NovelToon NovelToon

จักรกลมนตรา

ตอนที่ 1 บทนำ

ในปีคริสต์ศักราช ที่ 4000

ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้มวลมนุษยชาตินั้นเกือบต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์เพราะสัตว์ประหลาดนอกโลก ที่ฝ่าเข้ามาพร้อมกับอุกบาตในชั้นบรรยากาศของโลกมนุษย์เมื่อ300ปีก่อน..ไม่สิถ้าจะเรียกให้ถูกพวกมันเกาะติดกับอุกกาบาตมาในขณะที่อุกบาตนั้นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ..จำนวนของ พวกนั้นแพร่ขยายพันธุ์และวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว..

พวกมันมีรูปร่างขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันออกไป..แต่สิ่งหนึ่งที่พวกมันเหมือนกันก็คือการกินมนุษย์รวมไปจนถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิด..ซึ่งสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เหล่ามวลมนุษย์ที่เหลือรอดต่างตั้งชื่อให้กับมันว่า อัลฟ่า **\( แปลเป็นภาษาจากจักรวรรดิ หมายถึง สัตว์ปีศาจที่มาจากนรก\)**

เพียงระยะเวลาไม่นานทั่วทั้งโลกก็รับรู้ได้ถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้น ทำให้เหล่านาๆประเทศและจักรวรรดิต่างๆผนึกกำลังกันต่อสู้

เพื่อที่จะต้องต่อสู้กับอัลฟ่า ที่มีความแข็งแกร่งจนมนุษย์ในยุคแรกนั้นเกือบสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ อัลฟ่าบางตัวมี รูปลักษ์ที่ดูสูงใหญ่กว่ามนุษย์ บางตัวก็มีความสูงเทียบเท่ากับมนุษย์ ทำให้แต่ละประเทศต้องสร้างกองกำลังเพื่อปกป้องประเทศและจักรวรรดิของตนขึ้นมา..ยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยที่มาพร้อมกับอัลฟ่านั่นก็คือ **หุ่นรบจักรกล มนตรา**

อาจะเป็นตลกร้ายที่อุกกาบาตที่ตกลงมาพร้อมกับอัลฟ่านั้นมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง..เป็นหินอุกกาบาตที่มอบพลังเหนือมนุษย์ให้กับถูกที่ถูกรับเลือก..ซึ่งผู้ที่ถูกปลุกพลังจะขึ้นชื่อว่าเป็นอัศวิน ที่คอยปกป้องผู้คนและจักรวรรดิของตน

หินอุกบาตที่ตกลงมานั้นไม่ได้มีแค่จุดเดียวแต่มีมากถึงหลายพัน หลายหมื่นจุดทั่วโลก…

เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างระดมกำลังสมองกันสืบค้นวิเคราะห์ความลับของอุกกาบาตที่อาจจะซุกซ่อนอยู่แต่ทว่ากลับต้องคว้าน้ำเหลวทุกครั้ง..

แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างลงความเห็นเหมือนกันก็คือ…หินอุกบาตเพียงชิ้นเดียวที่มีขนาดเท่ากำปั้น หรือแม้กระทั่งเศษเสี้ยว ของอุกกาบาต หากนำไปหลอมรวมกับหุ่นรบที่มีเศษเสี้ยวของอุกกาบาตติดตั้ง หรือผสมอยู่ในส่วนประกอบ..

จะทำให้ยุทธโธปกรณ์เหล่านั้นถูกยกระดับขึ้นหลายเท่า!!! แน่นอนว่าเมื่อมีพลังมาก การควบคุมก็จะยิ่งยากตามไป นี่อาจจะเป็นกลไกบางอย่างที่อุกกาบาตนั้นมอบพลังให้แก่ผู้ถูกเลือก..เพื่อควบคุมพลังเหล่านั้น

และแต่ละคนจะมีความสามารถพิเศษที่เเตกต่างกันออกไป…ถึงแม้จะมีความสามารถที่เหมือนกันซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติ แต่ทว่าก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ถูกปลุกพลังว่าจะใช้พลังนั้นพัฒนาตัวเองได้แค่ไหน...เพราะจากการวิจัยพบว่า...ผู้ถูกปลุกพลังที่พัฒนาความสามารถจนถึงขีดสุด จะทำให้ผู้ถูกปลุกพลังคนนั้น จะเข้าสู่สภาวะ **การตื่นหรือ ลิมิตเบรก**

แต่ช่างน่าเสียดายที่ผู้ได้รับการคัดเลือกทั่วจักรนั้น มีไม่ถึงหนึ่งหมื่นคนจากประชาชากรเลือนแสนคน!!

ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ…แต่มนุษย์ก็ยังไม่หยุดพัฒนาและหาทางเพื่อยึดคืนพื้นที่ที่ถูกอัลฟ่านั้นได้ทำลายซึ่งมันจะใช้สถานที่เหล่านั้นเป็นรังของมัน

ปัจจุบันสิ่งเดียวที่ปกป้องมวลมนุษยชาติให้อยู่รอดปลอดภัยจนถึงตอนนี้ก็คือ กำแพงขนาดใหญ่มหึมาโอบล้อมจักรวรรดิเอาไว้ ความสูงของมัน สูงถึง 30 เมตรด้วยกัน..

และแน่นอนว่ากำแพงนี้มีเศษเสี้ยวของอุกกาบาตนั้นผสมอยู่ ทำให้มันสามารถทนการโจมตีและการบุกรุกของอัลฟ่ามาได้เกือบสิบปี..

แต่ทว่าราวกับพระเจ้าเล่นตลก หินอุกกาบาตแม้จะมอบพลังให้กับผู้ถูกเลือก แต่ไม่นานเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ค้นพบว่า หินอุกกาบาตเมื่อถูกหลอมรวมกับอาวุธและใช้เป็นเวลานานมันจะค่อยๆเสื่อมสภาพลงจนกลายเป็นแค่อาวุธธรรมดาๆเพียงเท่านั้น!!!

ความจริงนี้ต่างสั่นคลอนความมั่นคงของจักรวรรดิรวมไปจนถึงทรัพยากร..ทำให้มนุษย์ในจักรวรรดินั้นต้องวางแผนออกสำรวจด้านนอกกำแพงเพื่อ เก็บกู้ซากอุกกาบาตที่ยังหลงเหลืออยู่!!

ทำให้สถาบันหุ่นรบจักรกลแห่งจักรวรรดิ!! นั้นถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อฝึกฝนเหล่าผู้มีพลังพิเศษที่ถูกรับเลือกจากอุกกาบาต..

มนุษย์บางกลุ่มได้สรรเสิญและยกย่องให้อัลฟ่า สัตว์ประหลาดจากนอกโลกนั้นเป็นพระเจ้า ที่ลงมาเพื่อชำระบาปให้กับมนุษย์..ที่ทำลายธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมบนโลกมากเกินไป…

การต่อสู้ระหว่างมนุษย์และพระเจ้าจึงเริ่มต้นขึ้น…

จบตอน…

ตอนที่ 2 เด็กหนุ่มนัยต์ตาสีเลือด

ณ ปัจจุบัน

จักรวรรดิโลรันเทียร์ มีองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีเป็นผู้ปกครอง ทั้งสองพระองค์มีบุตรชายและบุตรสาว ซึ่งผู้ที่ได้รับการปลุกพลังภายในราชวงศ์นั้นมีเพียงแค่องค์หญิง และองค์ชายเท่านั้น น่าเสียดายที่จักรพรรดิและจักรพรรดินีไม่สามารถปลุกพลังได้..แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีการต่อต้านของผู้อยู่ใต้การปกครองแต่อย่างใด...

ส่วนพระนามขององค์หญิงนั้นมีนามว่า อลิธซาเบธ ส่วนองค์ชายนั้นมีนามว่า มาร์คัส ซึ่งแน่นอนว่าองค์หญิงและองค์ชายก็ต้องเข้ามาเรียนที่สถาบันจักรกล เพื่อเรียนรู้เกี่ยวการต่อสู้และก็ฝึกการควบคุมพลัง…

“ ลูกพ่อทั้งสองคน..วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกจะได้เข้าไปเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น แม้เราจะเป็นราชวงศ์แต่จงพึงละลึกไว้เสมอว่า เราต้องปกป้องดูแลประชาชนในจักรวรรดิ ในฐานะ ราชวงศ์.. ”

ชายวัยกลางคนนัยต์ตาสีเหลืองทอง เส้นผมสีเงิน ที่ยาวประบ่าเสื้อผ้าสีขาวบางเรียบง่ายพร้อมด้วย มงกุฏสีทองคำที่อยู่บนศรีษะของชายผู้นี้..

นี่ก็คือองค์จักรพรรดิ์แห่งจักรวรรดิโลรันเทียร์แห่งนี้..จักรพรรดิซินเทียร์ ข้างๆกันมีสตรีเลอโฉมอยู่หนึ่งองค์แม้นางจะดูอ่อนเยาว์ แต่ทว่าแท้จริงแล้ว นี่คือ โซเฟียจักรพรรดินีแห่งจักวรรดิ !! ด้วยเลือนผมสีทองนัยต์นาสีฟ้าอ่อนสวมเสื้อผ้าสีขาวเรียบง่ายกลับดึงรัศมีความงดงามและน่าเกรงขามออกมาในเวลาเดียวกัน..ไม่ต่างจากผู้เป็นสามี…

“ หนูเข้าใจแล้วท่านพ่อ…ก่อนที่หนูจะไปที่สถาบันหนูมีคำถามที่อยากจะถามท่านพ่อกับท่านแม่เพียงแค่หนึ่งคำถามเท่านั้น…”

องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีต่างมองหน้ากันก่อนที่ทั้งสองยิ้มอ่อนออกมา..

“ ลูกอยากจะถามเกี่ยวกับอะไรล่ะ? ถ้าไม่เกินความสามารถของพ่อ พ่อก็จะตอบให้ หรือไม่งั้นท่านแม่อาจจะเป็นคนตอบหากพ่อไม่รู้คำตอบในสิ่งที่ลูกถาม.. ”

อลิธซาเบธ ชี้นิ้วไปที่หน้าต่างซึ่งด้านนอกหน้าต่างนั้นก็มีเขตขุนนาง เขตที่ชาวเมืองอยู่อาศัย เขตสลัมและสุดท้ายก็คือกำแพงสูงขนาดใหญ่ที่โอบล้อมปกป้องจักรวรรดิแห่งนี้เอาไว้…

ผู้เป็นพ่อแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อย…

“ ถ้าเกิดว่ามีคนต้องเผชิญหน้ากับอัลฟ่าโดยไร้ซึ่งอาวุธใดๆทั้งสิ้น..ท่านพ่อคิดว่าคนคนนั้นมีสิทธิที่จะรอดหรือตาย..หนูไม่เคยเห็นอัลฟ่ามาก่อน หนูเลยอยากจะถามว่าถ้าคนธรรมดาต้องเผชิญกับมัน..ด้านนอกกำแพงนั้นพวกเขาจะรอดหรือไม่ ”

“ ท่านพี่..ท่านกำลังทำให้ท่านพ่อลำบากใจนะ เราไปกันเถอะท่านพี่ วันแรกที่จะไปสถาบันเดี๋ยวก็สายเอาหรอก.. ”

มาร์คัสลากมือผู้เป็นพี่สาวแต่ทว่ากลับไม่ขยับเขยื้อนสักนิดทั้งๆที่มาคัสนั้นตัวสูงและแรงเยอะกว่าผู้เป็นพี่..นอกเสียจาก..

ออร่าสีฟ้าอ่อนแผ่ออกมาปกคลุมตัวของอลิธซาเบธ..เป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงการใช้พลัง..

“ ท่านพี่นี่ท่านใช้พลัง… ”

“ ถ้าฉันไม่ใช้พลังนายก็ลากฉันตัวปลิวไปแล้วสิน้องรักของพี่.. ”

“ พวกลูกทั้งสองคนพอได้แล้ว..คำถามที่พวกลูกถามนั้น… ”

จักรพรรดิ์ซินเทียร์ผู้เป็นพ่อแสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมาอยากเห็นได้ชัด..ยิ่งแสดงให้เห็นว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ..

“ อลิธซาเบธ มาร์คัส พวกลูกทั้งสองคนฟังพ่อให้ดี..เชื่อเถอะว่าลูกไม่เห็นมันจะเป็นการดีที่สุด พวกมันทั้งน่ากลัว น่าขยะแขยง พวกมันรู้จักเพียง2 สิ่งเท่านั้นคือ กิน และ ทำลาย…”

ซินเทียร์ยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่ง…

“ ฟังพ่อให้ดี ต่อให้พวกลูกจะได้รับการปลุกพลังจากเศษอุกกาบาต แต่ถึงยังไงพวกลูกก็มีร่างเนื้อเป็นมนุษย์…อาวุธธรรมดา ทำอะไรมันไม่ได้… ถ้าต้องเผชิญหน้ากับมันโดยไร้ซึ่งหุ่นจักรกล หนีไปให้ไกลที่สุด อย่าได้ส่งเสียงออกมาเป็นอันขาดเพราะประสาทสัมผัสของมันไวกว่าพวกมนุษย์หลายร้อยเท่า..”

ทุกอย่างเป็นแบบที่จักรพรรดิ์ซินเทียร์กล่าวออกมา แต่หลังจากที่กำแพงนี้ถูกสร้างขึ้นมาคนรุ่นใหม่ที่ได้รับการปลุกพลังหลังจากที่กำแพงนั้นถูกสร้างขึ้นมา ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นอัลฟ่ามาก่อน..เนื่องจากมาตราการบางอย่างของทางกองทัพ...ยกเว้นก็แต่เหล่าอัศวินแหละผู้ที่ได้รับอนุญาติเป็นการเฉพาะจากสถาบันจักรกล..

“ ท่านพ่อ แล้วถ้าเกิดว่ามีมนุษย์อยู่ด้านนอกกำแพงแล้วต้องเผชิญหน้ากับอัลฟ่ามนุษย์พวกนั้น… ”

มาร์คัสก็กล่าวถามแก่ผู้เป็นพ่อขึ้นมาเช่นกัน..

“ ไม่เคยมีใครรอดชีวิต..ต่อให้รอดมาได้สภาพจิตใจก็ไม่ต่างจากคนสติฟั่นเฟือน หรือไม่ก็กลายเป็นบ้าไปในที่สุด..อีกอย่างถึงลูกจะไม่ถามพ่อแต่ที่สถาบันจักรกลก็มีคำตอบที่ลูกต้องการอยู่แล้ว…ออกเดินทางกันได้แล้ว”

มาร์คัสและอลิธซาเบธได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้กล่าวถามสิ่งใดต่อ ก่อนจะย่อเข่าลงทำความเคารพผู้เป็นพ่อและแม่หลังจากนั้นทั้งสองคนจึงเดินไปขึ้นรถหุ้มเกราะคันสีดำที่ถูกจัดเตรียมไว้…โดยองค์รักษ์ ซึ่งทันทีที่ทั้งสองคนออกไปแววตาและท่าทางของจักรพรรดิซินเทียร์ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

ตัวของ จักรพรรดิซินเทียร์ลุกขึ้นจากบัลลังก์ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง…พร้อมกับมองกำแพงสูงตระหง่านเป็นป้อมปราการด่านสุดท้ายท่ีปกป้องจักรวรรดิแห่งนี้

ซึ่งโซเฟียเองก็รับรู้ได้ในทันทีว่าซินเทียร์นั้นแสดงท่าทีวิตกกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด..ราวกับรับรู้ว่ากำลังจะมีบางอย่างเกิดขึ้น..

“ อีกไม่นานแล้วสินะ…”

…………………………………………………............

นอกกำแพง…

นอกกำแพงนั้นเรียกได้ว่าเป็นนรกบนดินเลยก็ว่าได้ ทั้งเศษซากของหุ่นจักรกลที่ถูกทำลาย ซากบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างต่างๆมากมายถูกทำลายจนย่อยยับ..

เขตที่ถูกทำลายจะถูกเรียกว่าเขตปกครองที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้เป็นการทอดทิ้งเพราะจงใจแต่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะข้างในกำแพงนั้นไม่อาจรองรับประชาการทั้งจักรวรรดิได้…เพราะจะส่งผลต่อทรัพยากรทำให้เกิดความขาดแคลนอย่างใหญ่หลวง

จึงมีมนุษย์ที่ถูกทอดทิ้งนอกกำแพงอยู่เป็นจำนวนมาก..ไม่ใช่เฉพาะจักรวรรดิโลรันเทียร์เพียงจักรวรรดิเดียวเท่านั้นที่ทำเช่นนี้ แต่จักรวรรดิอื่น และประเทศอื่นต่างก็ทำเช่นนี้เช่นกัน..เพราะเหตุความจำเป็น

แม้จะเป็นเรื่องที่โหดร้ายและไร้ซึ่งสามัญสำนึกแต่ทว่าการทำแบบนั้นก็ย่อมไม่ผิด แม้จะป่าเถื่อน แต่การที่จะแบกรับสิ่งที่เรารับไว้ไม่ไหวสุดท้ายก็จะล่มสลายกันไปในที่สุด…

เพราะโลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่อัลฟ่าปรากฎตัวขึ้นและแพร่กระจายไปทั่วโลก…

ไกลออกไปจากตัวของจักรวรรดิ...

ณ เมืองร้างแห่งหนึ่งที่เคยถูกฝูงอัลฟ่าบุกโจมตี..เศษซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างที่ถูกทำลายจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิม

ลึกลงไปในหลุ่มขนาดใหญ่ มีร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งอายุราวๆ19\-20ปี กำลังนอนหมดสติอยู่ข้างๆอุกกาบาตขนาดใหญ่แต่ที่น่าแปลกไปมากกว่านั้น พวกอัลฟ่า ที่ต่างมารวมกันราวๆหนึ่งร้อยตัว พวกมันไม่สามารถเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มคนนั้นได้..

ราวกับว่าพวกมันกำลังหวาดกลัวบางอย่าง…อีกทั้งสภาพบริเวณโดยลอบคล้ายกับว่าเป็นเมืองใต้ดินเก่า สภาพเหล็กและสิ่งก่อสร้างทั้งหมดถูกสนิมกลัดกร่อนจนหมด..

และยังมีตะไคร้น้ำเกาะติดอยู่กับเด็กคนนั้นราวกับว่า ระยะเวลานั้นล่วงเลยผ่านมาหลายปี!!!…แต่ที่แปลกไปยิ่งกว่านั้นคือ เด็กหนุ่มนั้นอยู่ในสภาพเปลื่อยเปล่า และเส้นผมสีดำยาวไปถึงปลายเท้า....

ขณะนั้นเองเปลือกตาของเด็กหนุ่มค่อยๆขยับและลืมตาตื่นขึ้นมา..เผยให้เห็นนัยต์ตาสีเลือด!! ที่มนุษย์ปกติทั่วไปนั้นไม่ควรจะมี แม้จะเป็นผู้ที่ถูกปลุกพลังก็ตามที!!!

เด็กหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆพร้อมกับขยี้ตาไปมาคล้ายกับเด็กที่พึ่งตื่นจากการหลับไหลอันยาวนาน..แต่ในขณะนั้นสิ่งแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น อัลฟ่าทั้งหมดต่างค่อยๆคลานถอยหลังออกไปราวกับว่าพวกมันสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามได้เป็นครั้งแรก…

ก่อนที่เด็กหนุ่มจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา และภายในน้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้น ยังแฝงแรงกดดันและจิตคุกคามออกมา จนทำให้อัลฟ่าบริเวณต่างสั่นกลัวเป็นครั้งแรก..เพราะพวกมันไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน!!!...

“พวกตัวน่ารัจเกียจ..”

จบตอน..

ตอนที่ 3 การรังสรรค์

เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะกวาดสายมอง พวก อัลฟ่าที่มีทีท่าสั่นกลัว..แต่พวกมันก็ไม่ได้หนีหายไปไหน…ขณะที่ตัวของเด็กหนุ่มกำลังทำความเข้าใจกับสถานการณ์โดยรอบ ความทรงจำค่อยๆไหลเข้ามาภายในหัวสมองของเด็กหนุ่มคนนั้น…ส่งผลให้ตัวเด็กหนุ่มเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง..

แต่ดูเหมือนว่าตัวของเด็กหนุ่มจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เพียงบางส่วนเท่านั้น..

“ นี่เรา..สลบไปแล้วนอนอยู่ตรงนี้เป็นสิบปีเรื่องแบบนี้มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่!!!..ถ้าเป็นแบบนั้นพ่อกับแม่เราก็… ”

อยู่ๆพลังของเด็กหนุ่มกำลังตอบสนองต่ออุกกาบาตขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ…อุกกาบาตนี่กำลังตอบสนองต่อพลังและอารมณ์ที่รุนแรงของเด็กคนนี้..ออร่าสีม่วงทมิฬค่อยๆทะลักออกมาจากตัวของเด็กคนนั้น

เหล่าอัลฟ่าที่สัมผัสได้ถึงพลังแปลกประหลาดพวกมันก็ต่างพากันวิ่งหนีหายกันไปในที่สุดก่อนที่ออร่าสีม่วงจะค่อยๆจางลงและกลับเข้ามาภายในตัวชายเด็กหนุ่ม..

เมื่อเด็กหนุ่มที่เห็นแบบนั้นก็นั่งทรุดตัวลงพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีเมฆฝนสีดำ..ปกคลุม

“ อุกกาบาตนี่มัน.. ”

เด็กหนุ่มนำมือไปแตะกับอุกกาบาต..อยู่ๆก็มีภาพความทรงจำบางอย่างไหลเข้ามาในหัวของเด็กหนุ่มคนนี้จนทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด!!!

“ อ้ากกก!!! ”

ขณะที่ตัวเด็กหนุ่มดิ้นอย่างทุรนทุรายราวกับกำลังตายทั้งเป็นอยู่ๆ..ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นภายใต้จิตสำนึกของเด็กหนุ่มคนนี้…พร้อมกับภาพความทรงจำที่ขาดช่วง..

“ ลูกต้องมีชีวิตรอดต่อไป..เบลล์.. ”

ชื่อของเด็กหนุ่มคนนี้ก็คือ เบลล์ ภาพความทรงจำสิ้นสุดเพียงเท่านี้ก่อนที่ความเจ็บปวดจะค่อยๆเบาลง…

ตัวของเบลล์ในตอนนี้ก็รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบางส่วนก่อนที่ตนจะเข้าสู้สภาวะหลับไหล..มาจนถึงปัจจุบัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันนั้นเป็นวันที่ฝูงอัลฟ่าบุกมาโจมตีเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นเวลาประจวบเหมาะพอดีที่มีอุกกาบาตขนาดใหญ่หนึ่งลูกพุ่งตรงมาใจกลางเมือง..

ตัวของเบลล์นั้นถูกผู้เป็นแม่แท้ๆโยนลงมาในหลุมอุกกาบาตแห่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกของตนนั้นต้องถูกกินขณะที่ตัวเองนั้นกำลังถูกอัลฟ่าจับได้ ด้วยสัญชาตญาณความความเป็นแม่ในตอนนั้นทำให้ต้องจำใจทำเช่นนั้นดีกว่าให้ลูกตายไปพร้อมกับตัวเอง..คล้ายกับเป็นตลกร้าย ถ้าไม่ถูกแม่จำใจโยนลงมาในหลุมก็ถูกพวกอัลฟ่าที่อยู่ข้างบนนั้นจับกินเป็นอาหาร..

แม่ของเบลล์ในขณะนั้นไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจโยนลูกของตนเองลงมาในหลุมอุกกาบาต..แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นโชคดีในโชคร้ายที่ร่างกายของ เบลล์นั้นถูกปลุกพลังตั้งแต่ยังเป็นทารก ขณะตกลงมาในหลุม และยังมีความเข้ากันได้ของพลังในหินอุกกาบาตอยู่ในระดับสูงซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!!!

ทำให้ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เบลล์นั้นดูดซับพลังจากหินอุกกาบาตอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสารอาหาร…

“ เรื่องมันแบบนี้เองสินะ…ฮ่า!!ฮ่า!!ฮ่า!!ฮ่า!! ”

เบลล์หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง..ก่อนจะแตะหินอุกกาบาตก้อนนั้น..ซึ่งเรื่องน่าตกตะลึงก็ได้ปรากฎขึ้นเมื่อ อุกกาบาตขนาดใหญ่นั้นแปรเปลี่ยนเป็นของเหลวสีดำก่อนที่มันจะค่อยๆซึมซับเข้าไปในตัวของเบลล์!!

“ แม่ครับ..ผมจะแก้แค้นให้แม่เอง..ต่อให้เส้นทางที่ผมเลือกจะมำให้ผมต้องกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม.. ”

ตู้มมมม!!!

ตัวของเบลล์กระโดดขึ้นไปด้านบนก่อนจะเริ่มการล้างแค้นให้กับผู้เป็นแม่..ไล่ล่าสังหารอัลฟ่าทุกตัวที่เบลล์นั้นพบเจอ..ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นอาวุธปกติย่อมไม่ระคายเคืองผิวหนังที่หนาของมันอย่างแน่นอน..

แต่ตัวทั้งร่างของเบลล์ในตอนนี้นั้นมีพลังของหินอุกกาบาตทำให้สามารถรังสรรค์อาวุธออกมาได้อย่างต่อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นดาบคาตานะ ของจักรวรรดิญี่ปุ่น หรืออาวุธอื่นๆ เบลล์สามารถสร้างขึ้นมาได้ทั้งหมดขอเพียงแค่ต้องทราบถึงวิธีการทำและองค์ประกอบภายใน ของมันมันเท่านั้น!!

นี่คือพลังที่เบลล์นั้นได้รับมาหลังจากการปลุกพลัง..

“ การรังสรรค์!! ”

………………………………………………………..........

ณ ขณะเดียวกันที่จักวรรดิโรรันเทียร์

เฮลิคอปเตอร์สีดำหลายลำลงจอดในสนามของสถาบันจักรกล..เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรกที่สถาบันจักรกลนั้นเปิดภาคเรียนการศึกษาใหม่..จะสังเกตเห็นได้ว่าบนตัวเครื่องของฮอนั้น จะมีสัญลัษณ์และธงของแต่ละประเทศนั้นติดอยู่

ซึ่งแน่นอนว่าพวกนักศึกษาเหล่านี้นั้นคือนักศึกษาระดับสูงที่ได้รับการปลุกพลังแล้วทั้งสิ้น..สาเหตุที่ต้องใช้ฮอในการเดินทางก็เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของอัลฟ่าจากภาคพื้นดิน

เพราะการเดินทาง ทางอาอากาศนั้นปลอดภัยที่สุดในยุคปัจจุบัน..แต่ก็คงจะอีกไม่นาน..

อีกทั้งจักรวรรดิโรรันเทียร์นั้นมีสถาบันจักรกลและศูนย์วิจัยที่ก้าวหน้ากว่ากลุ่มพันธมิตรอื่นๆทำให้กลุ่มพันธมิตนั้นจำต้องส่งเหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวผู้มีความสามารถมาเพื่อศึกษาหาความรู้เพื่อกลับไปพัฒนาจักรวรรดิและประเทศของตัวเอง..

หลังจากนักศึกษาเหล่านั้นลงมาจากฮอ ทั้งหมดก็เดินมุ่งตรงไปที่ห้องเรียนที่ถูกกำหนดในทันที..ซึ่งปกติแล้วนั้นย่อมมีการกล่าวปฐมนิเทศ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ ต้องทำให้พิธีการนั้นรวบรัดและรวดเร็วที่สุด…

ระหว่างทางเดินนั้นเหล่านักศึกษาก็ต่างพากันจับกลุ่มคุยบ้างเล็กน้อย..ซึ่งถึงแม้ว่าแต่ละคนจะมีฐานะที่สูงส่ง แต่เมื่อเข้ามาภายในสถาบันทุกคนล่วนเท่าเทียม..แม้จะเป็นองค์หญิงแห่งจักรวรรดินี้ก็ตาม..

“ องค์หญิง ไม่เจอกันนานเลยน้าสบายดีหรือเปล่า.แล้วก็ลูคัสจัง.. ”

เด็กสาวเรือนผมสีดำนัยต์ตามีฟ้า ตัวเล็กผิวขาวใส่ชุดกิโมโนสีขาวพูดขึ้นด้วยท่าทีสนิทสนม อลิธซาเบธที่ได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคยก็หันกลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มในทันที..

“ มิยูกิ ไม่นึกว่าเธอจะมากับเขาด้วย ฉันสบายดีอยู่แล้ว เราไม่เจอกันนานมากตั้งแต่งานเลี้ยงฉลองเมื่อหลายปีก่อน.. ”

ลูคัสขมวดคิ้วแน่นก่อนจะยืนกอดอกขมวดคิ้ว..

“ ลูคัสจัง? ข้อร้องล่ะเธอช่วยอย่าเติมชื่อฉันให้มันดูแปลกๆได้ไหม..ยัยเตี้ย!! ”

“ หุๆ ปากร้ายแบบนี้..แต่ก็น่ารักไม่เคยเปลี่ยนเลยน้า..ลู..คัส..จัง.. ”

ซึ่งมิยูกินั้นเป็นเพียงนักศึกษาคนเดียวที่ได้รับเลือกให้มาในฐานะนักศึกษาของกลุ่มพันธมิตร ที่มาจากจักรวรรดิญี่ปุ่น..

“ แล้วทางด้านจักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นยังไงบ้าง ข่าวเมื่อเดือนก่อนรายงานว่าจักรวรรดิญี่ปุ่นโดนโจมตีหนักถึงขนาดกำแพงเกิดรอยร้าว..เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง พวกอัลฟ่ามันบุกฝ่าแนวป้องกันมาได้ยังไง..ทั้งๆที่จักรวรรดิญี่ปุ่นก็ไม่ได้เป็นรองจักรวรรดิถึงขนาดนั้น..”

อลิธซาเบธพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง..ก่อนที่มิยูกิจะถอนหายใจออกมา..

“ ก็นะ..ซ่อมเสร็จแล้วล่ะ โชคดีที่หน่วยสำรวจของเรานั้นเก็บกู้อุกกาบาตขนาดใหญ่มาได้ ทำให้เรื่องซ่อมกำแพงก็ ผ่านไปได้ด้วยดี..แต่ในระหว่างไปเก็บกู้ พวกเราเสียหุ่นจักรกลไป2 เครื่อง กับผู้ปลุกพลังอีก 10 คน..พวกมันบุกโจมตีในระหว่างทางกลับ..ทำเอาพวกเบื้องบนหัวเสียน่าดูเลยแหละ.. ”

“ ถึงขนาดหุ่นจักรกลถูกทำลาย..แสดงว่าพวกมัน.. ”

ลูคัสขบคิดเหมือนกับว่าพอจะคาดการณ์บางอย่างได้..

“ ใช่ อัลฟ่าระดับ 4!! ”

“ !!!!! ”

ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่มิยูกิพูดนั้น เหล่านักศึกษาที่มาจากกลุ่มพันธมิตรจากประเทศอื่นๆที่เดินอยู่ใกล้ๆ ก็ได้ยินสิ่งที่มิยูกิพูด..ทำให้บรรยากาศเริ่มที่จะตึงเครียด..

เพราะว่าอัลฟ่าระดับสูงนั้นมีความสามารถที่ขนาดทำลายหุ่นจักรกลได้เพียงการโจมตีไม่กี่ครั้ง และพวกมันนั้นทั้งรวดเร็วกว่า ดุกว่า แข็งแกร่งกว่า อัลฟ่าทั่วไป..

ปัจจุบันยังไม่มีประเทศไหนหรือจักรวรรดิไหนสังหารมันได้..เพราะความสามารถของมันนั้นเหนือกว่าอัลฟ่าทั่วไป..

อีกทั้งระดับ 4 เป็นระดับสูงสุดที่มีการค้นพบในปัจจุบัน..แต่ก็แค่ในตอนนี้เท่านั้น...เพราะมนุษย์กำลังจะต้องเผชิญกับหายนะใหม่ที่คืบคลานเข้ามา...

จบตอน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!