...Chapter 1 ...
...'น้องชาย'...
ณ 2DRINKS.
เสียงเพลงคลอเบาๆภายในร้านสีขาวมินิมอลที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย วัสดุและของตกแต่งล้วนเป็นสีขาวดำคุมโทนกันไป กระจกใสรอบร้านสามารถมองเห็นถนนที่มีรถขับสัญจรกันไปมาวุ่นวาย ร้านถูกออกแบบมาเป็นตึกสองชั้น โดยด้านล่างเป็นคาเฟ่สำหรับคนชอบดื่มกาแฟและด้านบนถูกตกแต่งเป็นบาร์ขนาดเล็กที่ทำเอาไว้เพื่อเปิดให้ผู้คนเข้ามาดื่มยามค่ำคืนแถมยังมีระเบียงยื่นออกมาสามารถชมบรรยากาศได้อีกด้วย
ฉันตั้งใจทำร้านนี้เพราะความตั้งใจของฉันเป็นการส่วนตัว ด้วยความที่ชื่นชอบการเป็นบาริสต้าทำให้เป้าหมายของฉันทั้งชีวิตคือการเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเองและการมีบาร์ในยามค่ำคืนก็เป็นฝันที่อยากมีเหมือนกัน เลยทำให้ฉันจับทั้งสองอย่างเอามายำรวมกันจนได้ตึกแห่งนี้มา ตึกที่ยามเช้าเป็นคาเฟ่ ยามค่ำคืนเป็นผับกึ่งบาร์ ถึงแม้ว่าฉันจะแพ้แอลกอฮอล์ แต่ฉันก็ชอบที่จะมีร้านแบบนี้แหละนะ
(เสียงโทรศัพท์)
"ว่าไงซันไชน์"
[แกอย่าเพิ่งตกใจนะ...] เสียงปลายสายสั่นแปลกๆ
"อะไร แกมีอะไรก็ว่ามา ตอนนี้ลูกค้าเยอะ" ฉันบ่นปลายสายไป
[เพิร์ธถูกจับเมื่อเช้านี้]
"ใครจับ?" ฉันทำท่าสงสัย
เพิร์ธ คือน้องชายแท้ๆของฉันที่แยกไปอยู่กับพ่อ ส่วนฉันอยู่กับแม่ ตั้งแต่สมัยเด็กพ่อแม่แยกทางกันเราทั้งสองเลยต้องแยกกันไปทั้งสองฝั่ง แต่เราทั้งสองก็ยังติดต่อกันตลอดเป็นธรรมดาของเราสองพี่น้อง เพิร์ธเป็นเด็กค่อนข้างเกเร แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องเดือดร้อน อาจจะมีเถลไถลแต่ก็ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรไม่ดี
[ตำรวจน่ะสิ นี่แกลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันทำงานอะไร?] ปลายสายตวาดจนฉันต้องยื่นมือถือออกห่างจากหู
"แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมเพิร์ธถูกจับ เจ้าเด็กนั่นไปแว๊นเสียงดังอีกหรือไง?" ฉันถามเพราะน้องชายฉันชอบขับรถแต่งเสียงดัง
[เปล่า...]
"แล้วอะไรล่ะ รีบๆ พูดมา ฉันยุ่งอยู่" ฉันพูดไปมือชงกาแฟไป
[ฟังนะ...เพิร์ธถูกจับข้อหามียาเสพติดในครอบครอง!]
"ห้ะ!!"
หลังจากที่ได้รู้ว่าน้องชายตัวแสบโดนข้อหาอะไรก็ทำให้ฉันแทบจะทิ้งทุกอย่างแล้วขับรถตรงดิ่งไปยังสถานีตำรวจทันที ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเจ้านั่นจะถึงขั้นเล่นยา เพราะฉันรู้จักมันดี ของอันตรายแบบนี้เจ้านั่นไม่มีทางยุ่งแน่ๆ
ณ สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง
ฉันเดินตรงเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังยืนรอฉันอยู่หน้าห้องสอบสวน ถ้าให้เดาตอนนี้เจ้านั่นต้องกำลังถูกสอบปากคำอยู่แน่ๆ บางทีฉันอาจจะช่วยพูดได้ เพราะฉันคือพี่สาวแท้ๆ
"โรสๆ แกใจเย็นๆ ก่อนนะ ตอนนี้ตำรวจเขาไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบทั้งนั้น" ซันไชน์พูดดักฉันที่ทำท่าจะเข้าไปในห้องสอบสวน
"ซันไชน์ ทำไมเพิร์ธโดนข้อหานี้ ฉันมั่นใจนะว่าเจ้านั่นไม่มีทางเล่นยาแน่นอน"
"โรส แต่ภาพที่ตำรวจบุกจับคือเพิร์ธกำลังนอนเมายาอยู่นะ แกต้องตั้งสติก่อน"
"ไม่จริง ไม่จริงแน่ๆ" ฉันส่ายหน้าทันที
"พริมโรส แกมานี่ก่อน" ซันไชน์ลากฉันออกไปข้างนอก
"ซันไชน์"
"แกฟังนะโรส ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่ายามาจากไหนมากมายขนาดนั้น และเพิร์ธก็อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่มีทางที่เพิร์ธจะสามารถครอบครองยาได้เยอะขนาดนั้น นอกซะจากจะมีคนให้มา"
"แกจะบอกอะไร?"
"เราต้องกักตัวเพิร์ธเอาไว้เพื่อสืบพยานต่อสาวไปหาต้นตอที่มาของยา ตอนนี้เพิร์ธเป็นพยานคนสำคัญเพราะมันอาจจะสาวไปถึงคดีค้ายารายใหญ่ที่ฉันกำลังตามจับอยู่ ทางนี้เลยปล่อยเพิร์ธออกไปไม่ได้ รวมถึงงดเข้าเยี่ยมทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยของเพิร์ธเอง"
"แกจะช่วยเพิร์ธใช่มั้ยซันไชน์"
"ต้องช่วยสิ ฉันก็เห็นเพิร์ธมันมาตลอด น้องชายเพื่อนสนิททั้งคน ยังไงฉันก็ต้องช่วย"
"ขอบใจแกมากเลยนะ ถ้าแกมีอะไรให้ฉันช่วยแกบอกได้เลยนะ ฉันจะช่วยเอง"
"แกแน่ใจเหรอว่าจะช่วยได้?" ซันไชน์มองหน้าฉันทันทีราวกับกำลังจะให้ฉันช่วยบางอย่าง
"แล้วแกจะให้ฉันทำอะไรล่ะ?"
"ก่อนวันที่เพิร์ธถูกบุกจับ หมอนั่นไปผับหนึ่งในตัวเมืองซึ่งที่นั่นคนค่อนข้างเยอะหาตัวจับยากทั้งนั้น ฉันได้เข้าไปตรวจบ้างแต่ก็ไม่เคยเจออะไร ฉันเลยอยากให้แกช่วยเข้าไปสืบให้หน่อย บางทีคนธรรมดาเข้าไปอาจจะได้อะไรมากกว่าตำรวจเข้าไป"
"แล้วแกไม่รู้เหรอว่าใครเป็นคนแจ้งจับเพิร์ธ"
"เมื่อเช้ามีคนโทรมาแจ้งว่าได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกันพอเข้าไปดูก็เห็นแต่เพิร์ธกำลังนอนอยู่ ข้างๆมีเฮโรอีนอยู่ในห่อกระดาษ รวมไปถึงอุปกรณ์ในการเสพด้วย"
"ไม่มีใครอยู่ด้วยเลยเหรอ?"
"ใช่ คงจะหนีกันไปหมดนั่นแหละ"
"งั้นวันนี้ฉันจะไปที่นั่น"
"วันนี้?"
"อืม แกไม่ต้องห่วง ไม่มีใครรู้หรอก"
"แล้วร้านแกล่ะ"
"เดี๋ยวฉันให้เด็กๆ ที่ร้านดูแลได้อยู่หรอก" ฉันพูด
"โอเค ยังไงเดี๋ยวฉันจะไปรับ"
"โอเค"
เอาล่ะ มาถึงขั้นนี้แล้วฉันต้องช่วยเจ้าเพิร์ธ ก็แค่เข้าไปสืบอะไรนิดๆหน่อยๆ คงไม่มีอะไรน่าห่วงมากมายขนาดนั้น แต่สถานที่นั้นฉันไม่เคยไปเลยสักครั้งแล้วแบบนี้ฉันจะรอดมั้ยล่ะเนี่ย
ณ Blue Moon Bar
ชุดที่เลือกใส่เป็นเดรสผ้าซาตินสีขาวปาดไหล่โชว์ช่วงเอว คาดด้วยสร้อยเอวทำให้เห็นเอวคอดชัดเจน กระโปรงสั้นเรียบรับสรีระหุ่นนาฬิกาสวยทำให้ใส่ชุดนี้แล้วดูเซ็กซี่ไม่เบาเลยล่ะ
"นี่ต้องมากันหมดเลยเหรอ" ฉันถามเพราะเพื่อนฉันเล่นมากันครบทั้งสี่คนเลยน่ะสิ
"ให้พวกฉันช่วยเถอะ แกคนเดียวไม่ไหวหรอก" ปรอยฝนพูด
"นี่พวกแกเข้าไปกันเลยนะ ฉันมีงานด่วนเข้า" ซันไชน์พูดขึ้นท่าทางเร่ง
"อ้าว งั้นรีบไปเถอะๆ เดี๋ยวทางนี้ฉันดูแลเอง" ปรอยฝนพูด ทำให้เราโบกมือลากับซันไชน์ก่อนจะหันหน้าเข้าไปในผับนั้น
เราเดินผ่านการตรวจบัตรเขามาก่อนจะเดินหาที่นั่งซึ่งที่นี่คนค่อนข้างแน่น การจะหาที่นั่งเลยลำบากนิดหน่อย
"ทำไมคนถึงเยอะขนาดนี้เนี่ย" โจนาสบถ
"น่าสนุกชะมัด อะไรแบบนี้" ปรอยฝนพูดหลังพวกเรานั่งลงที่โต๊ะ
ฉันมองไปรอบๆร้านที่มีผู้คนเต็มไปหมด รวมไปถึงเสียงดนตรีที่ค่อนข้างดังกระหึ่มจนเกือบจะไม่ได้ยินเสียงพูดคุย
สายตาของฉันไปสะดุดเข้ากับผู้ชายคนนึงเขานั่งอยู่ตรงข้ามกับฉันทางด้านมุมสุด ผู้ชายเจ้าของเรือนผมสีดำสนิท นัยน์ตาคมสวยดูมีเลศนัยตลอดเวลา จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าเรียว ริมฝีปากบางกระดกแอลกอฮอล์สีสวยราวกับดื่มน้ำ สาวๆรายล้อมทั้งสองข้างในอ้อมกอด เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดกระดุมออกสองเม็ดจนเห็นแผงอกของเขา
"ห้ะ!" ฉันอ้าปากค้างทันที เพราะหมอนั้นคือคนที่ฉันเดินชนเมื่อวันก่อน
เมื่อวันก่อน
ฉันกำลังออกจากคอนโดโดยการเดินเลียบสวนสาธารณะใกล้ๆ ไป ทุกอย่างปกติ แต่แล้วฉันก็ได้เหลือบไปเห็นผู้ชายคนคุ้นเคย
'เอซ!'
ฉันรีบหลบไปข้างต้นไม้ก่อนจะชนเข้ากับผู้ชายคนนึง ร่างสูงประคองร่างฉันเอาไว้ แต่สายตาของฉันยังคงจับจ้องอยู่ที่เอซจนไม่ได้สนใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคน
ทันทีที่เอซเดินออกไปจนลับสายตาฉันเลยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันเข้ามาเจอกับผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายเจ้าของใบหน้าหล่อราวฟ้าประทาน นัยน์ตาคู่สวยสีเทากับเรือนผมสีดำเงาสลวย ริมฝีปากที่กำลังกระตุกยิ้มหน่อยๆ
"เฮือก! เอ่อ...ขอโทษค่ะ" ฉันรีบถอยออกมาทันทีแต่กลับถูกรั้งแขนเอาไว้
"เดี๋ยวสิ!"
"คะ?"
"เธออ่อยฉันแล้วจะไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?"
"ใครอ่อย?" ฉันทำหน้างง
"นี่ ฉันว่าเธออย่าทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย ผู้หญิงที่เข้าหาฉันก็เพราะเรื่องอย่างว่าทั้งนั้น"
"นี่นายต้องการจะสื่ออะไร"
"หึ เธอนี่ตลกดีนะ ฉันชักสนใจเธอแล้วสิ"
"ถ้านายคิดว่าฉันจะเป็นอย่างผู้หญิงที่นายบอกล่ะก็ นายหลบไปเถอะ ฉันไม่ใช่คนประเภทนั้น"
"แต่ฉันสนใจเธอ นอนกับฉันสิ"
"อีตาโรคจิต!"
ตุบ!!
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป...^^^
...Chapter 2...
...'เทรย์'...
"อีตาโรคจิต!" ฉันพึมพำออกไป
"แกรู้จักเหรอ"
"เปล่า"
"หล่อชะมัดดด" โจนาพูด
"ท่าทางดูหื่นกามชะมัด" ฉันพูด
"นั่นเทรย์เลยนะ ไม่ได้หื่นกามอย่างแกว่าหรอก แต่เขามีภาพลักษณ์ที่ป้องกันตัวเองไว้ต่างหาก"
"แกรู้จักหมอนั่นด้วยหรือไง?" ฉันหันไปถามปรอยฝน
"รู้จักสิ รู้จักนานแล้วด้วย เทรย์น่ะนะ.." ปรอยฝนกำลังจะเอ่ยปากแต่ฉันรีบดักคอก่อน
"พอ! ไม่ต้องอธิบาย ฉันไม่อยากฟัง"
"รู้หน่อยก็ดีนะ เพราะเขาอาจจะมีอะไรเชื่อมโยงกับคดีที่แกอยากรู้ก็ได้" ปรอยฝนพูด
"คนแบบนั้นจะไปเกี่ยวอะไร" ฉันบ่น
"มันก็ไม่แน่นะ เห็นมีแต่สาวๆเข้าหาแบบนั้น แต่รอบๆห่างไปนิดก็มีบอดี้การ์ดยืนคุมไม่ห่างเลยนะ หมอนั่นไม่น่าธรรมดานะ" โจนาพูด
"ลองเข้าหาดูมั้ย"
"ไม่มีทาง!" ฉันพูดดัง
"แล้วนี่คืนนี้จะได้อะไรมั้ยล่ะเนี่ย" โจนาสบถ
"ลองดูหน่อยน่าโรส บางทีอาจจะดีกว่าเรากลับมือเปล่านะ" ปรอยฝนพูด
"แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ"
"ก็แค่เนียนเข้าไปคุยด้วย หรือเดินชน อะไรก็ได้น่ะ" โจนาพูด
"แล้วจะได้อะไรล่ะ"
"นี่ ถ้าแกยังถามมากอยู่แบบนี้ เกิดเขาห...หายไปไหนแล้ว" ปรอยฝนพูดก่อนจะหันไปอีกทีก็ไม่เจอร่างของเทรย์แล้ว
" หาฉันเหรอ?" เสียงลมอุ่นๆกระซิบข้างหูจนฉันสะดุ้งโหยง
"นาย! มาตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่" ฉันถามทันที
"ก็เห็นจ้องฉันอยู่ไม่ใช่หรือไง"
"เห็นด้วยเหรอเนี่ย" ฉันหันไปถามเพื่อนสองคนที่ตอนนี่เริ่มถอยออกห่างเรื่อยๆ
"เทรย์ฉันฝากโรสหน่อยนะ ฉันกับโจนามีธุระด่วนน่ะ" ปรอยฝนพูดก่อนจะโบกมือให้ฉัน ส่วนโจนาทำท่าชูสองนิ้วพร้อมยิ้มอย่างสนุก
"มาหาฉันทำไม"
"เปล่านี่"
"แล้วมาที่นี่ทำไม"
"เอ่อ...มาเที่ยว" ฉันพยายามโกหก
"จริงเหรอ?" ใบหน้าเขาดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
"เอ่อ...นายมานานหรือยัง"
"นานแล้ว ทำไม?"
"เปล่า เฮ้อ กลับดีกว่า ไม่เห็นสนุกละ..นาย!" ฉันทำท่าลุกจะเดินกลับแต่กลับถูกเขารั้งแขนเอาไว้
"อยู่ด้วยกันก่อนสิ"
"ฉะ...ฉัน"
"คุณเทรย์ครับ อีกาล่าเหยื่อแล้วครับ" บอดี้การ์ดคนนึงเดินเข้ามาพูดบางอย่าง
อีกาล่าเหยื่อ...คืออะไร?
"ส่งคนไปจับตาดู"
"ครับ"
"คืออะไร?" ฉันถามเขาอย่างสงสัย
"อะไร?"
"ก็...ที่คนเมื่อตะกี้บอก"
"เธอจะอยากรู้ไปทำไม"
"ก็..."
"หรือเธอ...มาหาอะไร?" เขาถามสายตาที่ดูสงสัยกำลังจ้องกดดันฉัน
"เปล่าๆ ก็แค่สงสัย"
"ดี มาที่นี่สิ่งที่เธอควรจะรู้เอาไว้คือ...ไม่ยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง"
"ดีงั้นฉันจะไม่ยุ่งกับนาย" ฉันพูดก่อนจะเดินออกมา
ไม่เห็นได้อะไรจากหมอนั่นเลย นอกจาก..อีกาล่าเหยื่อ คืออะไรนะ
"เฮ้ย! วันนี้มึงไปอีกมั้ยวะ เห็นว่ารอบนี้มีเพียบเลย" เสียงผู้ชายสองคนกำลังคุยกัน ฉันเลยทำท่ายืนเล่นโทรศัพท์แอบฟังอยู่ไม่ไกลมาก
"เออ เอาดิวะ วันก่อนยังไม่ทันได้เล่นเลย แม่งของหายอีก"
"เออแล้วใครเป็นคนเอาของไปวะ" เสียงที่คุยปกติเริ่มคุยกันเบาลงจนกลายเป็นคนสองคนนั้นกำลังกระซิบกันอยู่
"ไปดีกว่าว่ะ คืนนี้กูพร้อมมาก!" ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วเดินไปทันที ทิ้งให้ฉันกำลังยืนประมวลผลบางอย่างกับสิ่งที่พวกนั้นพูดถึง
แสดงว่าที่นี่มีการเล่นยากันจริงๆสินะ
"น้องสาว มาคนเดียวเหรอจ้ะ ไปดื่มกับพี่ที่โต๊ะมั้ยจ้ะ" ผู้ชายท่าทางเมาคนหนึ่งเข้ามาทักฉัน
"เมาก็กลับโต๊ะไปเถอะ" ฉันสบถแล้วเดินออกมา
"เดี๋ยวสิ ดื่มสักหน่อยสิ จะได้ไปสนุกกัน"
"เอ้ะ! ก็บอกว่าไม่ไง!" ฉันตะคอกกลับไป
"เฮ้ย ขึ้นเสียงเหรอวะนังนี่ เดี๋ยว ปั๊ด! เลยนี่" เขาทำท่ายกมือจะตบฉัน ทำให้ฉันเหลือบไปเห็นแขนของผู้ชายคนนั้นที่เต็มไปด้วยรอยเข็ม
หมอนี่คงไม่ได้ป่วยแน่ๆ
"แกจะทำอะไรผู้หญิงของฉัน!" เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนจะเข้ามาดึงแขนฉันไปหลบด้านหลัง
"คุ คุคุณเทรย์ ผะผม ผมขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่า..." ไม่ทันได้พูดจบผู้ชายคนนั้นก็ถูกผู้ชายที่เป็นบอดี้การ์ดจับตัวออกไปทันที
"อยู่ในที่แบบนี้ไม่น่าต้องสอนหรอกมั้งว่าอย่าไปเล่นลิ้นกับคนเมา" เขาพูดก่อนจะยืนกอดอกจ้องมาที่ฉัน
"นายรู้จักคนๆนั้นเหรอ" ฉันถามเขา
"ไม่รู้จัก"
"แล้ว..."
"อยากถามต่อเหรอ...ไปถามที่ห้องมั้ย?"
นี่หมอนี่เป็นพวกหื่นกามหรือไง
"นี่นาย! ฉันบอกแล้วไง..."
"แล้วไงครับ?" ใบหน้านิ่งๆของเขาก้มลงมาใกล้จนปลายจมูกเกือบจะชิด ทำฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สมองโล่งขาวโพลนไปทันที
"เปล่า.."
บางทีหมอนี่อาจจะรู้อะไรมากกว่าที่เห็นในนี้ก็ได้ เพราะคนที่นี่ดูรู้จักและกลัวเขาจังเลย แบบนี้ไม่น่าดีแน่ๆ
"ฉันชื่อเทรย์ เธอล่ะ?" เขาถาม
"พริมโรส"
"ดื่มหน่อยมั้ย ฉันเลี้ยงเธอเอง"
"ไม่เป็นไร ฉันไม่ดื่ม"
"ทำไมล่ะ"
"ถ้านายถามฉัน ฉันก็จะถามนายกลับนะ!"
"งั้นเรามาแลกกันคนละคำถามมั้ยล่ะ"
"หมายถึง?"
"เธอถามฉัน ฉันถามเธอกลับ แฟร์ๆ"
"ดี งั้นฉันขอถามนายก่อน นายรู้จักผู้ชายคนเมื่อกี้มั้ย"
"ไม่ เธอมีแฟนหรือยัง"
"ยัง แล้วทำไมคนๆนั้นถึงดูมีท่าทีกลัวนาย นายเป็นใคร"
"ถามเกินนะครับ"
"อ่า...นายเป็นใครกันแน่"
"ฉันก็คือฉัน คนจะกลัวไม่กลัว ฉันจะรู้ได้ไง"
บ้าจริง จะถามยังไงดีล่ะเนี่ย หมอนี่ดูหลบได้ทุกคำถามเลย
"แล้วเธอจะอยากรู้เรื่องคนๆนั้นไปทำไม"
"ก็ฉันแค่สงสัย" ฉันพยายามทำตัวเลิ่กลั่กให้น้อยที่สุด เพราะปกติฉันก็โกหกไม่เนียนอยู่แล้ว
"พอดีกว่า ฉันชักเบื่อปัญหาถามตอบไร้สาระพวกนี้แล้ว"
"นี่ แต่ฉันยังมีคำถามอยู่เลยนะ"
"งั้นก็ไปถามฉันที่ห้องสิ" เขากระซิบ
"นี่! ถ้านายยังไม่เลิกหื่นกามตอนนี้ ฉันจะกลับแล้วนะ!" ฉันตวาด
"ใจเย็นๆสิ ดื่มกันหน่อยดีกว่า"
"ไม่ดื่ม!" ฉันพูดแล้วทำท่าจะลุก
"คุณเทรย์ครับ คุณท่านเรียกพบด่วนครับ"
เอ้ะ! ประโยคนั้นทำฉันสตั้นไปสามวิ
"อืม เดี๋ยวตามไป" เขาตอบก่อนจะเดินมาหาฉัน "ผมมีเรื่องให้คุณช่วย"
"ช่วย?"
19.47 น.
ฉันถูกเทรย์พาตัวมายังบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งอยู่นอกเมืองมาอีกฟากที่มันไกลพอสมควรเลยล่ะ ว่าแต่หมอนี่จะพาฉันไปหาใครเวลานี้กันนะ
"สวัสดีครับคุณเทรย์ คุณท่านรออยู่ด้านในห้องรับแขกครับ" เสียงพ่อบ้านวัยกลางคนกล่าวทันทีที่เราลงจากรถ
"เรียกผมมามีอะไร" เทรย์พูดขึ้นทันทีที่เราเดินเข้ามาภายในห้องโถงกว้าง ภายในตกแต่งด้วยของเก่ามากมาย และส่วนมากจะเป็นของที่หายากทั้งนั้นเลยด้วย
"หึ ยัยหนูนี่เป็นใคร ฉันบอกให้แกมา ไม่ได้ให้แกเอาผู้หญิงของแกมาด้วย" ชายชราหันมากล่าว ร่างของเขานั่งอยู่บนวีลแชร์ ใบหน้าดูดุจนน่ากลัว ข้างๆของเขามีบอดี้การ์ดสองคนยืนดูแลอยู่ห่างๆ ดูท่าทางแล้วนี่คงเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้สินะ
"คุณปู่ไม่ได้บอกนี่ครับว่าห้ามเอาคนอื่นมาด้วย"
ปู่? นี่คือปู่ของอีตาเทรย์เหรอเนี่ย แต่ทำไมท่าทางดูไม่ลงรอยกันเลย แถมยังดูมีปัญหากันอีกด้วย
"แกนี่มันปากดีจริงๆ คงได้เชื้อพ่อแกมาเยอะสิท่า ขาดผู้หญิงไม่ได้"
"ก็คงเหมือนคุณปู่แหละครับ"
"นี่แก!"
นี่สองปู่หลานเขาคุยอะไรกันแบบนี้เหรอเนี่ย บรรยากาศดูอึมครึมไม่น่ามาคุยอะไรกันแบบนี้เลย แล้วทำไมเทรย์ต้องเอาฉันมาด้วยล่ะเนี่ย
"คุณปู่เรียกผมมาจะพูดอะไรก็รีบพูดเถอะครับ ผมมีธุระต้องไปทำต่อ"
"เหอะ ฉันจะให้แกไปดูตัวกับลูกท่านประธานเย็นพรุ่งนี้ แล้วแกก็ห้ามปฏิเสธเพราะถ้ารอบนี้แกปฏิเสธ ฉันจะไม่ช่วยอะไรแม่แกอีก!"
"นี่คุณปู่คิดว่าตัวเองเป็นใครครับ ถึงได้จับคลุมถุงชนไปทั่ว แค่พ่อเลิกกับแม่มาให้มันก็มากพอแล้ว ทำไมถึงยังต้องมาบังคับผมด้วย"
"แกมันเด็กไม่รู้อะไร ชีวิตในด้านธุรกิจไม่มีใครเขามาสนความรู้สึกอะไรกันหรอกนะ เขาสนกันแค่ธุรกิจแล้วก็เงินทองทั้งนั้นแหละโว้ย"
"แต่ผมไม่สน ต่อให้คุณปู่จะฆ่าผม ผมก็ไม่มีทางทำตามที่ปู่บอกเด็ดขาด ถ้าอยากทำธุรกิจกันมากก็ไปเอาลูกคนที่คุณปู่เลือกมาสิครับ จะมาเลือกผมที่เป็นลูกนอกสมรสทำไม!"
ลูกนอกสมรส!!??
"แกกล้าเถียงฉันเหรอ!!"
ตุบ!
เฮือก!!
ชายชราหยิบไม้เท้าข้างๆฟาดใส่หน้าเทรย์จนเลือดไหลออกมาทันที ทำเอาฉันชะงักไปตามๆกัน นี่บ้านนี้เขาเลี้ยงลูกกันด้วยไม้หวายหรือไง ทำไมถึงใช้ความรุนแรงขนาดนี้
"อย่านะคะ!!" ฉันรีบเข้าไปขวางทันทีที่ชายชรากำลังง้างมือจะฟาดอีกทีทำให้ไม้กระแทกโดนแขนฉันเต็มๆ "โอ๊ย!!"
"โรส!"
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป...^^^
...Chapter 3...
...'เอซ'...
"โรส!" เทรย์เบิกตากว้างคว้าแขนฉันไปดูทันที มันเจ็บและปวดมากๆจนร้องไม่ออก แต่มันทรมานมาก
"ใครให้เธอเข้ามาขวาง ฉันจะจัดการไอ้หลานเลวนี่!"
"พอเถอะนะคะ จะใช้ความรุนแรงไปทำไมคะ ในเมื่อสุดท้ายแล้วถ้าเขาเลือกที่จะไม่ทำ ยังไงก็คือไม่ทำค่ะ ฆ่ากันให้ตายยังไงก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ อย่าใช้ความรุนแรงเลยนะคะ" ฉันพูดห้าม
"เธอเป็นใครถึงได้มาสอนฉัน เป็นแค่ผู้หญิงต่ำๆ มาเกาะมันสิท่า"
"อย่าพูดคำนั้นกับผู้หญิงของผม คุณไม่มีสิทธิ์พูดดูถูกคนอื่นแบบนี้ และผมขอบอกกับคุณตรงนี้ ถ้าคุณกล้าทำอะไรคนของผมหรือส่งคนไปข่มขู่แม่อีก ผมจะไม่มีวันทำตามคำสั่งของคุณอีก" เทรย์ตะคอกสุดใจร่างแกร่งสั่นเทาด้วยความโมโหก่อนจะเข้าพยุงร่างฉันเดินออกมาทันที
"หึ ปากดีให้มันตลอดไปเถอะ!"
ทันทีที่ขึ้นรถเทรย์ก็รีบขับรถออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว ทำเอาฉันที่ยังงงกับเหตุการณ์ตกใจและทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
"ฉันขอโทษ"
"เรื่องอะไร?"
"ที่พาเธอมาเจ็บตัว"
"นายไม่ได้เป็นคนทำสักหน่อย คุณปู่นายต่างหาก"
"ถ้าฉันไม่พาเธอมาด้วย เธอก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้"
"ไปทำแผลก่อนมั้ย" ฉันพูดกับเขาที่ตอนนี้เลือดตรงหน้าผากยังไหลออกมาไม่หยุด
"ไม่เป็นไร แผลแค่นี้ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก"
"แผลแค่นี้ไม่ตาย แต่ถ้าติดเชื้อขึ้นมา ก็ตายได้เหมือนกันนะ"
"เธอรีบไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการตัวเองเอง"
"เทรย์...นายมีเรื่องอะไรไม่สบายใจอีกหรือเปล่า" ฉันถามเขาที่กำลังทำหน้านิ่งเหมือนมีเรื่องครุ่นคิดในใจ
เทรย์หันมาจ้องหน้าของฉันนิ่งๆ นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องมาที่ฉันจนรู้สึกทำตัวไม่ถูก ใบหน้าหล่อแปดเปื้อนไปด้วยความนิ่งเฉย สายตาคู่นั้นที่ฉันเดาไม่ออกเลยสักนิดว่าเขากำลังต้องการอะไร แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขากำลังเคลื่อนมาใกล้ฉันเรื่อยๆจนปลายจมูกเราเริ่มแตะกัน ริมฝีปากบางถูกคนตัวใหญ่ครอบครองเป็นที่เรียบร้อย สัมผัสนุ่มและเบาจนรู้สึกโหวงๆอย่างบอกไม่ถูก
ริมฝีปากที่กำลังบดจูบอย่างละมุน ฉันทำได้เพียงหลับตาพริ้มรับรสจูบที่เขากำลังส่งมอบให้ มือหนาประคองใบหน้าฉันเอาไว้ไม่ให้ขยับหนี เราสองคนผลัดแลกจูบกันเกือบนาทีก่อนที่ฉันจะผละเขาออก
เขาทำให้ฉันเกือบขาดใจ หัวใจเต้นสั่นรัวราวกลองสะบัดชัยที่ถูกตีย้ำๆซ้ำๆ ในหูอื้อ ใบหน้าร้อนผาวอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ขอ..โทษ" เทรย์พูดแล้วหลบตาทันที
"อื้อ.." ฉันตอบกลับอย่างร้อนรน ในใจกำลังสั่นระรัว สมองทำได้แต่สั่งการให้หัวใจฉันกลับมาเต้นปกติ แต่ตอนนี้มันยากเหลือเกิน
"ทำแผลให้ฉันหน่อยสิ"
"อ่า...ได้สิ เข้าไปในร้านก่อน ตอนนี้ชั้นล่างคงไม่มีอะไรแล้ว" เพราะตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว ร้านด้านล่างคงถูกปิดแล้วเปิดบาร์ทางด้านบนแทน ส่วนมากถ้าเป็นเวลาของบาร์ ข้างล่างจะไม่มีใครสามารถเข้าได้นอกจากฉัน
"นี่ร้านเธอเหรอ" เขาพูดพลางมองไปรอบๆร้าน
"ใช่ ร้านฉันเอง ตอนนี้ข้างบนเป็นผับ อยากขึ้นไปดูมั้ยล่ะ แต่หลังจากทำแผลนะ"
"เอาสิ" เขายกยิ้มให้ฉันเล็กน้อย
เราทั้งสองเข้ามาภายในร้านกาแฟ ฉันเปิดเพียงโคมไฟเล็กด้านบนเพดาน เพราะเลี่ยงการเป็นจุดสนใจจากภายนอก เวลานี้ถ้ามีคนเห็นคงคิดว่าเราสองคนเป็นขโมยแน่ๆ
ฉันหยิบกล่องยาขึ้นมาก่อนจะเริ่มทำแผลให้เขา สายตาของฉันพยายามหลีกเลี่ยงมากๆที่จะจ้องตาเขา เพราะสายตาของเขาอันตรายมาก แถมตอนนี้ภาพที่เราอยู่ บรรยากาศต่างๆมันก็ดันเข้าทางเขาซะด้วย ฉันจะต้องไม่เผลอใจเด็ดขาด!
หมับ
มือหนาจับมือของฉันที่กำลังเช็ดทำแผลให้เขา
"เจ็บเหรอ?" ฉันถามเขาที่จับมือฉันเอาไว้
"เปล่า..."
"งั้นก็อยู่นิ่งๆสิ"
"แต่แขนเธอก็เจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไง" เขาพลิกแขนฉันก่อนจะถกแขนเสื้อขึ้นจนเห็นรอยแดงเป็นจ้ำชัด
"นิดหน่อยเอง ไม่ได้เลือดซิบแบบนายสักหน่อย"
"มานี่" เขารั้งแขนฉันเข้าหาตัวพร้อมหมุนร่างฉันให้นั่งลงบนตักเขาพอดี ทำได้ยังไงเนี่ย
"นี่คุณ!"
"อยู่นิ่งๆ" เขาว่าแล้วหยิบยาขึ้นมาทาให้ทันที
ขณะที่ฉันกำลังจดจ่ออยู่กับการทายาของเขามือหนาอีกข้างก็เลื่อนขึ้นมาปัดผมฉันรวบเอาไว้อีกด้านจนเผยให้เห็นต้นคอ ลมหายใจอุ่นๆเริ่มสาดรดต้นคอของฉันจนขนลุกซู่ ริมฝีปากของเขาค่อยๆเริ่มไล้ไปตามลำคอก่อนจะเข้าประกบจูบปากฉันแน่น มือหนากอดรั้งเอวฉันเข้าหาตัวเขาแน่น ปากทั้งสองยังประกบกันผลัดเปลี่ยนแลกรับจูบกันไปมาอย่างเร่าร้อน ความหอมหวานค่อยๆแผ่ซ่านเข้ามาเรื่อยๆจนทั้งสองเริ่มถลำลึกไปเรื่อยๆ มือหนาเลื่อนสอดมือลูบต้นขาเนียนเบาๆทำเอาฉันสะดุ้งไปที แต่ไม่ทันได้ตกใจเขาก็เริ่มเกลี้ยกล่อมฉันด้วยจูบแสนหวานนั้นอีกครั้ง
ไม่นะ แบบนี้ไม่ได้นะ
"ยะ..อย่านะ!" ฉันรีบตั้งสติห้ามเขาเอาไว้ทันที
"ขอโทษ"
ไม่ไหวแล้ว เหมือนกำลังจะขาดใจตายเลย ผู้ชายคนนี้อันตรายชะมัด
"นายจะขึ้นไปข้างบนหรือเปล่า"
"เอาสิ น่าสนุกดี"
"งั้นนายขึ้นไปก่อนเลย ฉันขอทำธุระตรงนี้ก่อน"
"อืม"
ทันทีที่ร่างสูงเดินออกไปฉันก็ทรุดตัวลงนั่งทันที ฉันได้แต่พยายามกอบโกยอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำฉันเกือบขาดใจตายแน่ะ
โรสแกจะหวั่นไหวกับคนแบบนั้นไม่ได้นะ!
"ท่าทางเธอดูมีความสุขดีนะ โรส"
"เอซ!!" ฉันสะดุ้งโหยงทันทีที่เห็นร่างของเอซกำลังยืนกอดอกมองฉันอยู่
เขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาได้ยังไง หรือเขาสะกดรอยตามฉันมา
"ทำหน้าอย่างกับเห็นผีแน่ะ ตกใจอะไรขนาดนั้นหรอที่รัก" เอซยกยิ้มก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ
"นายอย่าเข้ามานะเอซ!"
"ทำไมล่ะ ไอ้เทรย์มันยังทำแบบนั้นกับเธอได้เลยนี่ แล้วฉันล่ะ ฉันก็ต้องได้มากกว่ามัน จริงมั้ย?"
เอซรู้จักเทรย์ด้วยงั้นเหรอ?
"ถ้านายก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว เราได้สู้กันแน่!" ฉันพูดดักเขา
"เธอก็รู้ว่าเธอไม่เคยชนะฉันเธอยังคิดจะสู้อีกเหรอ?" เขายกยิ้มเยาะ
"ฉันสู้แน่ ต่อให้แพ้ ยังไงฉันก็จะสู้"
"หึ เธอยังแข็งข้อกับฉันเสมอไม่เปลี่ยนเลยนะ"
"นายก็ตามรังควานฉันไม่หยุดเลยนะ ฉันบอกนายไปตั้งกี่รอบแล้ว ว่ายังไงฉันก็ไม่มีทางหมั้นกับนาย"
"เธอรีบตัดสินเกินไปหรือเปล่า ฉันอุตส่าห์ให้เวลาเธอหนีออกมาตั้งหลักตั้งสองปี ป่านนี้เธอยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจอีกเหรอโรส"
"ไม่มีทาง นายก็รู้ว่านายทำอะไรกับฉันไว้บ้าง"
"เรื่องสมัยเรียน ฉันก็แค่แกล้งเพราะสนใจเธอก็แค่นั้น"
"แต่ฉันไม่ได้ชอบนาย กลับไปเถอะ"
"โรส..." เอซทำท่าจะเข้าใกล้
"อย่ามาแตะตัวฉัน!" ฉันสะบัดมือหลบเขา
"ไอ้เอซ!!"
ตุบ!! ผัวะ!!
เทรย์เข้ามาเห็นก่อนจะกระชากเอซออกไปต่อยจนเขาล้มเซไปทันที
"เหอะ!"
ตุบ!!
ผัวะ
ตุบ
โคร่มม
เสียงสองคนนั้นกำลังต่อยตีกันจนข้าวของกระจัดกระจาย ทั้งเอซและเทรย์ไม่มีใครยอมใครแม้แต่คนเดียว ฉันพยายามจะเข้าไปห้ามแต่กลับถูกผลักออกมา
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! ทั้งสองคน!!!" ฉันตะคอก ทำให้ทั้งสองที่กำลังจะต่อยกันถึงกับหยุดหมัดแล้วหันมาทางฉันทันที
"ถ้าจะตีกันไปตีที่อื่น อย่ามาตีที่ร้านฉัน! ออกไป!!" ฉันตะคอกด้วยความโมโหก่อนจะผลักทั้งสองคนนั้นออกจากร้าน
"โรส! เธอเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" เสียงเทรย์กลับเข้ามาหาฉันด้วยสภาพคิ้วแตก เลือดออกมุมปากแถมแขนยังโดนเหมือนรอยมีดบาดอีกด้วย
"ฉันไม่เป็นอะไร แต่นาย..เลือดออก" ฉันชี้
"ฉันไม่เป็นไร เธอเถอะ ไอ้เอซมันทำอะไรเธอมั้ย" เทรย์ถามพลางสำรวจฉัน
"เปล่า แล้วนี่นายกลับมาได้ยังไง"
"ฉันให้คนมันจัดการแล้ว ไม่ต้องห่วง"
"นายเจ็บหรือเปล่า ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้นายต้องลำบาก"
"ไม่ต้องขอโทษหรอก ไม่ใช่ความผิดเธอ"
"เดี๋ยวฉันทำแผลให้ใหม่นะ"
"เอซมันไม่มีทางยอมปล่อยเธอไปง่ายๆหรอกนะ" จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
"ฉันก็พยายามหนีเขาอยู่นี่ไง"
"การหนีไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ"
"อย่างน้อยฉันก็ขอเวลาอยู่กับตัวเองสักพัก"
"เอซมันไม่ปล่อยเธอไว้นานหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมาหาเธออีก"
"แล้วฉันต้องทำยังไง"
"ไปอยู่กับฉัน"
"ห้ะ?"
"ตอนนี้ปู่ฉันเห็นเธอแล้ว ฉันอยากให้เธอมาเป็นแฟนปลอมๆให้ฉันสักพัก"
"หมายความว่า? นายจะให้ฉันแกล้งเป็นแฟนนาย เพื่อหลอกคุณปู่นายน่ะนะ"
"ใช่ แลกกันกับไอ้เอซให้ออกห่างจากเธอด้วย"
"แล้วเรื่องดูตัวของนายวันพรุ่งนี้ล่ะ"
"เรื่องนั้นฉันจะจัดการเอง"
"แล้วนี่ นายกับปู่มีเรื่องอะไรผิดใจกันเนี่ย"
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนั้นหรอก"
"แต่ว่านะ..ฉันก็ต้องทำงานนะ"
"ฉันจะคอยมารับมาส่งเธอเองไม่ต้องห่วง"
"นายไม่ได้คิดอะไรไม่ดีใช่มั้ย?"
"แลกกับที่เธอช่วยฉันจากปู่"
"เรื่องแค่นั้นอะนะ"
"อืม ปู่ไม่จบกับฉันแค่นั้นหรอก"
"หมายความว่าไง?"
"ฉันกลัวปู่จะลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย ทางที่ดีในระยะนี้ให้เธออยู่ในความดูแลของฉันจะดีกว่า"
"นี่นายกำลังหลอกให้ฉันกลัวหรือเปล่าเนี่ย"
"รอดูสิ ถ้าเธอไม่เชื่อ"
"โอเค ฉันจะรอดู"
"หมายความว่า?"
"ฉันจะยังไม่รับข้อเสนอของนาย"
"แล้ว?"
"แล้วฉันจะบอกนายไปเอง"
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป...^^^
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!