NovelToon NovelToon

การจุติใหม่ของเทพสวรรค์

ตอนที่ 1 กลับชาติมาเกิด

ณ ทวีประดับต่ำในตระกูลเย่ ชายหนุ่มอายุ 15 ปีหน้าตาหล่อเหลา ผมสีดำดุจดังค่ำคืนที่มืดมิดได้นอนอยู่ในป่าร่างกายเต็มไปด้วยรอยช้ำเต็มไปหมดเลือดท่วมตัวไม่มีลมหายใจ ทันใดอยู่ๆเด็กหนุ่มก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

"นะ ที่นี่มันที่ไหนกันแล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร........อ๊าก!!" ชายหนุ่มมองรอบๆสักครู่ก่อนที่จะมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมความทรงจำตลอด 15 ปีที่ร่างนี้มีชีวิตอยู่ ที่แท้ชายที่ตื่นขึ้นนั้นคือเย่เฉินเทพสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด กลับชาติมาเกิดในร่างกายของเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่าเย่เฉินเช่นเดียวกับเขา เย่เฉินเป็นนายน้อยคนเล็กสุดของตระกูลเย่ 1 ใน 4 ตระกูลใหญ่แห่งจินหลงที่ประกอบไปด้วย เย่ เสี่ยว เฟย และหลี่

แม้เขาจะเป็นนายน้อยของตระกูลใหญ่แต่เขาไม่ได้การยอมรับจากผู้อาวุโสหรือคนในตระกูลแต่อย่างใดเพราะเนื่องจากเย่เฉินนั้นอายุได้ 15 แต่เขาไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้เลยจึงถูกคนอื่นดูถูกและถูกตั้งฉายาว่าเป็นขยะแห่งตระกูลเย่

และเหตุผลที่เขาได้ไปนอนเสียชีวิตในป่าเขาได้เข้าไปในป่าเพื่อหาสมุนไพรมาเพื่อช่วยรักษามารดาของเขาที่ป่วยมาได้ 3 ปีแล้วในขณะที่เขาเจอสมุนไพรในขณะที่เย่เฉินกำลังจะเก็บสมุนไพรได้ถูกผู้เยาว์ตระกูลหลี่ลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและไม่อาจจะทนพิษบาดแผลได้จึงได้เลียชีวิตลง และเมื่อผสานความทรงจำทั้ง 2 ชาติภพได้แล้วเย่เฉินถึงกับกุมขมับ ข้านั้นเป็นถึงเทพสวรรค์แต่กลับถูกผู้เยาว์ลอบสังหารตาย แต่ก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดเพราะทำให้ข้านั้นมาอยู่ในร่างนี้ต้องขอบคุณผู้เยาว์พวกนั้นโดยซ้ำ

เหอะๆเทพสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้วและเย่เฉินที่เป็นขยะจะไม่มีอีกต่อไปแล้วในเมื่อโชคชะตาให้ข้ามาอยู่ในร่างนี้ข้าจะทำให้ทุกคนต้องรู้จักข้าเย่เฉิน "เย่เฉินกล่าวออกมาต้องมั่นใจพร้อมตรวจสอบร่างกายที่บาดเจ็บว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เนื่องจากเขาจะทำการฝึกตนจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม

เมื่อสำรวจร่างกายจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรสาหัสมากจึงตรวจสอบร่างกายภายใน เด็กหนุ่มตรวจไปสักพักก่อนที่จะทำตาโตตกใจสุดขีด แล้วยิ้มออกมา เพราะเขารู้สาเหตุแล้วทำไมในอดีตเขาไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้

"กายาหยินหยางเส้นลมปราณหยินหยาง!!"ในอดีตนั้นเขาได้เคยได้อ่านเกี่ยวกับกายานี่ในตำราเขียนไว้ว่ากายาหยินหยางนั้นเกิดมาพร้อมกับเส้นลมปราณหยินหยางและแข็งแกร่งที่สุด แต่มันได้หายสาบสูญไปหลายล้านปีแล้ว และคนที่จะเปิดเส้นลมปราณนี่ก็จะต้องเอาเลือดสัตว์อสูรที่มีความเย็นสุดขั้วกับความร้อนสุดขั้วมาผสมลงในอ่างแล้วลงไปแช่ในอ่างนั้น

ในเมื่อเขาสำรวจร่างกายเสร็จสิ้นเขาจึงได้วิ่งกลับไปที่ตระกูลเพื่อไปหาท่านแม่ บ้านของเย่เฉินอยู่หลังสุดของตระกูลมีบ้านหลังเล็กๆอยู่ เมื่อมาถึงเย่เฉินเปิดประตูเข้าไปได้เห็นหญิงสาวนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดขาวมาก

"ท่านแม่ข้ากลับมาแล้ว"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยสีหน้ากังวลมาก

"เฉินเอ๋อเจ้ากลับมาแล้วมาให้แม่กอดหน่อย"เย่เหม่ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

เย่เฉินได้เดินเข้าไปกอดแม่ของเขาในชาตินี้และได้แอบสำรวจร่างกายของแม่ของเขาว่าทำไมแม่ของเขาถึงเป็นเช่นนี้ ทันใดนั้นเขาได้รู้เหตุผลว่าทำไมแม่ของเขาถึงล้มป่วยเช่นนี้ เขาได้คิดในใจยาพิษสลายลมปราณจะทำให้ผู้ที่โดนร่างกายค่อยๆอ่อนแอลงไปเรื่อยๆจนตายไปเองในขณะที่เย่เฉินกำลังครุ่นคิดเย่เหม่ยได้กล่าวออกมา

"เฉินเอ๋อเจ้าเป็นอะไรอะไรหรือเปล่าทำไมร่างกายของเจ้ามีแต่บาดแผลเต็มไปหมดเลย"เย่เหม่ยกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง

"ท่านแม่ข้าไม่เป็นอะไรข้าแค่สะดุดกองหินล้มเฉยๆ"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

"เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว"

"ท่านแม่อาการท่านแย่ลงมากท่านควรนอนพักนะ"

เย่เหม่ยยิ้มด้วยความอบอุ่นแล้วนอนลงแล้วหลับไปในเมื่อท่านแม่หลับไปแล้วข้าควรจะเริ่มเปิดเส้นลมปราณได้แล้วและหาสมุนไพรมารักษาท่านแม่เมื่อเย่เฉินกล่าวจบได้นำเงินเก็บทั้งหมดของเขาไปยังหอประมูลสินค้าเพื่อไปซื้อเลือดสัตว์ระดับต่ำมาเปิดเส้นลมปราณเมื่อมาถึงเย่เฉินได้เข้าไปในหอประมูลมีเถ่าแก่ยืนต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้มเย่เฉินสัมผัสได้ว่าเถ่าแก่คนนี้ไม่ธรรมดาเพราะเถ้าแก่คนนี้อยู่ในขั้นปฐพีในทวีปนี้ผู้ที่แกร่งที่สุดอยู่เพียงขั้นราชันเท่านั้นเย่เฉินเดินเข้าไปหาเถ่าแก่สังเกตุเห็นเถ่าแก่ได้กล่าวออกมาอย่างออกมาอย่างสุภาพ

"นายน้อยตระกูลเย่มีอะไรอยากได้หรือเปล่าถึงได้มาที่หอประมูลนี้"เถ้าแก่กล่าวออกไปอย่างสุภาพไม่มีความดูถูกเลย

ในเมื่อเย่เฉินเห็นเช่นนั้นถึงได้เอามือขึ้นแล้วก้มหัวลงทำความเคารพอย่างสุภาพ

"ข้าต้องการเลือดสัตว์อสูรที่มีความเย็นกับความร้อนสุดขั้วไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสมีหรือไม่"เย่เฉินกล่าวออกมาอย่างสุภาพ

"นายน้อยเย่ไม่ต้องสุภาพไปหรอกเลือดสัตว์อสูรที่นายน้อยต้องการมีอยู่ราคา 20 เหรียญทอง"

และเมื่อเย่เฉินได้ยินอย่างงั้นยกยิ้มขึ้นมา

"ท่านผู้อาวุโสข้าต้องการมันทั้งหมด"เมื่อเถ้าแก่ได้ยินเช่นนั้นจึงยกยิ้มขึ้นมาด้วยความยินดีเถ่าแก่จึงได้ไปที่หลังร้านและนำเลือดสัตว์อสูรออกมา

"นายน้อยนี่เป็นเลือดสัตว์อสูรที่นายน้อยต้องการทั้งหมดราคา 200 เหรียญทอง"

เย่เฉินจึงได้ส่งเหรียญทองไป

"หากนายน้อยต้องการอะไรอีกให้มาที่หอประมูลของข้าได้นะ"เถ้าแก่ด้วยรอยยิ้ม

เย่เฉินจึงยิ้มตอบกลับ

ตอนที่ 2 เปิดเส้นลมปราณ

หลังจากซื้อเลือดสัตว์อสูรเสร็จ เย่เฉินจึงได้เดินกลับไปที่ตระกูลเพื่อเปิดเส้นลมปราณของเขาหลังจากมาถึงบ้านเย่เฉินจึงได้ตรงไปที่ห้องของเขาและนำเลือดอสูรเทลงไปในอ่างน้ำ แล้วลงไปแช่ในอ่างน้ำหลังจากลงไปแช่ได้ 10 อึดใจเย่เฉินถึงกับใบหน้าบิดเบี้ยว

"อ๊ากกกกกกกกกก!!!"

เย่เฉินร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด เส้นลมปราณในร่างกายค่อยๆเปิดออก เย่เฉินค่อยๆตั้งสติที่เหลืออันน้อยนิดค่อยๆโคจรพลังปราณ เย่เฉินพยายามอย่างยิ่งยวด เพื่อมิให้ร้องออกมา กัดฟันทนจนเลือดไหลออกมาจากมุมปากไม่ขาดสาย

หลังจากผ่านไปร่วมสามชั่วยาม เย่เฉินยังคงอดทนแล้วคิดในใจความเจ็บปวดแค่นี้ยังไม่สู้ที่ข้านั้นโดนพวกมันหักหลังหรอกเย่เฉินปฏิญาณในใจหากข้านั้นแข็งแกร่งข้าจะต้องกลับไปสังหารพวกมันให้หมด จนกระทั่งผ่านไปหกชั่วยามความเจ็บปวดค่อยๆหายไป เมื่อผ่านไปแปดชั่วยามเริ่มมีพลังปราณมหาศาลหมุนวนรอบๆตัวเย่เฉินและค่อยๆเข้าไปในตัวเย่เฉิน

ตรึ้มมมมมมมมมม!!!!!

ขั้นสร้างรากฐาน ขั้นที่ 1

ตรึ้มมมมมมมมมม!!!

ขั้นที่ 2

ตรึ้มมมมมมมมมม!!

ขั้นที่ 3

"ยังไม่หมดแค่นี้หรอก"เย่เฉินดูดพลังปราณอย่างบ้าคลั่ง

ตรึ้มมมมมมมมมม!!!

ขั้นที่ 4

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วภายในห้องข้าวของกระจัดกระจาย เย่เฉินค่อยๆลืมตาขึ้นและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าในที่สุดข้าก็เปิดเส้นลมปราณได้"

หลังจากสำรวจร่างกายเสร็จสิ้นเย่เฉินมองไปรอบๆห้องแล้วยิ้มเจื่อนๆคิดในใจถ้าข้าจะฝึกฝนคงต้องไปหุบเขาป่าอสูรไม่งั้นมีหวังบ้านข้าพังแน่ๆเย่เฉินค่อยๆลุกขึ้นจากอ่างน้ำแต่งตัวแล้วออกจากห้องหลังจากออกมาได้เห็นเย่เหม่ยมองมาที่ตัวเองอย่างสงสัย

"เฉินเอ๋อทำไมในห้องของเจ้าถึงมีเสียงดังเช่นนี้กัน"เย่เหม่ยกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างมาก

"ท่านแม่ข้าไม่เป็นอะไรข้าแค่ทำการบ่มเพาะพลังเท่านั้น"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

อู่เหม่ยตกตะลึง!

"เฉินเอ๋อเจ้าบ่มเพาะพลังได้แล้วหรือ"เย่เหม่ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น

"ใช่ท่านแม่ข้าบังเอิญไปเจอสมุนไพรมาทำให้ข้าบ่มเพาะพลังได้

เย่เหม่ยถึงกับน้ำตาไหลออกมาเย่เฉินเห็นเช่นนั้นจึงได้เข้าไปกอดเย่เหม่ยด้วยรอบยิ้ม

"ต่อไปนี้ข้าจะไม่ให้ใครมารังแกท่านแม่ได้"

เย่เหม่ยได้ยินเช่นนั้นจึงยกยิ้มขึ้นมาอย่างอบอุ่น

"ท่านแม่ท่านนอนพักก่อนข้าจะหาวิธีรักษาท่านแน่"

เย่เหม่ยพยักหน้าและนอนลงเย่เฉินเห็นเช่นนั้นจึงได้ยกยิ้มและเดินออกมาจากบ้านเมื่อเดินไปสักพักได้มีเสียงเยาะเย้ยจากด้านหน้าเย่เฉินจึงได้มองไปเห็นเด็กหนุ่มผมสีดำเช่นเดียวกับเย่เฉินแต่ไม่ได้หล่อเหลาอะไรเย่เฉินขมวดคิ้วค่อยๆค้นในความทรงจำจนรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขานั้นชื่อเย่ฟางเป็นลูกของผู้อาวุโสในตระกูลจากในความทรงจำเย่ฟางคอยกลั่นแกล้งเย่เฉิน

อยู่ตลอดและคอยหาวิธีขับไล่เย่เฉินกับแม่ของเขาออกไปจากตระกูล

"อ้าว อ้าว นี่มันไม่ใช่ว่าเป็นขยะของตระกูลไม่ใช่หรอ"เย่ฟางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดูถูก

เย่เฉินได้ยินเช่นนั้นจึงยกยิ้มอย่างชั่วร้าย

"อ้าวนี่มันไม่ใช่นายน้อยลูกแงหรอกรึ"เย่เฉินกล่าวออกมากด้วยน้ำเสียงขบขัน

เย่ฟางได้ยินเช่นนั้นถึงกับใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

"เจ้าขยะเจ้ากล้ามาดูถูกข้าอย่างงั้นหรือ"

"ข้านั้นไม่ได้กล้าดูถูกเจ้าอย่างเดียวหรอกนะข้านั้นกล้าตบตีเจ้าด้วย"

"ฮ่าฮ่าฮ่าเจ้าขยะที่ไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้อย่างเจ้านั้นหรอที่จะสามารถตบตีข้าได้ข้านั้นเป็นถึงอัจฉริยะของตระกูลอายุ 16 อยู่ขั้นสร้างรากฐานขั้นที่ 6 อาศัยแค่ขยะอย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้"เย่ฟางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยยัน

เย่เฉินได้ยินเช่นนี้จึงยกยิ้มขึ้นมา

"ได้ไม่ได้ก็คอยดูละกัน"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงยิ้มเยาะ

เย่ฟางได้ยินเช่นนั้นถึงโกรธมากและได้พุ่งเข้ามาหาเย่เฉินและได้ง้างหมัดเพื่อที่จะสั่งสอนเย่เฉินเย่เฉินเห็นเช่นนั้นจึงได้ง้างหมัดสวนออกไปหมัดทั้งสองได้ชนหมัดแต่หมัดของเย่ฟางไม่สามารถทนรับหมัดของเย่เฉินได้เลยสักนิดเดียวเย่ฟางได้กระเด็นไปชนกำแพงของตระกูลจนแตกเย่ฟางถึงกับกระอักเลือดออกมาเย่ฟางมองไปที่เย่เฉินด้วยสายตาตกตะลึง

"ขยะอย่างเจ้ากล้ามาต่อยข้าอย่างงั้นหรือ"เย่ฟางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว

เย่ฟางได้พุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธอย่างมากและใช้พลังทั้งหมดต่อยไปที่เย่เฉินอย่างเต็มแรงเย่เฉินมองอย่างไม่เกรงกลัวและง้างหมดสวนอย่างสุดแรงเช่นกัน

ตรี้มมมมม!!!

เย่ฟางกระเด็นออกไปอัดกำแพงของตระกูลอย่างรุนแรงกระอักเลือดหมดสติลงเย่เฉินคิดในใจนี่สินะกายาหยินหยางแข็งแกร่งมากหลังจากนั้นเย่เฉินได้ออกมาจากตระกูลและพุ่งตัวไปที่ป่าอสูรเพื่อไปหาสมุนไพรมารักษาท่านแม่เย่เฉินใช้ท่าร่างตัวเบาอย่างรวดเร็วถึงได้มาถึงที่หุบเขาป่าอสูรหลังจากมาถึงนั้นเย่เฉินได้ทำการหาวิชาที่เขาจะฝึกในความทรงจำของเขาเย่เฉินหาไปสักพักจนได้เคล็ดวิชามาฝ่ามือสยบเทพเป็นวิชาระดับเซียนที่เย่เฉินบังเอิญได้มันมาในสุสานบรรพกาลเย่เฉินได้ทำการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งผ่านไปสองชั่วยามเย่เฉินฝึกขั้นพื้นฐานสำเร็จที่เย่เฉินสามารถฝึกฝนได้เร็วนั้นเพราะชาติที่แล้วเย่เฉินเป็นอัจฉริยะในด้านฝึกวิชา

หลังจากฝึกฝนจนสำเร็จขั้นพื้นฐานเย่เฉินจึงได้ตามหาสัตว์อสูรระดับ 1 รอบๆหุบเขาเย่เฉินได้เจอกระทิงอัสนีสูงประมาณ 3 เมตรมีขนาดใหญ่เย่เฉินเห็นเช่นนั้นวิ่งได้พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วและปล่อยวิชาฝ่ามือออกมา

"ฝ่ามือสยบเทพ"ได้มีมือยักสีทองขนาดพอๆกับกระทิงอัสนีพุ่งออกไปหากระทิงอัสนีอย่างรวดเร็ว

เมื่อกระทิงอัสนีเห็นเช่นนั้นได้พุ่งเข้ามาหาเย่เฉิน กระทิงกับฝ่ามือปะทะกัน

ตรึ้มมม!!!!

กระทิงบาดเจ็บสาหัสเย่เฉินเห็นเช่นนั้นยกยิ้มและได้ต่อยหมัดไปที่กระทิงอัสนีจนเสียชีวิตลงที่เห็นเย่เฉินนั้นสามารถสังหารกระทิงอัสนีได้รวดเร็วเช่นนี้เพราะเย่เฉินได้ใช้พลังไปถึง 7 ส่วนหลังจากสังหารได้เย่เฉินได้เดินไปหากระทิงอัสนีและดึงแกนพลังของกระทิงอัสนีออกมาแกนพลังระดับต่ำคงจะขายได้เย่เฉินพูดพึมพำเบา

ตอนที่ 3 เย่หลิน

หลังจากที่เย่เฉินได้ใช้วิชาไป เย่เฉินได้นั่งสมาธิเพื่อฟื้นคืนพลังปราณที่ใช้ไปหลังจากฟื้นพลังเต็มที่เย่เฉินได้เดินกลับไปที่ตระกูลหลังจากเย่เฉินได้เดินเข้ามาภายในตระกูลได้ทุกศิษย์รุ่นเยาว์มองมาทางเย่เฉินด้วยสายตาแปลกประหลาด เย่เฉินไม่ได้สนใจอะไรเพราะเย่เฉินสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อมาถึงบ้านเย่เฉินได้เดินเข้าไปตรงไปหาแม่ของเขาแต่มีสาวน้อยหน้าตาสะสวยเหมือนถูกแกะสลักมาจากภาพวาดได้นั่งคุยอยู่กับแม่ของเขาอยู่สาวน้อยนางนี้มีผมสีน้ำตาลสวมอาภรณ์สีแดงราวกับมรกตสวยงามเย่เฉินยกยิ้มขึ้นมาเพราะไม่ใช่ใครอื่นนางชื่อเย่หลินเป็นลูกของผู้นำตระกูลคนปัจจุบันเย่เทียนนางมักจะมาดูแลแม่ของเขาและนั่งคุยอยู่เป็นประจำและนางยังเป็นอัจฉริยะของตระกูลอีกด้วยนางอายุ 16 ปีอยู่ขั้นสร้างรากฐานขั้น 9 ซึ่งแข็งแกร่งที่ในรุ่นเยาว์ของตระกูลในตอนนี้

"พี่หลินวันนี้ท่านก็มาด้วยหรอ"เย่เฉินกล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม

"ศิษย์น้องเจ้ากลับมาแล้วหรอ"

"ใช่ ข้าไปฝึกวิชาในป่ามานะ"

เย่หลินหันกับไปหาเย่เหม่ยทันที

"ท่านน้าเย่เฉินสามารถฝึกฝนได้แล้วหรอคะ"เย่หลินกล่าวออกมาด้วยสีหน้าสงสัยและดีใจออกมานิด นิด

"ใช่จ้าเย่เฉินเล่าให้ฟังว่าได้ไปเจอสมุนไพรมานะ"เย่เหม่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

เย่หลินได้ยินเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงและวิ่งเข้ามากระโดดกอดเย่เฉินอย่างไม่อายใครเย่เฉินถึงกลับตกใจหน้าแดงที่เย่เฉินหน้าแดงเพราะชาติที่แล้วเขาบ้าการบ่มเพาะอย่างมากไม่สนใครหญิงสาวไหนเลยเลยทำให้เขามีอาการเช่นนี้

"ศิษย์พี่ท่านทำแบบนี้เกรงว่าจะไม่ดีนะ"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย

เย่หลินได้ยินเช่นนั้นผลักตัวออกทันทีมองไปทางอื่นด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อราวกับแอปเปิ้ลสุก

"ข้า...ข้าขอโทษข้าแค่ดีใจไปหน่อย"เย่หลินกล่าวออกมาด้วยความเขินอายอย่างมาก

เย่เหม่ยเห็นเช่นนั้นจึงยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

"อะแฮ่ม พวกเจ้าจะยืนอีกมั้ย"เย่เหม่ยกล่าว

ออกมาด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองคนจึงได้สติและเดินมานั่งข้างๆเย่เหม่ย

"เฉินเอ๋อตอนนี้เจ้าอยู่ระดับใดแล้ว"เย่เหม่ย

กล่าวออกมาด้วยความสงสัย

"ตอนนี้ข้าอยู่ขั้นที่ 4 แล้วท่านแม่"

ทั้งสองคนถึงกับตกตะลึงในความเร็วนี้

"เจ้าเป็นความภาคภูมิใจของแม่จริงๆ"เย่เหม่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างอบอุ่น

ปัง!! ได้มีเสียงเปิดประตูอย่างรุนแรงได้มีผู้เยาว์คนนึ่งได้เดินเข้ามาอย่างเย่อหยิ่งไม่สนใจเย่เฉินทำหน้าตาเย็นชาทันทีเพราะคนที่มามีนามว่า เย่เฟยอายุ 17 อยู่ขั้นที่ 8 ขั้นปลายเป็นพี่ชายของเย่ฟางที่โดนเย่เฉินทุบตีไปนั้นเอง

"เจ้ามาที่นี้ทำไม"เย่หลินกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างมาก

เย่เฟยได้ยินเช่นนั้นมองไปที่เย่หลินทันทีด้วยสายตาขั่วร้ายอย่างมาก

"อะแฮ่ม ข้ามาที่นี้เพราะได้ยินว่านายน้อยขยะของตระกูลได้ไปทุบตีน้องชายของข้านะสิ"เย่เฟยกล่าวออกมาและไปเย่เฉินด้วยสายตาดูถูกอย่างมาก

เย่เฉินได้เดินออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา

"เจ้ามาหาข้าอย่างงั้นรึ"

"ขยะอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้าเช่นนี้"

"แต่น้องชายเจ้าก็โดนขยะทุบตีไปนะ"เย่เฉินกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยยันอย่างมาก

"เจ้า ดี ดี ดีมาก วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง"เย่เฟยกล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างมาก

"ศิษย์น้องให้ข้าจัดการให้มั้ย"เย่หลินกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก

"ศิษย์พี่ท่านเชื่อใจข้า"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

"อื้ม ข้าจะเชื่อใจเจ้า"

เย่เฟยเห็นเช่นนั้นถึงกับเลือดขึ้นหน้าเพราะคนที่มันชอบได้ไปคุยกับขยะอย่างสนิทสนมอย่างมาก เย่เฟยได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เย่เฉินเห็นเช่นนั้นจึงพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็วเช่นกันกงเล็บอินทรีย์ เย่ฟางกล่าวออกมาทันใดนั้นได้มีกงเล็บขนาดใหญ่พุ่งออกมา เย่เฉินก็ใช้วิชาของเขาเช่นกัน ฝ่ามือสยบเทพ มือยักสีทองขนาดใหญ่ได้พุ่งไปปะทะกับกงเล็บอินทรีย์อย่างรุนแรงและได้เกิดการระเบิดขึ้น

ตรึ้ม!!!เสียงระเบิดดังสนั่น

หลังจากที่ควันค่อยๆจางหายไปเย่เฉินได้มีเลือดออกที่มุมปาก แต่เย่เฟยถึงกับกระเด็นกระอักเลือดออกมาอย่างมากเย่เฟยมองไปที่เย่เฉินด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยวอย่างมาก

"ขยะอย่างเจ้ากล้าลงมือกับข้าอย่างงั้นหรือ"

"แล้วคนที่แพ้ให้กับขยะจะถูกเรียกว่าอะไร"เย่เฉินกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเย้ยยัน

"เจ้า เจ้า แล้วเราจะได้เห็นดีกัน"เย่เฟยกล่าวจบได้เดินออกไปด้วยความอับอายอย่างมากที่มาแพ้ให้ขยะเย่เฉินได้เช็ดเลือดที่มุมปากออกแล้วหันไปหาแม่ของเขาด้วยสายตามุ่งมั่น

"ท่านแม่ข้าต้องที่จะออกไปฝึกฝนที่ป่าอสูร"เย่เฉินกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

"แต่ว่ามันอันตรายมากนะ"เย่เหม่ยกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก

"ท่านแม่ข้าไม่เป็นอะไรหรอกข้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นและมาปกป้องท่านให้ได้"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยความมุ่งมั่น

เย่เหม่ยเห็นเช่นนั้นจึงพยักหน้าเย่เฉินหันไปมองศิษย์พี่ของเขา

"ศิษย์พี่ตอนที่ข้าไม่อยู่ข้าฝากศิษย์พี่ดูท่านแม่แทนข้าได้หรือไม่"

"ศิษย์น้องไม่ต้องเป็นห่วงไปข้าจะดูแลท่านน้าอย่างดีแน่นอน"

"ข้าขอขอบคุณศิษย์พี่อย่างมาก"เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

"ศิษย์น้องแต่เจ้าจะต้องกลับมาให้ทันภายในห้าเดือนนะ"

"ศิษย์พี่อีกห้าเดือนจะมีอะไรรึ"เย่เฉินกล่าวออกไปด้วยความสงสัยอย่างมาก

"อีกห้าเดือนจะมีการประลองรุ่นเยาว์ภายในเมืองจินหลงแห่งนี้และจะมีผู้อาวุโสจากสำนักระดับกลางมาดูการแข่งขันนี้เพื่อเฟ้นหาอัจฉริยะเข้านิกาย"

"ศิษย์พี่แล้วสำนักที่จะมามีสำนักอะไรบ้าง"

"มีสำนักพิสุทธิ์เหมันต์ สำนักเทพกระบี่ สำนักคล้อยเมฆา สำนักดาราจรัสแสง"

เย่เฉินได้ยินเช่นนั้นจึงพยักหน้าตอบกลับ

"ศิษย์พี่ข้าสัญญาข้าจะกลับมาก่อนงานประลองแน่"

"เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะ"เย่เฉินเข้าไปกอดเย่เหม่ยสักพักก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!