...คำเตือน...
...ประเทศต่อไปนี้เป็นประเทศที่สร้างขึ้นมาเอง...
...เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ประเทศนั้นๆ เสียหาย...
สวัสดีผม โอไฮโกะ มินดูลา ชื่อเล่นของผมชื่อ ยูริ
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนผมอายุ 5 ขวบ พ่อผมเริ่มสอนผมใช้ปืนครั้งแรกคือตอนนั้น และปืนแรกที่ผมใช้คือปืนลูกโม่ หลังนั้นผ่านไปประมาณตอนผมอยู่ ป.2 พ่อผมก็เริ่มสอนใช้ปืนพกแล้วค่อยๆ ไล่ระดับรงดีดของปืนขึ้นมาเรื่อยๆ จนผมจบม. 3 ผมก็ได้ไปต่อโรงเรียนทหารที่ผมอยากเรียนตั้งแต่ป.6 (เชื้อพ่อมันแรงช่วยไม่ได้)
พอผมสอบติดพ่อผมก็ไม่วายที่จะยังสอนผมใช้ปืนให้ถนัด ผมบอกเลยว่าในรุ่นม.4 ด้วยกันเองผมเก่งสุด อย่าว่าแต่รุ่นเดียวกันเลยรุ่นพี่ม.5 ม.6 และครุฝึกยางท่านยังอายผมเลยคิดดูจนผมถูกตั้งฉายาว่า มือปืนผู้ชำนาณ ถามว่าผมสนไหมตอบตรงๆ ว่าไม่เลยเพราะผมเองก็ชินแล้ว
ตลอดสามปีที่ผมเรียนไม่มีใครกล้าแกล้งผมเลย(สงสัยกลัวผมชักปืนออกมายิงมั้ง) แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนอื่นๆ บอกว่าผมน่ากลัวก็คือพวกเขาบอกว่าสายตาผมมันเหมือนพวกผ่านสงครามมายังไงไม่รู้
(สงสัยคงคิดว่าผมเป็นพวกทหารรับจ้างละมั้ง)
จนช่วงที่ผมอยู่ม.6 ก็ได้มีเด็กใหม่เข้ามาไอ้หมอนั้นอยู่ได้สัก 2 - 3 เดือนไอ้หมอนั้นก็มาท้าผมต่อย
(สงสัยแม่งไปได้ยินว่าพวกเพื่อนผมบอกว่าเก่ง)
แน่นอนว่าผมตอบรับคำท้ามัน ยังไม่ทันที่มันจะเข้ามาต่อยผม ผมเข้าไปเสยหน้ามันไปหนึ่งทีก่อนที่จะเตะก้านคอมันไปอีกหนึ่งที สรุปคือน็อคคาที่ ไอ้พวกรุ่นน้องที่พึ่งเข้ามาแล้วยังไม่รู้ฤทธิ์ผม ก็อึ้งตาแตกกันทุกราย
" พวกตื่นดิ "
พอผ่านไปประมาณ 4 - 5 นาทีผมก็ได้เอาเท้าผมไปสะกิดมัน 2 - 3 ที แต่ก็มันก็ไม่ทีท่าจะตื่นผมเลยเตะไป 1 ทีที่กลางหลังมัน รู้อะไรไหมว่าตอนที่แม่งตื่นท่าทีแม่งเป็นไง แม่งกรี๊ดออกมาลั่นบริเวณที่พวกเราอยู่พร้อมๆ กับอาการเหงื่อแตกเหมือนเจอผี ผมหนิแทบรั่วตาย
" ฉันชื่อ ยูริ อยู่ห้องม.6/1 ยินดีที่ได้รู้จัก "
ผมได้แนะนำกับไอ้หมอกันก่อนจะยื่นมือเขาไปช่วยมันให้ลุกขึ้น
" ฉันชื่อ... โคลัตยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน "
หมอนั้นตอบผมก่อนที่ยื่นมือมาจับมือผมก่อนที่จะยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร ผมหนิไม่กล้าต่อยแม่งอีกครั้งเลยถ้ายิ้มแบบนี้อีก ผมไม่ได้ชอบมันนะแต่ผมจะใจอื่นกับทุกคนที่แม่งเป็นมิตรจริงๆ ไม่ว่าจะเพศอะไรก็ตาม นับจากวันนั้นเราก็เป็นเพื่อนซี้กันแปลกไหมหล่ะ เป็นเพื่อนกันเพราะอีกฝ่ายท้าต่อยและอีกฝ่ายก็บ้าจี้รับคำท้า นี้แหละชีวิตผมมีเพื่อนเพราะสาเหตุที่ไม่ค่อยเหมือนใคร
...แต่งครั้งแรกถ้าไม่ค่อยสนุกต้องขออภัยด้วยนะ...
มีคำหยาบโปรดใช้วิจารณญาณ(จักรยาน)ในการอ่าน
หลังจากที่ผมและบักโคลัตสนิทกัน 4 - 5 เดือน ไอ้หมอนั้นมันก็มาบอกผมว่ามันอยู่ ม.6/3 ถึงว่าทำไมไม่เห็นหน้าในชั้นเรียนเลยตอนแรกผมก็คิดว่ามันอยู่ ม.6/1 สะอีก แต่ช่างหัวมันแหะอย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกัน
จนพวกเราเรียนจบม.6 เราก็ได้ต่อปริญญาต่อทันที โดยครั้งนี้ผมกับบักโคลัตก็ได้อยู่ห้องเดียว ผมโคตรดีใจเลยเพราะอย่างน้อยเราก็จะได้ไปใหนด้วยกันง่ายๆ
" ยูริทำไมมึงถึงอยากเป็นทหารวะถามหน่อย "
อยู่ๆ ไอ้โคลัตก็ได้ถามผมก่อนที่จะนั่งข้างๆ ผมด้วยความสงสัย
" ก็แค่อยากให้พ่อกุภูมิใจ... "
ผมได้ตอบหมอนั้นก่อนที่จะก้มหน้าลงทำให้โคลัตชะงักไปสักครู่ก่อนที่จะพยายามลูบหลังผม
" เฮ้ย- เพื่อนกุขอโทษที่ถาม "
ไอ้เลย์(ไอ้โคลัตนั้นแหละ) ได้ขอโทษผมก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยกันตลอดทั้งวันที่เราเรียนกันทุกๆ คนก็มองผมอย่างใจจดใจจ่อ อย่างกับชาติที่แล้วผมเคยไปลากหัวพวกมันแบบคมๆ ก่อนจะทิ้งร่างพวกมันไว้
" ยูริมึงทำอะไรไว้เปล่าวะ- "
ยังไม่ทันที่ไอ้เลย์มันจะพูดจบมันก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะมองหน้าผมพร้อมๆ กับยิ้มออกมา
" จำตอนที่เราเจอกันครั้งแรกได้เปล่าเพื่อน~ "
ไอ้เลย์มันพูดก่อนจะขำออกมาซึ่งเหตุการณ์ นั้นผมเองก็จำได้ดีเหมือนกันมันจึงทำให้ผมเองก็ขำกับมันด้วย
ใช่ครับตอนที่มันท้าผมต่อยตอนม.6 มันเป็นวีรกรรมที่ทำให้ผมได้ฉายาอีกฉายาหนึ่งก็คือ сильно ударить ในภาษาไทยก็คือ หมัดหนัก หรือจะเรียก ตีหนักก็ได้ผมไม่ซีอยู่แล้ว ผมว่านะเรื่องที่ผมต่อยมันไปแล้วก็เตะไปทีหนึ่งคงจะเป็นวีรกรรมที่ตามติดผมว่ายันเรียนปริญญาตรี และคงจะตามติดผมไปยันเรียนจบปริญญาเอกแน่นอน ดูจากสภาะแล้วนะ
หลังจากวันนั้น(ที่ขำเรื่องในตอนม.6) 2 อาทิตย์ ก็ได้มีพวกที่เรียนปริญญาเอกมาท้าผมต่อย ว้าวโดนรุ่นพี่ท้าต่อยอีกแล้ว แต่ครั้งนี้มาเป็นตี้เลย แต่พวกนั้นเลือกที่จะใส่เดี่ยว(ยังน้อยก็ยังลูกผู้ชายพอ) ผมก็ได้ตอบรับคำท้าพวกเขา รุ่นพี่ที่ชื่อไอร์ ก็ได้เดินมาหาผมก่อนจะยิ้มออกมา
" ไงไอ้น้องได้ยินมาว่าหมัดหนักไม่ใช่หรอ ใช่ยูริจากห้อง 1 ป่ะ "
ไอ้นั้นถามผมก่อนที่จะขำออกมาด้วยเย้ยยันในตัวผมมีหรอครับว่าจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ผมได้ต่อยหน้าไอ้หมอนั้นทันที อีกตามเคยล่วงแบบไม่ทันตั้งตัวเพื่อนๆ ที่น่ารักของพี่เขาที่เห็นอย่างงั้นก็ได้รีบเจ้ามาพยุงเจัาตัวแกให้ด้วยสีหน้าหวาดกลัวถึงขีดสุด
ต่อยหมัดเดียวทำเป็นกลัวทำอย่างกับผมเป็นผี
" มีใครจะมาต่อยกับผมอีกไหม "
ครับ ไม่มีใครกล้ามาท้าผมต่อยเลยซึ่งผมก็ได้รับฉายาใหม่อีกแล้วTT แม่งขยันตั้งกันจังฉายาเนี้ยดีแม่งไม่ตั้งฉายาให้ผมว่า ตู้เอกสารเก็บความลับ เยี่ยมเลยงานนี้
จนเมื่อ 4 อาทิตย์ที่แล้วพวกผม ก็จะมีเลย์,เชียร์,สิน,บอย และประมาณ 1,298 คนได้ ก็ได้ถูกเลือกให้ปฏิบัติงานในพื้นที่ก็คือ ลงสนามรบที่เขายังรบกันอยู่
ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวเลือกให้ทำอะไรไม่เลือก ถึงจะเป็นทหารก็เหอะแต่ยังไม่ถึงเวลาเว้ย ส่วนครูฝึกแม่งก็โคตรบ้าเลยพอมาส่งก็บอกให้ไปหาตำแหน่งที่ตัวเองถนัด หลังจากนั้นก็เข้าไปรายงานตัวกับผบ. ของทหารจริงๆ ได้เลยผมกับเพื่อนๆ หนิแทบกรี๊ดออกมาเลยก็ว่าได้
จนแล้วจนรอดผมก็ได้ตำแหน่งที่โคตรไวพร้อมๆ กับใครไม่รู้อีกหนึ่งคนตำแหน่งที่ผมได้พลซุ่มยิงแล้วอีกคนก็เป็นพลชี้เป้าให้ผม ส่วนบักเลย์แม่งชี้เป้าไม่เป็นเรื่องยิงปืนก็ห่วยแตกมันก็เลยโดนเลือกให้ไปอยู่หน่วยปฐมพยาบาลแนวหลังนู้นเลย โคตรแย่
พอเริ่มมาวันแรกผมกับคู่หูก็ได้ไปปฏิบัติงานที่แนวหน้า หน้าที่ของพวกผมสองคนคือขัดขวางฝ่ายศัตรูให้ได้มากที่สุด
ยอมรับว่านี้เสี่ยงตายแบบสัตว์ป่าโคตรเดรัจฉานเลย แม่งกลัวตายกล้าโดนจับเป็นเชลยซะอีก
มาถึงตอนนี้ 4 อาทิตย์ ยังไม่เห็นวี่แววของข้าศึกเลยแม้แต่เสียง
ผมว่าเราต้องติดต่อขออาหารเพิ่มแล้วหล่ะ
ประเทศที่อยู่ในเรื่องนี้ทุกประเทศคือประเทศที่สร้างขึ้นมา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประเทศนั้นๆ
หลังจากที่ผมกับคู่หูเลือกที่จะนอนก่อนก็เลยนอนกันจนรุ่งเช้า ผมก็ได้ติดต่อกับไปยังฐานบังคับบัญชาการ
" มิเกล มิเกล นี่ยูริจากกอง 114 ทราบแล้วเปลี่ยน "
ผมกับคู่หูรออยู่นานในขณะที่รอ ผมกับหมอนั้นก็ได้กินอาหารตอนเช้าให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ระหว่างนั้นผมก็มองหมอนั้นก่อนจะกินต่อ
" นี่พวก ทำหน้าแบบนั้นมีอะไรคาใจหรือเปล่า "
หมอนั่นพูดพลางจะช่วยผมเก็บสเบียงอาหารไว้กินต่อถ้ายังสเบียงอาหารยังไม่มา
" ตลอด 4 อาทิตย์ ที่อยู่ด้วยกันมานายชื่ออะไรวะ ตอนนี้ยังไม่รู้จักชื่อนายเลย "
ผมพูดออกไปก่อนจะฉุบคิดได้พร้อมๆ กับหันไปมองชื่อมันต่อด้วยมองหน้ามันอีกครั้งด้วยความตกใจ
ใช่ มันชื่อ โอไฮโกะ ยูมินตรี ชื่อเล่นมันชื่อ ยูริ แถมหน้ามันยังคล้ายๆ ผมอีกแต่แค่หน้ากับชื่ออะนะซึ่งมันทำให้ผมได้ชะงักไปพักใหญ่ๆ ก่อนที่เสียงจากวิทยุจะดังขึ้น
" พลทหารถ้าได้ยินตอยด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน "
" ได้ยิน ทราบแล้วเปลี่ยน "
" นี่มิเกลจากหน่วยทหารราบกอง 108 ระดับ ทหารผ่านศึก ยศคือ สิบตรี ทำหน้าที่ ติดต่อสื่อสาร คุณช่วยระบุชื่อ,ระดับ,ยศ และหน้าที่ มาด้วย "
" ชื่อ ยูริ หน่วยทหารราบกอง 114 ระดับ ทหารใหม่ ยศ พลทหาร ทำหน้าที่ พลซุ่มยิง คู่กับ ยูริอีกคน "
" เดี๋ยวหมวด หมวดอยู่ยศร้อยโทไม่ใช่หรอ!? "
" ผมยูริผมยังเป็นพลทหารอยู่แล้วผมยังอยู่ชั้นปริญญาตรีอยู่เลย "
" แต่ในใบรายชื่อทหารคุณถูกเลื่อนไปเป็นหมวดอยู่ยศ ร้อยโท "
" ชั่งมันเถอะ คุณอยากถามอะไรเกี่ยวกับพลชี้เป้าผมไหมคุณมิเกล "
" ได้ ถ้าคุณไม่มีปัญหา 'หมวด' "
สิ้นคำพูดของเขา ผมก็ยื่นวิทยุให้กับมินตรี(ยูริ)ก่อนจะกลับไปสนใจกับเป้าเล็งอีกครั้ง
" ชื่อ ยูริ หน่วยทหารราบกอง 114 ระดับ ทหารมือใหม่ ยศ พลทหาร ทำหน้าที่ พลชี้เป้า คู่กับหมวดครับ "
" โอเค ตอนนี้ทางเรากำลังส่งคนไปเสริมให้พวกคุณสองคน โปรดอยู่ที่นั่นก่อนถ้าเจอศัตรูให้รายงานฐาน โดยเฉพาะคุณ 'ยูริ' อย่าตุกติกหล่ะนี้คือคำสั่งผู้พันของคุณ เขาสั่งผมให้มาบอกคุ- "
" บอกเขาซะว่าถ้าเขายังมายุ่งกับผม ถ้ายังมายุ่งเตรียมตัวจบไม่สวยแน่ "
" เดี๋ยวหมวดคุณทำบ้าอะไรเนี้ย!? "
ยูริถามด้วยอาการหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด ก็แน่นอนว่าเขาคงตกใจกับสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ตัดกับผู้พันที่ปานนี้เจาคงขำผมไปใหนต่อใหนแล้ว ว่าไปเหอะตอนนี้ผมต้องการสมาธิ
ผ่านไปนานจนถึงตอน 6 โมงเย็นผมที่จัดเตรียมทหารที่มาเสริมให้อยู่ในที่ต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ก็ได้นั่งกินสเบียงอาหารตั้งแต่เช้าที่ยังไม่หมดกับยูริพอกินกันเสร็จ ผมก็ได้กลับไปจดจ่อกับเป้าเล็งอีกครั้งจนผ่านไปสัก 2 นาที ก็ได้มีเสียงเครื่องยนต์ของรถถังจำนวณ 5 เสียงและเสียงรถขนวัตถุจำนวณ 9 เสียงพร้อมๆ กับเสียงเดินที่นับจำนวณไม่ได้ว่ามีกี่เสียง ผมก็รีบวิทยุบอกคนอื่นๆ ทันที
" ตอนนี้ที่ทางตะวันออกมีเสียงเครื่องยนต์ของรถถัง จำนวณ 5 เสียง เสียงเครื่องยนต์ของรถจนวัถตุต้องสงสัย 9 เสียง แถมยังมีเสียงเดินอีกที่นับไม่ได้ขอให้ทุกนายระวังไว้และทำตามแผนด้วย ทราบไหม "
" ทราบครับ! "
ผ่านไปไม่นานก็ปรากฏรถถังและรถขนวัตถุต้องสงสัยจริงพร้อมๆ กับทหารราบฝ่ายศัตรูโดยเฉลี่ยคือ 5 กองพันได้ ทุกคนที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้ไปประจำที่ของตัวเอง
" มิงเกกัว " (ระวังตัวด้วย)
หนึ่งในคนที่ผมคิดว่าคือจ่าจากโควเชีย ก็ได้ตะโกนบอกพร้อมๆ กับชี้ปืนไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง
" มีน " (3)
" เป " (2)
" ยัก " (1)
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!!
จู่ๆ ห่าฝนจากฝ่ายศัตรูก็ได้แห่มารอบๆ เพื่อนคว่มแน่ใจจึงทำให้ทหารฝ่ายผมบางส่วนต้องถอยๆปให้ห่างจากระยะจองกระสุนพักใหญ่ๆ และบางส่วนก็ถูกลูกหลงไปด้วย
" เอาไงต่ออ่ะ "
" ยิง "
สิ้นคำพูดของผมทุกคนก็ได้ยิงสวนไป ทำให้ทหารฝ่ายโควเชียวิ่งหนีตายกันไปคนละทิศคนละทาง
" โยนระเบิดเลย "
ผมได้สั่งทุกคนผ่านวิทยุซึ่งแน่นอนระเบิดจำนวณ 5 - 6 ลูกก็ได้ถูกโยนไปทางของรถถังพร้อมๆ กับระเบิดที่ทำงาน
ผมได้พาทหารบางส่วนวิ่งไล่ตาม จัดการกับทหารโควเชียที่วิ่งหนีเตลิดเขาป่าไป โดยที่แยกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไปดักหน้า ข้าง ขวา,ซ้าย และต้อนหลัง
จนในที่สุดเราก็ได้จับทหารโควเชียที่เป็นเชลยทหารราบ 1,245 นาย พลขับรถถัง 14 นาย พลขับรถ 4 นาย สูญหาย 92 และ เสียชีวิต 193 นาย
เยี่ยม
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!