้ พนันกันไหมว่านางไม่อาจตรึงใจข้าได้”พูดยิ้มๆ

“ฝ่าบาทก็จะทำให้ตัวเองชนะพนัน โดยการบอกอันอันว่า ..อันอันคืนนี้ข้าต้องการหญิงงามคนใหม่…” อินจิ๋นยิ้ม ลุกขึ้นยืนก้าวเดินลงจากบัลลังก์ไปหยุดยืนตรงหน้า ชิงซี เอื้อมมือกุมมือชิงซีดึงให้ลุกขึ้นยืนมืออีกข้างเชยคางมน

“ข้าอินจิ๋นยินดีรับบรรณาการ แต่ยังไม่คิดจะมอบตำแหน่งใดในตอนนี้ ข้าให้เวลาองค์หญิงใหญ่ได้พยายาม หากองค์หญิงใหญ่สามารถทำให้ข้ายกตำแหน่งฮองเฮาให้นางได้ ข้าอินจิ๋นก็ไม่ลังเล แต่หากองค์หญิงใหญ่ไม่สามารถทำให้ข้าอินจิ๋นพอใจ ก็คงไม่อาจมอบตำแหน่งใดในวังหลวง”

ไม่สนใจผู้ใดเช่นเคยอินจิ๋นผู้ไม่แยแสผู้ใด

อันอันก้มหน้ามองมือตัวเองราวกับไม่เคยเห็นมัน ใจหล่นอยู่ที่ตาตุ่ม หรือไม่ดวงใจดวงน้อยก็หายไปแล้ว กลัวว่าชิงซีจะพยายามครองใจอินจิ๋นให้ได้

เพียงเจ้ากินกล้วยข้าก็แทบจะหมดแรง

 “เจ้า วันนี้ เข้าถวายตัว”อันอันชี้มือยังร่างบางทว่าหน้าอกหน้าใจบะเริ่มเทิ่มอีกทั้งสะโพกงอนงามเพียงแต่ใบหน้านางไม่ได้งดงามเท่าที่ควร แต่ว่าก็พอที่จะถูไถ ในเมื่อวันนี้อันอันยุ่งกับการมาของคณะราชทูตและเครื่องบรรณาการแม้อินจิ่นจะอนุญาตให้อันอันไปทำเรื่องที่ต้องทำ ไม่ต้องไปยุ่งเรื่องพิธีการ

“นายหญิง ขอบคุณเจ้าค่ะ”สาวน้อยน้ำตาปริ่มขอบตา การแข่งขันเรื่องการถวายตัวเข้มข้นยิ่งนัก บางคนถึงกับตบตีวางยา แต่สุดท้ายก็อยู่ที่อันอันเพียงคนเดียว ว่าวันนี้จะส่งใครเข้าไปในห้องบรรทมของอินจิ๋น

“ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องเรียกเจ้าว่านายหญิงหากฝ่าบาทพึงใจเจ้า ทำให้เต็มที่ตั้งใจปรนนิบัติฝ่าบาท แค่นี้ที่ข้าอยาจะบอกไว้ ความจริงข้าอยากจะส่งพวกเจ้าเข้าไปทุกคน แต่พวกเจ้าต้องเข้าใจ ฝ่าบาทหากวันไหนเหนื่อยล้าหรือราชกิจมากหน่อยก็ไม่รับนางใน วันไหนทรงมีอากาศร้อนก็ไม่รับนางใน วันไหนที่ เมามายมากหน่อยก็ไม่รับนางใน มีเพียงวันที่อากาศหนาวหรือวันที่ดื่มสุราเพียงแค่ปลุกกำหนัด และ…”จะบอกว่าหื่น …ก็กระดากปากวันไหนที่อินจิ๋นพบนางในคนไหนถูกใจเป็นพิเศษจะมากระซิบกับอันอันว่าคืนนี้ ส่งนางในคนนั้นเข้ามาให้เขา วันนั้นเป็นวันที่อันอัน ถอนหายใจแบบโล่งอกไม่ต้องคัดสรรนางในด้วยตัวเองให้ปวดขมอง

“พวกเจ้ายังไม่รีบขอบคุณนายหญิงอีก ได้ยินไหมรีบคุกเข่าขอบคุณนายหญิงเสีย นายหญิงเท่านั้นชี้เป็นชี้ตายพวกเจ้า”

ขันทีแอบสาวที่คอยฝึกทั้งกิริยามารยาทและเรื่องอย่างว่า พร้อมสอนวิธีปฏิบัติตัวในตำรากามสูตรจีบปากจีบคอพูด

“ขอบคุณนายหญิง พวกเราซาบซึ้งใจในเมตตาของนายหญิงยิ่งนัก”เปล่งเสียงแซ่ซ้องพร้อมกัน อันอันยิ้มแห้งๆ

“พวกเจ้าต้องเชื่อฟังนายหญิง เรื่องรู้ใจฝ่าบาทนายหญิงอันอันขึ้นชื่อว่ารู้ใจฝ่าบาทที่สุด อีกทั้งเรื่องบนแท่นนอนของฝ่าบาท พวกเจ้าถามนายหญิงได้ไม่มีปิดบัง”

คราวนี้อันอันยิ้มอายๆ เดินนำนางในที่คัดแล้วเข้าไปยังเขตตำหนักชั้นในของอินจิ๋น กลิ่นหอมจากเรือนร่างของนางช่างหอมหวนยิ่งนัก อันอันเสียอีกที่จนป่านนี้ยังไม่ได้อาบน้ำ

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว อินจิ๋นนั่งอ่านฎีกาในห้อง

“ฝ่าบาท”นางในก้มหน้าเขินอายตามแบบที่อันอันสั่งสอนมา

“หือ วันนี้ จัดว่าเด็ดไหม”ถามเหมือนเป็นเรื่องทั่วๆ ไปเช่นเครื่องเสวยเย็นนี้หรือกำยานหอมวันนี้กลิ่นดอกอะไร

“เพคะ”ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“อืม เก็บกองฎีกาให้ข้าที แล้วเจ้าก็กลับไปพักผ่อนเสีย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ข้ามีนางคอยปรนนิบัติก็คงอยู่ดึกเหมือนเช่นทุกคืน”

อันอันประสานมือ ดันหลังนางในเข้าไปด้านใน นางหันมามองอันอันด้วยสายตาละห้อย อันอันยิ้มให้กำลังใจนางก้มลงเก็บกองฎีกาบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ

อินจิ๋นหันมามองอันอันทั้งๆ ที่กำมือเย็นเฉียบของนางในอยู่

“อันอัน เจ้าอยู่รอที่นี่ก่อน ข้าเสร็จกิจมีเรื่องจะหารือกับเจ้า”

“เจ้าค่ะฝ่าบาท”ยังคงประสานมือ

เสี่ยวจื้อเปิดและปิดประตูถึงสามชั้น ก่อนจะหันกลับมาช่วยอันอันเก็บกองฎีกา

“นายหญิง ท่านขุนพลฝากมาขอบคุณท่าน”ส่งกำไลหยกให้อันอัน

“ถึงกับมอบกำไลหยกเลยหรือไร กำไลหยกสำหรับคนรัก”

“ท่านขุนพล ความจริงปีนี่เพิ่งจะสามสิบสาม อีกทั้งบุตรีของท่านขุนพลเป็นเพียงบุตรบุญธรรมก็เท่านั้น ท่านขุนพลหามีชายาไม่”อันอันยิ้ม

“เสี่ยวจื้อเจ้าเป็นพ่อสื่อหรือไร”อดขำ ่าทีกระตือรือล้นของเสี่ยวจื้อเสียไม่ได้คงรูว่านางหน้าพระพักตร์ยิ่งแก่ตัวยิ่งหาคู่ครองยาก

“นายหญิง ท่านขุนพลองอาจผึ่งผาย อีกอย่างเป็นคนที่มีใจภักดีและสมชายชาตรีอีกทั้งใบหน้าหล่อเหลา นายหญิงข้าหวัง…เพียงว่า..”อันอันส่ายหน้าไปมา

“อืมข้ายังไม่เคยพบหน้าท่านขุนพลแม้แต่ครั้งเดียว เขานำทัพดูแลชายแดนตลอดมาพอกลับมาถึงนี่ ฝ่าบาทก็ทรงกริ้วคิดคาดโทษเขาว่ายกทัพกลับวังหลวงโดยไม่ได้มีบัญชา แต่ความจริงข้ารู้ดีว่า ท่านขุนพลจงเจี้ยน ภักดีไม่เปลี่ยน เพียงแค่เห็นว่าตอนนี้บ้านเมืองสงบอีกทั้งชายแดนร่มเย็นไม่คิดว่าฝ่าบาทจะทรงกริ้ว เอาไว้ข้าพูดกับฝ่าบาทเรื่องนี้ ไม่ช้าไม่นานฝ่าบาทจะเข้าใจท่านขุนพล แต่จะให้ข้ารับไมตรีของท่านขุนพลคงต้องใช้เวลา ตอนนี้ข้ามุ่งมั่นในการทำงานรับใช้ฝ่าบาทเท่านั้น”เสี่ยวจื้อยิ้มน้อยๆ

“อันอัน อันอัน เข้ามานี่หน่อย”อันอัน ถอนหายใจยาวเหยียดคิดว่าไม่พลาดแล้วทำไมยังมีเรื่องมากวนใจอีก นางทำอะไรผิดอีกหนอ รีบวิ่งเข้าไปในห้องบรรทม ผ่านประตูทั้งสามชั้นเข้าไปยืนสงบนิ่งตรงหน้า อินจิ๋น

นางในอกบะระเฮิ่มนั่งร้องไห้กระซิกๆ

“ฝ่าบาท นางทำสิ่งใดให้ขุ่นเคือง” อินจิ๋นยืนกอดอกแน่น อันอันมองบนพื้นที่มีเปลือกล้วยหอมลูกใหญ่ถูกทิ้งไว้เกลื่อนพื้น

“ฝ่าบาท อันอัน ไม่ได้ขู่แต่จะบอกไว้ก่อน ต่อไปคงไม่มีใครอยากเข้ามาปรนนิบัติ หากฝ่าบาทจะทำแบบนี้บ่อยครั้ง”

อินจิ๋นหันหน้ามามองอันอันเต็มตา

“มีหน้าที่จัดหานางใน แต่สองวันมานี้เจ้าบกพร่องเมื่อวานถือว่าข้าผิดที่ใจไม่เย็นพอ แต่วันนี้เจ้าดูรึนางทำเรื่องง่ายๆ ให้ข้านางกลับทำไม่ได้”

“เรื่องใดกัน”หันไปถามนางในที่ร้องไห้กระซิกๆ

“ฝ่าบาทให้ข้าน้อยกินกล้วยจนอิ่มจนจุก กินกล้วยหมดไปทั้งหวียังไม่พอพระทัย”พูดไปสะอื้นไป

“ช่างกล้าฟ้องนาง เจ้ามันไร้สามารถแค่เพียงข้าให้กินกล้วยหอมลูกใหญ่ราดน้ำผึ้งเจ้าก็ยังไม่อาจทำให้ข้าพึงใจได้ แล้วเรื่องอื่นเจ้าจะได้เรื่องหรือไหนเจ้าบอกข้าว่าจัดว่าเด็ด”

หันไปทางอันอันที่ส่ายหน้าไปมาด้วยความระอาใจ

“อันอันพานางกลับไปก่อน”

“ไม่ เจ้าต้องรับผิดชขอบเรื่องนี้ในเมื่อเจ้าเป็นคนจัดหานางมา อีกทั้งยังเป็นคนที่เสี้ยมสอนพวกนางให้ข้าพึงใจ เจ้าจะไม่แสดงให้นางดูหน่อยหรือว่ากินกล้วยหอมอย่างไรให้ข้าพึงใจพวกนาง” อันอันถอนหายใจ

“เจ้ากินแบบไหน”หันไปถาม นางในที่ยังสะอื้นแต่ไม่มีน้ำตาแล้ว

“ฝ่าบาทให้กินกล้วยข้าน้อยก็กิน กัดกินทั้งลูกจนหมดแต่ฝ่าบาทก็บอกว่ายังไม่พึงใจท่าทางการกินกล้วยราดน้ำผึ้งของข้าน้อย ข้าน้อยจึงกินไปอีกหลายลูกเพื่อเอาใจฝ่าบาท ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงกริ้วเรียกหานายหญิง” อินจิ๋น ลอยหน้าลอยตาทำท่าทีว่าไม่พอใจอย่างที่สุด

อันอันเหลือบตามองไหน้ำผึ้งกับกล้วยหอมอีกหวีหนึ่งที่วางไว้ตรงหน้าไปเอามาตอนไหน ห้องบรรทมมีของแบบนี้ด้วยหรือ เหมือนจัดเตรียมไว้เพื่อสิ่งใดกัน

“เจ้าดูข้า”

ดึงกล้วยออกจากหวีง่ายดาย ปอกเปลือกกล้วยจุ่มผลกล้วยที่ปอกเปลือกแล้ว ลงไปในไหน้ำผึ้งที่หยาดเยิ้ม น้ำผึ้งไหลชโลมไปทั่วแท่งกล้วยหอมใหญ่ อันอันอ้าปากออกทว่าน้ำผึ้งกับหยดลงพื้น จึงแลบลิ้นเลียผิวเนื้อที่ถูกชโลมไปด้วยน้ำผึ้งหยาดเยิ้ม ใช้ลิ้นตวัดเลียจนกระทั่งอินจิ๋นตัวแข็งทื่อ มิเพียงแค่ตัวเท่านั้นที่แข็ง ปากอ้าค้างแลบลิ้นออกมาช่วยลุ้นการเลียน้ำผึ้งที่หยาดเยิ้มไปพร้อมกับอันอัน ก่อนที่หยาดน้ำผึ้งจะหมดไป อันอันก็อ้าปากกว้างสุดกว้างงับเอาเนื้อกล้วยเสียเกือบครึ่งลูกเคี้ยวงับๆ แล้วกลืนลงไปในทันที อินจิ๋นกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นก้าวขาเดินอย่างยากลำบาก เอื้อมมือคว้ามือของอันอันไว้ อันอันรู้สึกถึงมือเย็นเฉียบของอินจิ๋น

“ยะ อย่าเพิ่งกลืนมันเสียหมด" ดึงกล้วยหอมอีกครึ่งลูกในมือของอันอันมาใส่ปากตัวเอง กัดกินกล้วยหอมเหมือนเป็นของอร่อยเสียเต็มที

“เจ้า จำต้องสอนนางอีกครั้ง ข้าว่านางยังไม่อาจจดจำท่าทีเมื่อครู่ของเจ้าได้หมด”

“ขะขะข้าน้อยจำได้ขึ้นใจ จะต้องเลียเสียก่อนใช่หรือไม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่านายหญิง อันอันจะรู้ใจฝ่าบาทที่สุดอย่างที่เขาร่ำลือกัน”

อันอันหน้าแดงแปร๊ด เพิ่งจะนึกได้ว่าการกินกล้วยในแบบที่อันอันทำอยู่เป็นเพียงกลลวงของอินจิ๋นในการปลุกกำหนัดก่อนที่จะให้นางในอุ่นเตียง รีบหันหลังก้าวเดินออกจากห้อง

“เดี๋ยว”

อันอันหันหลังไม่กล้าหันมาสบตาอินจิ๋นเพราะแก้มแดงหน้าแดงเพราะความเขินอายที่หลงกลของอินจิ๋นเข้าอย่างจัง แสดงท่าทียั่วยวนออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“พานางกลับไปเสียให้นางไปฝึกกินกล้วยมาเสียใหม่ คืนนี้ข้าพอใจกับท่าทีกินกล้วยของเจ้าแล้ว …คงไม่มีแรงที่จะดูนางกินกล้วยได้อีก”

พูดอย่างมีเลศนัย แต่อันอันเข้าใจได้ดีว่าท่าทีกินกล้วยในแบบของอันอัน ทำเอาฝ่าบาทสูญเสียน้ำไปเสียแล้วในคืนนี้คงไม่อาจเสียน้ำได้อีกในคืนเดียวกัน

 *คำเตือน... ขออภัยหากนิยายเรื่องนี้จะทำให้น้ำหมากน้ำลายกระจายเป็นหย่อมๆ

สุดวิสัยจริงๆ ค่ะใครที่อ่อนไหวต่อ ..เรื่องบนเตียงกรุณาข้ามได้เลยค่ะ...

เนื้อหาอาจมีความไม่เหมาะสมกับผู้สูงวัยหรือคนที่กำลังไร้คู่ ต้องขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยอิ_อิ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!