**ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น อาจมี คำพูด เนื้อหาและเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม **
โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน
ณ สำนักงานสืบสวนในเมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส
.
"เอาล่ะยัยบื้อ ฉันมีภารกิจมาให้เธอทำ" อาเธอร์เอ่ยปากพูดกับคนตัวเล็กข้างหน้าเขา
"อะไรอีกอ่ะ" มิเชลตอบด้วยความไม่เต็มใจพร้อมกรอกตามองบนใส่อาเธอร์
"เธอต้องปลอมตัวเข้าไปเป็นนักเรียนในโรงเรียน ELJ - Espace Lyon-Japon เพื่อหาข้อมูลในเอกสารของผอ.โรงเรียนนั้น เพราะว่าตอนนี้สำนักงานเรากำลังสงสัยว่าไอผอ.นั่น ทำการยัดเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่ยอมจ่ายค่าแรงให้คุณครูที่ทำงานอยู่ โรงเรียนนี้จะอยู่ในเขตลียง" อาเธอร์ได้มอบหมายหน้าที่ให้อีกคน
"ฉ้อโกงว่างั้น?" มิเชลเอ่ยถาม
"อืม ก็ประมาณนั้นแหละ" อาเธอร์ตอบ
"อ่าๆ จะลองดู" มิเชลกล่าวเอาไว้
"รู้เรื่องอยู่ใช่มั้ย?" อาเธอร์ถาม
"Bien sûr que je sais (แน่นอน ฉันรู้)" มิเชลตอบ ***ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
"โอเค รู้ก็ดี ฉันไปล่ะ" อาเธอร์ตอบรับ
"แต่แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?" มิเชลเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง
"ฉันมีอย่างอื่นต้องทำต่อ ไปล่ะ" อาเธอร์ตอบ
เมื่ออาเธอร์โต้ตอบคำถามมิเชลจบ ก็ได้เดินออกไป ในขณะที่ปล่อยให้มิเชลยืนงุนงงอยู่คนเดียวว่าทำไมต้องเป็นเธอ
09:30 น.
*ณ โรงเรียน **ELJ - Espace Lyon-Japon ในเขตลียง*
- ห้องเรียน -
"เอาล่ะนักเรียน วันนี้มีเด็กใหม่ย้ายเข้ามาในโรงเรียนของเรานะคะ อยู่ห้องเดียวกับพวกเรานี่แหละค่ะ ให้นักเรียนดูแลเพื่อนด้วย ห้ามแกล้งเพื่อนเด็ดขาดเลยนะคะ" ผู้เป็นครูกล่าว
"ครับ / ค่ะ!" นักเรียนทุกคนตอบ
ทุกคนขานรับกับสิ่งที่ครูได้กล่าว หลังจากนั้นก็มีเด็กผู้หญฺิงร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก ถักเปีย2ข้างพร้อมผูกโบร์ อายุราวๆ20ต้นๆ ได้เดินเข้ามาในห้องเรียน นักเรียนทุกคนตะลึงกับออร่าของเด็กผู้หญิงคนนี้ที่เปร่งประกาย ใช่ค่ะ เด็กผู้หญิงคนนั้นคือมิเชลที่ปลอมตัวเข้ามาในโรงเรียนนี้นั่นเอง
"สวัสดีทุกคน เราชื่อมิเชลนะ" มิเชลพูดพร้อมกับยิ้มไปด้วย
"โอ้พระเจ้า โคตรสวยเลยว่ะ เราชื่อลูตินนะครับมิเชล" ลูตินพูดแซวมิเชลไป ก่อนจะแนะนำตัวเองให้มิเชลได้รู้จัก
"เอ้ย เดี๋ยวนะคนนี้ ตรงสเปคแกเลยป่ะเวอคีลล์" คาโซได้หันไปถามเวอคีลล์ ผู้เป็นเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆเขา
" ... " เวอคีลล์เงียบใส่เพื่อนของเขา ไม่ได้ตอบอะไร
"งั้น..เราก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะทุกคน ยินดีที่ได้รู้จัก" มิเชลพูดต่อหลังจากที่พวกเพื่อนๆคุยกันเสร็จ
"โอเคค่ะนักเรียน เธอเลือกที่นั่งได้เลยนะ" ครูเอ่ยขึ้นมา
"ค่ะ.." มิเชลตอบ
เมื่อจบประโยคการสนทนาระหว่างเธอ มิเชลและคุณครูที่ปรึกษาของห้องม.6/13 เธอก็ได้เดินไปเลือกที่นั่งของเธอด้วยตัวเอง เธอเลือกที่นั่งแถวหน้าต่าง เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการสังเกต หลังจากนั่งไปได้สักพัก ก็มีเด็กผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาเธอ
"ห..หวัดดี" อีกฝ่ายเอ่ยด้วยความกล้าๆกลัวๆ
"หื้อ มีอะไรรึป่าว?" มิเชลเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"เธอคือมิเชลใช่มั้ย ผู้ชายคนนั้นให้เราเข้ามาขอไอจีเธอน่ะ!" อีกฝ่ายตอบพร้อมกับมองไปทางเวอคีลล์และเพื่อนๆของเขา
"อื้อ ได้สิ ig : a.mxty_ นี่ไอจีเรานะ" มิเชลได้ให้ไอจีไปและยังไม่ลืมยิ้มให้อีกฝ่าย (จะบอกว่าจริงๆแล้วมันคือไอจีเค้าเองง;-;)
หลังจากได้ไอจีมาพวกเพื่อนๆของเวอคีลล์ก็ตื่นเต้นกันมาก จนเขาต้องพูดขึ้นมาว่า..
" แค่ได้ไอจีแค่นี้เอง ฉันไม่เห็นจะอยากได้เลย พวกแกให้จูเลียตไปขอทำไมก็ไม่รู้" เวอคีลล์เอ่ยขึ้นมาด้วยความหัวเสีย
"ไปหงุดหงิดอะไรมาเวอคีลล์ เรื่องแค่นี้เองไม่ต้องอารมณ์เสีย" ลูตินได้พูดปลอบเพื่อนของเขาที่กำลังหัวเสีย
"ฉันรู้แกอยากได้ไอจีเธอคนนั้นเวอคีลล์ ไม่ต้องมาเล่นตัว ฉันดูออก" คาโซกล่าวด้วยความมั่นใจว่าเขารู้ใจเพื่อนของตัวเองดี
"ฉันไม่ได้อยากได้เลยสักนิด เป็นพวกแกเองรึเปล่าที่อยากได้" เวอคีลล์ตอบพร้อมกับถามลองใจเพื่อนไปด้วย
...
"what the fuk (เชี่ยไรว่ะเนี่ย)" ทางด้านของมิเชลก็นั่ง-งงกับสถานการณ์ที่เวอคีลล์และพวกเพื่อนๆของเขาที่เถียงกันได้ดูไร้สาระมากๆ*
[ เอาล่ะ นี่เป็นข้อความจากแอดเองนะคะ เค้าแอบแปะชื่อไอจีตัวเองไว้ในบทนิดหน่อย;-; นิดเดียวเองง ใครว่างๆก็ทักมาคุยเล่นกับเค้าได้น้าา เพราะว่าหงามากเลยย เค้าอาจจะทำนิยายแต่ละตอนสั้นไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะT-T ยังไงก็ไว้เค้าจะมาอัพตอนเรื่อยๆนะคะ เลิฟๆ GOOD BYE ! ]
ข้อมูลคล่าวๆของโรงเรียนนะคะ (เผื่อใครอยากรู้ สาระล้วนๆ แล้วแต่คนเข้าใจนะคะ ใครไม่อยากอ่านข้ามได้เลยนะ)
โรงเรียนนี้ชื่อ ELJ - Espace Lyon-Japon เป็นโรงเรียนสอนภาษาอยู่ในเขตลียงประเทศฝรั่งเศส
บทเรียนที่จำเป็นต่อภาษาฝรั่งเศส ระดับภาษา
ระดับ (CEFR)
บทเรียนที่จำเป็นต่อระดับ
ต้องการสัปดาห์
(20 บทเรียนต่อสัปดาห์)
A1
ผู้เริ่มต้น
A1 ถึง A2
80
4
A2
ขั้นต้น
A2 ถึง B1
160
8
B1
ขั้นกลาง
B1 ถึง B2
180
9
B2
ระดับกลางที่สูงขึ้น
B2 ถึง C1
200
10
C1
ขั้นสูง
C1 ถึง C2
220
11
C2
ความชำนาญ
ข้อมูลข้างต้นให้คำแนะนำบางอย่าง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ปรึกษาหน้าของเรา ใช้เวลานานแค่ไหนในการเรียนภาษาหรือไปถึงระดับที่กำหนด ข้อมูลเกี่ยวกับELJ - Espace Lyon-Japonอาจยังไม่ได้รับการแปลอย่างสมบูรณ์
ข้อเสนอสำหรับนักเรียนที่กลับมาเรียน
คุณจะได้รับเงินคืน/ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการของโรงเรียน หากคุณเคยเข้าเรียนหลักสูตรที่ELJ - Espace Lyon-Japon และคุณจองที่นี่
ช่องทางการชำระเงินที่รับชำระโดยตรงกับทางโรงเรียน
เอกสารวีซ่า
ผู้ถือสัญชาติประเทศไทย ต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศและเรียนที่ ประเทศฝรั่งเศส
ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับวีซ่าสำหรับบุคคลสัญชาติอื่น
พลเมืองจากประเทศที่ต้องใช้วีซ่าจะได้รับจากเอกสารของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันการจองที่จำเป็นสำหรับการสมัครวีซ่า
แผนที่ลียง
สถานที่ตั้งของ ELJ - Espace Lyon-Japon ใน ลียง
แผนที่ระบบขนส่งสาธารณะ
ลียง
.
.
Veuillez suivre le prochain épisode.
- โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
**ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น อาจมี คำพูด เนื้อหาและเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม **
โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน
"ไงคนสวย ชอบเพื่อนเราหรอ เห็นมองแต่เพื่อนเราจัง" ลูตินเดินมาถามมิเชลด้วยความมั่นอกมั่นใจ
"ไม่นะ เราเห็นว่าพวกนายดูไร้สาระกันดีอ่ะ" มิเชลตอบพร้อมกับยิ้มแห้งไปด้วย
"อ้าวนี่ยัยคนสวย เธอหลอกด่าพวกเราหรอ!?" *เวอคีลล์*เอ่ยขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้
"ร..เราเปล่านะ" มิเชลตอบด้วยอย่างกล้าๆกลัวๆ
"เอาหน่า แกจะอะไรนักหนากับเรื่องแค่นี้" ลูตินพูดขัดขึ้นมาก่อนที่เพื่อนของเขาจะหัวเสียไปมากกว่านี้
หลังลูตินพูดจบประโยค เขากับเวอคีลล์ก็ได้เดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง เวลาผ่านไปสักพักก็ได้มีคนโทรมาหามิเชล เธอได้ขออนุญาตคุณครูเพื่อที่จะได้ออกไปรับสายที่โทรเข้ามา เมื่อรับสายปุ๊บ ปลายสายได้พูดขึ้นมาว่า..
(ในสาย)
"ฮัลโหล นี่ยัยบื้อ" ใช่ค่ะ คนที่โทรมาก็คืออาเธอร์นั่นเอง
"ห๊าา โทรมาทำไมเนี่ย?" มิเชลเอ่ยด้วยความสงสัย
"ฉันโทรมาเช็คความเรียบร้อย เป็นไงบ้าง มีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย" อาเธอร์เอ่ยถาม
"ไม่อ่ะ ฉันยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยด้วยซ้ำ" มิเชลตอบ
"เอ้า แล้วทำไมเธอยังไม่เริ่มแผนการสักทีเล่า!" อาเธอร์เอ่ยด้วยความอารมณ์เสียเพราะตอนนี้งานยังไม่ถึงไหนเลย
"ถ้าจะมาใส่อารมณ์กับฉันแบบนี้ แล้วทำไมไม่มาทำเองตั้งแต่แรกเล่า!!!" มิเชลตอบไปด้วยความหัวเสียเช่นกัน
"ยังไงก็รีบเริ่มแผนการแล้วกัน เป็นยังไงก็แจ้งสถานการณ์ให้กับฉันด้วย" อาเธอร์เริ่มตอบด้วยความใจเย็นลง
"อือๆ เป็นยังไงเดี๋ยวฉันจะโทรไปบอกแล้วกัน" พูดจบมิเชลก็ได้กดวางสาย
เมื่อทั้งสองคุยกันเสร็จ มิเชลก็เดินกลับมาที่ห้องเรียน แล้วก็ได้มานั่งคุ่นคิดว่าเธอจะเอายังไงดีกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา เวลาผ่านไปจนถึงตอนเที่ยง ทุกคนได้พากันไปกินข้าว แต่มิเชลกลับยังไม่ไป เพราะเธอมีภารกิจที่ต้องทำ
"มิเชล ไปกินข้าวกับเรามั้ย" จูเลียตเอ่ยถามมิเชลพร้อมกับยิ้มไปด้วย
"เรายังไม่หิวอ่ะ เธอไปกินเถอะ" มิเชลตอบด้วยความเป็นมิตร
"อ๋อ โอเคๆ งั้นเราไปก่อนนะ" หลังพูดจบจูเลียตก็ได้เดินออกไป
มิเชลได้ทักไปถามอาเธอร์ว่าเธอต้องทำยังไงบ้าง เขาก็ได้อธิบายขั้นตอนการเริ่มแผนการ เขาบอกเธอว่า เธอต้องหาเวลาตอนที่ผอ.ไม่อยู่ แล้วหาจังหวะแอบเข้าไปค้นเอกสารในลิ้นชักภายในห้อง หากเจอเอกสารที่ต้องการแล้วให้ทำการถ่ายรูปหลักฐานและรีบโทรหาเขาทันที หลังจากที่มิเชลฟังจบจนเข้าใจแล้ว ก็ได้วางสาย แล้วเดินไปกินข้าวเพื่อเติมพลัง
"อ้าวๆ ทำไมยัยคนอวดดีมานั่งกินข้าวคนเดียวล่ะเนี่ย" เวอคีลล์พูดเยาะเย้ยมิเชล
"มีปัญหานักรึไง" มิเชลตอบพร้อมกับมองค้อนใส่เวอคีลล์ด้วยความหงุดหงิด
"ก็ไม่หนิ แค่มาทักทาย" เวอคีลล์พูดอย่างทะเล้น
"เหอะ ฉันไปล่ะ!" พูดจบมิเชลก็เดินหนีออกไปเพราะเธอไม่อยากจะเถียงกับเขา
ในระหว่างที่มิเชลเดินเล่นอยู่บริเวณอาคารเรียน เพื่อสำรวจกล้องวงจรปิดว่ามีอยู่ตรงจุดใดบ้าง อาเธอร์ก็ได้โทรมาถามความคืบหน้า(อีกแล้วหรอ;-;)
(ในสาย)
"ไง เป็นไงบ้าง" อาเธอร์เอ่ยปากถาม
"ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันกำลังสำรวจอยู่ว่ามีกล้องวงจรปิดตรงไหนบ้าง" มิเชลตอบ
"รีบลงมือซะล่ะ ถ้าทำสำเร็จนะ ฉันจะตอบแทนให้อย่างงามเลย" อาเธอร์ได้กล่าวไว้
"ให้มันจริงเถอะ แต่ยังไงเดี๋ยวฉันจะเริ่มงานพรุ่งนี้แล้วกัน" มิเชลพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่เชื่อและบอกว่าจะเริ่มงานในวันถัดไป
"งั้นวันนี้ก็สำรวจไปก่อนแล้วกันนะ มีอะไรก็รายงานฉันด้วย" อาเธอร์บอก
"อือ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเตรียมตัวมาค้นเอกสารในห้องนั้น" พูดจบมิเชลก็กดวางสายไป
หลังจากที่วางสายไป มิเชลก็หันหลังจะเดินไปสำรวจที่อื่น แต่ดันเจอเวอคีลล์ยืนอยู่ด้านหลังเธอ พร้อมสีหน้าที่เหมือนรู้ความลับอะไรบางอย่าง มิเชลเธอได้แต่ยืนอึ้งเมื่อเห็นว่าเวอคีลล์มายืนอยู่ข้างหลัง
" ม..มาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ..! " มิเชลถามด้วยท่าทางที่ดูกระวนกระวาย
"ตั้งแต่แรกเลย" เวอคีลล์ตอบ
"..." มิเชลได้แต่เงียบใส่
"เธอคงไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูทุกคนหรอกใช่มั้ย?" เวอคีลล์ถามพร้อมกับยิ้มมุมปากเหมือนเขากำลังคิดสนุกอะไรอยู่
"พูดอะไรของนาย ฉันไม่รู้เรื่อง" มิเชลตอบอย่างไม่รู้ไม่ชี้
"ไม่ต้องมาอ้าง เธอกำลังจะทำอะไร เธอรู้ตัวเองดีอยู่แก่ใจ" เวอคีลล์กล่าวไว้
"รับรู้อะไรอยู่ก็เก็บไว้ดีๆแล้วกัน ฉันมีเหตุผลของฉัน" มิเชลพูดสั่งเวอคีลล์
"เหตุผลอะไรทำให้เด็กอายุ18อย่างเธอต้องไปค้นเอกสาร" เวอคีลล์แอบถามอ้อมๆ
"ไม่ยุ่งสิ" มิเชลตอบ
พูดจำมิเชลก็เดินหนีเวอคีลล์ไปที่อื่น(อีกแล้ว) เพื่อที่จะเลี่ยงคำถามที่เขาได้ถามมา เพราะที่จริงมิเชลเธออายุ20ต้นๆแล้ว แต่ด้วยความที่เธอต้องแฝงตัวเข้ามา มันเลยทำให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าเธออายุ18 ข้อมูลในเอกสารที่เธอใช้เพื่อมาสมัครเข้าโรงเรียนก็อาเธอร์นั่นแหละที่เป็นคนปลอมมันให้เธอทั้งหมด เพื่อทำให้ทุกคนไม่สงสัยในตัวเธอ
"ฉิบหายแล้วไง มีคนรู้เรื่องแล้ว" มิเชลวิ่งไปอย่างลุกลน พร้อมกับรีบโทรหาอาเธอร์ทันที (โทรแม่งทั้งเรื่องไปเลย)
(ในสาย)
"ฮัลโหล อาเธอร์!" เมื่ออาเธอร์รับสายปุ๊บมิเชลก็รีบตะโกนใส่เลยทันที
"อะไรของเธอ เกิดไรขึ้น โดนจับได้หรอ" อาเธอร์เอ่ยถาม
"ไม่เชิงว่าจับได้ แต่มีคนรู้แล้วว่าฉันกำลังจะทำอะไร!" มิเชลตอบ
"ใครรู้แล้วบ้าง!?" อาเธอร์เอ่ยปากถามอีกครั้ง
"เพื่อนในห้องของฉัน เป็นผู้ชาย เท่าที่รู้มาน่าจะชื่อเวอคีลล์" มิเชลบอกข้อมูลเกี่ยวกับเขาที่เธอรู้มากนิดหน่อย
"เธอรู้เบอร์โทรหรือข้อมูลทางการติดต่อของเด็กคนนั้นมั้ย" อาเธอร์ถามอย่างลุกลน
"ฉันจะไปรู้ได้ไงเล่า!!" มิเชลตะโกนกลับไป
"ฉันต้องการคุยกับเด็กคนนั้นเดี๋ยวนี้ เรื่องนี้ห้ามหลุดเด็ดขาดไม่งั้นผอ.จะไหวตัวทัน" อาเธอร์บอก
"เดี๋ยวฉันจะหาทางทำให้เรื่องนี้ไม่หลุดเอง" มิเชลบอก
"แล้วเธอจะทำยังไง?" อาเธอร์ถามขึ้นมา
"มีทางเดียวก็คือต้องเกลี้ยกล่อมไม่ให้บอกใคร ฉันจะลองบอกข้อเสนอให้เพิ่มเติมดู แค่นี้ก่อนนะ มีคนมา" พูดจบมิเชลก็วางสายไป
ข้อมูลเกี่ยวกับนักสืบนิดหน่อยนะคะ(เผื่อใครอยากรู้ สาระล้วนๆ แล้วแต่คนเข้าใจนะคะ ใครไม่อยากอ่านข้ามได้เลยนะ)
6 สาขาวิชาสอนทักษะการเป็น"นักสืบมืออาชีพ"
1.นิติศาสตร์ (Faculty of law) รู้กฎหมาย สิ่งไหนทำได้ไม่ได้
2.จิตวิทยา (Psychology) เข้าใจความคิด และพฤติกรรมคน
3.สังคมวิทยา และ มานุษยวิทยา (Sociology and anthropology) สังเกตการณ์ และเข้าไปมีส่วนร่วม
4.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and technology) สังเกตและตั้งสมมติฐาน ใช้วิทยาศาสตร์เข้าช่วย
5.นิติวิทยาศาสตร์ [ปริญญาโท] (Forensic science) เก็บหลักฐาน พิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
6.อาชญาวิทยา [ปริญญาโท] (Criminology) รวมทุกศาสตร์ ศึกษาเกี่ยวกับอาชญากรรมโดยเฉพาะ
.
.
Veuillez suivre le prochain épisode.
- โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
**ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น อาจมี คำพูด เนื้อหาและเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม **
โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน
- ต่อจากความเดิมตอนที่แล้ว
"มีทางเดียวก็คือต้องเกลี้ยกล่อมไม่ให้บอกใคร ฉันจะลองบอกข้อเสนอเพิ่มเติมดู แค่นี้ก่อนนะ มีคนมา" พูดจบมิเชลก็วางสายไป
“นี่เธอคิดจะทำอะไรกันแน่” เวอคีลล์เดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยปากถามมิเชล
“แล้วนายมีปัญหาอะไร?” มิเชลถามกลับ
“ฉันก็แค่อยากรู้แค่นั้นเอง” เวอคีลล์ตอบ
“ฉันบอกว่าไม่ต้องมายุ่ง!” มิเชลพูดอย่างหัวเสีย
“หึ ไปปาลูกโป่งน้ำที่ห้องครูที่ปรึกษาเล่นกันเถอะ” เวอคีลล์ชวนมิเชลได้อย่างหน้าตาเฉย
“ผอ.ได้ฆ่านายแน่” มิเชลกล่าว
“ไม่หรอก จริงๆแล้วผอ.น่ะ...เขาเป็นพ่อของฉัน” เวอคีลล์ได้บอกเรื่องที่เขาปิดบังมานานให้มิเชลได้รู้
“ห..ห้ะ” อึ้งแดกฮะ
มิเชลตกใจเป็นอย่างมากเพราะคนที่สำนักงานของพวกเธอกำลังจะแฉ ก็คือพ่อของเวอคีลล์ เท่ากับว่าเธอกำลังจะพรากพ่อไปจากเขา แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา พ่อของเขาทำการฉ้อโกง ยักยอกเงินเป็นจำนวนมาก มันเป็นโทษที่พ่อของเขาต้องโดน มิเชลได้พูดกับเวอคีลล์ว่า..
“...ขอโทษนะ” มิเชลพูดขึ้นมา
“ขอโทษฉันทำไม?” เวอคีลล์ถาม
“ถ้าฉันไม่ขอโทษฉันคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต” มิเชลพูด
“ฉันถามว่าขอโทษทำไมต่างหากเล่า” เวอคีลล์ถามย้ำอีกครั้ง
"ชั่งมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก" มิเชลเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
"เอ้า อะไรของเธอเนี่ย!" เวอคีลล์ก็ยังคงสงสัยอยู่อย่างนั้น
"ไปเดินเล่นกันเถอะ" มิเชลชวนเวอคีลล์เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกผิด
ทั้งสองได้ไปเดินเล่นด้วยกัน ในระหว่างนั้นมิเชลก็ได้สำรวจไปรอบๆตามเคย ทั้งคู่ต่างระบายเรื่องที่อัดอั้นในใจให้กันฟัง แต่มิเชลเธอไม่สามารถเล่าได้ทุกเรื่อง เพราะเธอยังมีความลับที่เธอต้องปกปิด พอตกเย็นทั้งสองก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
"เห้อ เหนื่อยใจจริงๆกับงานของฉัน" มิเชลพึมพาบ่นกับตัวเองคนเดียว
#แอดแปะรูปเพื่อสื่อถึงอารมณ์และท่าทางของตัวละครนะคะ ใครไม่ชอบเค้าขอโทษด้วยน้าา
*ขออนุญาตเจ้าของรูปภาพค่ะ cr.อยู่ในPinterestนะคะ
และแล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปสัปดาห์ มิเชลเธอก็ยังไม่เริ่มลงมือทำสักที จนอาเธอร์ต้องเดินทางมาหาเธอที่ที่เธอพักอยู่
"นี่ ทำไมเธอถึงยังไม่ลงมือทำสักที รู้มั้ยว่าสำนักงานเรารองานนี้มานานแค่ไหนอ่ะ" อาเธอร์กล่าว
"นายก็มาทำเองสิ ฉัน..ทำไม่ลงหรอกนะ ฉันพรากพ่อของใครไปไม่ได้หรอก.." มิเชลตอบ
"แล้วเรื่องเด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง บอกมันรึยัง" อาเธอร์ถาม
"ยังหรอก..อาเธอร์...ผอ.คือพ่อของเด็กคนนั้น.." มิเชลบอกสิ่งที่เธอรู้มา
"อะไรนะ อย่างงี้ก็คงทำงานยากแล้วล่ะ ฉันขอร้องล่ะ เธอรีบทำงานนี้ให้เสร็จ เราค้างงานนี้มาหลายอาทิตย์แล้วนะ" อาเธอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอน
"ก็ได้ แต่ขอให้มันเป็นงานสุดท้ายของฉัน ถ้าฉันปิดงานนี้เสร็จ ฉันจะออกจากสำนักงานทันที" มิเชลกล่าวไว้
"ดีล ฉันจะจ่ายเงินเธอให้สมกับที่เธอทำงานให้ฉันมาโดยตลอด" อาเธอร์ตอบรับ
หลังจากที่ทั้งคู่เคลียร์กันเสร็จอาเธอร์ได้เดินทางกลับไปที่สำนักงานที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ มิเชลก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าเธอจะทำงานนี้และจะรีบปิดงานให้เร็วที่สุด...
ข้อมูลเกี่ยวกับอนิเมะนะคะ อนิเมะจากภาพด้านบนเค้ายังไม่รู้น้าา ใครรู้เอามาแชร์ให้แอดรู้จักหน่อยค่ะ!
(เผื่อใครอยากรู้ สาระล้วนๆ แล้วแต่คนเข้าใจนะคะ ใครไม่อยากอ่านข้ามได้เลยนะ)
อะนิเมะ (「アニメ」 anime) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่มาจากภาษาอังกฤษว่า แอนิเมชัน (animation) ซึ่งมาจาก ภาษาฝรั่งเศส อานีเม่ (animé) และจากภาษาละติน แปลว่าเคลื่อนไหว หรือภาพเคลื่อนไหว แต่ความหมายกลายจนเป็นคำเฉพาะของภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ภาพยนตร์การ์ตูน ภายนอกประเทศญี่ปุ่น
อะนิเมะหมายถึงภาพยนตร์การ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะทางศิลปะแตกต่างกับภาพยนตร์การ์ตูนจากแหล่งอื่น อะนิเมะส่วนใหญ่จะวาดขึ้นด้วยมือ แต่ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสร้างอะนิเมะอย่างแพร่หลาย อะนิเมะส่วนใหญ่สร้างขึ้นเพื่อให้ความบันเทิงเหมือนภาพยนตร์ โดยมีแนวเรื่องหลากหลายและครอบคลุมแนววรรณกรรมเกือบทุกแนว อะนิเมะส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นเป็นตอน ๆ เพื่อฉายทางโทรทัศน์ ส่วนหนึ่งถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ และอีกส่วนหนึ่งถูกสร้างเป็นตอน ๆ เพื่อขายตรงในรูปแบบดีวีดี วีซีดี หรือวีดิโอ ดูมีการทำตอนเฉพาะที่เรียกว่า โอวีเอ อะนิเมะหลายเรื่องถูกดัดแปลงมาจากมังงะ นอกจากนี้ยังมีอะนิเมะที่ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์อีกด้วย
.
.
Veuillez suivre le prochain épisode.
- โปรดติดตามตอนต่อไป
.
.
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!