NovelToon NovelToon

ข้ามมิติมาเป็นนางบำเรอ

เฟยหลิน

"เฮ้ย..เฟยหลิง นักแสดงตัวประกอบคนอื่นมาไม่ได้ นายต้องถ่ายฉากนี้แทนจ้าวจิ่งนะ" เสียงผู้กำกับตะโกนสั่ง ซึ่งเขาก็ต้องรีบทำตามคำสั่งนั้นทันที

"เสียดายนะฝีมือดี หน้าตาก็ดีแต่มีพวกชอบใช้อำนาจในทางมิชอบ ข่มเหงคนอื่น" เสียงของคนในกองถ่ายมองพระเอกคนดัง สุภาพบุรุษต่อหน้าคนอื่น ที่แท้ก็แค่พวกขี้อิจฉาขยะไร้ค่าคนหนึ่ง ซีนสวยๆที่เจ้าตัวเอาไปแอบอ้าง ก็มีแต่เฟยหลิงทั้งนั้น

"เอ้าผ่าน ทำได้ดีมากเฟยหลิง" ผู้กำกับมองอีกฝ่ายอย่างเห็นใจ ถ้าอีกฝ่ายยังอยู่ที่นี่ยังไงก็ไม่มีทางได้ขึ้นเป็นนักแสดงแบบเต็มตัว ถ้าหมอนี่หมดสัญญาไป แล้วไปที่ค่ายอื่นเชื่อเหลือเกินว่า ค่ายนี้ต้องสูญเสียเพชรเม็ดงามที่แท้จริงไปแน่ๆ

"เอาละเลิกกองถ่ายได้ วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน" ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่นั้น ก็มีคนปริศนาปิดหน้าปิดตาเดินตรงเข้ามาในเขตกองถ่าย มันจ้องมองไปยังเป้าหมายก่อนจะกระหน่ำแทงอีกฝ่ายไม่ยั้ง จนเมื่อมันเห็นหน้าอีกคนชัดๆก็ต้องตกใจอย่างหนัก เมื่อเป้าหมายไม่ใช่คนที่มันต้องการ เสียงกรีดร้องของทีมงาน เสียงตะโกนเรียกให้จับตัวผู้ก่อเหตุ จ้าวจิ่งที่เห็นเหตุการณ์ก็ช็อกสุดขีด ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาเฟยหลิงที่กำลังนอนหายใจรวยริน

"ไม่นะเฟยหลิงนายห้ามเป็นอะไรนะ ไม่ๆนายห้ามหลับเด็ดขาดขอร้องฉันขอโทษ" สิ้นประโยคคำพูดของจ้าวจิ่ง วิญญาณของเฟยหลิงก็หลุดลอยไปเสียแล้ว เขาได้แต่กอดอีกฝ่ายไว้แน่น ร่ำไห้จนแทบจะขาดใจ เฟยหลิงได้แต่ยิ้มเยาะเย้ยอีกฝ่ายในใจ จะมาเสียใจทำไม คนที่เสียต้องเป็นเขาไหมที่ต้องมาตายเพราะคนแบบนี้ ภาพที่เฟยหลิงเห็นก็คือ ผู้คนกำลังแยกร่างอันไร้วิญญาณของเขาออกจากจ้าวจิ่ง อีกฝ่ายกรีดร้องดังลั่นเมื่อกู้ภัยแยกตัวของเขาออกมาได้ สุดท้ายยังไงก็ไม่ทันการเสียแล้ว

งานศพของเขาถูกจัดอย่างเรียบง่าย จ้าวจิ่งมาที่งานแทบทุกวัน ใบหน้าคมหมองคร่ำอย่างเห็นได้ชัด แฟนคลับและสำนักข่าวต่างลงความเห็นที่ว่า จ้างจิ่งเสียใจที่เฟยหลิงต้องมาตายเพราะตนเอง ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์พระเอกของหมอนี่ ยิ่งดูดีขึ้นไปอีก หลังจากผู้คนทยอยกลับไปแล้ว จ้าวจิ่งที่ยังอยู่หน้าหลุมศพของเฟยหลงก็ร่ำไห้ออกมา ปากเอาแต่ขอโทษเขาซ้ำไปซ้ำมา นอนเกลือกกลิ้งไปบนหลุมศพราวกับคนใจสลาย

"เอาเถอะเห็นนายเสียใจขนาดนี้ ฉันก็จะยกโทษให้ แต่ว่าเกิดชาติหน้าฉันใด ขออย่าได้มาพบเจอกับคนแบบนายอีกเลย" ว่าแล้ววิญญาณของเขาก็ค่อยๆสลายไปทิ้งไว้แต่เพียงความว่างเปล่า และชายผู้หัวใจสลายคนหนึ่งเท่านั้น

ถือกำเนิด

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เฟยหลิงล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนไม่รู้สึกหิว ไร้ความเจ็บไม่รับรู้โลกที่กำลังเป็นไป เขามองไปด้านหน้าเห็นผู้คนมากมายกำลังข้ามสะพานไปฝั่งโน้นมากมาย ทั้งคนแก่ เด็ก คนหนุ่มสาว รวมถึงสัตว์ต่างๆมากมายที่กำลังข้ามไป ทุกคนไม่มีใครยอมพูดคุยกับใครเลย เฟยหลิงจึงพอจะรู้ความบ้างว่าสะพานที่เห็นตรงหน้า ก็คือสะพานไน่เหอ สะพานสู่ปรโลกของเหล่าคนตายนั้นเอง

"เอาเถอะไหนๆก็ตายไปแล้ว ก็ดีกว่าล่องลอยไร้จุดหมายละนะ" เฟยหลิงตัดสินใจข้ามสะพานไปกับกลุ่มคนเหล่านั้นทันที 

"เอ่ยนามของเจ้ามา" คนเฝ้าประตูถามเสียงดุดัน

"เจิน เฟยหลิงขอรับ" เขาตอบชื่อของตัวเองไป คนเฝ้าประตูขมวดคิ้วมุ่นเมื่อไม่ปรากฏชื่อของเฟยหลิง

"ในสมุดบัญชีไม่มีนามของเจ้า แสดงว่าเอามาผิดคนแน่นอน ลำดับนี้มันไม่ใช่ชื่อของเจ้า" ผู้เฝ้าประตูเรียกยมทูตขาวออกมา อีกฝ่าเห็นดังนั้นก็ตกใจ

"ข้าขออภัยในความผิดพลาดในครั้งนี้ แต่ข้าจะชดใช้ให้เจ้า" เฟยหลิงเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตัวแข็งทื่อ ตายแทนคนอื่นไม่พอ ตายฟรีอีกต่างหาก ทำไมชีวิตของเขาถึงบัดซบได้ถึงขนาดนี้

"ตอนนี้ร่างเดิมของเจ้าก็คงจะใช้การไม่ได้ เพราะวิญญาณของเจ้าหลุดออกมานานเกินไป ข้าจะชดเชยให้เจ้าก็แล้วกัน" ยมทูตขาวเดินมาจูงมือเฟยหลิง ก่อนจะให้เด็กหนุ่มเลือกประตูแห่งโชคชะตาของตัวเอง 

"ข้าให้โอกาสให้เจ้าเลือกชีวิตของตัวเอง ประตูมีอยู่สามบาน จงเลือกมันให้ดีๆ" ยมทูตขาวให้เด็กหนุ่มเลือกมันด้วยตัวเอง ประตูสีขาว สีทอง สีเงิน 

"ผมเลือกได้แล้วครับ" แม้ว่าอยากที่จะโวยวายด่าทอให้มากกว่านี้ แต่ก็อย่างนั้นแหละมันก็ไม่ช่วยให้เขากลับไปยังที่จากมาไม่ได้แล้ว ไหนๆก็จะเกิดใหม่แล้ว 

"เมื่อเจ้าเลือกได้แล้ว ก็เปิดประตูเข้าไปได้เลย และที่สำคัญที่สุดห้ามมีความลังเลโดยเด็ดขาด" เฟยหลิงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนเลือกประตูสีเงิน แสงสว่างสีขาวอาบร่างของเฟยหลิงก่อนที่จะหายไป

เสียงอึกกระทึกด้านนอกดังสนั่นหวั่นไหว เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เสียงเปิดประตูพร้อมทหารรูปร่างสูงใหญ่เข้ามาภายในห้อง พร้อมหญิงหน้าตาสะสวยวิ่งเข้า กลิ่นควันไฟเหม็นคละคลุ้ง เสียงกรีดร้องเสียงโลหะปะทะกัน สร้างความทั้งความงุนงงและหวาดกลัวให้กลับเฟยหลิงเป็นอย่างมาก ชายหญิงเหล่านั้นคว้าตัวเข้าพร้อมกับผ้าคลุมสีดำขนสัตว์ผืนใหญ่ห่อตัวเอาไว้

"คุณชายเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านแม่ทัพและฮูหยิ่นให้ท่านหลบหนีไปก่อน ตามบ่าวมาก่อนนะเจ้าค่ะ" หญิงสาวสองสามคนพร้อมทหารหกนายพาร่างบางหนีออกไปทางด้านหลังจวนของแม่ทัพใหญ่ ทั้งหมดลักลอบแฝงตัวหายไปกับความมืด  เฟยหลิงที่ตอนนี้ก็ยังงุนงงไม่หายแต่ก้ยอมตามพวกนั้นไป เหล่าองครักษ์พาเฟยหลิงนั่งรถม้าออกไป ทุกอย่างถูกเตรียมการไว้พร้อมสำหรับการหลบหนี

"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไม.."ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรจบ ก็มีเสียงโวยวายมาจากด้านหลัง

"พวกกเจ้ารีบพาคุณหนูหนีไปก่อน ข้างหน้าจะเป็นแม่น้ำจะมีเรือคนของเรารออยู่ที่นั่น ไปเดี๋ยวนี้" ทหารที่เหลือรีบสกัดทัพจากแคว้นฉีที่กำลังตามมา เมื่อทั้งหมดไปถึงแม่น้ำก็พบกับเรือที่จอดรออยู่ โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยแม้แต่น้อยว่าคนที่อยู่บนเรือ ไม่ใช่พวกของตนแล้วเมื่อเฟยหลิงก้าวลงเพียงลำพัง คนบนฝั่งก็ถูกจัดการ คมดาบจ่อไปที่ลำคอระหงของเฟยหลิงเอาไว้ ร่างกายบอบบางสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

"ฮ่าๆๆๆ บุตรชายเกอของเสนาบดีใหญ่แห่งแคว้นฉิน ช่างงดงามสมคำร่ำลือเสียจริง ถ้าได้ลิ้มลองสักครั้งมันคงจะดีมิน้อย" พวกทหารกักขฬะใจโฉดจับเฟยหลิงขึ้นมาบนฝั่ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะสะใจของพวกมัน มือหยาบบีบไปบนเนื้อนิ่มอย่างพึงพอใจ เฟยหลิงพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากชายชั่วพวกนี้ น้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลเอ่อออกมาเต็มสองแก้มเนียน

"อ้าก.. ใครบังอาจยิงธนูข้า" เมื่อมันมองเห็นว่าเป็นใครก็รีบแยกออกจากร่างงามนั้น ด้วยความหวาดกลัว

"สังหารพวกมันให้หมด กองทัพต้องไม่มีคนเฉกเช่นพวกมันอยู่ทัพของข้า" เพียงไม่นานทหารที่กระทำการล่วงเกินเฟยหลิงก็ตายตกลงไปจนหมด เขาค่อยๆพยุงร่างอันสั่นเทาขึ้นยืน กระชับเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ด้วยความทุลักทุเล เท้าก็คอยถอยหลังหนีห่างก่อนจะวิ่งไปยังเรือที่จอดอยู่ พร้อมกับออกเรือในทันที ชายหนุ่มในชุดแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉีมองตามอย่างพึงพอใจ

"ไม่ตามหรือขอรับท่านแม่ทัพ" รองแม่ทัพหานเหยี่ยนถาม

"หึ จะไปได้ไกลสักแค่ไหนกันเชียว บุตรเกอที่ไม่เคยไปไหนโดยไม่มีข้ารับใช้ เจ้าคิดว่าจะไปได้สักกี่น้ำ" แม่ทัพหนุ่มกล่าวอย่างดูแคลน แต่ในทางกลับกัน เฟยหลิงที่ตอนนี้ไม่ใช่บุตรชายเกอ ลูกชายคนเล็กแห่งตระกูลเจินผู้อ่อนแอคนนั้นเสียแล้ว เหตุการณ์เรื่องราวของเจ้าตัวฉายชัดในความทรงจำ เขาในฐานะคู่หมายขององค์รัชทายาทแห่งแคว้นฉิน ไม่แปลกที่คนพวกนั้นจะต้องการตัวเขา

"เอาเถอะเจ้าของร่างนี้ก็ดูปวกเปียกอ่อนแอเสียจริง จากนี้ก็คงต้องหาทางหนีให้พ้นจากคนพวกนั้นให้ได้ก่อน" เฟยหลิงตัดสินใจนอนหลับเอาแรงเสียก่อน เพราะดูจากระยะทางแล้ว คนพวกนั้นก็คงไม่ตามเขาในตอนนี้แน่ๆ แต่ก็ชะล่าใจไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ชายตัวใหญ่ภายใต้หน้ากากสีดำนั้น กลิ่นอายรอบตัวของเขามีแต่คำว่าอันตรายเต็มไปหมด

"เลิกที่จะมาเกิดที่นี่เองแล้ว ก็จะต้องปรับตัวอย่างเดียวเท่านั้น" เขาพูดสรุปกับตัวเองก่อนจะเอนตัวลงนอนปล่อยให้เรือค่อยๆล่องลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลไปเบื้องหน้า เขาขอมีชีวิตรอดและจะรักษาให้ดี ให้สมกับที่ได้ชีวิตใหม่มา

รุ่งเช้าเฟยหลิงก็ได้พายเรือไปอีกฝั่งของแม่น้ำ มีความเป็นไปได้ที่แม่ทัพนั้นจะต้องไปดักจับตัวเขาอย่างแน่นอน ถ้าเขาหลุดมาในนิยายเรื่องดวงใจจอมราชันจริง เขาก็คงเป็นบุตรเกอ ที่เกิดมาเป็นบุรุษที่สามารถท้องได้ บุตรชายของเสนาบดี เช็อกนฮุ่ยหมิง แห่งแคว้นฉิน

"อย่างน้อยในช่วงเวลานี้ก่อนที่พวกนั้นจะรู้ตัว เราก็คงหนีไปได้ไกลแล้ว จริงสิยังไงพวกนั้นก็ต้องตามรอยเท้าของเราไปแน่ๆ ทำยังไงดี" เฟยหลิงครุ่นคิดเพียงครู่หนึ่งก่อนจะตัดสิ้นเลือกที่เดินขึ้นไปตามโขดหิน อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเดินด้านล่างนี้

"เอาวะ ลองสู้ดูสักตั้งถ้าถูกจับได้ก็ถือว่าเขาให้ชีวิตมาแค่นี้ก็แล้วกัน โชคดีที่โลกก่อนไปปีหน้าผาบ่อยๆ" เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เฟยหลิงจึงเลือกเดินทางตามที่ตัวเองคิดเอาไว้ มือเรียวเกาะไปตามโขดหินเบื้องหน้าอย่างคล่องแคล่ว เสื้อคลุมที่ใส่แม้ว่ามันจะหนาและทำให้การเคลื่อนตัวลำบาก แต่เขาก็ไม่อาจจะทิ้งไปได้ อย่างน้อยในยามค่ำคืนมันก็ให้ความอบอุ่นกับเขาได้บ้าง ไม่ใช่เสื้อสีขาวบางๆที่เขาใส่อยู่

"ท่านแม่ทัพขอรับพบเรือของเกอผู้นั้นห่างจากที่สิบลี้ขอรับ"ทหารผู้หนึ่งเข้ามารายงาน

"หึข่าวลือที่ว่าเป็นบุตรเกอไร้ความสามารถก็คงจะเป็นเพียงข่าวลือสินะ ว่าไหมท่านเสนาบดี" แม่ทัพหนุ่มกล่าวออกมาอย่างเยาะเย้ย

"อย่ายุ่งกับบุตรชายข้า จ้าวหนิงหลง" เสนาบดีใหญ่ที่ตอนนี้อยู่สภาวะสะบักสะบอม พูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

"ท่านพี่เจ้าค่ะ ข้าเป็นห่วงลูก หลิงเอ๋อร์สุขภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนัก แค่เพียงต้องลมมากๆก็จะไม่สบายแล้ว ไหนจะต้องมาหนีไปเพียงลำพังแบบนี้ ข้าเป็นห่วงลูกเหลือเกินเจ้าค่ะ" เจินฮูหยิ่น กล่าวออกมาทั้งที่อยากจะร้องไห้เต็มทน แต่นางจะมาอ่อนแอต่อหน้าศัตรูแบบนี้ไม่ได้ สายตาคอยมองกลุ่มของจ้าวหนิงหลงที่ออกไปตามล่าลูกชาย หัวใจก็พลันเจ็บปวดยิ่งนัก

"รอยเท้าเดินผ่านไปมาสับสนนัก วนไปมาตรงนี้หลายรอบ ก่อนหายไปอย่างไร้ร่องรอย" เสียงทหารผู้หนึ่งรีบมารายงาน

"หาต่อไปอย่าให้ได้หนีรอดไปได้" จ้าวหนิงหลงสั่งเสียงเข้ม ก่อนจะควบม้าออกไป

"ตัดไปที่เฟยหนิงที่มองเห็นกลุ่มคนมาแต่ไกลก็ได้แต่หวาดกลัวจนตัวสั่น โชคดีตรงที่เขาปีนไปถึงมันอยู่มากแล้ว คนด้านล่างจึงมองไม่เห็น ตรงนี้มีลักษณะคล้ายถ้ำ อย่างน้อยตรงนี้ก็สามารถบดบังสายตาและอากาศที่ร้อนได้

"คงต้องรออีกสักพักสินะ ถึงไปต่อได้ถ้าขืนออกไปตอนนี้ต้องถูกจับได้แน่นอน" เฟยหลิงหยิบเอาผลไม้ป่าออกมากินตามที่เขาเก็บได้ ก่อนที่จะปีนขึ้นมาที่นี่ อย่างน้อยรอยเท้าที่เขาทิ้งไว้จนเละเทะ ก็คงจะพอทำให้คนพวกนั้นสับสนได้บ้าง

"ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงจะนั่งชื่นชมตั้งแคมป์แล้วแหละ แต่ก็อย่างว่าตอนนี้มันจะมานั่งชิลๆแบบเคยไม่ได้ถ้าไม่อยากตาย" ในขณะที่เฟยหลิงกำลังเตรียมตัวเดินทางต่อ สายตาของเขาก็มองไปเห็นอะไรบางอย่างที่กระโดดขึ้นมา คนตัวเล็กตกใจจนแทบช็อกเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร

จับได้แล้ว

เฟยหลิงหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าสิ่งนั้นคือใคร เขาลืมไปได้ยังไงว่านี่มันคือนิยายกำลังภายใน พระเอกของเรื่องอย่าง จ้าวนี่งหลง มีวรยุทธ์ที่เป็นเลิศแค่ไหน เสียงแผ่วเบาขนาดไหนคนพวกนี้ก็ได้ยิน ยิ่งฝีมือของเขาอยู่ระดับเก้าด้วยแล้ว นี่อาจจะเรียกว่าฝีมือระดับปรมาจารย์ด้วยซ้ำไป

"หึกล้าไม่เบาทีเดียวที่ปีนมาจนถึงตรงนี้ได้" สายตาเย็นชามองไปที่ร่างบางที่กำลังยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว  เฟยหลิงรำคาญใจยิ่งนัก ไม่คิดว่าเจ้าของร่างเดิมจะขี้ขลาดถึงเพียงนี้

"ถ้าให้มันพ้นจากพวกท่าน สูงกว่านี้ข้าก็จะปีน" คิ้วเข้มมองอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง ถึงจะสั่นกลัวแต่ก็ไม่ยินยอมที่จะโดนข่มเหง ร่างสูงขยับเข้าหาร่างบอบบางนั้นอย่างจงใจ เฟยหลิงเมื่อเห็นดังนั้นจึงค่อยๆถอยเข้าไปจนแผ่นหลังบางชิดกับผนังถ้ำ

"ท่านคิดจะทำอะไร" ร่างสูงไม่ตอบก้มมองลูกแมวตัวน้อยที่กำลังขู่เขาจนขนฟู 

"เสนาบดีเจินฮุ่ยหมินแห่งแคว้นฉิน บิดาของเจ้าไม่เคยสั่งสอนเรื่องมารยาทหรอกหรือ" ชายหนุ่มพูดพาดพิงถึงบิดาของอีกฝ่ายอย่างเจ็บแสบ อีตาบ้านี่เป็นใครมาแขวะคนอื่น

"บิดาของข้าสั่งสอนให้ใช้มันกับผู้ที่มารยาทกับข้าเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่บุรุษหยาบคายเช่นท่าน" เฟยหลิงพยายามหาทางออกจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด แบบนี้มันอันตรายเกินไป ก็อ ธรรมดากับผู้มีวรยุทธ์เขาจะเอาอะไรไปสู้

"ท่านขยับออกไปนะ" เฟยหลิงรีบก้มหน้าหลบเมื่อชายหนุ่มโน้มตัวลงมา 

"ไปได้แล้ว ตอนนี้บิดามารดาเจ้าอยู่ในกองทัพของข้าในฐานะเฉลย เจ้าคงไม่อยากเห็นพวกนั้นร่วมถึงพี่ชายของเจ้าต้องตายใช่ไหม" เสียงพูดนั้นข่มขู่ แรงกดดันทำเอาคนตัวเล็กแทบจะทรุดลงตรงนั้น มือหนารวบเอวบาง ก่อนจะอุ้มพาดบ่า ก่อนจะใช้วิชาตัวเบาพาคนตัวเล็กลงสู่เบื้องล่าง เฟยหลิงได้แต่เจ็บใจตัวเอง กว่าเขาจะปีนขึ้นไปถึงตรงนั้นแทบตาย แต่ไอ้บ้านี้ใช้เวลาไม่ถึงนาทีพาเขาลงมาอยู่ข้างล่างซะงั้น

"กลับค่ายได้" สิ้นคำสั่งของแม่ทัพใหญ่ทุกคนจึงถอนทัพกลับ เฟยหลิงต้องนั่งกับเจ้าก้อนหินหน้านิ่งนี้อย่างไม่มีทางเลือก เอาเถอะก็ยังดีกว่าต้องเดินตามม้ากลับค่ายศัตรูละมั้ง

"ท่าแม่ทัพกลับมาแล้ว พาเฉลยกลับมาด้วย" เสียงตะโกนในค่ายเรียกให้คนในค่ายหันมามองอย่างสนใจ โดยเฉพาะเกอที่เป็นเฉลยในคราวนี้ แม้ว่าจะมอมแมมไปบ้าง แต่ก็บ่งบอกว่าคนผู้นี่งดงามเพียงใด จะเรียกว่างามล่มเมืองก็ไม่ผิดนัก

"หลิงเอ๋อร์ลูกแม่ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่หรือไม่" ในความทรงจำของเฟยหลิงคนเก่า เจินเจียลี่ เป็นมารดาที่รักบุตรเกอผู้นี่มาก 

"พ่อดีใจที่เจ้าปลอดภัย หลิงเอ๋อร์พ่อขอโทษเจ้าที่พลอยทำให้เจ้ามา ลำบากไปด้วย" ร่างบางถูกผู้เป็นพ่อเข้าไปกอด มือหนาลูบหลังบุตรชายเบาๆราวกับเรียกขวัญ การกระทำนี้ยิ่งทำให้เฟยหลิงปลอมแบบเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจยิ่งนัก

"ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ข้ามิเป็นไรขอรับ พวกท่านละได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่" เขาถามพ่อแม่และพี่ชายอย่างเป็นห่วง อย่างน้อยในโลกนี้เขาก็มีครอบครัวที่ยังเป็นห่วงเขาอยู่

"ตอนนี้แคว้นของท่านก็พ่ายแพ้ให้กับแคว้นฉี ทางฮ่องเต้มีรับสั่งลงมาให้ปล่อยพวกท่านกลับคืนแคว้นฉิน เพราะฮ่องเต้ของพวกท่านยอมรับและส่งเครื่องบรรณาการไปให้ตามสัญญาแล้ว พวกท่านไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่" จ้าวหนิงหลงพูดอย่างไม่ใส่ใจ แต่สำหรับเจินหลิวหยางมันไม่ใช่ มันคือการหยามเกียรติพวกเขาและแคว้นฉิน

"เจ้าคือผู้ชนะย่อมพูดอะไรก็ได้อยู่แล้ว ผู้พ่ายแพ้อย่างพวกข้าจะพูดอะไรได้" เจินฮุ่ยหมินได้แต่เจ็บใจตัวเอง เพราะในราชสำนักมีหนอนบ่อนไส้ทำให้บ้านเมืองมาอยู่ในจุดตกต่ำถึงเพียงนี้ โชคดีที่เขาและบุตรชายได้สังหารมันไปแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงลำพองขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นสมใจ อาณาประชาราษฎร์ก็คงต้องเดือดร้อนยิ่งกว่านี้เป็นแน่

"เอาละส่งท่านเสนาบดี ฮูหยินและบุตรชายจนถึงจวน ห้ามกระทำการสิ่งใดที่เป็นการล่วงเกินเป็นอันเด็ดขาด" ทหารเหล่านั้นรับคำ ก่อนจะพาทั้งหมดขึ้นรถม้า แต่ทว่าไม่ทันที่เฟยหลิงจะได้ก้าวตามไป ร่างเล็กก็ถูกกระชากกลับทันที จนเจินหลิวหยางแทบจะถลาเข้าไปจัดการคนที่บังอาจทำร้ายดวงใจของเขาจนเจ็บ

"ปล่อยน้องข้า อย่าเอามือโสโครกของเจ้าไปแตะต้องเขา" ทั้งสามพ่อแม่ลูกต่างมองหน้าจ้าวหนิงหลงอย่างโกรธแค้น การกระทำนี้มันคือการหยามเกียรติตระกูลเขา หยามเกียรติหลิงเอ๋อร์

"ถ้าเจ้าไป ครอบครัวเจ้าตายเลือกเอา" เฟยหลิงได้แต่กัดฟันแน่นเมื่อได้ยินคำขู่นั้น เขารู้ว่ามันเอาจริงแน่

"ท่านพ่อท่านแม่ ท่านพี่ขอรับ พวกท่านกลับไปเถิด ถนอมสุขภาพด้วย" ไม่ทันที่ใครจะคัดค้านจ้าวหนิงหลงก็กระชากแก้วตาดวงใจของพวกเขาไปแล้ว เจินหลิวหยางได้แต่มองอย่างเจ็บแค้น น้องน้อยของเขาก็ตัวแค่นั้น แล้วดูสิ่งที่มันกระทำกับน้องชายเขาสิ

"หลิงเอ๋อร์อดทนไว้ สักวันพี่จะมาช่วยเจ้าด้วยตัวเองและบั่นคอมันด้วยตัวพี่เอง" เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นรองอีกฝ่ายมาก และน้องกำลังช่วยพวกเขาอยู่ เขาจะให้การเสียสละของหลิงเอ๋อร์เสียเปล่าไม่ได้

"โอ๊ย..เบาๆหน่อยมันเจ็บนะ" เมื่อมาถึงกระโจมแม่ทัพ ชายหนุ่มก็เหวี่ยงคนตัวเล็กลงไปกองกับพื้น 

"ต่อไปนี้หน้าที่ดูแลกระโจมที่พักของข้า เจ้าต้องทำมันทั้งหมด เข้าใจหรือไม่" เฟยหลิงผวารีบเดินหลบไปอีกทาง

"ขะ..เข้าใจแล้ว" เขาตอบรับเสียงสั่น

"ไปชำระล้างร่างกายเจ้าข้าไม่ชอบของที่มันสกปรก" ร่างสูงเอ่ยไล่เฟยหลิงไปอาบน้ำ

"แล้วท่านจะให้ข้าไปอาบตรงไหนกันเล่า" คนตัวเล็กเถียงกลับ

"ด้านนั้น ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเสีย" เฟยหลิงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ จะถามหาชุดใหม่ก็คงไม่มี สงสัยได้ใส่ชุดเดิมไปก่อนเป็นแน่ แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ได้ล้างคราบเหงื่อออกเสียบ้าง

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เฟยหลิงก็ออกมาพบเจ้าก้อนหินยักษ์นั้นนั่งทำงานอยู่ ตัวเขาเองก้ไม่รู้จะทำอะไรก็แอบนั่งแถวนั้น เผลอตัวอีกทีก็นั่งหลับพิงกลับตั่งนอนของอีกฝ่าย อยากจะขึ้นไปนอนให้สบายอยู่หรอก แต่กลัวเจ้าของมันผีเข้า เอาดาบมาสับคอเขาเอา

"เป็นทาสที่สบายเสียจริง" ถึงจะพูดอย่างนั้นเขาก็ปล่อยให้ทาสตัวน้อยนอนหลับต่อไปอย่างสบายอารมณ์

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!