NovelToon NovelToon

แม่นางไก่ทอด

บทนำ

ด้วยความชอบในไก่ทอด มีมี่ สาวไทยจึงเดินทางไปรอบโลกเพื่อชิมไก่ทอด และมาหยุดที่เมืองต้าเหลียง ขณะที่นั่งกินไกทอดและดูวิวอยู่บนห้องนั่นเองทุกอย่างก็มืดดับลง

“แม่หนูไก่ทอด ตื่นได้แล้ว”

“อะไรค่ะ อ่าวตายแล้วหรอเนี่ย ท่านตาข้ายังไม่ได้ไปกินที่เกาหลีกับญี่ปุ่ณเลยน่ะ”

“เอาล่ะ ข้าผิดเอง งั้นเอานี่ไประบบไก่ทอดและพลังระดับพื้นฐาน เอาล่ะไปได้ปายยย”

“อ้ากกกกกกก” มีมี่โดนถีบลงมา

“หืมอะไรกานหนายดูดิ เห้ย!”

“อารายกันรึ”

“ท่าน! ตาแก่นี้ให้บอลพลังผิดลูกไปเจ้าค่ะ”

“ก็อีดอกแล้วนิ”

“แต่มันระดับสูงสุดน่ะเจ้าค่ะ”

!!!!!!!

บทที่ 1 ปลาย่าง

“โอ้ย! เจ็บตัวไปหมดเลยโว้ย ไก่จ้า ไก่ทอด อยู่หนายย หืมเดียวน่ะ" มีมี่พูดกับตัวเองแล้วยันตัวขึ้นนั่ง จากนั้นค่อยๆ มองไปรอบๆ

“ตายล่ะอยู่ไหนกันกันล่ะ หืมกลิ่นอะไรเน่าๆ” มีมี่พยายามดมหาจนมาถึงเสื้อของตัวเอง

“กลิ่นเกินจะทนแล้วไหนจะกองเลือดนี่อีก เจ้าของร่างเดิมไปทำอะไรมาเนี่ย ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเหม็นมาก”

มีมี่พยายามค้นหาเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อเปลี่ยนหลังจากอาบน้ำเมื่อได้มาแล้วก็รีบตรงไปที่ลำธานหลังบ้านทันทีเพื่อหาบน้ำมาใส่โอ่งที่มีน้ำเพียงน้อยนิด นางขนอยู่นานจนน้ำเต็ม แต่พอเปลืองผ้าออกเตรียมอาบก็ถึงกับผงะไป

“น่ะ นี่มันสาวงามกับภูเขาลูกใหญ่ชัดๆ อืมคงต้องลดหุ่นหน่อยแล้วล่ะ”

มีมี่ตัดสินใจอาบน้ำก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันเพราะสุดจะทนกับกลิ่นที่เหม็นเกินบรรยาย นางจัดการเอาสบูยาสระผมออกมาจากมิติที่ได้รับการชดเชยมาจากเทพขี้เมา

“เห้อ เสร็จซ่ะทีแล้วเอาไงต่อล่ะทีนี้ ก่อนอื่นต้องทวนความจำก่อนว่าเป็นใคร แล้วอยู่ไหน” เมื่อคิดได้แล้วก็เริ่มทำทันที

"จินเชียง นักฆ่าจากเปอร์เซีย อืม~ เกษียณตัวเองตัวอายุ 25 เพื่อออกมาใช้ชีวิตแบบสบายๆ แล้วใครกันที่ฆ่านาง” มีมี่คิดไปคิดมาก็ได้ข้อสรุปที่ว่านางตายเพราะป่วยด้ววฃพิษไข้ป่า

"เห้อ~ คนเราช่างตายได้ง่ายดายแท้ แต่ไม่ต้องห่วงน่ะ เราจะใช้ชีวิตต่อให้เอง" ในตอนนั้นเองก็มีสายลมพัดผ่านพร้อมเสียงขอบคุณและกระซิบว่าให้ใช้ชีวิตตามสบาย ‘แน่นนอนความแค้นช่างมันซิ’

มีมี่หรือจินเชียง ตัดสินใจรีบทำความสะอาดบ้านก่อน ด้วยร่างนี้เป็นคนที่มีพละกำลังมหาศาลเวลาทำสิ่งใดจึงเป็นเรื่องง่ายไม่ว่าหาบน้ำหรือล่าหมี

“บ้านไม่ใหญ่มาก 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องนั่งเล่น ถึงดูแล้วจะเป็นแค่กระท่อมก็เถอะแต่ก็ถือว่าดีมากแล้วสำหรับอยู่คนเดียว” และเสียงท้องเจ้ากรรมก็ดังขึ้น ของกินก็ไม่มีเงินก็โดนเอาไปจนหมด

นางจึงตัดสินใจเดินไปลำธารหลังบ้านเพื่อจับปลามาทำอาหาร

‘ติ้ง จับปลา 5 ตัว มาทำปลาย่างแสนอร่อย ระบมีเกลือและพริกไทยให้ยืม’

“ปลาย่างก็ปลาย่าง”

นางเดินไปที่ลำธารหลังบ้างที่เต็มไปด้วยกุ้ง หอย ปู ปลา มีมี่เริ่มจากหาอุปกรณ์ก่อนแต่ที่หาได้มีเพียงธนูที่ตกอยู่ในบ้านเท่านั้น

“เจ้าป่าเจ้าเขาขอให้ลูกยิงธนูได้ด้วยเถิดดด” และมีเสียงลอยตามลมมา ‘ก็ยิงเป็นอยู่แล้วขอทำไม’

“……..”

สุดท้ายก็ขี้เกียดทะเลาะกับลมจึงรีบเดินไปที่ลำธาร มองหาปลาอยู่ไม่นานก็ยกธนูขึ้นมาง้าง ‘ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ’ เข้าทุกลูกโดนทุกดอก ปลาตัวใหญ่ๆ ทีดูแลใกล้หมดอายุขัย

"ปลาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย" จินเซียงรีบเก็บปลาไปทำความสะอาดเพื่อที่จะเอามาทำอาหาร และตอนนั้นเอง "ทำไมล้างเท่าไหร่เลือดก็ไม่หมดซักทีน่ะ" จินเซียงก็ออกแรงล้างต่อไป

"หืม" จินเซียงมองไปที่ต้นทางของเลือดที่ไหลมา "เวรแล้วนี่มันเลือดคน"

นางเก็บปลาลงมิติก่อนจะเดินตามลอยเลือดไป ปลายทางที่จินเซียงเดินมาถึงนั้นเต็มไปด้วยซากศพที่เกิดจากการต่อสู้และดูเหมือนจะมีบางคนที่ยังไม่ตาย คนผู้นั้นสวมหมวกปิดบังใบหน้าและมีหญิงสาวอีกคนอยู่ด้านหลัง

"เฮ้! พวกท่าน" จินเซียงเดินเข้าไปหาทั้งสอง

"ฝากคุณหนูด้วย ฟุบ!" คนผู้นั้นก็ล้มลง

"เช่นนั้นไปบ้านข้าก่อน อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้"

"แล้วนางตายแล้วรึ" หญิงสาวถาม จินเซียงก็เลยจับชีพจรดู

"ยังไม่ตาย แต่ต้องรีบรักษา มาเถอะรีบไปจากที่นี่กัน"

"อืม" หญิงสาวรีบเก็บข้าวของจำเป็นแล้ววิ่งตามหญิงสาวชาวบ้านที่เอาคนคุ้มกันที่บาดเจ็บขึ้นพาดบ่าแล้วเดินนำออกไปก่อน

จินเซียงเดินลงไปในลำธารเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย เดินไม่นานก็มาถึงบ้านหลังน้อยใกล้ลำธารที่มีอุปกรณ์จับปลาวางอยู่หน้าบ้าน

จินซียงพาทั้งคู่เข้าไปในบ้านก่อนจะทำแผลและเปลี่ยนผ้าให้คนเจ็บรวมถึงตรวจดูอาการให้หญิงสาวที่มาด้วยกัน

"ท่านเป็นใครกัน เหตุใดถึงรู้วิชาแพทย์ได้"

"เจ้าควรแนะนำตัวก่อนที่จะถามคนอื่นน่ะ"

"แซ่ถัง ชื่ออี้ ชื่อรองหลัน ถังอี้หลัน ส่วนนางเป็นคนสนิทข้าเองถิงถิง"

"จินเซียง พวกเจ้าพักก่อน ข้าทำแผลให้แล้วเดี๋ยวขอตัวไปย่างปลาก่อนมีอะไรก็เรียกน่ะ"

"ขอบใจเจ้ามากน่ะ"

"อืม" พูดจบจินเซียงก็เดินออกไป

 จินเซียงเดินไปที่กองกิ่งไม้ที่เตรียมไว้ก่อนจะจุดไฟและปรุงรสปลานิดหน่อยก่อนจะเสียบไม้ที่เตรียมไว้แล้วเอาไปปักไว้รอบๆ กองไฟ

กลิ่นปลาย่างอ่อนๆ ลอยตามสายลมไปในอากาศ มันได้ปลุกคนเจ็บที่เกือบตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ ถิงถิงที่รู้สึกตัวเพราะความหิวก็ลืมตาจึ้นก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ

"คุณหนู พวกเราอยู่ที่ไหนเจ้าค่ะ"

"บ้านสตรีชาวบ้านน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าพักเถอะเดี๋ยวถ้าปลาย่างเสร็จแล้วนางก็คงมาเรียกเอง"

"เจ้าค่ะ"

'ก๊อก ก๊อก' เสียงจินเซียงเคาะประตู

"เข้ามาเถอะ" อี้หลันบอกคนหลังประตู

"ข้ามาตามพวกเจ้าไปกินข้าว"

"ขอบใจมากน่ะ"

จินเซียงเอาอาหารจัดวางบนโต๊ะกลางห้อง สองนายบ่าวที่เห็นอาหารก็พากันกลื่นน้ำลายเพราะกลิ่นของมัน และเพียงไม่นานอาหารก็หมดลง

"จินเซียง เจ้าย่างปลาได้อร่อยยิ่งนัก"

"ขอบคุณที่ชม แล้วพวกเจ้าทำอย่างไรต่อล่ะ"

"คงจะพักซักระยะแล้วค่อยกลับตระกูล"

"อืม เช่นนั้นก็พักเถอะ เดี๋ยวเก็บของแล้วข้าจะไปอาบน้ำและจะกลับมานอน"

"จินเซียงนี่ยังไม่เย็นเลยนะ"

"อี้หลันดูนอกหน้าต่างด้วย พระอาทิตย์จะตกดินแล้ว" อี้หลันมองไปนอกหน้าต่างก็เห็นจริงดังว่า

"แล้วบ้านเจ้ามีกี่ห้องกัน" อี้หลันถาม

"หนึ่ง" พูดจบก็ยกอาหารที่ทานหมดแล้วออกไป

ไม่นานจินเซียงก็กลับมาพร้อมผ้าสำหรับปูนอน สองสาวมองเจ้าของบ้านเอาผ้าปูบนพื้นพร้อมจัดที่หลับที่นอนและล้มตัวลงนอน

"พวกเจ้าไม่นอนหรอ นี่ก็ดึกมากแล้วน่ะรีบนอนเถอะข้าคิดว่าอีกไม่กี่วันพวกนักฆ่าจะต้องหาที่นี่เจอแน่"

"นั่นซิน่ะ แล้วที่นี่คือที่ไหน"

"นอนเถอะ ฝันดี" จินเซียงไม่ตอบแต่หลับแทน

"อย่างงี้ก็ได้หรอ" สองสาวมองหน้ากันแล้วก็หลับพักผ่อน

บทที่ 2 เดินทางเข้าเมือง

เจ็ดวันต่อมา

"เร็วๆ พวกมันตามมาอีกแล้ว"

"จินเซียงพวกข้าพึ่งหายจากอาการบาดเจ็บน่ะ"

"อย่าบ่นอี้หลันพวกเราขี่ม้าไม่ได้วิ่ง"

"ย่ะ!"

ทั้งสามต่างแรงความเร็วม้าขึ้นอีกเพื่อหวังที่จะสลัดพวกคนที่ตามล่าให้หลุด

"ทำไมพวกมันจมูกไวแบบนี้" อิงอิงหันไปมองพวกนักฆ่าที่ไล่ตามมา

"พวกแม่งเผาบ้านหลังน้อยของข้า อ้ากกกก โมโหโว้ยยยย ขอหน่อยเถอะ"

"จินเซียงเดี๋ยวเจ้าจะไปไหนกลับมาก่อน" อี้หลันพยายามเรียกเพื่อนแต่ไม่ทันแล้ว

"ตายยยย" จินเซียงควบม้าเข้าหาพวกนักฆ่าพร้อมดาบใหญ่

"ไม่กลัวตายก็เข้ามา!"

"ไอพวกลูกหมา!"

เคร้ง ฟัง ฉึกๆๆๆๆ

เพียงแค่การลงดาบครั้งแรกก็คร่าชีวิตพวกนักฆ่าไปหลายสิบคน

"เงามายา" พรึบๆ

ตามชื่อของท่า พวกนักฆ่ามองเห็นแต่เงาของหญิงสาวที่พาดผ่านไปมาอย่างรวดเร็วและแม่นยำ พวกมันค่อยๆ ตกตายลงไปทีล่ะคน จนในที่สุดนักฆ่ากว่า 30 คนก็ตายลงไป

"เห้อ~ ถุ้ย! ไอพวกชั่วไอพวกเลว บังอาจเผาบ้านคนอื่นฝีมือแค่ขี้เล็บถุ้ย!" จินเซียงด่าใสร่างพวกนักฆ่า แล้วรีบกลับขึ้นม้าเพื่อเดินทางต่อ

"ทำไมไม่สู้แต่แรกหนีทำไม" อี้หลันถาม

"คนนอนอยู่แล้วบ้านไฟไหม้กับใครไม่รู้ยิงธนูใส่ เป็นเจ้าจะอยู่ให้พวกมันเชือดหรอ"

"ก็จริง เรารีบไปต่อเถอะอีกไกลกว่าจะถึงเมือง"

"อืม พวกเรารีบไปกันเถอะ"

ตกเย็นก็เดินทางมาถึงเมืองใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของแม่น้ำสายใหญ่แต่ทั้งชื่อเมืองและแม่น้ำนั้นดันจำไม่ได้เพราะเจ้าของร่างไม่เคยออกจากหมู่บ้านกลางป่าเลย แม้แต่ภาษาก็ยังพูดไม่คล่อง อ่านเขียนพอได้

"จินเซียงถามจริงเหอะ"

"ว่าไงคุณหนูอี้หลัน"

"เจ้าอ่านกับเขียนไม่คล่องหรอ"

"พอได้แต่ไม่ดีมาก ข้ามาจากเปอร์เซียน่ะพูดได้บ้างก็ดีแล้ว"

"แล้วบัตรประจำตัวเจ้าล่ะอยู่ไหน"

"อาอิงมันหายไปกับกองไฟแล้ว มีเงินติดตัวบ้างก็ดีนักหนาแล้วคืนนี้จ่ายค่าที่พักให้ด้วยน่ะ"

"เอ่อ คือว่าพวกเราเหลือแค่ 20 ตำลึง"

"ตำลึงทองหรอ"

"ฮึ ตำลึงเงิน" อี้หลันตอบแบบไม่เต็มเสียง

"....." หมดคำพูด

พวกเราเอาเงินมานับรวมกัน ผลที่ออกมาคือพักได้แค่โรงเตี๊ยมธรรมดากับจ่ายค่าอาหารอีกเล็กน้อย แต่ค่าที่พักไม่ถูกเลย

"ห่ะ เถ้าแก่พวกเราสามคนจองห้องพักหนึ่งห้องพร้อมอาหารทำไมถึงแพงแบบนี้ ตั้ง 15 ตำลึง ท่านจะเก็บไปสร้างตึกรึไง"

"ฮัยย้า ลื้อจายเย็นๆ ก่อน อั้วไม่ได้โกงน่า พวกลื้อดูรอบๆ ดี ตอนนี้บ้านเมืองไม่สงบข้าวยากหมากแพง อะไรๆ ก็ขึ้น ราคานี้ถูกสุดเลี้ยว"

"เถ้าแก่ มันถูกตรงไหน!"

"ลื้อจะเสียงดังเรียกเตี่ยหรอ ฮั้วให้ทั้งอาหารเย็ง ที่พักม้า ห้องนอนใหญ่สำหรับ 3-4 คน และอาหารเช้า ราคานี้ดีสุดเลี้ยว"

"ได้ตกลง" สรุปได้บริการเพิ่มเติมมาอีก 2 อย่าง นั่นคือน้ำสำหรับอาบและขนมว่างพร้อมน้ำชา

"จินเซียงไหนว่าเจ้าพูดไม่เก่งไงทำไมถึงต่อรองได้ดีขนาดนี้"

"อี้หลัน อย่าถามเยอะข้าอยากอาบน้ำแล้ว ง่วงด้วย"

"อาเซียงเจ้านี่มัน"

"พวกเจ้ากินก่อนเลยข้าอาบน้ำก่อน"

"อ่าวนางเดินไปอาบน้ำจริงๆ หรอเนี่ย"

"คุณหนูท่านอาหารเถอะเจ้าค่ะ"

"อืม"

เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อทันที เป้าหมายของเราคือเซียโจวที่อยู่ปากแม่น้ำ รอยต่อระหว่าทะเลและแม่น้ำ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้น

"อีกนานไหมกว่าจะถึงบ้านเจ้า"

"บ้านตระกูลถังของข้าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในเมืองเซียโจว ข้าคิดว่าคงจะอีกประมาณ 2-3 วัน แต่หลังจากนี้อาจต้องนอนป่า"

"คุณหนูท่านว่า บิดาท่านจะส่งคนตามหาพวกเราไหมเจ้าค่ะ"

"ถ้าท่านอาจารย์รู้อาจจะส่งข่าวให้บิดาข้า"

"อืม ข้าหวังว่าบ้านเจ้าจะไม่ส่งนักฆ่ามาเพิ่มน่ะ"

"รีบไปกันเถอะถึงบ้านแล้วจะรู้เอง"

"อาเซียงแล้วเจ้าจะไปทำอะไรต่อ"

"ข้าคงเกาะเจ้าไปก่อน"

"ข้าเลี้ยงเจ้าได้สบายอยู่แล้ว"

"ฮ่าฮ่าฮ่า อิงอิงนายเจ้ารับปากข้าแล้วน่ะ"

"ไปๆ เดี๋ยวจะหาที่พักคืนนี้ไม่ได้อีก"

"ได้ๆ"

ทั้งสามมาถึงจุดพักม้าตอนหัวค่ำ และได้เข้าพักที่โรงเตี๊ยมเล็กๆ ในคืนนั้น เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสามก็ขึ้นมาและออกเดินทางต่อ

วิวธรรมชาติที่ไม่สามารถหาได้ในโลกก่อนทำให้จินเซียงไม่ค่อยอยากเดินทางรีบเร่งนักแต่เพราะเกรงว่าจะมีพวกนักฆ่าตามมาอีก

"เห็นเมืองแล้ว!" อี้หลันชี้ไปที่เมืองที่อยู่ไม่ไกล

"ว้าว มีท่าเรือด้วยหรอ แบบนี้ก็ต้องมีพวกโพ้นทะเลด้วยซิ"

"ก็มีน่ะแต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจ้าใกล้ท่าเรือเพราะพูดภาษาไม่ได้" จินเซียงหันมองคุณหนูบรหลังม้า

"อย่ามองข้าแบบนั้น"

"คุณหนูนั่นใช่ธงของตระกูลรึเปล่าเจ้าค่ะ" อี้หลันมองไปด้านหน้าก็เห็นเป็นจริงดังว่า

กองทหารม้าวิ่งตรงมาทางทั้งสามคน ชายวัยกลางคนผู้เป็นผู้นำสั่งให้กองทหารหนุดทันทีที่ได้พบคนที่ตามหา

"นายกองหลี่"

"คุณหนู! ขอบคุณสวรรค์ที่ท่านยังปลอดภัย"

"พวกท่านกำลังไปไหนกัน"

"พวกเราพึ่งได้รับจดหมายจากอาจารย์ของท่าน ว่าท่านได้หายตัวไปหลังจากเดินทางกลับจากสำนักศึกษาขอรับ"

"10 วันเนี่ยน่ะ เอาเถอะรีบกลับจวนกันก่อน สหายข้าคงหิวแล้ว"

"ข้าน้อยนามว่าจินเซียง คารวะผู้อาวุโสเจ้าค่ะ"

"ดีๆ รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ต่อไปตามคุณหนูเจ้าจะโชคคีฝีเอง"

"เจ้าค่ะ" ประสานมือคารวะทำให้นายกองหลี่นิ้มออกมาอย่างพอใจ

"คุณหนู พวกเราตะคุ้มกันที่งานกลับจวนน่ะขอรับ"

"ขอบคุณท่านมาก"

ไม่นานก็มาถึงเมือง ทหารหน้าประตูเมืองเมื่อเห็นป้ายหยกก็รีบเปิดทางให้ทันที เมืองเซียโจวเป็นเมืองที่มีกำแพงสูงและแข็งแกร่ง ภายในเมืองมีหลายหลายวัฒนธรรมปะปนกันไปดูแปลกตาสำหรับคนที่ดูหนังจีนบ่อยอย่างนาง

"อ่าวๆ มีหนุ่มมารอรับด้วย"

"อย่ามาเยอะจินเซียง นั่นคู่หมั้นข้าแต่ข้าไม่ค่อยชอบเลยข้ายกให้เจ้าดีไหม"

"อะ ฮึม คุณหนูถ้าคนอื่นได้ยินจะไม่ดีน่ะขอรับ"

"เหอะ! ข้าเกือบตายมาหลายรอบเพราะชายคนนั้น ท่านจะให้ข้าชอบได้เช่นไร" อี้หลันเถียงกลับ

"หยุดเลย อย่ามาทำให้เสียบรรยากาศ รีบเข้าจวนเถอะข้าอยากอาบน้ำแล้ว"

"แม่นางเพียงเลี้ยวหัวมุมถนนก็ถึงแล้ว ป่านนี้บ่าวคงจะรายงานให้นายท่านทราบแล้ว"

"ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ"

แต่เมื่อมาถึงหน้าจวนชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาอี้หลันพร้อมทั้งพูดจาต่างๆ นาๆ มีทั้งคำหวานและของขวัญมันจึงง่ายที่อี้หลันจะยอมใจอ่อน

"อย่าเกะกะทาง ถ้าไม่เข้าก็หลยไปคุยกันตรงนู้น"

"จินเซียงเบาๆ หน่อยเดี๋ยวจะเดือดร้อนน่ะ"

"อิงอิง นี่ก็เย็นแล้วน่ะ ข้าหิวแล้ว"

"ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหนูขอรับดูท่าท่านคงต้องรีบแล้วก่อนที่สหายของท่านจะเชือดคู่หมั้นท่านทิ้ง" พูดไม่ผิดหรอกข้าสัมผัสได้ ดูจากหน้านางก็รู้

อี้หลันทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ "ห่ะ อ้อๆ มาๆ เข้าจวนกันเถอะป่านนี้ท่านพ่อคงรอแล้ว"

"อะไรกันหลันเอ้อ เจ้าเห็นนางสำคัญกว่าขอข้าหรอ" คนอื่นๆ ที่ฟังได้แต่กรอกตาไปมา

"พี่จางหมิง นางเป็นสหายข้า นางช่วยข้ามาเยอะเหตุใดจะให้ความสำคัญมิได้เล่า"

"หึ ดูการแต่งตัวแล้วคงเป็นพวกนอกด่านกระมั้ง กล้าดีอย่างไรมาตีสนิทกับคู่หมั้นข้า"

"เห้อ~ น่าเบื่อ"

"เจ้า เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร"

"ถ้าเจ้าไม่เลอะเลือนถึงขนาดจำไม่ได้ข้าคงช่วยไม่ได้แล้ว อิงอิงมาเถอะปล่อยนายเจ้าไว้กับคนบ้าแล้วเรารีบไปพักกันเถอะ" จินเซียงขี่ม้าผ่านจางหมิงที่ยืนค้างเป็นรูปปั้นเข้าไปในจวน

"รอข้าด้วยอาเซียง!" อี้หลันรีบจูงม้าเข้าจวน ทิ้งชายคนนั้นไว้ที่นอกจวนอย่างไม่ใยดีหรืออาจลืม

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!