NovelToon NovelToon

flower cafe

บทนำ

...ก้าวสู่เช้าวันใหม่ที่เด็กคนนี้ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพียงแต่ฝืนทนทำมันไป แสงแดงยามเช้าอ่อนๆ สาดส่องลอดลับจากร่องผ้าม่าน...

...เด็กน้องเรือนผมสีบอลด์ คล้ายทำท่าจะตื่น ใบหน้าดูหงุดหงิดใจ เพราะแสงแดดยามเช้าปะทะเข้ากับใบหน้าของเขา ช่วยกระตุ้นสัญชาตญาน จนเด็กน้อยจำเป็นต้องลืมตาตื่นจากห้วงนิทรา...

...ดวงตาสีทองประกาย เบิกกว้างในยามเช้า ขยับเขยื้อนมองสภาพแวดล้อมรอบตัวสักพัก...

...ก่อนที่จะพาร่างหนักลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะทำท่าทำทีเหยียดขาสุดปลายเตียง ยืดแขนทั้งสองข้างจนเหนือ อากาศ เหยียดร่างกายบิดตัวไปมาจนไหลกลับลงสู่ผ้าผืนนุ่มอีกดั่งเคย ปลายเท้าเลยไกลจนเหนือปลายเตียง...

...ใบหน้าที่ดูไม่ค่อยเต็มใจสำหรับเช้านี้เท่าไหร่ หยุดชะงักค้างไปสักพัก ก่อนที่จะฝืนตนเองดีดร่างหนักออกจากเตียงนุ่ม ก่อนที่จะติดแหง็กเสียนานกว่านั้น จนต้องสายสำหรับเปิดเทอมเข้าสู่โรงเรียนใหม่วันนี้แน่.....

...สองฝีเท้าก้าวออกจากห้องนอนแคบ ตรฃดิ่งมายังห้องน้ำที่เป็นดั่งเป้าหมายข้อย่อยของเช้านี้ เพราะยังเหลือลิสต์รายการอีกมากมายของวันนี้ทั้งวันสำหรับเขา...

...จัดการตัวเองทำธุระเสร็จสิ้น ใบหน้าเบิกบานแจ่มใส่ดั่งเคย ตรงดิ่งลงสู่ชั้นล่างของบ้านอย่างกระตือรือร้น...

...เสียงดังตึกตักๆ เพราะฝีเท้าที่ทุ้มแรงระหว่างลงมาจากชั้นสอง แต่คงไม่ใช่เสียงทุ้มเท้าธรรมดาเสียด้วยสิ เพราะฝ่ายที่ทำดูดีดเสียมากกว่า อาจจะสนุกไปพร้อมกับการทำอะไรที่ดูรุนแรงเช่นนั้น...

...เส้นผมรุนรังฟริ้วไหวตามแรงโน้มถ่วง พอถึงยังจุดหมายที่เป็นโต๊ะอาหารสำหรับครอบครัว ห้าคน มีสองคนที่นั่งรอคนที่ตื่นสายสุดมาทานข้าวพร้อมกันทเพราะยังไงเสียตอนนี้ก็ยังเช้ามืดอยู่ อีกคนต่างหากที่ตื่นตระหนกจนเกินไป หรือตื่นเต้นกันแน่นะ (?)...

..." โถ่ พี่ ก่อนจะลงมาก็หัดเปียผมลงมาเองซะบ้างสิ "...

..." หรือไม่ก็มัดรวบๆมาก็ได้ มาทั้งยังงี้มันดูสกมกนะ "...

...คนที่เหมือนจะเป็นน้องกล่าวเหน็บคนเป็นพี่ที่ทำอะไรไม่หัดใส่ใจเอาเสียเลย มาทั้งตัวยังงั้นทั้งที่ผมยังไม่ได้หวีเสียด้วยซ้ำ คนอื่นเขาจะมองว่าสกมกยังงั้นยังงี้...

...หลังจากที่พูดคล้ายตักเตือน คนเป็นน้องก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เพราะท่าทีของพี่ของตนนั้น กลับเออ้ระเหย หนำซ้ำแม้จะนั่งฟังมาด้วยกัน แต่กลับทำหน้ายิ้มอย่างสำนึก สำนึกแน่เรอะ? พรางกล่าวขอโทษ...

..." เห้อ "...

...คนที่ผมยาวเฟื้อยจนรุนรังหลังจากโดนตักเตือนเสร็จไม่ทันไรก็รีบไปหายางมัดผมมากักเก็บเจ้าเส้นผมเจ้าปัญหานี่เสียก่อน ก่อนจะรับประทานอาหาร เพราะหากำม่ทำเช่นนั้นมีหวังได้ทานเส้นผมของตนเองเป็นปมจนติดคอแน่ๆ...

...คนที่ดูโตสุด ทรงผมตัดแปะสัดส่วนไม่ถูกบ้างยังกับเป็นคนตัดแตะเองเสียแต่ว่ามันไม่สมส่วนนี่สิ ดวงตาที่คล้ายกับค่ำคืนในยามวิการนั้น จดจ้องมองตามเด็กที่ดูไม่สำนึกตน เดินต้อยๆไปหยิบยางและมัดรวบผมก่อนจะเดินกลับมาร่วมวงรับประทานอาหาร...

...พี่คนโตหันกลับมาโฟกัสที่จานอาหารของตนต่อหลังจากที่คนเป็นพี่กลางนั้นเดินกลับมาร่วมวงทานอาหารเช้านี้กับพวกเขา...

...' อ๋า ยุ่งยากจริงๆน้า เจ้าผมนี่น่ะ '...

...คนพี่กลางที่พึ่งมานั่งร่วมวงทานข้าวได้ไม่นานก็พูดตัดพ้อท้อตนกับตัวเองกับรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ พลางถอนหายใจถอดยาวจนคนน้องอดหงุดหงิดไม่ได้จึงต่อว่ากลับ กับท่าทางดูเออ้ระเหยนั่น...

..." นี่อย่าถอนหายใจจะได้มั้ย เห็นปากพี่ "...

...' โอ้โหคนเป็นพี่เจ็บจี๊ดเลยครับน้องรัก '...

...ทั้งสองคนพูดหลอกล้อกันดูเป็นเรื่องปกติดี...

...คนเป็นพี่ใหญ่ก็อดขำทั้งสองคนไม่ได้จริงๆ เพราะเอ็นดู และพูดอย่างตักเตือนกับทั้งสองคนไป...

..." นี่ ทั้งสองคน รีบกินข้าวกันก่อนเถอะ "...

...ทั้งสองคนพยักหน้าตอบเป็นสัญญาณ ทั้งสามคนทานเช้าในเช้าวันนี้อย่างมีความสุข...

...และหลังจากทานเสร็จก็เตรียมตัวที่จะไปยังลิสต์รายการประจำวัตที่สำคัญอยู่อีกอัน คือการไปโรงเรียน พี่ใหญ่ก็เป็นคนขับรถไปส่งตามปกติของสามพี่น้องคนนี้ เพียงแต่เป็นปีใหม่เท่านั้น กับโรงเรียนใหม่...

...หลังจากก้าวลงจากรถ และบอกลากันก่อนที่พี่คนกลางกันคนน้องจะเข้าโรงเรียน...

...' นี่ ลูมีน เธอไม่คิดเหมือนกันหรอว่า วันแปลกน่ะ '...

..." อะไรแปลกของนายตาทึ่ม "...

...' ก็ก ็ นั่นไง อะไรนะ '...

..." ฮะ?? "...

...คนน้องที่ไว้ปอยหวาน ผมสั้น ดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้ฟังคำถามพิลึกจากคนเป็นพี่...

...ยิ่งคนพี่อธิบายมากเท่าไหร่ ลูมีนก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้น ซ้ำแต่จะงุนงงกว่าเดิม...

...ชักจะหงุดหงิดใจลูมีนเลยเขกหัวหัวพี่ชายเธอแก้ปัญหาทันที...

...' โอ๊ย '...

...คนพี่ร้องโอดครวญเพราะความเจ็บที่แปร๊บๆบนหัวเขายังไม่หาย...

..." พี่น่ะพูดอะไรไร้สาระอยู่นั่น จะสายเอานะ "...

...ลูมีน พูดตักเตือนยังงั้น แต่ถึงยังไงเอเทอร์ก็ไม่วายจะเข็ดหลาบ ซ้ำยังทำหน้าตาเออ้ระเหยต่อปัญหาอีกครั้ง...

...ลูมีนทำท่าเอือมระอากับท่าทางที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวของพี่นั่นเลย ทำเอาเธอนับถือจริงๆ เพราะเอเทอร์ถนัดนี่นะ เรื่องไร้สาระแบบนี้น่ะ...

...เอเทอร์ เลยทำท่าทีชี้ไปที่ฝั่งตรงข้ามของโรงเรียน ซึ่ฃไม่ได้ไกลนัก...

...' ร้านคาเฟ่ตรงนั้นน่ะ ลูมีนทไว้ขากลับเราไปกันมั้ย '...

...เอเทอร์พูดพรางชี้ไปที่ฝั่งตรงข้าม ...

...ลูมีนชักสงสัยเลยมองตามที่เอเทอร์บอก...

...ไม่ทันไรเธอก็ตาลุกวาว เพราะมันค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ลูมีนเม้มปากอย่างตื่นเต้น เธอไม่สนใจเรื่องเวลาของโรงเรียนแล้ว เธอรีบหันมาพูดชัดชวนกับเอเทอร์ทันทีอย่างตื่นเต้น...

..." งั้นเรารีบไปกันตอนนี้เลยมั้ยล่ะ น่าสนใจออกหนิ! "...

...' อะ อืม ไปสิ! '...

...เอเทอร์แอบตะลึง ไม่คิดเลยว่าคนน้องนั้นจะเห็นด้วยกับเค้าแต่เรื่องเห็นด้วยน่ะแทบจะเป็นไปได้อยู่ แต่ที่เธอชักชวนให้ไปตอนที่ยังเช้าตรู่แบบนี้ มันก็เข้าทางเด็กแสบอย่างเขาเลยสิ เอเทอร์ไม่รีรอให้สมองทำความเข้าใจนัก ตอบรับคำชวนของลูมีนอย่างตื่นเต้น...

...' ไปกันเถอะลูมีน! '...

..." เอาล่ะนะ! "...

...สองแสบวิ่งข้ามถนนใหญ่ออกไปฝั่งตรงข้าม เพื่อตรงไปยังร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของ สองเด็กแสบพวกนี้...

..." หว่า พอมาดูใกล้ๆยิ่งชอบกว่าเดิมอีก "...

...ตรงหน้าของทั้งสองแสบ เป็นร้านคาเฟ่ สไตน์มินิมอลที่อาจจะเห็นได้แทบทุกที่เลยมั้ง เพราะสไตน์มินิมอลนั้น งบประมาณใช้ไม่มากแถมยังสวยให้แบบที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงปัจจุบันจะเห็นได้เกือบทุกที่ แต่ที่นี่ดูจะเป็นที่ต้องตาของสองเด็กแสบนี่มากกว่า...

...ร้านนี้มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากที่สุดทคือสวนดอกไม้ขนาดย่อมที่น่าสนใจเสียมากกว่าร้านอีก ...

...ทั้งสองแสบมองลอดเข้าไปผ่านหน้าต่างมภายในร้านเป็นคุมโทนสีขาว กันพื้นไม้และชุดโต๊ะเก้าอี้ ที่ดูดีสุดๆ เข้าไปในร้านก็ยังมีพนักงานอยู่ ข้างในร้านอบอวนไม่ด้วยกลิ่นหอมของเทียน ที่แม้จะค่อนข้างเบาบางแต่ก็ดึงดูดความสนใจได้ดีทีเดียว แถมยังผ่อนคลายจิตใจที่มากอีกด้วย...

...ที่เคาน์เตอร์มีตู้กระจกใสที่วางจำหน่ายขนม เค้ก หรือมาการอง อะไรประมาณนี้ และอีก ฯลฯ ในร้านไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับคนจำนวนหนึ่งที่แวะเข้ามาพักผ่อนในร้าน...

...พนักงานคนนึงที่ดูค่อนข้างโต เปรียบเป็นเด็กนักศึกษาได้ อายุเขาน่าจะราวๆนี้ สองแสบเพียงแค่คิดเปรียบเทียบ ไม่รีรอทั้งสองคนรีบเข้าไปสั่งน้ำกับพนักงานทันที พร้อมกันเค้กรสสตรอว์เบอร์รี่ชิ้นนึง และบลูเบอร์รี่ พนักงานคนนั้นรับทราบและขอตัวไปทำตามออเดอร์ที่สั่ฃทระหว่างนั้นทั้งสองคนก็แวะหาที่นั่งพักชั่วคราว พลางสอดส่องสำรวจทั่วบริเวณภายในร้าน อย่างตื่นเต้น ...

...แม้คาเฟ่แบบนี้อาจจะเห็นกันได้ทั่วหน้า แต่กลับน่าสนใจมากกว่าใคร อาจเป็นเพราะทั้งสองแสบนี้ไม่ค่อยออกจากบ้านช่วงปิดเทอม...

จู่ๆบรรยากาศที่ดูเงียบสงบอาจจะดูอึดอัดนิดหน่อย เพราะในร้านมีแค่พนักงานคนนึงกับพวกเขาทั้งสอง พนักงานนั้นออกมาจากประตูในเคาน์เตอร์ พูดคุยกับสองแสบอย่างเฟรนลี่

..." หน้าตาพวกคุณดูไม่คุ้นเคยเลย พึ่งย้ายมาหรอครับ ? "...

...พนักงานที่ตัวสูงราวๆ170 สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายตารางหมากรุก กับกางเกงขายาวสีกรม เรือนผมสีน้ำตาลเข้มผสมไฮไลต์น้ำตาลไปทางส้มอ่อนๆที่ปลายผม สวมต่างหูประหลาดแต่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน คล้ายเป็นเพรชสีส้มสว่างสดใส และขนนกสั้นประดับด้วยกันดูมีสเนห์ ดวงตาสีอำพันต์ รวมๆแล้วคนคนี้ดูมีสเนห์ไม่เลวเลย ดูค่อนข้างจะฮิตในหมู่สาวนะ...

...เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ฟังลื่นหูอย่างบอกไม่ถูก ทำเอาสองแสบแทบเคลิ้มตามกันเลยทีเดียว บวกกับเทียหอมอีก มันชวนพวกเขาเคลิ้มไปหมด...

...' ครับ พวกเราพึ่งย้ายมาน่ะครับ เห็นร้านน่าสนใจ เลยแวะเข้ามาหน่อย เพราะยังไงก็ยังเช้าอยู่เลย '...

...เอเทอร์ตั้งสติได้ก่อนลูมีน เพราะลูมีนตอนนี้น่าจะเคลิ้มลอยไปดาวไหนแล้วก็ไม่รู้ เอเทอร์จึงตอบคำถามนั้นกับ พนักงานคนนั้น อย่างเป็นมิตร...

...พนักงานทำท่าทีคล้ายจะสนใจ พรางชวนทั้งสองคนพูดคุยกันทำความรู้จัก จึงได้รู้ว่าร้านนี้เป็นของ จงหลี หรือพนักงานคนนี้ที่อยู่คนเดียวภายในร้าน เขามีเชื้อสายจีน แต่หน้าตาดูไม่ค่อยคล้ายเลยสักนิด แต่ว่าจงหลีมีผู้ช่วยอีกคน คือหลานของเขา ชื่อว่าเซียว หว่า แค่ชื่อก็อยากเห็นหน้าล่ะ จินตนาการไม่ออกเลยแฮะ ...

...แต่ขณะที่พูดคุยกันนั้น จงหลีก็ไม่ปล่อยให้เวลามันเสียเปล่า พรางหยิบจับเครื่องมืออย่างชำนาญ และทำเครื่องดื่มที่ เอเทอร์กับลูมีนสั่งตามออเดอร์ อย่างสบายๆ ไม่ได้เร่งรีบหรือข้าเอื่อยเชื่อยเกินไป...

...คนคนนี้มีความเป็นผู้ใหญ่สูงเลยทีเดียว บริหารเวลาได้อย่างแม่นยำเสียด้วย...

...ลูมีนกับเอเทอร์ก็แอบปลื้มคนคนนี้ไปเลยเพราะเขานั้นมีความรับผิดชอบที่ดี บริหารอะไรได้อย่างตรงตัวค่อนข้างดี...

...แต่ในบทสนทนานั้น จงหลีก็พูดถึงหลานของเขาอย่างมีความสุขอยู่ตลอดเวลา ดูท่าเขาจะชอบพูดถึงหลานของเขามากๆเลยทีเดียว เอเทอร์กับลูมีนที่รู้จักการเป็นผู้ฟังแต่การเป็นผู้พูด ก็นั่งฟังและพูดตอบกลับอย่างลื่นไหล จนแทบจะเข้ากันได้กับจงหลีเลยฃ่ะ ไม่ช้านานออเดอร์ที่ทั้งสองสั่งก็มาเสริพ พร้อมกับขนมเค้ก แค่พวกเขาไม่มาเอาที่เคาน์เตอร์เอง เพราะยังไงวันนี้คนก็ไม่เยอะ เพราะในร้านมีแค่พวกเขานี่นะ จงหลีเลยเดินเอาอากหารมาเสริพให้เองกับมือ ...

...พร้อมกันนั้น เขาก็นั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของทั้งสอง และนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่นานเวลาก็เริ่มล่วงเลยจนใกล้เวลาเข้าแถวแล้ว พวกเราเลยบอกลากันก่อนที่จะเดินออกไป กลับเข้ารั้วโรงเรียนตามเคย...

...TBC....

(แอด ) - อาจจะไม่มีภาพประกอบนะคะ ตอนหน้าอาจจะเพิ่มให้ เผื่อใครจินตนาการเบ้าหน้าของตลค.หลักกันมไม่ออก👍

- จ.บ.วันนี้ค่ะ ตอนแรก 👍👍👍

บทบาทของเซียว

- Lumin (ลูมีน)

- Aether (เอเทอร์)

- zhongli (จงหลี)

...|...

...เอเทอร์กับลูมีนแยกย้ายกัยเข้าชั้นเรียน และแนะนำตัวกับเพื่อนๆ ทำความรู้จักกัน และมีสัมพันธ์มิตรที่ดี มันเป็นเรื่องปกติของวันแรก...

...ชั้นเรียน ม.ปลาย 4/10 คือชั้นเรียนของเอเทอร์ และ ม.ต้น 3/10 คือชั้นเรียนของลูมีน ดูบังเอิญมากจนแปลก เพราะลูมีนกับเอเทอร์อยู่ห้องเลขเดียวกัน หากแต่ว่าเป็นคนละชั้น...

...เหตุบังเอิญนี่ทำเอาตอนที่พวกเขารู้ห้องของตัวเองก็อดขำสนุกใหญ่ไม่ได้เลยจริงๆ...

- ชั้นเรียนของเอเทอร์

...เอเทอร์ก้าวเข้ามาในห้องเรียนอย่างสดใส ราวกับเด็กที่พร้อมจะเข้าโรงเรียนใหม่ๆ เอเทอร์สัมพัสได้ตั้งแต่วินาทีที่เข้าไปได้ทันทีเลยว่า บรรยากาศของห้องเรียนนั้นค่อนข้างเป็นมิตรและต่างคนในห้องต่างพากันทำความรู้จักกันอย่างสนุกสนาน เอเทอร์ก็อดไม่ได้เลยที่จะจินตนาการถึงเรื่องราวที่มีเพื่อนเป็นกลุ่มเยอะๆ...

...เขามองหาที่นั่งที่ว่าง อ่าสงสัยเขาจะมาสายสุด เพราะเก้าอี้เหลือเพียงแค่ตัวเดียวแล้ว แถมตั้งแต่ก้าวเข้าไปก็มีแต่สายตามาจับจ้องที่เค้า ทั้งใบหน้าที่ดูตื่นเต้น สนใจ แปลกใจ ตะหงิดใจ แต่ล้วนเขาก็ไม่ได้สนใจนัก มันปกติอยู่แล้วที่เขานั้นมาสายขนาดนี้แล้วจะไม่ให้พวกเขาจับจ้องมาที่เขาได้ยังไง เด่นซะขนาดนั้น...

...เอเทอร์เดินออกเกร็งๆนิดหน่อย ตรงไปยังโต๊ะที่ยังพอมีพี่ว่างอยู่ เขาวางกระเป๋า และนั่งลง จัดเตรียมสัมภาระให้เรียบร้อย จัดการเสร็จ เขาก็หันไปมอลเพื่อนข้างโต๊ะของเขา เพื่อนข้างโต๊ะของเอเทอร์นั้นดูมีสเน่ห์มาก ทำเอาเอเทอร์ตะลึงกับความงามนั้นของเขาเลย จนเขานึกว่าเป็นผู้หญิงน่ารักคนนึงเสียอีก เพราะหน้าของเขากลมดิ้ก มาก แถมร่างกายจังดูบอบบางอีกด้วย ซ้ำยังตัวเล็กกว่าเขาอีก เขามอฃตาค้างไปสักพักหนึ่ง ราวกับถูกมนต์สะกด จนเพื่อนคนนั้นถึงกับต้องทัก เพราะดูจะอึดอัดนิดหน่อยกับเขาที่มองค้างแบบนั้น...

..." นี่.. ช่วยหาจ้องแบบนั้นจะได้มั้ย "...

...เขาพูด พรางขยับร่างหันข้างมาทางเขา...

...เอเทอร์ตั้งสติ ทำหน้ายิ้มอย่างฝืนๆ ท่าทีดูเกร็งๆ ทักทายเพื่อนใหม่ที่นั่งโต๊ะร่วมกับเขาอย่างเป็นมิตร และแนะนำตัวกัน...

...' อะ..เออ่ สะ.สวัสดี เราเอเทอร์นะ เทอ- นายล่ะ... '...

...เขาจ้องมาที่เอเทอร์อย่าสงสัยเพราะประโยคที่เอเทอร์จะเรียกเขานั้นมันเหือนกับผู้หญิง แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ทำหน้ายังกับว่าเคยชินกับมันไปเสียแล้ว พูดตอบกลับเอเทอร์และแนะนำตัว...

..." เซียว "...

...( อ้าก ทำไมตอบสั้นจังเลยล่ะนั่น )...

...เอเทอร์คิดในใจอย่างกระสับกระสาย ในใจของเขาดูวุ่นวายไปหมด ราวกับกำลังเดือดดาลจนเป็นทุกข์ แต่ในท้องกลับรู้สึกวูบวาบขึ้นมา ยังกับมีผีเสื้อนับร้อยบินว่องภายในท้องเขา มันทำเอาเขาตื่นเต้นไม่หยุด เพราะถึงแม้ “ เซียว ” จะตอบสั้นๆเพียงแค่ชื่อของตัวเอง แต่ก็กดูน่ารักมาก ทำเอาเอเทอร์ใจเจ็บเลยทีเดียว...

...แต่พอเอเทอร์ตั้งสติอีกที ก็นึกถึงเรื่องคุณจงหลีเมื่อช่วงเช้า ที่เขาแวะเวียนไปที่ร้านคาเฟ่ก่อนจะเข้ารร....

...เขาจึงเอ่ยปากถามกับเซียวเกี่ยวกับเรื่องร้านคาเฟ่ เป็นการเริ่มประโยคการสนทนาที่ดีเลยทีเดียว เอเทอร์กลับรู้สึกภูมิใจในตัวเองเล็กๆ...

...' เอ เซียวชื่อคุ้นๆแหะ เหมือนที่ครูจงหลีร้านคาเฟ่ตรงข้ามโรงเรียนพูดถึงเลย '...

...เอเทอร์ทำท่าเกาหลังขอและยิ้มฝืดๆ พร้อมกับพูดเรื่องก่อนหน้านั้นให้เซียวฟัง...

...เซียวที่ได้ยิน ก็หน้าแดงฉานราวกับมะเขือเทศเลยทีเดียว เพราะเขารู้ว่าถ้าจงหลีเปิดปากพูดเรื่องของเขาที่เป็นหลานเมื่อไหร่ล่ะก็ คงจะพูดถึงนู่นนั่นนี่ไม่หยุดปากเลยทีเดียว เขารู้สึกเขินอายและทำท่าทำทีจะต่อต้านเรื่องยังงั้นแต่ตัวเองก็ยอมรับเรื่องที่เป็นหลานของจงหลีร้านตรงข้ามรร. แต่เขาก็ปฏิเสธเรื่องน่าอายของตน ทั้งที่เอเทอร์ไม่ได้ทักถามแต่เซียวกัยวพลั้งปากพูดขึ้นเสียเอง...

..." อะ..เออ่.. เคยไปแล้วหรอ "...

..." ฮะ ฮะๆๆ กะ..ก็ ฉ..ฉันเองแหละ... "...

...' จริงอ่ะ ' ...

..." ตะ..แต่ว่าจงหลีเขาได้พูดอะไรเกี่ยวกับฉันรึเปล่า อาจงหลีเขาชอบพูดเรื่องน่าอายของฉันอยู่เรื่อยเลย โอ้ยไม่อยากจะนึกถึง น่าอายชะมัด "...

...เซียวเผลอปริปากออกมาเอง และกิริยาของเขาที่ก่อนหน้านี้ยังดูเงียบเชียบ และอึมขรึมตอนนี้กลับหน้าแดงและทำท่าทำทีเขินอาย เอาฮูดคลุมหัวปกปิดหน้าตัวเอง แทบจะเอาหัวตัวเองโขกกับโต๊ะแล้ว แต่เอเทอร์ห้ามไว้ได้ทันพอดี...

...' นายนี่มีมุมแบบนี้ด้วยแฮะ ตลกจัง ' ...

...เอเทอร์ยิ้มอ่อน เอื้อมมือเข้าไปลูบหลังเซียว พลางพูดปลอบประโลมอย่างใจเย็น...

...เซยวที่แทบจะบ้าตายอยู่แลเวยิ่ลมีคนมาสัมพัสตัวเองพลางพูดปลอบอะไรเช่นนั้นเขายิ่งไม่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นไปอีก ...

...เซียวคล้ายจะน็อคลงไปฟุบกับโต๊ะแต่เอเทอร์เรียกสติไว้ก่อน เซียวเลยพูดแก้เขินด้วยการบอกให้ลืมๆมันไป ...

...เอเทอร์ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ตอบรับอย่างเชื่อฟังสุดๆ เซียวมองปราดเดียวนึกถึงสุนัขที่เชื่องขึ้นมาเลย...

...เขาหยิกแก้มตัวเองทั้งสองด้านเพื่อเรียกสติว่านั่นไม่ใช่หมา นั่นเพื่อนร่วมห้องที่เป็นคน...

...( แต่ยิ่งมองเท่าไหร่ก็เหมือนหมาแฮะ )...

...เซียวก็อดคิดนึกสนุกในใจไม่หยุดเลยจริงๆ เขาอดไม่ได้จริงๆเรื่องแบบนี้ เพราะเขาชอบสัตว์มากจริงๆ ในบ้านเขามีแต่สรรพสัตว์เต็มไปหมดเลย ...

...เขานึกคิดเรื่องสัตว์อีกทีก็อยากจะเลี้ยงสุนัขพันธ์ซอมอยขึ้นมาเลย...

..." ซามอย.. ดีมั้ยนะ "...

...แต่ว่าความคิดเขานั้นกลับมีเสียงออกมาด้วยน่ะสิ เขาเผลอปากพูดออกไปโดยไม่ได่ตั้ฃใจ ทั้งยังไม่รู้ตัวอีก จนเอเทอร์อมยิ้มแป้น เลยเรียกสติเซียวอีกครั้งแล้วครั้งเล่า จนกว่าจะได้สติทแต่คนคนนี้ได้สติยากเสียจริง เอเทอร์เลย .....

...' เซียว พูดถึงหมาหรอ '...

...' เซียว เซียว '...

...( ซอมอย...)...

...' เซียวครับ '...

..." ห๊ะ เหี้- "...

...เอเทอร์เรียกสติเซียวอีกครั้ล แต่รอบนี้สำเร็จ จนเซียวตื่นตระหนกตกใจหัวใจวูบวาบเลยทีเดียว จนเกือบจะหลุดสบถคำหยาบออกมาแล้วเชียว ...

...เซียวยิ่งอายตนกว่าเดิมเพราะวิธีที่เอเทอร์เรียกสติเขานั้นคือการพูดเป่าหูเค้าโดยตรง หนำซ้ำยังพูดเบาจนมีลมออกมา มันจั๊กขี้หูเขามาก...

...เวียวที่เขิยไใ่เป็นตัวเองจนไม่รู้เรื่องอะไรเลย มีแต่เอเทอร์ที่ยิ้มกรุ่มกริ้มอย่างมีความสุขอยู่นั้น เซียวเริ่มไม่พอใจเลยพองแก้มบ่ายหน้าหนีเอเทอร์เสีย...

...เอเทอร์ไม่วายสงสัย เขาเลยตื้อจุกจิกเซียวต่อจนเขาเริ่มหงุดหงิดกว่าเดิม ว่าจะหันมากตะหวาดใส่ แต่พอหันมา ใบหน้าของดลาทั้งสองก็แทบจะชิดกันแล้ว ใกล้อีกนิดเดียวจะจูบกันแล้วด้วย เซียวได้สติก่อน ทว่าเอเทอร์ยังตกอยู่ในห้วงภวังค์ เซียวรีบเอามือดันหน้าอีกคนหนี แล้วพูดแก้เขินปัดไปอย่างลุกลี้ลุกลน และรีบเดินออกไปเข้าห้องน้ำทันที ...

...เอเทอร์ก็ยังคงจมปลักอยู่ในห้วงภวังค์นั้นจนมีเพื่อนมาทักขอบพูดคุยด้วยทำความรู้จัก เอเทอร์เลยได้สติ ...

.......

TBC.

..

(แอด) - ยังไม่แก้คำผิด** เบิกตัวแล้วนะคะว่าใครนายเอก😔

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!