ณ โรงเรียนคามิ
ตอนนี้นักเรียนทุกคนถูกเรียกไปหอประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุคนนับพันคนได้
เมื่อนักเรียนมากันครบทั้งโรงเรียนหมดแล้วพวกเขาก็ได้แต่มองไปรอบๆหอประชุมแห่งนี้ด้วยความแปลกใจเพราะมีนักวิทยาศาสตร์เดินวนเวียนไปมาแถวๆเวทีหอประชุม
"นายคิดว่า ผ.อ. จะทำอะไร"
"คงเรียกมาประกาศอะไรสักอย่างนั้นและ"
"แล้วทำไมถึงมีนักวิทยาศาสตร์ด้วยล่ะ"
"ไม่รู้สิ..ชักสงสัยแล้วสิว่าจะมาประกาศอะไร"
สายตาของพวกเขาถูกดึงดูดไปยังสิ่งที่ถูกผ้าคลุมสีขาวขนาดใหญ่คลุมเอาไว้อยู่บนเวทีเนื่องจากความเด่นของมันทำให้ทุกคนภายในหอประชุมอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่
หลังจากนั้นไม่นาน ผ.อ. ของโรงเรียนคามิก็ขึ้นมาและเริ่มอธิบายถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้อย่างไม่รอช้าด้วยความตื่นเต้นที่ปิดไม่มิด
"สวัสดีนักเรียนที่น่ารักทุกคนวันนี้เป็นวันดีเนื่องจากว่าโรงเรียนของพวกเราได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ทดสอบเครื่องอ่านความทรงจำของบริษัทดีจีพีจำกัด ซึ่งทุกคนอ่านจะเป็นผู้ที่ถูกเลือกให้ขึ้นมาก็ได้"
'เครื่องอ่านความทรงจำ..เหอะไร้สาระสิ้นดีรู้แบบนี้นอนอยู่ในห้องเรียนดีกว่า'ได้มีนักเรียนคนหนึ่งที่มีหน้าตาหล่อมากจนเหล่าผู้ชายอิจฉาแต่กลับกันเขากับมีแผลตามตัวเยอะมากๆกล่าวขึ้นมาในใจ
เขาคนนี้มีชื่อว่า คิซึเนะ เอซ เขามีความลับอยู่ 2 อย่างอย่างแรกคือเขาเป็นผู้กลับชาติมาเกิดอย่างที่ 2 คือเขาเป็นผู้ปกป้องโลกจากเกมเดิมพันชีวิตสุดอันตรายนี้ก็ดีอยู่ที่โลกที่เขาอยู่มีการพัฒนาไปได้ไกลมากจนสามารถสร้างเครื่องอ่านความทรงจำได้แต่มันก็แค่นั้นในเมื่อเขาไม่ได้สนใจมันก็เป็นแค่เศษขยะดีๆนี้เอง
"เอาจริงหรอโรงเรียนของเราได้รับการคัดเลือกเนี้ยนะ..สุดยอด!!"
'ให้ตายสิเจ้าพวกนี้เบาเสียงลงหน่อยจะได้มั้ยคนจะหลับจะนอน'เอซกล่าวขึ้นมาในใจแต่ถึงกระนั้นเสียงนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขามาก
ดูเหมือนว่าพอเขาเข้ามาในร่างนี้แล้วเจ้าของร่างคนเก่าดูเหมือนจะทำเรื่องงามหน้าไว้มากเลยทีเดียว
ซึ้งก็มีทั้งเรื่องชกต่อย ต่อยตี แกล้งอาจารย์ แกล้งนักเรียนคนอื่นๆ เกือบแอบเข้าห้องน้ำผู้หญิง ขโมยของ สต๊อกเกอร์และอื่นๆอีกมากมาย
"จริงหรอนี้มันสุดยอดเลยไม่ใช่รึไงที่นี้ทุกคนจะได้เห็นฝีมือการฟันดาบของฉันแล้ว"คนที่กล่าวนั้นคือ คามาโดะ ทันจิโร่ ที่เป็นหัวหน้าชมรมเคนโด้
"พี่นี้ล่ะก็"คนที่กล่าวมานี้คือคามาโดะ เนซึโกะ น้องสาวของทันจิโร่ที่ทันจิโร่รักและหวงแหนมาที่สุด
"เอาล่ะจะขอให้คุณอิคาตะมาจับฉลากนักเรียนที่ได้รับเลือกแล้วนะ"ผ.อ. โรงเรียนพูดจบก็ได้มีชายคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวทีเป็นชายร่างสูงที่หล่อเอาการเลยทีเดียว
"เอาล่ะนะครับหมายเลขแรก หมายเลข 415 ครับ"
"โอ้ หมายเลขชั้นนี้"ทันจิโร่กล่าวพร้อมกับเดินไปที่เวทีอย่างดีใจทันจิโร่เข้าไปนั่งในแคปซูลประหลาดๆและหลับไปภาพฉายความทรงจำของเขาก็ปรากฎขึ้น
(อะไรอ่ะ)
(รายการถ่ายภาพความทรงจำของบริษัทดีจีพีจำกัดหรอฉันจะไม่พลาดดูแน่นอน)
(เม้นท์บน เอ็งขี้เสือกจังว่ะ)
(หรือเอ็งไม่อยากดูล่ะ)
(ก็อยาก)
คนในคอมเม้นท์พูดออกมาอย่างสนุกภาพความทรงจำแรกของทันจิโร่คือตอนที่กำลังเหวียงดาบไม้อยู่
"998 999 1000"ทันจิโร่เหวียงดาบไม้ไปต่อเรื่อยๆมันไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่วันๆของทันจิโร่คือการฝึกการใช้ชีวิตกับคนในครอบครัว
(เชี้ยเหวี่ยงดาบ 1000 รอบอย่างโหด)
(โหดจริงไม่เหนื่อยบ้างรึไง)
(น้องสาวอย่างน่ารักเลยอ่ะ)
"ทันจิโร่แม่งโคตรเทพเลยคนอะไรเหวี่ยงดาบไม้ 1000 รอบ"
"จริง"
"คุณเนซึโกะก็ยังน่ารักและเปล่งประกายเหมือนอย่างเคย"
"ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆของเธอนะทันจิโร่"ผ.อ.กล่าวชมทันจิโร่
"ครับ"ทันจิโร่ขานรับด้วยความดีใจ
"ต่อไป หมายเลข 414"อิคาตะบอก
"ค..คะ"เนซึโกะขานรับและเข้าไปนั่งในเครื่องแคปซูลและจากนั้นเธอก็หลับไปภาพความทรงจำของเธอก็ปรากฎขึ้น
(เชี้ยอย่างน่ารักอ่ะ)
(สวยโคตรเลยเว้ย)
(พี่เขยครับรับผมไปเป็นน้องเขยเถอะครับ)
(ขอบอกไว้ก่อนเลยนะใครจะจีบคนคนนี้ขอบอกเลยว่าพี่ดูมาก)
(จริงอ่ะ)
(ถ้าไม่เชื่อย้อนกลับไปดูก่อนหน้านี้เลยครับ)
(อืม..โหดจริง)
ภาพความทรงจำของเนซึโกะก็ไม่มีอะไรมากเธอใช้ชีวิตปกติประจำวันอย่างร่าเริงจนวันหนึ่งเธอโดนลักพาตัว
(เชี้ยลักพาตัว)
(ตำรวจอยู่ไหน)
(ใจเย็นๆมันเป็นภาพในอดีตแปลว่ามันเป็นอดีตไปแล้ว)
(ก็จริง)
ตัดมาภาพในความทรงจำของเนซึโกะเธอเริ่มรู้สึกตัวแล้วก่อนจะมีอะไรมาครอบหัวเธออีกครั้งแล้วเธอก็ได้ยินเสียงคนคนนั้น
"ฉันไม่อยากทำอะไรให้มันยุ่งยากหรอกนะ"เธอรู้ทันทีว่านั้นเสียงใครก่อนที่เธอจะเอ่ยชื่อคนคนนั้นขึ้นแล้วก็หมดสติไป
"เอซ"
คนทั้งห้องประชุมเงียบกริบก่อนจะหันไปหาเอซช้าๆซึ้งเอซก็กำลังหลับคาโต๊ะห้องประชุมอยู่
แอสต้าพี่คนโตของเอซนั้นรู้สึกเหมือนทั้งโลกแตกสลายเมื่อได้ยินเสียงน้องชายของตนอยู่ในเหตุการณ์นั้นเขาไม่เชื่อเรื่องข่าวลือของเอซและทำเป็นไม่สนใจข่าวลือแย่ๆที่เกี่ยวกับน้องชายของเขา
เซเครพี่ชายคนรองก็เช่นกันในขณะที่นานะพี่สาวคนโตกับลาล่าพี่สาวคนรองของเอซนั้นเชื่อสนิทใจเลยว่าเอซนั้นทำจริงๆส่วนโมโมะนั้นก็ดูเหมือนจะครึ่งๆกลางๆ
"ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆของเธอนะเนซึโกะ"ผ.อ.กล่าวขอบคุณสำหรับความทรงจำของเธอ
"ค..คะ"เนซึโกะกล่าวด้วยความประมาท
"เอาล่ะ..ต่อไปหมายเลข990"อิคาตะยังคงจับหมายเลขอยู่แต่พอถึงหมายเลขทำเอาทุกคนถึงกับเงียบกันเลยทีเดียว
ทุกคนค่อยๆหันไปมองเอซที่นั่งอยู่โต๊ะแถวหลังแล้วหลับอยู่นั้นได้มีชายคนหนึ่งลุกขึ้นแล้วไปลากตัวเอซมา
(นี้มันจะไม่เกินไปหน่อยหรอ)
(นั้นสิ)
(พวกโลกสวยมาอีกแล้ว)
(ออกไปพวกโลกสวย)
"ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยครับว่าทำไมผมถึงรุ่นแรงกับเขานัก"ชายคนที่ลากเอซออกมากล่าวด้วยอารมณ์โกรธเป็นอย่างมาก
"ก็เพราะว่าเขาคือโรคจิต ขโมยของ สต๊อกเกอร์ผู้หญิง ทำลายผลงานนักเรียนที่กำลังจะไปแข่งขัน ทะเลาะวิวาท ต่อยตีกับคนโรงเรียนอื่น"ชายคนที่ลากเอซพูดกล่าวปลุกใจคนในหอประชุมทุกคน
"แล้ววันนี้เรามาดูวีรกรรมของไอผู้ชายคนนี้กันครับ"ชายคนที่ลากเอซยังพูดไปเรื่อยๆไม่ยอมหยุด
"ใช่ มาดูวีรกรรมมันหน่อย"ได้มีนักเรียนชายคนหนึ่งตะโกนออกมา
(เด็กคนนี้ทำถึงขนาดนี้เลยหรอเนี้ย)
(เด็กคนนี้ใจกล้าใช่ได้แหะ)
"ฉันอยากจะรู้นักว่าความทรงจำของแกมันจะเป็นยังไง"ชายคนที่ลากเอซพูดขึ้นหลังจากนั้นก็ผลักเอซเข้าไปในแคปซูลแล้วไปนั่งรอชมความทรงจำ
ความทรงจำของเอซก็ปรากฏขึ้นมาในภาพความทรงจำนั้นเอซกำลังเดินตากฝนไปยังสถานที่แห่งหนึ่งแต่ย่างก้าวของเขากับมีความมั่นคงเป็นอย่างมาก
"อะไรว่ะนั้น"
"คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกMVรึไงว่ะ"
"เดินตากฝนคิดว่าเท่มากมั้ง"
ตัดมาในภาพความทรงจำของเอซ
"ฉันไม่อยากไปเลย"เอซในตอนนี้สภาพอย่างกับพึ่งมีเรื่องไปไม่นานเขาเดินตากฝนไปเรื่อยๆบ่นพึมพำไปเรื่อยๆเช่นกัน
"ฉันเหนื่อยเกินไปที่จะสู้แล้ว"เอซยังคงบ่นพึมพำอยู่อย่างนั้น
"อยากตายจริงๆเลยไอ้ร่างกายเฮงซวยช่วยทนหน่อยได้มั้ย"เอซในความทรงจำได้ด่าร่างกายตัวเองไปทีหนึ่ง
จากภาพที่พวกเขาเห็นเอซเหมือนกำลังเดินไปสถานที่แห่งหนึ่งด้วยความมั่นคงแม้สภาพของเขาจะเป็นยังไงเขาก็ไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาเลย
จากนั้นเอซก็มาหยุดอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ้งนั้นก็คือสุสานนั้นเองในภาพเอซเดินเข้าไปในสุสานตอนกลางคืนแถมสภาพอากาศก็ดูเหมือนจะไม่เป็นใจสักเท่าไหร่
ในภาพเอซเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่หน้าหลุมศพหลุมศพหนึ่งเข้า
"ผมมาหาแล้วนะครับ..คุณพ่อคุณแม่"ใบหน้าของเอซในตอนนี้เปลี่ยนไปมากกลายเป็นใบหน้าที่อ่อนโยนขึ้นแล้วเหมือนฟ้าจะเป็นใจอยู่ๆฝนที่ตกหนักเมื่อสักครู่ก็หยุดตกไปในทันที
ทางคนด้านนอกนั้นไม่เข้าใจว่าเอซกำลังพูดอะไรโดยเฉพาะแอสต้าเซเค็ตลาล่านานะ
"อะ"ในภาพอยู่ๆน้ำก็ไหลออกมาจากตาของเอซโดยที่เอซนั้นไม่ได้ตั้งใจ
"ฮึก ฮึก อึก"เอซนั้นนั่งร้องไห้อยู่หน้าหลุมศพอยู่นาน
"ขอโทษด้วยนะครับ..ดูเหมือนผมจะไม่เข้มแข็งพอ..ดันร้องไห้ออกมาต่อหน้าพวกท่านซะได้"เอซได้กล่าวขอโทษกับหลุมศพอยู่คนเดียวเป็นเวลานานแสนนาน
อยู่ๆก็มีคนมากลางร่มให้เอซและสะกิดเอซด้วยมือข้างหนึ่ง
"มาที่นี้จริงๆด้วยสินะ"เสียงผู้หญิงคนหนึ่งได้เข้ามาในโสตประสาทของเอซทำให้เอซหันไปมองในทันที
ทุกคนที่ดูอยู่ถึงกับใจเต้นกับความสวยของเธอคนนี้เพราะเธอคนนี้ทั้งๆที่ไม่ได้แต่งหน้าเลยแต่กลับสวยมากอย่างเป็นธรรมชาติ
"เชี้ยไอ้สวะนั้นรู้จักสาวสวยขนาดนี้ด้วยหรอว่ะ"ทุกคนด้านนอกต่างพูดไปในทิศทางเดียวกัน
(เธอสวยมากเลย)
(ไม่นะมีบางอย่างกำลังตื่นตัวในตัวฉัน)
(ขนาดคนที่แต่งงานแล้วอย่างฉันยังแอบใจเต้นไม่ได้เลย)
"ขอโทษทีเซร่าแค่ไม่อยากให้เป็นห่วงนะ"เอซหัวเราะกลบเกลือนแล้วรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากเบ้าตาไม่หยุดอยู่นั้น
"นั้นสินะนายก็เป็นแบบนี้ตลอด"ผู้หญิงที่ชื่อเซร่าก็นั่งยองๆข้างเอซที่กำลังเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากตา
"เอ้า..ใช้นี้ซะสิ"เซร่ายื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้เอซเอซลังเลว่าจะหยิบมาเช็ดน้ำตาดีมั้ย
สุดท้ายเอซก็หยิบผ้าเช็ดหน้านั้นมาแล้วรีบเช็ดน้ำตาส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้เซร่า
"นายเป็นแบบนี้ตลอดเลยนะ..ชอบช่วยเหลือผู้อื่นแล้วเป็นไงบ้างล่ะสุดท้ายก็โดนใส่ร้ายแล้วก็กลายเป็นผู้ร้ายซะเอง..ชอบเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียวโดยไม่บอกคนอื่น..แล้วก็ชอบมาที่นี้เพื่อระบายความในใจ"เซร่ากล่าวออกมาแต่คำกล่าวนั้นเหมือนเป็นคำพูดส่งๆทั่วไปเท่านั้น
"นายนะอย่ายิ้มเลยดีกว่านายรู้มั้ยว่าฉันเห็นรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของนายเป็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวขนาดไหนนะยิ่งนายมีน้ำตารอยยิ้มของนายก็ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้นไปอีก"เซร่าพูดด้วยความหงุดหงิด
"ฮ่าๆๆๆๆๆ ขอโทษด้วยนะเซร่า"เอซยิ้มออกมาด้วยความสุขและหัวเราะออกมาด้วยความสุขเช่นกัน
"ฉันนะอยากเห็นรอยยิ้มจากใจจริงของนายมากกว่านะไว้นายยิ้มแบบนั้นได้เมื่อไหร่ค่อยมายิ้มให้ฉันเห็นแล้วกัน"เซร่าพูดจบก็ยิ้มอ่อนโยนไปให้เอซก่อนจะลุกขึ้นยืน
"ไปกันได้แล้ววันนี้มีงานไม่ใช่รึไงนายนะ"เซร่าพูดจบก็เดินจากไป
"รู้แล้วน่า..คิดแล้วอยากเลิกทำงานนี้จริงๆ"เอซพูดกับตัวเองก่อนจะยิ้มรับคำพูดของเซร่า
"แต่ฉันคงเลิกไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าหารช่วยเหลือการปกป้องงานจำพวกนี้มันคงอยู่ในสายเลือดแล้วล่ะและอีกอย่างสัญลักษณ์แห่งราชันย์ก็เลือกฉันเองด้วย"เอซพูดจบก็ยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง
แล้วภาพก็ดับไปเฉยเลยไม่ได้พลังงานหมดด้วยภาพคือดับไปเลยจริงๆ
"อ้าว"ทุกคนที่อยู่ในหอประชุมพูดออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
(เกิดอะไรขึ้น??)
(เครื่องน่าจะค้าง)
แล้วอยู่ภาพที่ดับไปก็ติดขึ้นมาอีกครั้งมันฉายภาพเอซที่กำลังวิ่งสุดชีวิตไปสถานที่แห่งหนึ่งถ้าสังเกตดีๆจะเห็นเลือดที่มุมปากอยู่ด้วย
"เกิดอะไรขึ้นไอ้เศษสวะนั้นจะไปไหน"
"กูอยู่กับมึงกูจะไปรู้มั้ยเล่า"
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก"เอซที่อยู่ในภาพหอบออกมาอย่างเหนื่อยหอบ
"ให้ตายสิถ้ารู้ว่ามันไกลขนาดนี้บินมาดีกว่า"เอซบ่นพึมพำคนเดียวแล้ววิ่งต่อก่อนจะวิ่งมาจนถึงถนนใหญ่
จากวิ่งก็ค่อยๆเดินเอาเขามองซ้ายมองขวาอย่างระแวงจากนั้นจึงพูดขึ้น
"ให้ตายสิกะจะได้พักอยู่แล้วเชียวทำไมคุณเรลี่ถึงเรียกมาทำงานตอนนี้ก็ไม่รู้"เอซพูดออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน
"เฮ้ยอะไรว่ะนั้น"เอซที่กำลังเดินอยู่ก็ได้เห็นชาย 3 คนออกมาจากรถตู้และเอาถุงมาครอบหญิงสาวคนหนึ่ง
"เฮ้ยลักพาตัว"คนภายนอกที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้ร้องเสียงหลงกันทันที
(ตำรวจไอ้หนุ่มนี้ต้องโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย)
(จะบ้าตายเกิดเหตุการลักพาตัวกลางวันแสกๆขนาดนี้เลยหรอว่ะเนี้ย)
"ลักพาตัว"เอซที่อยู่ในจอพึมพำออกมาเบาๆเขาที่ไม่รู้จะทำอะไรก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาตำรวจอยู่แล้วถ้าไม่สังเกตว่าหญิงสาวคือเพื่อนร่วมห้องของเขาซะก่อน
ในจังหวะที่ชาย 3 คนกำลังลากหญิงสาวอยู่นั้นเอซก็อาศัยจังหวะที่ไม่มีคนเห็นเข้าไปติด GPS ที่รถตู้
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เสียงโทรศัพท์
เอซได้หยิบเอาอะไรสักอย่างมันคล้ายๆกับรูบิคขึ้นมาแต่ที่แน่ๆเจ้าก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายๆรูบิคมันเป็นคนส่งเสียงเหมือนโทรศัพท์ออกมาเอซเปิดมันออกมาอยู่ๆมันก็กลายเป็นโทรศัพท์เฉยเลย
เอซชั่งใจสักพักก่อนจะกดรับสายนั้นเขาเอามันออกห่างจากหูอยู่สักพักก็มีเสียงที่อบอุ่นขึ้นมาจากเจ้าก้อนสี่เหลี่ยมที่ตอนนี้มันกลายเป็นโทรศัพท์แล้ว
"ยามาโตะเดธเกเรียลเกิดที่โกดังร้าง 4 นาฬิกาเธอตรงไปเลยประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะถึง"คนที่อยู่ในสายพูดออกมาด้วยความอ่อนโยน
"ครับคุณเเรลี่"เอซตอบกลับไปด้วยเสียงอ่อนเพลีย
"ยามาโตะยายังเหลืออยู่มั้ย"แรลี่คนที่อยู่ในสายพูดด้วยเสียงอ่อนโยรชนิดที่ว่าไม่มีคนพูดแบบนี้กับเอซ
"ยาอะไรว่ะ"คนภายนอกพูดกัน
(เจ้าหนุ่มนี้ป่วยหรอต้องกินยา)
(นั้นสิ)
"ครับ..ยังเหลืออยู่"เอซทำการค้นหาในกระเป๋าแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อไม่มียา
"ดูเหมือนว่ายาของผมจะถูกขโมยนะครับ"เอซตอบกลับปลายสายด้วยเสียงนิ่งเรียบ
"เฮ้อ หลังจัดการงานนี้เสร็จมารับเงินไปซื้อยาซะนะ"แรลี่พูดออกมาในสายด้วยเสียงอ่อนโยนเหมือนเดิม
"...ครับ"เอซเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับคนที่อยู่ปลายสาย
"ฉันไม่รู้จริงๆนะว่าเธอกินยาระงับอาการนี้มานานเท่าไหร่แล้วแต่เงินเดือนที่ฉันให้ไปก็เพียงพอสำหรับค่าผ่าตัดแล้วแท้ๆ"แรลี่ยังพูดด้วยความอ่อนโยนเหมือนเดิม
"ไอ้สวะนั้นกำลังผ่าตัดหรอว่ะ"
(เหี้ยผ่าตัด)
(อะไรนะเหมือนฉันจะหูฝาดเด็กอายุแค่นั้นกำลังจะผ่าตัด)
"..."คราวนี้เอซในจอกับเงียบ
"ยังไงก็ชั่งเธอต้องรอดกลับมานะยามาโตะ"แรลี่ยังพูดด้วยความอ่อนโยนเหมือนเดิม
"ผมไม่รับประกันครับคุณแรลี่ว่าผมจะรอดกลับมา"เอซพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและเย็นชาเป็นอย่างมาก
"เฮ้อ ฉันรู้ว่าเธออยากตายนะยามาโตะแต่ตายแบบนี้มันไม่ดีนะยามาโตะ"แรลี่พูดด้วยความอ่อนโยนแต่น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นกลับซ่อนความกังวลเอาไว้
"..."คราวนี้เอซก็เงียบเหมือนเดิม
"คุณแรลี่ครับมีมนุษย์ธรรมดาอยู่ในเขตพื้นที่งานครับ"เอซพูดออกมาเมื่อโทรศัพท์อีกเครื่องที่เป็นโทรศัพท์ที่เขาใช้เวลาปกติซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับ GPS ที่เขาเอาไปติดบนรถตู้ของคนร้ายลักพาตัว
"เป็นคนร้ายลักพาตัวครับ"เอซพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
ปัง เสียงทุบโต๊ะ
"จะมีคนธรรมดาอยู่ในเขตพื้นที่งานไม่ได้ยามาโตะนายช่วยคนพวกนั้นก่อนแล้วกันนะแล้วค่อยไปจัดการงาน"แรลี่พูดด้วยความเคร่งเครียด
"ครับคุณแรลี่"เอซพูดจบก็ออกตัววิ่งไปที่โกดังร้างด้วยความเร็วที่แม้แต่รถที่เร็วที่สุดยังเทียบไม่ได้
ระหว่างวิ่งอยู่นั้นที่มุมปากก็มีเลือดไหลเป็นทางจำนวนมากอยู่ด้วยเอซวิ่งมาถึงโกดังร้างก่อนจะไอออกมาเป็นเลือด
"แค่ก แค่ก แค่ก"เอซไอออกมาเป็นเลือดทันทีที่มาถึงโกดังร้าง
"ให้ตายสิร่างกายเฮงซวยแผลเก่ายังไม่หายเลยแท้ๆ"ถ้าพวกเขาสังเกตดีๆก็จะเห็นเลือดซึมจำนวนมากไหลออกมาจากร่างกายของเอซอย่างหนัก
"อึก เจ้าโรคบ้ามาเป็นอะไรตอนนี้"อยู่เอซก็ทรุดตัวลงทันที่พร้อมเอามือกุมหัวท่าทางดูทรมานมากๆเลยด้วย
"ยังไม่พอหรอกถ้าคิดจะหยุดฉันด้วยโรคแค่นี้ อึก"เอซลุกขึ้นยืนได้พร้อมกับท่าทางทรมงานมากๆ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!