ซินเทียร์ เป็นโอเมก้าที่มีใบหน้าแสนมีเสน่ห์ชวนให้ผู้คนที่พบเหลียวหลังกลับมามองซ้ำ แต่บัดนี้ร่องตาลึกโทรมบ่งบอกถึงความอ่อนล้าจากการทำงานอย่างหนัก
ริมฝีปากที่เคยแดงและเรื่อน่าจูบ กำลังเบะปากคว่ำลง บึ้งตึงเหมือนคนหงุดหงิดอะไรบางอย่าง
กลุ่มผมสีทองสวยที่ซินเทียร์แสนจะรัก กลับยุ่งเหยิงชี้ฟูเหมือนคนพึ่งตื่นนอน แล้วยิ่งสวมเสื้อตัวหลวมโครกยิ่งทำให้ตัวของซินเทียร์เล็กลงไปอีก
ดีแลนด์ อัลฟ่าหนุ่มเพื่อนสนิทดีกรีประธานบริษัทค่ายหนังยักษ์ใหญ่ถึงกับกลัดกลุ้มเสียจนยิ้มไม่ออก เขาแค่ไปทำงานต่างประเทศเพียงสามเดือน แต่เพื่อนคนสวยของเขาเปลี่ยนไปมากจนเขาตกใจไปไม่ถูก
" ซินเกิดอะไรขึ้นกับนายเนี่ย " ดีแลนด์นิ่งไปหลายวิก่อนจะหลุดออกจากภวังค์แล้ววิ่งไปหาเพื่อนตัวเล็กที่กำลังนั่งเหม่อลอยมองภาพในวาดในผ้าใบของตนเอง
" อ้าว ? ดีนมาตอนไหน " ดวงตากลมโตค่อยๆหันมามองเพื่อนสนิทด้วยความฉงน ยิ่งมองใกล้ๆดีแลนด์ก็ยิ่งสังเกตเห็นใต้ตาคล้ำที่ได้มาจากการอดนอนของซินเทียร์
" นี่ทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกแล้วเหรอ " ดีแลนด์ปัดเส้นผมที่ปรกดวงตาของซินเทียร์ออกเพื่อให้เห็นใบหน้าของเพื่อนตัวเล็กชัดๆ
" เป็นเรื่องปกติของเด็กศิลป์นี่นา " ซินเทียร์ยิ้ม แต่ดีแลนด์ก็สังเกตเห็นความอ่อนล้าในดวงตากลมโตคู่นั้น
" ไม่ต้องมายิ้มเลย แล้วเป็นญาติกับหมีแพนด้าหรือไงตาดำขนาดนี้ แล้วนี่กินอะไรหรือยัง " ดีแลนด์ถามไปเท่านั้นแหละ เพราะจำนวน แก้วกาแฟที่วางอยู่ไม่ห่าง เป็นสิบแก้วบ่งบอกว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาดื่มเพียงกาแฟเท่านั้น
" จะบ่นหรือจะถามก็เอาสักอย่างสิ " ซินเทียร์ว่าก่อนจะหัวเราะออกมา ซึ่งเสียงหัวเราะของคนตัวเล็กกังวานใสราวกับเสียงระฆังแก้ว
" แต่ก่อนอื่นไปอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวจะพาไปข้างนอก " ดีแลนด์ที่ทนกับสภาพเพื่อตัวเล็กไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปากไล่ไปอาบน้ำ
ซินเทียร์กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เพราะไม่อยากออกจากสตูดิโอของตนเอง เขายังวาดรูปไม่เสร็จและไม่อยากจะออกไปจากที่นี่
แต่ซินเทียร์ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะได้รับสายตากดดันมาจากเพื่อนตัวสูงของตนเอง ซินเทียร์ถอนหายใจอย่างปลงๆก่อนจะลุกออกไป
เมื่อไร้เงาของคนตัวเล็ก ดีแลนด์จึงค่อยๆเดินเก็บของที่วางระเกะระกะอยู่ทั่วพื้น เขานึกในใจพวกประติมากร จิตรกรทุกคนนี่ชอบวางของไปทั่วจนรกแทบไม่มีทางเดิน เหมือนซินเทียร์หรือเปล่านะ
แต่ดีแลนด์ ก็เพิ่งสังเกตว่าจำนวนผ้าใบที่วางอยู่บนพื้นล้วนมีภาพที่ซินเทียร์วาดเอาไว้ มีทั้งยังไม่เสร็จและภาพที่เสร็จแล้ว
แต่ทุกภาพก็จะเป็นภาพของชายผู้หนึ่ง ซึ่งดีแลนด์ไม่เคยเห็น ใบหน้าของเขาถ้าหากจะบอกว่าเป็นใบหน้าของลูกรักพระเจ้าคงไม่ผิด
ไม่ว่าจะดวงตา ปากหรือจมูก ทุกอย่างลงตัวเหมือนพระเจ้าบรรจงปั้น จนเขาไม่สามารถละสายตาได้ ถ้าเป็นอัลฟ่า ก็คงเป็นอัลฟ่าที่ยากจะหาใครมาเปรียบ
และเมื่อหันไปยังมุมห้องเขาก็พบแท่งหินอ่อนมีตำหนิขนาดใหญ่สูงราว 180 ซม วางอยู่ไม่ไกลนัก และเค้าโครงของหินก็ถูกแกะสลักไปมากกว่าสามสิบเปอร์เซ็น ซึ่งก็ดูเหมือนภาพวาดที่ซินเทียร์วาดค้างไว้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ซินเทียร์ ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนสินะ
ถ้าซินเทียร์แกะสลักรูปปั้นนี้เสร็จคงขายได้หลายร้อยล้านปอนด์สเตอร์ลิงเป็นแน่
หลังจากซินเทียร์ อาบน้ำสระผมเรียบร้อย เขาก็พาเพื่อนตัวเล็กออกมาตัดผมข้างนอก ดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ลอนดอนก็ชื่อขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สภาพอากาศร้อนที่สุดและหนาวที่สุดของอังกฤษอยู่แล้ว จึงทำให้เพื่อนตัวเล็กของเขาไม่งอแงที่จะอาบน้ำก่อนมาข้างนอก
และหลังจากแปลงโฉมเสร็จ ซินเทียร์ก็กลับมาเป็นสภาพเดิม ก่อนที่เขาจะบินไปดูงานที่ต่างประเทศ ดวงหน้าสะสวยราวกับตุ๊กตามีชีวิต กำลังเพลิดเพลินกับการกินอาหารบนโต๊ะ ยิ่งมองยิ่งเพลินตา
" นี่ซิน ระหว่างที่ฉันไม่อยู่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า " ซินเทียร์ที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะส่ายหน้ากลับไปเบาๆ
แต่สายตาของซินเทียร์ก็สะท้อนถึงความรู้สึกภายใน โดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ดีแลนด์จ้องมองราวกับจะอ่านทะลุเข้าไปในจิตใจ แต่ซินเทียร์ก็หลบสายตาและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" พ่อนายมาอีกแล้วใช่มั้ย " ซินเทียร์ไม่ต้องตอบ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าต้องใช้แน่ๆ ตาแก่นั่น นอกจะไม่ทำอะไรแล้วยังเป็นผีพนันชอบมารีดไถเงินจากเพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นประจำ
ทั้งที่เขาให้เงินก้อนไปหลายครั้งแล้ว และให้เลิกยุ่งกับเพื่อนตัวเล็ก แต่มันก็ไม่เลิกแถมเอาเงินไปผลาญกับการพนันเสียหมด
" เท่าไหร่ " ดีแลนด์ถามด้วยความหงุดหงิด
" เราจัดการเองได้ นี่ภาพก็ใกล้เสร็จแล้ว " ซินเทียร์ตอบ ซึ่งคนตัวเล็กก็ตอบแบบนี้ทุกครั้ง แต่ภาพของซินเทียร์ขายไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่ใช่แนวที่ตลาดต้องการ และเงินที่ได้มาไม่พอที่จะเลี้ยงตัวเองและใช้หนี้ให้พ่อ
เขาอยากจะช่วยแต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยจะรับเงินเลย แต่ถึงจะรับไป เมื่อได้เงินจากการขายภาพมาแล้วซินเทียร์ก็นำมาคืนทุกครั้ง
" 100,000 ปอนด์สเตอร์ลิง พอมั้ย " ซินเทียร์ยกมือห้ามทันทีและแสดงออกชัดว่าไม่เห็นด้วย
" อย่าเลย เรารู้นะว่าตอนนี้บริษัทดีนกำลังมีปัญหา เราไม่อยากรบกวนแล้ว " ดีแลนด์หันขวับมาเพราะนึกว่าหูตนเองได้ยินผิดเพี้ยนไป
" แค่นี้ดีนก็ช่วยเรามากพออยู่แล้ว อีกอย่างเจ้าหนี้เขาก็ให้เวลาถึงสิ้นเดือนนี้ เรายังมีเวลาหาเงิน... " แต่านเดือนนี้ก็แปลว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนแล้ว ราวกับถูกเข็มทิ่มแทงในใจของดีแลนด์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนตัวเล็กได้
ซึ่งความจริงที่ว่า บริษัทของเขากำลังประสบปัญหาเพราะว่าหนังภาพยนต์ฟอร์มยักษ์ เรื่องที่ลงทุนทำไปไม่ประสบความสำเร็จและจมทุน ซึ่งเรื่องหนึ่งหมดไปกว่า สิบล้านปอนด์สเตอร์ลิง(ประมาณ 442,100,293 บาท)
" ถ้ามันไม่มากไปฉันก็พอจะช่วยได้ " ซินเทียร์ส่ายหน้าและกอดความอัปยศอดสูเอาไว้กับตนเอง
" ไม่ต้องห่วงเราหรอก แค่นี้ดีนก็เหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปบริษัทเถอะ เราก็จะกลับไปทำงานแล้ว แล้วก็ขอบคุณที่เลี้ยงนะ เราไปก่อนแล้วเจอกัน "
ซินเทียร์กล่าวก่อนจะก้าวเท้าฉับๆหนี โดยไม่หันหลังกลับมามองเพื่อนตัวสูงที่แสดงสีหน้าหมองคล้ำเป็นทุกข์อีก
ดีแลนด์จ่ายเงินและมุ่งตรงไปยังบาร์สถานที่ประจำที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของคลับ เพื่อสืบหาสาเหตุที่เพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นแบบนี้
" แหม หน้าหงิกมาเชียว " ทันทีที่เปิดประตูเข้ามายังห้อง VVVIP ก็พบใบหน้าเข้มสมชายชาตรีของโจอี้เพื่อนสนิทสมัยไฮสคูล โดยมีสาวสวยประกบอยู่ทั้งสองข้าง
ถึงโจอี้จะไม่ใช่อัลฟ่า แต่จุดเด่นของคือสันกรามที่ชัดเจนและผิวสีเข้ามคล้ามแดด ความเจ้าชู้และกวนตีนของโจ้อี้ทำให้ใครต่อใครต่างก็หลงรัก
" ออกไปก่อนนะ " โจอี้ไล่สาวนั่งดริ๊งในห้องออกไปเพื่อจะได้คุยกับเพื่อนหนุ่มที่ทำหน้าไม่รับแขก แต่ก่อนจะออกไปก็ชิงหอมแก้มเนียนนุ่มของสาวๆคนละครั้ง
" ทำหน้าแบบนี้เพราะเรื่องซินหรือเรื่องหนังที่จ่มทุนวะ " โจอี้ถามจี้จุด ดีแลนด์ชำเลืองมองด้วยสายตาเฉือดเฉือน ทำให้เพื่อนตัวใหญ่หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยความถูกใจ
" เกิดอะไรขึ้นกับซินตอนฉันไม่อยู่ นายได้ไปดูตามที่ฉันบอกรึเปล่า " ก่อนที่ดีแลนด์จะเดินทางไปต่างประเทศเขาก็ได้ฝากฝังให้เพื่อนตัวสูงดูแลซินเทียร์ให้ แต่สภาพที่เขาเจอซินเทียร์เมื่อเช้า อีกฝ่ายดูไม่ได้เลยสักนิด
" ก็ไปดูตลอดนั่นแหละ แต่มึงก็รู้ซินเทียร์ไม่ฟังใครหรอกนอกจากมึง "
" นอกจากนั้นล่ะ ไอ้แก่นั่นมันมาขโมยเงินอีกแล้วใช่ไหม "
" ใช่ แต่ไม่ต้องห่วง ครั้งนี้กูไปช่วยทันซินเลยไม่โดนทำร้ายร่างกาย แต่มันมีเรื่องที่น่าห่วงอยู่เรื่องนึงนะ " โจอี้บอกก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
" เรื่องน่าห่วงคืออะไร " ดีแลนด์นั่งเหยียดหลังตรงอัตโนมัติ เพราะลุ้นกับคำตอบของโจอี้
" รอบนี้ไอ้แก่นั่นมันติดหนี้ 2,000,000 ปอนด์สเตอร์ลิง " ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจกับยอดเงินที่พ่อของซินเทียร์ติดหนี้ไว้
*ประมาณ 88,420,058 บาท
อย่างที่บอกไว้ว่าเขาให้เงินพ่อของซินไปหลายรอบแล้ว โดยไม่ให้ซินรู้ และแต่ละครั้งไอ้แก่นี่ก็มักจะนำเงินไปเล่นการพนันเสียหมดแต่ครั้งนี้มันมากเกินไป และบริษัทของเขากำลังเกิดปัญหา จนไม่สามารถที่จะนำเงินมากขนาดนั้นมาช่วยเพื่อนตัวเล็กได้
" และนั่นยังไม่หมด ไอ้แก่นั่นจะเอาซินไปขัดดอกก่อน " ดวงตาโชนไปด้วยความเดือดดาลเมื่อฟังจบ และขว้างปาข้าวของบนโต๊ะด้วยแรงอารมณ์
" อย่าเพิ่งโมโหไป เจ้าหนี้ของไอ้แก่นั่นเป็นคนดี เขาให้เวลาซินเทียร์ถึงวันจันทร์นี้ ถ้าหาเงินมาคืนไม่ได้ก็ไปอยู่กับเขา "
" ว่าไงนะ! ไหนซินบอกว่าสิ้นเดือนไง แล้วไหงเหลือแค่ถึงวันจันทร์นี้!! " เขาฟิวส์ขาด ทุบโต๊ะเสียงดังอย่างโมโห
" ซินคงโกหกให้มึงสบายใจ " ดีแลนด์พยายามข่มอารมณ์ที่พุ่งพ่านขึ้นมาให้สงบ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งกระแทกบนโซฟาอย่างแรง
" กูจะทำยังไงดี " ใบหน้าหล่อตี๋ของดีแลนด์ บ่งบอกถึงความซับซ้อนยากจะอธิบาย
" แต่งงานไง "
" อะไร!? เวลานี้ยังมาเล่นอีก "
" กูพูดจริง แต่งงานกับคนรวยแล้วปัญหาทุกอย่างจะถูกแก้ เงินที่จมทุนหรือช่วยซินเทียร์มึงก็จะทำได้ " โจอี้แนะนำด้วยท่าทางสบายๆ ยุคนี้มันขับเคลื่อนด้วยเงิน ถ้าเรามีปัญหาเพราะเงินเราก็ต้องใช้เงินแก้ปัญหา โลกนี้มันก็เป็นแบบนี้แหละ
" กูรู้ว่ามึงรักซิน แต่ยังไงมึงก็ลองไปคิดดูแล้วกัน ความรักมันกินไม่ได้ แล้วมันก็ช่วยเหลืออะไรใครไม่ได้เหมือนกัน " โจอี้กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปตบบ่าเพื่อนสนิทเบาๆให้กำลังใจแล้วเดินออกไปจากห้อง ทิ้งดีแลนด์ไว้เพียงคนเดียว
ในขณะเดียวกัน ซินเทียร์กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่ตรอกข้างสตูดิโอที่ดีแลนด์ซื้อให้เป็นของขวัญวันเรียนจบ ควันบุหรี่ถูกพ่นออกมา พร้อมกับเสียงถอนหายใจ
ดวงตาที่เคยสดใสตอนนี้กลับหม่นหมองเหมือนคืนไร้ดาว ซินเทียร์เคยเป็นคนที่ไม่ชอบบุหรี่และให้ดีแลนด์กับโจอี้เลิกบุหรี่ แต่ตอนนี้กลับเป็นเขาเองที่สูบบุหรี่ที่ตนเกลียดนักหนา
กลิ่นขมๆของบุหรี่ติดอยู่ในลมหายใจ แต่มันก็ไม่ขมและทรมานเท่ากับชีวิตของเขาตอนนี้เลยสักนิด
" มีเรื่องทุกข์ใจเหรอคุณปติมากร " ซินเทียร์สดุ้งแรงจนเผลอปล่อยบุหรี่ในมือตกสู่พื้น เขารีบเหยียบมันทันทีเมื่อเห็นว่าบุคคลที่เข้ามาทักเขาเป็นหญิงชราผู้หนึ่ง
หญิงชราคนนี้สวมผ้าคลุมปิดทั้งร่างกายเห็นเพียงใบหน้าและดวงตาเพียงเล็กน้อย
" คุณยายรู้จักผมด้วยหรอครับ " ซินเทียร์ถามด้วยความประหลาดใจ เขาเรียนวิจิตรศิลป์มาก็จริง แต่เขาชอบวาดรูปมากกว่างานปั้นเพราะงานมันเสร็จเร็วและหาเงินได้เร็วกว่า แต่ผลงานของเขาก็เป็นเพียงผลงานธรรมดาไม่ได้โดดเด่น จนกว่าจะมีคนเข้ามาทักแบบนี้
" นี่หนูเคยได้ยินตำนานพิกมีเลียนหรือเปล่า ตำนานประติมากรผู้หลงรักรูปปั้นของตนเองน่ะ "
......................
กว่าซินเทียร์กลับเข้ามาในสตูดิโอของตนเองหลังจากคุยกับคุณยายแปลกหน้าเสร็จ ถึงจะไม่รู้จักกันแต่ได้คุยเรื่องตำนานที่เขาเคยเรียนสมัยปริญญาอีกครั้งก็สนุกไม่น้อย
แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าภายในมีคนกลุ่มหนึ่งนั่งรอตนเองอยู่ และคนพวกนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพวกแก๊งทวงหนี้ของพ่อเขา
ชายร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยบาดแผลหันมามองเขาก่อนจะส่งยิ้มน่ารังเกียจชวนสะอิดสะเอียนมาให้
นี่มันก็ใกล้วันที่จะต้องจ่ายเงินแล้วพวกมันคงจะ เช็คให้แน่ใจว่าซินเทียร์ยังไม่หนีไปไหน
ถึงในตอนนี้เขาจะยืนนิ่งและสบตากับพวกมัน แต่ภายในอกนั้นกระสับกระส่ายคล้ายลมพายุกำลังจะมา
มันเดินเข้ามาประชิดตัวเขา ซินเทียร์ก้าวถอยหลังออกห่างอัตโนมัติสีหน้าแสดงออกถึงความขยะแขยงอย่างชัดเจน มันพยายามจะจับเส้นผมสีทองของเขา แต่ซินเทียร์ก็เบี่ยงกายหลบเพราะไม่อยากให้โดนสัมผัส
ซินเทียร์มองพวกมันด้วยสายตาไม่พอใจ แต่ก็ยิ่งทำให้พวกมันหัวเราะชอบใจกับพฤติกรรมที่เหมือนลูกแมวขู่ของคนตัวเล็ก
“นี่ยังไม่ถึงวันจ่ายพวกแกมาทำไม” ซินเทียร์ถามขณะกวาดสายตาตรวจตราทุกอย่างด้วยความรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่า ของในห้องเขาไม่ได้ถูกหยิบเพื่อนำไปขายหรือพวกมันพกอาวุธติดตัวมาเพื่อพาตัวเขากลับไป
แต่ก็คงไม่ใช่ เพราะเจ้านายของพวกมันสัญญาแล้วว่าจะไม่ทำอะไรเขา
" พวกกูก็แค่มาดู กลัวว่ามึงจะหนีไป เพราะถ้ามึงหนีพวกกูก็ซวยสิ "
"แล้วฉันเคยหนีรึไง" นายเอกยังทำใจดีสู้เสือพยายามจะไม่แสดงออกถึงความกลัวภายในจิตใจ
“ทำตัวน่ารำคาญจริงๆ ไอ้พวกสัตว์นรก” เขาพึมพำสาปแช่งพวกนั้น สายตาเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ไอ้หัวโจกตัวใหญ่มันเค้นหัวเราะออกมาราวกับคนบ้าก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ใบหน้าของซินเทียร์อย่างแรง
“อย่าคิดว่ากูไม่ได้ยินสิ คิดว่ากูไม่กล้าตบหน้าสวยๆ นี้เหรอ!” มันตวาดก่อนจะผลัดซินเทียร์ลงไปกองกับพื้นก่อนจะก้มลงมาจิกผมของซินเทียร์ให้แหงนหน้ามองมัน
" เก็บปากดีๆของมึงไว้อมของกูดีกว่ามั้ง" คำพูดหยาบโลนของมันส่งมาถึงยังซินเทียร์และตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดูถูกจากพรรคพวกของมันด้านหลัง
“พี่ครับนี่มันของคุณท่านนะ ผมว่าอย่าทำให้เป็นรอยดีกว่า อีกไม่กี่วันเราก็ต้องมาพาตัวมันไปให้หัวหน้าอยู่แล้ว” หนึ่งในลูกน้องของมัน พูดตะล่อมอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ก็ดูอีกตัวนี่สิ ใช้ความสวยไม่เป็นเลย ทำตัวน่าหมั่นไส้ฉิบหาย เอาเป็นว่าเดี๋ยววันจ่ายกูมาใหม่ แล้วกันเตรียมเงินให้พร้อมด้วยล่ะ แต่ถ้าไม่มีเงินก็….”
มันพูดแล้วขณะใช้สายตาหยาบโลนมองทั่วร่างกายของซินเทียร์ ก่อนที่จะระเบิดหัวเราะออกมา แล้วเดินจากไปทิ้งไว้เพียงความอัปยศให้กับคนตัวเล็ก
แววตาคู่สวยฉายถึงความรังเกียจเขากระดูก ความอาฆาตแค้นปรากฏขึ้นในแววตา เขาสาปแช่งพวกมันในใจเป็นร้อยรอบอยากให้ตายให้หมดเสียจริงๆ
เขาเดินออกจากสตูดิโออีกครั้งแต่ก่อนออกก็ไม่เดินที่จะล็อคประตูเอาไว้ เขาว่าจะไปหาเหล้าดื่มแก้เซ็ง ที่ร้านของเพื่อนสนิทอย่างโจอี้เสียหน่อย แต่ระหว่างทางเขาก็เห็นว่ามีผู้คนสนุกสนานกับเทศกาลทั้งสองข้างทางอย่างหนาแน่น
ทุกคนยิ้มและหัวเราะอย่างสนุกสนานและมีความสุข บางคนมาเฉลิมฉลองกับครอบครัว บางคนเข้ามาเดทกับคนรัก หันไปทางไหน ก็มีแต่เตรียมหัวเราะและความครึกครึ้ม แต่มีเพียงเขาที่ยืนทำหน้าอมทุกข์อยู่คนเดียวท่ามกลางงานเทศกาลอันแสนสนุก
วันนี้มันเป็นวันอะไรกันนะ
ระหว่างที่ยืนอยู่เขาก็นึกถึงคำพูดของหญิงชราที่เจอในตรอก วันนี้เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองให้กับเทพีอโฟรไดท์นี่เอง ถึงว่าหญิงชราคนนั้นถึงถามว่าเขาจากตำนานของพิกเมเรียนรึเปล่า
ในตำนานกล่าวว่าพิกเมเรียน เป็นผู้หันหลังให้กับความรักและอุทิศตนให้กับการทำงานในทุกๆวัน เขาจะใช้ค้อนและสิ่ว เพื่อสร้างสรรค์งานประติมากรรมของตนเอง
และเขาได้แกะสลักหญิงสาวที่แกะสลักจากงาช้าง จนกระทั่งปั้นเสร็จเขาก็หลงใหลในความงามของหญิงสาว และเริ่มทำราวกับรูปสลักนั้นมีชีวิต
และ เมื่อถึงเทศกาลเฉลิมฉลองให้กับเทพีอโฟรไดท์ พิกเมเลียนก็เข้าร่วมพิธีกรรมครั้งนั้น ขณะที่ยืนอยู่ข้างแท่นบูชา เขาก็อ้อนวอนและภาวนาว่า
“หากเทพเจ้าสามารถประทานได้ทุกสิ่ง โปรดประทานภรรยาให้กับข้า ข้าขออธิษฐาน...ให้บุคคลนั้นเป็นเหมือนหญิงสาวจากงาช้างแกะสลักนั่น...”
เมื่อเทพีอโฟรไดท์ได้ยินความปรารถนาอันแรงกล้า ของเขาด้วยความสงสาร นางจึงตอบรับคำอธิษฐานด้วยการดลบันดาล ให้เปลวไฟลุกโชนขึ้นสามครั้ง เป็นสัญญะแทนคำตอบ และเมื่อกลับไปถึงรูปแกะสลักของเขาก็มีชีวิต
และนั่นเป็นตำนานเกี่ยวกับพิกเมเลียน ที่เขาเคยได้เรียนมา เรื่องราวที่จบอย่างสวยงามและโรแมนติกสมกับเป็นตำนานกรีก หากคำอธิษฐานในชีวิตจริง จะสมหวังดั่งใจแบบพิกเมเลียนหรือไม่
นั่นเป็นคำถามในใจของซินเทียร์ เมื่อมาถึงแท่นบูชาของเทพีอโฟรไดท์
ท่านจะตอบรับความปรารถนาของผมเหมือนดังที่ท่าน ตอบรับความปรารถนาของพิกเมเลียนหรือไม่
ทั้งชีวิตของผมมีแค่พ่อ ส่วนแม่เสียชีวิตโดยมีพ่อเป็นคนฆ่า เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นเรื่องที่ผมจำไม่ลืม
พ่อเมาเหล้าและต้องการเงินที่จะไปเล่นการพนัน แต่ว่าแม่ไม่มีให้ เพราะแม่ซ่อนเงินสำหรับให้ผมไปเรียนหนังสือ แต่พ่อก็จับได้
เขาคว้าขวดเหล้าที่อยู่ไม่ไกล ทุบลงบนศีรษะแม่จนแม่ล้มลงไปกองกับพื้น จากนั้นก็ทำร้ายร่างกายทุบตีแม่จนแม่เสียชีวิต
หลังจากพ่อออกมาจากคุกเขาก็เล่นการพนันอีก แต่ตอนนั้นผมมีเงินเก็บจากการทำงานพาร์ทไทม์ และการสอนนักเรียนมัธยมที่เตรียมเช้ามหาลัย ผมจึงเป็นแหล่งผลิตเงินชั้นดีสำหรับพ่อ และหากผมไม่ให้หรือซ่อนเงินผมก็จะโดนทำร้ายร่างกายเหมือนกับแม่
แต่ยังดีที่ผมหนังเหนียว และมีเพื่อนที่ดีอย่างดีแลนด์ที่พาไปส่งโรงพยาบาลทุกครั้งที่ผมโดนพ่อทำร้ายร่างกายและช่วยออกค่ายาแสนแพงเมื่อผมฮีท ผมจึงมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
แต่ตอนนี้ผมไม่อยากอยู่แล้วล่ะ ตอนนี้ผมเหนื่อยมากและเงินที่พ่อไปติดมาก็มาสำหรับผมหลายเท่าและผมมั่นใจว่าพ่อผมไม่หยุดแค่นี้แน่ ถ้าคราวนี้เขาพาผมไปขายอีก ดีแลนด์ที่กำลังจะล้มละลายตอนนี้คงไม่มีเงินมาช่วยผมอีกแน่ เพราะอย่างนั้นตอนนี้ผมถึงไม่อยากจะอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นท่านเทพีครับ ได้โปรดพาความทุกข์ไปจากผมที
ผมไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ผมเหนื่อยเหลือเกิน
“ขอเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย” ซินเทียร์สะดุ้งเมื่อชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาตะโกนด่าขึ้นมาโต้งๆ แต่โชคดีที่ไม่ได้ด่าเขา
“เอ้า ไหนมึงบอกว่าขออะไรก็ได้ไง” เพื่อนของชายคนนั้นถามกลับด้วยความงุนงง
“เทพีอโฟรไดท์ เป็นเทพีแห่งความรักแล้วมึงขอเรื่องล็อตโต้อะนะ!! มึงบ้าเนี่ย”
จริงด้วย เทพีอโฟรไดท์เป็นเทพีแห่งความรัก แล้วผมขอให้ท่านปลดชีวิตผมเนี่ยนะ ช่างไร้สาระจริงๆ ถ้าไม่ได้สองหนึ่งเตือนสติเขาคงนั่งขอพรที่แสนไร้สาระนี่ต่อไป
ถึงรอยยิ้มของซินเทียร์ในยามนี้จะจืดชืดไร้ชีวิตชีวา แต่ใบหน้าที่งดงามราวกับลูกรักเทพของเขา ก็ไม่ได้ทำให้เขาดูหม่นหมองลงไปเลย
ซินเทียร์เดินหันหลังจากไปด้วยความความผิดหวัง โดยไม่ทันสังเกตว่าเปลวไฟด้านหลังตนลุกโชนขึ้นสามครั้ง เป็นสัญญะแทนคำตอบ
" ข้าขอให้ต่อจากนี้เจ้าจงมีความสุข ดั่งที่หวัง "
ซินเทียร์กลับมายังสตูดิโออีกครั้งเพื่อทำงานต่อ ตอนที่เขาจะไปหาโจอี้แต่เปลี่ยนใจเพราะว่า ดีแลนด์อยู่ที่นั่นและตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะพบกับดีแลนด์ในตอนนี้
เขาหยิบพู่กันมาเพื่อจะวาดรูปต่อ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นแท่งหินอ่อนที่ เขาตั้งใจที่จะแกะสลักมันและนำไปขายต่อเพื่อใช้หนี้ให้กับพ่อ
ดูเหมือนว่าเขาจะเสียเวลากับการวาดภาพมุมต่างๆของรูปสลักไปมาก เพราะเขาต้องการให้มันสมบูรณ์ที่สุดในทุกๆมุม จึงต้องวาดออกแบบให้ดี
แต่มันก็มากจนไม่รู้ตัวว่าทั้งห้องเขามีแต่รูปชายในฝันจนเกลื่อนห้อง ชายนิรนามที่เขาไม่เคยพบมาก่อน พวกเราจะพบกันก็เพียงเมื่อซินเทียร์หลับเท่านั้น
ชายผู้นี้มีใบหน้าที่ไม่ว่าใครเห็นก็จะต้องอ้าปากค้างกันบ้าง ดวงตาลึกลึกล้ำยามจ้องมองก็คล้ายถูกดึงดูดให้ตกลงไป รู้ตัวอีกทีซินเทียร์ก็มายืนจ้องรูปสลักของตนเองต่อเสียแล้ว
มือขวานวลเนียนสัมผัสเข้าที่ท่อนแขนแกร่งที่สลักค้างไว้ ลูบลงไปถึงเส้นเลือดปูดโปนตามแขนและนิ้วมือ
" อุ่นดีจัง.... "
" เอ๊ะ! " ซินเทียร์สะดุ้ง เมื่อกี้เขาพูดว่าอุ่นเหรอ? หุ่นเนี่ยนะอุ่น?
อากาศร้อนจนเบลอแล้วซินเทียร์ เขาตบใบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติ ก่อนจะหันหลังกลับไปถ่ายภาพผลงานศิลปะของตน วันนี้เขาจะขายภาพวาดทั้งหมดออกไปก่อน เขามั่นใจในงานครั้งนี้มากคงจะได้เงินมาสักก้อน
เขาจะนำเงินก้อนนี้ไปต่อรองกับเจ้าหนี้ก่อน เขาเป็นคนใจดีคงจะต่อรองได้อีกสักครึ่งเดือน ระหว่างนั้นเขาน่าจะแกะสลักเสร็จและนำเงินไปประมูลขาย มันน่าจะมากพอสำหรับใช้หนี้ของพ่อได้
ผลงานภาพวาดของซินเทียร์ถูกอัพโหลดลงไปที่อเมซานเว็บไซต์ขายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาหวังว่าจะมีคนประมูลพวกมันไปในราคาสูงๆ
ซินเทียร์กลับมายังห้องของตนเอง ร่างบางเอนกายลงนอนพร้อมกับท่อนแขนเรียวๆข้างหนึ่งยกขึ้นก่ายหน้าผากอย่างกลัดกลุ้ม
หรือว่าจะหนีไปเลยดีนะ แต่เขาก็ทิ้งพ่อไม่ได้ ถึงตาแก่นั่นจะเป็นผู้ชายที่แย่ แต่ก็เป็นพ่อเขาอยู่ดี เขาไม่อยากมีคำว่าเนรคุณติดตัวไปจนตายหรอก
ซินเทียร์พยายามข่มตาหลับแต่ความวิตกกังวลของเขาก็ปลุกให้เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
ซินเทียร์ตื่นขึ้นมาในยามสายของวันถัดมา เขาเริ่มต้นยามเช้าด้วยการนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือตัวเอง ใจหนึ่งก็อยากจะเปิดดูเว็บไซต์ที่ลงประมูลภาพเมื่อคืน แต่อีกใจก็กลัวว่าจะได้เงินมาไม่พอไปต่อรองกับเจ้าหนี้
เสียงกดกริ่งรัวๆจากหน้าประตู เป็นเสียงปลุกให้ซินเทียร์หลุดออกจากภวังค์ เขาเดินกึ่งวิ่งเพื่อไปดูว่าใครมาหาเขา แต่ในใจก็ภาวนาอย่าให้เป็นดีแลนด์เลย
" โจอี้? มาทำไมที่นี่ " เพื่อนผิวแทนตัวสูงเผยรอยยิ้มทักทาย แล้วดึงแขนเรียวเล็กของซินเทียร์ให้เข้าไปด้านใน
" นี่มันสุดยอดไปเลยซิน!!!! ไม่รู้เลยนะว่านายเก่งขนาดนี้ "
" เดี๋ยวๆ บอกฉันทีได้ไหมว่าพูดเรื่องอะไรอยู่ " ซินเทียร์ที่ยังงุนงงกับพฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนตัวสูงด้วยความสงสัย
" แปลว่ายังไม่รู้ใช่ไหม ดูนี่สิ " โจอี้ยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ซินเทียร์ดู ในจอปรากฏเทรนทวิตตี้ที่ขึ้นอันดับหนึ่งในตอนนี้
#ตามหานายแบบในรูป บอกฉันทีว่ารูปวาดที่กำลังดังในอเมซานนี่เขาเป็นใคร ทำไมถึงหล่อขนาดนี้ เขามีตัวตนจริงไหมคะ วอนนักวาดมาตอบที
#ตามหานายแบบในรูป ฉันอยากเจอคนในรูปวาด มีใครมีวาร์ปไหมคะ
#ตามหานายแบบในรูป omg ประมูลกันโหดมากกกก
#ตามหานายแบบในรูป ฉันไม่อยากได้ภาพวาด แต่อยากได้คนในภาพมากกว่า
และอีกหลายหลายทวิตตี้ที่มีการพูดถึงภาพวาดของเขา นี่ผลงานของเขาเป็นไวรัลชั่วข้ามคืนเลยเหรอเนี่ย พลังของอินเตอร์เน็ตน่ากลัวเกินไปแล้ว
" เข้าเว็บไซต์ไปดูเร็ว " โจอี้เร่ง คนตัวเล็กส่งโทรศัพท์คืนเพื่อนตัวสูงแล้วรีบไปหยิบโทรศัพท์ตนเองมาเช็คเว็บไซต์ประมูล
และก็เป็นไปตามคาด ผลงานภาพวาดของเขามีคนต่างพากันประมูลในราคาที่สูงลิบลิ่ว และมีผู้คนจำนวนมากส่งข้อความมาหาเขาอย่างถล่มทลาย
ทำไมกัน เกิดอะไรขึ้น
" เกิดอะไรขึ้นเนี่ยโจอี้... เราเผลอไปทำอะไรไม่ดีรึเปล่า " ซินเทียร์ถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง โจอี้หัวเราะเต็มเสียงอย่างตลกขบขันกับพฤติกรรมน่ารักๆของเพื่อนตัวน้อย
" ก็งานซินดีหนิ ไม่แปลกที่จะมีคนสนใจ " โจอี้พูดจากใจจริง งานรอบนี้ของซินเทียร์สวยมากจริงๆ แล้วยังมีภาพวาดจากหลายมุม ยิ่งทำให้เห็นความงดงามของภาพวาดมากขึ้นไปอีก ไม่แปลกที่ใครเห็นก็ต่างอยากได้และอยากจะเจอนายแบบภาพนี้
" ถามหน่อยสิ ไปเอานายแบบมาจากไหนเนี่ย ขอคอนแทคบ้างได้ไหม อยากได้ไปทำงานที่บาร์ " นั่นคือจุดประสงค์ของโจอี้ในวันนี้ นอกจากแสดงความยินดีกับเพื่อนตัวเล็ก
" ไม่มีหรอก " ซินเทียร์ส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ
" ก็เคยบอกแล้วไงว่าวาดจากความฝันน่ะ...." ความกระอักกระอ่วนเจืออยู่ในน้ำเสียง สีหน้าของซินเทียร์ดูไม่สู้ดีนัก เพราะกลัวว่าเพื่อนจะมองตนผิดไป แต่ถ้าจะให้ไปหาผู้ชายที่ตนฝันถึง ซินเทียร์ก็คงทำไม่ได้
" แล้วไอ้หนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังนั่นใคร? "
^^^ติดตามตอนต่อไป >>>>>^^^
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!