บทที่หนึ่งครั้งสุดท้าย
เจ็บคุณขยับไปหน่อยฉันขอร้องล่ะออกไปให้ห่างจากฉันเถอะ
เสื้อผ้าถูกถอดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นในห้องสูทสุดหรูหรา
หลังจากศึกบนเตียงจบลงเหลือไว้เพียงผ้าปูเตียงที่ยับยู่ยี่และค่ำคืนอันเงียบสงัด ลั่วชินหยุนเงียบสงบอยู่บนเตียง
ดวงตาดำขมับของเธอจ้องมองไปที่ประตูห้องน้ำมือเล็กๆของเธอกำลังขยับผ้าปูที่นอนที่ซ่อนเอาไว้ใต้ผ้าห่ม
เธอได้ยินเสียงแก๊กของประตู ห้องน้ำ
และประตูห้องน้ำก็ได้ถูกเปิดออกชายหนุ่มรูปร่างดีเดินออกมาพร้อมกับหยดน้ำที่เกาะตามตัวและกลิ่นหอมจากเจลอาบน้ำชั้นดี
เขาไม่ได้มองเธอแม้แต่น้อย เขากลับก้มหยิบเสื้อผ้าที่อยู่บนพื้นแล้วเดินไปใส่มันที่หน้ากระจกทีละชิ้น
คุณคะ
ลั่วชิงหยุน เรียกชายที่อยู่หน้ากระจกเสียงแผ่วเบาพร้อมจ้องมองไปที่ไหล่กว้างและแผ่นหลังอันแข็งแกร่งของเขา
อืม
เขาไม่ได้หันกลับมาหาเธอแต่แค่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ฉัน..
ครั้งหน้า ฉันว่าจะไม่ทำมันอีกแล้ว
ฉันได้ค่ารักษาพยาบาลของน้องชายฉันคบแล้ว
น้ำเสียงของเธอเบามากจนแทบไม่ได้ยิน
แพขนตาของเธอบดบังดวงตาที่ดูเหมือนเธอกำลังหลบซ่อนจากเขา
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายหนุ่มก็หยุดผูกเน็คไท
ริมฝีปากบางของเขากระตุกเล็กน้อย ได้ !
เขาพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย มือเรียวยาวของเขาจับเสื้อสูทและสวมใส่อย่างรวดเร็ว “อย่าลืมทานยาล่ะ”
คำพูดของเขาเตือนลั่วชิงหยุนที่อยู่บนเตียง
เธอหันไปมองยาที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง
เธอคุ้นเคยกับการทานยานี้แล้ว
เธอกินยาครบทุกครั้งตามที่เขาบอกเธอไม่ต้องการให้เขาเตือน และ เขาก็ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องนี้
แต่วันนี้หลังจากที่เธอบอกเขาว่าเธอจะไม่ทำมันอีก
เขากลับเตือนเธอเรื่องนี้ แต่ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อย
แต่พอคิดไปคิดมาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
บางทีเขาอาจจะคิดว่าเธออาจจะแอบไปตั้งท้องลูกของเขาแบบลับๆแล้วกลับมาหาเขาในอนาคตคงจะเกิดปัญหาตามมาเขาคงจะคิดว่าไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากจะจับเขาเพราะเขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่ทุกคนต้องการ
เธอเงยหน้าขึ้นเธออยากจะบอกเขาว่าเธอจะกินยานั้นอย่างแน่นอนดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลแต่เธอกลับพบว่าเขาออกจากห้องไปแล้ว
สองปีต่อมาเมือง X หน้าห้องประชุมโรงแรมหลี่ซิง
ลั่วชิงหยุนคุณตรวจสอบห้องเพรสซิเด้นทเชี่ยวแล้วหรือยัง? ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหมแขกที่มาร่วมงานจะมาถึงตอนบ่ายสามโมง ผู้จัดการแทนกดปากกาในมือถามด้วยสีหน้าจริงจัง
ลั่วชินหยุนพยักหน้าใช่ค่ะ *มีปัญหาเพียงแต่…
อะไรล่ะ ?
เมื่อผู้จัดการแทนเห็นเธอลังเลจึงถามขึ้น
สถานะของลูกค้า… พวกเราไม่ทราบข้อมูลของลูกค้าแล้วจะให้คนไปรับได้ยังไงรั่วชิงหยุนพูด
ผู้จัดการแทนโบกมือเป็นสัญญาณว่าไม่มีปัญหาหรอกเพราะการมาครั้งนี้เป็นการมาแบบลับๆอย่างไรก็ตามคุณควรจะบอกทุกคนนะว่าเค้าคนนี้เป็นคนที่สำคัญมากมากและไม่เคยมีใครกล้าขัดคำสั่งเขาไม่มีใครกล้าล่วงเกินพวกคุณควรจำไว้และดูแลเขาให้ดีที่สุดได้ยินไหม
รับทราบทุกคนตอบพร้อมกัน
บทที่ 2 คือเค้านั่นเอง
หลังจากประชุมสิ้นสุดลงผู้ดูแลเรื่องอาหารยืนยันเมนูอาหารสำหรับห้องเพรสซิเด้นเชียลในคืนนี้ เราต้องแน่ใจว่าการรับรองนี้จะสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติหลังจากที่เหยียนพูดจบก็โยนปากกาในมือออกไป
มีคนรีบร้อนเข้ามาในห้องประชุม
ผู้จัดการครับ แขกพิเศษมาถึงก่อนเวลาครับ
ตอนนี้เขาอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าเตรียมตัวที่จะลงจากรถ เซียวแผนกพิธีการหายใจหอบ
พอเหยียนได้ยินดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นสั่ง รีบมากับผมเพื่อต้อนรับแขกพิเศษของเรา
ในเวลาสั้นๆพนักงานฝ่ายจัดการในห้องประชุมลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามผู้จัดการออกไปพวกเขาไปที่ลิฟต์ เตรียมตัวลงไปชั้นล่าง
ลั่วชิงหยุนที่อยู่ด้านหลังตอนที่เธอเดินเข้าไปในลิฟได้ยินเสียงสัญญาณเตือนดังหนักเกินไป
เพราะเขารีบร้อนจึงทำได้เพียงแค่โบกมือให้เธอผู้จัดการลั่วขึ้นลิฟท์อีกคัน
ลั่วชิงหยุนได้ยินดังนั้นจึงออกไปจากลิฟท์ไปอย่างเชื่อฟัง
เธอรออยู่ที่ลิฟท์ประมาณสาม 4 นาทีจากนั้นก็เข้าไปในลิฟอีกตัวเธอก้าวเข้าไปในลิฟมือถือในกระเป๋ากางเกงของเธอก็ดังขึ้น
เป็นพนักงานเสิร์ฟเหมยฮุยจากแผนกแม่บ้านเธอ ส่งรูปภาพที่แอบถ่ายอย่างชัดเจน *ชายลึกลับคนสำคัญที่สง่างามจริงๆผู้จัดการทำไมถึงไม่มาต้อนรับเขา!
ลวดชิงหยวนหัวเราะออกมาจากนั้นแตะที่รูปภาพ เพียงแค่มองแว๊บเดียวเธอก็รู้สึกได้ถึงเลือดที่กำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายใบหน้าของเธอขาวซีดราวกับกระดาษ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้
นั่นก็คือเขา!
เป็นเวลากว่าสองปีแล้วและความทรงจำที่เธอลืมไปแล้วของเธอนั้น เหมือนกับน้ำท่วมทำให้เธอรู้สึกจมน้ำ
เมื่อสองปีก่อนเพื่อที่จะรักษาน้องชายของตัวเองเธอก็ไปทำงานที่ไหนคลับแห่งหนึ่ง
ผู้ชายคนนี้ให้เงินกับเธอตลอดเวลาที่เธอนอนกับเขา
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าการกระทำของเธอนั้นช่างน่ารังเกียจมาก แต่น้องชายของเธอจำเป็นต้องได้รับการรักษา ปลูกถ่ายไต แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก
เขาเป็นคนใจกว้างมากและใช้เวลาไม่นานในการเก็บเงินตามที่เธอต้องการเธอช่วยน้องชายที่ปลูกถ่ายตายให้สำเร็จและเรียนจบมหาวิทยาลัยจากนั้นก็ทำงานที่โรงแรมแห่งนี้
เดิมทีเธอคิดว่าสองปีจะผ่านไปแล้วและไม่มีการติดต่อกันระหว่างพวกเขาอีก เธอเองก็เลือกที่จะลืมอดีตอันน่ากลัวนั้น เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและทำตัวบริสุทธิ์
แต่เธอไม่คิดเลยว่าสองปีโตมากเขาจะปรากฎตัวในโลกของเธออีกครั้ง
บทที่3 เธอจะไม่ยอม
ลั่วชิงหยุนยังคงตกตะลึงและไม่สบายใจ
เธอได้ยินเสียงติ้ง ลิฟต์ได้มาถึงชั้นหนึ่งในล็อบบี้ของโรงแรมแล้วประตูถูกเปิดออกผู้จัดการที่ดูประจบประแจงเตรียมพาบุคคลสำคัญเข้ามาในลิฟ
ด้านหลังของพวกเขาเต็มไปด้วยผู้คนมากมายพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นพนักงานของโรงแรมที่เพิ่งจะเดินมากับผู้จัดการเพื่อต้อนรับบุคคลสำคัญ
ลั่วชิงหยุนรู้สึกว่าตอนนี้เธอหยุดหายใจไปแล้วใบหน้าของเธอดูซีดขาวตกใจ เธอยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้นไม่กล้าที่จะเดินหน้าต่อไปไม่มีที่ให้เธอถอยไปตั้งหลัก
คุณซูเชิญครับห้องของคุณได้ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้วและผมก็ได้เตรียมพ่อบ้านที่ดีที่สุดในโรงแรมเอาไว้ให้คุณอีกด้วย
คุณวางใจได้พวกเราจะพยายามอย่างดีที่สุดในระหว่างที่คุณพักอยู่ในเมือง X คุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนตาของเหยียนให้ความสนใจอยู่กับร่างนี้ที่อยู่ข้างๆเสมอ
เขาไม่เห็นลั่วชิงหยุนที่ยืนอยู่ในลิฟท์ ในขณะที่เขารายงานกับอีกฝ่าย เขาจึงทำท่าทาง *ได้โปรด *
ให้เขาเข้ามาผู้จัดการแทน ให้ความสนใจกับร่างสูงข้างตัวเขา
เขาไม่เห็นว่ารั่วชิงหยุนยืนอยู่ในลิฟด้วยในขณะที่เขารายงานเขาได้นำอีกฝ่ายเข้าลิฟท์
“เชิญครับ”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาดวงตาของเขาค่อยๆช้อนขึ้นมองไปที่ลั่วชิงหยุน ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ
ลั่วชิงยุนเมื่อเธอได้สบตากับเขาเธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอหยุดเต้นมือและหลังของเธอชื้นเหงื่อ ที่แท้ก็เป็นเขา “เป็นเขาคนนั้น”
ผู้ชายคนนั้นที่ช่วยชีวิตน้องชายเธอไว้เมื่อสองปีก่อนแต่กลับทำร้ายความบริสุทธิ์ของเธอ
“เธอคือพ่อบ้านที่คุณพูดหรือเปล่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำ
สายตาของเขาจงมองไปที่ลั่วชิงหยุน
เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนกับไม่รู้จักเธอ
หรือว่าเขาจะไม่รู้จักเธอ?
ลั่วชิงหยุน ภาวนาในใจ
ทันใดนั้นตาของผู้จัดการแทนก็หันไปมองลิฟท์ทันทีเห็นลั่วชิงหยุนนิ่งอยู่ตรงนั้นเขาแนะนำเธอในทันที
คนนี่คือผู้จัดการแผนกแม่บ้านเธอชื่อ ลั่วชิงหยุน ครับ
ผู้จัดการลั่วนี่เป็นแขกพิเศษของห้องเพรสซิเด้นทเชียร์ คุณซู มาจากเมือง Y เขาพักที่โรงแรมของเรา
ในเวลาเดียวกันที่ผู้จัดการแทนแนะนำลั่วชิงหยุน เขาก็ไม่ลืมที่จะประจบชายคนนั้น
เมื่อพูดถึงเมือง Y เขาก็เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
อ๋อผู้จัดการลั่ว ฉันจำได้ว่าบ้านเกิดของเธอมาจากเมือง Y ใช่ไหมคุณและคุณซู เป็นคนบ้านเดียวกันนิ การที่ได้เจอเพื่อนจากบ้านเก่าเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ
ตาของเขาจ้องมองด้วยความยินดีแต่ในใจของลั่วชิงหยุนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ถ้าอย่างนั้นก็ให้เธอเป็นแม่บ้านของฉันน้ำเสียงของชายหนุ่มดังขึ้นช้าๆโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ
คุณซู
ฉันมาจากแผนกอื่น
ฉันไม่คุ้นเคยกับการเป็นแม่บ้านฉันกลัวว่า …. “ ลั่วชิงหยุน เปิดปากปฏิเสธเขาสองปีมานี้เธอลืมเขาไปแล้ว และไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
นี่เป็นทางเดียวที่ดีที่สุดสำหรับตัวเธอและเขา
แต่ถ้าว่ายังไม่ทันที่เธอจะพูดจบเขาก็พูดตัดบทเธอ
ผู้จัดการลั่ว ไม่เต็มใจเป็นแม่บ้านของฉันเหรอ ?
ถึงแม้เขาจะถามเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่ง
แน่นอนว่าเธอเต็มใจ
ที่คุณซู จะได้ให้โอกาสเธอบริการคุณนั่นคือความโชคดีที่สุดของเธอที่จะได้รับลอง คุณทำไมผู้จัดการจะไม่เต็มใจล่ะผู้จัดการแทนไม่ได้รอให้ลั่วชิงหยุนปฏิเสธพอพูดจบเขาก็ไม่ลืมที่จะตัดสายตามองให้เธอรู้ว่าเธอควรทำตัวให้ฉลาดกว่านี้
ลั่วชิงหยุน รู้ดีว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธได้ดังนั้นเธอจึงก้มหน้าลงเหมือนไม่มีที่จะทำให้เธอปฏิเสธงานนี้ได้
หลังจากที่ประตูลิฟท์ปิดลงแล้วผู้จัดการแทนและ ลั่วชิงหยุนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่บ้านส่วนตัวชั่วคราวผู้จัดการโรงแรมคนอื่นๆได้ถูกขวางไว้ไม่ให้เข้ามาในลิฟ
เมื่อลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของห้องเพรสซิเด้นทเชียล
ผู้จัดการแทนเตรียมก้าวเท้าออกจากลิฟท์แต่กลับถูกมือของเลขาหยุดไว้
ผู้จัดการแทนครับคุณเข้าไม่ได้ครับจากตรงนี้ไปให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการ คุณซู ไม่ชอบถูกคนอื่นรบกวนระหว่างที่เขาอยู่ในโรงแรมของคุณ
ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมคุณต้องเป็นคนรับผิดชอบอย่าให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา
ด้วยความฉลาดของเขาทำให้ผู้จัดการแทนเข้าใจความหมายที่แท้จริงของผู้ช่วย ถึงแม้จะหยุดชงักแต่เขากลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว
แล้วพยักหน้าเข้าใจ
นายเข้าใจดีคุณซูไม่ต้องกังวลครับผมเข้าใจแล้วคุณไม่ต้องกังวล
โรงแรมของเราเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมือง X แน่นอนว่าระบบความปลอดภัย “ ดีครับ”
หลังจากที่เลขาพูดจบก็รอให้ทั้งสามคนเดินออกจากลิฟท์เค้าปิดประตูลงและมองดูรีบลงไป
บทที่ 4
ห้องชุดเพรสซิเด้นทเชียลถูกปูด้วยพรมกำมะหยี่หนา นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ เป็นงานฝีมือ เมื่อเหยียบลงไปบนพื้นก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มและสบายราวกับกำลังเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ
แต่ว่าภายใต้สถานการณ์ตอนนี้เธอลืมพรหมขนแกะถึงแม้ว่า ลั่วชิงหยุน จะเหยียบลงบนก้อนเมฆจริงๆเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีกับมัน
ซูเฉินฮาว เดินไปนั่งที่โซฟา
ลั่วชิงหยุนเดินตามเขาไปด้านข้างอยากจะพูดแต่เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจำเธอได้หรือเปล่า
ถ้าหากว่าเขาจำเธอไม่ได้ตั้งแต่แรกถ้างั้นตอนนี้ความเงียบของเธอคงน่าหัวเราะ
“ อืม…
คุณซู คุณจะทานอาหารเย็นอะไรดีคะ?อาหารจีน หรือ ตะวันตก เราเตรียมเมนูไว้ให้คุณแล้วตอนนี้ฉันจะแสดงให้คุณดู
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากเป็นแม่บ้านแต่เธอก็ต้องทำหน้าที่ของเธอให้ดีแต่เธอทำตัวให้เป็นจริงและทำหน้าที่ของตัวเองให้ถูกต้องถึงอย่างไรเขาก็เป็นแขกวีไอพีแต่เธอเป็นแม่บ้านของโรงแรม
เธอหันหลังเดินไปที่ชั้นหนังสือจากนั้นเธอจึงหยิบเมนูอาหารที่พวกเขาเตรียมไว้มาวางไว้ตรงหน้าเขา
เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอใจร้อนอยากจะแสดงความเป็นมืออาชีพของตัวเองหรือว่าเธอกังวลเมื่อเธอเดินไปที่โซฟาตอนที่เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาเธอค่อยๆเดินช้าลง
เธอทำให้ขาเธอกระแทกกับมุมของโต๊ะน้ำชาไม่สามารถหลบลีกได้ ขาของเธอเจ็บมาก
เธอพยายามที่จะปกป้อง ขา ของเธอ แต่เธอทำได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นทันใดนั้นเธอก็พบว่าตัวเองยังคงให้บริการอยู่เธอแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้วเดินตรงไปยัง ซูเฉินฮ่าว ด้วยสองมือที่ไม่มั่นคงและส่งเมนูด้วยมือทั้งสอง
“คุณซูคุณลองดูก่อน “
ซูเฉินฮ่าว หยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิดดู
ลั่วชิงหยุน ถือโอกาสตอนที่เขากำลังดูเมนูอยู่เธอจึงรีบก้มตัวลงมานวดที่น่องขาที่โดนกระแทก
“ต้องการไปหาหมอไหม”
สายตาของเขายังคงอยู่ในเมนูอาหารแต่น้ำเสียงกับถามเธอ
หลังจากพบว่าการเคลื่อนไหวของลั่วชิงหยุนทำให้เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน
“ขอบคุณนะคะคุณซูที่เป็นห่วง ฉันไม่เป็นไรฉันแค่ไม่ทันระวัง ไม่ต้องไปหาหมอค่ะ “
คุณซู ให้คุณตรวจขานะครับ
เขาขอให้คนตรวจสอบหูของคุณดูว่าคุณมีโรคหูคอจมูกหรือไม่นั่นทำให้สมองไม่สามารถรับสัญญาณได้และคุณก็เวียนหัวผู้ช่วยคนสนิทเดินเข้ามาอธิบาย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นกะอักกะอวมเป็นอย่างมาก
ที่แท้เขาไม่สนใจเธอเลยสักนิดแต่กลับเยาะเย้ยเธอว่าเป็นคนสายตายาว
“ คุณชายครับ”
บริษัทเหวยเฟิงงานเลี้ยงต้อนรับ ท่านประธานบริษัทเชิญด้วยตัวเองได้โปรดมาร่วมงานด้วยครับฉู่เยว่ไม่ได้สนใจสีหน้าของลั่วชิงหยุนจึงรายงานต่อซูเฉินฮ่าว
พวกเราต้องไปเผชิญหน้ากับคุณปู่ “ ซูเฉินฮ่าวพูดพลางลุกขึ้นยืน ตอบเขาฉันจะไปตรงเวลา
“ครับ”ฉู่เยว่รับปาก
เมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะออกไปกินข้าวเย็น ลั่วชิงหยุนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เพราะพวกเขาจะใช้เวลาร่วมกันน้อยลง
ตอนพี่ซูเฉินฮาวเปลี่ยนเสื้อผ้า ลั่วชิงหยุนใช้โอกาสนี้ถามเกี่ยวกับแผนการเดินทางของเขาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รั่วชิงยุนรู้ว่าตารางงานของเขาเต็มไปหมดนอกจากตอนกลางคืนที่โรงแรมเขาไม่เหลือเวลาอีกจึงทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ
ด้วยกันนี้อย่างน้อยตอนกลางวันเธอก็ว่าง
บทที่ 5
ในตอนเย็นซูเฉินฮาวและฉู่เยว่ก็ออกจากโรงแรมเพื่อไปงานเลี้ยง
เมื่อลั่วชิงหยุน กลับมาถึงห้องทำงานของเธอก็ได้ยินเสียงคนกระซิบกระซาบ
เธอรู้ไหม?
เบื้องหลังของบุคคลสำคัญคนนั้นน่ะเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆนะเขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังห้างหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศของเราและเจ้าของบริษัทรอยัลกรุ๊ปก็คือเขา
จริงเหรอ?
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าผู้จัดการแทนจะดูกังวลขนาดนี้นี่ขนาด
เขาเคยเจอคนใหญ่คนโตของเมืองของเรามาแล้วนะแต่ก็ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้
พูดจาเหลวไหลน่า?
คนที่มาพักโรงแรมของเราจะมีชื่อเสียงขนาดนั้นได้ยังไงบ้าจริง เลิกฝันกลางวันได้แล้วอย่างไรก็ดี ฉันละอิจฉาผู้จัดการคนนี้จริงๆคุณซูให้เธอเป็นแม่บ้านส่วนตัวแล้วเธอก็สวยขนาดนั้นบางทีเธออาจจะโชคดีถูกใจคุณซูทำให้เขาพากลับไปเป็นคุณนายน้อยก็ได้นะ
ฮ่าฮ่าฮ่า
อย่าพูดจาเหลวไหลถ้าผู้จัดการคนนั้นได้ยินเข้าจะโทษที่เธอแย่งตำแหน่งไปก็ได้
ขณะที่พวกเธอทั้งสองต่างกระซิบกระซาบกันนั้นพวกเธอไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้
ตอนนี้พวกคุณสองคนว่างมากใช่ไหมงานทั้งหมดของพวกคุณเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ
ถึงได้มีเวลามาคุยเรื่องไร้สาระ
อ๋อฉันคิดว่าพวกคุณคงไม่ได้อยากทำงานต่อ
ผู้จัดการแผนกทำความสะอาดหลู่หลงว่ากล่าวตักเตือนและมองทั้งสองคนด้วยสายตาดุๆอารมณ์ของเธอกำลังคลุกครุ่น
ทั้งสองคนรีบก้มหัวขอโทษและรีบเดินจากไปอารมณ์ของลู่หรง ยังไม่ดีขึ้นหลังจากด่ากาดไปเมื่อสักครู่เมื่อเธอสังเกตุเห็นลั่วชิงหยุนที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักเธอเดินเข้าไปหาลั่วชิงหยุน และพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ
“ลั่วชิงหยุน ฉันเคยได้ยินมาว่าวิธีการจัดการของผู้จัดการนั้นไม่ธรรมดาแต่วันนี้ฉันได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว เอาเถอะฉันจะเตือนผู้จัดการไว้ สักอย่างนะว่า เทพนิยายมันก็เป็นแค่เทพนิยายนกกระจอกกลายเป็นนกฟีนิกซ์เหมือนในเทพนิยายแบบนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง เธอควรจะอยู่ในความเป็นจริงและรับผิดชอบในส่วนของตัวเอง “
ลั่วชิงหยุนเข้าใจในคำพูดเสียดสีของ ลู่หรงแต่ก็ไม่ได้โกรธเพียงแค่ยิ้มบางๆ
“คุณใจดีเหลือเกินผู้จัดการลู่ ฉันจะรับฟังคำแนะนำของคุณนำไปใช้ค่ะ “
ลู่หลงเห็นเธอไม่ได้โกรธเธอจึงคิดว่ามันไร้ความหมายเธอถลึงตากระทืบเท้าและเดินออกไปอย่างโกรธแค้น
ลั่วชิงหยุน มองดูเธอจากไปพลางถอนหายใจ
คนอื่นๆต่างก็คิดว่าเธอเป็นคนโชคดีที่มีโอกาสได้รับใช้ คนที่มีอำนาจ แต่ว่าใครจะไปรู้ว่าเธอไม่อยากเป็นแม่บ้าน? ของเขาเลย
ห้องเพรสซิเด้นทเชียลมักจะมีห้องเล็กๆที่ใช้เป็นห้องรับรองสำหรับคนดูแลของโรงแรมที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ลั่วชิงหยุน ก็กลับไปที่ห้องของเธอ
เวลาประมาณสี่ทุ่มเธอก็รู้สึกว่าตัวเองง่วงนอนขณะที่เธอกำลังจะนอนลงบนเตียง
แล้วโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงก็ดังขัดจังหวะการนอนของเธอซะก่อน
เมื่อเอื้อมมือออกไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นสายที่โทรเข้ามาเห็นว่าเป็นสายจากผู้ช่วยของซูเฉินฮ่าว
“ ผู้จัดการฉู่เยว่โทรมา”
เธอรับโทรศัพท์ด้วยความสงสัยฮัลโหลเลขาฉู่
ผู้จัดการครับช่วยมาที่ห้อง 999 ตอนนี้ด้วยครับผมต้องการให้คุณไปที่ Aqua Heaven Society “ น้ำเสียงของชูเยว่ดูร้อนใจและเหมือนเป็นคำสั่งไกลๆว่าห้ามเธอปฏิเสธเป็นอันขาด
เขาไม่ใช่เจ้านายที่อ่อนโยนจริงๆเธอคิด
ลั่วชิงหยุน หยุดหัวเราะออกมาอย่างเงียบเงียบในใจเธออดไม่ได้ที่จะถาม
“ขอโทษนะคะ”คุณต้องการอะไรค่ะ
ฉันให้เวลาคุณ 15 นาทีมันเกี่ยวกับคุณซูคุณรีบมาหลังจากที่ชูเยว่พูดจบก็ไม่รอให้ลั่วชินหยุนตอบกลับและวางสายใส่เธอทันที
บทที่6 เค้าจะทำอะไร
ลั่วชิงหยุน มองดูโทรศัพท์มือถือของเธอนิ่งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ลุกขึ้นเดินลงไปข้างล่าง
Aqua Heaven Society เป็นคลับส่วนตัวระดับไฮคลาสที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง X ถึงแม้ ลั่วชิงหยุนจะไม่เคยมาที่นี่มาก่อนในฐานะพนักงานโรงแรมเธอก็รู้จักชื่อเสียงของคลับนี้พอประมาณ
สำหรับคลับส่วนตัวขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงคนทั่วไปแม้แต่คนรวยหากไม่ใช่สมาชิกก็ไม่สามารถเข้าไปได้
การที่ซูเฉินฮ่าว มาปรากฏตัวที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
แต่ทำไมเขาต้องให้เธอมาด้วยล่ะ?
เธอมีคำถามมากมายไปหมดเธอลงจากรถแล้วเดินไปยังล็อบบี้
เมื่อเธออยู่หน้าประตูก็ถูกยามรักษาความปลอดภัยหยุดไว้ขอโทษครับคุณ นี้เป็นคลับส่วนตัวมีเพียงสมาชิกวีไอพีเท่านั้นที่จะเข้ามาได้
ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะจัดการกับยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนได้อย่างไรเธอก็มองเห็นชูเยว่เดินออกมาจากด้านใน
“ เธอมากับผม”
เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยเห็นชูเยว่แล้วจึงรีบขอโทษและให้เธอเข้าไป
ลั่วชิงหยุนเข้ามาในห้องโถง
ฉู่เยว่ก็ดึงเธอเข้ามาแล้ววางนามบัตรไว้ในมือของเธอ
“คุณซูอยู่ในห้อง 999 คุณไปเถอะถ้ามีคนมาเคาะประตูปล่อยให้พวกเขาไปเถอะเข้าใจไหมไหม”
“ อะไรนะ?
ลั่วชิงหยุน กุมมือตัวเองไว้แน่นแล้วเอ่ยขึ้น
“แล้วคุณล่ะ”
“ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการฉันจะมารับเธออีกครั้งชั่วโมง”
หลังจากที่ชูเยว่พูดจบเขาก็ไม่รอให้เธอถามอะไรอีกแล้วรีบเดินออกไปทันที
ลั่วชิงหยุน มองดูหมายเลขบัตรก่อนจะเดินไปยังทางเดิน
ตรงสุดทางเดินมีสวนดอกไม้ที่สง่างามด้านหนึ่งของสวนมีห้องที่ดูแปลกตาลั่วชิงหยุนเดินไปข้างหน้ามองตัวเลขที่อยู่หน้าประตูในที่สุดก็หาห้อง 999 เจอ
หลังจากที่ยืนยันว่าบัตรในมือของเธอก็พบว่าใช่ที่นี่แหละ
เธอเอื้อมมือออกไปแล้วยื่นกราร์ดไปตรงเซ็นเซอร์เสียงดังขึ้นและประตูก็เปิด
แสงไฟในห้องสลัวๆสิ่งที่อยู่ในสายตาของเธอก็เขิน หน้าจอทีวีที่มีรูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่งภายในห้องได้รับการตกแต่งแบบโบราณ
ลั่วชิงหยุน ค่อยๆเดินลดฝีเท้าลงช้าๆค่อยๆเดินเข้าไปในห้องแล้วประตูก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ
หลังจากที่อยู่ด้านหลังของหน้าจอแล้วเธอก็มองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนและมีแขนยาวดึงเธอเข้ามาในขณะที่สมองของเธอกำลังสับสนวุ่นวายร่างกายของเธอก็ล้มลงบนเตียงไม้แกะสลักขนาดใหญ่
เธออาปากเพื่อขอความช่วยเหลือแต่ริมฝีปากของเธอถูกจูบร้อนของอีกฝ่ายปิดสนิท
“เอ่อ “
เธอพยายามที่จะหลุดพ้นจากการจับกุมของตัวเอง แต่กลับพบว่ายิ่งเธอดิ้นมากขึ้นแรงกดทับเธอหนักจนแทบจะหายใจไม่ทัน
เขากำลังจะทำอะไรอยู่
ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้
เธออยากจะป้องกันตัวตามสัญชาตญาณแต่แรงของทั้งสองฝ่ายต่างกันมากจนเกินไป
เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยสักนิด
เธอได้กลิ่นเหล้านิดหน่อยเขาเมาใช่ไหม?
ในขณะที่เธอนึกถึงเรื่องนี้มือใหญ่โค้งของเขา
ก็ถลกกระโปรงยาวถึงเข่าของเธอขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ศรีษะของชายหนุ่มสุกที่คอของเธอสูดกลิ่นหอมที่มาจากตัวเธอกินหอมที่คุ้นเคยทำให้รู้สึกถึงความตื่นตัวของเส้นประสาทที่ฝังอยู่ในความทรงจำของเขา
บทที่7 “
“ หยุดนะ”
เธอร้องออกมาด้วยความตกใจในขณะที่เธอกำลังดิ้นรนอยู่นั้น
คอเสื้อของเธอได้ถูกกระชากอย่างแรงด้วยมือแข็งแรงของเขาตอนนี้เสื้อผ้าของเธอไม่สามารถปกปิดร่างกายของเธอได้อีกต่อไป
ด้วยเสื้อผ้าอันน้อยชิ้นและการกระทำของเขาทำให้เธออายและโกรธอย่างมากน่าเสียดายที่เขาไม่ได้ยินเสียงเธอเลย เขาเล่นสนุกกับร่างกายของเธอจนเหนื่อยล้า
ลั่วชิงหยุน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันผ่านไปนานแค่ไหนตอนที่ชายหนุ่มเลิกยุ่งกับร่างกายของเธอ
เขาหันหลังกลับไปนอนหลับอย่างสบายใจ
เธอรู้สึกเหมือนถูกรถชนร่างกายของเธอจนไม่อยากขยับไปไหนเจ็บจนจะทนไม่ไหว
บนใบหน้าของเธอมีคราบน้ำตาที่แห้งแล้วและมีบางส่วนที่ยังเปียกชื้น หลังจากที่เธอเลิกตื่นตระหนกเธอก็หันไปมองชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ภายใต้แสงไฟสลัวใบหน้าของชายหนุ่มไม่ได้ดูนิ่งเฉยอีกต่อไปใบหน้าของเขาก็ดูอ่อนโยนขึ้น
ถึงอย่างนั้นเธอก็กลัวเขา
หลังจากที่เธอลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าที่ฉีกขาดของเธอเองเธอเดินกะเผลกและรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลยและเธอเดินออกจากห้องไป
ตอนที่ชูเยว่ พาหมอกลับมาถึงคลับเฮ้าส์ก็ผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้วในเมื่อเขาไม่ได้เจอลั่วชิงหยุนเขาก็รู้สึกสงสัยในใจไม่ได้
คุณหมอตรวจร่างกายของ ซูเฉินฮ่าว ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูดกับชูเยว่ว่า
“แปลกครับคุณซูดูปกติแล้วไม่มีร่องรอยการวางยาเลย “
“ งั้นเหรอ”
ชูเยว่เหมือนจะทำอะไรไม่ถูก
ทั้งสองคนหันหน้าเห็นซูเฉินหาวตื่นขึ้นจึงรีบถาม
“ ท่านประธานตื่นแล้ว
เป็นอย่างไรบ้างครับ”
ซูเฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้วลูบศีรษะของตัวเองที่เริ่มรู้สึกมึนๆ
“ไม่เป็นไรหรอกแค่เวียนหัวเท่านั่น “
“ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีคุณก็พักผ่อนก่อนนะครับ”
“คุณชูเยว่ ในเมื่อคุณซูไม่มีอะไรผิดปกติผมจะไม่รบกวนเวลาของคุณแล้วถ้าคุณต้องการอะไรก็มาหาผมได้ตลอดเวลา “
หลังจากนั้นหมอยืนยันว่าซูเฉินฮ่าวไม่เป็นไรแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน
ชูเยว่เดินไปส่งหมอ
ซูเฉินฮ่าวลงจากเตียงและกำลังจะเดินไปรินน้ำให้ตัวเองทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในฝ่าเท้าของเขา
เขาขยับเท้าออกและตกใจที่มีต่างหูเล็กๆรูปดาวอยู่ใต้เท้าเขา
เขาก้มลงหยิบต่างหูข้างนั้นและรู้สึกว่ามันคุ้นๆเขารู้สึกว่าคุ้นตานิดหน่อยแต่ก็คิดว่า
เขาจะมีโอกาสได้ดูมันอย่างละเอียดชูเยว่ก็ถือแก้วน้ำเดินเข้ามา
“ท่านประธานครับ
ครั้งนี้ไม่มีอันตรายแน่นอนผมไม่คิดว่าตาแก่นั่นจะน่ารังเกียจขนาดนี้เพื่อให้คุณได้แต่งงานกับหลานสาว ตาแก่นั่นก็ใช้วิธีที่น่ารังเกียจแบบนี้”
หลังจากส่งน้ำให้ซูเฉินหาวแล้วชูเยว่พูดออกมาด้วยความโกรธ
ซูเฉินฮ่าว หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มความจำของเขาค่อยๆกลับมาเป็นรูปเป็นร่างและสีหน้าของเขาเริ่มเฉยชามากขึ้น
“เดิมทีผมอยากจะให้ความเคารพและให้โอกาสกับเขา แต่เขาก็ไม่รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีกับเขาดังนั้นต่อไปนี้คงไม่มีอะไรให้เกรงใจกันภายในหนึ่งสัปดาห์ฉันจะไม่ต้องการเห็น เหอเฟิงกรุ๊ปอยู่บนโลกนี้ !
“โอเคครับ
ผมจะเตรียมการซื้อขายให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์ผมรับรองว่าทุกอย่างในตระกูลนั้นจะเปลี่ยนเป็นของ”
คุณชูเยว่พูดอย่างมั่นใจ
พอพูดจบเขาก็เห็นสีหน้าของซูเฉินฮ่าวเหมือนจะสงสัยจึงพูดอย่างระมัดระวังท่าน
“ประธานครับคุณเห็นไหม ?
คำพูดของชูเยว่ทำให้ซูเฉินฮาวขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่บางอย่างอยู่
ชูเยว่จึงพูดต่อ
“ตอนที่ผมพาคุณกลับมาที่ห้องผมโทรหาคุณลั่วเพื่อขอให้เธอมาดูแลคุณแต่ตอนที่ผมกลับมาพบว่าเธอไม่อยู่ที่นี่แล้วคุณพอจะเห็นเธอมัยครับ”
“ พอแล้ว”
ซูเฉินฮ่าว มองดูต่างหูรูปดาวในมือเขารู้คำตอบแล้ว
“กลับไปโรงแรมกันก่อนเถอะ !”
“ครับ “
เมื่อชูเยว่ได้ฟังแล้วจึงรีบหยิบชุดสูทออกมาทั้งสองคนออกจากคลับทันที
หลังจากกลับมาถึงโรงแรมซูเฉินฮ่าวก็เห็นประตูห้องรับรองพนักงานเปิดออกแต่ไม่เห็นลั่วชิงหยุนที่อยู่ข้างใน คำตอบนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!