ชื่อ : จินเยี่ยนหราน
บิดา : จินจื่อเซวี่ยน
มารดา : เจียงเยี่ยนหลี่
ญาติ : เจียงเฉิน[น้า] จินหลิง[น้อง]
อายุ 18
ส่วนสูง 175 ซม.
นิสัย : ปากร้ายแต่ใจดี รักศักดิ์ศรี ปากแข็ง ทำตัว ทำตัวหยิ่ง พูดดีกับจินหลิง ห้ามการทัพน้ากับเจียงเฉิน
สิ่งที่ชอบ ทำอาหาร ซ่อมกระบี่
ง ปกป้องจินหลิง
ฐานะ : คุณหนูใหญ่ ศิษย์พี่หญิง ศิษย์เอก สตรีงานระดับ 2 ของยุทธภพ
ตอนที่ 1
16 ปีก่อน
เว่ยอู่เซี่ยนได้เห็นเจียงเยี่ยนหลี่ในชุดแต่งงาน
"เป็นยังไงบ้าง?"
"งามมาก"
"คำพูดของพวกเจ้าเชื่อไม่ได้"
"ศิษย์พี่ท่านข้าท่านเขา หรือ อยากให้ใครชมกันแน่"เจียงเฉินรู้ในทันทีว่าศิษย์อยากให้ใครชม
"เอาเถอะ พวกเจ้ากินแกนรากบัวกันดีกว่า"ยิ้มอย่างอ่อนโยน
ทั้งสามก็ได้กินแกงราดบัวจนหมด
"อาเซี่ยน"
"อะไรรึศิษย์พี่"
"ช่วนตั้งชื่อหลายที่ยังไม่เกินหน่อยสิ"
"ผู้หญิงหรือผู้ชายละศิษย์พี่?"
"ท่านสอง"ยิ้ม
"จินเยี่ยนหราน( 金艳然 ) ผู้หญิง (แปลว่า สวย )"
"จินหรูหลัน (金如兰) ผู้ชาย"
"เป็นนานทีดีมากอาเซี่ยน"
...1 ปีต่อมา...
"ฮูหยิงเจียงเบ่งอีกเจ้าค่ะ"
ระหว่างนั้นไม่มีผู้ใดสังเกตควันสีขาวลอยเข้าท้องเจียงเยี่ยนหลีทำให้หัวเด็กออกมาแล้ว ซึ่งควันนี้คือวิญญาณเทพธิดานางพญาเฟิ่งหวง
"หัวเด็กออกมาแล้วเจ้าค่ะ เบ่งอีกนิดเจ้าค่ะ"
อุแว!
คนที่รอข้างนอกได้ยินดังนั้นพากันดีใจใหญ่โดยเฉพาะเจียงเฉิงกับจินจื่อเซวียน
"คลอดแล้วเจ้าค่ะ"ข้างนอกเฮกันใหญ่
"เป็นเพศใด"เจียงเยี่ยนหลีที่อ่อนแรง
"หญิงเจ้าค่ะ"หมอตำแยเดินออกมาข้างนอก
"เป็นผู้หญิงเจ้าค่ะงั้นข้าขอตัวนะเจ้าคะ"
เจียงเฉิงกับจินจื่อเซวียนหันมายิ้มกันด้วย
วันต่อมา
"อาหลี่"จินจื่อเซวียนแปลกใจ
"มีอะไร"
"หน้าตาเยียนหราน"จินจื่อเซวียนรู้สึกว่าจินเยียนหรานหน้าเหมือนเจียงเฉิง
"เหมือนอาเฉิงไม่ผิดเลย"
"ไม่มีทาง ถ้าเป็นเขาทำไมนางถึงหน้าตาสวยเหมือนราวนางอัปสร"
"หวังว่าคงไม่เอานิสัยเขามาด้วยนะ"
"ข้าไม่ได้แปลกใจใบหน้าที่คล้ายอาเฉิงแต่ข้าแปลกใจแหวน"เพราะแหวนรูปเฟิงหวงสองตัวยืนหันหลังให้กันข้างล่างแหวนมีสร้อยเล็กห้อยคริสตัลสีใสเม็ดเล็กเวลาขยับนิ้วมันจะห้อยส่ายไปส่ายมานั่นเองทำให้นางสงสัย
"ข้าเคยอ่านในตำราผู้ใดที่เกิดมาพร้อมของบางอย่างคือเทพธิดาเหล่านั้นเช่นถ้าเป็นหงส์จะมีแหวนหรือกระบี่"
"แต่นี่เป็นแหวนเฟิ่งหวงสีขาว"
"ข้ารู้แล้ว นางเป็นธิดาเทพเฟิ่งหวงสวรรค์"
"จริงหรือ"
"จื่อเซวียน ลองถอดแหวนดูสิ"
"ข้ายังไม่อยากโดนลูกตัวเองสังหารข้านะ"
"ทำไม"
"เพราะของบางอย่างของพวกเขาถ้าเจ้าของไม่อนุญาตหรือต่อให้อนุญาตก็เอาออกไปไม่ได้หากรั้นจะเอาต่อไปมันจะทำร้ายคนที่มายุ่งกับนายมัน และถ้าแหวนนี้บำเพ็ญตบะมาหลายหมื่นปีสามารถกลายร่างจากของเป็นคนได้และมีจิตวิญญาญเหมือนกระบี่แต่กลายร่างได้"
"ดียิ่งนัก"
3วันต่อมา
เจียงเฉิงมาเยี่ยมที่หลานหลิง
"อาเฉิง"
"ท่านพี่ มีอะไร"
"แล้วเสียงใครร้อง"
"เสียงอาหราน"
"เยียนหราน?"
"เจ้าไปกับข้า"ศาลาน้ำชา
"ทำไมนางร้องดังแบบนั้น
เมื่อจินเยียนหรานเห็นเจียงเฉิงก็ยิ้ม ยื่นมือออกขากห่อผ้าคล้ายบอกเขาลางๆว่าอุ้มข้าหน่อย
"ข้าอุ้มเจ้าก็ได้"เสียงเงียบส่วนธิดาน้อยก็เล่นผมเจียงเฉิงไม่หยุดพอจะเอาออกก็ร้อง
"ดูเหมือนนางจะชอบเจ้า"จินจื่อเซวียนอ่อนใจ
"นางทั้งหน้าเหมือนเจ้า ติดเจ้า สงสัยข้าคงเป็นสุนัขหัวเน่าแล้ว"เจียงเยี่ยนหลีน้อยใจ
"ท่านพี่ พวกเรานัดเว่ยอู๋เซี่ยนที่เดิมมั้ย"
"ก็ดี เจ้าจะไปมั้ย"เจียงเยี่ยนหลีถาม
"ไม่เป็นไร"จินจื่อเซวียนปฏิเสธ
วันต่อมา
"ไหน ข้าขอดูหลานสาวข้าหน่อย"เว่ยอู๋เซี่ยนตื่นเต้น
เว่ยอู๋เซี่ยนเลิกคิ้วมองจินเยียนหรานกับเจียงเฉิงสลับกัน
"เจียงเฉิง"
"อะไร"
"เจ้าไปแอบมีลูกตอนไหน"
"เจ้าบ้า!"
"นางเป็นลูกของศิษย์พี่!"
"จริง อาเซี่ยน"
"ศิษย์พี่ ต่อให้หน้าคล้ายเจียงเฉิงแต่ทำไมงามล่มเมืองอย่างนี้ ถ้าเป็นเจียงเฉิงมันต้องคิ้วขมวด หน้าบึ้ง ตาแข็งไม่ใช่ยิ้มหวานแบบนี้"
"เว่ยอู๋เซี่ยน!"
"แล้วแหวนนี่?"
"จื่อเซวียนบอกว่านางเป็นเทพธิดานางพญาเฟ่งหวง เพราะในตำราเคยบอกว่าเด็ก
คนไหนที่คลอดมามีสิ่งของติดตัวด้วยคนนั้นเป็นเทพ"
"ศิษย์พี่ ข้าเริ่มอยากเห็นเจ้านกยูงไว้เคราขู่บรรดาลูกเขย
แล้ว"
แต่นี่ไม่เป็นดังหวังเมื่อจินเยียนหรานอายุได้สองปีและน้องชายที่อายุหนึ่งเดือนได้รับข่าวร้ายจากศิษย์สกุลเจียงว่าเว่ยอู๋เซี่ยนเวินหนิงสังหารจินจื่อซวินและจินจื่อเซวียน ท่านแม่มีท่านน้ำประคอง
ส่วนข้ามีท่านอาจินกวงเหยาคอยปลอบ
จินเยียนหรานร้องไม่ออกมีแต่เสียงสะอื้นกอดจินกวงเหยาแต่มือกำแน่นจนแหวนส่องประการ
"อาหราน ไม่ร้องนะคนเก่ง "จินกวงเหยาที่ตอนนี้ไหล่เปียก
เรียบร้อยแต่ถึงเสียใจแต่ไม่ยอมร้องไห้
และในสงครามปู้เย่เทียนเจียงเยี่ยนหลีได้สละชีพปกป้องอา
เซี่ยนของตน แต่อาเซี่ยนดันขอตกหน้าผาตาย้พราะนางคือคนเดียวที่เขารักที่สุด แต่
คนที่เสียใจที่สุดดันเป็นเจียงเฉิง แต่เจียงเฉิงจำเป็นต้องมีลมหายใจเพื่อหลานทั้ง
สอง แต่หลานวั่งจียังคเกลียดเจียงเฉิงเพราะไม่รู้ว่าชีวิตนี้
เจียงเฉิงเคยได้มีความสุขจริงๆกับคนอื่นหรือไม่และเพราะสาเหตุนี้จินเยียนหรานที่เคยเป็นเด็กร่าเริงยิ้มตลอดเวลา ตอนนี้ยิ้มยากสุขุมเงียบ ถ้ายิ้มมีสามประการ ประการแรกความสำเร็จไม่ว่าของใครก็ช่าง
ประการที่สองยิ้มเพราะมารยาทประการที่สามเอ็นดู
น้องชายอย่างจินหลิงเจียงเฉิงหันหลังไป
เห็นจินเยียนหรานที่อุ้มจินหลิง และเจียงเฉิงต้องบากหน้าขอตาเฒ่าจินกวงซ่านขอ
เลี้ยงหลานที่อวิ๋นเมิ่งแม้จะไม่ให้แต่ก็จำเป็นต้องให้เพราะทั้งหลาน
สาวและจินกวงเหยาออกปากแต่มีข้อแม้คือต้องให้จินเยียน
หรานมาที่หลันหลิงเดือนละหนึ่งสัปดาห์
ตระกูลเจียงแห่งอวิ๋นเมิ่งท่าเรือสัตตบงกช
"ท่านน้า"จินเยียนหรานที่เห็นหน้าท่าน
น้ำาตนเศร้าหมองจึงเป็นห่วง
"ตัวแค่นี้ ทำเป็นม้าปลอบข้า"ปากแข็ง
"ท่านน้า"นางเริ่มเบื่อ
"เจ้ากลับเข้าห้องไปเถอะเยียนหราน หวั่นเอ๋อร์"เจียงเฉิงเรียกลูกศิษย์หญิง
"เจ้าค่ะ"เหยียนหวั่น
ตระกูลเจียงแห่งอวิ๋นเมิ่ง
"ตั้งแต่นี้เจ้าเป็นคนสนิทนางและดูแลนางพานางไปที่เรือนมู่เหลียน"
(มู่เหลียน หมายถึงดอกบัวที่น่าเคารพ)
"เจ้าค่ะ"
เรือนมู่เหลียน
"คุณหนูจิน ตามสบายประมุขเจียงเลือกเรือนนี้เพราะท่านชอบความสงบจึงให้ท่านอยู่เรือนนี้ข้างหน้าเรือนมีศาลาเล็กและทะเลสาบดอกบัวมีอะไรเรียกข้าได้"
"เจ้าไปเถอะ"
"เจ้าค่ะ"
ศิษย์หญิงออกไปแล้วนางจึงกลับเข้าตำหนักถูกตกแต่งสวยงามแต่เรียบง่ายผ้าม่านและที่วางเทียนเป็นดอกบัวอย่างที่นางฝัน
"อาหลิง อย่าร้องน้า"นางปลอบน้องชายที่เอาแต่ร้องอยู่ในผ้าส่วนนางกลั้นใจไม่เผยความอ่อนแอแต่ก็ยังสะอื้นสำหรับเด็กสาววัยนี้ถือว่าเก่งมากแล้ว เพื่อพยายามให้หลับนางจึงร้องเพลงท่านแม่ที่ท่านแม่เคยสอน เสียงนางแม้ไม่เพราะเหมือนนางแต่เสียงจินเยียนหรานอ่อนหวานผสมเสียงห้าวหาญปนเศร้า
"นึกย้อนความจำ ณท่าเรือ"
"ภาพมายาเด็กน้อยฉายมา"
"กาลเวลาแปรผันเหลือเพียงมายา"
"ใจคำนึงถึงหาคนรักที่อยู่อวิ๋นเมิ่ง"
"ความหวังทำได้เพียงขบขัน"
"ทุกอย่างโปรดย้อนคืนกลับมาได้ไหม"
"ไม่แยก ไม่จาก ไม่ต้องกังวล"
"อยากได้ยินเสียงเรียกว่าอาเซี่ยน"
"วสันต์มาถึงยิ่งขมขื่น"
"แสงดาวและเดือนทอประกาย"
"เราเคยหัวเราะขบขันยิ้มไปด้วยกัน"
"ดอกบัวที่เดิมงดงามแต่ไร้เงาเจ้าเยือน"
"ปรารถนา แต่หนีอดีตไม่ได้"
"มีหนทางใดที่จะย้อนไปได้ไหม"
"ไม่เศร้า ไม่ลา ขออยู่ด้วยกัน"
"น้ำตาคอยย้ำว่าไม่มีทาง"
"ความหวังทำได้เพียงเย้ยหยัน"
"ทุกอย่างโปรดย้อนคืนกลับมาได้ไหม"
"ไม่แยก ไม่จาก ไม่ต้องกังวล"
"ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยว่าอาเซี่ยน"
"แม้เป็นเพียงฝัน"
ไม่ได้มีแค่จินหลิงที่ได้ฟังเพลงนี้เจียงเฉิงที่อยู่ข้างนอกหวังเข้ามาปลอบแต่ต้องหยุดเมื่อเพลงพี่สาวที่นางร้องนั้นมีความเด็ดเดี่ยวไม่อ่อนหวานซึ่งแปลว่านางเข้มแข็งเสียยิ่งกว่าเขาเสียอีก
แต่ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น
"ใคร!"จินเยียนหรานเป็นคนมีไหวพริบ
"ข้าเอง"เมื่อรู้ว่าใครจึงยอม
เปิดประตู
"ท่านน้า"
"อาหลิงหยุดร้องแล้วหรือ"
"เจ้าค่ะ"
"เยียนหราน เจ้าโตขึ้นมาก"
จากเดือนเป็นปีตอนนี้ จินเยียนหรานอายุแปดปี ส่วนจินหลิงอายุหกปีตอนนี้จินเยียนหรานฝึกกระบี่อยู่ที่ลานฝึกสกุลเจียง และมีศิษย์คนนึงอายุประมาณสิบสี่ปีมาหา
"มีอะไร"
"คุณหนูจิน คุณชายจินเอาแต่อยู่บนต้นไม้ไม่ยอมลงมา"ได้ยินดังนั้นรีบ
เก็บกระบี่นาม เสวี่ยเยว่ทันที
(เสวี่ยเยว่ หมายถึง ดวงจันทร์ในฤดูเหมันต์)
"ท่านน้ารู้หรือไม่"
"ยังขอรับ"
"รีบไป"
ต้นไม้สูงและจินหลิงก็ปืนสูงอยู่
"อาหลิง"
"พี่หญิง"
"อาหลิง ลงมาหาข้า"
"ไม่เอา ข้าไม่ลง"
"อาหลิง อยู่บนนั้นเจ้าจะเจ็บตัวนะลงมาหาข้า"ไม่ฟังแถมพยายามปืนขึ้นอีกมือหยิบพลาดตกลงมาทำเอาศิษย์สกุลเจียงใจไม่ดี แต่ดีที่จินเยียนหรานวางกระบี่ลงแล้วเตรียบรับจึงตกลงมาทับนางพอดี
"โอ๊ย"เสียงจินเยียนหรานร้องทำเอา
คนรอบข้างเริ่มกลัว
"พี่หญิงข้าขอโทษ ข้าทำท่านเจ็บ"
"ไม่เป็นไร ข้าไม่เจ็บว่าแต่เจ้าปืนขึ้นต้นไม้ทำไม"
"ศิษย์พี่ล้อข้า"
"ศิษย์พี่? ศิษย์พี่คนไหน"
"นั่น"จินเยียนหรานมองตามนิ้วก็เจอศิษย์พี่แปด
ศิษย์พี่แปดคนนี้ไม่ใช่คนที่ชอบล้อเล่นบนความทุกข์คนอื่นแต่เหตุใดถึงล้อแล้วมีเหตุผลอะไร
ส่วนคนที่ยืนข้างๆคือศิษย์พี่สามและศิษย์พี่ห้าที่กลัวโดนด้วย นางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง130 เซนติเมตร แล้วเดินไปหา
"ศิษย์พี่แปด"
"ท่านมีอะไรจะแก้ตัวไหม"
"และข้าบอกตั้งแต่แรกว่าให้เรียกข้าว่าศิษย์น้องหญิง"
"ข้าบอกก็ได้"
ก่อนเกิดเหตุครึ่งชั่งยาม(1ชั่วโมง)
"ศิษย์น้องแปดจะว่าไปคุณชายจินก็น่ารักดีนะแค่บางครั้งเอาแต่ใจไปบ้าง"สู่หยาง ศิษย์พี่ห้าของตระกูลเจียงแห่งอวิ๋นเมิ่ง
"จะไม่เอาแต่ใจได้ไงพ่อแม่เขาตายตั้งแต่พึ่งลืมตาดูโลกเหลือแค่พี่สาวอย่างคุณหนูจินเยียนหราน ประมุขจินและประมุขเจียง"ไป้จวีอี้ ศิษย์พี่แปดของตระกูลเจียงแห่งอวิ๋นเมิ่ง
ปัจจุบัน
"อย่างนี้เอง"จินเยียนหรานปะติดปะ
ต่อเรื่องได้แล้ว
"จินหลิงไปรอข้าที่เรือนเจ้า อาบน้ำด้วยนะ"
"ขอรับ"
หลังจากจินหลิงจากไป
"คุณหนูจิน ข้าขออภัย"เอาซะคนทำผิดเข่าทรุด
"ลุกขึ้น"
"ขอรับ"
"เรื่องนี้ข้าไม่โทษท่าน แต่ครั้งต่อไปห้ามทำอีกเพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่องท่านอาจคิดว่าไม่มีใครรู้แต่ท่านรู้ตัวท่านดีท่านอาจไม่คิดอะไร แต่คนฟังเขาคิด"
"ขอบคุณคุณหนูจินที่ชี้แนะ"
"แล้วแต่จะเรียกเถอะข้าเบื่อแล้ว
ห้ามบอกเรื่องนี้กับท่านน้าเด็ดขาดพวก
เจ้าทุกคนด้วย"
"ขอรับ,เจ้าค่ะ"
"แต่ข้าขอลงโทษนิดหน่อย โทษฐานปากรั่ว"นึกว่าจะโล่งซะแล้ว
"ข้าจะลงโทษกักบริเวนเจ็ดวันซึ่งท่านต้องอยู่แต่ลานฝึกกับในห้องท่านน้าจะได้ไม่คิดว่าท่านอู้"
"ถ้าเขาถามบอกไปว่า ท่านชนข้าจนมีแผล
"ท่านประมุขจะไม่เด็ดหัวข้าหรือ"
"เจ้าเห็นน้าข้าเป็นแบบนั้นหรือไง"
"ไม่ขอรับ"
"เอาตามที่ข้าบอกเหลือแค่วันพรุ่งนี้วันเดียวข้าต้องไปจินหลินไถ แต่ข้าจะให้ท่านน้าดูท่านไว้ ข้าไปก่อน"
"ขอรับ"
เหมือนยกภูเขาออกจากอก
"เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ"
"ไม่ต้องมาเกือบเลยศิษย์พี่ห้าเพราะท่านข้าเกือบได้ลงปรโลกแล้ว"
"ก็ข้าไม่รู้นี่ เอางี้ข้าจะมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าช่วงเจ็ดวัน"
"ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูจินเยียนหรานที่อายุเพียงแปดขวบจะมีความคิดความอ่านที่เป็นผู้ใหญ่เช่นนี้"
"นั่นสิ เอาซะข้าอยากให้นางเป็นประมุขเจียงรุ่นถัดไปเลย"
ซึ่งการกระทำพวกนี้อยู่ในสยตา
เจียงเฉิงที่ตอนแรกแค่มาดูจนตอนนี้ยิ้มไม่หุบ
"ต่อให้เจ้าลืมบอกข้าว่าให้ดูเจ้าแปดข้าก็จะดูให้ว่าเขาจะไม่ละเมิดและจะส่งจดหมายบอกเจ้าทุกวัน"
ทางด้านจินเยียนหราน
"พี่หญิง"
"ทำไมท่านช้าจัง"
"ไม่มีอะไร เจ้าอาบน้ำแล้วใช่มั้ย"
"ขอรับ"
"มีแผลหรือไม่"
"ข้าต่างหากต้องถามพี่หญิงที่ข้าทับท่าน"นางนึกเอ็นดูจนยิ้ม
"ข้าจะต้องไปจินหลินไถแล้วเจ้าอย่าสร้างเรื่องนะ เพราะข้าบอกศิษย์สกุลเจียงทุกคนแล้วว่าถ้าเจ้าสร้างปัญหาให้ส่งจดหมายรายงานข้าแล้วข้าจะกลับมาจัดการเจ้า"
"ข้าสัญญาจะไม่สร้างปัญหาให้ท่านกับท่านน้าหนักใจ"
"อาหลิง เจ้าโกรธศิษย์พี่แปดหรือไม่"
"ขอรับ"
"อย่าโกรธเลย เขาแค่พูดไปเรื่อยเขาไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจเจ้า"
"แต่ว่าท่านต้องเข้าครัวและร้องเพลงกล่อมข้าจึงจะหายโกรธ"
"ได้"ทั้งคู่ยิ้มให้ซึ่งสร้างความดีใจให้ศิษย์ที่แอบฟังอยู่ข้างนอกยิ่งถ้าจินหลิงไม่หายโกรธแส้จื่อเตี้ยนได้ลงหลังแน่
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!