สวัสดีค่ะ ฉันชื่ออายูมิ คุณชื่ออะไรหรอคะ
บอกชื่อให้ฉันทราบหน่อยในที่กรอกข้อมูลหน่อยสิ
ที่กรอกข้อมูล:____________ เพื่อฟังเรื่องเล่า
เอาล่ะ ถ้าคุณพิมพ์ชื่อเรียบร้อยแล้ว ฉันจะเริ่มเล่าให้ฟังแล้วกันนะ
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนที่ฉันอายุ 12 ปี
ตอนนั้นฉันมักฝันร้ายบ่อยๆฝันว่าโดนใครบางคนร่วมทำร้ายหรือไม่ก็พาฉันไปตายในที่ที่มันเป็นที่บนดาดฟ้าบ้างริมขอบสะพานหรือไม่ก็ตึกชั้น 4 บ้างเรื่องมันเกิดขึ้นอยู่หลายครั้งจนทำให้ฉันจิตตกมากๆ
จนวันหนึ่งฉันไม่อยากจะพูดอะไรเลยเกี่ยวกับความฝันของฉันให้กับครอบครัวฟังเพราะกลัวว่าพวกท่านจะไม่สบายใจแม้แต่พี่ชายของฉันฉันก็ยังไม่เคยบอกเขาเลยจนตอนนี้เขาแต่งงานแล้วแล้วก็ไม่ได้อยู่กับฉันตอนนี้ก็เหลือแค่ชั้นกับพ่อและแม่แล้ว
บางเรื่องฉันไม่อยากจะพูดออกมาหรือแม้แค่อยากจะพูดออกไปฉันรู้สึกแย่มากๆถ้าฉันต้องทำแบบนั้นจริงๆ
เรื่องของฉันมันซับซ้อนมากแต่ฉันก็อยากเล่าให้คุณฟังถึงแม้เนื้อเรื่องของฉันมันทำให้ปะติดปะต่อกันก็ตามแต่ฉันอยากจะให้คุณไปคิดเองว่าเนื้อเรื่องแบบนี้มันจะเป็นเรื่องจริงถ้าคุณเป็นแบบนั้นเหมือนกับฉันล่ะ
หลายวันหลังจากนั้นฉันก็ไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ไปถ้าตัวฉันเองตายไปมันเป็นยังไงกันนะ
วันหนึ่งฉันก็กำลังกินข้าวกับใครบางคนดึงอยู่แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใครเพราะว่าฉันเองก็ไม่ได้เห็นหน้าตาของเขาเลย เขามีรูปร่างเหมือนกับฉันต่างกันก็แค่เพศเท่านั้น หรือว่าฉันคิดไปเองนะว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในตอนที่ฉันกำลังหลับกันนะ
" ไดอารี่ที่รัก ทำไมวันนี้พ่อกับแม่ของฉันถึงได้ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะครับ"
" พี่คะทำอะไรอยู่หรอ ทำไมเขียนไดอารี่อยู่คนเดียวหรอพี่ "
ฉันบอกกับเขาไปแต่ว่าเขาก็เงียบไปทันทีสายตาของเขาดูเหมือนว่าเป็นสายตาที่ดูเย็นชาหรือเกินฉันมองเห็นสายตาของเขาแล้วก็ทันทีเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
1 อาทิตย์ต่อมาฉันก็เลิกเขียนไดอารี่แล้วเพราะได้ล่วงรู้ความลับของพี่ชายแล้ว แล้วฉันจะมีพี่ชายคนเดียวแต่อีกคนนึงก็เป็นพี่ชายของฉันเหมือนกันถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนไม่ใช่พี่ชายของฉันก็ตาม
สวัสดีครับผมชื่ออายูกิ ผมมีน้องชายอยู่คนนึงที่ผมได้ไปล้วงรู้ความลับของน้องของผมและทำให้ผมเห็นในสิ่งที่เขาทำและไม่สามารถให้อภัยน้องชายของผมได้เลย
แต่ก่อนที่คุณจะได้ไปรับฟังเรื่องราวของผม ต้องกรอกชื่อในกรอกข้อมูลนี้เพื่อผมจะได้เรียกชื่อของคุณถูกยังไงล่ะครับ
กรอกข้อมูล:________ เพื่อฟังเรื่องเล่า
เอาล่ะ มาฟังกันเลย
วันนั้นเป็นวันที่ผมต้องย้ายเข้าใหม่ เพราะว่าพ่อของผมได้งานใหม่ที่ดีกว่า เลยต้องย้ายมา เขาเลยต้องมาทำงานที่ที่มีคนพลุกพล่านแบบนี้ น้องชายของผม มีชื่อว่าซากิ ที่แปลว่าดอกไม้แห่งความหวัง ส่วนผมมีชื่อว่าไทเลอร์ ผมกับน้องชายเพิ่งย้ายเข้ามา
ซากิกับผมได้ไปเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง โรงเรียนใหม่เพื่อนใหม่ผมไม่ค่อยคุ้นชินน้องชายผมก็ด้วย แต่อย่างน้อยพวกผมก็ปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ไว้ได้ดีจึงทำให้มีเพื่อนเยอะแต่ก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หรอกนะ
โดยเฉพาะน้องชายของผมเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดกับใครเลยมีแต่ผมเท่านั้นแหละที่เป็นเพื่อนของเขาและพี่ของเขาด้วย
ฤกษ์ลาวของผมและน้องชายก็สงบสุขกันมาดีจนกระทั่งวันหนึ่งผมกับน้องชายได้ไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อนั่งรอรถเมล์มาแล้วเรื่องทุกอย่างก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นนั่นแหละ
ตรงบริเวณป้ายรถเมล์
มีเด็กชายคนนึงขี่ดสเก็ตบอร์ดตัดหน้าพวกผมตอนที่พวกผมนั่งอยู่และเมื่อผมกับน้องชายพูดขึ้นมาว่า ทำไมถึงตัดหน้าพวกเราด้วยการขี่สเก็ตบอร์ดตัดหน้าเด็กชายคนนั้นหันมาและดูเหมือนว่าเขาจะไม่สำนึกผิดเลยแล้วก็หันมาตอบกับผมว่า
" ดูท่าแล้วนายคงจะไม่เข้าใจสินะ "
เขาพูดแบบนั้นขึ้นมาในตอนที่น้องชายของผมนั้นแทบเลือดขึ้นหน้าทันทีผมรีบห้ามซากิเอาไว้แต่ว่าเขานั้นโกรธจนเลือดขึ้นหน้าจริงๆเลยผมไม่เคยเห็นเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าขนาดนี้มาก่อนเลย
ซากิ: นี่แกกล้าจะมาต่อว่าพี่ชายฉันขนาดนั้นเลยหรอ!!// โกรธทาจิมะที่มาขี่สกู๊ตเตอร์ตัดหน้าพี่ชายและเขา
ทาจิมะ: แล้วมันจะยังไงกันล่ะ ก็ในเมื่อมานั่งอยู่ในถิ่นของฉันแล้วก็ต้องทำตามกฎของฉันสิ// บอกในสิ่งที่เขาต้องการ
ฮาจิมะพูดกับซากิว่าคนที่มานั่งบนป้ายรถเมล์นั้นต้องมาจ่ายเงินกับเขาด้วยหรือจริงๆก็คือต้องมาจ่ายค่าโดยสารกับเขาด้วยอีกคนนึงแล้วหลังจากนั้นทาจิก็เรียกเพื่อนของเขาอีก 2 คนก็คือเคส เรียกมาอีกคนนึงก็คือแคล
ตอนนั้นพี่ชายของซากิอย่างไทเลอร์ก็จะมาซัดกับนักเลงพวกนั้นแต่ว่าแคลและเคสก็ชักมีดขึ้นมาขู่ว่าจะจัดการพวกเขาถ้าไม่ยอมส่งกระเป๋าตังค์มาทำให้ไทเลอร์จึงต้องยอมยกมือขึ้นและให้ทาจิมะเอากระเป๋าตังค์ของเขาไปยังไม่เต็มใจตอนนั้นซากิรู้สึกถึงอารมณ์แปลกๆที่ก่อตัวขึ้นในตัวเขาเขารู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างนึงแต่มันอาจจะรุนแรงจนเกินความคาดหมายของพี่ชายและตัวเขาเองก็ด้วย
ซากิ: พวกแกอย่ามายุ่งกับพี่ชายกับฉันนะ!!// ลุกขึ้นมาต่อยกับ 3 คนนั้น
โดยไม่ทันตั้งตัวไทยเด้อก็ดันไปเห็น ซากิน้องชายของเขา ต่อยกับพวกนักเลงหัวไม้ทั้ง 3 คนอย่างแคล เคส ทาจิมะอย่างดุเดือด ทั้ง 3 คนนั้นแทบจะสู้ไม่ได้เลยเพราะว่าศักยภาพของซากินั้นเกินเหนือมนุษย์มานานมากเลยทั้งร่างกายและก็การวิ่งเร็วเกินคาดหรือการทนทานบาดเจ็บได้เพราะว่าความรู้สึกที่เขามีความรู้สึกแปลกๆที่เขามีตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 12 ปีแล้ว เพราะว่า แม้แต่พี่ชายของเขาอย่าง ไทเลอร์ ก็ยังมีแต่แค่เขายังไม่รู้ตัวเลยเท่านั้นเองยกเว้นเสียจากหลังจากนี้ก็ตาม
ทาจิมะและแคลและเคส: ฝากไว้ก่อนเถอะ ถ้าครั้งหน้ามีอีกฉันจะมาล้างแค้นแกแน่// วิ่งออกไปอย่างความเจ็บปวด
ไทเลอร์: ซากิไม่เป็นไรนะ// อึ้งๆกับความสามารถของน้องชายตัวเอง
ซากิ: พี่ครับ ไม่เป็นไรนะครับพี่// คุยกับไทเลอร์
ตอนนั้นรถบัสก็มาพอดีทำให้พวกเขาต้องเข้ารถบัสแต่ไปโรงเรียนกันใครเลิกคิดว่าวันนี้ก็แค่น้องชายของเขาฟิวส์ขาดเลยต่อยพวกนั้นไปทีละ 3 คนรวดเลยเขาพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้แต่ว่าซากินั้นรู้ดีว่ามันมีอะไรมากกว่านั้นเพราะว่าตอนที่เขาได้จัดการเอ๊ะ 3 คนนั้นเป็นแล้วเขารู้สึกมีความสุขอยากบอกไม่ถูกราวกับว่านี่ไม่ใช่ตัวเขาเลย
1 วันหลังจากนั้น
แม่: สวัสดีค่ะคุณบาบาร่า คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ
บาบาร่า: คือว่าฉันอยากให้พวกคุณไปงานวันเกิดของลูกชายของฉันที่ชื่อบิลลี่ค่ะ
ตอนนั้นแม่ของผมและซากิคุยเรื่องนั้นกันอยู่และจาเกะก็มาได้กินข้าวเขาบอกกับแม่ว่าเขาไม่อยากจะไปที่นั่นเลยแต่ว่าคุณแม่ก็เถียงกลับมาว่าเราต้องไปเข้าสังคมมาบ้านนะเพราะว่าจะได้เพื่อนใหม่ๆกลับมาด้วย
ซากิจึงไม่ได้พูดอะไรแต่ก็เถียงแม่ไม่ได้เพราะยังไงก็ต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของบิลลี่สินะ
แล้วอีก 2 วันต่อมาก็มีตำรวจมาที่บ้านของพวกผม
พวกเขาบอกว่าผมและพี่ชายไปก่ออะไรมาบ้างนั่นก็คือการที่ซากินั้นได้ไปอัดกับพวก 3 นักเลงนั้นจนมีบาดแผลที่บอบช้ำมากมายเวลาผมพยายามที่จะบอกกับคุณตำรวจว่าพวกนั้นมาหาเรื่องผมกับพี่ชายก่อนเองแต่แม่ของผมก็แย้งขึ้นมาว่ามีคนเห็นพวกลูกทำแบบนั้นจริงๆนะ ก็เลยไม่มีอะไรที่ต้องทำอะไรได้แล้วแต่ในตอนนั้นพี่ชายของผมอย่างไทเลอร์ก็ปรากฏตัวออกมาจากชั้น 2 แล้วก็เผยให้เห็นบาดแผลฟกช้ำที่มือข้างซ้ายของเขาผมเห็นแล้วก็ยังอึ้งเพราะที่จริงแล้วเป็นฝีมือผมเท่านั้นแต่ไม่ใช่ฝีมือผู้ชายของผมพี่ชายของผมเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเป็นผมต่างหากที่ผิดแต่ทำไมก็ถึงต้องมายอมรับแทนผมกันล่ะผมรู้ดีว่านั่นเป็นแผลฟกช้ำปลอมที่พี่เขาทำขึ้นมาเพื่อจะมารับผิดชอบแทนผมแถมเขายังถือมีดเพื่อเป็นดินแดนหลักฐานว่าเขานั่นแหละเป็นคนทำน้องชายของเขานั้นไม่ได้ผิด
ในเมื่อตอนที่พ่อนั้นขับรถออกมาเขาก็มาถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นและแม่ก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังพ่อและแม่นั้นต่างเสียใจมากที่พี่ชายของผมทำแบบนั้นแต่ว่าที่จริงแล้วเป็นฝีมือผมต่างหากทำไมผมต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ล่ะ รู้สึกผิดหวังในตัวพี่ชายของผมส่วนแม่ก็ดูผิดหวังเช่นกันที่ทำให้ความรู้สึกผิดที่ผมทำแบบนั้นลงไป
ซากิ: ทำไมกันล่ะพี่ ทำไมต้องมารับโทษแทนผม// น้ำตาคลอ
หลายวันผ่านไปด้วยความโศกเศร้าจนมันถึงวันเสาร์
แม่: ตื่นได้แล้วลูก วันนี้จะไปงานวันเกิดของบิลลี่นะ
ผมตื่นขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตอบแม่ไปว่าพี่เพิ่งจะถูกไปถูกสอบสวน ที่สถานที่กำกับบำบัดเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วแม่ยังจะมีหน้าพูดเรื่องนี้อีกหรอแล้วแม่ก็เถียงตอบกลับมาว่าเราต้องไปเพื่อที่จะให้ครอบครัวของเราสดใสมากขึ้นหลังจากที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมาและผมเองก็ต้องไปจริงๆเพราะว่าเถียงแม่กลับไม่ได้
ที่ห้องนอนของซากิ
ซากิ: ทำไมมีแค่ กางเกงยีนส์สีดำรองเท้าสีดำและเสื้อยืดสีขาวล่ะ แต่ช่างเถอะ ใส่ก็ใส่// รีบแต่งตัวแล้วรีบออกไปจากห้อง
ชั้นล่าง
ผมเห็นพ่อกับแม่ใส่ชุดหรูหราเพื่อที่จะไปงานวันเกิดของเด็กผมรู้สึกสงสัยมากแค่แต่งตัวชุดหรูหราก็จะไปแค่งานวันเกิดของเด็กเนี่ยนะ
แต่เมื่อผมไปถึงงานวันเกิดของบิลลี่ผมก็เห็นแต่ผู้ใหญ่ที่ใส่ชุดหรูหรากันทั้งนั้นตอนนั้นบาบาร่ามาบอกกับแม่ของผมว่าเด็กๆอยู่ที่สวนหลังบ้านและเมื่อผมไปถึงยันที่สวนหลังบ้านผมก็เห็นเด็กๆกลุ่มนึงกำลังเล่นคาวบอยกันอยู่พวกเขามาชวนผมเล่น และผมก็บอกเขาไปว่าผมโตเกินกว่าที่จะเล่นอะไรแบบนั้นแต่เด็กๆก็ขยันขยอจึงทำให้ผมต้องเล่นกับพวกเขา
แล้วพอผมเล่นไปเล่นมาผมก็รู้สึกสนุกมากๆจนทำให้ผมเลิกคิดเรื่องของพี่ชายได้สักพักแต่ว่า
ก็มีทาจิมะแคลและเคสกำลังที่จะมาหาเรื่องผมเพราะว่าเขาต้องการที่จะแก้แค้นในสิ่งที่ผมพึ่งทำไปเมื่อหลายเดือนก่อนผมไม่อยากจะมีเรื่องด้วยก็เลยตอบกลับไป
พวกเขาทั้ง 3 คนพยายามที่จะมารุมกระทืบผมโดยเฉพาะทาจิมะเขาเหวี่ยงผมไปกับพื้นแล้วก็ชกผมอย่างจังพวกผู้ใหญ่ในงานพยัคฆ์จะมาเข้าช่วยผมแต่ว่าทาจิมะนั้นชักปืนขึ้นมาแล้วบอกว่าถ้าใครเข้ามาช่วยพวกแกได้ตายแน่ๆทำให้ผู้ใหญ่ทุกคนไม่กล้าที่จะเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของพวกเรา 3 คน
ผมไม่อยากจะตอบโต้กลับจึงพยายามที่จะวิ่งหลบกระสุนที่กำลังจะยิงมาด้วยความว่องไวของผมจึงทำให้บางทีการโดนกระสุนโดนยิงที่จุดอ่อนของผมอย่างแขนข้างซ้ายหรือไม่ก็ตรงตามอกเลยแต่ผมก็สามารถทนทานต่อบาดแผลที่มีได้อย่างเหลือเชื่อผมพยายามที่จะวิ่งจนไปถึงห้องน้ำห้อง 1 และผมก็หันไปต่อยไอ้สองคนนั้นอย่างแคลและเคส
แคลนั้นเป็นเด็กชายที่อ้วนกลมผมจึงใช้หมัดของผมชกไปที่บริเวณกลางท้องกลมๆนั่นจากนั้นก็ต่อยซ้ำอีกหลายครั้งจนเกือบจะขาดใจตายเลยล่ะหมอนั่น ส่วนเคสก็ใช้ไม้แขวนเสื้อพยายามที่จะใช้มันเพื่อให้มันโดนตัวผมแต่ผมก็ใช้มันเหมือนกันด้วยการคว้ามันออกจากมือของเคสและฟาดเข้าไปแต่ผมฟาดเขาทีเดียวเกือบตายเพราะผมเดือดสุดๆเลยล่ะ
และเมื่อเหลือแค่ผมกับทาจิมะแล้วส่วนเคสและแคลก็หายใจรัวรินจนกระทั่งสิ้นลมไปในที่สุดก็เลยเหลือแค่ผมกับมันแค่ 2 คนผมจึงคิดว่าต้องหาอะไรมาฟาดไอ้หมอนี่ซะหน่อยนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาพูดกับผมว่าฉันเป็นคนที่ทำให้พี่ชายของนายต้องเข้าไปในสถานที่สถานที่กับการบำบัดไม่ใช่หรอทำไมไม่แก้แค้นให้กับพี่ชายตัวเองหน่อยสิ
ในตอนนั้นผมแทบจะบ้าตายแต่ก็เก็บอารมณ์ไว้ได้จนมาถึงวินาทีสุดท้ายผมจึงได้ใช้ไม้แขวนเสื้ออันเดิมที่ใช้ไว้กับเคส ฟาดไปฟาดมาจนกระทั่งไม้แขวนเสื้อนั้นหักและผมก็ต่อยเขาไปทีละหลายครั้งหลายคราวจนเขาขาดใจตายในที่สุด
ตอนนั้นน้ำมันที่อยู่ในตัวของผมก็แสบร้อนขึ้นมาอีกครั้งเพราะว่าก่อนหน้านี้ผมต่อสู้กับเคสและไอ้หมอนั่นก็ดันทำขวดน้ำมันผงซักฟอก ใส่ตัวผมและไอ้หมอนั่นด้วยทำให้พวกเราแสบร้อนกันมากแต่ผมก็เช็ดมันออกจากตาได้ในตอนนี้ผมก็เผลอที่จะไปเหยียบไฟแช็คที่ติดอยู่บนพื้นจนทำให้มันเผาร่างกายของผมมาก เพราะว่าไฟแช็คนั้นมันยังติดอยู่เลยไงล่ะ
ให้ร่างกายของผมลุกเป็นไฟทำให้ผมต้องวิ่งออกมาจากห้องน้ำและเมื่อทุกคนในงานเห็นผมในสภาพแบบนั้นพวกเขาก็พยายามจะเอาน้ำมาดับไฟในตัวผมและพอผมสลบลงไป ผมก็ตื่นขึ้นมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับได้ยินข่าวว่าตำรวจพบหลักฐานใหม่แล้วเกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้พอได้รู้ว่าสาเหตุนั้นมาจากพวกนักเลงทั้ง 3 คนที่มาเกาะกวนผมและไทเลอร์ก่อนจึงปล่อยตัวพี่ชายของผมมาไว้ได้แล้วแต่ว่าตอนนี้อาการของผมค่อนข้างสาหัสจึงโดนพันแผลทั้งร่างกายเพราะยังกินข่าวนี้ครั้งแรกผมก็เกือบลุกขึ้นนั่งเลยล่ะถ้าไม่ติดว่ามันมีสายน้ำเกลืออยู่ด้วยอ่ะนะฮ่าๆๆ
ไทเลอร์: นี่ซากิ ไม่เป็นไรนะน้องรัก
ซากิ: ( พี่นี่นะทำไมต้องมารับโทษแทนผมเลยเนี่ย )// คิดหนัก
แม่: มันจะต้องโอเคนะลูก
พ่อ: ยังไงซะ เรื่องแบบนี้ก็ต้องให้หมอเป็นคนตรวจแล้วกันว่าต้องนอนพักที่โรงพยาบาลหรือจะให้กลับบ้านเลย
เวลาผ่านไปหลายวันถึงแม้ว่าผมต้องอยู่ในโรงพยาบาลแต่ว่าไทเลอร์พี่ชายของผมก็ยังคงมาเยี่ยมผมตลอดเวลาเพื่อใช้เวลากับผมให้นานที่สุดจนกว่าจะนานได้เพื่อชดใช้เวลาที่เสียไปนั้นอยู่กับผมให้นานที่สุดจนกว่าผมจะหายดี
แล้วเมื่อวันนั้นมาถึงคุณหมอก็ได้แกะผ้าพันแผลที่อยู่ในตัวของผมออกและเมื่อพ่อกับแม่และพี่ชายของผมได้เห็นสภาพของผมพวกเขาถึงกลับต้องตกใจเพราะว่าสภาพของผมเหมือนกับคนตายเพราะว่าผิวหนังและสีผมของผมดวงตาหรือแม้แต่ผิวเผินของผมก็เปลี่ยนเป็นสีอื่นเลยล่ะผมรีบวิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อส่องกระจกทันที
และเมื่อผมได้เห็นตัวเองในกระจกผมก็รู้สึกว่าความรู้สึกแปลกๆนั้นกลับมาอีกแล้วความรู้สึกที่สิ้นหวังยิ่งกว่าอะไรมันปะปนเข้ามาพร้อมกับความแปลกๆนั้นอีกด้วย
ผิวที่เป็นสีไข่และดวงตาที่เป็นสีน้ำตาลก็กลายเป็นสีดำผมที่เป็นสีน้ำตาลปนแดงก็กลายเป็นสีดำสนิท
ริมฝีปากของผมก็เปลี่ยนเป็นสีแดงปนชมพูเหมือนกับเลือดเลยผมยอมรับไม่ได้กับสภาพของผมผมจึงรู้สึกว่าอารมณ์ชั่ววูบผมกำลังจะบ้าคลั่งเข้ามาแล้วแต่ในตอนนั้นไทเลอร์ก็หันมาพูดขึ้นมาว่า
ไทเลอร์:: น้องรัก มันก็ไม่เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนี่// พยายามพูดปลอบใจ
ซากิ: ไม่แล้วงั้นหรอ มันสมบูรณ์แบบแล้วต่างหากล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ// หัวเราะสังเวชเวทนากับสภาพตนเอง
แม่และพ่อ: คุณหมอคะ คุณหมอครับ
ลูกของพวกเราเป็นอะไรหรอครับ
หมอ: วันเกิดจากที่ว่าผู้ป่วยได้รับยาเกินขนาดอาจทำให้สติเฟื่องบ้างถ้ายังไม่หายดีก็พามาพบหมอได้นะ
เมื่อได้ยินดังนั้นไทเลอร์และพ่อกับแม่แล้วก็ผมก็สบายใจขึ้นมานิดนึงแต่ว่าผมไม่คาดคิดว่าน่าจะเป็นคืนสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นหน้าพ่อกับแม่
ในคืนนั้นผมไปที่ห้องครัวแล้วหยิบมีดขึ้นมาอันนึงพร้อมกับไปที่ห้องน้ำแล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเมื่อผมส่องกระจกเห็นสภาพตัวเองเป็นแบบนั้นและหลังจากนั้นผมก็กรีดที่ปากของตัวเองและใช้ไฟแช็กนั้นเขาเปลือกตาของตัวผมเอง แล้วผมก็ร้องไห้ออกมาอย่างน่าขัน
แม่ของผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของผมและเธอก็มาที่ห้องน้ำแล้วก็เห็นผมที่หนูตะพาบที่มีใบหน้าสยดสยองกว่าเดิมหลังจากนั้นผมก็ถามแม่ไปว่าเป็นอะไรครับแม่ผมไม่หล่อหรอแล้วแม่ก็บอกกับผมว่าหล่อสิจ๊ะหล่อสิแม่จะให้พ่อมาดูโฉมหน้าใหม่ของลูกก็แล้วกันนะ
แม่: // รีบวิ่งไปยังที่ห้องนอน
จากนั้นแม่ของผมก็พูดขึ้นมาว่า
แม่:พ่อๆไปเล่นหยิบปืนขึ้นมาเร็วซากิมันบ้าไปแล้ว!!!
แต่ตอนนั้นไม่ทันที่พ่อของผมจะได้ลืมตาตื่นขึ้นเต็มตาผมก็พูดกับแม่ขึ้นมาว่า" แม่โกหก!!! "
และหลังจากนั้นผมก็สังหารทั้งแม่และพ่อเมื่อจัดการทั้งสองคนเสร็จผมก็รีบไปที่ห้องของพี่ชายอย่างไทเลอร์ก่อนที่ผมจะกรีดไปที่บริเวณท้องของพี่ชายจนทำให้มีบาดแผลเต็มไปหมดเลยและเลือดของพี่ชายก็เต็มที่นอนไปหมดทำให้เขากรีดร้องออกมาอย่างทนทุกข์ทรมานแต่ผมก็ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเกลียดเรากลับมาแค่ไหนในตอนนั้นผมก็พูดขึ้นมากับพี่ชายอยู่คำนึงว่า
ซากิ: ราตรีสวัสดิ์นะพี่ชาย:)
ไทเลอร์:( เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ฉันได้ยินผิดไปหรือเปล่า!? )
ในตอนนั้นผมได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้นผมจึงรีบวิ่งออกทางหน้าต่างและก็รีบหนีไปอย่างเร็วเพราะว่าตอนนั้นบิลลี่และบาบาร่าจะอยู่บ้านข้างๆได้ยินเสียงกรีดร้องของพี่ชายของผม ตอนนั้นเขารอดไปได้ผมจึงคิดว่า
" ปล่อยไว้แบบนี้คงดีแล้วล่ะอย่างน้อยผมก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเขาอยู่แล้วนี่นา "
หลังจากที่ผมไปแล้วพี่ชายของผมก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล
1 เดือนผ่านไป
ณโรงพยาบาล
ไทเลอร์: ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย// เพิ่งตื่นจากอาการโคม่า
พยาบาล: โอ้ เยี่ยม คุณตื่นแล้วสินะ
ไทเลอร์: โอ๊ยพระเจ้าเจ็บชะมัด!!!// ความทรงจำกลับมาพร้อมกับความเจ็บปวด
พยาบาล: เดี๋ยวฉันจะให้หมอเพิ่มยาให้เธอแล้วกันนะ รู้อะไรไหม นายเป็นเด็กหนุ่มที่โชคดีจังเลยนะ ไอ้โรคจิตนั่นฆ่าคนไปอีกตั้งหลายคนเลยนะพอฉันจะเห็นภาพสเก็ตคนร้ายน่ะ โห นึกว่าปีศาจอะไรซะอีกอ่ะ
ไทเลอร์: ( หมอนั่นหรอ หมอนั่นไหนอ่ะ?)// คิดอยู่สักพัก
พอไทเลอร์นึกขึ้นมาได้ว่าหมอนั่นที่ว่าก็คือน้องชายของเขานั่นเอง
ไทเลอร์: ( อ๋อใช่ น้องชายของเขาบอกราตรีสวัสดิ์ค่ะเขาในวันที่ได้กลับบ้านนี่นา แต่เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เธอบอกว่าน้องชายของเขาเป็นปีศาจอย่างนั้นหรอ!!! )
ดวงตาของไทเลอร์เบิกกว้างด้วยความโมโหพี่มีคนมาพูดกล่าวหาน้องชายของเขาแบบนี้จนชนชนิดที่ว่าเครื่องวัดหัวใจเต้นแรงถี่เลยล่ะเขาพยายามจะลุกขึ้นแต่นางพยาบาลก็พยายามให้เขานอนต่อเขาจึงหันไปเห็นเครื่องถาดอะไรสักอย่างนึงที่วางอยู่ข้างเตียงนอนของเขาเขาจึงหยิบกรรไกรขึ้นมาแล้วก็ใช้มันแทงไปที่ตาขอนางพยาบาลอย่างเต็มแรงแล้วเขาก็บอกให้นางพยาบาลคนนั้นน่ะหุบปาก เพราะว่าเขาไม่อยากให้ใครต้องมาว่าร้ายนินทาน้องชายของเขาเด็ดขาดเลย และเมื่อศพของนางพยาบาลได้นอนอยู่ข้างเตียงแล้วเขาจึงได้ร่างศพเขานางพยาบาลไปซ่อนอยู่ที่ใต้เตียงและก็หาทิชชูมาเช็ดบริเวณที่มีคราบเลือดจนแห้งสนิทแทบไม่มีรอยเลือดเลย
แล้วพอเขาจัดการอะไรหลายอย่างเสร็จแล้วเขาก็รีบที่จะไปหาชุดเมื่อเจอชุดอยู่ที่โต๊ะบริเวณข้างเตียงพร้อมกับโน๊ตที่เขียนเอาไว้ว่า
" ขอให้หายเร็วๆนะจากบิลลี่ "
ไทเลอร์โดนโน๊ตนั้นทิ้งแล้วก็ไปสวมเสื้อผ้าที่ห้องน้ำเมื่อเขาเห็นสภาพตัวเองในกระจกตอนที่เผลอสวมเสื้อผ้าแล้วดันเผลอไปโดนแผลของตัวเอง แล้วเมื่อเขาไปเห็นบาดแผลที่อยู่ตามตัวของเขาที่ถูกเย็บเขาก็ไม่ได้ตกใจอะไรและเมื่อใส่เสื้อผ้าเสร็จเขาก็กลับไปที่บ้านแล้วเก็บข้าวของที่จำเป็นก่อนที่จะเผาบ้านนั้นทิ้ง
และถึงแม้ว่าซากิจะทำเรื่องเลวร้ายกับตัวเขามาแค่ไหนเขานั้นก็ไม่สามารถให้อภัยกับการกระทำของน้องชายได้แต่เขาสามารถให้อภัยน้องชายของเขาได้และเขาเองก็มีความสามารถในการเป็นฆาตกรได้ในเมื่อมือของเขาเปื้อนเลือดมาแล้วก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับคืนไปได้อีกต่อไป
อีกบุคลิกนึงที่มีการคาดเดากันว่าไทเลอร์น่าจะมีบุคลิกนึงก็คือ ทีเลอร์ เป็นอีบุคเขาเล็ก 1 เพื่อสร้างขึ้นมาเพื่อตัดปัญหาเกี่ยวกับการ ที่เขาเกือบจะไม่รอดจากเหตุการณ์ที่จะเกือบโดนซากิฆ่าตายไปแล้วและตัวเขาเองก็ยังมีความทนทานเกี่ยวกับบาดแผลและความสามารถก็ไม่ต่างอะไรจากน้องชายของเขาเลยเพราะแบบนี้เลยทำให้ตัวเขาและน้องชายของเขาต้องมาเป็นแบบนี้ในปัจจุบัน
คำเตือน: เนื้อหาดังต่อไปนี้อาจมีความรุนแรงและไม่เหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 14 ปีควรได้รับคำแนะนำและดูกับผู้ใหญ่ด้วย
สวัสดีครับคุณ ผมชื่อทาคุยะ อายุ 27 ปีครับ
ผมมีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่ให้อภัยภรรยาของผมถึงแม้ว่าผมจะรักเธอมากแค่ไหนแต่ผมก็ไม่สามารถให้อภัยในสิ่งที่เธอทำได้
ถ้าคุณอยากจะฟังเรื่องราวของผมแล้วก็กรอกข้อมูลอย่างเช่นชื่อของคุณในที่กรอกข้อมูลได้เลยและมาฟังเรื่องเล่าของผมก็แล้วกันนะครับ
ช่องกรอกข้อมูล:________ เพื่อฟังเรื่องเล่า
ผมกับภรรยาคบกันได้มา 15 ปีแล้วและวันหนึ่งผมก็ได้ยินข่าวว่าภรรยาของผมกำลังจะตั้งครรภ์ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากๆเลยเพราะว่าทั้ง 15 เรือนมานี้พวกเราก็ยังไม่เคยมีลูกกันเลย เธอบอกว่าเธอมีความสุขมากในวันที่รู้ว่าตัวเองก็จะตั้งครรภ์
ภรรยาของผมชื่อทาจิโกะ เธอคือผู้หญิงพี่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่างเลยผมรู้สึกดีมากที่ได้เธอมาภรรยา
วันนั้นผมก็เลยซื้อเค้กมามันใหญ่มากเลยล่ะ
ผมก็เลยตัดเค้ก 2 ก้อนให้ทาจิโกะและผมกิน 1 ก้อน ตอนนั้นผมกินไป 1 ก้อนพอกินเค้กเสร็จพวกเราก็พากันเข้านอน แล้วพอวันถัดมาทาจิโกะเธอก็ไปเปิดตู้เย็นดูปรากฏว่ามีมีเค้กหายไปอยู่ 9 ชิ้น
คำแสลง เบาะแส: เค้กหายไปตั้ง 9 ชิ้น เหลือเพียงแค่ 3 ชิ้น แล้วคนอ่านทุกคนจะแก้ไขสิ่งนี้ได้ไหม
OK ต่อ
ตอนนั้นทาจิโกะก็ตะโกนออกมาเสียงดังจนผมตกใจและวิ่งออกมาดูชั้นล่างว่าเกิดอะไรขึ้น
ทาคุยะ: ที่รัก เกิดอะไรขึ้น!!!
ทาจิโกะ: นี่คุณแอบไปกินเค้กตั้งอีก 3 ชิ้นเลยหรอ!!
ทาคุยะ: แต่ผมก็ไม่ได้กินมันไปนะเมื่อวานผมกินไปแค่ 1 ชิ้นเอง!?
ตอนนั้นทาจิโกะหันมามองผมอย่างอึ้งๆเพราะว่าเธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเธอเลยนะทำไมมันถึงมาเกิดขึ้นในตอนนี้ล่ะ
ข้อสันนิษฐาน เบาะแส: มีคนกินเค้กไปอีก 3 ชิ้น แต่ดันไปมีคนมาเห็นแต่ไม่ใช่คนในครอบครัวของทาคุยะ
ต่อ
หลังจากเรื่องเหตุการณ์ในครั้งนั้นผมและทาจิโกะ จึงไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและก็ไปตรวจครรภ์ แล้วก็ผลปรากฏว่าภรรยาของผมตั้งครรภ์มาได้ถึง 8 เดือนแล้วภรรยาของผมจึงคิดว่าทำข้อสะตอนี้ก็ยังดีเพราะว่ายังไงก็มันเหลือแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้ว
เธอพูดแบบนั้นขึ้นมาจนทำให้ผมสงสัยว่าทำไมเธอจึงพูดแบบนั้นในตอนนั้นผมเห็นใครคนนึงเดินผ่านห้องที่ภรรยาของผมตรวจครรภ์อยู่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะว่าคนๆนั้นอาจจะมานัดคุณหมอก็ได้เพราะว่าในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็มีคนพิการที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้องด้วยแม้แต่คนที่พิการแขนข้างซ้ายและฉันได้แค่มือขวาข้างเดียวก็เถอะ
ขอนอกเรื่องแป๊บนะ
พี่เป็นคนนึงเลยที่แบบว่าตอนเกิดใหม่ๆนี่พี่หลวงพี่ตื่นลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นแขนข้างซ้ายพิการจ้าปัจจุบันนี้ก็ยังพิการอยู่เลยแต่ก็ช่างเถอะยังไงก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรนี่นา เอาล่ะ เขาเรื่องต่อ
บางทีผมก็ได้แต่งงงๆอยู่เพราะว่าเด็กผู้ชายคนนั้นก็น่าจะอยู่ม. 1 แล้วแต่น่าจะพึ่งเรียนจบมาใหม่ๆแล้วมั้ง ผมไม่ได้เอะใจอะไรนี่นาเพราะรูปร่างของเขาก็เป็นเด็กม. 1 จริงๆนี่นา
บุคคลปริศนา: ดูท่าแล้วนายคงไม่ได้เอะใจอะไรเสียนะ หึๆๆ// หัวเราะแบบโรคจิตนิดๆ
ตอนนั้นบุคคลปริศนาคนนั้นจึงพูดขึ้นมาว่าครั้งนี้ฉันจะให้นายเริ่มเกมก่อนแล้วก็แล้วกันนะดูเหมือนว่าเขาจะพยายามเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผมให้เหมือนกับหุ่นเชิดที่อยู่ในเกมกระดานของเขา
หลังจากในวันที่ภรรยาของผมได้ทำคลอดแล้วผมก็ได้ลูกชายฝาแฝดงานอยู่ 2 คน
ทั้งสองคนมีดวงตาคนละสีกัน คนพี่นั้นมีดวงตาสีฟ้าปนม่วงอ่อนอยู่ทางด้านซ้ายของตาส่วนตาด้านขวาเป็นสีดำ และสีผมเป็นสีม่วงอ่อนๆ
ส่วนคนน้องนั้น ก็มีดวงตาสีชมพูปนม่วงอ่อนๆและสีตาอีกข้างก็เป็นสีแดงปนส้มเข้มส่วนสีผมเป็นสีชมพูปนสีม่วงอ่อนๆ
แถมนิสัยทั้งสองคนไม่เหมือนกันอีกด้วยคนพี่นั้นเป็นคนที่มีนิสัยขวานผ่าซากแล้วก็โมโหง่ายด้วย แต่ก็รักความยุติธรรมไม่ชอบเอาเปรียบใครใครได้
ส่วนคนน้องก็นิสัยยันเช้านิดๆได้มีความโรคจิตนิดๆเหมือนกับพี่ ร่าเริง ยิ้มตลอดเวลาแม้แต่เวลาเศร้าเหมือนกับพี่ชายของเขาอีกคน
ที่ผมพูดไปเมื่อกี้น่ะหมายถึงคนเมื่อกี้จริงๆนะ
ตอนที่ผมเห็นสีผมและสีดวงตาของเด็ก 2 แฝดอย่างเด็กชาย 2 คนนี้ แล้วผมก็ถามภรรยาว่านี่คุณแอบไปมีกิ๊กที่ไหนหรือเปล่าเนี่ยทำไมสีผมและสีตาไม่เหมือนกับผมเลย ผมถามภรรยาไปแบบนั้นเพราะว่าพวกเรานั้นมีผมสีดำและสีน้ำตาลดวงตาสีฟ้าและสีเขียวผมมีตาสีฟ้าและสีเขียวคนละข้าง ภรรยาผมมีดวงตาสีชมพูและสีผมสีดำ
ตอนนั้นผมรู้สึกว่าต้องเค้นความจริงจากภรรยาให้ได้ตอนนั้นเธอพูดขึ้นมาว่า"แหมที่รักเธอก็รู้อยู่นี่ว่าก่อนหน้านี้คุณก็เคยย้อมสีผมมาไม่ใช่หรอ"
ก็จริงอย่างที่เธอพูดอ่ะนะ
เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อนะพอดีต้องไปนอนแล้วตอนนี้ 19:39 น แล้ว พรุ่งนี้ไว้เจอกันใหม่นะ เดี๋ยวมาเล่าต่อ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!