ตอนที่นางทำภารกิจนางเพื่อสะสมแต้มนางก็เห็นกามเทพมาหานางกามเทพบอกกับนางว่า*เจ้าทำได้ดีมากแต้มเจ้าได้เยอะมาก*พอนางได้ยินคำนั้นนางก็ดีใจกามเทพก็หายไปภารกิจของนางต่อไปก็คือคู่รักวัยรุ่นต่างวัยตอนที่นางเข้าไปในโรงเรียนของนางนางได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่คาเฟ่โรงเรียนและมีผู้ชายคนหนึ่งที่เตะบอลอยู่แล้วบอลมันลอยมาที่หน้าร้านคาเฟ่ผู้หญิงคนนั้นเลยตกใจเลยจะเอาบอลไปคืนนางเห็นว่าสองคนนี้เป็นเนื้อคู่กันนางเลยไล่มนต์คาถาให้ 2คนนั้นปิ๊งรักกันภารกิจต่อไปของนางก็คือที่โรงอาหารในโรงเรียนตอนที่นางไปซื้อกับข้าวกับเพื่อนนางนางเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมีเชื่อกด้ายแดงยาวมากนางเลยไปมองพอนางเห็นเชื่อกได้แดงของผู้หญิงคนนั้นพันกับประธานโรงเรียนนางเลยไล่มนต์คาถาให้พวกเขารักกัน

หลังจากที่นางเอกของเราได้ทำภารกิจสำเร็จไปหลายครั้ง เธอเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ความสามารถในการมองเห็นเชือกด้ายแดงที่เชื่อมโยงผู้คนทำให้เธอเข้าใจถึงความสำคัญของความรักและความสัมพันธ์มากขึ้น แต่ละภารกิจที่เธอทำ ไม่เพียงแต่ช่วยให้คู่รักได้พบกัน ยังสอนให้เธอเรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของความรัก

หลังจากที่นางเอกของเราได้เรียนรู้ถึงความหลากหลายของความรักและความสัมพันธ์ เธอตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้ที่ผิดหวังในความรัก เพื่อให้พวกเขาได้พบกับความสุขและความหวังใหม่

วันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังเดินเล่นในสวนสาธารณะ เธอสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้านั่ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าโศก นางเอกเห็นเชือกด้ายแดงที่ขาดสะบั้นอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาว เธอรู้ทันทีว่าหญิงสาวคนนี้เพิ่งผ่านความผิดหวังในความรักมา

นางเอกนั่งลงข้างๆ หญิงสาวและเริ่มพูดคุย เธอรับฟังเรื่องราวความเจ็บปวดของหญิงสาวด้วยความเข้าใจ จากนั้นเธอได้แบ่งปันข้อคิดดีๆ เพื่อช่วยให้หญิงสาวมองเห็นแง่มุมบวกของสถานการณ์

"การผิดหวังในความรักเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเผชิญ" นางเอกกล่าว "มันเป็นโอกาสที่เราจะเรียนรู้และเติบโต"

หญิงสาวฟังด้วยความสนใจ เธอเริ่มรู้สึกว่าความเจ็บปวดของเธอไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่

นางเอกยังได้แนะนำให้หญิงสาวหันมาดูแลตนเอง ทำสิ่งที่เธอรัก และเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่ๆ เธอเน้นย้ำว่าการรักตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

"เมื่อเรารักและเคารพตนเอง" นางเอกกล่าว "เราจะดึงดูดความรักที่แท้จริงเข้ามาในชีวิตเรา"

หลังจากการสนทนา หญิงสาวรู้สึกมีกำลังใจและพร้อมที่จะก้าวต่อไป นางเอกเห็นเชือกด้ายแดงใหม่ที่เริ่มก่อตัวขึ้นที่ข้อมือของหญิงสาว เธอยิ้มด้วยความพึงพอใจ

ในภารกิจต่อมา นางเอกได้พบกับชายหนุ่มที่เพิ่งผ่านการเลิกรา เขารู้สึกสิ้นหวังและไม่เชื่อในความรักอีกต่อไป นางเอกใช้วิธีการเดียวกัน เธอรับฟัง แบ่งปันข้อคิด และแนะนำให้เขาเปิดใจ

"ความรักไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมได้" นางเอกกล่าว "แต่เราสามารถควบคุมวิธีที่เราตอบสนองต่อมันได้"

ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจและพร้อมที่จะให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง นางเอกเห็นเชือกด้ายแดงที่เริ่มปรากฏขึ้นที่ข้อมือของเขา เธอรู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือ

ผ่านการช่วยเหลือผู้ที่ผิดหวังในความรัก นางเอกไม่เพียงแต่สะสมแต้มเพื่อภารกิจของเธอ แต่ยังได้รับความสุขจากการเห็นผู้อื่นกลับมามีความหวังและความสุขอีกครั้ง เธอเรียนรู้ว่าความรักมีพลังในการเยียวยา และการช่วยเหลือผู้อื่นก็เป็นการเติมเต็มหัวใจของเธอเอง

นางเอกตระหนักว่าภารกิจของเธอไม่ได้เป็นเพียงการเชื่อมโยงคู่รัก แต่ยังเป็นการช่วยให้ผู้คนค้นพบความรักในตนเอง และเปิดใจรับความรักที่แท้จริง

ด้วยความมุ่งมั่นและความรักในหัวใจ นางเอกพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภารกิจต่อไป เพื่อสร้างโลกที่เต็มไปด้วยความรักและความหวัง

วันหนึ่ง กามเทพปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เขามอบหมายภารกิจที่ท้าทายยิ่งขึ้น

"เจ้าทำได้ดีมากในภารกิจก่อนหน้านี้" กามเทพกล่าว "แต่ครั้งนี้ เจ้าต้องไปยังเมืองใหญ่ ที่นั่นมีผู้คนมากมาย และความรักที่ซับซ้อนรอเจ้าอยู่"

นางเอกยิ้มรับภารกิจ แม้จะรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เธอก็พร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่

ฉากที่ 1: สวนสาธารณะในเมือง

เมื่อมาถึงเมืองใหญ่ นางเอกตัดสินใจเริ่มต้นที่สวนสาธารณะ เธอเห็นผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่ง เขาดูเหงาและโดดเดี่ยว

ขณะที่เธอกำลังสังเกต เธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินผ่าน และเชือกด้ายแดงที่มองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้น เชื่อมโยงระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว

"นี่คือคู่ที่ถูกลิขิต" นางเอกคิดในใจ

เธอตัดสินใจเข้าไปช่วย โดยใช้มนต์คาถาเบาๆ ทำให้หญิงสาวสะดุดและล้มลงตรงหน้าชายหนุ่ม เขารีบลุกขึ้นมาช่วย และทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกัน

ฉากที่ 2: การมาถึงของนางเอก

เสียงประกาศจากสถานีดังขึ้น ขณะที่รถไฟค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าสู่ชานชาลา ณ ใจกลางเมืองหลวง นางเอกของเราก้าวลงจากรถไฟ มองไปรอบๆ อย่างตื่นเต้นปนกังวล เมืองใหญ่แห่งนี้เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า แสงไฟระยิบระยับ และผู้คนที่สัญจรไปมาไม่ขาดสาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินทางออกจากบ้านเกิดมาสู่เมืองที่เต็มไปด้วยความศิวิไลซ์เช่นนี้

เธอสูดลมหายใจลึกๆ ตั้งสติให้พร้อมสำหรับภารกิจใหม่ที่รออยู่ นับตั้งแต่ได้รับพลังในการมองเห็นด้ายแดงแห่งโชคชะตา เธอก็มีหน้าที่ช่วยเชื่อมโยงคู่รักที่ถูกลิขิตให้พบกัน แม้จะผ่านภารกิจมาแล้วหลายครั้ง แต่เมืองใหญ่นี้ก็ดูเหมือนจะเป็นความท้าทายที่แตกต่างออกไป

ขณะที่เธอเดินออกจากสถานี สายตาของเธอก็สะดุดเข้ากับคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนน บรรยากาศอบอุ่นและผู้คนมากมายที่นั่งพูดคุยกันอย่างมีความสุขทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง เธอตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะมุมหนึ่ง เพื่อเริ่มต้นการสำรวจเป้าหมายแรกของเธอ

ฉากที่ 3: ด้ายแดงเส้นแรก

ขณะจิบกาแฟ นางเอกสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ หญิงสาวคนนั้นดูเหมือนกำลังจมอยู่ในความคิด ขณะเดียวกัน เธอก็สังเกตเห็นด้ายแดงเส้นหนึ่งที่พาดยาวออกไปจนสุดสายตา เมื่อเธอไล่สายตาตามด้ายเส้นนั้นไป เธอก็พบว่ามันโยงไปหาชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ในสนามของโรงเรียนที่อยู่ตรงข้ามกับคาเฟ่

ทันใดนั้น ลูกฟุตบอลลูกหนึ่งก็ลอยข้ามรั้วมาตกที่หน้าร้านคาเฟ่ ผู้หญิงคนนั้นสะดุ้งตกใจ แต่ก็ตัดสินใจเดินไปหยิบลูกบอลขึ้นมา ขณะที่เธอกำลังจะโยนกลับไปให้ ชายหนุ่มเจ้าของลูกบอลก็วิ่งเข้ามาพอดี ด้ายแดงที่เชื่อมโยงพวกเขาไว้เปล่งประกายจางๆ นางเอกยิ้มเล็กน้อย นี่เป็นสัญญาณว่าเธอเจอภารกิจแรกของเธอแล้ว

เธอเริ่มพึมพำคาถาเบาๆ ใช้พลังของเธอช่วยเสริมแรงดึงดูดของด้ายแดง และไม่นานนัก ทั้งสองก็เริ่มสนทนากันอย่างเป็นธรรมชาติ ชายหนุ่มแสดงท่าทางขี้เล่น ในขณะที่หญิงสาวค่อยๆ เปิดใจตอบกลับด้วยรอยยิ้ม นางเอกมองภาพนั้นด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะลุกออกจากร้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับภารกิจต่อไป

ฉากที่ 4: ก้าวแรกของภารกิจ

ขณะที่เธอเดินสำรวจไปตามถนนรอบๆ โรงเรียน ด้ายแดงอีกเส้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เธอหันไปมองและเห็นว่ามันเชื่อมโยงระหว่างเด็กสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าโรงอาหารกับชายหนุ่มที่เป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนนี้

หญิงสาวคนนั้นมีด้ายแดงที่ยาวและพันกันยุ่งเหยิงราวกับว่าโชคชะตาของเธอกำลังสับสน นางเอกอดไม่ได้ที่จะเข้าไปสังเกตการณ์ใกล้ๆ เธอเห็นเด็กสาวมองไปที่ประธานนักเรียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เคยสังเกตเห็นเธอเลย

นางเอกยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำคาถาอีกครั้ง ด้ายแดงค่อยๆ คลายตัวออกอย่างช้าๆ และเปล่งประกายขึ้นเล็กน้อย จากนั้น เหตุการณ์บางอย่างก็เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หญิงสาวเดินสะดุดทำให้หนังสือในมือร่วงลง ประธานนักเรียนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมาเห็นและก้มลงช่วยเก็บหนังสือให้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

นางเอกยิ้มอย่างพอใจ เธอรู้ดีว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของภารกิจอีกมากมายที่รอเธออยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้...

..."ต่อ"...

ฉากที่ 1: บรรยากาศของร้านกาแฟและการพบกันโดยบังเอิญ

ร้านกาแฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในมุมเล็กๆ ของเมือง รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่และกระจกใสบานใหญ่ที่ทำให้แสงแดดอ่อนๆ สาดเข้ามาอย่างอบอุ่น กลิ่นหอมของกาแฟและเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นางเอกเดินเข้ามาพร้อมกับถือสมุดบันทึกในมือ เธอเลือกนั่งที่มุมเงียบสงบใกล้หน้าต่าง มองออกไปยังถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินผ่านไปมา

ขณะที่เธอกำลังจิบกาแฟอุ่นๆ และเปิดสมุดเพื่อจดบันทึกเกี่ยวกับภารกิจที่ผ่านมา เธอก็สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงมุมร้าน เขาดูเคร่งขรึมแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ ด้ายแดงจากนิ้วก้อยของเขายาวออกไปและเชื่อมโยงไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลกัน หญิงสาวคนนั้นกำลังนั่งอ่านหนังสือ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สังเกตชายหนุ่มเลย

นางเอกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น เธอรู้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่เธอต้องทำ เธอต้องหาทางทำให้ทั้งสองคนนี้ได้พูดคุยกันและรู้ว่าพวกเขาถูกลิขิตให้เป็นคู่กัน

ฉากที่ 2: บรรยากาศของร้านกาแฟและการพบกันโดยบังเอิญ

ร้านกาแฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในมุมเล็กๆ ของเมือง รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่และกระจกใสบานใหญ่ที่ทำให้แสงแดดอ่อนๆ สาดเข้ามาอย่างอบอุ่น กลิ่นหอมของกาแฟและเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นางเอกเดินเข้ามาพร้อมกับถือสมุดบันทึกในมือ เธอเลือกนั่งที่มุมเงียบสงบใกล้หน้าต่าง มองออกไปยังถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินผ่านไปมา

ขณะที่เธอกำลังจิบกาแฟอุ่นๆ และเปิดสมุดเพื่อจดบันทึกเกี่ยวกับภารกิจที่ผ่านมา เธอก็สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงมุมร้าน เขาดูเคร่งขรึมแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ ด้ายแดงจากนิ้วก้อยของเขายาวออกไปและเชื่อมโยงไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลกัน หญิงสาวคนนั้นกำลังนั่งอ่านหนังสือ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สังเกตชายหนุ่มเลย

นางเอกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพนั้น เธอรู้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่เธอต้องทำ เธอต้องหาทางทำให้ทั้งสองคนนี้ได้พูดคุยกันและรู้ว่าพวกเขาถูกลิขิตให้เป็นคู่กัน

ฉากที่ 3: แผนการของนางเอก

นางเอกครุ่นคิดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์ สั่งกาแฟเพิ่มอีกหนึ่งแก้ว จากนั้นเธอเดินไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่แล้วแกล้งทำเป็นสะดุดเล็กน้อย ทำให้กาแฟเกือบจะหก ชายหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้นและช่วยจับถ้วยกาแฟไว้ นางเอกหัวเราะเบาๆ และขอโทษ ก่อนจะถามเขาว่ากำลังอ่านอะไรอยู่

ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่าเขากำลังอ่านเกี่ยวกับศิลปะการชงกาแฟ นางเอกแกล้งชวนคุยเกี่ยวกับกาแฟ และระหว่างนั้นก็แอบสังเกตหญิงสาวอีกคนที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ นางเอกเห็นว่าถึงเวลาที่เธอต้องลงมือแล้ว

เธอทำเป็นบังเอิญพูดเสียงดังพอให้หญิงสาวได้ยินเกี่ยวกับร้านหนังสือที่เพิ่งเปิดใหม่ หญิงสาวดูเหมือนจะสนใจและเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อสบตากับชายหนุ่ม ด้ายแดงของพวกเขาก็เปล่งแสงขึ้นเล็กน้อย นางเอกยิ้มให้กับตัวเอง นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวรักครั้งใหม่...

ฉากที่ 4: ความบังเอิญที่ถูกลิขิต (ฉากเพิ่มเติม)

นางเอกแสร้งทำเป็นยุ่งวุ่นวายอยู่ตรงเคาน์เตอร์เพื่อสังเกตการณ์ต่อไป หญิงสาวที่กำลังอ่านหนังสือดูเหมือนจะสนใจบทสนทนาของเธอกับชายหนุ่ม นางเอกจึงตัดสินใจใช้เล่ห์เหลี่ยมอีกเล็กน้อย

เธอแอบสะกิดบาริสต้าแล้วกระซิบอะไรบางอย่าง จากนั้นไม่นาน บาริสต้าก็เดินไปหาชายหนุ่มพร้อมกับบิลค่าเครื่องดื่มที่มากกว่าปกติ ชายหนุ่มขมวดคิ้วแล้วบอกว่าเขาสั่งแค่กาแฟแก้วเดียว บาริสต้าทำหน้าสงสัยก่อนจะหันไปหาหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลกัน “ขอโทษนะคะ แต่ว่าบิลนี้ดูเหมือนจะเป็นของคุณด้วยนะคะ”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองบาริสต้าก่อนจะมองชายหนุ่ม สายตาของทั้งคู่สบกัน และเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ นางเอกที่ยืนดูอยู่ยิ้มออกมา ด้ายแดงของพวกเขาเปล่งแสงจางๆ อีกครั้งเหมือนเป็นสัญญาณว่านี่คือช่วงเวลาสำคัญ

ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบอกว่า “งั้นผมขอเลี้ยงคุณแทนเป็นไงครับ ถือว่าเป็นค่าขอโทษ”

หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มเขินๆ และพยักหน้า ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ นางเอกมองภาพนั้นอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเดินออกจากร้านกาแฟโดยไม่ให้ใครรู้ว่าเธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโชคชะตาครั้งนี้

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความรักอีกคู่ที่ถูกลิขิตไว้แล้ว...

..."ต่อ"...