NovelToon NovelToon

ซ่อนกลิ่นหลงไฟ

อุบัติรัก

แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างบานเล็กๆ ภายในห้องนอน สาวน้อยผิวขาว ผมยาวสีดำขลับซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น เธอขยับตัวยืดเส้นยืดสายพลางส่ายหน้าไปมา วันนี้เป็นวันแรกของ ‘แพร’ ในฐานะนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก กับก้าวใหม่ในชีวิต

แพรหันมองดูนาฬิกาที่หัวเตียง และเพิ่งรู้ตัวว่าเธอควรจะรีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เมื่อรู้ดังนั้นเธอจึงได้รีบเตรียมตัวไปเรียน

แพรเป็นเด็กหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ด้วยผิวที่ขาวตัดกับผมยาวสีดำ ไหนจะหุ่นบางอรชรที่เมื่อสวมชุดนักศึกษาแล้วนั้น ก็ยิ่งทำให้เธอดูน่ามอง หน้าตาที่สดใสแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ ตามวัย แพรเป็นคนที่หน้าตาดีมาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็มีแต่คนเข้าหา และอยากรู้จักเธอทั้งนั้น

ด้วยความที่บ้านของแพร อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย วันนี้แพรจึงตัดสินใจว่าจะขี่จักรยานไป วันนี้ยังไม่มีเรียนทางรุ่นพี่ที่คณะแจ้งมาว่าจะปฐมนิเทศและพูดคุยกันเล็กๆ น้อยๆ

ระหว่างทางหญิงสาวไม่ได้สนใจมองทางข้างหน้า เพราะตาจับจ้องอยู่ที่สมาร์ตโฟน เธอแชตกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน เกี่ยวกับการไปมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก

“ว้าย!!!” จู่ๆ จักรยานของแพรก็ชนเข้ากับคนที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้า ทำให้จักรยานของเธอเสียหลักล้มลง สมาร์ตโฟนของเธอก็หล่นลงพื้นไปอย่างแรง

“ขอโทษนะคะ” แพรรีบลุกขึ้นและเก็บสมาร์ตโฟนขึ้นมาตรวจดู ก่อนจะเดินไปหาคู่กรณีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

“เป็นไรไหมครับ เดี๋ยวผมดูหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เจ้าของเสียงโน้มตัวมาตรวจดูสมาร์ตโฟนของแพรอย่างใกล้ชิด ตัวเขานั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะสาวน้อยในชุดนักศึกษาก็ไม่ได้ขี่จักรยานมาด้วยความเร็ว

แพรใจเต้นแรง เมื่อเห็นหน้าของชายคนนั้นชัดเจน ทั้งหน้าตา รูปร่าง และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเขามันทำให้เธอตกหลุมรักเขาในทันที

“โชคดีที่ไม่แตกนะ แค่เป็นรอยนิดหน่อย” เขายิ้ม แล้วส่งคืนสมาร์ตโฟนให้กับเธอ หญิงสาวประหม่าและรู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนวูบวาบ เธอต้องหลบสายตาเขาเพราะกลัวเขาจะเห็นว่าเธอกำลังเขิน

“ขอบคุณมากนะคะ พี่...” หญิงสาวลากเสียงยาวที่คำหลัง เพื่อแสดงออกให้อีกฝ่ายเห็น ว่าเธอต้องการจะรู้จักชื่อของเขา

“พี่ชื่อณัฐนะ”

“ค่ะพี่ณัฐ แพรต้องขอโทษพี่อีกครั้งนะคะ ที่ชนพี่”

“ไม่เป็นไรหรอก พี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ยังไงขี่จักรยานอย่าเล่นมือถือดีกว่านะ เดี๋ยวจะไปชนอะไรเข้าอีก”

“ค่ะ” แพรยิ้มอายๆ และจูงจักรยานเดินออกมา ใจหนึ่งเธออยากจะอยู่คุยกับเขาต่ออีกสักนิด แต่ก็รู้ตัวว่าต้องรีบไปเข้าร่วมกิจกรรม แต่ถ้าจากกันไปโดยไม่ได้แลกช่องทางการติดต่อกันเลย ก็ไม่รู้อีกว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า

“น้องแพร” เสียงเรียกของณัฐดล ทำให้หญิงสาวในชุดนักศึกษาชะงัก เธอหันกลับไปมองเขาทันทีราวกับว่ากำลังรออยู่แล้ว

“ถ้าพี่จะขอไลน์ของแพรอาไว้ได้หรือเปล่า เผื่อว่าโทรศัพท์ของแพรเป็นอะไรพี่จะได้รับผิดชอบ” เขาพูดต่อ

“ได้สิคะ” หญิงสาวไม่รอช้า เธอรีบเดินกลับไปหาเขา พร้อมกับทำการแลกไลน์กันไว้ ก่อนจะลากันไปตามทาง ภาพหน้าตาของณัฐดลยังติดอยู่ในใจของสาวนักศึกษาไม่หายไปตลอดวัน เธอเฝ้าแต่คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา เธอเพิ่งเข้าใจคำว่ารักแรกพบก็วันนี้เอง

ทางด้านของณัฐดลนั้นก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ตลอดทั้งวันเขารู้สึกไม่มีสมาธิในการทำงานเลย ใครจะไปคิดกันว่า แค่จอดรถซื้อหมูปิ้งริมทาง จะได้เจอกับสาวน้อยน่ารักเมื่อเช้านี้

ณัฐดลเป็นหนุ่มพนักงานไอทีของบริษัทแห่งหนึ่ง เขาเรียนจบด้านไอทีมาและได้งานตรงสายพอดี ชีวิตของเขาไม่ได้มีเรื่องให้ตื่นเต้นเท่าไหร่นัก ตอนเช้าออกไปทำงาน เย็นกลับมาอยู่ห้อง เขาไม่ใช่คนชอบเที่ยว ไม่ชอบเข้าสังคม และไม่บ่อยนักที่เขาจะตกหลุมรักใคร

ณัฐดลขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางเขาก็นึกถึงใบหน้าของแพรขึ้นมา ใบหน้านั้นช่างน่ารักและสดเหลือเกิน แพรทำให้เขาย้อนคิดถึงความรักในอดีต ความรักในวัยหนุ่มสาวรักที่มีแต่ความบริสุทธิ์สดใส

“กลับมาแล้วเหรอ วันนี้ออกไปกินข้าวข้างนอกกันนะ มินอยากกินต้มแซ่บร้านในตลาดโต้รุ่ง” เมื่อณัฐดลเปิดประตูเข้าไปในห้องพักก็พบกับหญิงสาว รูปร่างสูง ผอม ผิวสีแทน ผมยาวหยักศก ยืนรีดผ้ารออยู่

ณัฐดลอาศัยอยู่กับแฟนสาวของเขา เธอชื่อว่ามินตรา ทั้งคู่คบหากันมาสามปีแล้ว และเพิ่งตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อปีก่อน ซึ่งณัฐดลเป็นคนชวนเธอให้มาอยู่เอง เพราะไม่อยากไปๆ มาๆ และจะได้ประหยัดค่าเช่าห้องลงด้วย

แต่หลังจากพบกับแพร ณัฐดลก็รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิด ที่ชวนให้มินตราย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน แถมที่หนักไปกว่านั้นก็คือ เขาได้ชวนเธอจดทะเบียนสมรสไปแล้ว แต่ยังไม่ได้มีพิธีแต่งงานอะไร เพราะยังไม่พร้อมทางด้านการเงิน

"มินไปเถอะ เราเหนื่อย ไม่อยากออกไป" ณัฐดลพูดเสียงเรียบ

มินตราสังเกตเห็นว่าณัฐดลดูเหมือนไม่ค่อยสบายใจ แต่เธอคิดว่าเขาอาจจะเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันจริงๆ อย่างที่เขาว่า

“ถ้างั้นเราซื้อกลับมากินที่ห้องนะ” มินตราพูดต่อ

“ยังไงก็ได้แล้วแต่มินเลย” ณัฐดลพูดตอบพลางเดินเข้าห้องนอนไป มินตราได้แต่มองตามแผ่นหลังของแฟนหนุ่ม โดยไม่รู้เลยว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังจะมาถึง

ณัฐดลเข้ามาหลบในห้องนอน และแอบกดเข้าไปดูข้อความในไลน์ เขาเห็นว่าแพรส่งสติกเกอร์มาทักทาย จึงได้ตัดสินใจส่งตอบ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นเขาและแพรก็ได้ส่งข้อความหากันมากมาย ในระหว่างนั้นมินตราขับรถออกจากคอนโดไปเพื่อซื้อกับข้าว เธอไม่รู้เลยว่าแฟนหนุ่มของตัวเอง กำลังส่งข้อความคุยกับผู้หญิงคนอื่นอยู่

“ณัฐ ทำอะไรอาบน้ำหรือยัง เราซื้อลาบมาด้วยนะ เห็นวันก่อนเธอบ่นว่าอยากกิน” เมื่อมินตรากลับมาถึงห้อง เธอก็จัดทุกอย่างใส่จาน และร้องเรียกแฟนหนุ่มของตัวเองให้ออกมากินข้าวเย็นด้วยกัน แต่เหมือนว่าเขาจะยังไม่ออกมาจากในห้องนอนเลย

“ณัฐ! เธอนอนแล้วเหรอ” มือบางจับที่ลูกบิดประตู และพบว่าณัฐดลได้ล็อกมันไว้ น่าแปลกเพราะปกติพวกเขาทั้งสองคนไม่เคยล็อกประตูบานนี้เลย

“ณัฐ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุบประตูดังจนณัฐดลทนไม่ไหว เขาต้องกดออกจากแชตของแพร แล้วเดินมาที่ประตูเพื่อเปิดออก

“เป็นอะไร เธอล็อกประตูทำไม” มินตราร้องถามทันที

“สงสัยมือไปโดน แล้วนี่บอกว่าจะออกไปซื้อกับข้าว ไปมาแล้วเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ มัวทำอะไร ทำไมยังไม่อาบน้ำอีก” เพราะเธอเห็นว่าเขายังอยู่ในชุดเดิม จึงรู้ว่าอีกฝ่ายยังได้อาบน้ำ

“เราเผลอหลับน่ะ เดี๋ยวเราขออาบน้ำก่อนนะ แล้วจะออกไปกิน”

“เร็วๆ เลยหิวมาก”

ความหลงบังตา

จากที่ณัฐดลได้บอกกับแพรวาว่า

จะมาซื้อหมูปิ้งที่ร้านตรงที่เจอกันครั้งแรกทุกวัน เขาก็มาตามที่พูดเอาไว้

ณัฐดลกับมินตราทำงานคนละที่ และเดินทางไปกันคนละทาง

ทำให้เขาสามารถแอบมาเจอกับแพรวาได้สะดวก

"วันนี้พี่ณัฐมาเร็วกว่าปกติหรือเปล่าคะ

แพรว่าแพรก็ออกจากบ้านมาเช้ากว่าทุกวันแล้ว พี่ก็ยังมาถึงก่อนแพรอยู่ดี"

แพรวาเอ่ยถาม

"ใช่สิ พี่ตื่นมาก็อยากเจอแพรเลย

ก็เลยรีบมารอ อยากอยู่กับแพรนานๆ" ณัฐดลตอบพลางยิ้มให้กับสาวนักศึกษาตรงหน้า

หญิงสาวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

แต่ใจชื่นชมยินดี เธอเองก็คิดเหมือนกันกับเขา อยากเจอกับเขาทุกวัน

อยากอยู่กับเขานานๆ

“วันเสาร์นี้แพรไปไหนหรือเปล่า

พี่อยากจะชวนแพรไปกินข้าว” เมื่อเช็กดูจนมั่นใจแล้ว ว่าวันเสาร์มินตราต้องไปทำงาน

เพราะเธอมีโอที ณัฐดลจึงได้ตัดสินใจเอ่ยชวนแพรวาไปกินข้าวด้วยกัน

“ว่างค่ะ ร้านไหนดีคะ”

สาวน้อยไม่ได้ปฏิเสธ หนำซ้ำเธอยังดูจะสนใจคำเชิญชวนมากทีเดียว

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนนะ

ไว้พี่จะบอกกับแพรในแชตก็แล้วกัน” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

ทั้งคู่ยืนคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนเคย

โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งแอบมองพวกเขาอยู่แถวนั้น

เมื่อถึงเวลาต้องแยกจากกัน

ณัฐดลก็เดินไปที่รถของเขา เพื่อที่จะเตรียมตัวเดินทางไปทำงาน แต่ทันใดนั้นเอง

เขาก็ถูกเรียกตามหลังด้วยเสียงที่คุ้นหู

"ณัฐ...คุยกันหน่อยได้ไหม"

ณัฐดลหันกลับไปมอง และพบว่าเป็นอัญญาแฟนเก่าของเขา

"อัน...มาทำอะไรที่นี่

ไม่เจอกันนานเลยนะ" ณัฐดลถามด้วยสีหน้าตกใจ

"จริงๆ ก็ตั้งใจว่าจะมาซื้อหมูปิ้งร้านนี้นี่แหละ

แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอช็อตเด็ด" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

เธอตั้งใจมาซื้อหมูปิ้งจริงๆ แต่ที่ยังยืนแอบมองอยู่

เพราะไม่มั่นใจว่าผู้ชายที่เธอเห็นยืนจีบเด็กมหาวิทยาลัยอยู่นั้น

ใช่ณัฐดลหนุ่มขี้อายที่เธอเคยมีความสัมพันธ์ด้วยหรือเปล่า

ณัฐดลถอนหายใจด้วยความรู้สึกโล่ง

อย่างน้อยคนที่มาเห็นเขากับแพรวาก็ไม่ใช่มินตรา

ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเธอแยกไปทำงานอีกทาง แต่มันก็อดระแวงไม่ได้จริงๆ

"ช็อตเด็ดอะไรกัน

เมื่อวันก่อนเราขี่รถชนกับน้องเขา แล้วเราทำโทรศัพท์น้องเขาพัง

ก็เลยต้องเอาไปซ่อมให้" ชายหนุ่มพูดแก้ตัว

"ไม่ต้องโกหกเราหรอก

ณัฐก็รู้ว่าเราไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปบอกมินมันได้อยู่แล้ว”

อัญญาจบกับณัฐดลไม่สวยนัก จะว่ามินตราเป็นมือที่สามก็ไม่เชิง

เพราะก่อนที่ณัฐดลจะเลิกกับเธอนั้น อัญญาเป็นคนขอห่างจากเขาเอง

แล้วช่วงเวลานั้นณัฐดลก็ไปเจอกับมินตราเข้าพอดี ทำให้เขาตัดใจจากอัญญาได้รวดเร็ว

“มันไม่มีอะไรจริงๆ”

ถึงจะรู้ว่าอัญญาไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปบอกมินตรา แต่เซฟตัวเองไว้ถือว่าดีที่สุด

มันไม่ควรมีใครรู้เรื่องนี้

"โอเค ๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่

แล้วแสดงว่าเธอก็ยังรักกันดี กับมินตรางั้นสิ"

“ก็ไม่เชิง มันก็ธรรมดาคนรักกัน

ก็มีทะเลาะกันเป็นปกติ” ตั้งแต่ที่ชีวิตของณัฐดลมีแพรวาเข้ามา

ความรักระหว่างเขากับมินตราที่ไม่เคยมองว่ามีปัญหา ก็เริ่มจะมีปัญหาขึ้นมา

“ก็ถือว่าครบกันนานอยู่นะสามสี่ปีแล้วหรือเปล่า”

ณัฐดลพยักหน้ารับ เขาแอบคิดว่าคงจะนัดเจอกับแพรวาตรงนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว

สักวันคงมีคนรู้จักมินตรามาเห็นเขา แล้ววันนั้นแหละที่เขาจะซวยเอาได้

คืนวันนั้น ณัฐดลนอนไม่หลับ

คิดถึงแพรวาก็ส่วนหนึ่ง

แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะกำลังกังวลเรื่องที่มีคนไปเห็นเขากับแพรวาอยู่ด้วยกัน

ชายหนุ่มหันมองแฟนตัวเองที่หลับสนิทอยู่ข้างๆ

ก่อนเขาจะตัดสินใจเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง

ภาพโปรไฟล์ของแพรวาที่กำลังยิ้มแย้มอยู่บนหน้าจอ ทำให้เขายิ่งปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า

ตอนนี้เขาหลงรักเธอเข้าเต็มหัวใจ

ณัฐดลอยากจะโทรไปหาเธอ

แต่กลัวว่ามินตราจะได้ยินเข้า จึงต้องฝืนใจเก็บความคิดนั้นไว้ เขาพยายามข่มตานอน

หลับตาลงแล้วนึกถึงรอยยิ้มของแพรวา เสียงหัวเราะและดวงตาสดใสของสาวนักศึกษา

ณัฐดลค่อยๆ หลับไปพร้อมกับรอยยิ้มในความฝันเขา

ภาพจำลองที่เขาได้กอดแพรวาไว้ในอ้อมแขน ฝันที่เขาเฝ้าภาวนาให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ

เสียที

เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า

ณัฐดลรีบเตรียมตัวไปทำงานด้วยความหวังว่าจะได้เจอแพรวาเหมือนเคย

เขาตื่นเช้ากว่าปกติจนมินตราเริ่มรู้สึกได้

“ช่วงนี้ณัฐตื่นเช้าจัง

ปกติเห็นบ่นว่าไม่อยากไปทำงาน

ช่วงนี้ดูเหมือนใจจดใจจ่อรอเวลาไปทำงานยังไงก็ไม่รู้” มินตราพูดขึ้น

เธอเห็นสีหน้าและแววตาของณัฐดลก็พอจะเดาออก

“เราตื่นเต้นที่จะได้เบี้ยขยันน่ะสิ

เดือนนี้เรายังไม่ขาดไม่สายเลย” เขาแก้ตัว

“กี่ล้านกันล่ะเบี้ยขยันเนี่ย

ถึงได้เปลี่ยนคนขี้เกียจอย่างณัฐให้ขยันขึ้นมาได้”

หญิงสาวเอ่ยแซวแฟนหนุ่มของตัวเอง

“มินก็พูดเกินไป ณัฐไปทำงานก่อนนะ”

เขาพูดก่อนจะเดินเข้าไปจูบที่หน้าผากของแฟนสาว

มันนี้เขาตั้งใจว่าจะชวนแพรเปลี่ยนสถานที่เจอกันใหม่ ตรงนี้มันล่อตาผู้คนเกินไป

“ณัฐ”

แต่เพียงเขาก้าวออกมาได้ไม่กี่ก้าว เสียงเรียกของมินตราก็ดังขึ้น

ชายหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ตามประสาคนมีความผิด

“ลืมโทรศัพท์”

เธอพูดก่อนจะชูโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา ณัฐดลรีบเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์ของเขาทันที

เพราะกลัวว่ามินตราจะเห็นข้อความของแพรวาเข้า

หลังจากวันที่ณัฐดลเจอกับอัญญาโดยบังเอิญ

เขาก็เปลี่ยนที่เจอกับแพรวาใหม่ เป็นร้านโจ๊กใกล้ๆ มหาวิทยาลัย

เขาอ้างว่าที่นี่มีเมนูหลากหลายกว่า มีที่ให้นั่งคุยกัน ซึ่งแพรวาก็เห็นด้วย

และวันนี้ก็เป็นวันหยุดที่พวกเขาได้นัดกันไว้

ว่าจะไปเดทกัน ณัฐดลเลือกร้านที่อยู่ในซอยลึก เพื่อเลี่ยงการพบเจอกับผู้คน

เลือกร้านที่มีโต๊ะอยู่ในมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว

โดยที่แพรวาไม่รู้เลยว่าเขาเลือกร้านนี้เพราะไม่อยากให้คนเห็น

ณัฐดลจูงมือแพรวาเดินเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ

ที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้ตกแต่งสไตล์โลกแฟนตาซี

ที่นี่มีโต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ชุดหากไม่จองก่อนก็จะไม่ได้มานั่งง่ายๆ

"ถึงแล้วค่ะ"

ณัฐดลพูดพลางพาสาวน้อยเข้าไปนั่งที่โต๊ะ

"ที่นี่น่ารักจังเลยค่ะ

พี่ณัฐหาได้จากไหน" แพรถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและตื่นเต้น เธอมองไปรอบๆ

ด้วยความรู้สึกประทับใจ เธอชอบที่นี่มากๆ

"พี่หาข้อมูลจากในเน็ตน่ะ

ตั้งแต่วันที่ชวนแพรพี่ก็หาทุกวันเลยนะ ดูรูป ดูรีวิวซ้ำๆ จนตัดสินใจเลือกที่นี่

พี่กลัวแพรจะไม่ชอบ" ณัฐตอบพลางยิ้ม

พนักงานของร้านเดินออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น

ทั้งสองเลือกอาหารและสั่งเครื่องดื่มกันพอประมาณ

"ขอบคุณนะคะที่พามาที่นี่

มันเงียบสงบดี บรรยากาศก็ดี" แพรกระซิบบอก

"พี่อยากมีเวลากับแพรตามลำพัง

พี่อยากให้เรารู้จักกันมากกว่านี้" ณัฐตอบพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

เมื่ออาหารมาถึง ทั้งคู่กินอย่างช้าๆ

พลางคุยกันเรื่อยเปื่อยอย่างอบอุ่น บรรยากาศแสนโรแมนติก

ทำให้หัวใจของณัฐดลกับแพรวาต่างก็เต้นรัว

พวกเขาต่างมีความสุขที่ได้มาเดทกันในวันนี้

“ถ้ากินเสร็จแล้ว

พี่ณัฐจะไปไหนอีกหรือเปล่าคะ แพรอยากจะเลี้ยงหนังพี่ณัฐคืนบ้าง” สาวน้อยเอ่ยขึ้น

เธอยังอยากจะอยู่กับเขาต่ออีก

“เรื่องอะไรดีล่ะ”

ถึงในใจจะกังวลเพราะกลัวจะมีคนเจอเข้า แต่ณัฐดลก็ไม่ได้พูดปฏิเสธ

“แพรก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ

ปกติไม่ค่อยได้ดูหนังเลย นานๆ จะมีสักครั้ง”

“ถ้างั้นเดี๋ยวพี่เช็กให้นะ”

“ไปเลือกหน้าโรงก็ได้มั้งคะ”

“พี่เป็นคนติดวางแผน พี่ไม่ค่อยชอบรอ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแบบนั้น หญิงสาวก็ไม่ได้ติดใจอะไร เธอรู้สึกชื่นชมเขาเสียอีก

ที่ดูเป็นคนมีแบบแผน มีความเป็นผู้ใหญ่

"งั้นพี่ขอตรวจสอบรอบฉายก่อนเลยนะครับ

ไม่อยากให้น้องนั่งรอนานๆ"

เขาคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาค้นหาตารางฉายหนังในพื้นที่ใกล้เคียง

ที่จริงแล้วเขาไม่อยากเสี่ยงไปนั่งรอ เพราะกลัวว่าจะมีใครมาเจอเข้าต่างหาก

"มีหนังเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจนะครับ

ฉายอีกสักชั่วโมง ถ้าน้องแพรอยากดู เดี๋ยวเราจองตั๋วไว้แล้วนั่งเล่นที่นี่ไปก่อน

ใกล้ถึงเวลาค่อยไปดีไหม" แพรวาพยักหน้ายิ้มแย้ม

"ดีค่ะ

งั้นเรานั่งเล่นกันอยู่ที่นี่ไปก่อน แพรอยากถ่ายรูปสักหน่อย"

“ได้ครับ เดี๋ยวพี่ถ่ายให้นะ”

“ถ้าถ่ายไม่สวยแพรงอนนะ”

“คนสวยถ่ายยังไงก็สวยอยู่แล้ว”

แพรเขินอายเล็กน้อยกับคำชมของณัฐดล แต่ก็รู้สึกดีใจที่ได้รับคำชมจากเขา

ทั้งที่ตลอดชีวิตก็ถูกคนชื่นชมมาตลอด แต่กลับไม่เคยมีความสุขเท่านี้เลย

"อืม...ถ้างั้นก็ขอถ่ายให้หลายๆ

รูปนะคะ เผื่อเลือกค่ะ"

"ได้เลยครับ พร้อมแล้วนะ"

ณัฐดลยกกล้องขึ้นมา แล้วรัวชัตเตอร์ถ่ายภาพให้กับแพรวาอย่างมีความสุข

ทั้งที่ปกติแล้วเวลามินตราขอให้เขาถ่ายรูปให้ เขาจะไม่ชอบและหงุดหงิดมากๆ

แพรวายืนตรง กอดอกเอียงคอเล็กน้อย

ยิ้มอ่อนโยนให้กล้อง และเปลี่ยนท่าทางไปเรื่อยเมื่อได้ยินเสียงชัตเตอร์

ณัฐดลก็กดชัตเตอร์ถ่ายภาพแพรวาพร้อมกับชมอย่างไม่ขาดปาก

"สวยมากเลยน้องแพร"

แพรวายิ้มด้วยความรู้สึกเขิน แต่ก็เปลี่ยนท่าทางถ่ายต่อ ทั้งยืน เอามือโบก เอียงคอ

นั่งบ้าง หมุนตัวบ้างตามประสา ตากล้องก็ถ่ายไปเรื่อยๆ ด้วยรอยยิ้ม

เพลิดเพลินกับภาพสวยๆ ของหญิงสาว

"พี่ณัฐนี่ก็ถ่ายรูปเก่งนะคะเนี่ย

มีแต่รูปสวยๆ แพรเลือกไม่ถูกเลย" เมื่อถึงเวลาเช็กรูป แพรวาก็พอใจมากๆ

เธอชอบรูปทั้งหมดที่เขาถ่ายให้ จนเลือกไม่ได้เลยว่าจะอัพรูปไหนลงโซเชียล

"พี่บอกแล้วว่านางแบบสวย

ถ่ายยังไงก็สวย" ณัฐดลกล่าวชม ทั้งคู่มองรูปถ่ายด้วยกันอย่างรู้สึกพอใจ

ก่อนจะเดินทางต่อไปยังโรงหนัง เพราะถึงเวลาที่ต้องเข้าชมแล้ว

เมื่อเดินถึงโรงหนัง

ณัฐดลก็พาแพรเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่เขาจองไว้ โซนนี้ไม่ค่อยมีคน ถึงจะมีบ้างแต่ในโรงหนังก็มืดจนดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร

"น้องแพรอยากกินอะไรไหมก่อนหนังจะเริ่มเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้"

ณัฐดลเอ่ยถาม

"อืม...เอาป๊อปคอร์นกับโค้กน่าจะอร่อยนะคะ

แต่ว่าแพรไปซื้อเองดีกว่าค่ะ แพรตั้งใจจะเลี้ยงพี่นี่นา" แพรวาตอบ

"ไม่เป็นไรหรอกครับ

ครั้งนี้พี่เลี้ยง ครั้งหน้าน้องแพรค่อยเลี้ยงพี่ก็แล้วกัน"

ณัฐดลเดินไปหาแถวซื้อขนม ส่วนแพรวาก็ยังนั่งรออยู่บนเก้าอี้

ไม่นานณัฐดลก็กลับมาพร้อมป๊อปคอร์นและโค้กตามที่แพรวาสั่ง

"ขอบคุณมากค่ะ

พี่ณัฐใจดีจัง" แพรวารับมาด้วยรอยยิ้ม

"ยินดีครับ

กินให้อร่อยนะครับ" ทั้งคู่กินขนมอย่างเอร็ดอร่อย รอจนถึงเวลาหนังเริ่ม

นานมากแล้วที่ณัฐดลไม่ได้มีโอกาสมาดูหนังที่โรงแบบนี้ จริงๆ

มินตราก็ชวนเขาหลายครั้งแล้ว แต่ณัฐดลปฏิเสธบอกว่ารอดูในแอพที่บ้านสะดวกกว่า

หลังจากดูหนังจบณัฐดลก็ขับรถไปส่งแพรวาที่บ้าน

เขามีเวลาค่อนข้างจำกัด แม้จะยังอยากอยู่กับแพรวาต่ออีก

แต่หากช้าจะกลับไปไม่ทันเวลาที่มินตรากลับห้อง แล้วเธอจะสงสัยเอาได้

“เหมือนฝนจะตกนะคะ

พี่ณัฐเข้ามาหลบฝนในบ้านแพรก่อนไหม วันนี้พ่อกับแม่แพรไม่อยู่” แม้จะร่ำลากันแล้ว

แต่เหมือนฝนฟ้าจะยังอยากให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันต่ออีก

ฟ้าฝนมืดครึ้มจนดูเหมือนว่าณัฐดล

จะขับมอเตอร์ไซค์กลับได้ลำบาก และคำเชิญชวนของแพรวา

ก็ยั่วยวนเขาอย่างตั้งใจจนทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ

แม้จะกลัวว่ามินตราจะกลับมาถึงห้องก่อน ถึงตอนนั้นเขาคิดว่าค่อยหาคำแก้ตัวเอาก็ได้

แพรวาพาณัฐดลเข้าไปในบ้านของเธอ

ภายในบ้านเงียบสนิทตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าไม่มีคนอยู่จริงๆ

ปกติแล้วเธออาศัยอยู่กับพ่อและแม่

ซึ่งทั้งสองคนก็มีเรื่องให้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดอยู่เป็นประจำ

ด้วยอาชีพที่ทำอยู่ และพวกเขาก็เห็นว่าตอนนี้แพรวาก็โตแล้ว เธอสามารถอาศัยอยู่คนเดียวภายในบ้านได้ชั่วคราว

ระหว่างที่พวกเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัด

จึงไม่ได้จ้างพี่เลี้ยงมาอยู่กับเธอเหมือนแต่ก่อนแล้ว

และก็คงไม่คิดว่าวันหนึ่งลูกสาวจะพาผู้ชายเข้าบ้านแบบนี้

ชายหญิงที่มีใจให้กันอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

ท่ามกลางบรรยากาศฝนตก แน่นอนว่าเรื่องแบบนั้นย่อมเกิดขึ้น ณัฐดลแม้จะมีแฟนอยู่แล้ว

แต่ในเวลานี้เขามองไม่เห็นหน้าของมินตราแฟนเขาเลย

ในใจคิดเพียงแต่ว่าต้องการแพรวาเท่านั้น

ช่วงเวลาร้อนรักผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าอย่าไม่รู้จักเบื่อหน่าย

กระทั่งมีสายโทรเข้ามาหาณัฐดลตอนนั้นเองที่ทำให้เขาได้สติและเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้มันเลยเวลากลับบ้านมามากแล้ว

คนหนึ่งรักน้อยหลง อีกคนก็หลงมากขึ้นทุกที

"ไปไหนมาเหรอ"

ทันทีที่ณัฐดลเปิดประตูเข้าไปในห้อง

เขาก็ได้ยินเสียงของมินตราแฟนสาวของเขาเอ่ยถามขึ้น น้ำเสียงของเธอนั้นเข้มกว่าปกติ

มันยิ่งทำให้คนที่มีความผิดคิดระแวง

"ไปข้างนอก"

เขาตอบเสียงเรียบและไม่กล้าหันไปสบตากับเธอ

"ทำไมโทรหาไม่ติดเลย"

"แบตหมด"

"แล้วไปตั้งแต่เมื่อไหร่

ทำไมปล่อยแบตหมด"

"นี่มันวันหยุดเรานะมิน

เราไม่มีสิทธิ์ออกไปไหนบ้างเลยเหรอ" เมื่อถูกกลัวคำถามใส่

คนมีความผิดก็ตะคอกดึงความโมโหเข้ามากลบเกลื่อน ทั้งที่จริงๆ

แล้วมินตราก็เพียงถามดีๆ เท่านั้น

"เราก็ไม่ได้ว่าอะไร

เราแค่จะโทรถามว่าเอาอะไรไหม แล้วมันโทรไม่ติดเลย กลับมาก็ไม่เจอณัฐอีก

เราแค่เป็นห่วง"

"เราไม่ใช่เด็กแล้วนะมิน"

"ณัฐไม่ใช่เด็ก แต่ณัฐเป็นแฟนเรา

โอเคปะ จะไปไหนเราไม่ได้ว่าเลย แต่ทำไมถึงติดต่อไม่ได้"

เพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ณัฐดลไม่ใช่คนที่ชอบอยู่ในที่คนพลุกพล่าน

วันหยุดปกติเขาก็จะอยู่แต่ที่ห้อง

หรือหากจะออกไปไหนก็จะส่งข้อความบอกกับมินตราก่อนเสมอ

แต่เพราะวันนี้เขาตั้งใจจะออกไปโดยไม่ให้เธอรู้

แต่ดันมีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เขากลับมาไม่ตรงตามที่วางแผนเอาไว้

จึงได้พลาดกลับมาเจอมินตราอยู่ที่ห้องแบบนี้

"เราก็บอกอยู่ว่าแบตมันหมด

มินจะให้เราทำไง" เขายังคงแสดงท่าทีฮึดฮัดโมโห

เพราะอยากให้มินตราเลิกพูดเรื่องนี้เสียที

"โอเค เราจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว แต่เราขอถามหน่อยเถอะว่าณัฐรู้ตัวหรือเปล่า

ว่าพักนี้ตัวเองดูแปลกๆ"

"แปลกยังไง

แค่เราออกไปข้างนอกวันหยุด มันก็แปลกเลยเหรอ"

"ปกติเราชวนณัฐไปข้างนอก

ณัฐเคยอยากไปที่ไหน วันหยุดแต่นอนดูการ์ตูนอยู่ห้องทุกอาทิตย์ เราเบื่อ

เราอยากออกไปข้างนอกก็ไม่ได้ไป" หญิงสาวพูดความอัดอั้นตันใจของเธอออกมาบ้าง

มันก็น่าน้อยใจไม่ใช่หรือ ที่ก่อนหน้านี้เธออยากจะชวนเขาไปข้างนอก

แต่เขาก็ไม่เคยคิดอยากจะไปไหนเลย

แต่พอสัปดาห์ที่เธอติดงาน เขากลับออกไปข้างนอกคนเดียว โดยที่ไม่บอกเธอด้วยซ้ำ

"ก็แล้วทำไมมินไม่ไปล่ะ"

"ก็เพราะเราอยากไปกับณัฐไง

แล้วพอวันนี้เราไม่อยู่ ณัฐก็ไปคนเดียว มันไม่แปลกเหรอ"

"ก็ตอนที่มินอยู่ห้อง

เราอยากอยู่กับมินไง ไม่อยากออกไปไหน แต่วันนี้มินไม่อยู่ เราเบื่อ

ก็เลยออกไปเดินเล่น"

"เดินเล่นจนแบตหมดเนี่ยนะ"

"ก็ฝนมันตกเรากลับไม่ได้

ติดฝนอยู่ห้างพอฝนหยุดเราก็รีบกลับมาเลย เพราะกลัวมินจะรอ"

ภายในห้องเต็มไปได้ความเงียบ คนทั้งสองต่างยืนจ้องหน้ากันโดยไม่ได้พูดอะไร

และถึงไม่พูดต่างฝ่ายก็ต่างรู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อกันได้เปลี่ยนไปแล้ว

"เพราะวันหยุดที่มีมิน

เราก็แค่อยากนอนอยู่กับมินที่ห้อง เราทำงานเหนื่อยมาทั้งอาทิตย์แล้ว

เราอยากพักผ่อน วันนี้ก็เหมือนกัน แต่พอห้องมันไม่มีมิน ก็อยู่คนเดียวไม่ได้

ก็เลยออกไปข้างนอก" เมื่อเห็นแล้วว่าการแสดงท่าทางโมโหใช้ไม่ได้ผล

ณัฐดลจึงเปลี่ยนวิธี

เขาขยับเข้าไปโอบกอดแฟนสาวแล้วพูดดีดีกับเธอ

โดยใช้คำหวานหว่านล้อม

"เราสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

โอเคไหม"

"อืม"

ผู้หญิงย่อมแพ้ให้กับคำพูดแบบนี้เป็นธรรมดา พอณัฐดลแสดงท่าทีอ่อนลง

มินตราก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกรธเคืองเขาอีก

"แล้วกินอะไรมาหรือยัง"

สุดท้ายเธอก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี

"ยังเลย

ตอนแรกว่าจะหาอะไรกินตอนติดฝน แต่เรากลัวว่าถ้าในมันหยุดแล้วยังกินไม่หมด

จะไม่ได้ออกมา แล้วฝนมันจะตกอีก"

"แล้วหิวหรือเปล่า"

"หิวมากเลย"

ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

"งั้นเดี๋ยวเราหุงข้าวให้

เราซื้อกับข้าวมาแล้ว" มินตราพูดก่อนจะเดินเข้าไปในครัว

เธอเองก็เพิ่งกลับมาถึงห้อง ก่อนหน้าณัฐดลไม่นาน

แต่เพราะมัวเป็นห่วงเรื่องที่เขาหายไป ก็เลยยังไม่ได้หุงข้าวเหมือนกับทุกวัน

ปกติแล้วถ้าเธอกลับมาถึงห้อง

ก็จะหุงข้าวเตรียมกับข้าวรอณัฐดลทุกวัน เว้นแค่วันไหนที่อยากไปกินข้าวนอกบ้าน

ก็จะไม่ได้ทำ

หลังจากที่หุงข้าวเสร็จแล้ว

มินตราก็เดินเข้าห้องน้ำไป เพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย

ณัฐดลอาศัยจังหวะนี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เพื่อดูข้อความจากแพรวา เขารู้สึกว่าโทรศัพท์สั่นตั้งแต่ตอนจอดรถแล้ว

แต่เพราะรีบจึงไม่ได้หยิบเอามาดู ข้อความจำนวนมากส่งเข้ามาจนเขาเลื่อนอ่านไม่ไหว

ข้อความส่วนใหญ่พูดถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปแล้วของนักศึกษาสาวกับณัฐดล

"ทำไมพี่เงียบไปเลย

ไม่ใช่ว่าได้แพรแล้วจะทิ้งหรอกนะ"

ณัฐดลไล่อ่านจนมาถึงข้อความล่าสุด

เขารีบตอบกลับข้อความทันที ก่อนจะตัดสินใจปิดเครื่องโทรศัพท์

"พี่ไม่ทิ้งแพรหรอก แต่งานพี่ยุ่ง

ตอนนี้พี่อยู่ออฟฟิศ ว่างแล้วจะตอบนะ" เมื่อกดส่งข้อความแล้ว

เขาก็กดปิดเครื่องทันที ตอนนี้ต้องดึงความไว้ใจจากมินตรากลับมาให้ได้ก่อน

เขารู้สึกว่าเธอกำลังระแวง และสงสัยอยู่

ทางด้านของแพรวานั้น

เธอกำลังรู้สึกกังวลใจมาก เพราะตอนนี้เธอได้เป็นของเขาไปแล้ว

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายเปิดทางให้เขาก่อน แต่ระยะเวลาการตอบแชตของณัฐดล

รู้สึกว่าจะช้าลงจากก่อนหน้านี้ประมาณหนึ่ง

ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ

แต่ก็เป็นชนวนเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เพราะหากพูดกันตามตรง

ระยะเวลาที่เธอคุยกับเขานั้นมันสั้นมาก

หญิงสาวไม่แน่ใจว่าเธอตัดสินใจเร็วไปหรือไม่ ที่ยอมให้เขาง่ายๆ แบบนี้

ถึงจะไม่ค่อยได้แชตคุยกันในช่วงเวลากลางคืน

เพราะณัฐดลต้องสร้างความไว้ใจจากมินตรา แต่ในตอนเช้าเขาก็รีบไปเจอแพรวาตามปกติ

เพราะไม่อยากให้แพรวารู้สึกว่าเขาได้เธอแล้ว

แล้วจะทิ้งเธอไปอย่างที่แม่สาวน้อยพร่ำพูด

"เย็นนี้เราไปกินข้าวด้วยกันได้ไหมคะ

แพรอยากกินข้าวกับพี่ณัฐตอนเย็นบ้าง" ความหนักใจเกิดขึ้นอีกครั้ง

เพราะแพรวานั้นเมื่อตกเป็นของเขาแล้ว เธอก็มีความต้องการที่จะอยู่ใกล้ๆ

กับเขาเป็นธรรมดา ณัฐดลเองก็ไม่ต่างกัน

นับวันก็ยิ่งรู้สึกรักสาวนักศึกษาคนนี้เขาไปทุกที

“ได้สิ” ณัฐ ไม่กล้าขัดใจแพรวา

เพราะแค่เขาลดระยะเวลาคุยกับเธอ ในช่วงที่อยู่กับมินตราลง

ก็เป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายจะแย่ ถึงเขาจะได้เธอแล้ว

แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อย

กลับกันเขากลับรู้สึกยิ่งรักยิ่งหลงเธอมากกว่าเดิม แต่อยากจะได้เธอซ้ำๆ ทั้งที่กับมินตราไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กันนานแล้ว

อาจจะเพราะแพรวายังใหม่

และเธอก็เด็กกว่ามินตราหลายปี จึงพอจะยับทำให้เขาตื่นเต้นและใจเต้นแรงได้พอสมควร

“ถ้างั้น เลิกเรียนแล้ว

แพรจะรอพี่ณัฐนะคะ” สาวน้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดี และยิ้มกว้างให้กับคนตรงหน้า

เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าในตอนนี้ ณัฐดลกำลังเครียดแค่ไหน

เมื่อวานเขาก็ทำผิดแผนไปแล้วรอบหนึ่ง

พลาดท่าจนทำให้มินตรารู้เข้า ว่าเขาออกไปข้างนอก แม้จะไม่ได้ถูกจับได้

แต่ก็เชื่อว่ามินตราคงกำลังระแคะระคายอยู่ไม่น้อย

ณัฐยิ้มอ่อนโยนให้แพร

แม้ในใจจะรู้สึกกังวลเล็กน้อย

"ดีมากครับ

ไว้พี่จะโทรหาน้องแพรอีกทีตอนเลิกงานนะคะ" แม้จะมีเรื่องยุ่งยากรออยู่

แต่เขาก็อยากจะทำให้แพรวามีความสุขให้ได้

'วันนี้เลิกงานช้านะ เราทำโอที' ณัฐดลส่งข้อความหามินตรา

เมื่อรับปากกับแพรวาไปแล้วว่าจะไปกินข้าวมื้อเย็นกับเธอ

หญิงสาวมองข้อความของแฟนหนุ่ม

และรู้สึกว่ามันแปลก เพราะเธอเคยเกลี้ยกล่อมให้ณัฐดลทำโอทีมาก่อน

แต่เขายืนยันว่าจะไม่ทำมาโดยตลอด

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะมิน”

เพื่อนของมินตราซึ่งกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่ด้วยกันเอ่ยถาม

คนถูกถามพยายามสลัดความสงสัยออกจากหัว

และมองว่าการที่ณัฐดลคิดอยากทำงานมันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว

“เปล่าไม่มีอะไร

ตอนแรกคิดว่าสั่งข้าวผิด” เธอพูดแก้ตัวก่อนจะตอบกลับข้อความของแฟนหนุ่ม

‘โอเค’

ตอนเย็นมาถึง

ณัฐดลขับรถไปรอรับแพรวาตามที่ได้ส่งข้อความไปนัดหมายเอาไว้

เขาเฝ้ามองหาหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ ในเวลาแบบนี้

เพราะกลัวคนรู้จักจะมาเจอเข้า จนกระทั่งเห็นแพรวาเดินออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง

ณัฐดลลุกยืนขึ้นพลางโบกมือส่งสัญญาณให้กับเธอ

"ขอโทษนะคะ ที่ทำให้รอนาน"

แพรวาพูดขณะขึ้นมานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของชายหนุ่ม

"ไม่เป็นไรหรอกครับ

พี่ยินดีรอ" ณัฐดลตอบด้วยรอยยิ้ม เขาขับรถไปยังร้านอาหารที่เคยไปด้วยกัน

เพื่อจะได้มีเวลาพูดคุยกับแพรวาอย่างเป็นส่วนตัว และไม่เป็นเป้าสายตาของใคร

ชายหนุ่มขับรถไปจอดให้เรียบร้อย

แล้วพาแพรวาเดินเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ ที่เคยมากันก่อนแล้วหนหนึ่ง

พักงานในร้านต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น

ทั้งคู่เลือกอาหารและสั่งเครื่องดื่มเหมือนเคย

"วันนี้เหนื่อยจากเรียนมากไหมคะ"

ณัฐดลเอ่ยถามขณะรออาหาร

"ก็ปกตินะคะ

อาจจะเรียนยากขึ้นนิดหน่อย ถ้าเหนื่อยคงจะเหนื่อยกิจกรรมมากกว่า

แล้วพี่ณัฐละคะ" แพรตอบพลางยิ้ม ก่อนจะถามเขากลับบ้าง

"พี่ก็เหมือนกันครับงานก็ยุ่งๆ

นี่ก็ต้องกลับไปทำโอทีต่อ

ทุกวันนี้หายเหนื่อยได้บ้างก็เพราะได้มาเจอกับน้องแพรนี่แหละ"

เขารีบออกตัวก่อนจะต้องแยกย้าย แพรวาดูสีหน้าไม่ดีนักเมื่อได้ยินแบบนั้น

เธอเริ่มรู้สึกตงิดใจที่ณัฐดลมักจะไม่ว่าง และอ้างว่าติดงานช่วงกลางคืนทุกที

อาหารมาถึง ทั้งคู่กินอย่างช้าๆ

พลางพูดคุยเรื่อยเปื่อย บรรยากาศอบอุ่นเหมือนเคย

ทำให้ณัฐดลลืมความกังวลใจไปชั่วขณะ เขามองสาวน้อยนักศึกษาอย่างเอ็นดู ลึกๆ

ก็รู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เขาได้พบกับเธอ

แพรวาเองก็รู้สึกดีใจที่ได้มาใช้เวลากับณัฐดล เธอรู้สึกอยากจะมีช่วงเวลาแบบนี้ต่อไปนานๆ

แต่ก็ต้องยอมเข้าใจเมื่อเขายกเอาเรื่องงานมาอ้าง

“พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมนะคะ”

เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกับแพรวาที่บ้านของเธอ

ณัฐดลเพิ่งจะนึกได้ว่าเขาต้องรีบกลับห้อง เพราะตอนนี้ดูจะดึกแล้ว

หลังจากกินข้าวอิ่มแพรวาก็ชวนเขาไปนั่งเล่นที่บ้านต่อ

เพราะวันนี้พ่อแม่ของเธอยังไม่กลับมาบ้าน และแน่นอนว่าพวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันอีกครั้ง

จนณัฐดลลืมเวลากลับอีกตามเคย

“ได้ค่ะ

เดี๋ยวพี่ต้องรีบเข้าออฟฟิศแล้วนะ จะไม่ทันแล้ว” ณัฐดลรีบออกตัว

“ค่ะ”

แม่สาวนักศึกษาเดินเข้ามาหาชายคนรัก

ก่อนจะเขย่งตัวเข้าไปหอมแก้มเขาอย่างไม่อายฟ้าดิน

“แพรรักพี่ณัฐนะคะ” เธอบอกกับเขา

“พี่ก็รักแพรค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”

ถึงจะอยากอยู่ต่ออย่างไร ณัฐดลก็ต้องรีบกลับแล้ว เขาขับรถจากบ้านของแพรวา

ผ่านการจราจรที่ติดขัด แม้จะเร่งอย่างไรก็เร็วได้เท่านั้น

ช่วงเวลากลับบ้านเป็นช่วงเวลาที่รถบนถนนเส้นที่ต้องขับผ่าน ค่อนข้างจะติด

แต่นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

เพราะเขาจะได้เอามาใช้เป็นข้ออ้างกับมินตราแฟนสาวของเขาได้

ณัฐดลแวะซื้อของกินติดมือไปด้วย

เผื่อเอาไว้กันท่าหากแฟนของเขาบ่นใส่

แล้วก็จะได้อ้างได้ด้วยว่าแวะซื้ออะไรกินระหว่างทางแล้ว

เพราะข้าวที่กินไปกับแพรวายังอิ่มอยู่

เมื่อกลับมาถึงห้องชายหนุ่มกลับพบว่าไฟยังไม่ได้เปิด

ข้าวยังไม่ได้หุง และสภาพห้องก็ดูเหมือนว่ามินตราจะยังไม่กลับมา

เขาดูเวลาที่นาฬิกาบนผนังห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“นี่มันก็ดึกแล้วนี่หว่า

ทำไมมินยังไม่กลับอีกวะ” พอคิดแล้วก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา ไม่ใช่ว่ามินตราแอบไปหาเข้าที่บริษัทหรอกนะ

ในหัวของคนทำผิดก็คิดได้แต่หวาดระแวงเท่านั้น

เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองปิดเครื่องเอาไว้

และเมื่อกดเปิดเครื่องก็พบว่าข้อความมากมายถูกส่งมาจากทั้งมินตราและเพื่อนของเธอ

ทั้งยังมีข้อความการติดต่อที่ไม่สำเร็จจากเบอร์โทรของมินตราอีกจำนวนไม่น้อย

ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกไม่ปกติ

เขารีบโทรกลับไปหามินตราทางไลน์ของเธอ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

จนต้องเปลี่ยนไปโทรตรงทางเบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ติดอีกเช่นกัน

ชายหนุ่มพยายามตั้งสติก่อนจะเลือกโทรกลับไปหาเบอร์ของเพื่อนมินตราที่โทรเข้ามาหาเขา

“ฮัลโหลเมย์ พี่โทรหามินไม่ติดเลย

มินเป็นอะไรหรือเปล่า”

“มินอยู่โรงพยาบาลน่ะพี่

มันโดนรถชนตรงหน้าบริษัทตั้งแต่เลิกงานแล้ว แต่ติดต่อพี่ไม่ได้เลย

โทรไปหาคนที่ออฟฟิศพี่เขาก็บอกว่าเลิกงานตั้งนานแล้ว แยกกันกลับหมดแล้ว”

เสียงจากปลายสายทำณัฐดลชาวาบไปทั้งตัว เขาไม่ได้ตกใจที่มินตราประสบอุบัติเหตุ

แต่ตกใจเรื่องที่มีคนโทรไปหาคนที่ทำงานต่างหาก

“เออ...เรื่องมันยาว

ยังไงพี่ขอที่ที่พี่จะไปหามินหน่อยได้ไหม”

“อ๋อได้ๆ เดี๋ยวเมย์ส่งให้ในแชตนะ”

พูดจบก็วางสายจากกันไป ณัฐดลยังคงพยายามคิดหาคำแก้ตัว โดยไม่ได้สนใจเลยสักนิด

ว่ามินตราจะเจ็บมากน้อยแค่ไหน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!